ความคิดเห็นที่ 1 สำหรับกรณีของพี่แอ๊ด  เท่าที่ทราบจากกระทู้แจ้งข่าว พี่แอ๊ดมีโรคประจำตัวอยู่ก่อนทั้งหอบหืดและมีหินปูนเกาะลิ้นหัวใจ ซึ่งเป็นสาเหตุของเรื่องเศร้าในวันนี้   วันที่ไม่มีพี่แอ๊ด นัทไม่ทราบว่าสำหรับคนอื่นๆ  มีพฤติกรรมการกินอยู่อย่างไร แต่ของตัวเองแล้ว   เป็นประเภท คนโง่ที่ทำร้ายตนเองเสมอ ด้วยการตามใจปาก  ดื้อ  รั้น  ทั้งที่รู้ตัวดีว่ามีโรคประจำตัว อาการทั้งหมดที่กล่าวมาในหัวกระทู้เพียบๆนั้น เป็นผลมาจากโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง ประจวบกับเป็นช่วงที่ร่างกายอ่อนเพลียเนื่องจากพักผ่อนไม่เพียงพอ และการไม่ใส่ใจควบคุมพฤติกรรมการกินและดูแลสุขภาพร่างกายตนเองให้ดี ส่งผลให้ระบบภายในร่างกายทำงานปั่นป่วนไปหมด จากคุณ : your_natty เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 09:48:42

ความคิดเห็นที่ 2   ตอนนี้อาการเป็นอย่างไรบ้างคะน้องนัตตี้  แล้วคุณหมอให้ปฏิบัติตัวยังไงคะ เป็นห่วงนะจ๊ะน้องสาว... จากคุณ : Olive-ay เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 09:51:03

ความคิดเห็นที่ 3 เป็นกำลังใจให้นะจ๊ะ... วันก่อนก็เพิ่งถามข่าวคราวของนู๋..อัพเดทจากเอ้..มาเหมือนกัน จากคุณ : anna_jang เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 09:53:39

ความคิดเห็นที่ 4 ขอให้น้องนัทพักฟื้นให้ร่างกายแข็งแรงเร็วๆนะคะ ช่วงนี้ห้องเรามีแต่เรื่องเศร้า เมื่อคืนรอดูขาใหญ่ก้นครัวออกตลาดสดสนามเป้า เห็นสัมภาษณ์พี่แอ๊ดช่วงหนึ่งด้วยค่ะ จากคุณ : เอม...! เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 09:53:54

ความคิดเห็นที่ 5 ไม่รู้แน่ว่า  เกิดขึ้นตัวแต่เมื่อไหร่ แต่ตรวจพบว่าเป็นเบาหวานโดยเป็นผลพลอยได้ มาจากการตรวจเลือดก่อนทำการผ่าตัดซีสต์ที่ปีกมดลูก เมื่อตอนอายุประมาณ 22 ปี  เมื่อพบว่าน้ำตาลในเลือดสูง จึงต้องคุมน้ำตาลก่อนทำการผ่าตัด  เพราะหากคุมไม่ได้ จะมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ   เกิดแผลอักเสบหรือไม่สมานกันได้ จากที่คิดว่าแค่ไปผ่าซีสต์  ก็ต้องไปหาหมอต่อเนื่องตลอดเพราะเป็นเบาหวาน แถมคุณหมอยังบอกอีกว่า   ที่เป็นซีสต์ตั้งแต่อายุแค่นั้น สาเหตุหนึ่งก็เกิดเพราะ "ความอ้วน" ของตัวเองนี่แหละ ที่ทำให้ฮอร์โมนในร่างกายไม่ปกติ   จนเกิดเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ คุณหมอแนะนำให้ลดน้ำหนัก   เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเป็นซ้ำ แถมยังอาจจะมีลูกยากอีกด้วย อาการที่เป้นตอนนั้นคือ มีอาการปวกกระดูกก้นกบอย่างรุนแรง ในช่วงเวลาที่มีประจำเดือน  เริ่มจากปวดไม่มาก จนกระทั่งปวดเสียจนไม่สามารถขยับตัวได้เป็นเวลา 5- 20 นาที รอบประจำเดือนก็ไม่ปกติ  บางครั้งจะขาดหายไปถึงครึ่งปี ทุกอย่างที่พิมพ์ในกระทู้นี้   เพื่อให้คนอ่านได้สังเกตุตัวเองด้วยนะคะ ว่าคุณมีอาการเหล่านี้หรือไม่    อยู่ในภาวะเสี่ยงหรือไม่ จากคุณ : your_natty เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 09:57:42

ความคิดเห็นที่ 6 พี่ขอบคุณน้องนัทตี้มากที่ช่วยเตือนภัยที่คุกคามมาเงียบๆ เพราะการกินอย่างไม่บันยะบันยัง พี่ยังห่วงอีกหลายคนที่ดื่มอย่างไม่ระมัดระวัง เพราะมีประสบการณ์ด้านนี้มาแล้ว จนต้องเลิกอย่างเด็ดขาด ก่อนที่จะตายไม่รู้ตัว แต่การกินนี่ มันฝืนเพราะของกินในนี้ มันอร่อยทั้งน้าน จากคุณ : eadsaa เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 09:58:07

ความคิดเห็นที่ 7 นับจากผ่าตัดมา   ก็ยังไม่สำนึกค่ะ ยังคงติดน้ำหวาน   กินข้าวจุ  กินของมันของทอด กินทุกอย่าง  อย่างที่ใจอยากจะกิน จะหยุดก็ต่อเมื่อ... 1. ตังค์หมด 2. ของที่อยากกินมันหมดแล้ว บอกตรงๆว่าแทบไม่รู้จักว่าการอิ่ม  มันเป็นยังไง อย่างดีก็แค่กินจนจุก   หายจุกก็กินได้ใหม่ เพราะเบาหวาน   เป็นโรคที่เบื้องต้นยังเป็นไม่มากนัก ก็จะไม่ค่อยมีอาการของโรคปรากฎให้เห็น ไม่เจ็บ  ไม่ปวด   ไม่ทรมาน จนกระทั่งเพื่อนสนิทของเบาหวานมาเยี่ยม มันคือ "โรคความดันโลหิตสูง" นั่นเองค่ะ ภายหลังจากตรวจพบเบาหวานได้ 2 ปี ก็พบว่า ความดันโลหิตสูง   ไต่ไปที่ระดับราวๆ 160 /100 ประมาณนี้ค่ะ อาการคือ ปวดท้ายทอย   ไล่ไปจนถึงขมับและเบ้าตา อื่นๆ คือ รู้สึกวูบๆ แปลกๆ  นอนก็ไม่ค่อยหลับ ศรีษะต่ำไม่ได้   ต้องนอนหมอนสูงๆ หน่อย เป็นมากๆเข้าถึงขั้นต้องเกาะเก้าอี้นั่งหลับทั้งอย่างนั้น จากคุณ : your_natty เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 10:03:31

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณ..สำหรับข้อมูลดีๆนะค่ะ ตั้งแต่มีลูก....ก็ตรวจสุขภาพตัวเองทุกปีเลยค่ะ แบบว่ากลัวมากๆ ส่วนพฤติกรรมการกินเนี้ยเปลี่ยนแปลงยากจังคะ จากคุณ : สาววิเศษ เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 10:03:47

ความคิดเห็นที่ 9 เคยได้ยินมาแต่ว่า   คนสูงอายุเท่านั้นที่เป็นกัน อายุน้อยๆอย่างเรา  ยังไม่ทันจะเลขสาม เป็นกะเขามั่ง   คงไม่เป็นไรเท่าไหร่หรอก ยาก็ไม่ค่อยจะกิน   อาหารก็ไม่ค่อยจะควบคุม ยิ่งเข้าก้นครัวมา  ละลานตาไปหมด ทั้งบุฟเฟ่ห์สารพัด   ทั้งสูตรอาหารน่าอร่อย ทั้งร้านอาหารมากมายน่าลองทั้งนั้น ด้วยอุปนิสัยในการกินที่ไม่ดีอยู่แล้ว  บวกกับแรงกระตุ้น ทำให้ยิ่งกิน  กิน  และกิน  เพราะถือว่าตายไปแล้วไม่ได้กิน กินกินเข้าไปเถอะ    ตักตวงความสุขที่ปลายลิ้น กินข้าวนอกบ้าน  กินบุฟเฟ่ห์ประจำทุกสัปดาห์ บางสัปดาห์ก็สองหน    ไม่มีใครยอมพาไปก็ไปมันคนเดียว ช่วงปีที่แล้ว   ความดันพุ่งสูงถึง 210 / เท่าไหร่จำไม่ได้ แต่ก็ยังไม่น๊อก   และยังเสียนิสัย  กลัวยา   กลัวหมอดุ ที่ทำก็แค่  ปวดหัวตุ๊บๆเมื่อไหร่ก็คว้า anapril ( ยาลดความดัน )เข้าปาก จากคุณ : your_natty เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 10:09:21

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณน้องนัทสำหรับความรู้ดีๆๆนะค่ะดูแลสุขภาพด้วยนะค่ะพี่เป็นห่วงค่ะ ตัวพี่เองก็ดื้อเป็นโรคกระเพาะหมอไม่ให้ทานกาแฟตอนท้องว่างแต่ก็อดไม่ได้ ตอนเช้าก็ยังทานอยู่เหมือนเดิม พออ่านที่น้องนัทโพสต์คงต้องหยุดคิดสักนิดแล้วค่ะ พี่ขอให้น้องนัทตาหวานสุขภาพแข็งแรงไวไวนะค่ะ จากคุณ : พี่น๊อต (lazybird69) เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 10:13:29

ความคิดเห็นที่ 11 หลังจากที่กิน  กิน  กิน และกินจนตังค์จะหมด ก็เริ่มคิดได้   ว่าจะไม่ฟุ่มเฟือยแล้ว หาตังค์ดีกว่า   ก็มาขายของหลังเลิกงาน ทำให้ประหยัดไปได้เยอะ   แถมไม่ว่างไปหาของกินอย่างก่อน น้ำหนักเริ่มคงที่   จากที่ปกติจะขึ้นราวๆปีละ 5 กิโลกรัม แต่ก็ทำให้พักผ่อนน้อยลงกว่าเดิม จากที่เคยนอนวันละ 5 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ กลายเป็นนอนวันละแค่ 4-5 ชั่วโมงเป็นอย่างสูง ช่วงก่อนที่เข้าโรงพยาบาลคราวนี้  หนักมาก  นอนแค่วันละ 3-4 ชั่วโมง เพราะยุ่งทั้งงานประจำและอาชีพเสริม จนกระทั่งวันศุกร์ที่ 12  กพ. ที่ผ่านมา  สะดุ้งตื่นมาตอนตี3 แล้วก็สำลัก และ ไอไม่ยอมหยุด   มีน้ำออกจากคอเป็นสีส้มๆ ไม่ข้นอย่างเสมหะ   แต่พอๆกับน้ำลายทั่วไป ไม่สามารถนอนราบได้เลย   กลั้นไอไม่ได้ คิดว่าตัวเองเป็นหวัดธรรมดาและแพ้อากาศ ก็ไปร้านขายยาซื้ยาแก้ไอและยาแก้อักเสบมาทาน หมดไป 1 ชุดแล้วก็ไม่หาย   ช่วงกลางวันไม่ไอเท่าไหร่ แต่พอนอนลงไปได้เรื่อง   ไอไม่หยุดทั้งคืน จากคุณ : your_natty เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 10:16:06

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณค่ะน้องนัท จากคุณ : เหมียว beautycats เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 10:18:41

ความคิดเห็นที่ 13 ผ่านไป 3 วัน  จนถึงวันจันทร์ก็ยังมาทำงานตามปกติ จนช่วงบ่ายจึงขอลางานกลับบ้านเพราะทำงานไม่ไหว ตามันจะปิดเพราะนอนไม่ได้มาสามคืน   ยืนจะไม่อยู่แล้ว ตลอดทั้ง 3 วันนี้หายใจได้แค่ครึ่งรอบ  หายใจลึกๆไม่ได้ และรู้สึกหัวใจเต้นผิดปกติ   เพื่อนทีรู้จักกันและมีลูกแล้ว มาจับหน้าอกดูบอกว่าทำไมใจเต้นเหมือนคนท้อง แต่มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นเพราะสาเหตุนั้น เลยไปพบแพทย์     แพทย์ประจำคลีนิกประกันสังคมค่ะ คุณหมอให้ยาแก้ไอตัวใหม่มา  พร้อมยาฆ่าเชื้อในหลอดลม และยาแก้อักเสบอีกตัว   แถมด้วยยาความดันเพิ่มเติมมาอีกหนึ่งขนาน แล้วก็....กลับบ้านค่ะ จากคุณ : your_natty เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 10:20:03

ความคิดเห็นที่ 14 3 อ. ที่พูดบ่อย ๆ ในรายการ  อาหาร  ออกกำลังกาย  และอารมณ์  ไม่ใช่  อร่อย อ้วน อืดอาด (กินอย่างเอร็ดอร่อย  เพราะอาหารมันสุดจะอร่อย  กินของอร่อยมาก ๆ ไม่ออกกำลังกายความอ้วนมาแน่นอน  เมื่ออ้วนมาก ๆ เคลื่อนไหวร่างกายได้ช้า  ไม่กระฉับกระเฉง  อืดอาด) การสร้างพฤติกรรมตามหลัก 3 อ. เริ่มจาก อ.อาหาร คือ กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ปริมาณเหมาะสมโดยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินด้วยวิธีควบคุมอาหารให้พอเหมาะ ลดหวาน มัน เค็ม เติมเต็มผักผลไม้ และหลีกเลี่ยงการกินมากเกินความต้องการของร่างกาย ลดแป้ง น้ำตาล และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะน้ำตาลทำให้เซลล์ระบบภูมิคุ้มกันบางเซลล์หยุดทำงาน และทำลายความสามารถในการปกป้องทำลายเชื้อแบคทรีเรีย ส่วนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพียงไม่กี่แก้วต่อสัปดาห์ จะทำให้จำนวนเซลล์ระบบภูมิคุ้มกันที่ร่างกายสร้างไว้ลดลงไป พร้อมเน้นกินตามหลักกินถูกส่วน 2:1:1 ด้วยการแบ่งจานอาหาร ออกเป็น 4 ส่วนเท่า ๆ กัน โดย 2 ส่วนหรือครึ่งหนึ่งของจานหลักเป็นผัก อีก 1 ส่วน ของจานเป็นกลุ่มอาหารโปรตีน ให้เน้นปลา เพราะมีไขมันต่ำ และอีก 1 ส่วนของจานที่เหลือเป็นกลุ่มข้าวแป้งเน้นเป็นธัญพืชที่ไม่ผ่าน การขัดสี ลูกเดือย และถั่วเมล็ดแห้งต่างๆ ควรกินผักและผลไม้ที่มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ได้แก่ เบ้ตาโรทีน วิตามีนซี และวิตามีนอี เพื่อกำจัดสิ่งแปลกปลอมหรือเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย อ.ออกกำลังกาย โดยการออกกำลังกายแบบเบาๆ สัปดาห์ละ 5 วันๆ ละ 30 – 60 นาที เช่น แอโรบิก วิ่ง หรือเดินประมาณ 20 นาที และออกกำลังกายที่ต้องใช้แรงมากๆอีก 15 – 20 นาที จะช่วยพัฒนาระบบภูมิคุ้มกันได้ดี สุดท้ายคือ อ. อารมณ์ ควรทำอารมณ์ให้แจ่มใส ไม่เครียด นอนหลับ พักผ่อนให้เพียงพอ ===== เป็นกำลังใจให้น้องนัทคนสวยค่ะ แก้ไขเมื่อ 01 มี.ค. 53 10:23:00 จากคุณ : แม่สลิ่ม เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 10:21:11

ความคิดเห็นที่ 15   สวัสดีครับคุณนัทตี๊  สงสัยผมต้องควบคุมการบริโภคอาหารบ้างแล้วหล่ะ หายไวๆนะครับ จากคุณ : ความทรงจำที่หายไป เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 10:25:04

ความคิดเห็นที่ 16 เช้าวันอังคาร   ยังคงเหมือนเดิมค่ะ นอนราบไม่ได้   ไอไม่หยุด  นอนไม่หลับ วันนี้ยิ่งอาการหนักขึ้น   ไอจนเจ็บไปทั้งตัว และรู้สึกเจ็บแปล๊บ   แน่นที่หน้าอก ไปทำงานไม่ได้แล้ว   ขอนอนพักแบบเกาะเก้าอี้นั่นแหละ แต่หายใจลำบากกว่าเดิม  เปิดแอร์เย็นแต่เหงื่อไหล จนผมเปียกไปทั้งหัว     โชคดีที่มีพี่ที่สนิทกันโทรมาว่าจะมารับไปทานข้าว แต่บอกไปว่าไม่สบายไปไม่ไหว เค้าฟังเสียงได้ยินไอแล้วเป็นห่วง เลยมาหาถึงบ้าน   เห้นสภาพเหงื่อซก  อิดโรย หน้าซีด ก็เลยลากไปหาหมอที่กรุงสยามเซ็นต์คาร์ลอส หมอที่นี่ซักอาการละเอียดดีมาก  นำตัวไปเอ็กซเรย์ ถึงเห็นว่าหัวใจโต  ป่องออกมาเยอะ  น้ำท่วมปอด และที่มีของเหลวสีส้มๆออกมานั้น  เป็นสิ่งที่ทางการแพทย์ เค้าเรียกว่า ฟรอสตี้  เป็นน้ำและเลือดที่ท่วมปอดอยู่นั่นเอง คุณหมอก็ทำเรื่องส่งตัวไปโรงพยาบาลลาดพร้าว ซึ่งเป็นที่ที่เรามีสิทธิตามประกันสังคมให้ ไปถึงปุ๊บ  ก็จับใส่ออกซิเจนแล้วเข็นเข้า ICU. ทันทีเลย จากคุณ : your_natty เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 10:27:03

ความคิดเห็นที่ 17 โรคภัยไม่นับอายุ ควรตรวจสุขภาพอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 10:27:16

ความคิดเห็นที่ 18 อ่านกระทู้ของน้องนัท ในขณะที่พี่เองก็นอนเดี้ยงด้วยอุบัติเหตุ พร้อมกับทบทวนเรื่องสุขภาพของตัวเองไปด้วยค่ะ ขอบคุณเรื่องราวจากน้องนัท และพี่ขอให้น้องนัทมีสุขภาพที่แข็งแรงเหมือนเดิมนะคะ จากคุณ : สาวชาวสวน เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 10:29:50

ความคิดเห็นที่ 19 เทคแคร์ๆนะจ๊ะ จากคุณ : Ab Psy ReinDEAR++ เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 10:37:56

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณน้องนัทนะคะ  ที่มาเตือนภัย บางครั้งเราก็ไม่รู้สึกตัว  จนกว่าโรคมันจะมาถึงตัว . จากคุณ : แครอทอร่อย เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 10:39:39

ความคิดเห็นที่ 21 รักษาสุขภาพให้ดีๆนะคะ  น้องนัท   แฟนพี่เขาก็ชอบกินตามใจปาก  บางช่วงฮึดกินเนื้อวัว  บางช่วงมาฮึดกินปลา  แต่ก็กินจุอ่ะนะ    ไม่ได้พยามยามลดปริมาณเท่าไหร่  ที่แน่ๆคืออ้วนขึ้นๆ  แถมไม่เคยตรวจร่างกาย  เพราะกลัวจะรู้ผลตรวจ...จนกระทั่ง... ส่วนพี่ก็ยังไม่ได้ไปตรวจร่างกายเลย  เว้นช่วงนานแล้วเนี่ย  ว่าจะไปในช่วงหยุดยาวๆหลายวัน  ก็ไม่ได้ฤกษ์งามๆซะทีค่ะ แก้ไขเมื่อ 01 มี.ค. 53 10:47:15 จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 10:46:24

ความคิดเห็นที่ 22 นัทยัง  รู้สึกตัวตลอดเวลาค่ะ โทรบอกพ่อแม่ได้   โทรแจ้งข่าวที่ทำงานและเพื่อนๆได้ แต่หันไปเตียงข้างๆ   ทางไหนก็ไม่มีใครรู้สึกตัวสักคน ได้แต่คิดว่า   นี่เราอายุเท่านี้   ป่วยขนาดนี้แล้ว ในภายภาคหน้าแก่ตัวไป   จะเป็นขนาดไหน  จะอายุยืนไหม จะได้อยู่ดูแลพ่อแม่ตอบแทนพระคุณท่านไหมนะ จะได้มีลูก  มีสามี  มีครอบครัวเล็กๆน่ารักๆอย่างที่ฝันไหม คิดทบทวนตัวเอง   นึกถึงต้นเหตุที่ทำให้ป่วยและเสียดาย เสียดายที่ใช้ร่างกายของตัวเองสนองความอยากในการบริโภคจนเกินพอดี เสียดายเงินทองที่จ่ายไป   แลกเอาโรคเอาภัยใส่ตัว มันไม่ได้ประโยชน์เลยสักนิด   ทุกอย่างเป็นของมีประโยชน์ แต่กินให้มากไปก็เป็นโทษ   อยู่ในโรงพยาบาล   หมอก็จำกัดน้ำ  วันหนึ่งกินได้ไม่ถึงลิตร ให้ยาขับน้ำ   อาหารก็จืดๆ  จำกัดเกลือ   จำกัดน้ำตาล วันแรกๆ รู้สึกหงุดหงิดมาก   แต่หลังๆก็ชินไปเอง ออกจากโรงพยาบาลมาก็ต้องคุมอย่างหมอสั่ง จะได้มีอายุยืนๆ  อยู่กับคนที่เรารักไปอีกนานๆ ดังนั้น  หันกลับมาคิดถึงสุขภาพกันสักนิดนะคะ อย่าปล่อยให้ตัวเองทำร้ายตัวเองต่อไปอีกเลย โดยเฉพาะคนที่มีโรคประจำตัว อย่าได้นิ่งนอนใจ   อย่าได้กลัวหมอ  กลัวการกินยา มิฉะนั้น   อาจสายเกินกว่าจะได้หันกลับมาทำเพื่อตัวเองนะคะ ด้วยรักและปรารถนาดีค่ะ อยากอยู่กับพ่อและแม่ที่รักไปอีกนานๆนะคะ จากคุณ : your_natty เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 10:50:06

ความคิดเห็นที่ 23 พึ่งเจอ น้องนนัตตี้ทีใต้ตึกทำงานเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว เลยพึ่งรู้ว่าน้องเค้าพึ่งออกจากโรงพยาบาล อาการหลายอย่างที่ผิดปรกติกับร่างกาย แต่เรามักเมินเฉยต่อสัญญาณอันตรายบางอย่าง โดยไม่ยอมรับว่ามันผิดปรกติ คิดว่าเครียดมั้ง อากาศเปลี่ยนบ้าง ยุ่ง จริง ๆ แล้วก็ขี้เกียจนั่นแหละ พี่ก็พึ่งโดนหมอสั่งให้ลดน้ำหนักเหมือนกันค่ะ เพราะว่ามีภาวะผิดปรกติที่ต่อมไร้ท่อค่ะ ซึ่งเป็นที่ต่อมไหนก็คงต้องรอนัดกับหมอผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ช่วงปลายเดือนมีนาคมค่ะ ตอนนี้โดนสั่งยาให้ทานเพี่อคุมอาการบางอย่างอยู่ค่ะ พี่มีอาการที่เกิดขึ้นมาประมาณ 3 ปีแล้วค่ะ แต่มันก็ยังทรง ๆ แล้วก็ไปหาหมอแล้วก็ไม่ไปต่อ ปี 2008 งานไม่ค่อยยุ่งเท่าไร ก็ยังไปออกกำลังกายบ้างช่วงเย็น ๆ อาทิตย์ละหน 2 หน แต่ช่วงปีที่ผ่านมาไม่เคยเลยค่ะ อากาศเลยเริ่มแย่มากขึ้น ตั้งใจไว้แล้วค่ะ ว่าจะต้องไปเต้นๆๆๆ สัก 2 ครั้งต่อสัปดาห์ คราวนี้ถ้าไม่ทำก็คงต้อง ...... แล้วละค่ะ เป็นกำลังใจให้นัตตี้นะ แนะนำมากกกกก เลยค่ะ ออกกำลังกายค่ะ จากคุณ : whilly เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 10:50:42

ความคิดเห็นที่ 24 ขอให้หนูนัทกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิมแต่ไม่มีโรคไข้เจ็บตามมาด้วยดูแลสุขภาพให้มากขึ้นนะคะระวังเรื่องอาหารด้วยค่ะเป็นห่วงจ๊ะ จากคุณ : ครูป้าเล็ก เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 10:51:31

ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณน้องนัทค่ะ..ที่มาเตือนกัน  แข็งแรง รักษาสุขภาพนะคะ หาหมอที่กรุงสยามฯ สาขาไหนคะ  พอดีพี่อยู่ใกล้สาขาปทุมฯ คิดว่าถ้าใช่เราน่าจะอยู่ใกล้กัน จากคุณ : ลูกไหม เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 10:51:39

ความคิดเห็นที่ 26 ขอให้แข็งแรงไวไวค่ะน้อง^^ เตือนสติพี่อย่างดีเยี่ยมค่ะ... จากคุณ : พี่แหม๋ว (ฟ้าคงสั่งมา) เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 10:52:31

ความคิดเห็นที่ 27 ขอบคุณสำหรับเรื่องราว ดี ๆ ที่นำมาแบ่งปันค่ะ ขอให้น้องหายจาก เจ็บป่วย รักษาสุขภาพ นะคะ จากคุณ : okonomi เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 11:02:29

ความคิดเห็นที่ 28 พี่เอ้   พี่จอย  คุณเอม   พี่อี๊ด คุณสาววิเศษ   พี่น๊อต   พี่เหมียว ตอนนี้หายดีแล้วค่ะ   แต่ยังเหนื่อยง่ายอยู่หน่อยๆ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ การควบคุมดูแลสุขภาพต่อไปนี้ก็คือ คุมเรื่องอาหารไม่ให้เค็ม  ไม่ให้หวาน  ไม่ให้มัน จำกัดน้ำให้พอเหมาะพอควร    สังเกตุอาการตนเอง และดูหน้าจาตัวเองหน่อยค่ะ   ถ้าบวมน้ำแบบกดลงไปแล้วเนื้อไม่คืนตัว ต้องรีบหายาขับปัสสาวะเร่งระบายน้ำโดยด่วนเลยค่ะ จากคุณ : your_natty เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 11:03:29

ความคิดเห็นที่ 29 ขอเชิญทุกคนมาออกกำลังให้เหงื่อออกทุกวัน จะทำให้เลือดหมุนเวียนดี ผมเคยไปฝังเข็มที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน หมอที่ฝังให้เป็นหมอปริญญาที่เรียนการฝังเข็มเพิ่มเติม ความดันผมที่เคยสูง(ขนาดกินยา)ยังสูงตั้ง145/90 พอฝังเข็มไปสักพัก จะลดลงเหลือ120/70 และคงที่อยู่เช่นนั้น(แต่หมอที่ฝังก็แนะนำให้กินยาแผนปัจจุบันต่อไปเพื่อให้ปลอดภัยด้วย) มาจนปัจจุบัน ก็เป็นปกติ ผมไปเล่นฟิตเนสที่ใกล้บ้าน เพราะคิดว่า เราออกกำลังดีกว่าไปเที่ยวกลางคืน ซึ่งผลาญเงินเรามากกว่า ออกกำลังให้เหนื่อย กลับบ้าน อาบน้ำ นอนหลับสบายดีครับ จากคุณ : eadsaa เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 11:03:54

ความคิดเห็นที่ 30 นัทตี้ ... หายไว ๆ นะคะ น้ำขิงเป็นแรงใจให้เน้ออ ปล.น้ำขิงนัดที่บ้านไว้ว่าวันนี้จะไปทานบุฟเฟ่มื้อเที่ยงกัน อ่านจนจบ ... เลิก ๆ ๆ ๆ พับโครงการทันที - -" ... ขอบคุณที่เตือนสตินะจ๊ะ ... รักษาสุขภาพน๊าแล้วจะแวะไปหาจ้า จากคุณ : คนที่ใช่ เมื่อไหร่จะเจอ เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 11:07:48

ความคิดเห็นที่ 31 เราก็เป็นอีกคนหนึ่งที่กินจุมาก กินทุกอย่างที่อยากจะกิน ของทอด ไอสครีม ขนมหวาน กินแทบจะทุกวัน ไม่ได้การแล้วเรา ต้องหยุดบ้างแล้ว (แต่มันอร่อยอ่ะ) จากคุณ : ผู้หญิงคนแรก เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 11:12:14

ความคิดเห็นที่ 32  รักษาสุขภาพด้วยน๊ะน้องรัก ... พี่ก็เสียน้องชาย นายแสนดีอันเป็นที่รักไปแล้วหนึ่งคน ตอนนี้ตัวพี่เองก็เครียดกับอาการป่วยไทยลอยด์ เป็นไทยลอยด์ที่แตกต่างจากชาวบ้านเค้าอีกด้วยน้อง   ต้องไปเจาะเลือดทุกเดือน ต้องไปรับยามากินอย่างต่อเนื่อง หมอบอกว่าอาจต้องกินยาไปตลอดชีวิต เพราะไทยลอยด์ที่พี่เป็น เป็นไทยลอยด์แบบแอนตี้บอดี้ สร้างภูมิและทำลายภูมิที่สร้าง ยังไงชอบกล หมอบอกว่าเคสแบบนี้ไม่ค่อยเจอะเจอ มีน้อยมากๆ ฟังแล้วใจคอห่อเหี่ยว ตอนนี้เหมือนหนูทดลองยา ทานยามาสองเดือนแล้ว ภูมิคุ้มกันยังไม่พอ ยังขาดอยู่อีก ไปเที่ยวพม่ามาสีวัน ลืมเอายาติดไปด้วย กลับมาเพลียๆ เหนื่อยๆ มือเท้าเริ่มชา สมองเริ่มตื้อๆ ปวดเมื่อยมากขึ้นกว่าเดิม มาเจอเรื่องพี่แอ๊ดอีก เฮ้อๆๆๆ เหนื่อยใจจังเลย .. รักษาสุขภาพด้วยนะคะทุกท่าน ... บุญพระรักษาน้องพี่ทุกท่านคะ จากคุณ : บ่งบ๊ง เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 11:12:26

ความคิดเห็นที่ 33 สู้ๆๆนะคะ เราก็จะเอาไปเตือนคุณแฟนเราบ้าง พยามคุมน้ำหนักตัวทั้งเราและเค้าอยู่ค่ะ แฟนเราอายุแค่ 34 แต่ตอนนี้มาครบหมด ทั้งดันสูง เกาซ์ หัวใจโต และเนื่องจากยาที่ทานเพื่อลดไขมันก็ส่งผลกับตับด้วยค่ะ ตอนนี้เข้าออกรพ.ทุกเดือน ตรวจล่วงหน้าก็ดีนะคะ เราจะได้รักษาและระวังตัวเอง ดีกว่าไม่รู้อะไรเลย หลอกตัวเองไปวันๆว่าฉันสบายดี และไม่เป็นอะไร จากคุณ : sherykik (sherykik) เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 11:27:44

ความคิดเห็นที่ 34 หายไว ๆ นะคะ   ตามใจปาก  ลำบากกาย ในภายหลัง เป็นเช่นนี้ นี่เอง  พี่อายุมากแล้ว  สงสัยต้องเก็บกระทู้นี้ไว้เตือนสติ ให้มาก ๆ เวลายาก  ไม่ปราณีสังขาร ตัวเองเหมือนกัน จากคุณ : ชมพรกร เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 11:33:51

ความคิดเห็นที่ 35 ขอให้น้องนัทหายจากอาการป่วยทั้งหลาย ขอให้กลับมาสุขภาพร่างกายแข็งแรงน่ะจ๊ะ จริงอย่างที่ว่าค่ะ อาหารมีทั้งประโยชน์และมีทั้งโทษกับร่างกายแค่เราดูแลใจใส่การกินของเราให้มากขึ้นอย่าตามใจปากมากนัก เราก็มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงได้น่ะค่ะ สู้ สู้ น่ะค่ะเป็นกำลังใจให้น่ะ จากคุณ : watees เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 11:42:13

ความคิดเห็นที่ 36 ขอบคุณค่ะแม่หลิ่มคนสวย   พี่เต๋อ    อาสาม พี่มด   เดียร์   พี่ตุ๊ก   พี่แหม่ม อย่างที่อาสามว่าค่ะ  ควรตรวจร่างกายอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง และอย่าไปกลัวผลการตรวจค่ะ ยิ่งกลัวก็ยิ่งเสี่ยง   เพราะเราจะไม่รู้ตัวเองว่าเราเป็นอะไร ต้องดูแลระมัดระวังเรื่องใดเป็นพิเศษบ้าง ประเภทตรวจตามหน่วยงาน  ตรวจประจำปีนั้น นัทว่าไม่ได้เรื่องได้ราวเท่าไหร่ค่ะ  ทำพอเป็นพิธีไปงั้นเอง เพราะตรวจทีไร  บอกว่านัทปกติทุกที  แถมโมเมตัวเลขหลายอย่างด้วย เราเสียเงินซื้อของได้ตั้งหลายอย่าง  ให้ของขวัญแพงๆกันได้ ทำไมจะไม่เลือกซื้อเครื่องมือดูแลสุขภาพอย่างการตรวจประจำปีให้กันคะ จะได้อยู่ดูแลกันและกันไปนานๆ จากคุณ : your_natty เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 11:44:34

ความคิดเห็นที่ 37 ขอให้น้องนัตหายป่วยเร็ว ๆ ครับ เรื่องสุขภาพนี้ ไม่เข้าใครออกใครจริง ๆ ปลายปีที่แล้ว คนขับรถผมหัวใจวายเสียชีวิต ต้นปีนี้ คุณพ่อเพื่อน 2 คนก็เสียชีวิตด้วยโรคเดียวกัน จากคุณ : jerry-t เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 11:49:42

ความคิดเห็นที่ 38 หายเร็วๆ นะจ๊ะ นัทตี๋ เดียวต้องลด แป้ง ทั้ง อ้อน ทั้งแฟนละ ลูกยังเล็ก เป็นไรไปยุ่งเลย จากคุณ : aon@_@ เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 11:56:39

ความคิดเห็นที่ 39 เป็นกระทู้ดีๆ ที่ต้องโหวต ค่ะ จากคุณ : เจ๊แหนมกะน้าพุ้ย เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 12:08:41

ความคิดเห็นที่ 40 คุณนัท สุขภาพดีขึ้นนะคะ อ่านเรื่องราวของคุณนัทแล้วเริ่มๆ กลัวตัวเองเหมือนกันคะ กินไม่ค่อยคิดถึงผลที่จะตามมาเท่าไรเลย ก็มันอร่อยนี่เน๊อะ รักษาสุขภาพด้วยนะคะ สู้ๆคะ จากคุณ : เอ้กะอุ๊ ^u^ (auLP) เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 12:10:44

ความคิดเห็นที่ 41 หายเร็วๆนะคะเป็นกำลังใจให้ค่ะ จากคุณ : แม่น้องตุลย์ ตุลา เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 12:14:32

ความคิดเห็นที่ 42 พี่นัทจ๋า น้องแอ้นเป็นห่วงนะคะ ออกกำลังกายเบา ๆ ด้วย จำกัดควบคุมอาหารอย่างเคร่งครัด พักผ่อนทำใจให้สบายอย่างที่พี่จุ๋มบอกด้วยนะคะ หวังว่าพี่สาวจะหายวันหายคืนและดูแลสุขภาพให้ดีวันดีคืนค่ะ ^_______________^ จากคุณ : pamaano เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 12:30:13

ความคิดเห็นที่ 43 เห็นด้วยว่า...สุขภาพเป็นสิ่งที่สำคัญ ตอนนี้เราก็เริ่มดูแลสุขภาพมากขึ้น เลือกอาหารที่ทานมาขึ้น หายเร็วๆ นะคะ จขกท. เป็นกำลังใจให้ค๊า จากคุณ : Japansainlook เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 12:33:45

ความคิดเห็นที่ 44 ขอบคุนมากมายค่ะ เป็นกำลังใจให้นะค่ะ จากคุณ : หมึกหน้ามึน เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 12:39:25

ความคิดเห็นที่ 45 อ่านแล้วก็น้ำตาคลอ ขอบคุณ ที่มาแนะนำให้ดูแลสุขภาพก่อนสายเกินไปนะคะ จากคุณ : ไวท์ช็อคชีส เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 12:51:29

ความคิดเห็นที่ 46 ยอดเยี่ยมครับนัทตี้ หันมาดูเเลตัวเองเเละคนรักกันดีกว่า จากคุณ : Party madness เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 12:52:31

ความคิดเห็นที่ 47 บุญรักษานะคะ คุณนัท จากคุณ : ฟืน เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 12:56:53

ความคิดเห็นที่ 48 ถึงว่า ไม่เห็นออนเอ็ม ไม่สบายนี่เอง รักษาสุขภาพนะน้องนะ จากคุณ : inthemoon เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 12:59:58

ความคิดเห็นที่ 49 อ่านเรื่องคุณนัทแล้วก็หันมามองตัวเองค่ะ สุขใดไม่เท่ากับการมีสุขภาพร่างกายที่ดีจริงๆ ลี่เองก็พยายามจำกัดของกินเหมือนกันคะ ที่จำกัดเพราะว่าไม่อยากไปหาหมออีกเช่นเดียวกัน ขอให้คุณนัทหายเร็วๆ นะคะ จากคุณ : Im_Solong เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 13:00:11

ความคิดเห็นที่ 50 ดูแลรักษาสุขภาพน่ะจ๊ะ ควบคุมอาหารและออกกำลังกายบ้าง ของพี่ก็ลดน้ำหนักอยู่ เพราะต้องระวัง กรรมพันธุ์เรื่องเบาหวานนี่แหละ จากคุณ : หมวย (potmetha) เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 13:15:20

ความคิดเห็นที่ 51 สุขภาพดีไม่มีขาย ถ้าอยากได้ต้องสร้างเอง แข็งแรงเร็วๆ นะคะ คุณนัท จากคุณ : คุณพริ้ม เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 13:19:54

ความคิดเห็นที่ 52 สวัสดีค่ะ   คุณนกคนใจดี   คุณป้าเล็ก   คุณลูกไหม  พี่แหม๋ว  และพี่ตู่ ตรวจที่กรุงสยามฯ สาขารัชดาค่ะ ให้บริการฉับไวดีมากๆเลยล่ะค่ะ พี่อี๊ด...เห็นด้วยค่ะ   เราทุกคนควรเจียดเวลาสังสรรค์ ไปออกกำลังกายเพื่อสุขภาพกันบ้างนะคะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น   สำหรับผู้ที่มีปัญหามีโรคประจำตัว ควรจะต้องได้รับคำแนะนำจากแพทย์เจ้าของไข้ และรู้จักประมาณกำลังตนเองไม่หักโหมจนเกินไปนะคะ อย่างนัทเองกะว่าจะเล่นโยคะค่ะ เพราะไม่กระทบเรื่องกระดูกมาก   น้ำหนักตัวเยอะๆ ออกกำลังกายประเภทวิ่งแล้วเจ็บเข่าค่ะ สวัสดีค่ะน้ำขิง   และคุณผู้หญิงคนแรก นานๆทานหนก็ดีค่ะ   เลือกทานร้านที่เน้นอาหารสุขภาพก็ดีค่ะ นัทเนี่ยประจำเลย  ไปบุฟเฟ่ห์ทีก็วิ่งหาหมูหัน  หมูกรอบ  ฯลฯ ของอ้วนๆทั้งนั้น   แถมยังลำพองว่าตัวเองกินคุ้มกว่าเพื่อนอีกต่างหาก พี่บี๊  ดูแลตัวเองดีๆนะคะ ไทรอยด์เป็นโรคประหลาดอยู่อย่างหนึ่ง คือทำให้ตรงกันข้ามไปเลย  สะบัดร้อนสะบัดหนาวอีกต่างหาก ทานยาอย่าให้ขาดนะคะพี่     อย่าลืมถ้าหมอนัดด้วยนะคะ จากคุณ : your_natty เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 13:21:01

ความคิดเห็นที่ 53 เป็นกระทู้เตือนใจ เตือนสติ ดีจริง ๆ ครับ ขอให้น้องนัท สุขภาพแข็งแรงนะครับ จากคุณ : บ้านเรามีภูเขาอยู่หน้าบ้าน เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 13:30:27

ความคิดเห็นที่ 54 ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดีๆค่ะ ++ขออาลัยถึงคุณหมีมังกรด้วยค่ะ++ จากคุณ : =ทาร์ตน้ำตาลข้น= เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 13:30:47

ความคิดเห็นที่ 55 มาเป็นกำลังใจให้น้องนัท....ดีแล้วครับที่กลับตัวทัน ไม่สายเกินไปดอกครับที่จะหันมาใส่ใจตัวเองมากขึ้น ผมเองก็สารพัดโรคทั้งที่ดูแลสุขภาพพอควร  เริ่มตั้งแต่ กรดยูริกสูง กินยาๆๆๆๆเป็นปีๆ วันดีคืนดี ตับมีปัญหาประมาณว่าตับอักเสบหรือดีซ่าน หมอก็จับตรวจๆๆๆ หาไวรัสไม่เจอสักกะตัว หมอก็งง..นึกได้ว่า กินยาลดกรดยูริกมาเป็นปีๆ หมอก็บอกว่าต้นเหตุเป็นไปได้จากากรกินยานี้ ระหว่างที่รักษา ความที่เป็นธรรมเนียมว่า ทุกครั้งที่เข้าไปพบหมอตามนัดพยาบาลจะให้ตรวจความดัน ปรากฏว่าหมอบอกว่าตัวตับตอนนี้น่ากังวลกว่าตัวความดัน เลยพ่วงความดันมาอีกโรค และความที่กรดยูริกสูง เป็นต้อนเหตุของการตกตะกอนของหินปูนในเลือด และก็คือนิ่วนั่นเอง หลายปีผ่านมา ผมก็ประสพนิ่มตกจากไตมาเพ่นพ่านที่ท่อไต ครั้งแรกเลยโชคดีมากครับ เป็นนิ่ว3เหลี่ยมติดค้างอยู่ในท่อไต ไม่มีโอกาสที่จะกินยาขยายท่อไตให้หลุดหล่นลงมา ตัดใจสลายนิ่วคืนนั้นตี2 อย่างกัยแอบทำกันฟรีปานนั้น แต่จริงๆแล้วค่าใช้จ่ายสูงมาก แต่พอคิดถึงตอนปวด เอาว่ะเท่าไหร่ก็จ่าย ฟาดเคราะห์ไป 2-3 ปีผ่านมา เป็นอีก งวดนี้เป็นแบบกลมก็ตั้งหน้าตั้งตากินยาจนหลุดออกมาพร้อมปัสสาวะ ปีก่อนเป็นครั้งที่3 หมออาวุโส(สูงวัย) ตรวจและสอบถามอาการข้างต้นบอกว่านาจะเป็นกรวยไตอักเสบประมาณนี้ ผมก็เถียงว่าไม่ใช่แน่ จนส่งตรวจๆๆๆ จนมาบอกว่าใช่ นิ่วค้างอยู่ในท่อไต(อีกแล้ว) แต่ความที่เคยอ่านเจอตำราแพทย์แผนไทย และพบว่า เหล้าขาว40ดีกรีสักเป็กผสมกับน้ำมะนาวสักลูกปล่อยให้โรมรันกันสักพักดื่มเข้าไป ผมก็จัดการวันแรก โห...สะใจซะ วูบๆหวาบเป็นทางโดยเฉพาะสักพักจะไปทางแนวท่อไตครับ ผมดื่มเพียง3ครั้ง โดยดื่มวันเว้นวัน หลุดออกมาครับ หมอก็ไม่ไปหาตามที่นัดก็หลุดแล้ว จริงไหมครับ สรุปแล้วคือ มีโรคที่ต้องคอยระวังคือ กรดยูริกสูง ความดัน เบาหวานอาการเริ่มต้นแต่หมอให้กินยาคุมไว้ เช้ากินยาเกือบ10เม็ด ปลายปีที่แล้วเดินปวดขา ก็ไปหาหมอแผนไทยนวด หลังจากนวดก็ดี แต่รุ่งขึ้นกลับไปเหมือนเดิม เลยตัดใจหาแพทย์แผนวิทยาศาสตร์ ผล X-Ray คือกระดูกสันหลังบางข้อเสื่อมและสึกแล้วไปกดทับเส้นประสาท ก็กินยาอีก 1กำ คงจะพยายามอดทนกินยาไปก่อน เพราะหลายๆคนที่ผ่าตัดแล้วบอกว่าก็ทุเลาแต่ก็ไม่เหมือนเดิม ไปพบแพทย์ครั้งที่2 ตอนห้องยาเรียกชื่อพร้อมกับยกถุงยา ผมยังตกใจ ยา 6 ชนิดในเวลา2เดือน รวมสิริแล้ว 600 เม็ดครับท่าน เอ้าก็กินๆๆๆๆๆเข้าไป อ้อ..ยาชุดแรกที่ให้มา มียาแก้ปวด กินไปไม่กี่วัน รู้สึกว่าเสียดกระเพาะอาหาร และแล้วก็ถ่ายดำ ยังกะไปกินต้มเลือดหมูมาทุกมื้อ เลยรีบหายากระเพาะมากินเพียงไม่กี่วันก็หยุดดำ พอไปพบแพทย์ครั้งที่2 เลยเล่าให้ฟัง หมอได้เปลี่ยนยาพร้อมกับให้ยากระเพาะอาหารอย่างที่ผมซื้อมากินอีก 60 เม็ด แต่ผมไม่ได้กินดอกครับ ด้วยไม่ได้ถ่ายดำแล้วนี่ครับ จึงคิดถึงงานเลี้นงรุ่น เพื่อนๆหลายคนบ่นว่า "อายุมากขึ้น โรคภัยเบียดเบียน ไม่ดีเลย" ก็คงจริงอย่างที่ว่าละครับ เขียนเล่ามาเสียยืดยาว ก็เพียงอยากให้ชาวก้นครัวสนใจสุขภาพมากขึ้น เพราะเดี๋ยวนี้โรคภัยหลายอย่างไม่ได้เกิดเฉพาะคนสูงวัยเสียแล้วละครับ น้องๆในแผนกหลายคนอายุ 30เศษ  ไม่อ้วน แต่ตรวจสุขภาพประจำปีครั้งใด ตัวที่บ่นกันมากคือ คลอเรสเตอรอลสูงเพิ่มขึ้นทุกปีอย่างน่าตกใจ จึงไม่อยากให้คิดว่า ยังหนุ่ม(หล่อ)  ยังสาว(สวย) คงไม่เป็นอะไรกันมากมาย ด้วยรักและเป็นห่วงครับ จากคุณ : ลุงทอม เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 13:31:48

ความคิดเห็นที่ 56 ขอให้คุณนัทหายไวๆๆ นะคะ และขอบคุณที่เอาเรื่องราวมาแบ่งปัน ตัวเองก็กินอย่างระมัดระวัง (บางครั้งก็ตามใจปาก) และตรวจร่างกายทุกปี แต่อ่านเรื่องคุณนัทก็ยังไม่วาย ต้องเข้มงวดมากขึ้น ขอบคุณค่ะหายไวๆๆๆ นะคะ จากคุณ : annana เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 14:03:40

ความคิดเห็นที่ 57 สวัสดีค่ะคุณ sherykik  , คุณชมพรกร  คุณ watees พี่เจอร์รี่   คุณอ้อน    เจ๊แหนม   คุรเอ้คุณอุ   แม่น้องตุลย์ น้องแอ้น   คุณ Japansainlook    คุณหมึกหน้ามึน  คุณไวท์ช้อกชีส ลุงยุ่น    คุณฝืน  พี่นุชมูน    คุณอิม   พี่หมวย  คุณพริ้ม จากคุณ : your_natty เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 14:13:14

ความคิดเห็นที่ 58 มาส่งกำลังใจให้น้องนัท มีกำลังใจ ที่จะเปลี่ยนนิสัยการกิน และดูแลสุขภาพให้ดีกว่าเดิม ทราบข่าวก็เมื่อนัท ออกจาก รพ. หายเป็นปกติแล้ว กระทู้น้องเป็นประโยชน์ ให้เพื่อนๆ อีกหลายคนหันมาดูแลสุขภาพตนเองมากขึ้น พี่เชื่อว่าคนเก่ง อย่างน้องนัท ต้องทำได้แน่นอนค่า จากคุณ : กาแฟรสเสน่หา เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 14:20:25

ความคิดเห็นที่ 59 เข้ามากดโหวต และเป็นกำลังใจให้น้องนัทตี้กลับมามีสุขภาพแข็งแรงเหมือนเดิมนะจ๊ะ จากคุณ : yuko (yuko) เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 14:38:24

ความคิดเห็นที่ 60   ขอบพระคุณมากค่ะ สำหรับคำแนะนำดีๆจากทุกๆคน ตอนนี้เริ่มกลัวมั่งแล้วค่ะ ขอให้คุณนัืทตี้ และทุกๆคนมีสุขภาพแข็งแรงนะคะ จากคุณ : ไก่ (Schnuggy ชนุ๊กกี้) เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 14:59:38

ความคิดเห็นที่ 61 มาปั่นจักรยานมั๊ยคะ ไม่ต้องแบกน้ำหนักตัวออกกำลังเหมือนกีฬาชนิดอื่นค่ะ สละเวลานอนตื่นเช้ามาปั่นได้อากาศที่สดชื่นและร่างกายแข็งแรงด้วยค่ะ จากคุณ : ประสาทนอแรด เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 15:04:43

ความคิดเห็นที่ 62 มาให้กำลังใจน้องนัทนะ  ผมเองก็อ้วน อายุก้เยอะ  ตอนนี้เริ่มเดินเร็ววันละ7.5โลทุกวัน     ตั้งใจว่า1ปีค่อยมาชั่งนน.  ไม่อยากให้เสียกำลังใจ    แต่เรื่องบุฟเฟตืเนี่ยยังอดไม่ได้เหมือนกัน  เนี่ยก็เพิ่งกลับมาจากพาโนรามา รร.แพน   แต่เดี๋ยวนี้ก็กินน้อยลงไปเยอะเหมือนกัน    เอาใจช่วยนะจ๊ะ จากคุณ : สริตา เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 15:15:05

ความคิดเห็นที่ 63 หนูนัท  ตอนนี้ป้ากำลังกลัวขี้ขึ้นสมองเลยค่ะ ปล่อยตัวให้อ้วนมาจนขนาดนี้  โรคภัยคงแอบอยู่เต็มตัวแล้ว จากคุณ : ป้าอ้วนมาเอง (เหนียวเนื้อ) เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 16:13:33

ความคิดเห็นที่ 64 ขอบคุณค่ะ คุณบ้านเรามีภูเขาอยู่หน้าบ้าน , คุณทาร์ตน้ำตาลข้น คุณลุงทอม   ยายออสซี่   พี่กร   พี่อ๋อย   พี่ไก่ คุณประสาทนอแรด  และพี่สริตา เรื่องตื่นแต่เช้ามาออกกำลังกาย  ทำได้ยากมากค่ะ เพระปกติตื่นตีสี่กว่าๆ   ออกกำลังกายด้วยการไปตลาด และไปเตรียมของทำขายในแต่ละวันอยู่แล้วค่ะ สงสัยจะทำไม่ทันแน่   พาลจะไปทำงานประจำสายเอา แต่แพลนไว้ว่าจะเอาเวลาครึ่งชั่วโมงก่อนนอน เต้นแอโรบิกเบาๆค่ะ    ขอบคุณที่แนะนำนะคะ ถ้ามีเวลาก็อยากไปฟิตเนสอย่างเคยค่ะ  สนุกดี จากคุณ : your_natty เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 16:15:43

ความคิดเห็นที่ 65 หายไวไวนะจ้ะนู๋นัตตี้ รักษาสุขภาพด้วย.. แล้วก็ขอบคุณสำหรับกระทู้ดีๆ บ้อมูลเป็นประโยชน์มากจ้ะ ลูกปลาก็ไม่ค่อยรักษาสุขภาพเท่าไหร่ ด้วยความที่กินแล้วไม่อ้วน ก็ตามใจปาก กินทุกอย่างที่ขวางหน้าในปริมาณที่มากจนเกินไปทุกครั้ง.. ต่อไป คงต้องหันมารักษาสุขภาพมากกว่านี้ ขอบใจที่เตือนสตินะจ้ะ  ^^ จากคุณ : iTiMiTi เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 16:40:31

ความคิดเห็นที่ 66 ขอให้สุขภาพแข็งแรงไวๆนะคะ จากคุณ : นางร้ายนิสัยเสีย เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 17:03:42

ความคิดเห็นที่ 68 เข้ามาเก็บข้อมูลของน้องนัท ขอให้สุขภาพแข็งแรงน่ะคะ พี่ก็เป็นโรคความดันสูง ก่อนวัยอันควร(หมอเค้าว่ามาน่ะ หุ หุ) แต่ยังตามใจปากอยู่ ไม่เคยเชื่อที่หมอเตือนเรื่องอาหาร อยากกินอะไรก็กิน อาหารทั้งเค็มทั้งรสจัด(ไม่ดีต่อคนเป็นโรคนี้น่ะคะ) แหะ แหะ อ่านเรื่องของหนู พี่ชักเริ่มกลัวขึ้นมาแล้วซิ สงสัยต้องเริ่มปรับปรุงตัวเองซักที ผลัดมานานนนแล้ว จากคุณ : Huiling เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 17:35:25

ความคิดเห็นที่ 69 ขอบคุณที่น้องนัทสละเวลานั่งเรียบเรียงและพิมพ์เรื่องภัยใกล้ตัวมาให้เพื่อนๆได้อ่าน พี่เองตั้งแต่เป็นนิ่วในถุงน้ำดี ต้องผ่าตัดไปปีที่แล้ว แถมปีนี้ยังมีอาการต่อเนื่อง(ผ่าตัดเอานิ่วออกหมดไม่ได้ เพราะเม็ดละเอียดมาก) ก็โดนหมอประจำตัวสั่งลดและงดอาหารบางชนิดเหมือนกัน ปกติเป็นคนอ้วนที่สุขภาพดีนะคะ ไม่เคยเป็นอะไรเลย แต่พอต้องเข้าไปนอนเล่นที่โรงพยาบาลปีก่อนรวมถึงป่วยต่อเนื่องมาปีนี้และดูท่าว่าจะตลอดไป ทำให้พี่ปลงสังขารขึ้นมาได้เยอะเลย ทุกวันนี้ไม่ได้กินมากอย่างแต่ก่อนแล้วค่ะ เพราะกินแล้วจะหายใจไม่ออก ปวดใต้กระบังลมแถวๆบริเวณตับแหละค่ะ เวลาจะตักอาหารต้องฉุกคิดและเตือนตัวเองทุกครั้งว่า เลือกกินมากตามความมอยากแต่ต้องแลกกับการทรมานเพราะปวดตับและหายใจไม่ออก จะเลือกอย่างไหนก็เลือกเอาละกัน อย่างไรก็ตาม ขอให้น้องนัทรักตัวเองให้มากๆนะคะ ตอนนี้คงต้องถือคติว่า กินเพื่ออยู่แต่ไม่ไ้อยู่เพื่อกิน ก็แล้วกันนะคะ น้องนัท พี่อยากเห็นรอยยิ้มแจ่มใส เปิดเผย รวมไปถึงดวงตาที่แสดงถึงความจริงใจของน้องนัทไปอีกนานๆค่ะ จากคุณ : Regenbogen ^_^ เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 18:15:11

ความคิดเห็นที่ 70 ขอบคุณมากค่ะ   กลับมาแข็งแรงไวๆ นะคะ ^^ จากคุณ : ดาวน้อยใต้พระจันทร์ เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 18:56:31

ความคิดเห็นที่ 71 รักษาสุขภาพกันนะค่ะ ทุกคน อ่านแล้วสะท้อนจริงๆ เพราะตัวเอง ก็พึ่งโดนหมอสั่งให้ลดน้ำหนัก เพราะ ปี เดียว พุ่งขึ้น เกือบ 20 กิโล สาเหตุ จาก เครียดแล้วกิน .. ทั้งของหวานของทอด (ตามใจปาก) ต้องพยายามลดละเลิกให้ได้... ขอบคุณนะค่ะ แล้วก็ หายไวๆ ด้วยจ้า จากคุณ : meawkika เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 19:00:56

ความคิดเห็นที่ 72 สวัสดีคะ คุณนัท ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ ขอให้สุขภาพแข็งแรงนะคะ เป็นประโยชน์มากๆ เลย สุดยอดคะ จากคุณ : นู๋ยู้ฮู้ เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 19:13:27

ความคิดเห็นที่ 73 ขอให้กลับมาแข็งแรงไวๆนะคะคุณนัต ขอบคุณสำหรับคำเตือนค่ะ พรุ่งนี้เราก็จะไปเช็คหัวใจเหมือนกันค่ะ ยังไม่รู้ว่าผลจะออกมาเช่นไร กลุ้มเหมือนกันนะนี่ T-T" จากคุณ : saren เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 19:43:52

ความคิดเห็นที่ 74 พี่เจอมากับคนใกล้ตัวค่ะ  คุณพ่อพี่เองค่ะ กินเหล้าตั้งแต่หนุ่ม เมาขนาดขับรถเข้าซอยได้ แต่ไปหลับหน้าบ้านคนอื่น ก็เคย เรื่องสูบบุหรี่ก็คงเริ่มพร้อมๆกัน  แล้วก็เรื่องงานเครียดแบบด่าลูกน้องกระเจิงบ่อยๆ   เมื่อประมาณ6-7 ปีที่แล้ว แกก็อายุประมาณ63 เช้ามืดวันนึง แม่ขึ้นมาเรียกพี่ว่าป๊าหายใจไม่ออก แล้วก็ไม่มีแรง  ต้อง 3 คน ช่วยกันประคองลงมา(ตึกแถว)ชั้นล่าง พี่กับน้องคนเล็กก็รีบพาแกไปโรงพยาบาล จำได้เลยว่าป๊าได้แต่ครึ่งนั่งครึ่งนอน คือนอนเอนลงไปก็หายใจไม่ออก เราก็รีบเหยียบ  ดีว่าเช้ามืดรถยังว่าง  ไปรพ.ที่แม่ไปประจำ เพราะนึกที่อื่นไม่ออก  แล้วก็(รู้สึกว่า)ใกล้ หมอก็เอาเข้าICU เราก็ดูอยู่ห่าง  พยาบาลเจาะเลือดตรงหลังมือ  เลือดพุ่งเลยหล่ะ สรุปเป็นหัวใจเต้นไม่เท่ากัน  ไม่รู้ว่าเริ่มเป็นเมื่อไหร่ เพราะไม่เคยตรวจร่างกายเลย หมออธิบายว่าหัวใจเต้นไม่เท่ากันจึงทำให้เกิดไอน้ำที่ผนังปอดแล้วมันก็สะสมมาเรื่อย จนน้ำท่วมปอด  ทำให้เกิดความดันสูง คือมาเป็นpackageเลยหล่ะ นอนอยู่หลายวันค่ะ   ป๊ายังพูดติดตลกว่าจะขี้ยังเบ่งไม่ได้เลย วิ่งไปฉีดสีที่จุฬา ก็ไม่เจออะไรอุดตัน   เรื่องหัวใจเต้นไม่เท่ากัน  หมอบอกว่าเกิดจากกระแสไฟฟ้าในร่างกาย ซึ่งยังรักษาไม่หาย  เคยปั๊มหัวใจ เหมือนจะเพื่อให้หัวใจปรับกระแสไฟฟ้าใหม่ก็ไม่หาย หลังจากนั้นก็กินยาตลอดเลยค่ะ  หาหมอทุก 3 เดือน  แกก็เคยเปรยนะ  ค่ายาแพง  แถมต้องกินไปจนตาย  เราก็ได้แต่บอกว่า  กิน-ใช้อย่างอื่นไม่มีประโยชน์มากกว่านี้ยังได้เลย  เรื่องจำเป็นก็ต้องจำเป็นหล่ะ นี่คุณสามีก็ยังกินเหล้า สูบบุหรี่  แต่แกยังไม่กินดุเท่าป๊าสมัยก่อน  ก็ได้แต่ปรามๆค่ะ  แกดื้อ น้องนัทรักษาตัวด้วยนะคะ  เจอสัญญานเตือนแล้ว  บางคนไม่มีสัญญานเตือนเลยก็ไม่ทันซะแล้ว **แก้ไขคำผิดค่ะ แก้ไขเมื่อ 01 มี.ค. 53 19:58:47 จากคุณ : majolica เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 19:51:57

ความคิดเห็นที่ 75 มาให้กำลังใจน้องนัท รักษาสุขภาพให้ดีนะน้อง....พี่เป็นห่วง ยังจำวันที่เราพบกันได้มั้ย  ครั้งแรกเลยน่ะ  แล้วเราก็ไปดื่มกาแฟกันก่อนไปดูคอนเสิร์ตน่ะ สนุกมากเลยนะวันนั้น พี่ยังอยากเจอนัทอีก  ยังอยากคุย อยากฟังนัทร้องเพลงลูกทุ่งเพราะ ๆ ให้ฟัง ดังนั้นน้องนัทต้องตั้งใจให้มั่นคง  ดูแลร่างกายเราให้ดี พี่นั้นแก่แล้ว  โรคภัยมีมาตั้งแต่เด็ก  จึงรู้และประมาณตัวเองอยู่เสมอ การใช้ชีวิตของพี่ก็มีขีดจำกัดหลายอย่าง   เคยได้คุย ๆ กับพี่แอ๊ดหลายครั้งเกี่ยวกับเรื่องนี้  ต่างฝ่ายต่างก็คอยบอกกันและกันให้ใส่ใจเรื่องสุขภาพ  พี่แอ๊ดก็คอยให้กำลังใจพี่เสมอทั้งเรื่องออกกำลังกายและเรื่องลดความอ้วน รวมทั้งเรื่องภูมิแพ้และอะไรหลาย ๆ อย่างด้วย  (รวมทั้งโรคทางใจ....) บางครั้งก็มีการลืมไปบ้าง ประมาทไปบ้าง ด้วยคิดว่าเราเองยังไม่ค่อยแก่  แต่พอพี่แอ๊ดมาจากไปกระทันหันแบบนี้  แถมด้วยน้องนัทเรื่องนี้ ทำเอาพี่ต้องกลับไปทบทวนการใช้ชีวิตของตนอีกครั้งหนึ่งเลยค่ะ เป็นกำลังใจให้เสมอนะน้องนัท... จากคุณ : Amber n the Gang เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 20:46:37

ความคิดเห็นที่ 76 มาเป็นกำลังใจให้นะคะ พี่เอง อายุมากแล้วและ มีทั้งโรคหัวใจ และความดันสูง เช่นกัน น้ำหนัก ก็ขี้นเอา ขึ้นเอา ดูแลตัวเองนี่ยากจัง แต่ก็จะพยายาม พวกเราสู้ ๆ ค่ะ  หายเร็วๆ นะคะ จากคุณ : แทนตะวัน (TAN_TAWAN) เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 21:04:42

ความคิดเห็นที่ 77 โชคดีที่ยังไม่เป็นไรมาก ดูแลสุขภาพมากๆน่ะจ๊ะน้องนัท จากคุณ : เลิฟ2ซี เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 21:39:49

ความคิดเห็นที่ 78 รักษาสุขภาพเยอะๆนะนัท อย่าหักโหมเหมือนเมื่อก่อนนะ สู้ๆจ้า เป็นกำลังใจให้เพื่อนคนสวยเสมอ จากคุณ : namsomza เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 21:40:08

ความคิดเห็นที่ 79 รักษาสุขภาพด้วยนะคะน้ท เป็นกำลังใจให้จ้า จากคุณ : The eye of love เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 21:41:52

ความคิดเห็นที่ 80   อ่านเรื่องของนัทแล้ว คิดถึงคำสอนของ อาจารย์สอนโยคะของเราเลยค่ะ .............................................. กินอย่างมีสติ อย่ากินอย่างมีสตางค์ .............................................. จากคุณ : very baby (very baby) เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 22:27:57

ความคิดเห็นที่ 81 มาให้กำลังใจพี่นัทครับ นี่ก็เจอปัญหาเดียวกันกับผมไม่สามารถวิ่งออกกำลังกายได้ พอวิ่งแล้วเจ็บเข่ามากๆ เช้าวันต่อมาถึงขนาดเขยกกันเลยทีเดียว กำลังพยายามหาวิธีการออกกำลังกายที่แบบเซฟตี้หัวเข่าของตัวเองอยู่น่ะครับ  ....^.^.... จากคุณ : ม่ายรำพึง เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 22:54:37

ความคิดเห็นที่ 82 หายเร็ว ๆ นะจ๊ะนัตตี้ ดูแลรักษาตัวเองให้ดี ๆ ด้วยจ๊ะ เห็นด้วยจ๊ะว่านัตตี้อายุยังน้อย โรคพวกนี้ไม่น่ามาเยี่ยมเยือนเลย แต่ก็เพราะตัวเราเอง ยังไงก็ปรับนิสัยตัวเองให้ได้นะจ๊ะ เป็นกำลังใจให้จ้า โชคดีที่พี่ชอบออกกำลังกาย อาทิตย์นึงนี่ถ้าไม่ติดอะไรก็ 4-5 วัน แต่ได้แค่วันละชม.เพราะฟิตเนสไกลบ้าน >.< เมื่อก่อนนี่ วันละ2-3 ชม.แหนะ แต่ให้เล่นเองอยู่บ้านคนเดียวก็ไม่ชอบอ่ะ เลยต้องดั้นด้นเข้าเมืองทุกวัน ข้อเสียที่เล่นไกลบ้านอีกอย่างทำให้เวลานอนไม่พอ กว่าจะกลับถึงบ้านก็ 4 ทุ่ม ทำนู่นทำนี่มองอีกทีก็ 5 ทุ่มแระ วันไหนน้องดูทีวีอีกเลยไปถึงเที่ยงคืนนู่น (เป็นคนนอนไม่หลับถ้าเปิดไฟ+ทีวี) ตื่นตี 5 ครึ่ง สะโหลสะเหลทุกวัน ^^" กำลังพยายามจะหลับให้ได้ก่อน 5 ทุ่ม อ๊ากเล่นเน็ตเพลินอีกแล้ว โพสต์เสร็จจะไปนอนหล่ะ ^^" พ่อแม่พี่ก็เป็นเบาหวาน พี่มีสิทธิเป็นเหมือนกันเพราะโรคนี้เป็นกรรมพันธุ์ พี่ไม่อยากเป็นเลยไม่กินน้ำอัดลม ออกกำลังกายอยู่เสมอ ใครอยากดูแลตัวเองก็เริ่มด้วยการออกกำลังกายกันเถอะค่ะ สู้ๆ จากคุณ : บาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 22:55:13

ความคิดเห็นที่ 83 มาเป็นเพื่อน ด้วยโรคคล้ายๆกัน พี่เป็นเบาหวาน ภูมิแพ้ เคยเฉียดตายมาหนหนึ่งนอนรามาฯเกือบเดือน เรื่องเบาหวานพี่ไม่ค่อยตกใจเท่าใดนัก เพราะเป็นมรดกตกทอดมาจากพ่อ ( กรรมพันธ์ ) การกินยาของพี่เป็นระบบที่แย่มากๆ ด้วยอาชีพว่ามันต้องเดินทางไปต่างประเทศบ่อยๆ ทำให้ทานยาไม่ตรงตามหมอสั่งซักที น้องเป็นหมอก็บอกว่าถ้าพี่ไม่ทำตามยังงี้ ยังงี้......ก็ไปเกิดใหม่ดีก่า แล้วค่อยเริ่มต้นชีวิตใหม่ เอาเป็นว่าพี่เอาใจช่วยน้องก็แล้วนะ มีสุขภาพดีๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เพี๊ยง แก้ไขเมื่อ 01 มี.ค. 53 23:02:11 จากคุณ : pj (phon31) เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 23:00:33

ความคิดเห็นที่ 84   รักษาสุขภาพนะคะ ปรับวิธีทานใหม่อาจจะทรมานมากในช่วงแรก สักระยะก็จะชินค่ะ. อย่าลืมออกกำลังนะคะ เห็นเพื่อนใกล้ตัวออกกำลังกายก็ดีใจค่ะ. สังเกตุตัวเองตลอดเวลาว่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่ค่ะ. จากคุณ : I LOVE SF เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 23:10:43 A:124.121.63.201 X: TicketID:158569

ความคิดเห็นที่ 85 ดูแลสุขภาพนะคะ คุณนัท  เป็นกำลังใจให้คุณนัท เพราะตัวเองเพิ่งไปตรวจสุขภาพมา  หมอก็บอกว่า ให้งดกินเค็มเหมือนกัน  พยายามออกกำลังกายอยู่ค่ะ พี่ใช้วิธีเดิน วันละครึ่งชั่วโมง ฟิตเนสอีกสิบห้านาที อาทิตย์ละสามครั้ง  แต่ท่าจะน้อยไป  อาทิตย์หน้าขึ้น เป็นห้าครั้งต่ออาทิตย์  น้ำหนักลดไปนิดนึง  แต่ก็เอา แล้วละค่ะ   หวังว่า ถ้าพบกันเมื่อไรก็ตาม  คุณนัทจะตัวเล็กลงนะคะ จากคุณ : มาเฟียอ้วน เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 23:30:06

ความคิดเห็นที่ 86 รักษาสุขภาพนะค่ะ ออกกำลังกายด้วยการเดิน พี่ใช้เครื่องนับก้าว เดินให้ครบวันละ 10,000 ก้าวทุกวัน แบบว่าพอตื่นขึ้นมาก็เอาเครื่องเสียบกับกางเกง/กะโปรงเหมือน packlink สมัยก่อนแต่เล็กกว่าเยอะ พอเย็นๆก้ดูว่าได้เท่าไรแล้วถ้ายังน้อยก็ออกไปเดินรอบหมู่บ้าน อีก 20 นาที แบบว่าให้ร่างกายเคยชิน มาอยู่อเมริกาน้ำหนักลดลงไป 10 กก. ปีนี้ตั้งเป้าอีก 10 กก.ค่ะ ไม่รู้จะไหวไม๊ จาก 80 กก. ตอนนี้ 70 กก. เท่ากับตอนอยู่มหาวิทยาลัย จะเอาลงให้เท่าตอนมัธยม พี่โชคดี ตรงที่ว่าความดันต่ำ แต่ถ้าอดนอนก็จะหน้ามืด (ซึ่งหมอว่าแปลกสำหรับคน้ำหนักเกิน) ปกติจะอยู่ที่ 70/110 ช่วงต่ำมากๆบางทีก็ 60/90 อันนี้ต้องนอนอย่างเดียว พอเริ่มเดินออกกำลังกายเป็นประจำ ความดันที่เคยต่ำมากๆก็หายไป เอาใจช่วยค่ะ จากคุณ : สาวปากช่อง เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 23:38:42

ความคิดเห็นที่ 87 ขอบคุณมากเลยค่ะคุณนัท พิมเองเคยถูกตรวจพบว่าเป็นเบาหวานเมื่อประมาณเกือบ 3 ปีที่แล้ว แล้วก็มีคอเลสเตอรอลสูง ไตรกลีเซอไรด์สูง ความดันปกติ ค่าอย่างอื่นปกติ ก็พยายามปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินค่ะ + กินยางบ้าง + ออกกำลังกาบ้าง  จนประมาณ 10-12 เดือนผ่านไป ทุกอย่างก็เข้าสู่ปกติ  ก็ไม่ต้องกินยาแล้ว หมอบอกว่าถ้าควบคุมอย่างอื่นได้ตลอดไป ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร และหลังจากนั้นผ่านมาปีกว่าก็ไม่มีปัญหาค่ะ แต่ว่าตอนนี้ ... เื่นื่องจากว่าต้องทำอาหารเยอะ เลย enjoy กับอาหารมากไปหน่อย ออกกำลังกายก็ไม่ได้ออก  พอวันไหนหยุด ด้วยความที่สะสมความเหนื่อยมาตลอด ก็นอนๆๆๆๆ บางทีได้หยุด นอนติดกัน 10 ชม. ก็มี ... ก็เลยเป็นสาเหตุให้ตอนนี้แอบหวั่นใจมากค่ะ อยากจะไปตรวจร่างกายอีกรอบ  (ตรวจล่าสุดเกือบ 2 ปีแล้ว)  ก็ว่าจะไปในเร็ววันนี้อ่ะค่ะ มีอะไรจะได้แก้ไขได้ทัน ขอบคุณที่มาแนะนำนะคะ ^^ จากคุณ : @ - ENYA - @ เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 23:57:15

ความคิดเห็นที่ 88 กลับมาแข็งแรงไวๆนะคะพี่นัท ... แค่ออกกำลังกายด้วยการเดินมันก็ช่วยได้เยอะแล้วนะคะ  เคยดูรายการเจาะใจเมื่อหลายปีก่อน ที่มีคนเป็นโรคหัวใจขนาดที่เดินนิดหน่อยก็เหนื่อยหอบแล้วเค้าพยายามเดินออกกำลังกายจนแข็งแรง วันนึงเดินได้ทีละหลายกิโลเลยค่ะ สู้ๆนะคะ จากคุณ : yupiga เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 00:48:48

ความคิดเห็นที่ 89 ขอบคุณทุกๆท่านที่เข้ามาอ่านค่ะ มาทำสัญญากันนะคะ   ว่าจะดูแลสุขภาพตนเองให้ดีขึ้น โดยเฉพาะท่านที่มีปัญหามีโรคประจำตัว ขออย่าได้ละเลยการพบแพทย์ตามนัด  กินยาให้ต่อเนื่อง หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่จะไปกระตุ้นให้โรคภัยออกอาการไว หรือทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนตามมาทีหลังนะคะ จากคุณ : your_natty เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 08:52:04

ความคิดเห็นที่ 90   คุณ นัท ขอให้หายไว ๆ นะค่ะ ดูแลตัวเองดีๆนะค่ะ และขอบคุณสำหรับคำแนะนำคำเตือนที่ดีๆ มีประโยชน์มากมายค่ะ จากคุณ : ของกินคนเมือง (ของกิ๋นคนเมือง) เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 09:03:39

ความคิดเห็นที่ 91 ขอให้มีสุขภาพแข็งแรงนะครับ และดูแลสุขภาพด้วยครับ ผมเองเมื่อก่อนน้ำหนักเกือบเก้าสิบกิโลกรัม ก็มีอาการปวดท้ายทอย และมองไม่ชัด มีอาการเรอเป็นระยะ ๆๆ ทั้งวัน ไปตรวจสายตา คิดว่าคงต้องตัดแว่น หมอบอกว่าสายตาไม่น่าจะมีปัญหา แต่จากที่มีอาการแบบนี้แนะให้ไปเจาะเลือด ตรวจดูว่ามีอะไรผิดปกติบ้าง ก็ไปเจาะครับ เจอไตรกรีเซอไรด์สูงครับ ซึ่งเจ้านี่มีสาเหตุมาจากการกินอาหารจำพวกแป้งเยอะครับ หมอก็บอกว่า จะกินยา หรือควบคุมอาหารก่อนดี ผมเลือกควบคุมอาหารก่อน เพราะไม่อยากกินยา เพราะรู้ว่าอาการข้างเคียงเป็นอย่างไร ก็เลยตั้งใจควบคุมอาหาร ตอนแรกก็หงุดหงิดครับ เพราะเคยกินอาหารอร่อย ๆๆ ยิ่งทำเองด้วยแล้ว กินหมดเรียบ 5555 แต่พอมานึกถึงสุขภาพ และจะต้องกินยา ก็ทำให้ต้องเคร่งเรื่องอาหารการกิน ตอนนั้นคิดว่าคงต้องหาอะไรมาเป็นเป้าหมาย ให้เราตั้งใจที่จะทำให้ได้ตามเป้าหมาย ตอนนั้นบอกตรง ๆๆ ว่าอยากหุ่นดี และหน้าตาแบบดาราคนหนึ่ง ที่ชื่นชอบ ก็เลยบอกกับตัวเองว่าจะควบคุมอาหาร และไปออกกำลังกาย ทำได้แฮะ จนหลัง ๆๆ ที่บ้านชักจะเป็นห่วง ว่ากินข้าวน้อย (แต่กินกับเหมือนเดิม) แล้วไปวิ่งออกกำลังกายทุกวัน วันละหนึ่งชั่วโมง เป็นอย่างน้อย แรก ๆๆ วิ่งไม่ไหว เพราะอ้วน ก็ไปเดิน ๆๆๆ แล้วก็ค่อยเพิ่มเป็นวิ่งเยาะ ๆๆๆ แรก ๆๆ มีคนวิ่งผ่านไป แล้วหันมามอง ทำนองว่า ....ไอ้อ้วน เพิ่งคิดได้เหรอ ที่จะมาออกกำลังกาย อะไรทำนองนั้น แรก ๆๆ ก็อาย แต่มันก็เป็นความจริงอ่ะนะ ก็ต้องพยายามกันไป อย่าหมดกำลังใจไปซะก่อน เพราะเรามี......เป้าหมาย ^^ ตอนนั้นลดลงมา 20 กิโลกรัม ในเวลาแปดเดือน โดยไม่ได้ใช้ยาอะไรเลย เหลือ 68 กิโลกรัม ก็รู้สึกสบายตัวดีมาก ๆๆๆ สุขภาพดีมาก ๆๆ แต่ตอนมาเรียนที่ญี่ปุ่น ไม่ได้ควบคุมอาหาร เพราะว่าอาหารส่วนใหญ่จะเป็นแป้ง และไม่ได้ออกกำลังกาย น้ำหนักเลยขึ้นมา แตะที่ 84 กิโลกรัมอีกครั้ง ต้องไปซื้อเสื้อผ้าใหม่หมด (อีกครั้ง) แต่มามีปัญหาสุขภาพอีก คือผมมีโรคประจำตัวคือกระดูกอักเสบ ซึ่งดูท่าทางจะกำเริบอีก เลยควบคุมอาหารอีกครั้ง โดยยอมเหลือข้าว ในมื้ออาหารกลางวัน เพราะที่นี่เขาจะกินข้าวกันจนหมด ไม่เหลือ แต่หลัง ๆๆ ผมจะบอกคนตักข้าวที่โรงอาหารว่าขอข้าวน้อย ๆๆ ละกัน จะได้ไม่ต้องทิ้ง ก็ดีขึ้นครับ กินหมด โดยไม่มีคนมองว่าเป็นคนกินทิ้งกินขว้าง ^^" แต่ไม่ได้ออกำลังกายเหมือนเดิม แต่ก็มีเดิน ๆๆ ออกกำลังกายบ้าง ไม่กินอาหารหลังหกโมงเย็น (อันนี้ทำได้บ้าง ไม่ได้บ้าง) งดน้ำอัดลม เพราะมันคือน้ำเชื่อมแต่งกลิ่น ที่อัดแก็ส กินไปก็อ้วนชัวร์ เลยพยายามงด ตอนนี้เหลือประมาณแปดสิบกิโลกรัมครับ แต่วันนี้เป็นหวัดครับ เลยไม่ได้ไปทำแล็ป เลยแวะเข้ามาอ่านกระทู้ครับ ก็เลยเป็นห่วงพี่ ๆๆ น้อง ๆๆ ในก้นครัว ว่าการทานอาหารให้อร่อย ก็ต้องระมัดระวังเรื่องสุขภาพด้วยครับ เพราะคนแต่ละคน มีสุขภาพแตกต่างกัน เราจะไปกินมากแบบเขาคงไม่ได้ อะไรทำนองนั้น ขอให้มีความสุขที่ได้กินอาหารที่เราชอบ แต่ขอให้มีลิมิต และระมัดระวัง กินอย่างชาญฉลาดครับ ผมก็จะพยายามด้วยคนครับ อ่านเจอข้อความจากพี่บี๊ ขอให้พี่ทานยาอย่างสม่ำเสมอ หากต้องกินตลอด ก็ไม่เป็นไรครับ ขอให้เรามีสุขภาพดีเป็นพอ อย่าคิดว่าเราแตกต่างจากคนอื่น แต่ขอให้คิดว่านี่คือเรา เป็นเรา และสุขภาพของเราครับ เมื่อก่อนผมทำงานเป็นเภสัช รพ ชุมชน เคยให้คำแนะนำเรื่องยาแก่ผู้ป่วยเบาหวาน หลายคนจะตั้งข้อกำหนดเอง ในการใช้ยา กินยา ฉีดยา ทำให้การรักษาไม่เป็นไปตามเป้าหมายครับ ก็ต้องบอกว่าคงต้องพยายามครับ เพราะสุขภาพที่ดีจะเกิดขึ้นได้ ก็เป็นเพราะตัวเราเองครับ ^^ ขอให้พี่มีสุขภาพดี และแข็งแรงครับ ตอนนี้ขอให้จิตใจแข็งแรงก่อนเพื่อนเลยนะครับพี่ จากคุณ : Medicine Man เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 09:04:22

ความคิดเห็นที่ 92 ขอโทษนัทตี้มากๆเลยน้องรัก  ช่วงที่น้องนัทโทรมาพี่ก็กำลังยุ่ง กับเด็กๆที่บ้าน  น้องโทรมาพี่ก็ไม่ว่าง  พี่โทรไปน้องก็ยุ่ง  คงต้อง ปรับตัวเองใหม่แล้ว  หาเวลาให้คนที่เรารักใคร่ได้พูดคุยกันให้มาก ขึ้น  เวลาของคนเรามันสั้นจริงๆ   สิ่งที่น้องนัทเตือนมาในกระทู้นี้มีประโยชน์มากๆ  ของพี่ก็โรคเพียบ แต่คงเพราะมีอารมณ์ขันมากไปหน่อย  โรคภัยมันเลยยังฮาฮากันอยู่ เวลามันจะมา  ขอแบบคุณหมีละกัน  พี่กลัวเจอหมอหน้าตาไม่หล่อ เวลาตายมันจะติดตาน่ะ ไอ้เรื่องกินของพี่ยิ่งแล้วใหญ่  อยากจะกินอะไรก็กิน  ยิ่งสามีกลับแค่ ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ที่เหลือก็เป็นเวลาของเรา  ไม่มีคนห้าม  บ้าขนาดที่ ว่าขับรถเข้ามากินในกทม.  แล้วขับกลับยุดยา  ถึงบ้านก็นอนเรอ  อืด เหมือนคนตายทั้งกลม  อย่าเอาอย่างเน้อ ขอให้น้องนัทสุขภาพดีวันดีคืน  แข็งแรง  สมบูรณ์(ที่ไม่ได้แปลว่าอ้วน) ทำกิจการงานได้ดีกว่าเดิม  ผิวพรรณเปล่งปลั่ง  สดใส  สวยงามทั้งกาย และใจ  เป็นนัทตี้ที่เป็นที่รักของทุกๆคนนะคะ  แล้วเจอกันนะ จากคุณ : bolton fanclub เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 10:47:14

ความคิดเห็นที่ 93 ขอให้น้องนัทรักษาสุขภาพด้วยนะคะ พี่เองมีโอกาสได้คุยกับคุณแอ๊ดในงานมีทติ้ง แต่ส่วนใหญ่จะคุยเรื่องสุนัขเพราะคุณแอ๊ดชอบเลี้ยงสุนัขและมาซื้อสุนัขแถวบ้านพี่ คุณแอ๊ดจะเป็นเจ้าประจำที่เอาซินนามอนโรลแสนอร่อยของลิตเติ้ลโฮมมาให้พวกเราทานกัน ไปสู่สุขคติเถิดนะคะ จากคุณ : Searchlady (Searchlady) เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 10:54:16

ความคิดเห็นที่ 94 ขอให้นัทตี๊ ของพี่สุขภาพแข็งแรง พักผ่อนมากๆ อย่าทำงานเกินตัวนะจ๊ะ พี่ยังอยากฟังเสียงเพลง จากน้องไปนานๆ ถ้าไม่สบายอีก โทรหาพี่ได้ตลอดเวลาเลยนะ ไม่ต้องเกรงใจ รักและเป็นห่วงเสมอ จากคุณ : หนิง/เชียงใหม่ เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 11:20:14

ความคิดเห็นที่ 95 ขอบคุณคุณนัทตี้มากที่เข้ามาเตือนสติ  ขอให้คุณสุขภาพดีวันดีคืนนะคะ พวกเราก้นครัวทางเชียงใหม่ก็เริ่มคิดได้กันแล้วก็เริ่มนัดกันออกกำลังกาย ทานอาหารที่มีประโยชน์แล้วค่ะ คำที่คุณนัทพูดที่หม่าวชอบมากคืที่ว่า " นึกถึงต้นเหตุที่ทำให้ป่วยและเสียดาย เสียดายที่ใช้ร่างกายของตัวเองสนองความอยากในการบริโภคจนเกินพอดี เสียดายเงินทองที่จ่ายไป   แลกเอาโรคเอาภัยใส่ตัว" ปีนี้เป็นปีที่จะทำสิ่งดีๆให้ตัวเอง สัญญากับตัวเองว่าปีนี้จะเป็นปีทอง  ได้เลิกสูบบุหรี่ไปแล้วเกือบ 2 เดือนและกำลังเริ่มออกกำลัง ลดน้ำหนัก  อยากทำซะก่อนจะต้องเป็นอะไรแล้วค่อยได้สติ ขอบคุณอีกครั้งสำหรับแรงบันดาลใจ  และขอมอบกำลังใจให้คุณนัทด้วยนะคะ จากคุณ : factorygirl เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 12:22:05

ความคิดเห็นที่ 96 เรื่องย่าง ปิ้ง ทอด เป็นอ้นตรายอย่างยิ่งโดยเฉพาะกับสัตว์ใหญ่ รวมทั้งเนย มาการีน แอลกอฮอล์ ชากาแฟเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน พวกนี้เป็นอาหารของมะเร็งนะครับ ผมยังห่วงชายกางอยู่เลยครับ อยากให้ทุกคนมีสุขภาพที่ดี จะได้ร้บทานของอร่อยๆกันต่อไป จากคุณ : Teedy (Teedy) เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 13:03:10

ความคิดเห็นที่ 97 รักษาสุขภาพด้วยนะค่ะ จากคุณ : vivi_b เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 13:24:52

ความคิดเห็นที่ 98 ขอบคุณที่นำเรื่องดีมีสาระมาเล่าให้ฟัง ขอให้รักษาตัว หายเจ็บหายไข้เร็ว ๆ นะคะ คุณพระรักษาค่ะ จากคุณ : น้านก (Aunti-นก) เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 13:29:06

ความคิดเห็นที่ 99   พี่นัท ดูแลตัวเองดี ๆ นะคะ หายเร็ว ๆ น๊า จากคุณ : สวยระยะฟักตัว เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 14:13:15

ความคิดเห็นที่ 100 ขอบคุณที่นำมาแบ่งปัน รักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ ไว้อาลัยแด่พี่หมีค่ะ จากคุณ : djangel เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 14:20:17

ความคิดเห็นที่ 101 ได้อ่านเรื่องของน้องนัทแล้ว  ทำให้ต้องหันมามองตัวเอง ด้วยความคิดที่ว่า   กินเท่าไรก็ไม่อ้วนหรอก ตัวเล็กนิดเดียว ทำให้ตามใจปากสุดๆ  กินกาแฟทั้งๆที่ กินแล้วใจสั่นพั่บๆ กินน้ำหวานทั้งวัน  จนบางครั้งเริ่มอาการคันยิบๆ หมอก็ไม่เคยเจอกันมาหลายปีดีดัก....อืม....ต้องหันมามองตัวเองแล้ว อย่างนี้น้องนัทบอก  "  เงินทองที่จ่ายไป  แลกเอาโรคภัยมาใส่ตัว " .... ขอบคุณน้องมากจ้า  ที่เตือนสติพี่ได้หันมาใส่ใจ  ไม่ตามใจปากตัวเองอีก จากคุณ : พี่ปูนิ่ม เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 14:28:48

ความคิดเห็นที่ 102 นู๋นัทจ๊ะ ถึงแม้ช่วงนี้เราจะไม่ค่อยได้คุยกัน แต่พี่ก็เป็นห่วงนู๋นัทเสมอจ้า ยิ่งทราบข่าวอย่างนี้ยิ่้งเป็นห่วงใหญ่เลย ขอให้นู๋นัทรักษาสุขภาพดีๆ และขอให้แข็งแรงๆ ขึ้นๆ นะจ๊ะ ด้วยรักและเป็นห่วงเสมอ จากคุณ : ต้า (ชาญี่ปุ่น) เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 14:33:36

ความคิดเห็นที่ 103 ...หายไวๆนะคะน้องนัท ^^ จากคุณ : แมวอ้วน (A Little Catz) เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 15:26:23

ความคิดเห็นที่ 104 ความดัน 160/100 นี่สูงเอาเรื่องเหมือนกันนะครับ รักษาสุขภาพด้วยครับผม ส่วนผมเองก็คงต้องระมัดระวังเรื่องอาหารการกินให้มากขึ้น แต่คงยากนิดนึงครับ ตราบใดที่ยังติดห้องก้นครัวอยู่อย่างนี้ ขอบคุณมากครับ จากคุณ : Magic Finger เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 18:06:38

ความคิดเห็นที่ 105 ขอให้เอาชนะโรคภัยกลับมาแข็งแรงโดยไวนะ ... นัท ทุกอย่างเริ่มต้นที่ใจ พอปรับแนวคิดได้ ทุกอย่างก็จะง่ายขึ้นเอง เป็นกำลังใจให้ชาวก้นครัวที่กำลังเจ็บป่วยทุกคนด้วย อาหารเป็นยาที่วิเศษจริงๆ ใส่ใจเลือกกินนิดนึง จะได้ไม่ต้องกังวลกับสุขภาพย้อนหลัง เพราะความเจ็บป่วยเป็นความทุกข์ที่ทรมาน (ทั้งตัวเองและคนรอบตัว) ภาษิตโบราณที่ว่า ก้นไว้ดีกว่าแก้ นั้นขลัง-จริง ใครไม่ถนัดออกกำลังกาย หรือไม่รู้จะเริ่มอย่างไร ลองหมั่นเดินขึ้น-ลงบันไดวันละ 10-20 รอบ เก็บบ้านไปด้วย นั่งหน้าจอคอม นึกงานไม่ออก ง่วง หงุดหงิดให้ลุกไปดื่มน้ำ 1 แก้ว พอกินน้ำเยอะๆ ขับถ่ายบ่อยๆ จะส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกายอีกทาง จากคุณ : เสมอกลาง เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 21:41:52

ความคิดเห็นที่ 106   กลับไปเยี่ยมครอบครัวที่เมืองไทยเมื่อเดือนที่แล้วซะ1 เดือน ไม่ได้เข้าห้องก้นครัวเลย เจอข่าวร้ายเรื่องคุณแอ๊ด หมีมังกร ก็ตกใจเรื่องน้องนัทตี้อีก ปกติพี่จะอ่านอย่างเดียว จนได้มีโอกาสไปเจอคนดังในห้องก้นครัว ในงานมิตติ้ง มิ.ย 52 ดีใจมากๆ ยังจำน้องนัทตี้ได้ ไม่มีลืม พี่กลับบ้านงวดนี้ พี่ก็แย่เพราะไม่สบายมาจากเยอรมัน กลับไปไม่ดูแลสุขภาพตัวเอง เพราะยังไม่หายป่วยดีแต่อยากเที่ยว จนได้ไปนอนที่รพ. 3 วัน  ขอให้น้องนัทตี้หายป้วยเร็วๆนะคะ ดูแลสุขภาพด้วย จากคุณ : ทะเลดาวอาบแสงจันทร์ เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 00:06:22

ความคิดเห็นที่ 107 ขอบคุณพี่ๆเพื่อนๆ ทุกคนนะคะ นัทก็ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพที่แข็งแรงและสมบูรณ์เช่นกันค่ะ จากคุณ : your_natty เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 08:42:59

ความคิดเห็นที่ 108 น้องนัทจ๋า ดีใจที่น้องนัทดีขึ้นจ๊ะ ตั้งแต่นี้ต่อไปพยายามรักษาสุขภาพนะจ๊ะ อะไรๆที่มันเกินกำลังเราก็หยุดๆซะบ้าง เอาเวลาไปหาความสุขใส่ตัว ถ้าเราเป็นอะไรไปคนที่เสียใจที่สุดคือพ่อ แม่ แล้วก็คนที่รักเรานะจ๊ะ ดูพี่เป็นตัวอย่าเอาไว้จ๊ะ อย่าให้สายจนเกินไปเหมือนพี่นะ รักและเป็นห่วงมากๆ ปูลู กลับมาจากสิงคโปร์แล้วว่าจะโทรไปเยี่ยมแต่เห็นนัทมาตั้งกระทู้อย่างนี้แล้วแสดงว่าดีขึ้นเยอะแล้ว อิอิอิ รักษาเนื้อรักษาตัวมากๆนะจ๊ะ จากคุณ : ทนายอ้วน เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 09:04:54

ความคิดเห็นที่ 109 หายเร็วๆนะคะ น้องนัท จากคุณ : เอ๋ (บ้านตูนเตย) เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 10:56:13

ความคิดเห็นที่ 110 ขอบคุณที่นำเรื่องราวมาเตือนใจนะคะ และขอเป็นกำลังใจให้คุณนัทหายไวไวนะ จากคุณ : Because u luv me เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 11:22:36

ความคิดเห็นที่ 111 เพิ่งรู้ข่าวว่าพี่นัทป่วย  พี่ที่ทำงานบอกว่าเป็นประทู้แนะนำห้องก้นครัว หายไวๆนะคะ  เป็นห่วงมากมายเลย ช่วงนี้กิฟเองก็ลดอาหาร ลดขนมนานๆกินที เพราะผลเลือดกิฟไม่ค่อยดีเลยพี่นัท น้ำตาลสูงกว่า100 (104) คอเรสเตอรอลเนี่ย สูงมากกกกกก เห็นแล้วตกใจเลยอ่ะ ช่วงนี้กิฟเลยงดขนม กินผลไม้ที่ไม่หวาน แทนขนม กินทั้งวัน ออกกำลังทุกเช้า 30 นาที (ที่ทำงานมีฟิตเนส เล่นตั้งแต่ 8.00-8.30) ผลที่ได้ยอดเยี่ยมมากเลยพี่นัท คอเรสเตอรอลจาก 262 ลดลง 242 (ช่วงออกกำลังเดือนแรก ตอนนี้ออกมา 3 เดือนแล้ว คาดว่าคอเรสเตอรอล จะลดลงใกล้ 200 แล้ว) น้ำหนักลด ไป 3.5 กก. (ออกมา 3 เดือน เฉลี่ย 1 กก/เดือน) แล้ว นน ไม่กลับมาด้วยนะ กิฟเองเลยอยากบอกทุกท่านที่น้ำหนักตัวเกิน หรือ คอเรสเตอรอลสูง การออกกำลังกายและลดอาหารหวานและขนมลง เปลี่ยนมากินผลไม้แทนขนมและกินผักมากๆ ช่วงรักษาสุขภาพเราได้จริงๆนะคะ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าพี่นัทจะหายในเร็ววัน และหาหนทางที่ดีที่สุดสำหรับการออกกำลังและจำกัดการกินให้ได้ไวๆนะคะ กิฟจะคอยเป็นกำลังใจให้พี่นัทเสมอ รักนะจุ๊บๆ จากคุณ : คุณแม่ลูกสาม+2 (tungift) เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 11:31:01

ความคิดเห็นที่ 112 ได้อ่านเรี่องของน้องนัท แล้ว ต้องหันมาพิจารณาตัวเอง แล้วปรับวิถีชีวิตใหม่ ขอบคุณ กับคำแนะนำดีๆๆค่ะ ขอให้คุณกลับมามีสุขภาพที่ดี นะคะ จากคุณ : สิบโท เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 12:28:32

ความคิดเห็นที่ 113 เป็นกำลังใจให้ครับ ผมเองก็เคยเจอมาเหมือนคุณนัท นี่แหละ ความดันสูงไม่เคยไปตรวจจนอาการออก  หัวใจโต นอนราบไม่ได้ไม่สามารถนอนได้เหมือนกับกำลังจะจมน้ำ นอนไม่หลับมาเกือบเดือนจนทนไม่ไหวไปหาหมอ หมอจับเข้าICU เหมือนกัน  หมอให้ยาขับปัสสาวะคืนนั้นฉี่ทั้งคืนตวงได้8ลิตร ตอนเช้าน้ำหนักหายไป8โล ตัวเบาเลย  ไปechoหัวใจโต  บีบตัวแค่24เปอร์เซนต์  โดนจำกัดน้ำ อาหารเค็มเหมือนกันครับ   ตอนนั้นรู้สึกแย่มากๆ  แต่ผมทนครับกินยา  ไปหาหมอตามเวลา   พอความดันเริ่มคุมได้อวัยวะต่างๆก็เริ่มกลับมา   การทำงานไตดีขึ้น  หัวใจผมหดตัวจนมีขนาดปกติ  การบีบตัวก็กลับมาปกติ   ทั้งหมดนี่หลักๆที่ดีขึ้นมาได้คือการออกกำลังกายครับ  เริ่มแต่น้อยพอไหวก่อน  เดี๋ยวจะค่อยทำได้มากขึ้นๆ  จนผมตอนนี้ออกกำงกายเป็นชั่วโมงก็ไม่เหนื่อย^^  ตอนนี้กลับมาซ่าส์ได้อีกแอบกินBEERทุกคืนอิๆ  สู้ๆนะครับ จากคุณ : ตุ้งอุดแดง เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 13:47:33

ความคิดเห็นที่ 114 จากคุณ : soomchon เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 17:32:28

ความคิดเห็นที่ 115   เพิ่งได้เข้ามาอ่าน ดีใจที่คุณนัตตี้สุขภาพดีขึ้น ก็ขอให้ดูแลตัวเองนะคะ จะได้สามารถดูแลคนที่เรารักได้ตลอดไปนานๆ สู้ๆค่ะ จากคุณ : กระต่าย เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 53 00:23:51 A:96.226.27.254 X: TicketID:166635

ความคิดเห็นที่ 116 วันนี้เริ่มทำบันทึกแล้วค่ะ บันทึกว่าทานอะไรเท่าไหร่  ยังไง มีทำอะไรนอกภารกิจประจำวันไหม เอาไว้สังเกตุตัวเองค่ะ เดือนหน้าค่อยชั่งน้ำหนักอีกที...อิอิ จากคุณ : your_natty เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 53 16:00:11