 |
ความคิดเห็นที่ 21 |
รสชาติของแชมเปญ
Brut, Natture - ไม่หวานมาก หรือมีส่วนผสมความหวาน (Liqueur) อยู่น้อยประมาณ 0-2% ของน้ำเหล้า
Extra Dry,Extra Sec,Tres Sec - ไม่หวาน หรือมีส่วนผสมความหวาน (Liqueur) 2-3%
Sec - หวานน้อย หรือมีส่วนผสมความหวาน (Liqueur) 4-5%
Demi Sec - หวานปานกลาง หรือมีส่วนผสมความหวาน (Liqueur) 7-9%
Rich,Doux - หวานมาก หรือมีส่วนผสมความหวาน (Liqueur) 5-10%
ในอดีตมักนิยมดื่มแชมเปญประเภทหวาน (ประมาณ 30 ปีที่แล้ว) ปัจจุบัน Brut หรือแชมเปญแบบไม่หวานมากเป็นที่นิยมดื่มมาก แชมเปญยังมีหลายแบบ เช่น Vintage, Non-intage, Pink Rose, Blanc de Blancs
หลังจากใช้เวลานานในกระบวนการผลิต คุณภาพของแชมเปญจะไม่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเก็บในห้องใต้ดินอีกนานเท่าใดก็ตามแต่แชมเปญ อาจเก็บได้นาน 4-5 ปี โดยวางขวดในลักษณะ นอนและรักษา อุณหภูมิที่ประมาณ 10 - 15 องศา C
อุณหภูมิที่เหมาะแก่การดื่มแชมเปญและเหล้าองุ่นมีฟองชนิดอื่น จะต้องเย็นจัดประมาณ 5 - 9 องศา C ผู้ชำนาญด้านเหล้าองุ่นแนะนำ ให้แช่แชมเปญในถังน้ำแข็งไม่ควรแช่เย็น ในตู้เย็นเพราะจะเย็นเกินไป
วิธีการเปิดขวดแชมเปญที่ถูกต้อง หลังจากแกะลวดรัดออกแล้ว ให้จับขวดมือหนึ่งและจับจุกคอร์กอีกมือหนึ่ง ค่อย ๆ หมุนขวดจุกคอร์กจะหลุดออกมาย่างง่ายดาย
เช็ดขวดก่อนเทใส่แก้ว การเปิดขวดแชมเปญแบบ เขย่า ความดันภายในจะดันจุกคอร์กให้ระเบิดออกไปมีผลทำให้น้ำแชมเปญไหลออกมา เสียของไปโดยเปล่าประโยชน์
และเมื่อเปิดขวดแล้วควรดื่ม ให้หมดเพราะแชมเปญ ไม่สามารถเก็บข้ามวันได้
แก้วประเภทมีก้านยาว เหมาะแก่การดื่มแชมเปญทั้งสิ้นแต่ถ้าเป็นแก้วที่มีด้านบนทรงเรียวเล็ก Flute จะดีที่สุด เพราะจะเก็บฟองแชมเปญได้นาน
แชมเปญบางยี่ห้อ เช่น ดอม เพดริยอง (Dom Perignon) เลอ กรอง ดาม (Le Grande Dome), หลุยส์ ปอมเมอรี่ (Louise Pommery (, คูเว่ย์ เซอร์ วินสตัน เซอร์ชัลล์ (Cuvee Sir Winston Churchill), Vintage and Special Lable ล้วนแต่ ทำจากน้ำองุ่น ที่บีบครั้งที่ 1 และจากไร่องุ่นที่แบ่งโดยรัฐบาลว่าเป็นไรชั้น 1 มีองุ่นพันธุ์ Chardonnay ซึ่งแพงกว่าองุ่นดำมากและปริมาณการผลิตได้ น้อยกว่าราคาจึงแพง
เหล้าองุ่นมีฟอง ยังมีการทำอีกมากในเขตอื่นของประเทศฝรั่งเศสและทั่วโลก แต่จะเรียกตัวเองว่า Sparkling Wine เท่านั้น
การผลิต ถ้าบรรจุแก๊สแบบน้ำอัดลมราคาก็จะถูก, ถ้าหมักครั้งที่ 2 จำนวนมากในถังเหล็กใหญ่ก็แพงขึ้นหน่อย ถ้าทำการผลิตเหมือนแชมเปญก็ แพงมากแต่ราคาก็ยังถูกกว่าแชมเปญแท้กว่าครึ่ง
Sparkling Wine มีชื่อเรียกในภาษาอื่น ๆ คือภาษาเยอรมัน เรียกว่า Sekt (เซกท์) ภาษาอิตาเลี่ยน เรียกว่า Spumante (สปูเมนเต้) - Asti (แอสติ - เป็นเขตปลูกองุ่นที่มีชื่อเสียง และราคาแพง)
แก้ไขเมื่อ 13 ม.ค. 53 22:55:17
จากคุณ |
:
pixelchio
|
เขียนเมื่อ |
:
13 ม.ค. 53 22:54:56
|
|
|
|
 |