ความคิดเห็นที่ 1 ยืนรอรถเมล์สาย 204 ซึ่งมาสุดสายที่ป้ายรถเมล์หน้าทางเข้าสถานีรถรางปีนังฮิลล์ 13.20 น.ขึ้นรถเมล์ คนขับบอกรอรถออก 10 นาที ค่ารถไปลงที่ทางแยกเข้า Kek Lok Si Temple RM 1.40 มีผู้โดยสารมากขึ้นคนขับรถจึงออกรถก่อนเวลา 13.28 น.ลงรถที่ป้ายตรงข้าม 3 แยกทางเข้า Kek Lok Si Temple ซ้ายมือปากทางเข้าเป็นตลาดสด ข้างตลาดมีแผงขาย Penang Laksa ที่ท่าทางจะเป็นร้านดังเพราะมีลูกค้านั่งทานกันมาก จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 14:42:47

ความคิดเห็นที่ 2 เดินเข้ามาประมาณ 100 เมตร ถึง 3 แยกเลี้ยวซ้าย เดินไปจนเจอ 3 แยกอีกแห่ง ทางขวาคือทางขับรถขึ้นไปลานจอดรถของ Kek Lok Si Temple ซ้ายมือจะมีสะพานเล็กๆข้ามคลอง Sungai Air Itam ปลายสะพานเป็นทางเดินขึ้นเขาไป Kek Lok Si Temple จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 14:43:17

ความคิดเห็นที่ 3 จากที่มองเห็น Kek Lok Si Temple เปลี่ยนไปมาก มีสิ่งก่อสร้างเพิ่มขึ้นมากมาย - Kek Lok Si Temple เป็นวัดจีนที่ใหญ่ที่สุดในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งอยู่บนเขาที่มีชื่อว่า He San หรือ Crane Hill หรือเขากะเรียน ตั้งอยู่บนที่ดิน 25 ไร่ที่ทางวัดซื้อไว้ในปี 1893 ริเริ่มการก่อสร้างโดยเจ้าอาวาสวัดเจ้าแม่กวนอิมที่ Pitt Street (Jalan Masiid Kapitan Keling) โดยได้รับพระบรมราชานุญาตจากพระเจ้ากวางสูแห่งราชวงศ์ชิง เงินทุนเริ่มต้นมาจากเงินบริจาคของเศรษฐีจีนในปีนัง 5 คน ก่อสร้างเส็จในปี 1904 และทำพิธีเปิดเมื่อวันที่ 13 มกราคม 1905 Kek Lok Si Temple หรือ Temple of Supreme Bliss เป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดในปีนัง เป็นวัดพุทธฝ่ายมหายานผสมลัทธิเต๋า ที่มา : malaysiasite.nl/kekloksieng.htm จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 14:43:48

ความคิดเห็นที่ 4 บันไดเดินขึ้นเขามีร้านค้าขายของตลอด 2 ข้างบันได กลางทางขึ้นด้านขวามือมีโรงเรียนประถม สมัยก่อนจะมีร้านขายของแกล้งคน เช่นแก๊สไข่เน่า ผงคัน ผงจาม แต่วันนี้ไม่เห็น จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 14:44:15

ความคิดเห็นที่ 5 เดินประมาณ 10 นาทีก็ถึงเขต Kek Lok Si Temple ทางเข้าเป็นสระเต่าที่มีชื่อเรียกว่า Liberation Pond เป็น 1 ในบ่อเต่าซึ่งทำให้คนไทยเรียกวัดนี้ว่า"วัดเขาเต่า" มีร้านขาย Kangkong หรือผักบุ้งสำหรับเลี้ยงเต่า จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 14:44:40

ความคิดเห็นที่ 6 เดิมเมื่อเดินพ้นสระนี้จะพบกับสระเต่าอีกแห่ง แต่ปรากกฏว่ามีการสร้างวิหารคร่อมโดยที่ชั้นล่างเป็นที่จอดรถ เมื่อเดินผ่านที่จอดรถก็จะพบกับร้านขายวัตถุมงคลร้านแรก จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 14:45:10

ความคิดเห็นที่ 7 ข้างร้านขายวัตถุมงคลมีทางเดินรอบลานซึ่งเดิมเป็นสระเต่า ทางเดินนี้พาขึ้นไปยังวิหารด้านซ้ายมือบนเขา แก้ไขเมื่อ 18 ธ.ค. 52 14:47:08 จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 14:45:44

ความคิดเห็นที่ 8 มีส่วนที่สร้างเพิ่มขึ้นมาหลายส่วน เช่นศาลเทพเจ้าต่างๆ แก้ไขเมื่อ 18 ธ.ค. 52 14:48:03 จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 14:46:17

ความคิดเห็นที่ 9 กำแพงพระพุทธ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 14:49:48

ความคิดเห็นที่ 10 มีสิ่งก่อสร้างเพิ่มขึ้นมามากมายแบบนี้คงต้องใช้เวลาเที่ยวชมมากกว่า 1 ชั่วโมงแน่ๆ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 14:51:50

ความคิดเห็นที่ 11 กราบพระสังกัจจายน์หน้าทางเข้าวิหาร จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 14:52:45

ความคิดเห็นที่ 12 หลังจากนั้นหาทางขึ้นไปเจดีย์พระพุทธหมื่นองค์อยู่นานเพราะไม่มีป้ายบอกทาง สิ่งก่อสร้างใหม่ซ้อนทับกัน จากเดิมที่เดินไปตามทางเรื่อยๆจนถึงเจดีย์ กลายเป็นว่าหลังวิหารมีร้านขายวัตถุมงคลมาบังอยู่ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 14:53:17

ความคิดเห็นที่ 13 และเป็นทางบังคับให้ต้องเสียเงิน RM 2.00 จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 14:53:41

ความคิดเห็นที่ 14 เพื่อขึ้นลิฟท์ไปวิหารเจ้าแม่กวนอิมบนยอดเขา จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 14:54:17

ความคิดเห็นที่ 15 ขึ้นไปถึงยอดเขาฝนตกหนักขึ้น จนไม่สามาถเดินไปถ่ายมณฑพเจ้าแม่กวนอิมใกล้ๆได้ เจ้าแม่กวนอิมองค์นี้หล่อด้วยสัมฤทธิ์ มีความสูง 30.20 เมตร ประดิษฐานอยู่เหนือเจดีย์พระพุทธหมื่นองค์ สร้างเสร็จเมื่อปลายปี 2002 แต่เดิมไม่มีมณฑพครอบ คนงานกำลังเร่งก่อสร้างเพื่อให้ทันพีธีฉลองในเดือนธันวาคมปีนี้ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 14:54:54

ความคิดเห็นที่ 16 ขวามือมีศาลซึ่งมีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมโผล่ขึ้นมาแค่พระอุระ ไม่ได้เดินไปดูเพราะฝนตกหนัก จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 14:55:21

ความคิดเห็นที่ 17 ตรงกลางมีวิหารเจ้าแม่กวนอิมปางพันหัตถ์ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 14:56:13

ความคิดเห็นที่ 18 วิ่งฝ่าสายฝนเข้าไปจุดธูปกราบในวิหาร องค์เจ้าแม่กวนอิมแกะสลักจากไม้ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 14:56:41

ความคิดเห็นที่ 19 จากนั้นออกมาที่ประตูทางเข้าวิหาร มีแม่ชีตั้งโต๊ะรับบริจาคซื้อกระเบื้องมุงหลังคามณฑพ ถูกที่สุดคือ RM 30.00 บริจาคเงินซื้อกระเบื้อง 1 แผ่น เขียนชื่อตัวเองและแฟนเป็นภาษาจีน ตรงกลาง"ซี้กู่"(คำมงคลสี่คำ) 2 แถวซึ่งมีความหมายว่า ครอบครัวเป็นสุข สมหวังทุกสิ่ง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 14:57:08

ความคิดเห็นที่ 20 ลงลิฟท์กลับลงมาที่ร้านขายวัตถุมงคล มีทางเดินไปเจดีย์พระพุทธหมื่นองค์ -Kek Lok Si Temple เริ่มสร้างเมื่อปี 1893 แต่ก่อสร้างเจดีย์ 9 ชั้นองค์นี้เสร็จเมื่อปี 1930 ชื่ออย่างเป็นทางการของเจดีย์องค์นี้คือ"เจดีย์พระรามที่ 7"ตามพระนามของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งเสด็จพระราชดำเนินมาวางศิลาฤกษ์การก่อสร้างเจดีย์องค์นี้ แต่คนทั่วไปเรียกเจดีย์องค์นี้หลังสร้างเสร็จว่า"เจดีย์พระพุทธหมื่นองค์" ฐานเจดีย์เป็นรูป 8 เหลี่ยมตามคติในลัทธิมหายาน ส่วนกลางเจดีย์เป็นศิลปแบบไทย ยอดเจดีย์ศิลปเป็นแบบพม่า แสดงให้เห็นถึงการหลอมรวมกันของพุทธศาสนาฝ่ายมหายานและฝ่ายเถรวาท ที่มา : malaysiasite.nl/kekloksieng.htm จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 14:57:45

ความคิดเห็นที่ 21 ประตูหน้าองค์เจดีย์ที่สร้างขึ้นเมื่อปี 1930 ด้านหน้ามีบันไดลงไปด้านล่างแต่ปัจจุบันห้ามใช้ ป้ายสี่คำมีความหมายว่า"แดนพุทธภูมิบนสรวงสวรรค์" บริจาคเงินสร้างโดยอดีต 2 มหาเศรษฐีโอ้วบุ้นโฮ้วและโอ้วบุ้นป่า ผู้ผลิตยาหม่องตราเสือ และเป็นผู้สร้าง Haw Par Villa ทั้งที่ฮ่องกงและสิงคโปร์ รวมถึงอดีตบ้านหยกบนถนน Tanglin Road สิงคโปร์ 2 พี่น้องสร้างสวน Haw Par Villa ที่ฮ่องกง ที่หน้าสวนมีป้ายเขียนว่า"ฝรั่งห้ามเข้า" เพื่อประชดป้าย"คนจีนห้ามเข้า"ของสวนสาธารณะของฝรั่ง ปัจจุบันธุรกิจทั้งหมดเปลี่ยนมือไปหมดแล้ว เนื่องจากรุ่นหลานทำธุรกิจล้มละลาย บ้านหยกถูกรัฐบาลสิงคโปร์ยึด จึงไม่มีใครมีโอกาสได้ดูศิลปจากหยกจำนวนมากที่สะสมไว้ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 14:59:18

ความคิดเห็นที่ 22 Kek Lok Si Temple เมื่อมองจากฝั่งเจดีย์ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 14:59:54

ความคิดเห็นที่ 23 เดินย้อนกลับไปที่วิหารหลังใหม่ที่สร้างคร่อมปลายบันไดเดินขึ้นเขา จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 15:01:08

ความคิดเห็นที่ 24 ขึ้นไปกราบพระที่ชั้น 2 ของวิหาร จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 15:02:23

ความคิดเห็นที่ 25 องค์ซ้ายคือพระอมิตาพระพุทธ องค์กลางคือพระพุทธไวโรจน์ และองค์ขวาคือพระพุทธอักโษภัย จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 15:03:22

ความคิดเห็นที่ 26 เสาหินแกะสลักในวิหาร จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 15:03:49

ความคิดเห็นที่ 27 ภาพแดนพุทธภูมิบนสรวงสวรรค์ที่ 2 ข้างกำแพงวิหาร จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 15:04:16

ความคิดเห็นที่ 28 ประตูทางเข้า Kek Lok Si Temple ทางด้านถนนขึ้นภูเขา (Jalan Balik Pulau) อักษรจีนสีทอง 5 คำบนป้ายมีความหมายว่า"วัดเก๊กลกซี่แห่งเขาเหอซาน" จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 15:04:37

ความคิดเห็นที่ 29 15.24 น.ลงจาก Kek Lok Si Temple ใช้เวลาชมวัด 2 ชั่วโมง มากกว่าที่เคยมาเองและพาทัวร์นักศึกษามาเมื่อปี 1977 และ 1978  ที่ใช้เวลาแค่ชั่วโมงเดียว จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 15:05:07

ความคิดเห็นที่ 30 ระหว่างทางลง ซ้ายมือมีร้าน 2 ห้องขายจันทรน์เทศ มีแบบหวานน้อยดองเกลือและแบบเชื่อมน้ำผึ้ง ถุงละ 50 กรัม ราคาห่อละ RM 4.80 ซื้อไปฝาก Christine อีกอย่างละ 2 ห่อ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 15:05:31

ความคิดเห็นที่ 31 เดินกลับทางเดิม ไม่มีเวลาแวะชิม Asam Laksa และ Penang Laksa ที่ข้างตลาดปากทางเข้า Kek Lok Si Temple เนื่องจากต้องไปวัดไชยมังคลรารามก่อน 5 โมงเย็น จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 15:05:53

ความคิดเห็นที่ 32 แต่ก่อนอื่นขอกลับไปเช็คอิน อาบน้ำ เก็บของที่ซื้อมาและเก็บโน้ตบุ้คที่โรงแรมก่อน จะได้ไม่ต้องแบกน้ำหนักมากเกินไป ซึ่งจะทำให้เคลื่อนที่ไม่สะดวก และอาจมีของซื้อเพิ่ม 15.30 น.ขึ้นรถเมล์สาย 203 ค่ารถ RM 2.00 16.20 น.ลงรถที่ถนน Jalan Sri Bahari ตรงข้าม Oriental Hotel จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 15:06:15

ความคิดเห็นที่ 33 เน้นตอนจองห้องว่าต้องการชั้นสูง ได้ห้องที่ชั้น 7 จาก 10 ชั้น ทีวีเครื่องเล็กแต่ตู้เย็นใบใหญ่ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 15:06:43

ความคิดเห็นที่ 34 อีกอย่างที่เน้นตอนจองก็คือ ขอห้องที่หันหน้าไปทาง Komtar ซึ่งจะทำให้มองเห็นเมืองเก่าของ George Town ส่วนใหญ่ ถ้าหันไปทาง Butterworth จะเห็นแค่ท่าเรือและหอนาฬิกาที่สถานีรถรถไฟปีนัง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 15:07:05

ความคิดเห็นที่ 35 อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อใหม่ ตั้งแต่มีโรคเอดส์ เลิกใช้อ่างอาบน้ำร่วมกับคนอื่น จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 15:07:32

ความคิดเห็นที่ 36 ใกล้ 5 โมงเย็นเรียกแท็กซี่หน้าโรงแรมไปวัดพระนอน ต้องเน้นว่าวัดพระนอนเพราะเกาะปีนังมีวัดไทย 2 แห่ง อีกแห่งคือวัดบุปผารามซึ่งตั้งอยู่ที่ Jalan Burma (ถนนพม่า) แท็กซี่ดูเวลาแล้วบอกว่า "ช่วงนี้รถติดสงสัยจะไปทันนะครับบอส ค่ารถ RM 15.00 ครับ" รู้ว่าไกลจึงไม่ต่อ รถวิ่งฝ่าการจราจรเจอไฟแดงตลอด คนขับพยายามไปทางลัด แต่สุดท้ายก็ไม่ทัน 5 โมงเย็น คนขับรถใจดีเสนอว่าจะไปส่งที่ Gurney Drive ซึ่งเป็นจุดหมายต่อไป แต่ขอเดินชมรอบๆและข้ามไปชมวัดพม่า จากนั้นจะเดินไปเอง วัดไชยมังคลารามตั้งอยู่ที่ Lorong Burma (ซอยพม่า)ซึ่งเชื่อมระหว่าง  Jalan Kelawei และ Jalan Burma เป็นซอยเดินรถทางเดียวและต้องเข้าจากทางด้านถนน  Jalan Kelawei วัดไชยมังคลารามตั้งอยู่ทางด้านขวาของ Lorong Burma ส่วนด้ายซ้ายเป็นวัดธรรมมิการามซึ่งเป็นวัดพม่า ด้านหน้าของวัดไชยมังคลารามอยู่ทางด้าน Lorong Burma ส่วนด้านหลังวัดอยู่ติดกับ Lorong Bangkok (ซอยกรุงเทพ) จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 15:08:17

ความคิดเห็นที่ 37 นอกจาก Lorong Bangkok แล้ว บนเกาะปีนังยังมี Jalan Siam เป็นถนนเส้นสั้นๆในขณะที่ Jalan Burma นั้นยาวมาก จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 15:08:52

ความคิดเห็นที่ 38 มาถึงวัดไชยมังคลารามประตูพระอุโบสถปิดแล้วและฝนเริ่มตกลงมาอีก วัดไชยมังคลารามเป็นวัดเก่าแก่ สร้างในปี พ.ศ. 2388 มีอายุกว่า 160 ปี สร้างโดยบริษัทอินเดียตะวันออก (East India Company) ซึ่งเป็นบริษัทการค้าของอังกฤษในนามของสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย ศิลปะของวัดไชยมังคลารามนั้น เป็นการผสมผสานระหว่างศิลปะไทย พม่า และจีนเข้าด้วยกัน ซึ่งทำให้วัดแห่งนี้มีสีสันสะดุดตา ดูแปลกไปจากวัดในประเทศไทย ที่เน้นศิลปะที่อ่อนช้อย แต่ศิลปะของวัดแห่งนี้จะเป็นแบบเรียบ ไม่มีการแกะสลัก ทำลวดลายให้ดูวิจิตรมากนัก ทุกวันนี้บนเกาะปีนังก็มีคนไทยที่สืบเชื้อสายจากคนรุ่นก่อนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากมาก และประชากรส่วนใหญ่ในปีนังเป็นคนเชื้อสายจีน ที่เข้ามาทำมาค้าขาย และนับถือศาสนาพุทธ ทำให้เกาะปีนังมีวัดไทยที่เป็นศูนย์รวมของชาวพุทธ มีกิจกรรมทางศาสนาในวันสำคัญ ที่มา : วิกิ เนื่องจากพระอุโบสถปิด จึงไม่ได้เข้าไปกราบสักการะพระพุทธชัยมงคล พระพุทธไสยาสน์ที่ยาวที่สุดในเกาะปีนัง   ส่วนพระพุทธรูปปางไสยาสน์ที่ยาวที่สุดในประเทศมาเลเซียนั้น อยู่ที่วัดไทยชื่อ วัดโพธิวิหาร ในรัฐกลันตัน เมื่อพระอุโบสถปิด จึงทำได้เพียงยกมือไหว้อธิษฐานอยู่ที่ด้านนอก จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 15:09:23

ความคิดเห็นที่ 39 ด้านหน้าขวาของพระอุโบสถมีศาลท้าวมหาพรหม จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 15:09:50

ความคิดเห็นที่ 40 ติดกันเป็นห้องสมุด ป.พิบูลสงครามและโรงครัว ข้างโรงครัวมีการสร้างเวทีเตรียมไว้สำหรับวันลอยกระทง แต่ที่แปลกคือจัดวันอาทิตย์ที่ 1 พฤศจิกายน ในขณะที่ลอยกระทงปีนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ 2 พฤษจิกายน สอบถามคนไทยที่ดูแลความเรียบร้อยของเวที ได้ความว่าที่ปีนังจัดล่วงหน้า 1 วัน เหตผลคาดว่าน่าจะเป็นเพราะวันจันทร์หยุดงานไม่ได้ ส่วนสถานที่ลอยกระทงน่าจะเป็นที่ชายหาด Gurney Drive ที่อยู่ใกล้กับวัด แค่ข้ามถนนเดินทะลุ Lorong Burma อีกฝั่งก็ถึงแล้ว จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 15:10:40

ความคิดเห็นที่ 41 หลังพระอุโบสถเป็นเจดีย์สีทององค์ใหญ่ ทางเข้าชมปิดแล้วเช่นกัน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 15:11:07

ความคิดเห็นที่ 42 16.25 น.ออกจากวัดไชยมังคลาราม จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 15:11:40

ความคิดเห็นที่ 43 ข้ามถนนซอยพม่าไปวัดธรรมมิการามซึ่งอยู่ตรงข้ามกับวัดไชยมังคลาราม จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 15:12:12

ความคิดเห็นที่ 44 วัดนี้เป็นวัดพม่า จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 15:12:38

ความคิดเห็นที่ 45 วัดแห่งนี้สร้างเสร็จเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 1803 มีอายุ 206 ปี เป็นวัดพุทธแห่งแรกและเป็นวัดพม่าเพียงแห่งเดียวในประเทศมาเลเซีย เดิมมีชื่อว่า "Nandy Moloh Burmese Temple" ที่ตั้งของวัดได้รับบริจาคจาก Nonya Betong ซึ่งซื้อที่ดินถวายวัดจากนาย George Layton ด้วยเงิน 390 เหรียญสเปน วัดแห่งนี้ได้รับการประกาศจากรัฐปีนังให้เป็น 1 ใน 15 สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เมื่อปี 1998 จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 15:13:02

ความคิดเห็นที่ 46 จำได้ว่าทางเดินไปพระอุโบสถ เป็นทางเดินต่างระดับหลังคาไม้แบบวัดพม่าทั่วไป มาคราวนี้เป็นทางเดินราบ แต่ยังมีการประดับภาพพุทธประวัติตลอด 2 ข้างของทางเดินไปพระอุโบสถเช่นเดิม จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 15:15:14

ความคิดเห็นที่ 47 สุดทางเดินความยาวประมาณ 50 เมตรคือพระอุโบสถ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 15:15:39

ความคิดเห็นที่ 48 หน้าพระอุโบสถมีต้นกฐินสามัคคี (Union Katina Money Tree) แต่เอ ? ออกพรรษาไปนานแล้วนี่นา จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 15:16:13

ความคิดเห็นที่ 49 และหุ่นจำลองพระเจดีย์ทองคำที่กำลังเปิดรับเงินบริจาคสมทบทุนสร้าง สังเกตให้ดีจะเห็นว่าชั้นล่างของหุ่นจำลองเป็นตุ๊กตารำไทย ไม่ใช่ตุ๊กตารำพม่า จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 15:16:40

ความคิดเห็นที่ 50 เข้ากราบสักการะพระประธานในพระอุโบสถ การไหว้พระในปีนังไม่ว่าจะเป็นวัดจีนหรือวัดพม่า นิยมถวายตะเกียงดอกบัว ซื้อตะเกียงดอกบัวถวายที่โต๊ะหน้าพระประธาน และบริจาคเงิน RM 10.00 จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 15:17:06

ความคิดเห็นที่ 51 หนุ่มสาวชาวพม่าที่มาไหว้ที่วัด เข้ารับน้ำมนต์และสายสิญจ์จากหลวงพ่อ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 15:17:32

ความคิดเห็นที่ 52 17.40 ออกเดินชมรอบบริเวณวัด เริ่มจากวิหารกลางสระปลาคาร์ฟอายุ 200 ปี จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 15:18:43

ความคิดเห็นที่ 53 ขวามือของวิหารเป็นรูปปั้นของพระอรหันต์เขมะ ผู้เป็นศิษย์เอกหญิงคนแรกของพระพุทธเจ้า เป็นที่เลื่องในเรื่องสิริโฉมและความรอบรู้ รูปปั้นอีก 2 องค์ด้านข้างคือนางฟ้า ซ้ายมือของวิหารเป็นรูปปั้นของพระสีวลี เอตทัคคะในทางผู้มีลาภมาก จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 15:19:16

ความคิดเห็นที่ 54 ภายในวิหารมีพระพุทธรูปที่ไม่ทราบว่าเป็นปางใด มีถังสังฆทานที่มีผู้นำมาถวายวางอยู่ด้านหน้า แต่ตอนนี้เย็นแล้ว ทำไมมีการถวายของกิน ? จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 15:19:42

ความคิดเห็นที่ 55 ถัดจากวิหารกลางน้ำ มีจิตรกรรมฝาผนังปูนปั้น แสดงการออกบวชเพื่อแสวงหาความหลุดพ้นของพระพุทธเจ้า จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 15:20:11

ความคิดเห็นที่ 56 หน้ากำแพงมีสระน้ำ กลางสระน้ำมีสาแหรกหมุนได้ ปลายสาแหรกแต่ละอันมีบาตรเขียนพรที่อยากขอวางอยู่ เสี่ยงทายโดยการโยนเหรียญใส่ในบาตรที่มีคำพรที่ต้องการ เช่น ความสุข สุขภาพ ร่ำรวย เป็นต้น ลองโยนไปหลายเหรียญ ไม่ลงแม้แต่เหรียญเดียว จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 15:20:44

ความคิดเห็นที่ 57 ถัดมาเป็นโรงเรียนพระปริยัติธรรมศึกษาชื่อว่าวิหารเบตง เพื่อเป็นการระลึกถึง Nonya Betong ผู้ซื้อที่ดินถวายวัด จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 15:21:13

ความคิดเห็นที่ 58 ขวาซ้ายหน้าวิหารเบตง มีพญานาคและพญาครุฑซึ่งเป็นสัตว์ในตำนาน ที่มีการกล่าวถึงในพระไตรปิฎก จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 15:21:40

ความคิดเห็นที่ 59 เดินมาทางด้านหน้าวัดบ้าง พระเจดีย์ข้างพระอุโบสถ ซุ้มรอบฐานพระเจดีย์ประดิษฐานด้วยพระพุทธรูปนั่งปางต่างๆ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 15:22:11

ความคิดเห็นที่ 60 หน้าเจดีย์คือ Sima Hall ผนังรอบ  Sima Hall เป็นจิตรกรรมปูนปั้นแสดงพุทธประวัติ บริเวณทางเดินมีรูปปั้นเทวดาหาบระฆัง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 15:22:51

ความคิดเห็นที่ 61 รูปปั้น Panca Rupa สัตว์ในหิมพานต์ทำหน้าที่พิทักษ์โลก เป็นสัตว์ซึ่งรวมลักษณะเด่นของสัตว์ 6 ชนิดคือ งวงและงาของช้าง กีบเท้าและหูของม้า หน้าของสิงโต เขาของกวาง ลำตัวและหางของปลา และปีกทรงพลังของครุฑ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 15:23:16

ความคิดเห็นที่ 62 ด้านหน้าทางเข้า Sima Hall เป็นสิงห์พม่า 1 คู่ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 15:23:46

ความคิดเห็นที่ 63 ภายใน Sima Hall เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธยืนองค์ใหญ่แกะสลักจากหินอ่อน เป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะแบบพม่าที่งดงามมาก จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 15:25:50

ความคิดเห็นที่ 64 เป็นพระพุธะรูปปางคันธารราฐ หรือพระพุทธรูปปางขอฝน(ยืน) จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 15:26:32

ความคิดเห็นที่ 65 พระพุทธรูปอยู่ในพระอิริยาบถยืน ทรงผ้าวัสสิกสาฎก ( ผ้าอาบน้ำฝน ) พระหัตถ์ขวายกขึ้นเป็นกิริยากวัก แสดงอาการขอฝน พระหัตถ์ซ้ายหงายรองรับน้ำฝน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 15:28:16

ความคิดเห็นที่ 66 -ประวัติ พระพุทธรูปปางคันธารราฐ สมัยหนึ่งนครสาวัตถี แคว้นโกศล เกิดความแห้งแล้ง ฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาล พืชผลได้รับความเสียหาย ประชาชนขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค สระโบกขรณี ( สระบัว ) ภายในพระเชตวันมหาวิหารก็แห้งขอดติดก้นสระ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีพระประสงค์จะอนุเคราะห์แก่มหาชน พระพุทธองค์ทรงผ้าวัสสิกสาฎก ( ผ้าอาบน้ำฝน ) แล้วเสด็จไปประทับ ณ บันไดสระ ยกพระหัตถ์ขวาขึ้นกวักเรียกฝน พระหัตถ์ซ้ายรองรับน้ำฝน ทันใดนั้นบังเกิดมหาเมฆตั้งเค้าขึ้นพร้อมกัน ในทุกทิศานุทิศ ด้วยพุทธานุภาพและพระมหากรุณาต่อสรรพสัตว์ทั้งหลาย ฝนได้ตกลงมาเป็นอัศจรรย์ ที่มา : tumsrivichai.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=5334758&Ntype=43 จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 15:28:50

ความคิดเห็นที่ 67 เพดาน Sima Hall เป็นไม้แกะสลักลวดลายสวยงาม จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 15:29:17

ความคิดเห็นที่ 68 ด้านหลังพระพุทธรูปปางคันธารราฐ เป็นพระพุทธรูปประทับยืนปางต่างๆ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 15:29:46

ความคิดเห็นที่ 69 18.00 น.ออกจากวัดธรรมมิการาม จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 15:30:13

ความคิดเห็นที่ 70 เลี้ยวขวาที่หน้าประตูวัดธรรมมิการาม ข้ามถนนไปยังอีกฝั่งของ Lorong burma จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 15:30:43

ความคิดเห็นที่ 71 ประมาณ 100 เมตรเป็น 3 แยกริมหาด เลี้ยวซ้ายที่ 3 แยก ถนนเลียบหาดเส้นนี้มีชื่อว่า Persiaran Gurney หรือ Gurney Drive (อ่านว่า"เจอร์นี่ไดร้ฟ์") ถนนสายนี้ตั้งชื่อตาม Sir Henry Gurney ข้าหลวงใหญ่แห่งมาลายา ระหว่างปี 1959-1951 ผู้สละชีวิตปกป้องภรรยาและคนขับรถจากการลอบโจมตีของพรรคคอมมิวนิสท์มาลายัน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 15:31:08

ความคิดเห็นที่ 72 Gurney Drive เป็นย่านที่อยู่อาศัยระดับบน ที่เต็มไปด้วยคอนโดมีเนียม โรงแรมระดับ 5 ดาวและศูนย์การค้า ผลจากการกัดเซาะชายฝั่งของน้ำทะเล ทำให้ปัจจุบันชายหาดของที่นี่ไม่สวยงามและไม่เหมาะกับการเล่นน้ำทะเล ถ้าต้องการเล่นน้ำทะเลจึงต้องไปยังชายหาดทางด้านทิศเหนือของเกาะ ซึ่งมีโรงแรมและร้านอาหารทะเลมากมาย ทั้งร้านแบบบ้านๆสร้างด้วยไม้เหนือน้ำทะเล (1973,1987) และร้านหรูริมชายหาด (1987) จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 15:31:44

ความคิดเห็นที่ 73 เดินฝั่งขวาของถนนเลียบชายหาด ผ่านร้านอาหารทะเล บาร์ โรงเรียนนานาชาติปีนัง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 15:32:12

ความคิดเห็นที่ 74 จาก 3 แยกเดินมาประมาณ 700 เมตร จะพบกับศูนย์การค้า จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 15:32:39

ความคิดเห็นที่ 75 ที่มีชื่อว่า Gurney Plaza จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 15:33:01

ความคิดเห็นที่ 76 ลงไปชั้นใต้ดิน มีศูนย์อาหาร Makan Makan และร้านอาหารมากมายหลายร้าน เช่น Seoul Garden, Bread Society และสารพัดเชนฟาสท์ฟู้ด สุดทางเดินคือ Cold Storage ซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ แวะเข้าไปเดินดูของ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 15:33:32

ความคิดเห็นที่ 77 ได้ Indo Cafe ขนาด 300 กรัม ราคาห่อละ RM 17.49 เดินหาในสิงคโปร์ไม่มี มีแต่แบบขวด กลับมาถึงบ้าน ปรากฏว่าไม่หอมเหมือนแบบขวด จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 15:34:07

ความคิดเห็นที่ 78 18.42 น.ติดกับ Gurney Plaza คือศูนย์อาหารที่ทำให้ Gurney Drive เป็นที่โด่งดัง เป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยวที่อยากหาของกินอร่อยๆราคาไม่แพง จากร้านอาหารเกือบร้อยร้าน ในยามค่ำคืนบนเกาะปีนัง ศูนย์อาหารแห่งนี้มีชื่อว่า Gurney Drive Hawker Center เปิดขายทุกวันตั้งแต่ 17.00-23.30 น. อาหารที่โด่งดังของที่นี่ได้แก่ Penang Char Kway Teow, Penang Asam Laksa, Penang Rojak, Satay และอื่นๆอีกมากมาย แก้ไขเมื่อ 19 ธ.ค. 52 18:55:28 จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 15:34:40

ความคิดเห็นที่ 79 มาเดินสำรวจร้านอาหารกัน เริ่มจากร้านแรกขายอาหารทะเล วันนี้ได้ลองหอยหนาม (Siput Duri) แน่ๆ หอยอีกตัวที่อยากลองคือหอยที่ดูเหมือนดักแด้ ที่สุดท้ายก็ลืม จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 15:35:12

ความคิดเห็นที่ 80 หอยทอดคิวยาวที่ร้านหมายเลข 84 ร้านอาหารที่นี่ไม่ได้ตั้งเรียงตามหมายเลข จะเห็นว่ามีร้านหมายเลข 11 ต่อจากร้านหมายเลข 82 จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 15:35:39

ความคิดเห็นที่ 81 ร้านเสียบไม้ยืนกินที่เรียกว่า Lok Lok เป็นของทะเลและลูกชิ้นเสียบไม้ เลือกเสร็จจุ่มในหม้อน้ำเดือดจนสุกตามที่ต้องการ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 15:36:14

ความคิดเห็นที่ 82 จากนั้นจิ้มในน้ำจิ้มที่มีทั้งแบบเผ็ดและไม่เผ็ด ราคาไม้ละ RM 0.70 จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 15:36:44

ความคิดเห็นที่ 83 ร้านขายโรจ๊ากผลไม้ มีซ้อสขายด้วยแต่ไม่ได้ซื้อ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 15:37:20

ความคิดเห็นที่ 84 โต๊ะยังพอมีว่าง วันนี้วันศุกร์สุดสัปดาห์ ต้องรีบสำรวจรีบชิมก่อนคนจะแน่น วันหยุดที่นี่คนแน่นและหาที่จอดรถยากมาก จราจรก็ขยันมาเขียนใบสั่งเสียบหน้ารถ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 15:37:47

ความคิดเห็นที่ 85 ร้านขายปลาหมึกปิ้ง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 15:38:17

ความคิดเห็นที่ 86 โรจ๊ากผลไม้อีกร้าน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 15:38:47

ความคิดเห็นที่ 87 หมึกดองตัวใหญ่แขวนโชว์หน้าร้านหมายเลข 64 จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 15:39:15

ความคิดเห็นที่ 88 ร้านนี้เน้นหอยหนามน่าลอง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 15:39:41

ความคิดเห็นที่ 89 ดูรายการอาหารหน่อย มีแค่ 5 อย่างคือ Pee Tan หรือ Century Egg หรือไข่เยี่ยวม้า คนจีนทั้งในมาเลเซียและสิงคโปร์ชอบทานไข่ชนิดนี้มาก Sotong Kangkong หมึกดองผัดผักบุ้ง  Siput Duri ( Spiky Snail) หอยหนามลวก  Sotong Kurita ลูกหมึกยักษ์ลวก และ Kerang หอยแครงลวก จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 15:40:04

ความคิดเห็นที่ 90 ได้โต๊ะนั่งหน้าร้าน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 15:40:33

ความคิดเห็นที่ 91 สั่งหอยหนามลวก 1 จาน RM 10.00 ให้ไม้จิ้มมาหลายอัน แปลกใจว่าทำไมให้มาหลายอัน แต่สุดท้ายเกือบไม่พอใช้ด้วยซ้ำไป จานนี้มาพร้อมกับถุงพลาสติค 1 ใบให้ใส่เปลือกหอย 1 จานมีประมาณ 40 ตัว มาพร้อมน้ำจิ้ม 2 แบบคือแบบใส่น้ำมะขามเปียกและแบบพริกตำ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 52 15:41:00