|
ความคิดเห็นที่ 1 |
ตามลิงก์เลยค่ะ มีรูปและวิธีทำให้ดูด้วย
http://www.fabio-angeli.de/pdf/Sauerkrautherstellung.pdf
รูปที่ ๑ และ ๒ ที่มีหม้อดินสีน้ำเงินไม่ต้องไปดู ..เพราะถ้าทำน้อย ๆ ก็ใส่ขวดเอาค่ะ
วิธีทำ เอากระหล่ำปลีหัว ๆ มาหนึ่งหัว ลอกเปลือกใบนอกที่เสีย ๆ พวกนี้ออกจนเกลี้ยง ผ่ากลางเอาขั้วแข็ง ๆ มันออก แล้วก็เอาไปไส ๆ ให้มันเส้นเท่ากัน เอาเกลือโรย คลุก ๆ ให้เข้ากัน แล้วจับใส่ขวดโหล
ใส่ไปก็เอาไม้กระทุ้ง ๆ กดลงไปให้แน่น ๆ แล้วปิดฝา เอาไปไว้ที่ไม่สว่างและเย็นเกินไป อุณหภูมิราว ๑๗ ถึง ๒๐ องศา ประมาณ ๗ ถึง ๑๔ วันแล้วแต่บักเตเรียตัวที่ทำให้นมเปรี้ยว (ภาษาไทยเรียกว่าอะไรเอ่ย นึกชื่อไม่ออกค่ะ) ..อันนี้ดูรูปเหนือนม(รองสุดท้าย)
แล้วที่รูปท้ายสุด จะเห็นว่าดองไปกระหล่ำปลีในขวดนี่ก็จะมีน้ำออกมา เปิดฝามาก็จะได้กลิ่นเปรี้ยว แล้วหลังจากนั้นก็เอาไปไว้ที่ห้องใต้ดินได้แล้วค่ะ(หรือที่เย็น ๆ หน่อยก้ได้ค่ะ)
แล้วที่สำคัญก็ต้องเปิดฝาทุกวัน อย่างน้อยวันละสองครั้งให้แก๊สมันออก และ ต้องเอาที่กระทุ้ง กด ๆ ให้ผักมันลงไปด้วย
อ้อ ผักกระหล่ำปลีหัว ๔ กก ใช้เกลือประมาณ ๓๐ กรัมค่ะ (ตามสูตรที่เขาให้มานะ)
แต่อีกสูตรหนึ่งเขาให้มา http://www.wer-weiss-was.de/theme96/article1678053.html
Dann wirst Du noch einmal deine Haende arg strapazieren muesen. Das gehobelte Kraut wird jetzt schichtweise in den Steinguttopf gefuellt. Dabei wird immer wieder Salz dazu gegeben, auf 50 kg Kraut kommt 1 kg Salz. Jede einzelne Schicht wird mit der Faust fest angedrueckt, so dass am Ende das Kraut im eigenen Saft liegt. Oben auf das Kraut kommen dann zwei Holzstaebe, die ich mit einem Stein beschwere. Dann den Deckel drauf und die Rille mit Wasser auffuellen. Nach ca. 6-8 Wochen kannst Du dann Dein Kraut geniessen. Grüße Almut
เขาบอกว่า กระหล่ำปลี ๕๐ กก กับเกลือ ๑ กก ..เอากระหล่ำปลีเรียงไปเอาเกลือโรยเป็นชั้น ๆ เอากำปั้นมือกด ๆ มันลงไป(ทำซ้ำจนกว่าจะหมด) แล้วเอาไม้สองอันมาขัดปากหม้อ เอาหินหนักทับไม้อีกที(ทำให้ผักมันจมค่ะ) ปิดฝาหม้อเติมน้ำให้ถึงขอบ แช่คาไว้ในหม้อดิน ๖ ถึง ๘ อาทิตย์ก็ทานได้ค่ะ (Steinguttopf เป็นหม้อที่ทำมาจากเซรามิคเหมือนรูปหม้อสีน้ำเงินข้างบนค่ะ)
แถมนิด ..ที่อ่านผ่านมาเจอบางสูตรเขาก็ใส่ยี่หร่าลงไปด้วย หรือว่าใบกระวานลงไป หรือdill ลงไปด้วย ..แต่บางคนก็ไม่ใส่ มาใส่ตอนต้มก็ได้ค่ะ
ปล. ดิฉันเองก็ยังไม่เคยทำเองนะ แล้วในพี่กูฯ ยังมีอีกหลายสูตรก็ของชาวบ้านเขาทั้งนั้น ก็ลองเอาไปทำดูค่ะ
แก้ไขเมื่อ 18 เม.ย. 53 06:55:34
แก้ไขเมื่อ 18 เม.ย. 53 07:00:26
จากคุณ |
:
NATTI นัทตี้
|
เขียนเมื่อ |
:
18 เม.ย. 53 06:51:04
|
|
|
|
|