ความคิดเห็นที่ 1 เจ้าของร้าน คือ เด็กหนุ่มผมยาว เซอร์ๆคนนี้ครับ ได้คุยกับน้องเค้าด้วย เพราะแวะไปกินหลายครั้ง  เค้าเล่าว่า ร้านเค้า คุณมดดำ พิธีกรชื่อดัง เคยถ่ายไปออกทีวีด้วย และพี่มดดำ (สรรพนามที่น้องเค้าเรียก) มากินร้านเค้าถึงสามวันติดๆกัน   ไม่รู้ติดใจราเมน หรือคนขายก็ไม่รู้แฮะ อิอิ จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 15:57:45

ความคิดเห็นที่ 2 ราเมนร้านนี้มาีให้เลือกสามเส้นสามแบบ คือ เส้นอุด้ง เส้นราเมน และเส้นโซบะ ครับ  ส่วนน้ำซุปมีให้เลือกครบทั้ง โชยุ ต้มยำ มิโซะ เกลือ ฯลฯ สนนราคาก็แพงกว่าสตรีทฟู้ดทั่วไปหน่อย คือ ประมาณ 39-50 บาทครับ จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 15:59:41

ความคิดเห็นที่ 3 เท่าที่คุย ให้เค้าแนะนำมา ราเมนที่ขึ้นชื่อ (และเป็นที่โปรดปรานของคุณมดดำเป็นพิเศษ) ได้แก่ ราเมนสุกี้แห้ง และราเมนต้มยำครับ  แต่ผมเป็นคนชอบกินสุกี้ แน่นอน คงไม่สั่งราเมนต้มยำแน่ๆ อิอิ จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 16:00:06

ความคิดเห็นที่ 4 ราเมนสุกี้ รสชาติจะเผ็ดหน่อย แต่อร่อยมากครับ แปลกดีด้วยไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 16:01:19

ความคิดเห็นที่ 5 หรือถ้าชอบกินเส้นโซบะ ซึ่งของทางร้านเป็นเส้นโฮลวีตก็เพิ่มอีก 5 บาท เป็น 50 บาทถ้วนครับ  แต่เส้นโซบะอร่อยกว่านะ   รสชาติอาจจะเผ็ดนิดนึง แต่อร่อยอะ ไม่เคยกินที่ไหนมาก่อน จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 16:01:56

ความคิดเห็นที่ 6 ส่วนเพื่อนผมเลือกกิน อุด้งน้ำซุปมิโซะครับ แก้ไขเมื่อ 08 ม.ค. 53 16:11:43 จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 16:02:28

ความคิดเห็นที่ 7 รสชาติต้องบอกว่าโดนอีกเช่นกันครับ น้ำซุปหอมงามากๆครับ  อร่อยเลยล่ะ เท่า ที่คุยน้องเค้าว่า พ่อเค้าเคยเป็นพ่อครัวร้านราเมนที่ญี่ปุ่นมาก่อนเลยได้สูตรมาครับ ใครไปเชียงใหม่ลองไปอุดหนุนร้านเค้าดู เปิดเย็นๆนะครับ น่าจะประมาณ 5 โมงเย็นก็เปิดละ จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 16:03:04

ความคิดเห็นที่ 8 ไปกินซ้ำมาสามวันครับ เลยมีให้ดูหลายรูปหน่อย อันนี้จำไม่ได้ว่ารสอะไร แต่เป็นน้ำซุปมิโซะครับ เพื่อนผม (ผู้หญิง) ที่ไปด้วยบอกปีหน้า (หมายถึงปีนี้แหละ แต่ปลายปี) จะไปกินร้านนี้อีก ไม่รู้มันติดใจคนขายเหมือนพี่มดดำหรือเปล่านะเนี่ย อิอิ จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 16:03:35

ความคิดเห็นที่ 9 อันนี้เป็นเส้นราเมง น้ำซุปมิโซะเหมือนกัน จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 16:04:12

ความคิดเห็นที่ 10 ปิดท้าย ราเมนยะ ด้วย อุด้งราดแกงกะหรี่ แล้วกันครับ  ชิมแล้วมันก็โอเคนะ แต่ผมชอบราเมนสุกี้ กับ มิโซะมากกว่าครับ อ้อ ร้านนี้เค้ามีขายข้าวราดแกงกะหรี่ด้วยนะครับ จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 16:12:20

ความคิดเห็นที่ 11 อ้อ ใกล้ๆกันที่หลังมอ  ยังมีอีกร้านรถเข็นที่อยากจะแนะนำครับ ไก่เทริยากิ นั่นเอง จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 16:12:50

ความคิดเห็นที่ 12 ไม้ละ 10 บาทครับ ไม้เบ้อเริ่มเลย เห็นเป็นร้านรถเข็นแบบนี้ แต่รสชาติเทพมากครับ คอนเฟิร์มเลย... จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 16:13:21

ความคิดเห็นที่ 13 จะกินให้อร่อย ต้องราดมายองเนสครับ... เอาไก่ KFC มาแลกก็ไม่ยอมนะครับเนี่ย อิอิ จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 16:13:42

ความคิดเห็นที่ 14 อีกร้านที่เห็นกันได้ง่ายๆที่เชียงใหม่  ไมโลดิบ ครับ จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 16:14:23

ความคิดเห็นที่ 15 ก็อร่อยดีครับ แต่หวานแหลมไปหน่อย กินบ่อยๆคงเลี่ยนเหมือนกัน จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 16:14:52

ความคิดเห็นที่ 16 แถมอีกรูป ข้าวไข่เจียวหลังมอ ดูวิธีการทำแล้วน่ากินชะมัดเลยครับ อิอิ จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 16:15:46

ความคิดเห็นที่ 17 มาต่อร้านที่สองกันครับ  ร้านดังแห่งเมืองเชียงใหม่ โจ๊กสมเพชร นั่นเอง จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 16:16:11

ความคิดเห็นที่ 18 ร้านโจ๊กสมเพชร เชียงใหม่ (Som-phetch gruel, Chiang Mai) ที่ตั้ง : 51 ถ. ศรีภูมิ ต. ศรีภูมิ อ. เมือง จ. เชียงใหม่ เบอร์โทรศัพท์ : 0 5321 0649 เปิดบริการ 24 ชั่วโมงครับ มาแล้วครับ โจ๊กร้อนๆชามนี้ของเพื่อนผมเอง จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 16:16:32

ความคิดเห็นที่ 19 แต่แปลกแฮะ ผมมาร้านนี้ทีไร ไม่ค่อยกินโจ๊กครับ  ชอบกินจานนี้มากกว่า ข้าวไก่อบ ครับ  ไก่เนื้อเป้งๆ น้ำซอสที่ราดอร่อยดีครับ ซักจานมั้ยครับ แฮ่ม... จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 16:16:52

ความคิดเห็นที่ 20 พากินไปหลายแห่งแล้ว พาเที่ยวบ้างดีกว่าครับ ที่ แรกที่จะพาไปเลย คือ วัดเชียงมั่น ใกล้กับ โจ๊กสมเพชร นิดเดียวเอง  ปกติผมก็ชอบไปจอดรถที่วัดเวลามากินโจ๊กเจ้าดังเจ้านี้ล่ะครับ เพราะถนนหาที่จอดยากนิดหนึ่งเลยมาจอดเอาที่วัดเนี่ยแหละครับ จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 16:17:20

ความคิดเห็นที่ 21 วัดเชียงมั่น อยู่ถนนราชภาคินัย อำเภอเมือง เป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในตัวเมืองเชียงใหม่ เมื่อพญามังรายสร้างเมืองเชียงใหม่เมื่อ พ.ศ. ๑๘๓๙ พระองค์ทรงยกพระตำหนักเชียงมั่น ถวายเป็นพระอารามให้ชื่อว่า วัดเชียงมั่น จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 16:17:47

ความคิดเห็นที่ 22 วัดนี้เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสำคัญของเชียงใหม่ "พระเสตังคมณี" หรือ "พระแก้วขาว" ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของประชาชนชาวเชียงใหม่ สถาปัตยกรรมสำคัญ ได้แก่ พระอุโบสถ หอไตร และที่สำคัญคือ เจดีย์ทรงระฆังฐานสี่เหลี่ยมและมีช้างล้อมที่ฐานหมายความว่าค้ำจุนพระพุทธ ศาสนาไว้ จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 16:18:39

ความคิดเห็นที่ 23 วัดแห่งนี้ มีสถาปัตยกรรมที่สวยงามมากๆ ท่านใดแวะมาเที่ยวเชียงใหม่ อย่าลืมไปเที่ยวชมนะครับ จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 16:19:00

ความคิดเห็นที่ 24 เปลี่ยนบรรยากาศไปดูดอกไม้กันบ้างนะครับ ใครไปเที่ยวเชียงใหม่ในฤดูหนาวแบบนี้ จะเห็นป้ายเชิญชวนให้ไปเที่ยวงานทิวลิป บริเวณตรงข้ามสนามกีฬา 700 ปี กันทั่วเมืองเลยทีเดียว ชวนกันแบบนี้จะไม่ไปได้ไงล่ะครับ... จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 16:19:27

ความคิดเห็นที่ 25 ภายในงานก็มีดอกทิวลิปให้ชมมากมายครับ จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 16:20:27

ความคิดเห็นที่ 26 เรียกว่าใครชอบดอกทิวลิปก็มีให้ชมอย่างจุใจทีเดียว จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 16:21:17

ความคิดเห็นที่ 27 โดยเฉพาะสาวๆที่ชอบดอกไม้ ไปงานนี้น่าจะไม่ผิดหวังครับ จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 16:21:51

ความคิดเห็นที่ 28 ส่วนผมหัวเดียวกระเทียมลีบ ไม่มีสาวข้างกาย เลยก้มหน้าก้มตา ถ่ายแต่ดอกไม้อย่างเดียวครับ อิอิ จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 16:22:20

ความคิดเห็นที่ 29 ถ้าถ่ายดอกไม้ออกมาไม่สวยก็ขออภัยครับ  จริงๆดอกเค้าสวย แต่ฝีมือการถ่ายรูปผมอาจไม่ค่อยดี เอ๊ะ หรือไม่รู้เพราะไม่มีสาวๆสวยๆมาประกบกับดอกไม้ไม่รู้ อารมณ์ในการถ่ายภาพเลยไม่บรรเจิด (ถ่ายไม่สวยก็โทษไปเรื่อย อิอิ) จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 16:22:58

ความคิดเห็นที่ 30 บรรยายแล้วชักออกทะเล ชมแต่รูปดีกว่าละกันครับ จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 16:23:26

ความคิดเห็นที่ 31 ลงแต่รูปดอกไม้เยอะๆแบบนี้ ชักสับสน นี่ห้องก้นครัว หรือห้องสวนครัวกันแน่เนี่ย อิอิ จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 16:24:03

ความคิดเห็นที่ 32 เบื่อดอกไม้กันหรือยังครับเนี่ย... จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 16:24:26

ความคิดเห็นที่ 33 อย่าเพิ่งเบื่อเลยครับ ถ่ายมาเยอะ จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 16:24:51

ความคิดเห็นที่ 34 ความคิดเห็นที่ 32 [ถูกใจ] [แจ้งลบ]   ขึ้นชื่อตอนว่าขุนช่างเคี่ยน ที่ขึ้นชื่อเรื่องดอกพญาเสือโคร่ง แต่กระทู้นี้มีแต่ทิวลิป อิอิ จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 16:25:17

ความคิดเห็นที่ 35 อะไรนะครับ เบื่อทิวลิปแล้วเหรอครับ อย่าเพิ่งเบื่อนะครับ มีให้ดูอีกไม่กี่รูปละ จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 16:25:46

ความคิดเห็นที่ 36 เอ๊ะหรือว่าเบื่อเจ้าของกระทู้ พล่ามอยู่นั่นแหละ ยังไม่ไปขุนช่างเคี่ยน เสียที อิอิ จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 16:26:34

ความคิดเห็นที่ 37 จะหมดแล้วครับ อีกไม่กี่รูปเอง จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 16:26:55

ความคิดเห็นที่ 38 ใครที่จะไปเชียงใหม่ช่วงนี้ไม่แน่ใจงานมีึถึงวันไหน หากมีชาวเชียงใหม่หลงมาชม ก็ให้ข้อมูลด้วยก็ดีนะครับ จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 16:27:20

ความคิดเห็นที่ 39 อันนี้ดอกอะไรหว่า ใช่กล้วยไม้ไหมครับเนี่ย... จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 16:27:46

ความคิดเห็นที่ 40 อีกสักรูป จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 16:28:18

ความคิดเห็นที่ 41 ปิดท้ายดอกไม้ด้วยรูปนี้แล้วกันครับ จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 16:28:47

ความคิดเห็นที่ 42 ดูดอกไม้เบื่อหรือยังครับ ถ้าเบื่อเปลี่ยนบรรยากาศไปเที่ยววัดดีกว่าครับ วัดอุโมงค์ ครับ จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 16:29:15

ความคิดเห็นที่ 43 วัดดอุโมงค์ และสวนพุทธธรรม สองชื่อนี้เป็นชื่อที่ใช้เรียกสถานที่ส่งเสริมการปฏิบัติธรรม ของพุทธนิคม เชียงใหม่แห่งเดียวกัน แต่มีความหมายต่างกัน วัดอุโมงค์(อุโมงค์เถร จันทร์) เป็นชื่อเรียกวัดเก่าที่ "พระเจ้ากือนาธรรมิกราช" ทรงสร้างอุโมงค์ขึ้นเพื่อถวายเพื่อให้พระมหาเถรจันทร์ ผู้เชี่ยวชาญในพระไตรปิฏกอาศัย วัดอุโมงค์นี้หมายเอาเฉพาะบริเวณ พื้นที่สามเหลี่ยมผืนผ้า ซึ่งมีกำแพงอิฐปรากฏอยู่ทั้งสี่ด้าน ด้านตะวันออกจากขอบสระใหญ่ ด้านเหนือตรงไปทางทิศเหนือโรงพิมพ์ปัจจุบันจรด กำแพงอิฐพอดี ยาวประมาณ 100 วา ด้านเหนือจากแนวกำแพงเหนือโรงพิมพ์ปัจจุบันทางทิศตะวันตก จนถึงขอบสระหลังวัดอุโมงค์ ยาวประมาณ 100 วา, ด้านตะวันตกจากขอบ สระแนวกำแพงด้านเหนือ ถึงขอบสระใหญ่ใต้พระเจดีย์ ยาวประมาณ 100 วา, ด้านใต้จากขอบสระหลังพระเจดีย์ตรงไปทางตะวันตกออกจรดกำแพงทิศตะวันออกหน้า พระอุโบสถ ยาวประมาณ 100 วา มีพระอุโบสถขนาดย่อมตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ มีพระเจดีย์ใหญ่แบบลังกาวงศ์ และอุโมงค์(ถ้ำ) 1 อุโมงค์ มีทางเข้า 3 ทาง ตั้งอยู่ตลอดแนววัดด้านตะวันตก และมีศาลาตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือจากหน้าอุโมงค์ไปประมาณ 1 เส้น คิดเป็นเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 25 ไร่ http://www.watumong.org/history/ จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 16:29:38

ความคิดเห็นที่ 44 สวนพุทธธรรม เป็นชื่อใหม่ที่ ภิกขุ ปัญญานันทะ ประธานวัดอุโมงค์ ในสมัยนั้น (2492-2509) ตั้งขึ้นเรียกสถานที่ป่าผืนใหญ่ที่ปกคลุมวัดร้างโบราณ ซึ่งมีทั้งหมดประมาณ 150 ไร่ ที่พุทธนิคมเชียงใหม่จัดขึ้นเป็นที่อยู่ของภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา ผู้แสวงหาความสงบ พื้นที่ซึ่งเรียกว่า สวนพุทธธรรมนี้กว้างมาก รวมเอาวัดไผ่11กอ (เวฬุกัฏฐาราม ซึ่งพระเจ้ามังรายมหาราชทรงสร้างไว้ถวายเป็นที่พำนักของพระมหากัสสปะเถระ ชาวลังกา ซึ่งเข้ามาเผยแพร่ศาสนาในสมัยนั้น) วัดอุโมงค์เถรจันทร์ และวัดอื่นๆ (ที่อยู่ใกล้วัดอุโมงค์ทั้ง 4 ด้าน) อีก 4 วัดเอาไว้ด้วยทั้งหมด จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 16:30:19

ความคิดเห็นที่ 45 ธรรมมะดีๆสอนใจที่มีให้อ่านทั่ววัดครับ... จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 16:30:39

ความคิดเห็นที่ 46 ทางเข้าอุโมงค์ จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 16:32:04

ความคิดเห็นที่ 47 ภายในอุโมงค์ครับ จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 16:41:38

ความคิดเห็นที่ 48 ท่านใดสนใจไปเที่ยวชมวัดอุโมงค์ ลองดูแผนที่ในลิงค์นี้ได้เลยครับ http://www.watumong.org/maps/ จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 16:43:05

ความคิดเห็นที่ 49 เปลี่ยนบรรยากาศกลับมาที่แหล่งกินอีกที่ ที่อยากจะแนะนำครับ ในห้องนี้มีใครชอบกินขนมจีนยกมือขึ้น... ใช่แล้วจะพาไปแนะนำร้านขนมจีนแบบบุ๊ฟเฟ่ต์ เจ้าดังเมืองเชียงใหม่กันครับ ขนมจีนบ้่านไทยร่มเย็น จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 16:45:49

ความคิดเห็นที่ 50 ขนมจีนร้านนี้มีหลายสาขานะครับ อีกสาขาที่เคยไปชิม คือ สาขาเจ็ดยอด  ผมไปทั้งสองแห่งครับ เลยเอารูปและข้อมูลมาฝากทั้งสองแห่งเลย เริ่มจากที่นีก่อนครับ ขนมจีนบ้านไทยร่มเย็น   ร้าน ขนมจีนบ้าน ไทยร่มเย็น เปิดขายทุกวันแต่ไม่นานมากนัก คือตั้งแต่เวลาสิบโมงครึ่งไปจนถึงประมาณบ่ายสามโมงเท่านั้น ทั้งร้านรับลูกค้าได้ราว ๑๒๐ ที่ หาไม่ยากอยู่ถนนแก้วนวรัฐ ซอย ๓ ตำบลวัดเกต ในตัวเมืองเชียงใหม่ สังเกตง่ายๆ ตรงข้ามโรงเรียนปรินส์ฯ โทรศัพท์สอบถามก่อนที่เบอร์ ๐๘๑-๕๘๔-๓๖๗๙ และ ๐๘๐-๗๑๖-๖๙๓๗ จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 16:46:26

ความคิดเห็นที่ 51 ร้านขนมจีนบุฟเฟ่ต์ที่คุณจะได้อิ่มอร่อยเพียง 59 บาทต่อท่าน เพียงคุณรับจานแล้วชำระเงิน คุณก็สามารถเลือกทานได้เต็มอิ่มแบบไม่อั้น   ด้วย เมนูขนมจีนสี่ภาค 8 น้ำแกง...สูตรพิเศษของทางร้านและขนมจีนซาวน้ำ หาทานยาก, อาหารพิเศษอื่นๆ หลายรายการ, ผักสมุนไพรทอดกรอบ...ข้าวมันส้มตำและขนมหวาน น้ำดื่ม ฟรีทุกรายการ จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 16:46:46

ความคิดเห็นที่ 52 อาหารทั้งหมดที่ทางร้านจัดเตรียมไว้ให้ท่าน ได้แก่ น้ำแกง 8 อย่าง -          น้ำเงี้ยว -          แกงเผ็ดไก่ -          แกงเขียวหวานหมู -          น้ำยากะทิ -          น้ำยาป่า -          น้ำพริก -          แกงไตปลา -          ขนมจีนซาวน้ำ ทานเล่น -          แกงโฮะ -          ขนมจีนผัดหมี่ -          ยำผักกาดดอง -          ข้าวสวย, ข้าวมัน – ส้มตำ -          ผักสมุนไพรทอดกรอบ ขนมหวาน -          เฉาก๊วยโบราณ -          ลอดช่องแตงไทย น้ำกะทิ สูตรน้ำตาลเมืองเพชร หอม หวาน http://www.doochiangmai.com/chiangmai-restaurant-detail.php?id=1240907988777 จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 16:47:08

ความคิดเห็นที่ 53 พระเอกของร้านที่เป็นตัวชูโรงก็คือขนมจีนซาวน้ำซึ่งเป็นขนมจีนที่หาทานได้ยาก ที่นี่มีพร้อมให้ท่านได้ลิ้มรสกัน จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 16:47:43

ความคิดเห็นที่ 54 ส่วนนางเอกของร้านก็คือ ผักสมุนไพรทอดกรอบ หลายๆคนที่มาทานที่นี่ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "อร่อยจริงๆ" ในภาพเป็น ส้มตำทอด ครับ จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 16:48:05

ความคิดเห็นที่ 55 ผมชอบเอา ส้มตำ มาราดหน้า ส้มตำทอด ครับ กรุบกรอบๆ เปรี้ยวๆ หวานๆ  โอ๊ย แค่คิดก็รู้ว่าต้อง ลำจ๊าดนัก แล้วครับ จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 16:48:27

ความคิดเห็นที่ 56 เครื่องเคียงขนมจีน จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 16:49:47

ความคิดเห็นที่ 57 ขนมหวานก็มีให้ชิม จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 16:50:40

ความคิดเห็นที่ 58 ขนมจีนร้อนๆ สักชามไหมครับ แฮ่ม... จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 16:51:11

ความคิดเห็นที่ 59 บรรยากาศที่สาขาเจ็ดยอด ขนมจีนบ้านเจ็ดยอด ผมเอารูปมาผสมกันนะครับ ไปชิมได้ทั้งสองสาขาเลย รับรองว่า ลำจ๊าดนัก ครับ จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 16:51:38

ความคิดเห็นที่ 60 ไปไม่ถูก โทรไปถามเบอร์ตามรูปนี้เลยครับ จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 16:52:09

ความคิดเห็นที่ 61 ก่อนจะไปขุนช่างเคี่ยน ขอเปลี่ยนบรรยากาศมารีวิวที่พักกันบ้าง  อันนี้เป็นที่พักที่เพื่อนผมจองไปครับ ลานนาเฮ้าส์ จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 16:53:19

ความคิดเห็นที่ 62 ทำเลที่พักของที่นี่ แทบจะอยู่ติดกับประตูท่าแพเลยครับ  ใกล้กับถนนคนเดินมากๆ จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 16:54:01

ความคิดเห็นที่ 63 สนนราคาค่าห้องพัก 800 บาท ห้องแอร์ รวมอาหารเช้าครับ จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 16:54:34

ความคิดเห็นที่ 64 ถ้าสนใจก็ลองเอาชื่อไปเสิร์ชกูเกิลดูครับ  ที่นี่โอเคทุกอย่าง เสียอย่างเดียวไม่มีที่จอดรถครับ จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 16:55:48

ความคิดเห็นที่ 65 ต่อครับ เดี๋ยวเรากำลังจะเข้าเรื่องตามชื่อตอนแล้วนะครับ ขุนช่างเคี่ยน ที่เราจะไปดูดอกนางพญาเสือโคร่ง หรือซากุระเมืองไทยนั่นเองครับ... จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 16:58:15

ความคิดเห็นที่ 66 นางพญาเสือโคร่ง เรียกกันว่า ซากุระเมืองไทย เป็นไม้สกุล บ้วยท้อ ซากุระ จึงได้ชื่อว่า ซากุระเมืองไทย พบทั่วไปบนดอยสูง เช่น ดอยแม่สะลอง จังหวัดเชียงราย ดอยเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่ จึงเป็นดอกไม้ประจำอำเภอเวียงแหง ลักษณะการชม ก็จะไปชมไกล ๆ แบบทัศนียภาพให้เห็นเกลื่อนไป ทั้งดอย ออกดอกช่วงเดือนกุมภาพันธ์ จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 16:59:03

ความคิดเห็นที่ 67 * ชื่อพันธุ์ไม้ : นางพญาเสือโคร่ง   * ชื่อสามัญ (ไทย) : ฉวีวรรณ (ภาคเหนือ) เส่คาแว่ เส่แผ่ แส่ลาแหล (กะเหรี่ยง เชียงใหม่) ซากุระดอย (เชียงใหม่)   * ชื่อสามัญ (อังกฤษ) : -   * ชื่อวิทยาศาสตร์ : Prunus cerasoides D.Don   * ชื่อวงศ์ : Rosaceae   * ชื่อพื้นเมืองอื่นๆ: ชมพูภูพิงค์   * การกระจายพันธุ์ตามธรรมชาติ จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 16:59:23

ความคิดเห็นที่ 68 นางพญาเสือโคร่ง เป็นพรรณไม้ที่มีการกระจายพันธุ์ตามธรรมชาติอยู่ทางตอนใต้ของประเทศจีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน พบอยู่กในป่าที่ระดับความสูง 500-1,500 เมตร จากระดับน้ำทะเลในประเทศไทย พบขึ้นตามภูเขาที่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,00-2,000 เมตร เช่น บนดอยอินทนนท์ ดอยเชียงดาว ฯลฯ จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 16:59:49

ความคิดเห็นที่ 69 * ลักษณะทางวัฒวิทยา : นางพญาเสือโคร่งเป็น ไม้ยืนต้นผลัดใบ ขนาดเล็ก มีความสูงประมาณ 10-15 เมตร ใบ เป็นชนิดใบเดี่ยว ลักษณะรูปรีแบบไข่ หรือไข่กลับ ออกสลับกัน ใบมีความกว้าง 3-5 เซนติเมตร ยาว 5 -12 เซนติเมตร ปลายใบเรียวแหลม โคนใบกลมหรือสอบแคบ ขอบจักปลายก้านใบมีต่อม 2-4 ต่อม หูใบแตกแขนงคล้ายเขากวาง ใบร่วงง่าย ดอก สีขาว ชมพู หรือดง ออกเป็นช่อกระจุกใกล้ปลายกิ่ง ก้านดอกยาว 0.7-2 เซนติเมตร ขอบริ้วประดับจักไม่เป็นระเบียบ กลีบเลี้ยงติดกันเป็นรูปกรวย กลีบดอกมี 5 กลีบ เมื่อบานขนาดโตเส้นผ่าศูนย์กลาง 1-2 เซนติเมตร ผล รูปไข่หรือกลม ยาว 1-1.5 ฌวนติเมตร เมื่อสุกสีแดง ระยะเวลาออกดอก ออกดอระหว่างดือนธันวาคมจนถึงกุมภาพันธ์ โดยจะทิ้งใบก่อนออกดอก จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 17:00:10

ความคิดเห็นที่ 70 * การขยายพันธุ์ : ขยายพันธุ์โดยเมล็ด   * การปลูก การเจริญเติบโตและการปรับปรุงพันธุ์ : ได้มีการปลูกนางพญาเสือโคร่งบนพื้นที่ต้นน้ำลำธารมาเป็นเวลา 10 ปี แล้วปรากฏว่าได้ผลดี เป็นไม้ที่มีความเหมาะสมในการที่จะขึ้นอยู่ในพื้นที่ผ่านการทำไร่เลื่อนลอย บนพื้นที่สูงแต่ไม่ควรปลูกบนพื้นที่ซึ่งมีลมพัดจะทำให้กิ่งก้านหักได้ง่าย   * วนวัฒนวิธีและการจัดการ : ยังไม่มีการศึกษาเกี่ยวกับวนวัฒนวิธีและการจัดการที่เหมาะสม   * การใช้ประโยชน์ : ผลของพญาเสือโคร่งสามารถนำมารับประทานได้ มีรสเปรี้ยว ส่วนเนื้อไม้และการใช้ประโยชน์ ด้านอื่นยังไม่มีการบันทึกข้อมูลไว้ นอกจากการนำมาปลูกเป็นไม้ประดับ เนื่องจากมีดอกสวยงาม ข้อมูลจากวิกิพีเดีย ครับ จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 17:00:40

ความคิดเห็นที่ 71 จุดที่เราไปชม ดอกนางพญาเสือโคร่ง คือ ขุนช่างเคี่ยน จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 17:02:05

ความคิดเห็นที่ 72 ขุนช่างเคี่ยน  ตั้งอยู่ในพื้นที่ดอยสุเทพใกล้ตัวเมืองเชียงใหม่นี่เอง  การเดินทางก็ไปไม่ยากกว่าที่คิด  มีถนนลาดยางไปถึง แต่เป็นถนนแคบๆ อยู่บนดอย จนต้องคอยระมัดระวังรถที่สวนทางเข้ามา จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 17:02:57

ความคิดเห็นที่ 73 เส้นทางไปขุนช่างเคี่ยน ต้องบอกว่า ถนนแคบมากๆทีเีดียว  ต้องขับขี่กันด้วยความระมัดระวังสูงครับ แต่ได้มาเห็นดอกสวยๆแบบนี้ก็คุ้มละครับ จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 17:04:19

ความคิดเห็นที่ 74 เห็นดอกไม้สวยๆแล้วรู้สึกว่า โลกนี้เป็นสีชมพูไปหมดจริงๆ อิอิ จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 17:04:42

ความคิดเห็นที่ 75 ถนนหนทางขึ้นดอยสุเทพ จัดว่าดีมากๆ แม้ว่าจะเป็นช่วงที่มีรถราคับคั่งก็ตามที จุดที่รถจะติดกันก็เป็นบริเวณอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย เชิงทางขึ้นไปพระธาตุดอยสุเทพ และพระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ เมื่อสุดทางที่พระตำหนักแล้ว ถนนก็เริ่มแคบลง คดเคี้ยวไปท่ามกลางป่าสน จนกระทั่งมาถึงทางซ้ายลงไปยังหมู่บ้านม้งดอยปุย ก็มีป้ายบอกทางไปจุดกางเต็นท์ดอยปุย  4 กม. และบ้านขุนช่างเคี่ยน 7 กม. เราก็เลี้ยวขวาไปยังเป้าหมายที่ขุนช่างเคี่ยน จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 17:05:19

ความคิดเห็นที่ 76 ถนนที่มุ่งหน้าไปยังขุนช่างเคี่ยน  คดเคี้ยวไปท่ามกลางแนวป่า หากมีรถสวนมาก็หาทางหลบกันเลี่ยง ต้องคอยระวังร่องน้ำด้านซ้ายที่เป็นร่องลึก ยังไงก็ต้องคอยระวังกันมากๆ บีบแตรส่งสัญญาณบอกทางกันในช่วงที่เป็นทางโค้งทางชัน จนกระทั่งมาถึงลานกางเต็นท์ของหน่วยดอยปุย ก็เป็นทำเลที่ดีมาก มีลานกางเต็นท์ มีที่จอดรถ มีห้องน้ำสะอาด มีเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ดอยอำนวยความสะดวกอย่างดีมาก แต่เราได้ผ่านจุดกางเต็นท์นี้ไปก่อน เป้าหมายไปยังเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน ก็พอรู้คร่าวๆว่า มีที่พักและลานกางเต็นท์อยู่ด้วย ถ้ามันเต็มก็ค่อยกลับมาที่หน่วยดอยปุย http://www.moohin.com/trips/chiangmai/khunchangkain/ จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 17:05:51

ความคิดเห็นที่ 77 จะไปกางเต๊นท์ติดต่อเจ้าหน้าที่ได้เลยครับ จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 17:06:20

ความคิดเห็นที่ 78 วิวตัวเมืองเชียงใหม่เมื่อมองจากยอดดอยปุย จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 17:07:35

ความคิดเห็นที่ 79 จากลานกางเต็นท์ดอยปุยไปยังบ้านขุนช่างเคี่ยน ประมาณ  3 กม. แต่หน่วยเกษตรที่สูงจะอยู่ก่อนถึงหมู่บ้านสักกิโลเมตรหนึ่ง ประมาณจากลานกางเต็นท์ดอยปุยไปถึงสถานีวิจัยเกษตรที่สูงขุนข่างเคี่ยนก็ 2 กม. ด้วยเส้นทางที่แคบและคดเคี้ยว เรามองลอดแนวยอดไม้ไปก็จะพบดงสีชมพูของดอกซากุระ ที่กำลังผลิบานเต็มที่ จนกระทั่งเข้าสู่ภายใต้ร่มเงาสีชมพู ที่ปลูกอยู่เต็มสองข้างทาง เรือนยอดไม้ที่เป็นสีชมพูได้โอบคลุมเส้นทางที่คดเคี้ยว รถของเราก็ผ่านลอดไปอย่างสวยงาม จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 17:08:18

ความคิดเห็นที่ 80 การเดินทาง จากเชียงใหม่ ขึ้นดอยสุเทพไปขุนช่างเคี่ยน ผ่านพระตำหนัก แยกขวาที่สามแยกไปหมู่บ้านม้งดอยปุย เลี้ยวไปขุนช่างเคี่ยน สามารถใช้รถปิกอัพ หรือรถเก๋ง รถตู้ก็ได้  ขึ้นอยู่กับความใจถึงของคนขับ   สภาพถนนเป็นทางลาดยาง ไม่ค่อยมีหลุม หรือจะเช่ารถสองแถวที่เชิงดอยสุเทพก็ได้ ถ้าเป็นรถขับเคลื่อนสี่ล้อ ก็สบายใจได้เลย จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 17:09:13

ความคิดเห็นที่ 81 ที่พัก มีจุดกางเต็นท์ที่หน่วยยอดดอยปุย อยู่ก่อนถึงสถานีเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน 2 กม. หรือไปพักที่สถานีเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน มีบ้านให้พัก และมีจุดกางเต็นท์ ติดต่อที่ ศูนย์วิจัยและอบรมที่สูง คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 50200 โทร.0-5394-4052 จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 17:10:07

ความคิดเห็นที่ 82 ราเมนสุกี้ ไก่เทริยากิราดมายองเนส ข้าวไก่อบ ขนมจีนบ้่านไทยร่มเย็น น่าทานมากๆ ครับ ขึ้นไปเชียงใหม่คราวหน้า ต้องขอไปชิมบ้างแล้ว ^^ จากคุณ : P.S. i love you เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 17:10:18

ความคิดเห็นที่ 83 อาหาร ควรเตรียมไปเอง หรือจะให้ทางสถานีฯ ขุนช่างเคี่ยน จัดให้ กรุณาติดต่อที่ ศูนย์วิจัยและอบรมที่สูง คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โทร.0-5394-4052 จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 17:10:41

ความคิดเห็นที่ 84 สถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน  และหมู่บ้านชาวม้งบ้านขุนช่างเคี่ยน เป็น แหล่งที่มีต้นนางพญาเสือโคร่งขึ้นอยู่มาก ทั้งตามข้างทางถึงในหมู่บ้าน และยังเป็นแหล่งชม ดอกซากุระดอย ที่อยู่ใกล้เมืองเชียงใหม่มากที่สุด จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 17:11:07

ความคิดเห็นที่ 85 ขุนช่างเคี่ยน เพิ่งมีชื่อเสียงเมื่อไม่นานนัก อาจจะเป็นเพราะเส้นทางช่วงจากพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ ถึงขุนช่างเคี่ยน ค่อนข้างแคบ และเลียบไหล่เขา รถนำเที่ยวขนาดใหญ่ขึ้นไม่ได้ นักท่องเที่ยวที่เข้าถึงจึงเป็นกลุ่มที่เดินทางมาเองกันเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นทุกปีเพราะดงดอกซากุระดอย ที่ขุนช่างเคี่ยนมีความสวยงามไม่แพ้ใคร จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 17:11:34

ความคิดเห็นที่ 86 ซากุระดอย หรือนางพญาเสือโคร่ง ( Prunus  cerasoides  D.  Don ) เป็นไม้ที่ขึ้นอยู่ตามธรรมชาติ ในพื้นที่สูงทางตอนใต้ของประเทศจีน ญี่ปุ่น  และไต้หวัน  ในประเทศไทย พบขึ้นตามภูเขาที่สูงจากระดับน้ำทะเล  1,000-2,000   เมตร  เช่น  บนดอยอินทนนท์   ดอยเชียงดาว ฯลฯ เป็นไม้ยืนต้นผลัดใบ สูงประมาณ 10-15 เมตร ดอก สีขาว  ชมพู ออกเป็นช่อกระจุกใกล้ปลายกิ่ง ก้านดอกยาว 0.7-2 เซนติเมตร ขอบริ้วประดับจักไม่เป็นระเบียบ กลีบเลี้ยงติดกันเป็นรูปกรวย กลีบดอกมี 5 กลีบ เมื่อบานขนาดโตเส้นผ่าศูนย์กลาง 1-2 เซนติเมตร ระยะเวลาออกดอก  ออกดอกระหว่างเดือนธันวาคมจนถึงกุมภาพันธ์ โดยจะทิ้งใบก่อนออกดอก มองเห็นแต่ดอกสีชมพูทั้งต้น  บริเวณที่มีต้นนางพญาเสือโคร่งขึ้นอยู่หนาแน่น เช่นตามหุบเชิงดอย เมื่อถึงเวลาออกดอกก็จะออกพร้อมๆกัน จะเห็นเป็นสีชมพูสะพรั่งไปทั้งดอย http://www.siamfreestyle.com/travel-attraction/chiangmai/ จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 17:12:13

ความคิดเห็นที่ 87 เป็นยังไงบ้างครับ กับดอกไม้สีชมพูสวยๆที่นำมาฝากกัน จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 17:12:45

ความคิดเห็นที่ 88 เบื่อดอกไม้ก็มาชมสาวๆแทนละกัน แอบถ่ายน้องเค้ามาหน้าตาสวยน่ารักดีครับ เลยเอามาฝากหนุ่มๆในห้องนี้ อิอิ จากคุณ : wut3616 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 17:13:11