ความคิดเห็นที่ 1 เช้านี้มาดูกันว่าไข่คนนั้นทำกันอย่างไร อย่างแรกเลยคือต้องมีไข่ไก่ไม่ใช้ไข่คน 2 ใบ ตอกใส่ชามแล้วตีให้ไข่ขาวและไข่แดงเป็นเนื้อเดียวกัน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 22:37:33

ความคิดเห็นที่ 2 เหยาะเกลือและพริกไทยเล็กน้อย ตามด้วยนมสดแล้วตีให้ให้เป็นเนื้อเดียวกันอีกครั้ง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 22:38:06

ความคิดเห็นที่ 3 ตั้งกระทะไฟปานกลาง ใส่เนยเค็มลงไป 1 ช้อนโต๊ะ รอจนเนยละลาย ร่อนกระทะให้เนยเคลือบทั่วหน้ากระทะ จากนั้นเทส่วนผสมลงในกระทะ เมื่อส่วนผสมเริ่มร้อนใช้ไม้พายคน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 22:38:46

ความคิดเห็นที่ 4 คนไปเรื่อยๆไม่ให้ไข่ไหม้ติดกระทะ คนไปจนไข่สุกเหลืองจึงตักใส่จาน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 22:39:10

ความคิดเห็นที่ 5 จะโรยเกลือหรือพริกไทยเพิ่ม หรือจะราดซอสมะเขือเทศหรือเหยาะซอสปรุงรสเพิ่มก็ได้ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 22:39:35

ความคิดเห็นที่ 6 ต่อด้วยการดื่มกาแฟชมข่าวภาคเช้า จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 22:40:02

ความคิดเห็นที่ 7 9.45 น.เจ้าภาพกับเพื่อนอีกคนไปว่ายน้ำ ที่เหลืออยู่ว่างจึงชวนกันขับรถไปเที่ยวสุสานสอย 75 ล้านปี ที่อยู่ห่างจากที่พักแค่ 2 กม. จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 22:40:30

ความคิดเห็นที่ 8 จอดรถแล้วเดินลงบันไดไปที่ชายหาด เสียค่าผ่านประตูคนละ 20 บาท จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 22:40:57

ความคิดเห็นที่ 9 ทางเข้าบอกว่า 75 ล้านปี แต่ป้ายนี้บอกว่า 40 ล้านปี สุสานหอยแห่งนี้เป็นแห่งเดียวในประเทศไทย และเป็น 1 ใน 3 แห่งของโลก อีก 2 แห่งคือที่อเมริกาและญี่ปุ่น   เกิดในยุค Tertiary Age หรือประมาณ 40 ล้านปีมาแล้ว บริเวณนี้เคยเป็นหนองน้ำ มีหอยอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยา หอยเหล่านี้ได้ทับถมกันโดยมีหินปูนในทะเลเข้ามาเป็นตัวประสาน กลายเป็นหินแข็งคล้ายแผ่นคอนกรีตหล่อด้วยซากหอย ทางธรณีวิทยาเรียกว่า Shelly Limestone จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 22:41:29

ความคิดเห็นที่ 10 ก่อนลงถึงหาดมีตัวอย่างลักษณะของหอยชนิดต่างๆ ที่ทับถมกันกลายเป็นสุสานหอยจัดแสดงอยู่ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 22:41:56

ความคิดเห็นที่ 11 โดยแบ่งเป็นจุดเดินชม 3 จุด จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 22:42:25

ความคิดเห็นที่ 12 มีการกั้นรั้วบางจุดเพื่อไม่ให้ซากหอยเสียหายจากการเหยียบย่ำ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 22:42:52

ความคิดเห็นที่ 13 สุสานหอยมีความกว้างประมาณ 1,300 เมตร ทางซ้ายมือมีความยาวประมาณ 1,000 เมตร หอยทางด้านนี้เป็นหอยตัวใหญ่เห็นเด่นชัด ขนาดตัวหอยยาวประมาณ 4-5 เซ็นติเมตร เสียดายที่น้ำขึ้นมองไม่เห็น จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 22:43:23

ความคิดเห็นที่ 14 จุดที่ 2 ซึ่งคือจุดตรงกลางที่ทุกคนกำลังยืนอยู่ เป็นบริเวณที่สำคัญและมีชื่อเสียงมากที่สุด รู้จักกันในนามของ"สุสานหอย" ลักษณะเป็นหอยขมตัวป้อมสั้นยาวไม่เกิน 2 เซ็นติเมตร ความหนาของชั้นหอยหนาประมาณ 1-2 เมตร ลึกจากชั้นหอยลงไป เป็นชั้นของถ่านหินลิกไนต์หนาประมาณ 10-15 เซ็นติเมตร มองดูแล้วเหมือมีใครเทแผ่นซีเมนต์โดยมีหอยขมแทนหินกรวด จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 22:44:10

ความคิดเห็นที่ 15 ด้านขวาเป็นทางเลียบหาดยาวประมาณ 300 เมตร ลักษณะเป็นหอยขมตัวป้อมสั้นยาวประมาณ 2 เซ็นติเมตร ถ้ามาช่วงน้ำลงจะสวยงามมากกว่านี้ เพราะจะมองเห็นชั้นหินซ้อนกันเป็นแผ่นสวยงาม จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 22:44:37

ความคิดเห็นที่ 16 สวัสดีครับผม ตามไปกระบี่ด้วยครับ อาสาม จากคุณ : นมขาวเย็น เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 22:44:59

ความคิดเห็นที่ 17 ขากลับไปลานจอดรถ แวะดูร้านขายเปลือกหอยและสร้อยหอยมุกที่มีอยู่หลายร้าน สร้อยคอเส้นยาวเส้นละ 250 บาท ถูกกว่าซื้องานโอทอปกว่า 3 เท่า จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 22:45:05

ความคิดเห็นที่ 18 นมขาวเย็น...วันนี้โดนปาดก่อน 40 คห. .................................................................. ขามาเห็นป้ายชวนชมปลาสวยงามฟรี ของศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งกระบี่ ขากลับจึงเลี้ยวซ้ายเข้าไปชม จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 22:46:18

ความคิดเห็นที่ 19 ด้านซ้ายของถนนทางเข้าเป็นบ่อเลี้ยงปลาในกระชังขนาดใหญ่ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 22:46:41

ความคิดเห็นที่ 20 มีทางเดินเป็นวงกลมให้เดินชมปลาในกระชัง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 22:47:07

ความคิดเห็นที่ 21 มีทั้งกระชังเหล็กแบบกลม จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 22:47:50

ความคิดเห็นที่ 22   ตามมากินไ่ข่คนก่อน แล้วตามเที่ยวต่อค่ะอาสาม ^^ จากคุณ : Olive-ay เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 22:48:01

ความคิดเห็นที่ 23 และกระชังไม้สี่เหลี่ยม ปลาที่เลี้ยงในกระชังมีทั้งปลาสวยงามเช่นปลาโนรี ปลาเศรษฐกิจเช่นปลาเก๋าลายจุด ปลาหมอทะเล แพงที่สุดคือปลานกแก้วนโปเลียนความยาวเกือบครึ่งเมตร ราคากิโลฯละ 4 พันบาท แต่ละกระชังไม่มีป้ายบอกชื่อปลา เนื่องจากเป็นการเลี้ยงแบบหมุนเวียนเปลี่ยนชนิดของปลาไปเรื่อยๆ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 22:48:29

ความคิดเห็นที่ 24 Olive-ay ...อย่าเพิ่งวางช้อนส้อมนะจ๊ะ .................................................................. เดินไปชมส่วนอื่นของศูนย์แห่งนี้กันบ้าง เรือนหลังคาสีขาวเป็นบ่อจัดแสดงสัตว์น้ำริมชายฝั่งเช่นดาวทะเล ปลิงทะเล หนอนทะเล เป็นต้น จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 22:49:39

ความคิดเห็นที่ 25 โรงเพาะแพลงตอน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 22:50:08

ความคิดเห็นที่ 26 จุดชมปลาสวยงาม จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 22:50:31

ความคิดเห็นที่ 27 มีตู้จัดแสดงปลาหลายตู้ แต่ไม่สวยแบบของเอกชนเนื่องจากความจำกัดของงบประมาณ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 22:51:02

ความคิดเห็นที่ 28 พนักงานกำลังทำความสะอาดบ่อเตรียมสำหรับการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทะเล จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 22:51:33

ความคิดเห็นที่ 29 11.00 น.รวมพลนั่งรถไปส่งผู้การเรือและอาจารย์พาณิชย์พระนครขึ้นเครื่องบินกลับกรุงเทพฯก่อน จากนั้นขับรถไปทานข้าวเที่ยง ผ่านภูเขาที่มีหินงอกและหินย้อยสวยงาม มองเห็นได้จากด้านนอกหลายภูเขา จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 22:53:00

ความคิดเห็นที่ 30 ถนนในอำเภอเมืองกระบี่เป็นถนนราดยางอย่างดี และตัดผ่านภูเขาที่มีภูมิทัศน์สวยงามหลายแห่ง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 22:53:30

ความคิดเห็นที่ 31 นั่งรถมาเกือบครึ่งชั่วโมง โดยใช้เส้นทางไปหาดทับแขก ถึงแยกหาดคลองม่วงเลี้ยวซ้าย 12.05 น.มาถึงร้านอาหารที่เจ้าภาพแนะนำ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 22:54:03

ความคิดเห็นที่ 32 ร้านนี้มีชื่อว่าร้านสวนกล้วยไม้ ตั้งอยู่เลขที่ 57/1 หมู่ 6 ต.อ่าวนาง อ.เมืองจังหวัดกระบี่ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 22:54:36

ความคิดเห็นที่ 33 ด้านหน้าก่อนถึงทางเข้าร้านเป็นลานจอดรถยาวประมาณ 50 เมตร จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 22:55:11

ความคิดเห็นที่ 34 จากนั้นเป็นทางเดินไม้ผ่านสวนและลำคลอง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 22:55:50

ความคิดเห็นที่ 35 มีป้ายบอกไว้ชัดเจนว่าห้ามนำสัตว์เลี้ยงเข้ามาในร้านและไม่รับทำอาหารที่นำมา จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 22:56:40

ความคิดเห็นที่ 36 ได้โต๊ะนั่งริมลำธารที่มีการถมหินทำฝายทดน้ำ ทำให้เกิดน้ำตกเล็กๆช่วยเพิ่มบรรยากาศให้ร่มเย็นมากขึ้น จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 22:58:02

ความคิดเห็นที่ 37 ร้านนี้ปิดทุกวันจันทร์และครัวปิดเวลา 17.30 น. จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 22:58:29

ความคิดเห็นที่ 38 รายการอาหารบางส่วน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 22:59:43

ความคิดเห็นที่ 39 . จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 23:00:08

ความคิดเห็นที่ 40 มีน้องหนุ่ยคนใต้น่ารักมารับรายการอาหารที่สั่ง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 23:00:37

ความคิดเห็นที่ 41 อาหารสั่งอย่างละ 2 ที่ เริ่มด้วยสะตอผัดกะปิกับกุ้งสด 80 บาท จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 23:01:04

ความคิดเห็นที่ 42 จานนี้ถ้าทำทานเองที่บ้านจะบีบมะนาวลงไปเล็กน้อย จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 23:01:31

ความคิดเห็นที่ 43 หมูสามชั้นคั่วเกลือ 80 บาท จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 23:01:55

ความคิดเห็นที่ 44 รอหม่ำๆค่ะ จากคุณ : Q'Ty_NoiNA เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 23:02:00

ความคิดเห็นที่ 45 แกงส้มปลากะพงใส่ยอดมะพร้าวและออดิบที่เผ็ดสะใจ 80 บาท จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 23:02:19

ความคิดเห็นที่ 46   มีแค่ผัดสะตออย่างเดียวทั้งปีหนูก็อยู่ได้นะคะ อิอิ ^^ จากคุณ : Olive-ay เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 23:02:54

ความคิดเห็นที่ 47 Q'Ty_NoiNA ...อุ๊ย ! ล็อคอินใหม่ ....................................................................................... เป็นครั้งแรกที่ได้ชิมออดิบหรือต้นคูน กรอบๆไม่มีกลิ่นเหม็นเขียว จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 23:03:27

ความคิดเห็นที่ 48 Olive-ay ...กินสะตอมากฉี่เหม็นนา .................................................... น้ำพริกกุ้งเสียบ 100 บาท จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 23:04:49

ความคิดเห็นที่ 49 มาพร้อมผักสดหลายชนิด และลูกเนียงสีน้ำตาลที่มองดูคล้ายขิง หลายคนบอกว่ากลิ่นแรง แต่เคี้ยวไป 1 ลูกไม่มีกลิ่นแต่กรอบอร่อย จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 23:05:13

ความคิดเห็นที่ 50 ปลาทรายหรือปลาเห็ดโคนทอดขมิ้น 80 บาท จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 23:05:38

ความคิดเห็นที่ 51 ทอดกรอบหอมกลิ่นขมิ้นเคี้ยวได้ทั้งตัว เข้ากันดีกับกระเทียมเจียวที่โรยหน้ามาเต็มที่ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 23:06:06

ความคิดเห็นที่ 52 แกงเผ็ดเนื้อที่เรียกเหงื่อได้เยอะ เผ็ดทั้งพริกแกงและเผ็ดร้อนพริกไทย ชามนี้ 80 บาท เนื้อไม่ต้มจนเปื่อย เพื่อให้ค่อยๆเคี้ยวซึมซับความเผ็ดร้อน ทานกับข้าวสวยร้อนๆอร่อย จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 23:06:35

ความคิดเห็นที่ 53 ไก่ทอดที่ไม่ทราบราคาแต่ก็น่าจะ 80 บาทเช่นกัน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 23:07:04

ความคิดเห็นที่ 54 ผักเหมียงผัดไข่ 80 บาท จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 23:07:39

ความคิดเห็นที่ 55 เป็นครั้งแรกที่ได้ลอง อร่อยมาก จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 23:08:13

ความคิดเห็นที่ 56 ตบท้ายด้วยส้มตำปู จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 23:08:45

ความคิดเห็นที่ 57 ระหว่างทานข้าว ท่านผู้การโทรฯเรียกน้องมล ที่เป็นธุระช่วยหาไวน์ให้เมื่อคืนให้มาทานข้าวด้วยกัน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 23:09:12

ความคิดเห็นที่ 58 นั่งคุยกันจนถึง 13.15 น.จึงออกจากร้าน มื้อนี้รวมข้าวเปล่าหลายโถ น้ำดื่มและโซดา 1,360 บาท จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 23:09:44

ความคิดเห็นที่ 59 น้องมลบอกว่าวัดราษร์อุปถัมภ์ที่จังหวัดพังงา มีงานปิดทองฝังลูกนิมิตโดยจัดเป็นงานใหญ่ อีกทั้งเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มเพิ่งหายจากมะเร็ง อยากไปทำบุญสะเดาะเคราะห์ ผู้การจึงแนะนำให้เลยไปที่วัดถ้าพุงช้างในตัวเมืองจังหวัดพังงาด้วย จึงขับรถมุ่งหน้าไปจังหวัดพังงา โดยน้องมลฝากรถ BMW Z4 Coupe ไว้ที่ร้านสวนกล้วยไม้ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 23:10:14

ความคิดเห็นที่ 60 . จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 23:10:49

ความคิดเห็นที่ 61   มื้อนี้น่าทานทุกอย่างเลยค่ะอาสาม  ^_^ จากคุณ : Olive-ay เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 23:10:57

ความคิดเห็นที่ 62 ผ่านแยกทางเลี้ยวเข้าอ่าวลึก แวะเติมน้ำมันและถามทางที่อำเภอทับปุด ชาวบ้านบอกว่ามีงาน 9 วันและงานจบไปแล้วเมื่อคืน แต่ไหนๆก็มาถึงที่นี่แล้ว แวะเข้าไปชมวัดกันหน่อย น้องมลเองก็ไม่เคยมาที่วัดนี้ แต่เห็นนักท่องเที่ยวต่างชาติเหมารถมาเที่ยวที่วัดนี้กันบ่อยๆ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 23:11:27

ความคิดเห็นที่ 63 Olive-ay ...บรรยากาศดีแถมไม่แพงอีกต่างหาก .................................................................................... วัดราษฎร์อุปถัมภ์หรือวัดบางเหรียง ตั้งอยู่บนทางหลวงหมายเลข 4118 ทางเดียวกับทางไปอุทยานแห่งชาติเขาสก ตั้งอยู่บนยอดเขาล้าน ห่างจากที่ว่าการอำเภอทับปุด ประมาณ 11 กิโลเมตร วัดนี้นับว่าเป็นวัดที่มีสิ่งก่อสร้างรูปทรงสวยงามหลายหลัง อย่างโบส์ถเก่าที่ภายนอกเหมือนวัดไทยทั่วไปคือมีช่อฟ้าใบระกา แต่ตัวโบส์ถกลับสร้างเป็นรูปสี่เหลี่ยมคางหมู คือมีฐานกว้างแต่เพดานแคบ เสาทุกต้นไม่ตั้งตรงแต่เอียงลู่ขึ้นด้านบน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 23:12:56

ความคิดเห็นที่ 64 ไม่เว้นแม้แต่เสาไม้ภายในโบส์ถ เสาไม้ภายในโบส์ถแกะสลักลวดลายเป็นรูปหงส์เหมือนกับจะเป็นวัดมอญ พระประธานของโบส์ถเป็นพระพุทธชินราชจำลอง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 23:13:31

ความคิดเห็นที่ 65 โฮกกกกกกกกกก ตายกับของกินจริงๆด้วย ฮ่าๆ จากคุณ : คนตราหมี (RadoN) เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 23:13:32

ความคิดเห็นที่ 66 คนตราหมี (RadoN) ... ยัง ยัง ยังไม่หมด ............................................................................ ข้างโบส์ถเก่าคือโบส์ถหลังใหม่ที่ตั้งอยู่บนเรือสุพรรณหงส์(หงส์อีกแล้ว)ล้อมรอบด้วยสระน้ำ มีสะพานเดินข้ามไปโบส์ถหลังใหม่ ระหว่างทางเดินไปโบส์ถหลังใหม่ มีเศษประทัดกระจัดกระจายอยู่เต็มพื้นทางเดิน คาดว่าเมื่อคืนคงจุดฉลองโบส์ถใหม่ไปหลายหมื่นดอก จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 23:15:06

ความคิดเห็นที่ 67 แม้ว่าจะอยู่ระหว่างการเก็บกวาดทำความสะอาดวัด แต่ก็ยังพอมองเห็นร่องรอยการฉลองโบส์ถหลังใหม่ที่เมื่อคืนน่าจะฉลองกันจนสว่าง รอบสระน้ำเรือสุพรรณหงส์นั้นรายล้อมไปด้วยโคมไฟเป็นรูปสัตว์ชนิดต่างๆ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 23:15:40

ความคิดเห็นที่ 68 โคมไฟรูปสัตว์เหล่านี้สร้างอย่างสวยงาม ถ้าไม่มีภาพโบส์ถหลังใหม่อยู่เบื้องหลัง อาจนึกไปว่ากำลังเดินอยู่ที่งานเทศกาลโคมไฟที่หาดใหญ่หรือประเทศจีน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 23:16:08

ความคิดเห็นที่ 69 พระประธานไม่ทราบชื่อเพราะไม่มีใครอยู่ให้ถามในโบส์ถหลังใหม่ ที่น่าจะย้ายมาจากโบส์ถหลังเดิม จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 23:16:44

ความคิดเห็นที่ 70 . แก้ไขเมื่อ 11 ก.พ. 53 23:20:47 จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 23:18:42

ความคิดเห็นที่ 71 ลูกนิมิตเอกกลางโบส์ถหลังใหม่ และ 1 ใน 8 ลูกนิมิตรองรอบโบส์ถหลังใหม่ที่ตัดฝังไปเมื่อวาน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 23:21:18

ความคิดเห็นที่ 72 ขอแกงส้ม กับ แกงเนื้อ อย่างละถ้วย กับข้าวสวยสักหม้อนึกอ่ะคร้าบ โอย ท้องร้องยามดึกเลยครับอาสาม จากคุณ : 311025 เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 23:22:23

ความคิดเห็นที่ 73 311025...เง้อ ! อย่ามาแย่งน้องเอ้สิ ........................................................................... ภาพแกะสลักพุทธประวัติบนบานประตูเข้าโบส์ถหลังใหม่ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 23:25:17

ความคิดเห็นที่ 74 และภาพแกะสลักพุทธชาดกเรื่องพระเวสสันดรบนบานหน้าต่าง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 23:26:28

ความคิดเห็นที่ 75 จากวัดบางเหรียงมุ่งหน้าไปตัวจังหวัดพังงา ถึงทาง 3 แยกเลี้ยวขวาเข้าตัวเมืองจังหวัดพังงายังไม่เลี้ยว แต่แวะเติมน้ำมันที่ปั๊มน้ำมันเลย 3 แยกไปเล็กน้อย เป็นปั๊ม ปตท.ขนาดใหญ่ มองเห็นทิวเขานางหงส์อยู่ตรงข้าม สมัยที่ยังไม่มีการตัดถนนสายใหม่ การเดินทางไปหาดใหญ่และภูเก็ตโดยทางรถยนต์ จำเป็นต้องขับขึ้นลงภูเขา 2 ลูก หนึ่งคือเขานางหงส์ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความเปลี่ยว อีกหนึ่งคือเขาพับผ้าที่คดเคี้ยวไปมา ปั๊มนี้ยังมีศูนย์อาหารขนาดใหญ่ ที่ขายอาหารหลายชนิดไว้บริการนักเดินทางที่แวะมาเติมน้ำมัน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 23:27:26

ความคิดเห็นที่ 76 จากวัดบางเหรียงมุ่งหน้าไปตัวจังหวัดพังงา ถึงทาง 3 แยกเลี้ยวขวาเข้าตัวเมืองจังหวัดพังงายังไม่เลี้ยว แต่แวะเติมน้ำมันที่ปั๊มน้ำมันเลย 3 แยกไปเล็กน้อย เป็นปั๊ม ปตท.ขนาดใหญ่ มองเห็นทิวเขานางหงส์อยู่ตรงข้าม สมัยที่ยังไม่มีการตัดถนนสายใหม่ การเดินทางไปหาดใหญ่และภูเก็ตโดยทางรถยนต์ จำเป็นต้องขับขึ้นลงภูเขา 2 ลูก หนึ่งคือเขานางหงส์ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความเปลี่ยว อีกหนึ่งคือเขาพับผ้าที่คดเคี้ยวไปมา ปั๊มนี้ยังมีศูนย์อาหารขนาดใหญ่ ที่ขายอาหารหลายชนิดไว้บริการนักเดินทางที่แวะมาเติมน้ำมัน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 23:30:53

ความคิดเห็นที่ 77 นั่งรถกันมานาน เข้าห้องน้ำเสร็จแล้วแวะดื่มกาแฟกันที่ Cafe' Amazon ท้ายปั๊ม จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 23:36:30

ความคิดเห็นที่ 78 ข้างห้องน้ำมีแม่ค้าปูกระดาษกล่องลูกฟูกขาย"ปูดำ" โดยมัดเป็นพวงๆละ 4 ตัวขนาดใหญ่เล็กคละกันไป ขายพวงละ 100 บาท จำไม่ได้ว่ามีทั้งหมดกี่พวงแต่เหมาไปหมดในราคา 800 บาท ไม่ได้จะเอาไปทำปูอบวุ้นเส้นหรือปูผัดผงกะหรี่เป็นมื้อเย็น แต่จะเอาไปปล่อยที่ป่าชายเลนเพื่อสะเดาะเคราะห์ให้เพื่อน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 23:37:11

ความคิดเห็นที่ 79 ขับรถเข้าตัวเมืองจังหวัดพังงา ไม่ได้มาจังหวัดนี้กว่า 30 ปี จำได้ว่าตัวเมืองเล็กนิดเดียว ขับรถลงจากเขาผ่านตลาดก็พ้นเมืองแล้ว ทุกครั้งที่มาก็แค่มาขึ้นเรือไปเที่ยวเกาะปันหยี เขาตะปูและเขาพิงกัน แต่ถึงจะเล็กขนาดนี้ ก็ยังมีป้ายแสดงว่ากำลังจะมีการก่อสร้างหอคอยชมเมืองรูปร่างเหมือนถ้วยจูลิเม่ เข้าตัวเมืองจังหวัดพังงามาไม่ไกล ซ้ายมือของถนนเพชรเกษมติดกับศาลากลางจังหวัดหลังเก่า คือที่ตั้งของวัดประพาสประจิมเขตหรือวัดพุงช้าง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 23:37:48

ความคิดเห็นที่ 80 ที่ได้ชื่อนี้ก็เพราะมีภูเขาที่มีลักษณะเหมือนช้างหมอบอยู่ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 23:38:13

ความคิดเห็นที่ 81 ถ้ำพุงช้างเป็นถ้ำขนาดใหญ่ ปากถ้ำมี 2 ทาง ด้านหนึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกและอีกด้านหนึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกของเขาช้าง ตั้งอยู่ในวัดถ้ำพุงช้างหรือวัดประพาสประจิมเขต เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีเคยเสด็จมาที่นี่ ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยรูปทรงต่างๆงดงามมาก ผนังถ้ำบางแห่งมีผลึกของแร่แคลไซต์ที่ส่องประกายวาวเมื่อต้องแสงไฟ พื้นถ้ำมีธารน้ำไหลผ่านตลอดทั้งปี บางช่วงมีน้ำลึก การเข้าชมภายในถ้ำจึงต้องมีแสงสว่างและคนนำทาง ถ้ำแห่งนี้มีตำนานเล่าว่า สมัยก่อนมีชายชื่อ"ตายมดึง" เป็นคนเร่ร่อนขออาศัยอยู่กับ"ตาโจงโดง"ซึ่งมีลูกสาวสวย ตายมดึงเป็นคนขยันช่วยงานบ้านทุกอย่าง ตาโจงโดงจึงยกลูกสาวให้ ทั้ง 2 ออกมาตั้งครอบครัวและทำสวนทำไร่ ในขณะที่ไร่นาออกผลงอกงามใกล้วันเก็บเกี่ยว ปรากฏว่ามีช้างโขลงหนึ่งมาเหยีบย่ำทำลายจนหมด ตายมดึงเสียใจและโกรธมาก คว้าหอกออกตามล่าช้างโขลงนั้น แต่กลับไปพบช้างของตางุ้มและคิดว่าเป็นช้างป่า จึงใช้หอกแทงที่ท้อง นำตับไตไส้พุงมาทำอาหารกินและตัดงาออกมาด้วย โดยหารู้ไม่ว่าช้างเชือกนั้นไร้ซึ่งความผิด เมื่อช้างตายจึงกลายเป็นเขาช้าง ส่วนแผลที่หอกทะลวงแทงท้องกลายเป็น"ถ้ำพุงช้าง" เขาทางใต้มีตำนานมากจริงๆ อีกเขาที่มีตำนานเล่ากันเป็นเรื่องสนุกสนานก็คือ เขาตาม่องล่ายที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 23:38:47

ความคิดเห็นที่ 82 จากปากถ้ำถึงปากถ้ำอีกด้านหนึ่ง มีระยะทางประมาณ 1,200 เมตร(น่าจะยาวเป็นอันดับ 2 รองจากถ้ำลอดที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน) การเที่ยวชมต้องนั่งเรือแคนู เสียค่าเรือคนละ 200 บาทและใช้เวลาประมาณ 45 ถึง 1 ชั่วโมง นอกจากนี้ถ้ำพุงช้างยังเป็น 1 ใน 2 แห่งของประเทศไทย ที่เป็นที่อาศัยของค้างคาวกิติ ค้างคาวที่เล็กที่สุดในโลกอีกด้วย จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 23:39:17

ความคิดเห็นที่ 83 น่าเสียดายที่เรามาถึงถ้ำพุงช้างหลัง 16.00 น.ซึ่งเป็นเวลาปิดให้บริการของเรือนำเที่ยวจึงไม่ได้ลอดพุงช้าง แต่ที่ปลายสะพานข้ามไปนั่งเรือนำเที่ยวนั้น มีถ้ำแคบๆขนาดเดินได้ทีละคน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 23:39:43

ความคิดเห็นที่ 84 และสามารถเดินทะลุมาออกด้านซ้ายได้โดยมีความยาวของถ้ำประมาณ 20 เมตร พวกเราจึงเดินลอดท้องช้างที่ถ้ำนี้แทน ภายในถ้ำมืดมาก และไฟฉายก็อยู่ในกระเป๋าสะพายที่ไม่ได้นำมาด้วยเพราะไม่คิดว่าจะมาเที่ยวถ้ำ ดีที่พกแฟลชใหญ่มาด้วย จึงปรับโหมดแฟลชเป็น Strobe Flash หรือแฟลชแบบกระพริบถี่ช่วยนำทาง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 23:40:17

ความคิดเห็นที่ 85 แผนผังแสดงจุดเที่ยวชมธารน้ำภายในถ้ำพุงช้าง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 23:41:03

ความคิดเห็นที่ 86 หน้าถ้ำมีเนินสูงประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลอง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 23:41:44

ความคิดเห็นที่ 87 มาถึงจังหวัดพังงา เพื่อนจากสุราษฎร์ธานีแนะนำให้ซื้อหมูสะเต๊ะเจ้าดังของจังหวัดกลับไปทานเป็นมื้อเย็น ร้านนี้มีชื่อว่าร้านสะเต๊ะโกรัญ เดิมขายอยู่ริมถนนเพชรเกษมบริเวณตลาด แต่ปัจจุบันย้ายมาขายอยู่ในซอยถ้ำตาปาน เลยจากวัดพุงช้างมาไม่ไกล โดยขายอยู่ที่ปากซอยถ้ำตาปาน 4 จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 23:44:59

ความคิดเห็นที่ 88 มาถึงร้านสะเต๊ะโกรัญหลัง 5 โมงเย็นพอดี โกรัญกำลังปิ้งสะเต๊ะหอมฉุยอยู่ที่หน้าร้าน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 23:45:40

ความคิดเห็นที่ 89 ป้ายบอกว่าเปิด 15.00-19.00 น.และเปิดทุกวัน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 23:46:09

ความคิดเห็นที่ 90 แต่ยังไม่ทันอ้าปากสั่ง โกรัญก็บอกว่าหมดแล้ว แต่คุณผู้หญิงก็ไม่ยอมแพ้ หมูและไก่สะเต๊ะหมด ขอซื้อน้ำจิ้มก็ยังดี ทีแรกแฟนโกรัญไม่ยอมขายให้บอกว่าไม่เคยขาย แต่สุดท้ายเจอลูกอ้อนว่าอุตส่าห์ขับรถมาจากกรุงเทพ จึงตักน้ำจิ้มพร้อมอาจาดให้อย่างละถุงโดยไม่คิดเงิน แล้วจะไปจิ้มหมูสะเต๊ะที่ไหนล่ะ ? ขึ้นรถปั๊บท่านผู้การก็โทรฯไปหาแม่บ้านที่วิลล่าทันที พร้อมทั้งบอกว่าเย็นนี้อยากทานหมูและไก่สะเต๊ะ น้ำจิ้มและอาจาดไม่ต้อง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 23:46:52

ความคิดเห็นที่ 91 ออกเดินทางกลับจังหวัดกระบี่ที่อยู่ห่างจากจังหวัดพังงา 86 กม. ระหว่างทางแวะจอดซื้อปลาสีเสียดตากแห้งซึ่งไม่มีขายที่กรุงเทพ เอาขึ้นรถไม่มีกลิ่นคาวแต่กลับหอมอ่อนๆ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 23:47:27

ความคิดเห็นที่ 92 เลยมาไม่ไกลมีร้านค้าขายเครื่องจักสาน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 23:47:59

ความคิดเห็นที่ 93 น้องมลขอแวะซื้อกังหันลมที่ด้านท้ายเป็นตัวไก่ราคา 300 บาท 1 ชุดไปติดแก้ฮวงจุ๊ยที่บ้าน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 23:48:26

ความคิดเห็นที่ 94 เลยมาอีกไม่ไกล น้องมลให้เลี้ยวขวาที่ปากทางเป็นทางเข้าร้านอาหารซึฟู้ด ยังแซวกันว่าเปลี่ยนใจเอาปูดำไปให้ร้านซีฟู้ดทำกินหรืออย่างไร ระหว่างทางชาวบ้านมองด้วยความสงสัย ว่ารถจากกรุงเทพฯคันนี้ ขับเข้ามาถนนซึ่งเป็นทางตันและ 2 ข้างทางเป็นสวนปาล์มทำไม ปรากฏว่าสุดถนนเป็นป่าชายเลนให้ปล่อยปูดำที่ซื้อมา ยกมือจบอธิษฐานกันแล้วใช้คัทเตอร์ตัดเชือกปล่อยปูกันด้วยความทุลักทุเล เพราะปูมันไม่รู้ชูก้ามขู่"อย่าเข้ามานะเว้ย กูหนีบปิกาจู๋มมรึงขาดแน่ๆ" จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 23:49:34