ความคิดเห็นที่ 1   การชงปีนี้ ถ้าชงเต็มๆ จะเป็นปีวอกครับ ต้องรีบไปแก้ชงโดยด่วน ระหว่างวันที่ 15 กุมพาพันธ์ จนถึงสิ้นเดือนครับ ที่วัดมังกร จากคุณ : ป๊อด เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 53 13:49:30 A:125.25.117.39 X: TicketID:250483

ความคิดเห็นที่ 2 กร๊ากกกกๆๆๆ  ขำๆ ข้างบน ไม่แนะนำแล้วยังมาทำให้ขำอีก ต้องรีบไปแล้ววัดมังกร  อิอิ  ดิฉันเองก็หาที่เรียนชงเหมือนกันค่ะ  ตั้งกระทู้ไว้ข้างล่างคุณนี่แหละ ไว้ไปเรียนด้วยกันนะคะ  (ถ้ามีคำแนะนำที่ดี) แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 53 14:12:46 จากคุณ : phanet เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 53 14:08:25

ความคิดเห็นที่ 3 google ครับมีมากมายหลากหลาย  Key word ก็ตามหัวข้อเลย ให้แนะนำซัก 2-3 ที่ก็มี Bluekoff , Salotto , Kokoro , K2 , Aroma, Espressoman , BkksProlab , P&F , Ratika , Boncoffee  ราคาก็ 1 พันกว่า ถึง 4-5 พััน ครับแล้วแต่ที่ เงินลงทุนคำถามนี้กว้างมากครับ ร้านกาแฟ แบบไหน Kiosk   หรือเป็น Coffee shop ขายลูกค้ากลุ่มไหน  เน้นตกแต่งขนาดไหน เพราะเครื่องชงระดัีบ Semi Commercial - Commercial ก็มีราคาตั้งแต่ 20k - 500k    ค่าตกแต่ง ค่าจ้าง พนักงาน เงินสำรองใช้จ่าย ไปเรียนก่อนครับอย่าพึ่งเบื่อการเป็นมนุษย์เงินเดือนเลย จะได้ตอบโจทย์ตัวเองได้ จากคุณ : Ch@man เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 53 14:37:53

ความคิดเห็นที่ 4 ส่งข้อความหลังไมค์ให้นะคะ นิยมชมชอบคนรักกาแฟค่ะ จากคุณ : thana4748 เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 53 14:43:05

ความคิดเห็นที่ 5 ชอบ คห ที่ 1จริง ๆ เลยนี่ 5555 แนะนำ จขกท  ลองค้นในอากู๋ดูนะค่ะ มีสถาบันรับสอนกาแฟ เยอะเลยค่ะ จากคุณ : ajstar เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 53 15:00:19

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณค่ะ และจะตั้งใจเรียนก่อน ตามคำแนะนำค่ะ จากคุณ : golfuhm (golfuhm) เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 53 15:15:10

ความคิดเห็นที่ 7 เรื่องเปิดร้านเนี่ย ผมขอแนะนำว่าให้คิดให้รอบคอบครับ ไม่ใช่อยากเปิดร้านเพราะเราเบื่องานประจำ เพราะการทำธุรกิจนั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก อุปสรรคต่างๆมันก็มีอยู่ อย่างน้อยคุณควรคิดให้ดีว่าคุณชอบและอยากทำอะไรจริงๆจัง อย่าทำตามแฟร์ชั่นครับ ปล.ขอให้เจอสิ่งที่อยากทำครับ จากคุณ : litlepooh เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 53 15:59:49

ความคิดเห็นที่ 8 #1 ... จากคุณ : เสียงจากบ้านนา เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 53 21:54:28

ความคิดเห็นที่ 9   เบื่อเป้นมนุษย์ เงินเดือนหรอ เหมือนกันเลย แต่อยากให้ลองทำดูในวันหยุดก่อนดีกว่านะค่ะ อย่าพึ่งลาออกเลย ถ้าทำเลดีๆนี่ ก็โอเคนะ ถ้าทุนน้อยกาแฟโบราณน่าสนใจกว่า แหะ..แหะ.. ช่วยได้บ้างไหมน๊า... จากคุณ : แล้วเราก็เจอกัน (แล้วเราก็เจอกัน) เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 10:32:18

ความคิดเห็นที่ 10   เป็นเหมือนกันเลย เบื่อมนุษย์เงินเดือนนี่แหละ ถ้ามีโอกาสก็อยากไปเรียนชงกาแฟบ้าง จากคุณ : Canon_tommy เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 12:26:13

ความคิดเห็นที่ 11   กำลังจะเปิดค่ะ ไปเรียนกับร้านหน้าหมู่บ้าน ขายดีมากๆๆ อร่อยด้วย ไปขายอยู่กะเค๊าเลย3วัน คุ้มค่ะ ลงทุนก็หลักแสนค่ะ ทำเองไม่ใช่เฟรนไซส์ แก้ไขเมื่อ 09 ก.พ. 53 17:42:06 จากคุณ : lekfee De' Milk เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 17:34:45

ความคิดเห็นที่ 12   เอาหลักง่ายๆมาให้ครับ ก่อนเปิดร้าน(จำได้ว่าเคยตอบไว้ที่กระทู้ไหนก็ไม่รู้ นาละ เอาเป็นว่าเขียนให้ใหม่อีกทีล่ะครับ อาจจะมีเพิ่มเติม) 1. ไปกินกาแฟหลายๆร้านครับ กินเยอะ ได้เปรียบครับ ผมว่าพ่อครัวจะเก่ง ก็ต้องลองชิมเยอะๆ จะได้รู้รสชาติที่แตกต่างกันไป 2.หาข้อมูลเบื้องต้นตามเวปไซต์ครับ เวปนอกได้ยิ่งดีครับ 3.ไม่แนะนำให้อ่านหนังสือกาแฟจำพวก หนังสือที่เป็น coffee receipe ครับ ถ้าวันนึงคุณเข้าใจกาแฟแล้ว คุณจะรู้ว่า สูตรชงมันเรื่องขี้ปะติ๋ว เรื่องสำคัญ คือเรื่องช็อต และ ความเข้าใจในกาแฟครับ ลองหาหนังสือเกี่ยวกับกาแฟจำพวกที่ว่าด้วยความรู้เรื่องกาแฟจริงๆ (ซึ่งน้อย นะครับ สำหรับที่ผมเคยเห็นอยู่) ทว่าโดยส่วนตัวผมเอง ผมชอบหนังสือ Barista Book ของ จิฮิโร่ โยโกยาม่าครับ อ่านแล้วได้อารมณ์ฮึกเหิมอยาก ทำกาแฟให้มันดีเลิศขึ้นมาจริงๆ 4.ไปเรียนเลยครับ แต่อย่าไปเรียนกับที่ที่สอนแค่ "สูตรกาแฟ" นะครับ เพราะอย่างที่ผมบอกแต่แรก สูตรน่ะเรื่องขี้ปะติ๋ว 5.ระหว่างที่ทำข้อหนึ่งถึงข้อสี่ ก็ลองชำเลืองมองหาทำเลดูครับ ที่สำคัญ เมื่อได้ทำเลแล้ว อย่าหลอกตัวเองนะครับว่าจะขายดี ให้คิดว่า "ขายได้ น้อยที่สุด" จะได้เท่าไหร่ อย่าไปคิดแบบว่า "ตรงนี้ได้ 100แก้ว++แน่ๆ" แต่ให้ลองดูแบบว่า "ตรงนี้ สัก40-50แก้วน่าจะไหวนะ" คาดในมุมที่ต่ำที่สุด แล้วจากนั้นลองมาคำนวน fix cost แต่ละเดือน ค่าเช่า ค่าเครื่อง ค่าเด็ก ฯลฯ สำหรับต้นทุนกาแฟ ผมคำนวนเฉลี่ยไว้อยู่ราวๆ 13.50 - 18 บาท/แก้ว 6.ได้ทำเล ได้อุปกรณ์ ได้วิชาแล้ว กระบี่จะคมก็ต้องหมั่นลับ(เกี่ยวป่ะเนี่ย) เอาเป็นว่า ก่อนจะเปิดร้าน ซ้อมก่อนนะครับ ซ้อมชงก่อน เมล็ดกาแฟที่ เขาแถมมาน่ะ อย่างกกะจะเก็บเอาไปขายนะครับ เอามาหัดชงให้คล่องๆ ก่อน โดยมากจะได้แถมราวๆ 5 กิโล ผมอยากให้ทำตามนี้นะครับ 1 กิโล เอามาตั้งเครื่องบด 2 กิโล เอามาหัดทำช็อต 2 กิโล เอามาปรับสูตร คราวนี้เราก็จะมั่นใจขึ้นล่ะครับเวลาจะเปิดร้าน 7.อย่าเปิดร้านตามฤกษ์นะครับ ผมเห็น"เลิก"มาเยอะละ ถ้าเรายังไม่พร้อม อย่าเพิ่งรีบร้อนนะครับ ลูกค้าเขาคงไม่ให้อภัยเราหรอก แม้เราจะบอกว่า พอดีเพิ่งเปิดร้าน หรืออะไรก็ตามแต่ เขาก็อาจจะรับฟัง แต่จะกลับมากินอีกครั้งมั้ย โอกาสน้อยนะครับ แต่ถ้ามาแบบชัวร์ปึ้ก แบบ มากินแล้วลูกค้ารู้สึกว่าใช่เลย โอกาสได้ลูกค้าประจำสูงล่ะครับ แล้วลูกค้า ประจำนี่แหละครับ ที่จะพาลูกค้าใหม่ๆมาให้ 8.อีกเรื่องที่สำคัญ คนที่จะขายของได้ก็คือ ตัวของคุณเอง และ บาริสต้า ในร้านนี่แหละครับ ผมยังจำคำนึงที่คุณวุฒิ แห่งร้าน seat2cup เคยพูด เอาไว้ว่า "บาริสต้าที่ดี คือคนที่ขายกาแฟได้" ใช่ครับ ถึงคุณจะชงกาแฟได้ประเสริฐแค่ไหน แต่ทำหน้าเป็นตูด คุยโทรฯ กะแฟนแล้วเดินม้วนผมไปๆมาๆ หนีบโทรไว้หูนึง ทำกาแฟไปด้วย ผมว่า คงไม่มีลูกค้าที่ไหนแฮปปี้หรอกนะครับ บางร้าน กาแฟไม่ดี แต่ขายดี เพราะ อัธยาศัยใจคอรวมไปถึงเซอร์วิสมายด์ของพนักงาน ก็ทำให้เขากลับมาทาน ที่ร้านเราอีกได้ ผมยกตัวอย่างสักร้าน มีร้านอยู่ร้านนึง (ลูกค้าผมเอง) ใช้กาแฟราคาเกือบถูกสุด แต่ด้วยความที่เจ้า ของร้านสามารถพูดคุยกับทุกคน แถมจำชื่อแทบจะทุกคนได้ นั่นแหละครับ ที่จะเป็นสเน่ห์ของร้านกาแฟของเราที่จะทำให้ลูกค้าติดได้ นึกไม่ออกแล้วล่ะครับ แต่ก็ประมาณนี้แหละ แต่ก่อนอื่น ต้องเคลียร์ตัวเองก่อนนะครับ ว่าเรารัก และอยากจะทำกาแฟจริง ไม่ใช่แฟชั่นอย่างที่ คคห.7 ว่าไว้นั่นล่ะครับ เคลียร์ตัวเองก่อน ถ้าตอบคำถามตัวเองได้แล้ว มั่นใจ พร้อม แล้วก็ลุยเลยครับ แก้ไขเมื่อ 10 ก.พ. 53 16:04:19 จากคุณ : Tobio Ezprezzo เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 16:03:10

ความคิดเห็นที่ 13 ตัวแปรไม่ใช่น้อย แต่ก็ไม่เยอะนะครับ ทำร้านกาแฟเนี่ย สู้ๆ นะครับ กินกาแฟ ห่วยๆ 10 แก้ว สู้กินกาแฟดีๆ แก้วเดียวไม่ได้จริง ใครว่าจริงบ้าง... กาแฟดีๆ กินแก้วเดียว รู้สึกเหมือนรสชาติและกลิ่น มันอยู่ได้นานกว่า จริงๆ ผมรู้สึกอย่างนั้น แล้วผมก็คิดว่ากาแฟที่ขายตามข้างถนนแถวๆ ตึกที่มีอ๊อฟฟิตเยอะๆ หนะ ไอ้ตัวเม็ดกาแฟก็คล้ายๆกัน แต่ตัว นม.. ที่เขาใส่ไปในกาแฟนี่สิ ทำเสียรสชาติหมดเลย ผมว่า นม ที่ใส่เป็นตัวแปรที่สำคัญเลยนะเนี่ย ฮุฮุ ความเห็นส่วนตัวครับ..อย่าว่ากานนะ จากคุณ : F:A:B:R:E เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 11:42:09

ความคิดเห็นที่ 14   เป็นคนชอบดื่มกาแฟมาก คนนึงกินมาแล้วแทบทุกยี่ห้อค่ะ แล้วก็เคยเป็นคนขายกาแฟและสั่ง ยี่ห้อกาแฟมาขายเองด้วย แต่เป็นร้านอาหารที่อังกฤษ น่ะค่ะ ไม่ใชที่นี้ การเปิดร้านกาแฟ กำไร ดี ถึงดีมากค่ะ เพราะต้นทุนของเมล็ดกาแฟนิดเดียวเท่านั้น เอง แต่มาพูดถึงการลงทุนเปิดร้าน นั้นมันขึ้นอยู่กับร้านแบบไหนที่อยากจะเปิด เป็นร้านข้างทางแบบ ขายกาแฟเนส หรือ เป็นร้านนั่งกินแบบน่ารัก ถ้าเป็นร้านข้างทางก็ ลงทุนตำค่ะไม่กี่พัน แต่ราคาและรูปแบบก็จะเป็นไปตามนั้น ส่วนร้านกาแฟแบบตามปั้มน้ำมัน นั้น เมื่อก่อนจะหลักสาม ถึง สี่แสนบาท แต่เนื่องจากกลุ่มลูกมากขึ้นเรื่อยๆ ทางปั้มน้ำมันและร้านกาแฟเบนร์ ดังๆ จึงทำสัญญาด้วยกัน เดี๋ยวนี้ราคาร้านกาแฟตามปั้มนั้น รวมทุกอย่างมาให้คุณ ก็หลักล้านแล้วค่ะ ไม่ได้ล้อเล่นด้วย หลักล้านจริงๆ เพราะค่าแบรน์ก็ สามสี่แสนแล้ว ราคาขึ้นแบบน่าขนลุกเลยทีเดียว  ภ้ามีทุนน้อยก็ทำเล็กไปก่อนค่ะ อย่าเป็นหนี้สิน ถ้ากำลังไม่มี แล้งค่อยๆขยายเอาก็ได้          สำหรับ ดิฉันเองทำ ธุรกิจเครือข่ายค่ะ อิสระทางด้านเวลา และไม่มีเจ้านายไม่ว่าเป็นการลงทุน หมื่น หรือ สี่หมื่น นั้น มันไม่มากสำหรับตัวเอง เพราะเก็บไว้ในธนาคารก็ไม่รวย ถ้าศึกษาดีแล้ว ทั้งบริษัท และวิธีการบริหาร ลองพิจารณาดูน่ะค่ะ สำหรับบางคนที่ เบื่องานประจำ หรือยังไม่รู้จะทำอะไร ยังไม่ต้องรีบตัดสินใจค่ะ ศึกษารูปแบบธุรกิจดูก่อน บางที่อาจรู้ได้ว่าธุรกิจเครือข่าย ตอบคุณได้ทุกอย่าง          I am agel   MSN  poy_uk@hotmail.com จากคุณ : pannie (pannie53) เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 53 18:04:27