ความคิดเห็นที่ 1 แปะลิงค์ตอนแรกไว้หน่อย http://www.pantip.com/cafe/food/topic/D8634360/D8634360.html ออกจากร้านหนังสือแล้ว อวดหนังสือที่หอบกลับมาหน่อย แหม ภูมิใจนั่งรถไฟไปขนหนังสือมาได้ขนาดนี้ ไปเครือ่งขนไม่ได้มากนะ เพราะต้องจ่ายตังค์เพิ่ม ไม่อำนวยความสะดวกกับคนช่างแบกเช่นเรา นี่แค่ตำราอาหารนะ หนังสือเล่มอื่นๆ ไม่นับรวม ฮึๆ จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 04:01:54

ความคิดเห็นที่ 2 ยังไม่หมดเท่านั้น มีสองเล่มหนาๆ อยู่ข้างๆ ด้วย จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 04:02:44

ความคิดเห็นที่ 3 นี่คือ ตำราของ Maggie Beer เล่มที่เราชอบมากๆ ปกหุ้มด้วยผ้าปักไหมสวยงามนะคะ เนื้อในยิ่งสวย และน่าอ่านยิ่งนัก เราว่าจะเปิดกระทู้รีวิวหนังสือเฉพาะอีกกระทู้ รอให้จบซี่รี่ส์นี้ก่อน อยากเปิดในเล่มให้ชมว่า ทำไมเรานับให้เป็นหนังสืออาหารแห่งปี 2009 แก้ไขเมื่อ 10 ธ.ค. 52 04:05:09 จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 04:04:46

ความคิดเห็นที่ 4 สองเล่มนี้หนามาก หนักร่วม 3 กิโลต่อเล่ม แต่เป็นไบเบิ้ลตำราอาหารที่ใช้ได้ชั่วชีวิต กะยกเป็นมรดกให้ลูกต่อไป สมบัติอื่นและเงินไม่มีให้นะ ...ลูก แม่มีแต่หนังสือ ซีดี และตะกร้า (ก๊าก) จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 04:07:46

ความคิดเห็นที่ 5 ร้าน books4cooks กระทู้แรก อยู่ตรงข้ามกับร้านพี่ฮิวจ์ ในหนัง noting hill หาไม่ยากค่ะ หน้าร้านจะมีสาวญี่ปุ่นแวะมาถ่ายรูปหน้าร้านเยอะๆ ลอนดอนมีนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นเยอะมากจริงๆ เดินแถว noting hill ได้ยินแต่เสียง ไฮโตะ อาริกาโตะ ... (เรามั่วฟังเอาน่ะ พูดแจแปนีสไม่เป็นนะ เขาอาจจะพูดเกาหลีก็ได้นะ) จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 04:11:10

ความคิดเห็นที่ 6 ถนนสายนั้นร้านหนังสือเยอะ ใครบ้าหนังสือไปลอนดอน ก็หมดตัวง่ายๆ จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 04:11:49

ความคิดเห็นที่ 7 เยื้องๆ กับร้านหนังสือ books4cooks มีร้านขายสไปซี่ที่น่าสนใจอีกร้าน จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 04:12:37

ความคิดเห็นที่ 8 สารพัดผงสมุนไพรจากทั่วโลก สีกระปุก กระป๋อง ห่อเขาเหลืองอ๋อย-ได้ใจ สะดุดตาดี จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 04:13:39

ความคิดเห็นที่ 9 เป็นร้านขายสินค้าเอเซีย ไชน่าทาวน์น้อยๆ ด้วย จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 04:15:30

ความคิดเห็นที่ 10 เราว่าเขามีผงสไปซี่ทุกชนิด เพราะเยอะชนิดจริงๆ จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 04:16:13

ความคิดเห็นที่ 11 ร้านเป้าหมายถัดไป เราจะพาเดินลัดเลาะหลบถนนสาย portobello market ไปชิมขนมที่ร้าน ottolenghi เห็นหน้าตาหนังสือกระทู้แรกแล้ว เดินไปร้านจริงๆ กันดีกว่า จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 04:21:26

ความคิดเห็นที่ 12 ottolenghi มี 4 สาขาในลอนดอนนะ เข้าเว็บเขา .co.uk แวะไปสาขาที่ถนัดกันได้ หากใครแวะไปลอนดอน ร้านที่ไปครั้งนี้ เป็นสาขา noting hill จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 04:23:17

ความคิดเห็นที่ 13 จุ๊บๆ ค่าาาาาาาาา ลอนดอน...อยากไปเที่ยว  แต่ยุ่งยากชะมัดเล๊ยยยยยยยย ^^ จากคุณ : =^dose^= เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 04:48:01

ความคิดเห็นที่ 14 ชื่อร้าน Ottolenghi เป็นนามสกุลของหนึ่งในสองผู้ก่อตั้วร้านนี้ คือ Yotam Ottolenghi และ Sami Tamimi  (ชาวยิว - เยรูซาเล็ม) ทั้งคู่กลายมาเป็นเชฟทำอาหารแบบจับพลัดจับพลูมาก คุณโยตัมนั้น จริงแล้วแกเรียนปรัชญา ต่อโทด้านสื่อสารมวลชน ในระหว่างที่พักช่วงก่อนจะต่อเอก เขามาลอนดอน มาทำงาน catering แล้วหลังจากนั้นก็เลยไม่ได้ต่อเอก กลายมาทำร้านอาหาร-ขนมนี้ไป คุณซามี่นี่จับงานด้านการทำอาหารมานานกว่าคุณโยตัม ทั้งคู่เดินทางมาถึงลอนดอนในช่วงอายุ 30 นิดๆ แล้วก็ได้มาทำร้าน ottolenghi ร่วมกัน มีคอนเส็ปท์อาหารที่น่าสนใจมาก อาหารและขนมสไตล์ร้าน ottolenghi เน้นเมนูที่ไม่ยุ่งยาก เขาขายเบเกอรี่และสลัดสไตล์เมดิเตอร์เรเนี่ยน หากใครไม่รู้ ไม่คุ้นอาหารชาวยิวมาก่อน เราอยากจะเกริ่นนำว่า สูตรขนมและอาหารของชาวยิวนี่อร่อยมากๆ นะคะ ส่วนใหญ่จะเป็นสูตรเก่าๆ วิธีการไม่ยุ่งยาก ไม่เยิ่นเย้อ ช่วง 4-5 ปีหลังนี่ ร้านอาหารแนวยิวนี้ ผุดเพิ่มขึ้นเยอะ เท่าที่เราสังเกต กลายเป็นร้านเมนูอาหารกลางวันของคนเมืองใหญ่หลายแห่งในยุโรป เน้นแนวสุขภาพ เหมาะกับสาวชาวเมืองที่ห่วงเรื่องน้ำหนัก อาหารเขาจะเน้นพวกสลัดผักสด สารพัดธัญพืช ปรุงง่ายๆ   ขนมเบเอกรี่ก็หน้าตาจุ๋มจิ๋ม ชิ้นเล็กๆ จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 04:49:58

ความคิดเห็นที่ 15 หวัดดียามดึกจ้า เบนซ์ เป็นนักเรียนก็ขอวีซ่ายากหรือ ร้านนี้จะชอบทำเมอแรงก์ก้อนโตๆ มีหลายรสชาติ ขนมเขาขายราคาต่อชิ้นสูงนะคะ เพราะเขาขายคุณภาพ กินทุกวันคงไม่ไหว ซื้อตำรามาทำกินเอง คุ้มกว่า : ) จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 04:52:32

ความคิดเห็นที่ 16 แวะมาทักทายค่ะ อยู่ลอนดอนมาสี่ปีกว่าและ ยังไม่ได้ไป portobello market ซักกะทีค่ะ เชยได้อีกเรา จากคุณ : ลูกแพร แช่อิ่ม เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 04:55:20

ความคิดเห็นที่ 17 เราชอบสูตรขนมคุณโยตัมเขา ขนมเขาดูโฮมเมดมากๆ ไม่พิสดาร ยุ่งยาก แต่อร่อย ลองทำเองได้ไม่ยากด้วย จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 04:55:38

ความคิดเห็นที่ 18 คงไม่ยากอ่ะค่ะ...แต่ยุ่งเรื่องกระบวนการมากกว่า ต้องไปทำอีกเมือง ค่าเดินทาง เตรียมเอกสาร วุ่นวายๆ  ต้องวางแผนดีๆ ไม่งั้นเสียทั้งเงิน ทั้งเวลาค่ะ ตอนนี้รุ่นน้องที่รู้จักมาเรียนที่อังกฤษ  อยากไปจะแย่แล้วค่ะ แต่หาเวลาไปทำวีซ่าไม่ได้ซักที ปีหน้า น้องก็กลับแล้ว ช่วงสิงหา...ไม่รู้จะมีโอกาสไปเมื่อไหร่ จากคุณ : =^dose^= เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 04:58:41

ความคิดเห็นที่ 19 ลูกแพร แช่อิ่ม -- อ้า แน่นอนค่ะ เราอยู่หอนแลนด์มากว่า 10 ปีแล้ว ยังไม่เคยไปตลาด albert cuyp ที่อัมสเตอร์ดัมเช่นกัน เชยด้วยคน 55 ถนนสาย portobello เราไม่ชอบเดินเท่าไหร่ เพราะคนเยอะ ... เราจะเดินเลียบๆ ออกถนนด้านหลังเอาค่ะ ไม่รู้จะชิมอันไหนดี ... ขอเลือกมาสักชิ้น (หนุ่มเขาไม่ค่อยชอบกินขนม) ซื้อมากกว่านี้ก็ไม่มีมือหอบ (หอบหนังสือไปแล้ว) แต่เห็นแล้วมันอยากชิมนิ จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 05:01:08

ความคิดเห็นที่ 20 สวัสดีค่ะคุณแก้ว ตามน้ำลายหยดมาตั้งแต่ร้านหนังสือกระทู้ที่แล้ว...แล้วค่ะ กระทู้นี้ขออนุญาตทักทาย และตามน้ำลายยืดต่อไปค่ะ.... คุณแก้วไปลอนดอนแบบได้สาระจริงๆค่ะ....ชื่นชมๆ จากคุณ : Excuse..Me! เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 05:06:11

ความคิดเห็นที่ 21 เบนซ์ -- เบื่อเหมือนกันเรื่องเสียเวลาไปขอวีซ่า พี่โชคดีที่ไม่ต้องขอวีซ่าแล้ว สมัยก่อนข้ามออกจากเชงเก้น ก็เบื่อกระบวนการเหมือนกัน (ค่าวีซ่าสมัยนี้แพงด้วย) หลังๆ ดีจะเบื่อการแลกเงินอีกอย่าง ใช้ยูโรจนเคยตัว เพิ่งไปเดนมาร์ก ก็ยุ่งยากเรื่องแลกเงินอีก แล้วรู้สึกว่าอะไรๆ มันจะแพงกว่ายูโรเสมอเลยนะ แต่ตอนนี้คนอังกฤษบ่นอุบเลย เงินปอนด์ตก 55 แต่เราชอบมาก ซื้อหนังสือได้ไม่ต้องคิด  --- ถูกที่สุด สลัดในร้านเขาจะหน้าตาน่ากินแบบนี้ เราชอบแวะร้านอาหารกลางวันเวลาเข้าเมือง-กินสลัดแบบนี้ล่ะ อิ่มแบบเบาตัวดี ช่วงหลังๆ เริ่มหันเหจะมาเป็นมังสวิรัติละ ไม่กินเนื้อสัตว์ เราอยู่ได้ แต่ไม่ได้กินผัก นี่เราอยู่ไม่ได้-จริงๆ จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 05:07:23

ความคิดเห็นที่ 22 Excuse..Me! -- ลอนดอนมันมีสาระเยอะค่ะ เราแค่ไปเก็บสาระรายทาง ลอนดอนเป็นเมืองใหญ่ในโลกเมืองหนึ่งที่เราอยากกลับไปอีก - เสมอๆ ถ้าค่าเงินปอนด์มันถูกลงน่ะนะ (ปกติมันแพงเกิน) เราชอบที่มิวเซียมเขาเข้าฟรีหมดเลย ให้ไปอยู่คงไม่อยาก แต่ให้ไปเที่ยวไปซื้อหนังสือ นี่เราสนเสมอ ฮิๆ คิดว่าตัวเองแก่สำหรับชีวิตเมืองใหญ่ไปละ อยู่นานเกินกว่าอาทิตย์จะเวียนหัว วันเสาร์ที่เราไปนั้น คนในร้านเนืองแน่น ถ่ายรูปในร้านมาได้แค่นี้ ก็ต้องเบี่ยงหลบหัวผู้คนจะแย่ อยากสั่งขนม นั่งจิบกาแฟในร้าน แต่ไม่มีที่นั่ง คนยืนรอกันเต็มเลย ร้านเขาเล็กๆ เราเห็นอากาศดีเลยหอบขนมใส่กล่อง มุดลงใต้ดินนั่งทู้บต่อข้ามแม่น้ำมาอีกฝั่ง โชคดีอาทิตย์ที่เราไปอากาศช่วงฤดูใบไม้ผลิ แดดจ้าเลย ไปนั่งกินขนมที่สนามหญ้า ตากแดดอุ่นๆ กันดีกว่า ดูสิ เวลาอากาศดีๆ คนเมืองใหญ่อย่างลอนดอนออกมาตากแดดกันมากมาย จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 05:15:41

ความคิดเห็นที่ 23 เราข้ามฝั่งแม่น้ำไปนั่งสนามหญ้าตรงนี้ จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 05:16:21

ความคิดเห็นที่ 24 ตามมาดูร้านที่ Notting Hill ด้วยคนครับ จากคุณ : L-Nets เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 05:19:17

ความคิดเห็นที่ 25 ความสุขราคาถูกของเรา หอบซื้อนิตยสารจากแผง แล้วก็ไปนั่งอ่าน+แทะขนมตากแดด ลอนดอน - ค่าครองชีพไม่แพงอย่างที่คิด (วงเล็บ 1) ถ้าเงินปอนด์ = ยูโร (วงเล็บ 2) และอากาศไม่เน่าแฉะ นั่งตากแดดตามสวนสาธารณะได้ทั่วไป จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 05:23:20

ความคิดเห็นที่ 26 ขนมชิ้นอร่อยนี้ราคา 2.80 ปอนด์แน่ะ เหอะๆ เป็นไวท์ชอค ชีสเค้ก ไส้ราสเบอรี่แยมกับพิตาชิโอ้ เราว่าขนาดขนมเขากำลังดี และเนื้อขนมออกเป็นเนื้อเค้ก ไม่ใช่หนักแต่ชีส ซึ่งเราไม่ค่อยชอบชีสเค้กที่หนัก เพราะกินแล้วมันเลี่ยน ชิ้นโตกว่านี้เราก็กินไม่หมด (เคยพยายามมาแล้ว) สาเหตุที่รสชาติลงตัว เพราะไส้มันเปรี้ยวตัดกับตัวขนม ชิมแล้วชอบยิ่งขึ้น เพราะจากในหนังสือนึกว่าขนมร้านนี้จะหวานจัด แต่ได้ลองชิมแล้วเหมือนขนมเขาจะผสมสไปซ์สักอย่างที่ทำให้หวานแตกมิติ สรุปว่า ... คุ้มราคาที่มันแพง แม้จะหอบมาจนเละก็ยังอร่อย : ) จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 05:29:07

ความคิดเห็นที่ 27 แอบย่องๆๆมาปาด สวัสดีค่ะพี่แก้ว พึ่งไปตามอ่านรีวิวอันเก่าพาไปร้านหนังสือ โอ้ยอยากแบกหนังสือ แต่ละเล่นน่าอ่านื้งนั้น จากคุณ : momijimi เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 05:35:17

ความคิดเห็นที่ 28 หวัดดีครับ L-net (ใช่ ชื่อน้องเล็กหรือเปล่า?) ฝั่งนู้นเช้าแล้วหรือ พี่เริ่มจะง่วงแล้ว อยากแปะร้าน konstam ต่อให้จบ แต่สงสัยไม่ไหว ไม่อยากนอนดึก ขอแปะร้านนี้ไว้ก่อน เพราะมีเรื่องเล่ายาว (ตลอด 55) เกริ่นนำนิดๆ ว่าเราตั้งใจจองร้านนี้ไปล่วงหน้าสองเดือน เพราะเราแอบชื่มชมความคิดเจ้าของร้านนี้มานาน เคยดูช่วงที่เขาก่อตั้งร้านนี้ในรายการทาง BBC ชื่อ Urban's chef ด้วยคอนเส็ปท์ดีๆ เจ้าของร้าน Oliver Rowe ซึ่งเป็นเชฟรุ่นเดียวกับเจมี่ โอลิเวอร์ แต่เขาไม่ได้โด่งดังอะไรมาก มาทำร้านอาหารเล็กๆ 44 ที่นั่งเสิร์ฟอาหารสดๆ ที่หาได้ในวงแหวนรอบเมืองลอนดอนไม่เกิน 100 ไมล์ ร้านเขาเน้น local food ที่ติดดินที่สุดในลอนดอน ด้วยคุณภาพอาหาร - ราคา - บรรยากาศ แถมโอลิเวอร์ โรว์ทำอาหารเสิร์ฟให้ทุกคนกินด้วยตัวเอง นั่งกินอาหารไปก็ได้นั่งดูเขาปรุงอาหารไปด้วย เพราะร้านครัวเปิด   ร้านนี้พิเศษสุดๆ ไม่ผิดหวังเลยที่อุตส่าห์มุ่งแวะไปอุดหนุนเขา เราคิดว่าถ้ากลับไปลอนดอนก็จะแวะไปอีกแน่นอน เพราะรู้สึกศรัทธาคนจริงแบบนี้   เดี๋ยวพรุ่งนี้มารีวิวต่อฉบับเต็มๆ พร้อมเรื่องราวสมัยการก่อตั้งร้านนี้อย่างจุใจ ; ) ทิ้งรูปตึกหน้าร้านไว้ให้ชมเล่น ... จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 05:42:34

ความคิดเห็นที่ 29 momijimi -- มาปาดพี่ ตอนเริ่มง่วงพอดีเลย เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่มาต่อนะ ; ) จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 05:51:20

ความคิดเห็นที่ 30 สวัสดีตอนเช้ามืดค่ะ กระทู้สนุกจริงๆ เหมือนเคย คุ้มกะที่รอเชียว จากคุณ : marcie เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 06:01:34

ความคิดเห็นที่ 31 สวัสดีค่ะพี่แก้ว เมื่อกี้แว่บไปอ่านกระทู้ก่อนหน้านี้มา เจ้า Books for Cooks นี่เป็นร้านทีตาโตหมายตาไว้นานแล้วค่ะ เพราะมีหนังสือ Pasta ของ Eric Treuille แล้วเค้าบอกว่า เค้าเคยเป็นเชฟสาธิตอยู่ที่ร้านนั้น ตาโตอ่านแล้วก็อยากเข้าร้านนี้มาก ตอนนี้ขอเก็บตังค์กับรอโอกาสก่อน จะบินไปถล่มบ้าง ฮ่ะฮ่ะ เมื่อวานก็เพิ่งไปร้าน Kinokuniya มาค่ะ ซื้อหนังสือมาเหมือนกัน ตอนนี้ตาโตไม่มีที่เก็บหนังสือแย้ว ต้องวางบนเตียงแทนค่ะ เหอเหอ เห็นพี่แก้วกินขนมแล้วไปเที่ยวพาร์คนี่ น่าอิจฉาจังเลยค่ะ ตาโตก็ชอบทำแบบนั้นเหมือนกัน(ถ้าอากาศอำนวย) เคยซื้อหนังสือแล้วไปนอนอ่าน&กินขนมที่สวนลุมพินี แฟนบอกว่าท่าทางวันนี้เธอมีความสุขเป็นพิเศษ ฮิฮิ ของมันแน่อยู่แล้ว ได้อ่านหนังสือกับนอนสบายๆ เป็นใครก็แฮปปี้ :) จากคุณ : ลูกสน เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 07:33:03

ความคิดเห็นที่ 32 มาลงชื่อติดตามค่ะ จากคุณ : MAE FAI เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 10:28:52

ความคิดเห็นที่ 33 ตามคุณแก้วมาช่วยหอบหนังสือค่ะ  เห็นกองหนังสือแล้ว ต้องบอกว่าแข็งแรงจริงๆ  ถ้าไม่ใจรักจริงๆคงแบกไม่ไหว แน่ๆ  (ข้าวสารกี่กระสอบละนั่น)  อิอิ เห็นคุณแก้วโฆษณาหนังสือของ  Maggie  Beer  สงสัย ต้องตามหามาอ่านอย่างจริงจังซะแล้ว  ขอบคุณค่ะ จากคุณ : กระทะเหล็ก เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 11:25:48

ความคิดเห็นที่ 34 มารอพี่แก้วเปิดหนังสือแมกกี้ รีวิว อิอิเผื่อมดจะได้สั่งอาม้าซ่อน บ้าง จากคุณ : มนุษย์ไฟฟ้า@สีชมพู เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 12:00:07

ความคิดเห็นที่ 35 ชื่อเล็กถูกแล้วครับ เดี๋ยวมาตามชมต่อนะครับ (จะอยู่กระทู้นี้หรือขึ้นใหม่ล่ะครับเนี่ย) จากคุณ : L-Nets เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 13:07:58

ความคิดเห็นที่ 36 marcie -- ตื่นเช้าจังเลย เราคนนอนดึกตื่นสาย (อายลูกจัง) แหม มีรอคอย เดี๋ยวมาปีละหนจะได้คุ้มสุดๆ โฆษณาต่อไหม จบทริปลอนดอน จะพาไปเที่ยวฟาร์มออร์แกนิกที่เดนมาร์กอีกนา ยั่วไว้ก่อนแล้วหายหัวอีก น้องตาโต -- พี่ว่าจะตั้งกระทู้ books for cooks collection ตาโตเอาหนังสือมารีวิวร่วมกับพี่ไหม? จะได้แลกกันชม ชวนจริงๆน้า ไม่ค่อยมีกระทู้แนะนำหนังสือจริงๆจังๆ อยากชมของคนอื่นมั่ง MAE FAI  -- หวัดดีดีค่ะ มาทักตอบจากกระทู้ก่อน เราก็สะสมบ้าซื้อหนังสือหลายศาสตร์อยู่ค่ะ ตำราอาหารนี่ซื้อมาใช้งาน ห้องทำงานเราผนังห้องสี่ด้านยาวๆ เป็นตู้หนังสือหมดเลยค่ะ อิอิ เวลาไปไหนๆ เราซื้อแต่หนังสือส่วนใหญ่ ไม่ค่อยชอปอย่างอื่น หนังสือ(กับซีดี) คือ ชีวิต ตื่นเช้าจนเข้านอนเดินหนีบหนังสือติดตัวตลอดเวลา : ) กระทะเหล็ก -- หอบหนังสือนี่ถึงไหนถึงกัน เราเกิดมาเพื่อแบกหนังสือ ; ) เรามีถุงผ้าของ greenpeace อายุ 15 ปีใช้สำหรับขนหนังสือขึ้นเครื่องโดยเฉพาะ มันเป็นถุงผ้าที่เนื้อเหนียวหูหิ้วทนมาก เหมาะแบกหนังสือหนัก 30 กิโลได้สบายๆ ตอนเรากลับจากเมืองไทยเราหอบเพชรพระอุมา 20 เล่มใส่ถุงนี้มาได้น่ะ เวลาหิ้วถุงแบบนี้ขึ้นเครื่อง พนง. เขาจะนึกว่าอะไรเบาๆ บางทีเขาไม่เช็คค่ะ ถ้าใส่กล่องใส่กระเป๋าแข็งแรง บางทีเขาไม่อนุญาต เราจะพยายามเดินตัวตรง ทำทีว่าเบาๆ แอบแบกหนังสือ 20 กิโลขึ้นเครื่องบ่อยๆ (ทิปในการโกง นน.  สายการบิน 55) มนุษย์ไฟฟ้า@สีชมพู -- จะให้พี่เปิดหนังสือแม็กกี้ มดต้องเอาหนังสือเล่มโปรดมดมาเปิดแลกกันดูในกระทู้หนังสือ เดี๋ยวพี่ตั้งกระทู้หลังซี่รี่ส์นี้ จะได้แลกดูหนังสือเล่มโปรดกัน เอาไหมล่ะ? น้องเล็ก --- เดี๋ยวพี่ต่อกระทู้นี้เลยดีกว่านะครับ ขี้เกียจตั้งกระทู้ใหม่ ใครพลาดแล้วจะได้พลาดเลย ฮ่ะฮ่ะ เพราะกระทู้ก้นครัวมันตกไวดี : ) จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 15:47:26

ความคิดเห็นที่ 37 มาถึงไฮไลท์ร้านอาหารที่ลอนดอนแห่งหนึ่ง เราอยากรีวิวให้ชมกันในทริปนี้ เรารู้จักชื่อโอลิเวอร์ โรว์จากรายการ Urban Chef เห็นตั้งแต่เขาเริ่มเดินหาตึกที่จะทำร้าน เริ่มต้นแบบเชฟจนๆ คนหนึ่ง ที่อยากทำร้านอาหารที่ขายแต่เมนูที่หาวัตถุดิบได้รอบๆ ลอนดอน เขาตั้งเป้าหมายรัศมีของอาหารที่เขาจะใช้ในร้านว่า ไม่ควรใช้อาหารที่ไกลกว่า 100 ไมล์ ด้วยความเชื่อของเขาว่ารอบเมืองลอนดอนก็มีฟาร์มแหล่งผลิตที่พอเพียง หลายคนไม่เชื่อว่าเมืองใหญ่จะมีฟาร์มมากมายหลงเหลืออยู่ ในรายการของเขานอกจากนำเสนอการทำร้านแล้ว โอลิเวอร์ยังพาไปเยี่ยมชมฟาร์มรอบเมืองลอนดอน เชฟโอลิเวอร์ตั้งใจทำร้านอาหารเล็กๆ เพื่อพิสูจน์ความเชื่อของเขา ร้านอาหารที่จะทำอาหารตามฤดูกาล และใช้วัตถุดิบสดๆ ท้องถิ่นมากกว่า 85 เปอร์เซนต์ ร้านอาหารในความคิดของเขาควรเป็นร้านเล็กๆ เขาจะได้สามารถรับมือทำอาหารเสิร์ฟให้ลูกค้าทุกคนด้วยตนเอง หน้าตาร้านอาหารของเขาในตอนกลางวัน (เรายืมภาพมาจากกูเกิ้ล) เราไปร้านเขาตอนค่ำแล้ว ไม่สามารถถ่ายรูปหน้าตาร้านรวมๆ มาให้ดูได้ เพราะร้านมืดมากๆ โต๊ะในร้านมีเท่าที่เห็นในภาพ ครัวที่เขาทำอาหารอยู่ใกล้ๆ กัน เป็นร้านอาหารขนาดเล็กมากๆ สำหรับเมืองใหญ่ เหมาะกันดีกับเชฟสมถะ ยูนีคๆ มีคลิปรายการ bbc ตอนที่โอลิเวอร์เริ่มต้นทำร้าน Konstam ให้ชม http://www.youtube.com/watch?v=e7unDLp6LUM และคลิปสัมภาษณ์โอลิเวอร์ในร้านอาหารของเขา http://www.youtube.com/watch?v=UCDKz6yHymY จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 16:08:36

ความคิดเห็นที่ 38 โอลิเวอร์จะเดินทางด้วยทู้บ (เมโทร)ไปตามจุดต่างๆ ทั่วลอนดอน เพื่อมองหาแหล่งซื้อวัตถุดิบมาทำอาหาร อาศัยหลับในทู้บบ่อยๆ มีคลิปน่ารักให้ชม http://www.youtube.com/watch?v=wym0NDAuBZI เราโทรจองมื้อค่ำร้านเขาไปล่วงหน้าสองเดือน เพราะเราไปถึงลอนดอนวันศุกร์ค่ำๆ และเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิ นักท่องเที่ยวเยอะ รู้มาว่าร้านเขาเล็กมาก ถ้าไม่จอง อาจจะเต็ม ไม่ใช่เพราะร้านเขาดัง คิวยาว แต่เพราะร้านนี้ไม่รับลูกค้าต่อวันเยอะ ถ้าจะไปช่วงวันหยุดจึงควรจะจอง ตอนเราส่งอีเมล์ไปจองนั้น เขาไม่ได้คอนเฟิร์มกลับมาทางอีเมล์ (ของเรา) อาทิตย์ก่อนไปลอนดอน เราเลยโทรไปเช็คอีกทีว่า มีชื่อที่จองไหม? เคยอ่านเจอรีวิวบนเว็บ มีคนมาบ่นว่า จองแล้วแต่ไปถึงไม่มีที่นั่ง เพราะมีการผิดพลาดการจองบนเว็บ เราโทรไปเจอหนุ่มฝรั่งเศสที่ทำงานในร้านนี้ พอเราถามถึงชื่อที่จอง คนรับสายเขาตอบมาว่า ... มีๆ เห็นแล้วชื่อนี้ เราเลยถามคุณคนที่รับสายว่าชื่ออะไรนะ ถ้าไปแล้วไม่มีที่นั่งจะได้โบ้ยถูกตัว เขาหัวเราะ เสียงตามสายมาว่า ... ผมชื่อเดียวกับชื่อที่คุณจองมา (ชื่อหนุ่มที่บ้านเรา) 55 พอเราไปถึงร้าน สั่งอาหารเสร็จ เราเลยถามหนุ่มคนที่มารับออเดอร์ว่า เออ คนที่ชื่อนี้ ... คนไหนนะ เขาหัวเราะอีก ตอบมาว่า ...ผมเองแหละ บรรยากาศร้านเล็กๆ เป็นแบบนี้ เราจะได้สนทนากับคนที่ทำให้รู้สึกเป็นกันเองได้ง่ายๆ หนุ่มฝรั่งเศสในร้านบอกต่อ จำเราได้เลยว่าโทรมาถามจากฮอลแลนด์ แถมคุยต่อว่ามีลูกค้ามาจากฮอลแลนด์บ่อยๆ แปลว่าคนดัทช์รสนิยมถึง 55 เราบอก-เราเป็นคนไทยไม่ใช่ดัทช์ เขาบอก...แน่ะ คุณยิ่งตาถึงเข้าไปใหญ่ ที่เลือกมากินอาหารร้านนี้ 555 คุยกันสนุกสนาน ... เรานั่งริมหน้าต่าง ร้านตั้งอยู่ตรงสี่แยกไฟแดงเลย มีรถเมล์สองชั้นเลี้ยวเอียงๆ เหมือนจะคว่ำมาชนร้านอยู่เป็นระยะ คนขับรถเมล์สองชั้นที่ลอนดอนนี่เก่งนะ ถนนบางสายแคบมากๆ ไม่รู้เลี้ยวได้ยังไง ไม่ทำรถคว่ำ เหอะๆ จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 16:26:24

ความคิดเห็นที่ 39 เมนูอาหารร้านนี้ เป็นกระดาษแผ่นเดียว เนื่องจากเป็นร้านอาหารตามฤดูกาล เมนูอาหารจึงเปลี่ยนแปลงเกือบทุกวัน แล้วแต่ว่าอาทิตย์และฤดูกาลนั้นมีผัก - ผลไม้อะไรออกมามาก เมื่อไปจ่ายตลาด ไปฟาร์ม ทางร้านจะมาจัดเตรียมเมนูอาหารรายวัน นับเป็นร้านอาหารเมนูเซอร์ไพร์ซ ถ้าแวะไปเป็นประจำ   ก็จะได้ลองอาหารใหม่ๆ แตกต่างกันไปเกือบทุกวัน เราไปตอนเดือนเมษา  ... เป็นช่วงที่รูบาร์บ แอสพารากัส สปีนาชกำลังออกมาเยอะเลย จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 16:32:42

ความคิดเห็นที่ 40 หนุ่มที่บ้านแฮปปี้กับลอนดอน เพราะมีเบียร์นานาชนิดให้เลือกดื่มเยอะมาก กินเบียร์ดัทช์ เบียร์เบลเยี่ยมเบื่อแล้ว อยากไปแท้งค์เบียร์อังกฤษกลับมาให้หายอยาก ถามหนุ่มฝรั่งเศสว่าสั่งเบียร์อะไรดี เพราะลิสต์ให้เลือกยาวมาก ร้านเขาแนะนำขวดนี้มา จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 16:36:06

ความคิดเห็นที่ 41 แก้วเบียร์อังกฤษจะใหญ่กว่าแก้วเบียร์ที่ฮอลแลนด์ รู้สึกขนาดแก้วแบบนี้จะเรียกว่า 1 pine จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 16:38:32

ความคิดเห็นที่ 42 I hate the moniker celebrity chef, it sounds like the celebrity is the important bit. I slightly prefer TV chef, but it's a bit naff. Just chef is good. จะไม่ค่อยได้เห็นโอลิเวอร์ออกทีวีบ่อยๆ เราเคยดูรายการช่วงที่เขาทำร้านอยู่ซี่รี่ส์เดียว เขาไม่ใช่เชฟที่จะมาคอยเสนอหน้าตามทีวีบ่อยนัก ใครอยากเห็นเขาทำอาหารไปที่ร้านเขาได้เลย เขายืนทำอาหารให้เรานั่งมองจนเพลินทุกวัน ร้านเขาเปิดขายมื้อกลางวันกับมื้อค่ำ เราถ่ายรูปโอลิเวอร์ในครัวตอนทำอาหาร เล็งแม่นมาก โฟกัสได้แค่ตรงหน้า 555 จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 16:43:50

ความคิดเห็นที่ 43 ยังไม่ได้อ่าน แต่มาแสดงตัวไว้ก่อนฮะ ^^ พี่แก้วไปลอนดอนนี่...ไปเยี่ยมน้องกิ๊กมาเหรอฮะ ฮิฮิ้วววว จากคุณ : jimkong เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 16:44:59

ความคิดเห็นที่ 44 มีเชฟผู้ช่วยหนุ่มน้อยอีกคน วุ่นกันอยู่สองคนในครัวเล็กๆ จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 16:45:49

ความคิดเห็นที่ 45 jimkong  -- ถามถึงกิ๊กไหนล่ะ กิ๊กนักดนตรี หรือกิ๊กนักทำสารคดี พี่มีกิ๊กหลายคนเป็นชาวลอนดอน เหอะๆ กิ๊กล่าสุดตอนนี้ชื่อ คริสเปี้ยน มิลล์ -- รู้จักอ๊ะป่าว กิ๊กน้องม่อนทำตัดต่ออยู่มั้ง หรือเดินทางอยู่รอบโลก ว่าจะไปเยี่ยมกิ๊กปิ๊กด้วยไง คราวหน้าฝากเยี่ยมไหม : ) ดูนิ่งๆ กันทั้งคู่เลยเชฟร้านนี้ ต่างคนต่างง่วน เหมือนเขารู้กัน รับมือได้สบายๆ ไม่มีอาการเครียด จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 16:49:29

ความคิดเห็นที่ 46 เอ๊าะมาก เชฟคนนี้ เขาเขินๆนะเนี่ย ไปยืนถ่ายรูปเขาใกล้ๆ เนี่ย สาวแก่อย่างเรา ชอบแกล้งหนุ่มน้อย 55 จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 16:52:26

ความคิดเห็นที่ 47 อาหารเรียกน้ำย่อยเรามาแล้ว ร้านมืดมาก มีแต่แสงเทียนสลัวๆ ถ่ายรูปมาได้แดงเยิ้มสุดเท่านี้ล่ะ ทายสิ เนื้ออะไรเอ่ยในจาน เพิ่งเคยชิมเป็นครั้งแรกเหมือนกัน จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 16:54:26

ความคิดเห็นที่ 48 starters - Mill Hill spinach soup with Gloden Cross, Almond & Croutons £ 6.00 - Pickled Mersea herring with sour cream & onion, allspice & parsley salad £ 7.50 - Norbury Blue & marjoram tart with spring onion & walnut salad £ 6.50 - Chicken liver & bacon pate with toast, herb salad & apple chutney £ 7.00 - Amersham pigeon wrapped in bacon with roast onion & hazelnut salad £ 7.50 รายการอาหารเรียกน้ำย่อยเขามี 5 ชนิด มีแหล่งที่มาของอาหารบอกไว้ด้วยว่า ซื้อมาจากฟาร์มชื่ออะไรบ้าง จานของเราเป็นจานสุดท้าย ตอนเขายกมาเสิร์ฟ แซวเขาว่า จับมาจากสวนสาธารณะในลอนดอนสินะ โลคัลมากๆ ... ราคากับขนาดอาหารในจาน นับว่า ถูกนะ เพราะค่าอาหารตามร้านในลอนดอนนี่ -- ยังมีราคาสูงโหดแพงกว่านี้เยอะ จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 17:08:07

ความคิดเห็นที่ 49 ชอบกระทู้ของคุณเสมอกลางจังค่ะ  เราก็เป็นพวกบ้าหนังสือนะคะ เกือบสี่ปีในอังกฤษนี่ได้หนังสือมามากพอดู  ขนาดว่าซื้อแต่เฉพาะตำราขนมนะคะ  ถึงขนาดต้องใส่เรือกลับเลยทีเดียว หนังสือของเขาน่าอ่าน  วิธีการเขียนเป็นระบบทำให้เตรียมของง่ายด้วยค่ะ น่าเสียดายไม่เคยได้ไปร้านหนังสือที่ว่า ถ้าไปคงได้กลับมาอีกโข  แต่คงต้องเก็บไว้อ่านบนคานแอ่น ๆ คนเดียว แล้วบอกที่บ้านว่าถ้าตายช่วยเอาไปเป็นเชื้อไฟให้ด้วยเพราะที่บ้านไม่มีใครอยากรับมรดกแบบนี้เลยค่ะ ภาพใน คห.37 ทำให้เราคิดถึงฉากจบของหนังเรื่อง No Reservations พระเอกนางเอกทำอาหารกันสองคนในครัวเปิดค่ะ  อยากมีร้านแบบนี้บ้างจัง จากคุณ : ครัวคานแอ่น (Irishcream) เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 17:15:19

ความคิดเห็นที่ 50 ตามอ่านอยู่นะคะ ร้านเค้าใช้ผักแบบออแกนิคอย่างที่พี่แก้วชอบด้วยหรือเปล่า เดี๊ยวเข้ามาตามต่อตอนค่ำ จากคุณ : momijimi เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 17:20:09

ความคิดเห็นที่ 51 แว่บไป coffee break มา มีเวลาอีกหนึ่งชั่วโมง ก่อนไปช่วยงานทำการ์ดคริสต์มาสที่ รร. รีบปั่นกระทู้นี้ให้จบ ... ไม่งั้นเดี๋ยวดองยาว ครัวคานแอ่น (Irishcream) -- เราชอบเดินร้านหนังสือมือสองที่ลอนดอนกับที่ดับลิน มันจะเจอหนังสือเก่าๆ ที่ไม่รู้จัก เปิดดูข้างในแล้วน่าสนใจ เราชอบหนังสือเก่า หนังสือใหม่ๆ นี่เราว่าหลายเล่มเน้นสวยมากกว่าเนื้อหา แต่เข้าร้านหนังสือไม่ว่าร้านไหนอันตรายพอกัน เหมือนเข้าซูเปอร์มาร์เก็ตเวลาหิวๆ เราเข้าร้านหนังสืออดใจไม่ได้สักที ต้องพยายามไม่เดินร้านหนังสือบ่อยๆ ปกติเราซื้อหนังสือหนักๆ เป็นไตรมาส วางงบไว้แล้วตัดใจเอา ไม่งั้นคุมไม่อยู่ค่ะ เราไม่เคยดูเรื่อง no reservations แต่ได้ดูต้นฉบับของหนังเรื่องนี้ คือ Bella Martha เป็นหนังเยอรมัน หนังจะเงียบๆ เนิบๆ นางเอกกับพระเอกเล่นดีมากๆ ดูธรรมชาติดี โครงเรื่องเดียวกันเลย แต่ no reservations  จะออกแนวหนังฮอลลีวู้ดกว่า (เท่าที่เราดู trailer) momijimi -- อ้า เดี๋ยวเล่าให้ฟังต่อจ้ะ พี่ได้คุยเรื่องนี้กับเขามาฝากด้วย เรื่องวัตถุดิบในร้านที่เขาใช้น่ะ เขาตอบมาสนใจ ตรงใจพี่ดีด้วยล่ะ แก้ไขเมื่อ 10 ธ.ค. 52 17:41:12 จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 17:38:54

ความคิดเห็นที่ 52 จานนี้เป็นเมนูเรียกน้ำย่อยของหนุ่มที่บ้านเรา - Chicken liver & bacon pate with toast, herb salad & apple chutney ราคา 7 ปอนด์ พวก chutney ต่างๆ ในร้านจะทำเองหมด และมีบรรจุขวดขายด้วย จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 17:44:31

ความคิดเห็นที่ 53 ระหว่างรอจานหลัก แอบส่องดูคู่อื่น โต๊ะอื่น ร้านมืดมากๆ ตอนเราไปกินนั่นสามทุ่มนิดๆ จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 17:50:21

ความคิดเห็นที่ 54 ร้านนี้มีพนักงานเสิร์ฟ 3 คน ชายสอง หญิงหนึ่ง หญิงนี่รู้สึกจะทำหน้าที่เสิร์ฟไวน์ สองชายจะรับหน้าที่เสิร์ฟอาหาร มีเชฟสองคนในครัวเปิด ชั้นใต้ดินจะมีเชฟอีกคนทำของหวาน รวมทั้งร้านมีพนักงาน 6 คน ... เล็กดีไหม? จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 17:52:35

ความคิดเห็นที่ 55 mains - Wild Garlic & nettle pierogi with sour cream & roast onions ... 13.50 ponds - Charcoal - grilled Amersham pork chop with walnut & fennel weed spatzle, sauerkraut & cream fraiche ... 16.50 ponds - Amersham lamb meatball with fried patatoes, spinach, salt-packed Mersea sprat, white wine & rosemary sauce ...16.50 ponds - Braised leg of Stansted duck, barley with bacon, red cabbage & rhubarb compote ... 18.50 ponds - Pan - Fried Dover sole with mashed potato, asperagus & Thyme hollandse ...18.50 ponds พันทิปใส่โค้ดปอนด์ไม่ได้ มันเพี้ยนนะ อันบนขี้เกียจแก้ อันนี้เป็นจานหลักของเรา วันนั้นเราเลือกแต่สัตว์ปีก ; ) - Braised leg of Stansted duck, barley with bacon, red cabbage & rhubarb compote ... 18.50 ponds เป็ดจับมาจากสนามบินสแตนสเตดแหงเลย ฮึๆ พวกเนื้อสัตว์ต่างๆที่ขายในร้าน เขารับซื้อมาจากฟาร์มย่าน Amersham จึงมีชื่อแหล่งที่มาปรากฎอยู่ในเมนู ... หากสังเกตดู แก้ไขเมื่อ 10 ธ.ค. 52 22:09:41 จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 18:06:33

ความคิดเห็นที่ 56 หนุ่มที่บ้านเราสั่ง - Amersham lamb meatball with fried patatoes, spinach, salt-packed Mersea sprat, white wine & rosemary sauce ...16.50 ponds มืดมาก ถ่ายจานคู่มาให้จินฯ กันเล่นๆ ของหวานไม่ได้ถ่ายมา ลงเมนูวันนั้นให้อ่านเล่นละกัน dessert - Tunworth, Norbury Blue & Golden Cross with apple chutney & toast ... 7.50 ponds - Dartford rhubarb compote with homemade cream fraiche & orange shortcakes ... 6.50 ponds - Konstam castle cake with lemon & vanilla syrup ... 6.50 ponds - Lavender & marmalade ice - cream & brandy snap ... 5.50  ponds - Earl Gray & Orange cream pudding ... 6.50 ponds เราสองคนเลือกของหวาน Lavender & marmalade ice - cream & brandy snap เหมือนกัน รวมค่าเบียร์ - ค่าอาหาร มื้อค่ำที่ลอนดอนมื้อใหญ่จ่ายกันไป 70 ปอนด์ จัดว่าราคาสมเหตุสมผลในแง่ของคุณภาพอาหาร วัตถุดิบ บรรยากาศร้านของเมืองใหญ่อย่างลอนดอน เราออกไปกินอาหารนอกบ้านน้อยครั้งมาก (ปีละไม่เกินสองครั้ง) เวลาจะออกไปกินอะไรสักครั้ง เราจะเลือก(มาก)จนมั่นใจว่า คุ้มค่าเงิน บางทีดุ่มๆ ไปกินจ่ายไป 70-100 ยูโร รู้สึกไม่คุ้มค่าเงินเลย เอาค่าเงินเดียวกันไปซื้อของดีๆมาทำกินเอง อร่อยกว่าบางร้านทำเยอะเลย ไม่ได้โม้นะแต่เรื่องจริง ร้านอาหารบางร้านทำอาหารขายได้ไงไม่รู้-รสชาติแย่มากๆ จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 18:17:48

ความคิดเห็นที่ 57 4 ทุ่มกว่านิดๆ ครัวเริ่มหายยุ่งแล้ว เชฟได้หยุดพัก เดินไปนั่งคุยกับญาติผู้ใหญ่สักคนที่แวะมาเยี่ยม เราคุยกับบริกรคนเดิม ตอนมาเก็บตังค์ ถามเขาเรื่องอาหารท้องถิ่นกับออร์แกนิกว่า ทางร้านให้ความสำคัญกับอะไรมากกว่ากัน หนุ่มฝรั่งเศสคนนั้นตอบมาว่า "เราไม่เน้นออร์แกนิก เราเน้นของท้องถิ่น เดี๋ยวนี้ที่ลอนดอน อาหารออร์แกนิกกำลังบูม บริษัทใหญ่ๆ มาจับสินค้าออร์แกนิก มันไม่ได้มีความหมายแบบเดิมแล้ว แต่มันเริ่มกลายเป็นแบรนด์ เป็นเทรนด์ ราคาอาหารออร์แกนิกถีบตัวสูงขึ้นมาก เหมือนไม่ทำออกมาขายคนทั่วไป แต่จับกลุ่มคนชั้นกลาง เน้นขายแพ๊คเก็จจิ้ง เราไม่นิยมเส้นทางนั้น ร้านเน้นซื้อของจากฟาร์มเล็กๆ เน้นอาหารโลคัล อาหารแบบนี้ ถึงไม่ติดป้ายออร์แกนิก แต่มันผลิตแบบธรรมชาติ จริงใจกว่าสินค้าแบรนด์ออร์แกนิกตามร้านบางร้าน อีก 15 เปอร์เซนต์ของวัตุดิบในร้าน มาจากฝรั่งเศสบ้าง จากอิตาลี สเปนบ้าง เช่น เกลือ น้ำมันมะกอก แต่ผักสดและเนื้อสัตว์ส่วนใหญ่เราสั่งจากฟาร์มรอบเมืองลอนดอนทั้งสิ้น ...ตรงนี้ คือ คอนเส็ปท์ของร้านเรา" คำตอบที่เขาเล่าถึงอาหารออร์แกนิก ตอบได้ตรงใจเรามาก เดี๋ยวนี้ออร์แกนิกกลายเป็นแบรนด์ เป็นเทรนด์ไปแล้ว บางยี่ห้อดูไม่จริงใจออกแนวเฟคๆ ตามแห่ ราคาแพงแบบไม่น่าอุดหนุนอย่างยิ่ง แก้ไขเมื่อ 10 ธ.ค. 52 18:27:07 จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 18:26:16

ความคิดเห็นที่ 58 ชอบกระทู้นี้มากมายเลยค่ะ จากคุณ : ป้าอ้วนมาเอง (เหนียวเนื้อ) เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 18:31:19

ความคิดเห็นที่ 59 ป้าอ้วน -- ตอนหน้าป้าคงชอบมากขึ้นด้วยล่ะ เราจะพาไปเดินตลาดสดใหญ่สุดในลอนดอน กระทู้หน้าไปเดิน borough market แหล่งตัวริดกัน แล้วหลังจากนั้นจะพาไปเดินถนนตลาดนัดเล็กๆ ย่านอื่นต่อด้วย แวะไปลอนดอน ควรไปเดินตลาด borough สักครั้ง เราก็เพิ่งไปเดินครั้งแรกเหมือนกัน กลัวคนเหยียบอยู่หลายเพลา แต่ตลาดนี้มีอาหารอะไรที่น่าสนใจมากมาย   ไม่รู้ต้องแปะกระทู้ตลาดนี้นานกี่ชั่วโมง เพราะถ่ายรูปมาเยอะมากกก มีร้านและสินค้าเด็ดๆ อยากแนะนำให้เดินชมเยอะเลย แล้วพบกันอีกที ดึกๆ คืนวันศุกร์ จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 18:42:41

ความคิดเห็นที่ 60 ชอบภาพที่ถ่ายเมนูกับแสงเทียนมากครับ สัตว์ปีกผมก็ชอบครับ ไม่ปีกก็ชอบ :) จากคุณ : L-Nets เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 19:09:09

ความคิดเห็นที่ 61 ราคา starter กับ dessert พอสู้ไหวค่ะ  แต่ราคา main course นี่สูงจัง วันศุกร์จะเจอกันใช่ไหมคะ  จะรอชมตลาดค่ะ จากคุณ : ครัวคานแอ่น (Irishcream) เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 22:07:54

ความคิดเห็นที่ 62 ฮัลโหลลลลล แก้ว ... นี่พี่ออนไลน์ด้วยแอร์การ์ดจากเขาใหญ่เป็นวันแรกเลยจ้า ดีใจจริงๆ ที่ได้เห็นทู้แก้ว ... คิดถึงจริงๆนะเนี่ย ตอนแรกนึกว่า ออกมาแล้ว จะได้มีเวลาอ่านหนังสือ แต่จนบัดนี้ ยังยุ่งเหยิงอยู่เลย ชีวิตตอนนี้ อยากได้หนังสือใหม่ๆ บ้าง คงซื้อเก็บอย่างเดียว ไว้หน้า low ก่อน จะควักออกมาอ่านบ้างจ้า พูดถึง chutney วันก่อนเพิ่งเอามะเขือเทศเขียวๆ มาทำ อร่อยดีอ่ะแก้ว พี่ไม่แบ่งใครเลย กะว่าจะเอาไว้กินคืน X'mas จากคุณ : Jekyll and Hyde เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 52 22:47:10

ความคิดเห็นที่ 63 พี่แก้วคะ ที่ฟินแลนด์ช่วงนี้ โอลิเวอร์ฟีเวอร์ค่ะ ทีวี มีช่วงโอลิเวอร์ 3 เวลาหลังอาหาร แถม หนังสือพิมพ์ ก็ยังตามมาหลอนได้ทุกวัน ว่าไปแล้ว ถ้าติ๋วได้ไปเที่ยวลอนดอน อยากไปกินและชมโอลิเวอร์ อยู่เหมือนกันค่ะ จากคุณ : หมู (ตัว) อ้วน เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 52 00:55:49

ความคิดเห็นที่ 64 http://www.youtube.com/watch?v=X6kIZGh5xLc ฝากคลิปอันนี้ของเชฟให้ดูอีกอัน น้องเล็ก ... หลังๆ พี่เริ่มละสัตว์ลงเยอะมาก ขี้เกียจเคี้ยว สงสัยชักจะเริ่มแก่ อนาคตอาจจะหันมากินลม อ้าปากแล้วอิ่มเลย : ) Irishcream ... เราว่าอะไรๆ ที่ลอนดอนก็แพงทั้งนั้นนะ คาปุชชิโน่แก้วละ 2.50 ปอนด์แน่ะ (แม่เจ้า) อิตาลี 90 เซนต์เอง (ฮึๆ เทียบกันได้ไง) เมนคอร์ส ถ้าเทียบคุณภาพของที่ใช้+รสชาติ เราว่าราคาทั่วไป (ค่อนข้างถูก) เลยล่ะ ที่นี่จานหลัก เป็ด / เนื้อแกะ / ปลา ส่วนใหญ่ 20 ยูโรอัพทั้งนั้น ... แพงครือกัน พี่ก้อย --- หนังสือนี่ซื้อไว้ก่อนให้อุ่นใจ อ่านเมื่อไหร่ค่อยว่ากันอีกที ซื้อเพราะกลัวมันขายหมด ชอบสะสมรุ่นพิมพ์ครั้งแรก แปลว่า สูตร chutney พี่มีทีเด็ดอะสิ เอาไว้จะแบ่งไปขโมยชิมถึงที่ อิอิ หมู (ตัว) อ้วน -- เนอะ ถ้าดูรายการเขา แล้วจะทำให้อยากไปอุดหนุน เป็นซี่รี่ส์ใหม่หรือของเก่าจ๊ะ พี่ไม่ค่อยดูทีวี อาจจะพลาดๆ ไปเยอะ จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 52 03:07:50

ความคิดเห็นที่ 65 เนื้อนกพิราบแดงได้ใจจัง ไม่เคยลองเหมือนกัน อยากชิมบ้างจังครับ เชฟที่ดังแล้วแต่ยังเปิดร้านเล็ก ๆ น่ารักแบบนี้ดูมีจุดยืนของตัวเองดีจัง พิถีพิถันเรื่องวัตถุดิบแทนการตกแต่งร้าน อยากให้แถวนี้มีร้านแบบนี้มั่งจัง จากคุณ : amenochikara เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 52 07:35:50

ความคิดเห็นที่ 66 น้องหมี -- พี่ว่า โอลิเวอร์คงพอใจทำอะไรที่ตัวเองมีความสุขมั้ง ก็ท้าทายตัวเองดีไปอีกอย่าง ทำร้านครัวเล็กๆ รับมือเองทั้งหมด พวกเชฟดังๆ คนอื่นอาจเน้นเรื่องโชว์ตัว ออกทีวี เป็นนักจัดการคนอื่น ก็ตามถนัดกันไป ... เราก็ถนัดเลือกชม เลือกกินกันไป - เนอะๆ จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 52 18:29:50

ความคิดเห็นที่ 67 โหย ชอบๆ พี่แก้วถ่ายรูปมืดๆ ในร้านเก่งมากเลยค่ะ จ๋าชอบคำตอบเรื่องออร์แกนิกกับโลคัลด้วย ตอบดีจังค่ะ :D หนังสือของ maggie beer กับของ Ottolenghi เห็นที่นี่ประจำเลย ไว้เดี๋ยวกลับไปเปิด (ดูทีร้าน) ใหม่ดีกว่า อยากมีร้านขนมแบบ Ottolenghi จังค่ะ จากคุณ : Bean Sprout เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 52 18:49:02

ความคิดเห็นที่ 68 รูปถ่ายของพี่แก้วมีเอกลักษณ์จังค่ะ ดูแล้วรู้เลยว่าพี่ถ่าย จะตามไปเที่ยวทุกกระทู้เลยค่ะ จากคุณ : พริกน้ำส้ม เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 52 19:45:15

ความคิดเห็นที่ 69 พี่แก้วคะ ถ้าทำรีวิวหนังสือเมื่อไหร่ตาโตจะโหวตกระทู้ให้เลยค่ะ เคยคิดอยากทำมาหลายครั้งแล้ว แต่ไม่รู้จะมีคนสนใจเหมือนกันรึเปล่า ท่าทางพี่แก้วจะสะสมหนังสือไว้เยอะ คงมีเล่มที่น่าสนใจไม่น้อยเลยเนอะ ตาโตอยากเห็นจังค่ะ จะเอาหนังสือมาแจมกับพี่แก้วด้วย :) จากคุณ : ลูกสน เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 52 21:19:12

ความคิดเห็นที่ 70 จ๋า -- ถ่ายได้มุมเดียวล่ะ มุมแสงเทียน ภาพนิ่งยังพอดูได้ แต่ภาพเคลื่อนไหว เบลอร์ทันที มืดมาก กลับเมืองจิงโจ้ เล่าเรื่องคุณ maggie beer มาให้พี่อ่านบ้างนะ ที่โน่นคงมีเรื่องเธอเยอะ พริกน้ำส้ม -- รูปถ่ายพี่คงเป็นที่แสงล่ะมั้ง ถ่ายออกมาทีไร แสงให้อารมณ์แบบนี้ทุกที ตาโต -- ตำราอาหารพี่มีไม่เยอะมากหรอก ตาโตอาจจะมีเยอะกว่าพี่ก็ได้ นัดกันเปิดกระทู้รีวิวหนังสือดีไหม ถ้ามาแจมหลายๆคน คงสนุกดี สักเมื่อไหร่ดีล่ะ จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 03:00:30

ความคิดเห็นที่ 71 อ่านเพลินเลย ชอบแนวความคิดของโอลิเวอร์ด้วยอีกคน เอามาปรับใช้กับการทำงานของตนเองได้ ถึงจะไม่ได้ควงกะทะไปมาแบบเค้า   เรื่องอาหารออร์แกนิกบริกรตอบได้จริงใจดี จริงของเค้าเราเห็นด้วย สำหรับหนังสือ จะชอบหนังสือที่มีภาพประกอบมากกว่าตัวอักษร นิสัยไม่ดี ไม่รักการอ่าน อ่านแล้วหลับ จะดูภาพเป็นหลัก อ่านมากลืมอีก ที่อ่าน ๆ มาจำไม่ได้ก็มี แต่รูปจำได้ดีไม่ค่อยมีสาระ มันเลยไม่จินฯ หรือจินฯไม่เป็น ยกเว้นอ่านของพี่แก้วนะ อ่านได้อ่านดี เขียนมาเถอะ อ่านหมด จำได้ด้วย ถ้าจำไม่ได้จะก็อปใส่เครื่องไว้กันลืม เสียดายกระทู้ก่อน ๆ ไม่เคยเก็บ อ่านแล้วลืมดูซิ พี่แก้วเก็บไว้บ้างหรือเปล่า จากคุณ : มัทนะพาธา เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 52 21:47:15

ความคิดเห็นที่ 72 หวัดดี เอ๊ด กระทู้เก่าๆ พี่มีต้นฉบับเก็บไว้เหมือนกัน ว่าจะเอาลงเว็บ แต่ยังไม่มีเวลาทำเลย งานการเราเป็นไงบ้าง ชีวิตคนเรามันต้องปรับตลอดล่ะเน้อ ปรับให้ลงตัวตามช่วงวัยและยุคสมัย ช่วงไหนชีวิตตึงๆ ก็หาทางผ่อนมันนะ พี่ก็เป็นเหมือนกัน ชีวิตช่วงตึงๆ ยานๆ เนี่ย จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 05:30:05

ความคิดเห็นที่ 73 รักกระทู้นี้สุดๆ  เหมือนเป็นกระทู้ในฝัน จะเก็บไว้ตามรอยในทุกซอกทุกมุม รู้สึกว่าเป็นกระทู้ที่มีชีวิตชีวาสุดๆไปเลยค่ะ แก้ไขเมื่อ 21 ธ.ค. 52 13:39:48 จากคุณ : Stay alivE เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 52 12:28:21