ความคิดเห็นที่ 1 เริ่มแรกเราต้องมีตับ ตับ ตับ ตับ ตับหมู ตับไก่ ตับเป็ด ตับคน เจ๊ยยย อันหลังไม่ใช่ ใช้ตับอะไรก็ได้ตามใจชอบ แต่วันนี้เราใช้ตับหมูค่ะ ตอนแรกจะซื้อตับไก่ตามการ์ตูน แต่แฟนท้วงค่ะ เพราะเค้าชอบตับหมู ก็ตามใจเค้า( แต่คนกินมันเรานี่หว่า แถมอยู่คนละบ้านมาเกี่ยวอะไรด้วยว้า ) เริ่มแรกก็เอาตับไปล้างน้ำก่อน ล้างซัก 2-3 รอบ แล้วก็แช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที ถ้าไม่อยากยุ่งยากก็แช่ทิ้งไว้ประมาณครึ่งชั่วโมงไปเลยค่ะ แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 53 16:47:38 จากคุณ : Rita_Bunny เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 03:15:07

ความคิดเห็นที่ 2 *ขั้นตอนนี้ถ้าใครแช่น้ำทิ้งไว้ครึ่งชั่วโมง ก็ไม่ต้องเอามาแช่นมก็ได้ แต่เรากลัวจะมีกลิ่นตับอยู่ เลยเอามาแช่นมด้วยค่ะ ครบ 15 นาที ก็เทน้ำทิ้งซะ แล้วก็เทนมสดใส่ลงไปแทน จริงๆแล้วในการ์ตูนเค้าให้แช่น้ำเปล่า ครึ่งชั่วโมง หรือ 20 นาที แล้วก็ไปต้มเลย เค้าก็ว่าไม่เหลือความคาวนะ แต่เราอยากลองแช่นมดูด้วย ก็เลยลองดู กลัวไปเองว่าจะคาว แช่นมไว้ 30-60 นาที แต่เราเผลอลืมแช่ไว้ซะ 3 ชั่วโมง (เล่นเกมส์เพลินไปหน่อย ไม่ดีนะ) แต่ครั้งหน้าจะลองทำโดยไม่หมักกับนมแล้วค่ะ แล้วจะเอามาให้ดูใหม่ว่าจะยังมีกลิ่นคาวตับหรือเปล่า แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 53 17:00:29 แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 53 16:48:32 จากคุณ : Rita_Bunny เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 03:17:06

ความคิดเห็นที่ 3 แยกตับกับนมซะ จริงๆแล้วควรเอาตับไปล้างน้ำเปล่า ล้างนมออกให้หมดก่อนนะ แต่เราลืมอ่ะ ลืมไป เราไม่มีนมสด เลยใช้นมข้นจืดแทนล่ะ จากคุณ : Rita_Bunny เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 03:18:09

ความคิดเห็นที่ 4 ตั้งน้ำให้เดือดจัดๆ แล้วก็เทตับลงไปทีเดียวเลย จากคุณ : Rita_Bunny เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 03:18:27

ความคิดเห็นที่ 5 เทตับลงไปแล้วก็รีบปิดฝาเลยนะ ลืมบอกว่าจับเวลา 20-25 วินาที แล้วค่อยปิดไฟค่ะ แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 53 02:52:52 แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 53 16:46:58 จากคุณ : Rita_Bunny เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 03:18:40

ความคิดเห็นที่ 6 ปิดไฟแล้วยกลงมาห่อด้วยผ้าขนหนูค่ะ ในการ์ตูนฮันโซเค้าอธิบายไว้ว่า ถ้าเราต้มต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ตับจะแข็งและเกิดฟองออกมา ดังนั้นจึงต้องใช้วิธีเก็บความร้อนจะดีกว่า ถ้าใส่ตับลงในน้ำเดือด ( 100 องศา ) อุณหภูมิของน้ำจะตกราวๆ 75-80 องศาเซียลเซียส แต่เมื่อปิดฝา และเวลาผ่านไปสัก 20-25 วินาที อุณหภูมิจะกลับมาสูงขึ้นถึง 90 องศา ในจังหวะที่อุณหภูมิขึ้นถึง 90 องศา ถ้าเราเอาผ้าขนหนูมาห่อหม้อไว้ จะสามารถรักษาอุณหภูมิที่ราวๆ 75-80 องศาเอาไว้ได้ นี่แหล่ะคือจุดสำคัญ เพราะหากต้มตับด้วยความร้อนที่ 75-80 องศา จะไม่มีกลิ่นคาว เก็บความร้อนไว้สัก 20 นาที ตับก็จะสุกถึงเนื้อใน แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 53 02:54:56 แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 53 16:46:31 จากคุณ : Rita_Bunny เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 03:24:30

ความคิดเห็นที่ 7 ปาดขวา... มาฉกตับต้ม ต้มตับ ค่า จากคุณ : cas_patronus เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 03:25:42

ความคิดเห็นที่ 8 ผ่านไป 20 นาทีแล้ว เปิดออกมาได้หน้าตาอย่างนี้ ไม่มีฟองเลยเจ้าค่ะ ไม่มีกลิ่นคาวของตับเลยแม้แต่น้อย ไม่เชื่อลองทำดูสิ แต่ที่เห็นเศษขาวๆน่ะ นมข้นจืด เราลืมล้างออกน่ะ ถ้าล้างนมออกแต่แรก คงได้น้ำใสแจ๋วเลย จากคุณ : Rita_Bunny เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 03:26:15

ความคิดเห็นที่ 9 ทีนี้เราก็จะได้ตับที่ไม่มีกลิ่นคาวของเลือดเลยมากินแล้ว ลองชิมดูสักชิ้น มีรสชาติของตับครบถ้วน เข้มข้น มันๆ แต่กลับไม่มีกลิ่นคาวของตับเลย รู้สึกแปลกๆเหมือนกันแฮะ รสคล้ายๆครีมมันๆบอกไม่ถูก ถ้าใครชอบให้ตับออกรสเค็มๆ ในขั้นตอนการแช่น้ำหรือแช่นม ใส่เกลือลงไปเล็กน้อยได้นะคะ หมดปัญหาเรื่องกลิ่นคาวของตับแล้ว แต่เรามีปัญหาใหม่มาแทนนี่สิ เพราะที่บ้านเราเค้าชอบหยิบไปกินเล่นแทนอ่ะ เผลอแป๊บเดียวฉกหมดเลย T^T ใครมีลูกเล็กเด็กแดงที่มีปัญหาไม่ชอบกินตับ ลองทำเมนูนี้ได้เลยค่ะ คาดว่าเด็กๆน่าจะกินกันนะ จากคุณ : Rita_Bunny เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 03:29:47

ความคิดเห็นที่ 10 cas_patronus : ยังไม่นอนอีกเหรอคะ นอนดึกเหมือนเราเลย อิอิ ยังไงก็ขอให้ค่ำคืนนี้ฝันดีนะคะ จากคุณ : Rita_Bunny เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 03:48:34

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณครับ แต่ผมชอบกินตับอยู่แล้วเลยไม่มีปัญหาอะไร โดยเฉพาะตับเด็กสด ๆ แหะ แหะ (อันนี้ล้อเล่น) แต่ก็จะจำไว้ใช้เผื่อมีลูกมีหลานที่ไม่ชอบกินตับครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : ดอกต้อยติ่ง เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 07:27:48

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณครับ เห็นบอกสุขภาพไม่ดี แต่อดนอนขนาดนี้ ไม่ดีนะครับ ห้าทุ่มก็ควรนอนได้แล้วครับ จากคุณ : หนูหริ่ง (chaleambui) เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 08:22:23

ความคิดเห็นที่ 13 กิงตับๆ จากคุณ : KeKXiM เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 08:30:07

ความคิดเห็นที่ 14 ถามนิดนึง หลังจากใส่ตับลงไปแล้ว ปิดฝาแล้วก็ดับไฟทันที หรือว่าปล่อยไว้สักครู่ค่อยดับไฟ แล้วเอาหม้อมาห่อผ้าขนหนูคะ อยากลองทำดู ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : ข่าอ่อน เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 08:49:40

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณมากๆค่ะ จากคุณ : เหมียว beautycats เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 09:04:38

ความคิดเห็นที่ 16 จขกท.ค่ะ ถามเหมือนความเห็นที่ 14 เลยค่ะ คือไม่เข้าใจตอนนี้ว่าเอาผ้าขนหนูมาปิดแล้วดับไฟเลยหรือเปล่า ส่งข่าวด้วยนะคะ ลูกสาวชอบทานมากค่ะ ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : โฮ่งฮับ เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 12:45:30

ความคิดเห็นที่ 17 สงสัยเหมือนความเห็น 14 และ 16 เหมือนกันครับ จากคุณ : jerry-t เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 13:22:55

ความคิดเห็นที่ 18 มีคาวด้วยรึครับ แต่ผมชอบกินตั้งแต่เด็กนะสำหรับตับ เลยไม่รู้สึกว่าคาวเลย แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 53 13:29:07 จากคุณ : คนเมาเอิ๊กๆ เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 13:28:34

ความคิดเห็นที่ 19 ถ้าห่อผ้าขนหนูตอนยังเปิดไฟอ่ยู่ ผ้าขนหนูไม่ติดไฟเหรอคะ สงสัยด้วยคน จากคุณ : Fiftyfive55 เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 13:56:15

ความคิดเห็นที่ 20 อืม สรุปว่าไม่มีกลิ่นคาวนี่คือ หมักนมหรือต้มนานๆ แล้วส่วนอื่นใช้วิธีเดียวกันได้หรือไม่ จากคุณ : jejeeppe เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 13:56:36

ความคิดเห็นที่ 21 ทำไมดูยุ่งยากจัง ของผมทำง่ายๆ.. วิธีแรก เทเหล้าอะไรก็ได้ไปครึ่งฝาระหว่างปรุงอาหาร..ไม่ว่าจะเป็นอาหารชนิดไหนก็ไม่มีวันคาว... อีกวิธีนึง..ถ้าใช้นึ่งหรือต้ม..ทุบตะไคร้ใส่ไปซักต้น..ดับคาวชะงัดเลย..หอมตะไคร้อีกต่างหาก.. จากคุณ : จ่าหมาน เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 14:15:02

ความคิดเห็นที่ 22 พอปิดฝา แล้วรออีก 20-25 วินาทีค่ะ แล้วค่อยปิดไฟ จริงๆเลยเอาแค่ แช่น้ำเปล่าไว้ 20-30 นาที (ไม่ต้องแช่นมก็ได้ เพราะตามต้นตำรับเค้าไม่แช่นม แต่เราอยากลองแช่นมดูค่ะ ครั้งหน้าว่าจะไม่แช่นมแล้ว เสียเวลา) แล้วก็ตั้งน้ำให้เดือด พอเดือดก็เทตับลงไปเลย แล้วปิดฝาทันที จากนั้นก็จับเวลา 20-25 วินาที แล้วปิดไฟ ยกลงจากเตา มาห่อผ้าขนหนู แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 53 16:51:41 จากคุณ : Rita_Bunny เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 16:16:26

ความคิดเห็นที่ 23 ส่วนที่ว่านอนดึกน่ะ เพราะว่านอนไม่หลับ ปวดตามเนื้อตัวค่ะ เราเป็นโรคที่เรียกว่า "ไฟโบรมัยอัลเจีย" ซึ่งคนส่วนมากไม่เป็นกัน พอมีอาการขึ้นมา กินยาไปก็ไม่ช่วยอะไร ยิ่งนอนเรารู้สึกว่ายิ่งทรมาณ ก็เลยเล่นคอม หาอะไรทำเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากอาการปวดค่ะ และบ่อยครั้งที่เราต้องตื่นมากลางดึก เพราะว่าเวลานอนแล้วตัวจะกระตุกค่ะ ไม่ใช่กระตุกธรรมดา แต่กระตุกจนลุกขึ้นมานั่งเลย ยายเราบอกว่าเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เป็นทารกแล้ว ใครอยากทราบว่าอาการเป็นยังไง ก็ลองหาดูในอากู๋นะคะ แล้วเราก็กินยากด้วย เลือกกินมากๆ อย่างตับนี่เราเกลียดกลิ่นมันเลย ต่อให้ใส่กระเทียมหรือเหล้าลงไป มันก็ยังมีกลิ่น แต่พอทำวิธีนี้แล้ว มันไม่เหลือกลิ่นของตับเลยค่ะ แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 53 16:24:24 จากคุณ : Rita_Bunny เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 16:19:42

ความคิดเห็นที่ 24 ขอบคุณมากเลยค่ะ แล้วจะลองทำดูนะคะ จากคุณ : ข่าอ่อน เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 17:26:39

ความคิดเห็นที่ 25 รักษาสุขภาพด้วยนะคะ จากคุณ : mywd เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 21:32:41

ความคิดเห็นที่ 26   เก่งจังเลยเน้อ ถือว่าเป็นอีกวิธีนึงที่มานำเสนอกัน ส่วนใครจะนำไปใช้แบบไหนก็ขึ้นอยู่กับความชอบและความถนัด มาให้กำลังใจเจ้าของกระทู้ดีกว่าค่ะ น้องกระต่ายจะได้สรรหาวิธีใหม่ๆมาให้ลองทำ สู้ สู้ จากคุณ : นนนี่มาแล้ว เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 53 23:47:56

ความคิดเห็นที่ 27 พี่สาวไม่ชอบกินตับครับ ได้ความรู้เลย ขอบคุนครับ จากคุณ : ความสุขของจูหมูอ้วน เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 53 14:16:44

ความคิดเห็นที่ 28 ขออภัยค่ะ กระทู้นี้มีข้อผิดพลาดมากมาย เราคงจะง่วงเบลอจนพิมพ์ข้อความผิดตกหล่นไปหลายอย่าง ได้เข้ามาแก้ไขแล้ว แต่คิดว่ายังไงก็คงไม่ทัน ขออณุญาติเป็นครั้งหน้าจะทำเวอชั่นจริงมาใหม่ค่ะ จากคุณ : Rita_Bunny เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 53 02:57:47

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุณค่ะ จากคุณ : เหมียว beautycats เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 53 04:46:46