ความคิดเห็นที่ 1 เคยทานอาหารแปลกๆหลายสิบปีมาแล้วค่ะ คุณแม่ของสามีทำให้ทาน พอท่านเสียก็เลยไม่ได้ทานเลย จำไม่ได้ว่าเรียกว่าอะไร แต่เอากระท้อนมาผัดใส่ถั่วลิสง หมูบด คั่วกับกะปิ เปรี้ยวๆหวานๆ อร่อยมาก จากคุณ : motherhood (motherhood) เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 53 19:31:11

ความคิดเห็นที่ 2 อาหารโบราณ ที่ได้ทานตอนเด็กๆ และยังไม่เจอว่ามีที่ไหนทำ ใครทราบวานบอก    อาหารนี้คือ "ยำทวาย" ค่ะ   ชอบมาก จากคุณ : kaoim เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 53 19:50:36

ความคิดเห็นที่ 3 กำลังตามหา ยำทวาย ด้วยเหมือนกัน  อยากรู้ว่าเป็นเช่นใด จากคุณ : The Gollum เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 53 20:08:43

ความคิดเห็นที่ 4 เราเคยกินน้ำข้าวตังปิ้ง   ไม่เคยได้กินอีกเลยหลังจากคราวนั้น เป็นข้าวตังที่มาจากการหุงข้าวในกะทะแล้วเอามาปิ้งให้หอมไหม้นิดๆ เอาข้าวตังใส่น้ำร้อนๆ  และก็ละลายน้ำตาลลงไปหน่อย มีกลิ่นไหม้ๆ หอมๆ ข้าวตัง หวานนิดๆ จากคุณ : ใบยี่หร่า เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 53 21:12:05

ความคิดเห็นที่ 5 รู้สึกเหมือนเคยกิน ยำทวาย เหมือนกันค่ะ ตอนที่เรียนอาหารไทย (แต่ก็นานมาแล้ว เลยไม่ค่อยแน่ใจ) เป็นยำผัก น้ำยำเป็น กะทิ ใส่ถั่ว รสเปรี้ยวหวาน ถ้าบอกลักษณะผิด ต้องขอโทษด้วยนะคะ เพราะอย่างที่บอก คือนานมากแล้วจริงๆ แล้วก็เคยกินแค่ครั้งเดียว ตอนที่เรียนนั่นแหละค่ะ ไม่ได้เอามาทำเอง เพราะเตรียมเครื่องเยอะจัด >o< จากคุณ : nagareboshi เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 53 22:25:57

ความคิดเห็นที่ 6 นี่ครับผัดกระท้อน http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2008/06/D6689933/D6689933.html นี่ครับยำทวาย  อ่านแล้วห้ามท้อที่จะทำกินนะครับ ยำทวาย ทำอย่างนี้ครับ เริ่มต้นโดยการโขลกน้ำพริกกันก่อน ส่วนผสมน้ำพริกก็มีอย่างนี้ครับ พริกแห้งแกะเม็ดออกแล้วแช่น้ำให้นิ่ม 5-7 เม็ด เกลือป่น 1 ช้อนชา ข่าหั่นละเอียด 1/3 ช้อนชา ตะไคร้หั่นละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ กะปิ 1 ช้อนชา หอมแดงปอกล้าง ซอยหยาบ ๆ 5 หัวเล็ก กระเทียมปอกล้างแล้วซอยหยาบ ๆ 15 กลีบ ทีนี้ก็ลงมือโขลกน้ำพริกกันล่ะครับ โดยบีบพริกแห้งที่แช่น้ำจนน่ายให้สะเด็ดน้ำหมาด ๆ ใส่ครกใส่เกลือลงไปโขลกอันดับแรก พอพริกละเอียดดี (เพราะถ้าไม่ละเอียดคนกินเขาจะนินทาเอาได้ว่า ตำน้ำพริกแกงไม่เป็น ตำแล้วพริกหยาบเรียกว่า แล่นใบ แสดงว่า คนทำชอบสุกเอาเผากิน บางทีจะถูกว่าแรงกว่านี้) ต่อไปก็ใส่ข่า ตะไคร้ลงโขลกต่อให้ละเอียด ใส่กะปิ และใส่หอม กระเทียมในอันดับสุดท้าย เพราะเครื่องแกงสองอย่างหลังนี้มีน้ำผสมเป็นส่วนมากจะทำให้น้ำพริกแฉะ ถ้าขืนใส่ตั้งแต่ตอนแรก น้ำพริกจะแหลกยาก และกระเด็ดเข้าตาได้ง่ายด้วย อ้อ!...ส่วนผสมอีกอย่างในน้ำพริกนี้ที่ลืมไม่ได้คือ ปลาสลาดย่างแกะเอาแต่เนื้อแล้วป่นให้ละเอียด 1/2 ถ้วย ใส่โขลกรวมไปกับน้ำพริกด้วยจึงจะอร่อยเข้มข้น ได้น้ำพริกแล้วใช่ไหม เอ้า! พักไว้ก่อน คราวนี้หันมาคั้นกะทิจากมะพร้าวขูด 1/2 กิโลกรัม โดยคั้นให้ได้ หัวกะทิ (โดยไม่ต้องใส่น้ำ) 1/2 ถ้วย กลางกะทิ (ใส่น้ำเล็กน้อยในการคั้น)ให้ได้ 2 ถ้วย หางกะทิให้ได้ 2 ถ้วย พอได้กะทิแล้ว ก็เอาหางกะทิ 2 ถ้วย นั่นแหละใส่หม้อตั้งไฟลวกต่าง ๆ ทีละอย่าง โดยจัดอันดับหน้าหลังอย่างนี้ครับ ผักบุ้งอ่อน ๆ ซอยละเอียด 5 ยอด กะหล่ำปลี ซอยละเอียด 1/4 หัว ถั่วฝักยาวหั่นเฉียง ๆ ยาว 1 นิ้ว 5 ฝัก หน่อไม้ต้มหั่นเป็นเส้นยาว ๆ 2 หน่อเล็ก มะเขือยาวหั่นเป็นชิ้นยาว 1/2 นิ้ว 1 ผล ถั่วงอก 1/2 ถ้วย ผักพวกนี้ต้องเอาลงไปลวกทีละอย่าง พอสุกแล้วเอาขึ้นแล้วจึงเอาอย่างต่อไปลงไปลวก แล้วเอาขึ้น เข้าคิวตามลำดับ จนหลังสุดคือ ถั่วงอก แต่ยังไม่สุดท้ายนะครับ สุดท้ายก็คือ หัวปลีกล้วยตานีปอกเปลือกนอกเอาแต่อ่อน ๆ แล้วผ่า 2 ล้างน้ำมะขามเปียกคว่ำไว้จำนวน 1 หัว หัวปลีนี้เอาลงไปต้มกับหางกะทิจนเปื่อยนุ่ม ก็เอาขึ้นมาฉีก ๆ ตามยาวให้เป็นเส้น ผักพวกนี้ต้องนำมาเรียงใส่จานเปล เรียงสลับสีกันให้สวย ราดด้วยหัวกะทิที่ตั้งไฟเคี่ยวพอข้น โดยราดตามร่องผักที่เตรียมไว้ ยังครับ ยังไม่เสร็จ ต้องมีเนื้อสัตว์ผสมด้วย สำหรับคนกินเนื้อสัตว์ได้คือ เนื้อหน้าอกไก่นึ่งแล้วหั่นสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ 2 ช้อนโต๊ะ เอาเนื้อไก่นี้โรยบนผักที่วางประดับเอาไว้แล้วอย่าลืมสมุนไพรสำคัญที่จะต้องโรยประดับด้วยคือ งาขาวคั่ว 2 ช้อนชา หัวหอมซอยแล้วเจียวให้หอมกรอบ 1 ช้อนโต๊ะ คราวนี้ก็หันมาทำน้ำพริกหรือน้ำยำแดงราดกันล่ะ เอากะทิที่คั้นกลางกะทิไว้ 2 ถ้วย ใส่กระทะตั้งไฟ พอเดือดพล่านก็ตักน้ำพริกที่โขลกไว้ลงไปผัด ต้องผัดให้หอม พอกะทิแตกมัน และน้ำกะทิงวดจึงใส่น้ำมะขามเปียกข้น ๆ 2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ น้ำปลาดี 1 ช้อนโต๊ะ ชิมดูให้ได้รสเปรี้ยวนำ เค็มตาม หวานรั้งท้าย เสร็จแล้วตักใส่ถ้วย เวลาจะรับประทานก็ตักน้ำพริกราดบนผัก แล้วต้องรีบรับประทานทันที รอช้าจะไม่อร่อย เดี๋ยวน้ำผักไหลออกมาผสมแฉะ ๆ เละ ๆ คนสมัยก่อนท่านว่า ยำจะเซ็งเสียหมด เป็นอันว่า คุณได้สูตรยำทวายแบบใส่เนื้อสัตว์ไปแล้วครบถ้วนสมบูรณ์แบบ และเป็นสูตรโบราณของเก่าแก่ที่ครูท่านสอนมา เดี๋ยวนี้ ท่านเสียไปแล้วครับ เมื่ออายุ 80 กว่าปี ส่วนท่านที่อยากจะทำยำทวายแบบมังสวิรัติ ก็ทำได้นะครับ โดยงดกะปิในน้ำพริก ใส่เต้าเจี้ยวดำล้างน้ำให้หายเค็มแทน ส่วนปลากรอบกินไม่ได้ก็ใช้ถั่วเขียวต้มจนเปื่อยมาโขลกใส่แทนปลากรอบ บางท่านก็ใช้แป้งถั่วเหลืองแทนก็ได้เหมือนกัน ถ้าไม่รังเกียจกลิ่นถั่วเหลือง ส่วนเนื้อไก่หั่น ก็ไม่ต้องใส่ หันมาใส่เห็ดนางฟ้าลวกหรือเห็ดเป๋าฮื้อลวกแล้วหั่นแทน น้ำปลาก็ใช้ซีอิ๊วขาวสูตร 1 หรือซีอิ๊วเห็ดหอมแทน นอกนั้นก็เหมือนสูตรที่ว่ามาทุกอย่างครับ เพราะยำทวายมีขั้นตอนและเครื่องปรุงมากมายอย่างนี้เอง ยำทวายถึงได้หายไปจากโต๊ะอาหาร หายมานานแล้วด้วย แถมคนรุ่นใหม่ยังไม่ชอบผักต้มที่สีสันไม่สวยอีกต่างหาก เขากลับไปชอบสลัดผักสด หรือกะหล่ำปลีหั่นฝอยคลุกด้วยครีมสลัดที่เรียกว่า โคลสะลอว์แทน (ทั้ง ๆ ที่คนไทยสมัยก่อน ท่านเปรียบเจ้าผักหั่นฝอยคลุกน้ำสลัดนี้ว่าเหมือนรากแมว!)   เอายังงี้ซีครับ ถ้าคุณจะทำยำทวายตั้งโต๊ะเลี้ยงทั้งผู้สูงอายุ และคนหลายวัยด้วย ถ้าเกรงว่าคนกินบางคนเขาจะกินไม่เป็น และจะเป็นบังคับเขา บาปเราเปล่า ๆ ข้าง ๆ จานผักลวกที่ว่า นอกจากคุณจะตั้งถ้วยน้ำพริกยำทวายแล้ว คุณก็น่าจะมีน้ำพริกกะปิ หรือน้ำพริกปลาร้า สักอีกอย่างละถ้วย วางประกบด้วย แล้วก็มีปลาทอดอีกสักจานวางเคียงข้าง ใครกินยำทวายไม่เป็น ก็กินผักต้มกะทิกับน้ำพริกกะปิ น้ำพริกปลาร้า กันไปก็แล้วกัน อันนี้สูตร ม.ล.เนื่องค่ะ จากหนังสือชีวิตในวัง เล่ม 2 ยำทะวาย เครื่องปรุง ไก่ พริกแห้ง ข่า ตะไคร้ หอม กระเทียม กะปิดี งาสีขาวคั่ว ปลาสลาด มะพร้าว มะขามเปียก น้ำตาลปึก น้ำปลาดี เครื่องผักสดสำหรับยำ หัวปลีกล้วยตานี ผักบุ้งไม่ใช้ใบ ถั่วฝักยาว ถั่วแขก พริกหยวก หน่อไม้ไผ่ตง มะเขือยาวสีม่วง มะเขือยาวสีเขียว วิธีทำ เอาเนื้อไก่ต้มให้สุก แล้วฉีกเป็นฝอยเส้นยาวๆ ผัดกับกะทิให้แห้ง ใส่เกลือนิดหน่อย ตักขึ้นใส่ชามไว้ ปลาสลาดแกะเอาแต่เนื้อ คั่วให้กรอบ เอามาตำให้ละเอียด ใส่ชามไว้ งาสีขาวเอามาคั่วให้สุกหอม ตักใส่ชามไว้ เอาพริกแห้ง ข่า ตะไคร้ หอม กระเทียม โขลกรวมกันให้ละเอียด ใส่กะปิดีลงไป เอาปลาสลาดที่ตำไว้ใส่รวมลงไป แล้วเอาขึ้น ผัดกับหัวกะทิให้สุกข้น ปรุงรสเปรี้ยวด้วยมะขามเปียก เค็ม หวาน แล้วตักใส่ชามไว้ เจียมหอมเจียวใส่ชามไว้ เอาผักสดทุกชนิดที่บอกไว้ มาหั่นซอยให้เป็นฝอยยาวๆทุกอย่าง แล้วเอาไปลวกในหางกะทิ สุกแล้วเอาใส่รวมในอ่าง คลุกผักทุกอย่างให้เคล้าเข้ากันหมด เอางาที่คั่วไว้ คลุกลงไปในผักด้วยพอประมาณ แล้วจัดใส่จานลึก เอาน้ำพริกที่ผัดไว้ราดไปบนผักให้ชุ่ม โรยไก่ที่ฉีกฝอยทับลงไปบนผัก โรยน้ำพริกลงไปอีกบางๆ พอแลเห็นชิ้นฝอยของไก่ แล้วโรยด้วยหอมเจียว โรยงาคั่ว เป็นเสร็จตั้งโต๊ะได้ ยำทะวายนี้ไม่ใคร่จะมีใครทำขาย เพราะเป็นของทำลำบากจุกจิก วุ่นวายมากเรื่อง ถ้าแม่บ้านอยู่คนเดียวโดยไม่มีผู้ช่วย แล้วคิดจะทำให้สามีกิน โน่น ต้องไปกินข้าวมื้อค่ำเอาตีหนึ่งเถอะ ในวังนิยมว่ายำทะวายนี้เป็นยำที่หรูหรา แล้วทำยาก ต้องใช้คนช่วยกันหลายคน ถ้าจะทำเลี้ยงแต่ละทีต้องเป็นงานใหญ่ แล้วมีแขกพิเศษจริงๆ กินแล้วก็อร่อยดี จากคุณ : ชายกาง... (OverEat) เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 53 23:06:22

ความคิดเห็นที่ 7 ยำทวายเคยเห็นแม่ทำตอนเด็ก ๆ ค่ะ  แต่อย่างที่คุณวัฒน์ว่า  งานใหญ่ จุกจิก รายละเอียดมากมาย  แม่จะทำเฉพาะตอนทำบุญใหญ่เท่านั้นซึ่งก็นาน ๆ มีที แต่ผักมันเยอะน่ะค่ะ  ตอนนั้นยังเป็นเด็ก  ก็ไม่รู้สึกสนใจและไม่เคยคิดแม้แต่จะชิมเสียด้วยซ้ำ เสียดายไม่ได้สืบต่อแม่เอาไว้... จากคุณ : Amber n the Gang เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 53 23:25:58

ความคิดเห็นที่ 8   กี๊ด ยำทะวาย น้องโจชอบมั่กๆ แต่ก็หากินยากมั่กๆเช่นกัน เป็นอาหารที่ไม่สามารถทำกินเองได้แน่ๆ เครื่องปรุงเยอะจัด นั่นนิดนี่โหน่ย สมัยเด็กๆตามงานบุญจะมีให้น้องโจได้โซ้ย แต่เดี๋ยวนี้หาไม่มีล๊ะ คำทำเป็นเค้าย้ายครัวไปทำบนสวรรค์หมดล๊ะ ครั้งล่าสุดที่ได้กินนี่ก็เกือบสิบปีผ่านมาแล้วอ่ะ กินที่แรมแบรนท์ หรือเรดิสัน นี่แหละไม่แน่ใจ แต่เดี๋ยวน้องโจจะไปถามครูบาส ลูกค้าวีไอพี โอเรี้ยนท่อล ว่าที่ศาลาริมน้ำมีป่าว ถ้ามีน้องโจจะขอไปโซ้ยทุกวันให้คนรวยจริงแอบอิจฉาเหมือนครูบาสมั่ง เอิ๊ก เอิ๊ก โอ้ว ซอรี่ น้องโจนอกเรื่อง อีกอย่างนึงที่น้องโจคิดถึ๊งคิดถึงและอยากกินคือ หนมจีนซาวน้ำ และหนมจีนน้ำพริกแบบครบเครื่องอ่ะ เคยกินที่บ้านเพื่อนรักอ่ะ แม่มันทำ เค้าใส่ส้มซ่า ใส่มะกรูด แล้วก็กุ้งสับลงไปเยอะๆด้วยอ่ะอร่อยม๊ากมาก อืม วันนี้เห็นงานถ่ายทอดสดที่ช่องเก้า เค้ามีขนมค้างคาวด้วยอ่ะ น้องโจเคยได้ยินแต่ชื่ออ่ะ อยากลองกินมากเลย จากคุณ : G.I JOE เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 01:03:14 A:112.142.224.29 X: TicketID:252512

ความคิดเห็นที่ 9 ที่บ้านชอบเอามะพร้าวป่นมาคั่วกับน้ำตาล เกลือค่ะ ตักโรยบนข้าว หรือจะกินเล่นก็อร่อยดี จากคุณ : ขี้เหงา...เอาแต่ใจ เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 01:33:24

ความคิดเห็นที่ 10 คห.เก้า  เราเคยกิน เขาเรียกพริกกะเกลือค่ะ แอบงงฃื่อ แม่บอกโบราณเขาทำไว้ติดตัวเวลาเดินทางเช่น ไปรบพม่า เอาไว้คลุกข้าวกิน ที่ว่ามาเคยเห็น เคยกินหมดค่ะ ที่บ้านคนแก่เยอะ ขอบคุณพี่วัฒน์สำหรับสูตรกระท้อนค่ะ ของแปลกๆที่บ้าน  เคยเห็นยำไข่เต่าตนุต้มมายำกับพริกขี้หนู หอมซอย บีบมะนาวค่ะ กินกับมังคุด เป็นกับข้าวชาววัง ตำมะม่วง เอามะม่วงแก่จวนสุก มาตำ พริกนิด กระเทียม ใส่กุ้งแห้ง ปรุงให้เปรี้ยวๆหวานๆ เค็มนิดเดียว คลุกข้าว ปลาแห้งเหมือนที่ใส่หน้าข้าวเหนียว แต่ไม่ใส่น้ำตาลหวานเจี้อยขนาดนั้น กินกับแตงโม ข้าวสวย กระทู้นี้ทำหิวแล้ว... ซาวน้ำทำง่าย พรุ่งนี้ทำให้แม่กินดีกว่า จากคุณ : ทะเลหญ้า เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 06:09:31

ความคิดเห็นที่ 11 ท่าน คห.ที่ 9 และ 10 ครับ  นี่ครับพริกกะเกลือ http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2008/03/D6421578/D6421578.html สมัยนี้เป็นสมัยอนุรักษ์นิยม เราจึงไม่มียำไข่เต่าตนุมาทานกันนานแล้วครับ  จะหาได้ก็ที่ตลาดทองผาภูมิ มาจากฝั่งพม่า  ผมเคยซื้อมายำเหมือนกัน  แต่มิได้ถ่ายภาพไว้  อาหารจานนี้ สมัยก่อนเค้าชื่อยำไข่จาระเม็ด เม็ดมังคุดครับ ... อร่อยมาก มะม่วงใกล้แก่ เนื้อเหลืองนิด ๆ ฝานแล้วคลุกกับน้ำปลาดี น้ำตาลปี๊บ พริกป่นและกุ้งแห้งหรือปลากรอบป่น  เค้าเรียก มะม่วงฉุนครับ กินกับข้าวสวยร้อน ๆ คล่องคอดีครับ ... ซาวน้ำ  อยู่ในเครื่องเรียบร้อย  รอแต่ว่าจะว่างวันไหนนะครับ เดี่ยวจะนำมาให้ชม มีทั้งใส่หมูสับและเเจงลอนครับ ... จากคุณ : ชายกาง... (OverEat) เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 06:50:21

ความคิดเห็นที่ 12 งือ.. คิดถึงย่าเลย...ย่าเคยเป็นสาวชาววัง ทำสารพัดอย่างให้กิน หลานก็จำได้มั่งไม่ได้มั่ง จะจำอย่างที่ตัวเองชอบเท่านั้น 5555 ตอนนี้ที่ทำทานประจำก็แกงส้มเปลือกแตงโม จากคุณ : noo-uan เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 07:05:23

ความคิดเห็นที่ 13   น่ากินทั้งนั้น อีกอย่างที่ผมเคยกิน เขาหัววัวมาเผา แล่คลุกกับข้าวคั่วทิ้งไว้ให้เปรี้ยว แล้วใช้แกงส้ม อร่อยดีครับ แต่ไม่ทราบว่าเขาเรียกอะไร จากคุณ : จขกท เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 11:42:01 A:71.114.78.103 X: TicketID:146114

ความคิดเห็นที่ 14   พี่ชายกางขาาาาาา หนูมาทวงเมนูกับข้าวที่ทานกับข้าวต้มอ่ะค่ะ ลืมไปแล้วหรือยังค่ะ จากคุณ : very baby เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 12:49:13

ความคิดเห็นที่ 15 คุณวัฒน์ สุดยอดดดด.... "ยำทวาย"  ที่เก้าได้ทานคือสมัยที่ยังเรียนอยู่ในโรงเรียนวัฒนาวิทยาลัยค่ะ  แหม..เค้าเป็นชาววังเนาะ (วังหลัง) อาหารที่โรงเรียนวัฒนาฯ สมัยก่อน นับๆ แล้วก็ร่วมสามสิบปี (สมัยนี้เป็นไงไม่รู้) จะมีอาหารไทยเดิมๆ แบบชาววัง ประเภท ยำทวาย , ปลาก้อน, หมี่กรอบ,  ต้มยำเนื้อใส่กะทิและกะหล่ำปลี (เป็นเนื้อและเอ็น อร่อยมาก), กะปิคั่ว ,ยำใหญ่ ยำทวายก็เป็นแบบคุณวัฒน์ เขียนสูตรมาน่ะค่ะ  ที่สำคัญคือต้องมีหัวปลี แต่เวลานำมาทำทานเองแล้ว ไม่ได้รสชาติเหมือนที่โรงเรียนทำ ไม่ว่า ยำทวาย ปลาก้อน ต้มยำเนื้อ กะปิคั่ว  ทำยังไงก็ไม่เหมือน   (อันนี้เลยไม่รู้ว่า ตกลงโรงเรียนแอบประดิษฐ์เอง หรือว่า เราทำไม่ถูกก็ไม่รู้) รบกวนเพื่อนๆ ชาวก้นครัว ถ้ามีใครได้ไปเจอร้านอาหารที่ไหน ขายยำทวาย กรุณาตั้งกระทู้บอกกันด้วยนะคะ จากคุณ : kaoim เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 13:03:19

ความคิดเห็นที่ 16 เคยทานอาหารไทยโบราณสุด ก็ ไข่แมงดาทะเลเชื่อม ครับ ทานกับ แกงเผ็ดอะไรสักอย่างจำไม่ได้ครับ   แถมมื้อนั้นมีมะละกอหั่นลายรังแตนดองให้ทานคู่กันด้วยครับ จนทุกวันนี้ยังหาใครทำไม่ได้เลยครับ ไข่แมงดาเชื่อมนี้ยังพอได้ แต่มะละกอที่หั่นเป็นลายนั้น หาคนทำแบบนั้นไม่มีเลยครับ ไปเรียนแกะสลักก็ไม่มีใครสอน จากคุณ : แฮมหมูรมควัน เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 15:09:58

ความคิดเห็นที่ 17   เท่าที่เคยฟังคุณย่าพูด ยำทวายหมายถึงยำใหญ่ที่มีเครี่องไม่ครบค่ะ จากคุณ : เรือสำราญ เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 53 14:19:18

ความคิดเห็นที่ 18 แกงบวน กับ แกงบอน เป็นอาหารโบราณรึเปล่าคะ แถวบ้านยังพอมีให้เห็น ตั้งแต่มาเรียนในกรุงไม่เคยเห็นเลย เคยอ่านเจอในหนังสือแม่บ้านว่าแกงต้มโมงเป็นอาหารท้องถิ่นของชลบุรี ก็ไม่เคยเห็นเลยว่าหน้าตาจริงๆเป็นไง เห็นแต่ในหนังสือ ==" จากคุณ : . (katwan) เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 53 22:32:05

ความคิดเห็นที่ 19 อยากทราบค่ะ คุณแฮมหมูรมควัน หาไข่แมงดาทะเลเชื่อมได้ที่ไหนคะ ใช่ที่เขาเชื่อมกับมะพร้าวขูดรึปล่าวคะ กำลังหาข้อมูลอยู่พอดีเรย ขอบคุณค่า ส่วนยำไข่จาละเม็ดตอนเด็กๆ ก็ได้กินเรื่อยๆ แต่เหมือนเคยว่า จะได้กินกับเม็ดมังคุดแค่ทีเดียวเองค่ะ อย่างอื่นก็รู้จักหมด แต่หาทานแทบไม่ได้แล้วค่ะ จากคุณ : ราตรีสีนวล เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 22:51:38

ความคิดเห็นที่ 20 ตอนนั้น เพื่อนเชื่อมให้ทานครับ ส่วนไข่แมงดาที่ผัดกับหน้ากระฉีก หรือที่คุณราตรีสีนวลบอกว่า เชื่อมกับมะพร้าว   อันนี้หาซื้อได้ที่ตลาดเมืองเพชรครับ กล่องล่ะ 10 บาท  แต่ถ้าจะทำจริง ยินดีให้ข้อมูลครับ เพราะ เพิ่งไปเรียนมาสดๆ ร้อนๆ วันนี้เองครับ (9/2/53) จากคุณ : แฮมหมูรมควัน เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 23:07:18

ความคิดเห็นที่ 21   น้ำข้าว จากคุณ : ลุงถุงทอง เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 53 10:07:18 A:58.64.70.27 X: TicketID:156077