ความคิดเห็นที่ 1 ผมซื้อที่ร้านนิตยา บางลำพู อันละ 30 บาท (ถ้าจำไม่ผิด) เวลาอบขนม ก็เรียงขนมในโหล เหลือที่ตรงกลาง ๆ ไว้วางชามเทียนที่จะจุดครับ ถ้ามี ก้านหล็กที่เค้าจุดยากันยุงก็จะยิ่งดีครับ ทำให้วางง่าย จุดง่าย เวลาจุดเทียน ก็จุดเทียนข้างนอกให้แดง ๆ ก่อนนะครับ ค่อยเป่าดับ รอนิด ให้ควันดำ ๆ จากหาย ก็เอาเทียนวางในโหล แล้วรีบปิดฝา อบไว้สัก 20 นาที ก็เริ่มทำใหม่ 2-3 ครั้ง ก็ได้ขนมอบควันเทียนหอมกรุ่นครับ เมื่อวานทำน้ำกะทิ จะอบเหมือนกัน แต่หาแก้วสูง ๆ ที่จะวางในกะทิไม่ได้ จะลอยชามเทียน ก็กลัวพลาด เดี๋ยวจมลงไป เสียดายน้ำกะทิ เลยไม่ได้ อบควันเทียน ก็พอกล้อมแกล้มไปกับกลิ่นใบเตยสด ผสมผงกลิ่นวานิลา ก็หอมไปอีกแบบครับ อิอิ จากคุณ : sakchai splash เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 15:44:55

ความคิดเห็นที่ 2 น่าสงสารน้องลำดวนจัง ไม่หอมเลย จากคุณ : จินนี่แฟง เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 15:45:05

ความคิดเห็นที่ 3 ของเราอ่ะ ใช้เทียนไหว้พระเลยอ่ะ ตอนนั้นเราไม่รู้ว่ามีเทียนสำหรับอบโดยเฉพาะเลยเอาเทียนไหว้พระใช้ไง เวลาดับปุ๊บยังมีควันขึ้นอยู่นิดหน่อย ก็รีบใส่ตอนควันยังไม่จาง แล้วปิดฝาเลย เราว่ากลิ่นก็หอมติดดีอยู่นะ ใช้ได้เลยอ่ะ นี่ก็ว่าจะทำอีกเหมือนกัน จากคุณ : Rita_Bunny เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 16:21:34

ความคิดเห็นที่ 4 กลิ่นในเทียนไหว้พระ น่าจะเปนกลิ่นสังเคราะห์ ที่ไม่ได้ผลิตสำหรับอาหาร น่าจะมีผลเสียกับร่างกายไม่มากก็น้อยค่ะ ไม่ควรใช้ และ ไม่ควรแนะนำให้ผู้อื่นใช้อีกเช่นกันนะคะ จขกท.คะ เราได้บอกคุณแล้ว ในกระทู้ก่อนว่า ขนมชนิดนี้เรียกว่า ขนม"ดอกลำดวน" ไม่ใช่ ขนมกลีบลำดวน นะคะ เพราะขนมมี ๓ กลีบ รวมเปน ๑ ดอก ถ้าจะเรียกว่า กลีบลำดวนละก้อ ผู้ใหญ่ท่านบอกว่า คงต้องมีแค่กลีบเดียวเท่านั้น ถ้าเรารักที่จะทำขนม ไม่ว่าจะขนมไทย ขนมฝรั่ง ก็ควรจะเรียกชื่อ+เรียนรู้สิ่งที่ถูกต้องด้วยนะคะ ไม่ใช่เขาเรียกผิดมา ก็จะผิดตามไป ไม่ว่าใครจะมาบอกยังไงก็ตาม ถ้าอย่างนั้น ขนมไทยก็จะผิดเพี้ยนไปเรื่อยๆ จนหารากเหง้าไม่เจอค่ะ แค่ขนม"ดอกลำดวน" ใส่สี มี ๔ กลีบ คุณย่าคุณยายก็ตบอบกันผางๆ ว่า ดู๊..ดู..คนสมัยนี้ ไม่รู้แล้วยังอุตริทำอีก !! เรื่องเทียนอบ search ในคลังกระทู้เก่านะคะ มีเพื่อนๆช่วยกันตอบเก็บไว้หลายกระทู้แล้วค่ะ คุณsakchai splash คะ ลองหา "ตะคัน" ไว้ใช้อบเทียนในน้ำกะทิดูนะคะ ที่บางลำพูก็มีค่ะ พวกร้านสังฆภัณฑ์ที่ขายเทียนอบด้วยจะมีขายค่ะ จากคุณ : ราตรีสีนวล เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 21:18:29

ความคิดเห็นที่ 5 เข้ามาชมผลงาน จขกท และให้กำลังใจค่ะ ขนมหน้าตาดูดีแล้วนะคะ ฝึกอีกหน่อยก็มืออาชีพแล้วค่ะ จากคุณ : ศศิลักษณา เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 00:26:03

ความคิดเห็นที่ 6 แวะเข้ามาของคุณ คณราตรีสีนวลครับ ปกติชอบทำอาหารคาวครับ ไม่เคยคิดจะทำขนมเลย โดยเฉพาะขนมไทย เลยไม่ได้ร่ำเรียนจาก ที่ไหน อาศัยครูพักลักจำเอาจากห้องก้นครัว และจากอากู๋ อาศัยว่า มีพื้นการทำอาหาร พอมาจับมันก็ไม่ได้ยาก แต่จะทำให้อร่อยนี่ซิครับ ยากพอสมควรเลย เพราะเค้าไม่ได้บอกเคล็ดลับและเทคนิดเล็ก ๆ น้อย ๆ เอาไว้ให้เราด้วย  ตอนนี้ชักสนุกขึ้น เพราะได้ลงมือทำนี่แหละ สงสัยว่าอาจจะต้องรบกวนขอเคล็ดลับต่าง ๆ จากคุณบ้างแล้วครับ จากคุณ : sakchai splash เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 01:08:44

ความคิดเห็นที่ 7 เอ่อ เทียนไหว้พระเนี่ย มันไม่ได้มีกลิ่นนะ แค่ตอนดับเทียนแล้วมันจะมีควันขึ้นมา แล้วมันจะมีกลิ่นเทียนแค่นั้นอ่ะ เทียนไหว้พระสีขาวๆ หรือเหลืองธรรมดาแค่นั้นแหล่ะ ไม่ใช่เทียนหอมที่ผสมกลิ่นน้ำหอมนะ เราเห็นว่าในเทียนไหว้พระก็ใส่พาราฟีนเป็นส่วนผสมหลัก เทียนอบขนมก็ใส่พาราฟีนเหมือนกัน ก็ไม่ได้คิดว่าเป็นอันตราย คิดว่าคงพอจะแทนกันได้ ก็ขอบคุณสำหรับความรู้ก็แล้วกัน จากคุณ : Rita_Bunny เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 02:51:36

ความคิดเห็นที่ 8 ได้เรยค่ะ คุณsakchai splash เราเองก็ไม่เก่งเท่าไร เพียงแต่มีโอกาสได้อยู่ใกล้ๆ ได้เจอผู้หลักผู้ใหญ่ที่ท่านเก่งๆเรื่องอาหารกัน ก็เก็บเล็กผสมน้อยจากการฟังท่านคุยกัน มีอะไรสงสัยก็ไปถามท่านว่า ถูกต้องหรือไม่ ต้องเปนอย่างไรอีกทีอ่ะค่ะ ก็ไม่อยากเก็บความรู้ไว้กับตัวคนเดียว มีอะไรก็แบ่งบันกัน แต่อย่างว่า อยู่กับผู้ใหญ่ท่านมากไปหน่อย เจอท่านตบอบผางๆ กันมาหลายหน ก็ชักติดมาค่ะ เจออะไรที่ไม่ถูกต้อง เริ่มผิดๆเพี้ยนๆก็ทนไม่ได้ค่ะ กลัวของดั้งเดิม ถูกต้องจะสูญหายไปหมดนะคะ คุณRita_Bunny คะ เทียนอบขนมจะปรุงกลิ่นด้วยกำยานและเครื่องหอมจากสมุนไพรเปนหลัก ถึงทำให้หอมค่ะ เมื่อก่อนใช้ขี้ผึ้งแท้ เปนตัวเก็บกักกลิ่นไว้ ตอนนี้บางเจ้าใช้พาราฟินผสม เพื่อลดต้นทุน และให้เทียนอยู่ตัวมากขึ้น แต่พาราฟิน ทำจาก ปิโตรเลียม ค่ะ ยังไงก็ไม่เหมาะกับอาหารอยู่ดีนะคะ จากคุณ : ราตรีสีนวล เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 15:36:00