ความคิดเห็นที่ 1 เราต้มน้ำกระเจี๊ยบไม่ได้มีเทคนิคอะไรมาก กระเจี๊ยบสดไปซื้อที่ตลาดล้างเอาแต่ใบมาต้ม ต้มประมาณ 1 กำมือ ต่อน้ำ 2 ลิตร จะใส่พุททราจีนด้วยก้อได้ ถ้าใส่ ใส่ประมาณ 6 - 7 เม็ด พอเดือด ใส่กระเจี๊ยบลงไป เคี่ยวไปสักพักพอแดงๆๆ ใส่น้ำตาลนิดหน่อยพอมีรสหวาน(แล้วแต่ชอบ) ช้อนเอากระเจี๊ยบออก ทิ้งไว้ให้เย็น ใส่ขวดเข้าตู้เย็น กินได้เรื่อย ๆ หอมชื่นใจดีค่ะ รสชาติจะอมเปรี๊ยวอมหวาน กระเจี๊ยบสดจะอร่อยกว่ากระเจี๊ยบแห้งค่ะ ส่วนใบที่เหลือ มีคนแนะนำมาอีกทีค่ะ เอามากวนในหม้อ กวนกับน้ำตาลพอประมาณใส่เกลือเล็กน้อย รสชาติตามใจชอบถ้าหวานก้อเยอะหน่อย จนมันเป็นเนื้อเดียวกัน เก็บใส่ขวด เป็นแยมทานขนมปังตอนเช้า รสชาติอร่อยดีอมเปรี้ยวอมหวาน จากคุณ : ยืมล็อคอินน้องใช้ค่ะ (nutcs) เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 15:06:08

ความคิดเห็นที่ 2 ...  เทคนิคและวิธีการต้มน้ำกระเจี๊ยบไม่มีอะไรมากครับ    เพียงแต่กระเจี๊ยบมีรสเปรี้ยวและเป็นกรด  หม้อที่ใช้ต้ม ควรจะเป็นหม้อเคลือบหรือหม้อสแตนเลสครับ    ดอกกระเจี๊ยบสด จะให้สีและรสที่จัดจ้านกว่าแบบตากแห้งนะครับ  ถ้าเราใช้น้ำซัก 3 ลิตร ต้มให้เดือด ก็จะใช้ดอกกระเจี๊ยบประมาณ ครึ่งกิโลครับ ต้มจนออกสี และรส  เติมน้ำตาลทรายจนเราถูกใจ เดาะเกลือทะเลลงไปนิดนึง เพื่อดันรสให้เข้มข้นขึ้น  ทิ้งให้เย็นตัวลง ใส่น้ำแข็งดื่มชื่นใจดีครับ    กรองเอากากดอกออกมา  แล้วนำไปกวนทำแยมกระเจี๊ยบได้อีก ถ้าชอบทานแยม  และทำเล่น ๆ ในยามว่าง  แต่ในส่วนตัวผมเองคิดว่า  มันเป็นการขยายผล ที่ไม่คุ้มค่าน่ะครับ เลยไม่ค่อยกวนแยมต่อ    สำหรับดอกกระเจี๊ยบแห้ง จะให้สีดี แต่รสเปรี้ยวนั้นจะอ่อนมาก ๆ อาจจะถึงขั้นบีบมะนาวช่วยทีเดียวครับ ... กากดอกแห้ง ทิ้งสถานเดียวครับผม จากคุณ : ชายกาง... (OverEat) เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 15:23:58

ความคิดเห็นที่ 3 คลายร้อน ตามกระทู้ข้างบนเลยค่ะ   ส่วนที่นำมาต้มคือ กลีบดอกกระเจี๊ยบ  ถ้าหากซื้อดอกสดๆมาต้องแกะกลีบมาใช้ ส่วนที่เป็นฝักเมล็ดตรงกลางไม่ใช้นะคะ   ทั้งดอกสดและดอกแห้ง ต้องล้างให้สะอาดก่อนนำมาต้ม เพราะเศษดิน ฝุ่นผงจะติดมา ส่วนเมล็ดที่แก่สามารถนำไปปลูกได้ค่ะ กลีบดอกสดหากต้มไม่นานนัก  จะยังมีรูปทรงสวย  นำมาตกแต่งในแก้ว  ที่ใส่น้ำแข็งเตรียมเสริฟ เพิ่มความสวยงามได้ค่ะ จากคุณ : fatcoco เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 17:17:24

ความคิดเห็นที่ 4 คลายร้อน ตามกระทู้ข้างบนเลยค่ะ   ส่วนที่นำมาต้มคือ กลีบดอกกระเจี๊ยบ  ถ้าหากซื้อดอกสดๆมาต้องแกะกลีบมาใช้ ส่วนที่เป็นฝักเมล็ดตรงกลางไม่ใช้นะคะ   ทั้งดอกสดและดอกแห้ง ต้องล้างให้สะอาดก่อนนำมาต้ม เพราะเศษดิน ฝุ่นผงจะติดมา ส่วนเมล็ดที่แก่สามารถนำไปปลูกได้ค่ะ กลีบดอกสดหากต้มไม่นานนัก  จะยังมีรูปทรงสวย  นำมาตกแต่งในแก้ว  ที่ใส่น้ำแข็งเตรียมเสริฟ เพิ่มความสวยงามได้ค่ะ จากคุณ : fatcoco (fatcoco) เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 17:17:52

ความคิดเห็นที่ 5 ใส่เกลือตอนต้มกระเจี๊ยบลงไปด้วยนะคะ สีจะอกกมาแดงสดค่ะ จากคุณ : sand_sand เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 19:23:10

ความคิดเห็นที่ 6 ผมใช้แต่ดอกสดครับ ล้างให้สะอาดล้างฝุ่นกับเศษดินออกให้หมด แล้วต้มทังเมล็ดครับ ผมว่าจะได้รสที่เข้มข้นกว่า พอได้น้ำกระเจี้ยบ ผมก็จะเอาดอกสดที่ต้มแล้วมาแกะเอาแต่กลีบดอกมาปั่นกับน้ำ กระเจี๊ยบที่ต้มไว้ แล้วกรองผ่านกระชอนเอาส่วนทีแข็ง ๆ ทิ้งไป แล้ว ต้มต้มกับเนื้ออีกที ปรุงรสด้วยน้ำตาลกรวดและเกลือเล็กน้อย ผมชอบ ทำรสเข้มข้น แช่ให้เย็นจัด ๆ ใส่น้ำแข็งทุบดื่มดับกระหาย อร่อยชื่นใจ ได้ทั้งน้ำและเนื้อ ไม่เสียเปล่าครับ สูตรนี้ได้มาจากพี่สาว ซึ่งมักจะทำ ไปถวายพระที่วัด ซึ่งพระจะชื่นชอบมากถึงกับเอ่ยปากว่า น้ำกระเจี๊ยบ ที่ไหนก็ไม่อร่อยเท่าของพี่สาวครับ จากคุณ : sakchai splash เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 19:30:57

ความคิดเห็นที่ 7   ที่เขาต้มขายเห็นแอบใส่มะขามเปียกด้วย จากคุณ : aspiresatit เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 19:49:55

ความคิดเห็นที่ 8 อย่าดื่มมากนะคะ กระเจี๊ยบมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ เราก็ต้มดื่มบ่อย ดื่มมากๆ ระวังไตมีปัญหาจากการกรองของเสียนะคะ จากคุณ : สะใภ้เล็ก เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 53 21:43:23

ความคิดเห็นที่ 9 แอบทราบสูตรที่เขาต้มขายและขายดีมาก ผสมน้ำต้มมะดันสดครับ อร่อยเปรี้ยวได้ใจครับ กระเจี๊ยบปรับความดันโลหิตสูง แต่ถ้าดื่มบ่อยๆ ก็ขอแนะนำให้ผสมพุดทราจีนลงไปลดฤทธิ์ของกระเจี๊ยบจะปลอดภัยกว่าครับ แต่ถ้านานๆๆๆๆดื่มสักครั้งก็คงพอได้ครับผม จากคุณ : ลุงทอม เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 53 15:32:42

ความคิดเห็นที่ 10 ตามสูตรของคนจีน ต้องใส่พุทราจีนแห้งลงไปต้มด้วยครับ เพื่อป้องกันฤทธิ์ของกระเจี๊ยบไปกัดไต และ ปอด ครับ จากคุณ : สมุทรสัญจร เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 53 22:46:55