ความคิดเห็นที่ 1 ผมเคยกินครั้งแรกในงานบวชลูกชายเพื่อนที่วัดฉลอง ภูเก็ต เพื่อนร่วมโต๊ะทุกคนชมเป็นเสียงเดียวกันว่า อร่อย จนต้องขอซ้ำหลายชาม ส่วนตัวผมแอบเข้าไปคุยกับแม่ครัว ได้ความว่าเป็นคนรับเหมาจัดทำอาหารเลี้ยงตามงานวัด  ผมขอเบอร์โทรมาด้วย จะค้นให้ถ้าต้องการ วิธีทำแกงจืดก็ไม่ยาก พื้นๆ ต้มน้ำซุปไก่ ซุปกระดูกหมู เลือกกระดูกที่เขาเรียก ??? จำไม่ได้แล้ว แต่ไม่ใช่ "คาตั้ง" เครื่องประกอบในแกงจืด มีเต้าหู้ ผัก ฯลฯ พวกนี่ของพื้นๆ ปรุงรสด้วย รสดี ฯลฯ คงไม่ต้องบอกรายละเอียดนะครับ เคล็ดลับ .. อยู่ที่ปลาเค็ม ทำยังไงจึงไม่คาว v v v แก้ไขเมื่อ 21 ก.พ. 53 17:23:34 จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 53 17:19:09

ความคิดเห็นที่ 2 ปลาเค็มที่ใช้ เขาเรียกปลาสีเสียด (ชื่อภูเก็ต) คนกรุงเรียก ปลาสละ จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 53 17:20:15

ความคิดเห็นที่ 3 ลักษณะเฉพาะของปลา สละ ที่ลำตัวมีจุดดำ 5 จุด ผู้ใหญ่มีเรื่องเล่าว่า เป็นปลาเทวดา จุดดำ คือ รอยนิ้วมือของเทพที่จับปลา ผู้เฒ่าบางคนไม่กินปลานี้ จึงเหลือรอดมาให้พวกผมเด็กรุ่นหลังได้ หม่ำ กัน อร่อย จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 53 17:27:35

ความคิดเห็นที่ 4   เอาเค้าหู้ขาวมาหั่นเป็นชิ้นทอดำพอเหลือง ทิ้งไว้ ตั้งน้ำซุปใส่ขิงทุบ พอเดือดใส่กระดูกปลาเค็มนะ ตามสูตรภูเก็ตไม่ใส่เนื้อใส่แต่กระดูก หมูสามชั้นหั่นชิ้น ต้มจนเดือดใส่เต้าหู้ชิมรสดู เพราะกระดูกปลาเค็มมันมีความเค็มอยู่ อาจเติมน้ำตาลนิดนึงให้ออกรสหวานเค็ม หอมขิง ลองทำดูนะ เพราะที่บ้านทำแบบนี้ ถ้าไม่แน่ใจลองเมล์มาถามที่หลังบ้านดูอีกทีนะ จากคุณ : เด็กภูเก็ตปุ้นเต่ (fahsaipkt) เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 53 17:31:38

ความคิดเห็นที่ 5 ผมหอบหิ้วปลาสละจากเกาะช้าง ขนาด 1.7 กก. มา1ตัว คนขายหั่นเป็นชิ้นงามๆพร้อมที่จะทอด  กระดูกก็สับมาให้ ยังเป็นห่ออยู่ในตู้เย็น ต้องไปรื้อเอาเฉพาะกระดูกมาลองปรุงเมนูนี้แล้วละครับ ขอบคุณเจ้าของสูตรครับผม จากคุณ : ลุงทอม เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 53 13:05:31