ความคิดเห็นที่ 1 ..... .... แต่วันนี้ "น้ำกะทิทุเรียน" นางเอกของเรา ควงคู่มากับ "ข้าวตอก" มิได้มากับ "ข้าวเหนียวมูน" นะคะ  ^___^ ..... ซึ่งพิมอยากจะขอบอกว่า ใครที่ไม่เคยกินข้าวตอกกับน้ำกะทิทุเรียนเนี่ย อยากให้คอยดู และอยากให้หามาชิมให้ได้ค่ะ เพราะว่ามันอร่อยมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ (ตัดสินเอาจากความรู้สึกพิมนะ) เลยค่ะ จากคุณ : @ - ENYA - @ เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 17:00:41

ความคิดเห็นที่ 2 ........ แต่.......... ก่อนจะโพสต์วิธีทำ "น้ำกะทิทุเรียน" เนี่ย  พิมขอตัวไปทำธุระสักแปร๊บบบบบ นะคะ (หลายคนอาจจะสงสัยว่า แล้วทำไมไม่ไปทำก่อนจะมาโพสต์ล่ะเนี่ย .... ก็แบบว่า อยากโพสต์รูปต้อนแขกเอาไว้ก่อนค่ะ อิอิ แล้วเดี๋ยวมาใหม่นะคะ ไม่นานๆ) ว่าแต่ .... ระหว่างรอ  พิมขออวด "มังคุดจิ๋ว" ที่สวนพิมก่อนค่ะ จากคุณ : @ - ENYA - @ เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 17:04:12

ความคิดเห็นที่ 3 ....  แบบว่ามันน่ารักมากๆๆๆ  ... ลูกมันใหญ่กว่าปลายนิ้วชี้พิมหน่อยเดียวเอง .....  น้องชายพิมเก็บมาฝากเมื่อวานนี้เองค่ะ  แล้วบอกว่า "อย่าลืมถ่ายรูปไปอวดเพื่อนในเนตด้วยนะ" ............ ^^" จากคุณ : @ - ENYA - @ เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 17:05:01

ความคิดเห็นที่ 4 ..... แถมไม่มีกลีบๆ  ตรงตรูดลูกที่คอยบอกให้เรารู้ว่าข้างในผลมีกี่เม็ดย่อยด้วยนะคะ ..... ประหลาดดีแท้  อย่างนี้เอาไปออก guinness book world records .... ได้ไหมเนี่ยยยยยย (อันนี้พิมล้อเล่นนะคะ) ว่าแต่ไปล่ะค่ะ ... เดี๋ยวมาใหม่นะคะ อย่ากินมังคุดพิม .... หมดลูกซะล่ะ !! จากคุณ : @ - ENYA - @ เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 17:09:08

ความคิดเห็นที่ 5 อยากกินน้ำกะทิทุเรียนจังค่ะ จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 17:13:41

ความคิดเห็นที่ 6 มากินมังคุดอย่างเดียวเลย อิอิอิ จากคุณ : ทนายอ้วน เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 17:15:13

ความคิดเห็นที่ 7 อุอุ มังคุดเล็ก รึมือยักษ์เนี่ยะ จากคุณ : ต้นโพธิ์ต้นไทร เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 17:17:04

ความคิดเห็นที่ 8 สวัสดีค่ะคุณพิม ของชอบทั้งสองอย่างเลยค่ะ^^ จากคุณ : สาวชาวสวน เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 17:17:44

ความคิดเห็นที่ 9 กรี๊ด........น้ำกะทิทุเรียนมาแล้ว........น่ากินมากคะคุณพิม จากคุณ : สาววิเศษ เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 17:20:24

ความคิดเห็นที่ 10 แทะมังคุดจิ๋วรอพี่พิม  เอ้.......จำได้ว่า เมื่อคราวก่อนโน้นนนนน ไม่รู้นานแค่ไหน พี่พิมพก็มาเข่ยาต่อมอยากด้วยเมนูนี้ไปทีแล้ว  อิอิ หนูเปงแฟนคลับ จำได้ๆ จากคุณ : 2แบ๊ว (boonnote) เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 17:21:51

ความคิดเห็นที่ 11 แม้ว่าทุเรียนจะไม่ใช่ผลไม้ที่เหมียวชอบเลย แต่มังคุดนี่เป็นผลไม้ที่เหมียวชอบที่สุดพอ ๆ กับเงาะเลยค่ะ มารอดูว่าตกลงมันจะกินได้มั้ยเนี่ยจิ๋วขนาดนี้ ที่คุณพิมเคยสอนให้ดูว่าขนุนใช้ได้หรือยัง เหมียวไปดูตามนั้นค่ะ ปรากฏว่ามีอยู่ 4 ลูกที่มันนอนอยู่บนพื้นแต่ว่าไม่เห็นมีใบติดที่ขั้วเลยค่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะถ่ายรูปมาให้ดูนะคะ แล้วจะเอามาใส่ในกระทู้นี้นะคะ ฝากคุณพิมช่วยดูด้วยว่าใช้ได้หรือยัง ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : EmeraldCut เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 17:26:04

ความคิดเห็นที่ 12 น่าจะแกะให้ดูนะคะ อยากเห็นว่ามังคุดจิ๋วข้างในเป้นยังไง ^^'' จากคุณ : คุณหนูเอาแต่ใจ เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 17:46:01

ความคิดเห็นที่ 13 โห..ข้าวตอกน้ำกะทิทุเรียนน่ากินมากค่ะ เคยกินกับยายสมัยเด็ก ๆ  ยายเอาทุเรียนบ้าน (ทุเรียนพื้นเมือง) มาทำกับกะทิค่ะ อร่อย หวาน มันมากเลยค่ะ ข้าวตอกก็ทำเอง เอาข้าวเหนียวมาคั่วเองเลยค่ะ คิดถึงยายจัง ยายเสียไป 10 กว่าปีแล้วค่ะ  ขอบคุณกระทู้ดี ๆ แบบนี้ค่ะคุณพิม จากคุณ : เพชรชมพู เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 17:58:32

ความคิดเห็นที่ 14 กำลังไดเอทอยู่เลยค่ะคุณพิม แต่เห็นน้ำกะทิทุเรียนของคุณพิมแล้วอยากปรี๊ดดดขึ้นมาเลยค่ะ หุหุ จากคุณ : บ้านฟ้าซอย 5 เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 18:04:11

ความคิดเห็นที่ 15 ขอชิมมังคุดจิ๋วดีกว่าค่ะ      น้ำกะทิทุเรียนขอผ่าน แต่ถ้ามาเป็นลูกๆ ถึงไหนถึงกัน  ^_^ จากคุณ : ต้มตุ๋นอุ่นนึ่งทอด เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 18:07:08

ความคิดเห็นที่ 16 สวัสดีค่ะ พี่พิม อยากหม่ำมังคุดจิ๋ว ด้วยอะคะ น่ารักจังเลย แอบน้ำลายไหล เห็นกะทิทุเรียนด้วย 555  น่าหม่ำมากๆ จากคุณ : นู๋ยู้ฮู้ เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 18:15:22

ความคิดเห็นที่ 17 เข้ามารำลึกความหลังค่ะน้องพิม ไม่ได้กินมานานมากๆแล้วจ้า เมื่อก่อนอยู่ สุราษฎร์ฯได้กินบ่อยค่ะ ตั้งแต่มาเป็นชาวกรุงเต๊บไม่รู้จะหากินที่ไหน ฮือๆ จากคุณ : winview'mom เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 18:29:11

ความคิดเห็นที่ 18 โอ้ทุเรียน จากคุณ : jena_naam เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 18:33:09

ความคิดเห็นที่ 19 .... สวัสดีค่ะทุก ๆ คน กลับมาแล้ว ๆ  ค่ะ  ไปทำธุระมาเพิ่งจะเสร็จ ตอนนี้กำลังลงครัวไปด้วย แล้วก็มาโพสต์ไปด้วยค่ะ อาจจะช้านิดนึง ไม่ว่ากันนะคะ ^^ ขอโพสต์ก่อนล่ะกันเน๊าะ เดี๋ยวค่อยคุยกัน .... เวลาเราพูดถึงน้ำกะทิทุเรียนเนี่ย พิมเชื่อว่าถ้าเป็นหนุ่มสาวสมัยใหม่ 99% จะต้องนึกถึงข้าวเหนียวมูนด้วยแน่นอนเลยค่ะ  แต่ถ้าเป็นพิม (หนุ่มสาวสมัยโบราณ หุหุ)  หรือไม่ก็คนที่มีพื้นเพเป็นคนต่างจังหวัด โดยเฉพาะในแถบภาคใต้ อย่างสุราษฎร์ แล้วก็แถบตะวันออกอย่างจันทบุรี  จะนึกถึง "ข้าวตอก" แทนอ่ะค่ะ แต่กระทู้นี้ ... พิมขอเน้น ๆ เฉพาะน้ำกะทิทุเรียนแล้วกันเน๊าะค่ะ  ส่วนเรื่องข้าวเหนียวมูนหรือข้าวตอกเนี่ย ก็แล้วแต่ความชอบค่ะ  ถ้าใครชอบข้าวเหนียวมูน ลองหาในกระทู้เก่า ๆ ของพิมได้ค่ะ มีอยู่ 2 กระทู้ล่ะ (ก็โพสต์ 2 ครั้งนี่นา) ว่าแต่ ... เราไม่รอช้า เริ่มจะหิวแหละ มาดูส่วนผสมน้ำกะทิทุเรียนตามฉบับบ้านพิมกันดีกว่าค่ะ ก็จะมี ............ 1. น้ำกะทิข้นๆ หน่อย  5 1/2 ถ้วย  (คั้นด้วยน้ำอุ่น จากมะพร้าวขูด 7 ขีด) 2. น้ำตาลปี๊บอย่างดี 400-500 กรัม  (ขึ้นกับความหวานของน้ำตาล และความหวานของทุเรียน) 3. เกลือป่นนิดหน่อย 4. เนื้อทุเรียนงอมๆ   ปริมาณตามชอบ   (พิมใส่เยอะมาก ๆ ค่ะ) 5. ใบเตย 3-5 ใบ จากคุณ : @ - ENYA - @ เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 18:41:20

ความคิดเห็นที่ 20 .... มาดูส่วนผสมอย่างแรกกันเลยนะคะ ... ก็คือ "น้ำกะทิ" ... พิมใช้มะพร้าวขูดธรรมดานี่แหละ   ..... ไม่ต้องใช้มะพร้าวขูดขาวก็ได้   เพราะว่าเดี๋ยวพอเราขยำกะทิกับน้ำตาล มันก็จะกลายเป็นสีมอ ๆ น้ำตาลอ่อน ๆ เหมือนกัน  (แต่สมัยเด็ก ๆ จะต้องใช้แบบขูดขาวเสมอ ไม่งั้นจะโดนดุ -*-) .. ก็ใช้มะพร้าวขูดราวๆ  700 กรัม  แล้วก็ใส่น้ำต้มสุกอุ่นลงไปประมาณ 4 ถ้วยกว่าๆ   ... ก็คั้นออกมาเป็นน้ำกะทิราว ๆ 5 1/2 ถ้วย ค่ะ ถ้าใครไม่สะดวกจะมาคั้นกะทิสดเอง จะให้ทางร้านขูดมะพร้าวเค้าขูดมาให้เลยก็ได้ค่ะ   (แต่ระวังนิด มักมีปัญหา น้ำกะทิบูดไว และไม่ข้นตามต้องการ)  หรือว่าถ้าใครหากะทิสดไม่ได้เลยจริงๆ  จะใช้แบบกล่องหรือแบบถุง ก็พอแก้ขัดได้นะคะ ป.ล. ขอฝากวิธี+เทคนิคการคั้นกะทิไว้ให้ดูนิดนึงนะคะ เผื่อใครจะสนใจ  http://pim.in.th/tip-in-kitchen/105-coconut-milk.html จากคุณ : @ - ENYA - @ เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 18:47:01

ความคิดเห็นที่ 21 พี่พิมค๊า สองอย่างนี้ ถ้าวันศุกร์แวะไปมันจะยังอยู่มั้ยย แง้วๆ จากคุณ : =เด็กเอ๋ยเด็กดี= เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 18:54:13

ความคิดเห็นที่ 22 ..... คุณแหม่มค่ะ ...... อยากให้มาชิมเหมือนกันค่ะ มันอร่อยมากๆ คุณทนายอ้วน ....... จะอิ่มไหมค่ะ อิอิ คุณพี่ต้นโพธิ์ .... กรุณามองผ่านมือไปค่ะ >_<" คุณมด ...... ไว้พิมจะเอามาฝากทั้งต้นเลยค่า คุณทิพย์ ....... ขอบคุณจ้า เดี๋ยวดูวิธีทำตามแบบพิมนะคะ น้องแบ๊ว .... ใช่แล้ววววววววววววววว ปีนี้พี่ก็ทำอีก วิธีเดิม สูตรเดิมแหละ อิอิ คุณเหมียว .... อีกวิธีก็ดูที่น้ำยางจากตรงขั้วก็ได้อ่ะค่ะ  ทดลองเจาะรูเล็กๆ  ถ้าน้ำยางที่ไหลออกมาขุ่นมาก แสดงว่ายังไม่แก่  แต่ถ้าใส แสดงว่าโอเคแล้วค่ะ จากคุณ : @ - ENYA - @ เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 19:02:19

ความคิดเห็นที่ 23 ..... คุณหนูเอาแต่ใจ .... พิมก็อยากแกะดูข้างในเหมือนกันนะคะ แต่บอกจริง ๆ ว่าเสียดาย >_<"   มันน่ารักมากๆ ไว้รอทำใจอีกสองวัน คุณเพชรชมพูค่ะ ...... พิมเห็นด้วยมากๆ เลยค่ะ  หากใช้ทุเรียนพันธุ์เก่า ๆ หน่อย ที่เนื้อเหนียว หอม หวานมาทำ จะอร่อยมากเลยค่ะ คุณบ้านฟ้า ค่ะ ...... ^^ พิมก็กำลังไดเอทเหมือนกัน แต่สงสัยจะไม่รอด คุณปู ..... ว่าง ๆ มาชิมมังคุดกะทุเรียนที่บ้านพิมน๊า น้องยู้ ..... อิอิ น่ารักเน๊าะ ไว้มีอีก พี่จะเอาไปแจกคนละลูก ให้กินให้อิ่มกันไปเลย ฮ่ะๆ พี่ winview ค่ะ ....... เป็นคนสุราษฎร์เหรอค่ะพี่ สามีพิมก็คนสุราษฎร์เหมือนกันค่ะ แถวบ้านส้อง ข้าวตอกที่ใช้คราวนี้ก็หอบหิ้วขึ้นมาจากสุราษฎร์เลยอ่ะค่ะ คุณ jena .... ชอบไหมค่ะ น้ำกะทิทุเรียนแบบนี้เนี่ย ^^ จากคุณ : @ - ENYA - @ เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 19:02:42

ความคิดเห็นที่ 24 เป็นคนสุราษฎร์ฯ จ้า อยู่ อ.เมือง ต.ขุนทะเล ค่ะ ปีนี้พี่จุ๋มยังไม่ได้กลับบ้าน เลยค่ะ  ปกติช่วงสงกรานต์จะกลับ แต่ปีนี้น้องวินวิวสอบเข้าเรียนต่อ ม.1,ม4 เลยไม่ได้กลับค่ะ  กลับบ้านทีไรจะหอบหิ้วของชอบมากรุงเทพเหมือนกันค่ะ ตอนนี้กะปิอร่อยๆก็จะหมดแล้ว สงสัยปีนี้ต้องให้น้องสาวส่งมาให้ค่ะน้องพิม จากคุณ : winview'mom เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 19:08:18

ความคิดเห็นที่ 25 มังคุดจิ๋วน่ารักมาก จากคุณ : jin leng เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 19:11:10

ความคิดเห็นที่ 26 สวัสดีค่ะคุณพิม น่ากินทั้งสองอย่างเลยค่ะ มังคุดจิ๋วน่ารักน่าหม่ำมากๆ อิๆ จากคุณ : โตเหมี่ยว เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 19:23:55

ความคิดเห็นที่ 27 ขอแบบ น้ำกระทิทุเรียนเพียวๆก็ได้ มันหนักแน่นดีอ่ะครับ จากคุณ : ภักษาภิรมย์ เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 19:31:54

ความคิดเห็นที่ 28 แอบย่องเบาๆ เข้ามาจกมังคุดไป 2 ลูกฮับ ไปเดินห้าง เห็นโลเหยียบร้อยเลย.... จากคุณ : pikaball เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 19:37:40

ความคิดเห็นที่ 29 รูปแจ่มจังค่ะ จากคุณ : never the last เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 19:38:37

ความคิดเห็นที่ 30 อยากกินทั้งสองอย่างเลยอ่ะ จากคุณ : kintub เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 19:47:17

ความคิดเห็นที่ 31 ตายแน่ๆ ตายแน่ๆ... น้องพิมเอ๊ย พี่นะตอนนี้แทบไม่อยากเดินตลาดเลย กลิ่นทุเรียนมันเตะจมูกจนหน้าหงายทุกครั้งเลย แต่เห็นแบบนี้แล้ว ตายแน่ๆ อยากกินอ่ะ ทำไมมาเจอตอนใกล้จะสองทุ่มน้า พรุ่งนี้จัดการซะดีไม๊เนี่ย ^ ^ จากคุณ : ลูกไหม เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 19:53:41

ความคิดเห็นที่ 32 .... น้องขวัญจ๋า .... ศุกร์นี้ น้ำกะทิทุเรียนไม่อยู่แล้วจ๊ะ  และคาดว่าน่าจะไม่ได้ทำ เพราะว่ากลางวันต้องเอาผลไม้ไปส่งเค้าหลายที่เลย  แต่วันเสาร์อยู่น๊า และก็มีผลไม้สด ๆ ที่เพิ่งเก็บมาด้วยอ่ะ พี่จุ๋ม ค่ะ .... พิมก็ย้ายกลับจากสุราษฎร์มานานแล้วเหมือนกันค่ะ  ล่าสุดที่ไปมาก็ตอนหลังสงกรานต์นี่เอง  แล้วไปสุราษฎร์ทีไร ขากลับต้องแบกกะปิ ไข่เค็ม ข้าวตอกกลับมาทุกทีเลยอ่ะค่ะ คุณ jin leng ..... ^^ พิมก็ว่างั้นแหละค่ะ จากคุณ : @ - ENYA - @ เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 20:00:48

ความคิดเห็นที่ 33 ..... ต่อมาก็เป็นน้ำตาลนะคะ ... พิมเห็นบางคนเค้าจะชอบใช้น้ำตาลทรายในการทำน้ำกะทิทุเรียน    แต่ที่บ้านพิมจะชอบใช้น้ำตาลปี๊บมากกว่าค่ะ   เพราะรู้สึกว่ามันมีความหอมมันมากกว่า และรสชาติก็เข้มข้นกว่า  ที่สำคัญพิมว่ามันเข้ากับทุเรียนได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ น้ำตาลปี๊บเนี่ย ... ให้เลือกน้ำตาลดี ๆ หน่อยนะคะ ตามตลาดสดทั่วไป เค้าจะมีน้ำตาลปี๊บ  2 เกรด (นับรวม ๆ ไปกับพวกน้ำตาลมะพร้าว น้ำตาลปึก ฯ นะคะ)  .... พิมเคยถามร้านขายของชำ เค้าบอกว่า มีเกรดทั่วไป ไว้ใช้ทำอาหารทั่วไป  กับเกรดดีหน่อย ไว้ทำขนม ... แถวบ้านพิมเกรดทั่วไปตอนนี้ (เมษา-พ.ค. 53)  ราคาโลละประมาณ 30 บาท  และเกรดดีหน่อย จะโลละประมาณ 37-40 บาทอ่ะค่ะ แล้วน้ำตาลปี๊บดี ๆ เนี่ย    ก็มีทั้งแบบนิ่ม ๆ เหลว ๆ กับแบบแข็งนะคะ ... ถ้าเราได้แบบแข็งมา  เราก็เอามันไปตากแดดซะหน่อย เพื่อให้มันเหลว ๆ  แต่ถ้าไม่มีเวลาเอาไปตากแดด  ก็เอามีดบางอันเล็ก ๆ มาสไลด์น้ำตาลให้เป็นแผ่นบาง ๆ แบบนี้ก็ได้ค่ะ  เวลาบี้น้ำตาลกับกะทิ... จะได้บี้ให้เข้ากับกะทิได้ง่าย วันนี้พิมจะใช้น้ำตาลประมาณ 400 กรัมกว่า ๆ ... พิมก็จะสไลด์น้ำตาลเอาไว้แค่ประมาณ 450 กรัมค่ะ ป.ล. ปริมาณน้ำตาลที่ใช้ขึ้นกับความหอมหวานของน้ำตาล และก็ความหวานของทุเรียน  รวมไปถึงความหวานของข้าวเหนียวมูนด้วยค่ะ ป.ล. ควรเลือกใช้น้ำตาลที่สีอ่อนค่ะ จะทำให้น้ำกะทิออกมาสีกำลังสวย  หากใช้น้ำตาลที่สีเข้มมากไป น้ำกะทิที่ได้ จะดูไม่ค่อยน่ากินค่ะ (สีเข้มเกินไป) จากคุณ : @ - ENYA - @ เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 20:06:05

ความคิดเห็นที่ 34 สวัสดีค่ะคุณพิมหอมกลิ่นทะลุจอเลยค่ะ จากคุณ : แม่น้องตุลย์ ตุลา เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 20:09:49

ความคิดเห็นที่ 35 ชอบทุเรียนมาค่ะ จากคุณ : ginko เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 20:11:49

ความคิดเห็นที่ 36 .... แล้วเพื่อให้ขยำน้ำตาลเข้ากับกะทิได้ง่าย ๆ + เพิ่มกลิ่นหอม  ....... พิมก็เลยจะใช้ใบเตยมาเป็นตัวช่วยในการขยำค่ะ  .. ใช้สัก 3-5 ใบก็พอ ล้างให้สะอาด แล้วตัดเป็นท่อนสั้น ๆ จากคุณ : @ - ENYA - @ เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 20:24:34

ความคิดเห็นที่ 37 ... สวัสดีค่าคุณโตเหมี่ยว ..... นี่ถ้ามีสักสองร้อยลูก พิมจะแจกเพื่อน ๆ ห้องก้นครัวคนละลูกเลยนะคะเนี่ย ^^ คุณเนียง ..... ได้ค่ะ สำหรับคุณเนียงเนี่ย ได้เสมอ  (ว่าแต่น้ำกะทิทุเรียนเพียว ๆ พิมก็ชอบอยู่เหมือนกันน๊า) น้องบอล .... ง่ะ จกไปหมด แล้วพี่จะเหลือไรเนี่ย   (ตอนนี้มังคุดราคาถูกแล้วน๊า ตามตลาดสดกิโลละ 25-30 เอง) คุณ never the last ค่ะ ..... ขอบคุณค่าสำหรับคำชม คุณ kintub .... มองผ่าน ๆ พิมนึกว่าเป็น knitub ทุกทีเลยค่ะ พี่ลูกไหมค่ะ  .... ใจจริงพิมก็อยากจะโพสต์ตั้งแต่บ่ายแล้วค่า  แต่เพิ่งกลับมาถึงบ้านเอาตอนค่ำนี่เอง ไม่มีเจตนาจะโพสต์ยั่วเลยนะคะ (อิอิ) แม่น้องตุลย์ค่ะ .... สนสักถ้วยโต ๆ ไหมค่ะ คุณ ginko ค่ะ ..... เหมือนกันเลยค่ะ ทุเรียนเนี่ย เท่าไหร่เท่ากันเลย จากคุณ : @ - ENYA - @ เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 20:28:34

ความคิดเห็นที่ 38 .... สุดท้ายที่เราจะขาดไม่ได้ซะ ก็คือ เนื้อทุเรียนค่ะ ... พิมเลือกใช้ทุเรียนพันธุ์ชะนี เพราะมีกลิ่นแรง เนื้อละเอียด อีกทั้งยังมีกลิ่นที่หอมเป็นเอกลักษณ์ และก็รสชาติหวานเข้มข้นค่ะ   ... ซึ่งที่เห็นในภาพอาจจะดูไม่ค่อยงามเท่าไหร่ เพราะว่าพิมเอาทุเรียนที่สุกงอม ที่กะเอาไว้ว่าจะเอามากวน แต่ไม่ได้กวน ..... ไปเก็บใส่ไว้ในช่องแช่แข็ง ...... อ่ะค่ะ ป.ล. ทุเรียนที่ใช้ทำน้ำกะทิทุเรียน ควรจะเป็นทุเรียนที่ มีกลิ่นแรง สีสวย แก่จัด หอมหวาน แล้วก็สุกงอมมากๆ  งอมเป็นปลาร้ายิ่งดีค่ะ จากคุณ : @ - ENYA - @ เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 20:35:13

ความคิดเห็นที่ 39 ขอซักถ้วยนะค่ะ จากคุณ : นางหนูลูกแม่ เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 20:38:04

ความคิดเห็นที่ 40 ... สวัสดีค่ะคุณนางหนูลูกแม่ ^^ ... แล้วพอได้มา ก็ให้เราฉีกเฉพาะเนื้อเอาไว้ก่อนได้เลยนะคะ ..... ตามในภาพนี้เลย  ฉีกให้เป็นชิ้นใหญ่หน่อยนะคะ  ..... อย่าฉีกชิ้นเล็ก เพราะไม่งั้นเวลาเราเอาไปผสมน้ำกะทิ แล้วคน ๆ เนี่ย มันจะไม่เห็นเป็นเนื้อเป็นหนังอ่ะค่ะ ปริมาณเนื้อทุเรียน ... ก็ตามชอบเลยนะคะ มีมาก ชอบมาก ก็ใส่มาก มีน้อยหรือชอบน้อย (จะมีไหมเนี่ย) ก็ใส่น้อยๆ ค่ะ  .. แต่ใส่เยอะ อร่อยมากนะคะ ขอบอกๆ ^^ จากคุณ : @ - ENYA - @ เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 20:44:31

ความคิดเห็นที่ 41 น้ำลายหยด...ขอถ้วย(ใหญ่ๆ)ได้มั๊ยคะ อิ อิ มังคุดก็น่ารักมากเลยค่ะ จากคุณ : แมวเน่า_GIFT-GIFT เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 20:46:44

ความคิดเห็นที่ 42 ........ พอเตรียมข้าวเตรียมของเสร็จ ก็มาเริ่มลงมือทำน้ำกะทิทุเรียนกันเลยค่ะ ...  เริ่มแรกก็ ... เอาน้ำตาลใส่ลงไปในหม้อน้ำกะทิค่ะ  ใส่ไปสักประมาณ 350 กรัมก่อน  (ถ้าไม่หวาน ค่อยใส่เพิ่ม) ป.ล. ก่อนทำควรจะล้างมือให้สะอาด  หรือใครถนัดใส่ถุงมือก็ตามถนัดเลยค่ะ  (แต่พิมไม่ถนัดเน้อ) จากคุณ : @ - ENYA - @ เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 20:51:36

ความคิดเห็นที่ 43   ปลาร้าทุเรียนใส่น้ำกะทิ ท่าจะหอมฟุ้ง  น่ากินจัง ทุเรียนกวนก็อยากกิน คุณพิมทำแล้วรีวิวด้วยนะคะ นานแค่ไหนก็จะรอ  // จากคุณ : แม่โมตัน (แม่โมตัน) เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 20:52:09

ความคิดเห็นที่ 44 พี่พิม ไม่แกะมังคุดเหรอคะ  รอดูเนื้อในค่ะ อิอิ ข้าวตอกแตกใส่น้ำกะทิทุเรียน จากคุณ : BabyShower เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 20:56:18

ความคิดเห็นที่ 45 .... ดีค่าคุณแมวเน่า .... ให้สักหม้อ กินหมดไหมค่ะ ^^ คุณแม่โมตัน ค่ะ .... หอมมากเลยค่ะ หอมจนแค่นึกก็อยากกินอีกแล้ว >_<"  ส่วนทุเรียนกวน ไว้คราวหน้ากวนอีกจะเอาภาพมาฝากนะคะ  กวนไม่ยากเล๊ยยยยยยยยยยย 3 ชม. เอ๊งงง น้อง BaByShower ... พรุ่งนี้นะ ๆ พี่จะแกะมาให้ดูล่ะ  วันนี้มึดแล้ว ถ่ายรูปออกมาต้องไม่ดีแน่ๆ จากคุณ : @ - ENYA - @ เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 21:04:35

ความคิดเห็นที่ 46 บอกได้คำเดียวค่ะพี่พิม ว่าน่าทานมากกกกกกกกก  เห็นแล้วน้ำลายไหลเลยอ่ะค่ะ   พรุ่งนี้สงสัยต้องไปตลาด ไปหาซื้อมาทานแก้ขัดไปก่อน อิอิอิ จากคุณ : KowneawMooping@Moobambam เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 21:26:54

ความคิดเห็นที่ 47   จะขอคุณพิมลดความอ้วนซักกี่ถ้วยดีนา จากคุณ : ไก่ (Schnuggy ชนุ๊กกี้) เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 21:31:55

ความคิดเห็นที่ 48 .... แล้วก็หยิบใบเตยที่ล้างสะอาด ตัดหัวตัดท้ายแล้ว ..... ใส่หม้อลงไป... จากนั้นก็ขยำ ๆ น้ำตาลในหม้อให้ละลายเข้ากับน้ำกะทิให้หมดค่ะ   (ย้ำ ๆ ถ้าน้ำตาลแข็งมาก เอาไปตากแดดให้นิ่ม หรือไม่ก็ฝานให้เป็นแผ่นบางๆ ก่อนนะคะ) จากคุณ : @ - ENYA - @ เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 21:53:09

ความคิดเห็นที่ 49 ... พอน้ำตาลละลายหมด ... ก็ลองชิมดูว่าความหวานโอเคไหม  (แต่จะต้องเผื่อความหวานจากทุเรียนอีกด้วยนะคะ)   ถ้าหวานน้อยไป  ก็ิเติมน้ำตาลลงไปอีกค่ะ  แล้วก็ขยำ ๆ เหมือนเดิมจนน้ำตาลละลาย ... แล้วก็ชิมอีกที ถ้าไม่พอใจอีก ก็เติมได้ค่ะ   แต่หากหวานไป  ก็ให้เติมน้ำกะทิแทนนะคะ  หรือหากไม่มีน้ำกะทิ จะใช้น้ำต้มสุกก็ได้ แต่อย่าใส่มากไป ไม่งั้นกะทิจะเจือจาง ไม่เข้มข้นหวานมันค่ะ .... ซึ่งพอน้ำกะทิหวานได้ที่   ก็ให้เราหยิบใบเตยออก แล้วทำการกรองซะ 1 ครั้ง  จะด้วยผ้าขาวบางหรือกระชอนก็ตามสะดวก  เพื่อเอาน้ำตาลที่ละลายไม่หมดออกไป และกรองเอากากใบเตยส่วนที่หลุด ๆ ทิ้งไปด้วยค่ะ จากคุณ : @ - ENYA - @ เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 21:55:29

ความคิดเห็นที่ 50 เคยเจอทุเรียนเมืองจีนอย่างดีลูกละแปดร้อยกว่าหยวน เด็ดกว่านั้น เจอทุเรียนปลาร้า ตรูดแตกห้ากลีบ แต่คนขายพยายามเอาเชือกฟางมัดไว้ไม่ให้มันอ้าออกค่ะ เปลือกก็เป็นสีเหลืองอีกต่างหาก ปวดใจกับคำโฆษณาว่าทุเรียนอย่างดีเมืองไทยมากกกก (หนึ่งหยวน คิดคร่าว ๆ ง่าย ๆ ที่ห้าบาทนะคะ) อยากกินทุเรียนน้ำกะทิเนื้อตู้ม ๆ มาก (เมื่อก่อนได้กลิ่นก็เบือนหน้าหนี เดี๋ยวนี้ชื่นใจ หรือว่าวัยถึงไม่ทราบได้ เอ๊ะ หรือแรงคิดถึงเมืองไทยพาไป) แก้ไขเมื่อ 05 พ.ค. 53 22:01:40 จากคุณ : ตั้งเพ็กเง็ก เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 21:58:17

ความคิดเห็นที่ 51 .... น้องข้าวเหนียวหมู .. เปลี่ยนจากตลาด มากินที่บ้านพี่แทนดีม่ะ อิอิ คุณไก่ค่ะ ... ลดความอ้วนสักหม้อ ท่าทางจะดีค่ะ พิมหนับหนุนเต็มที่ ^T^ คุณตั้งเพ็กเง็ก ค่ะ .... อยู่เมืองจีนเหรอค่ะ แล้วที่นั่นมีผลไม้ไทยไปบ้างไหมค่ะ หรือว่าแม้กระทั่งทุเรียนก็ปลูกจากในเมืองจีน แต่แหม .... ตรูดแตกแล้วยังเอาเชือกฟางมันไว้ นี่ มันเกินไปจริงๆ นะคะ >_< จากคุณ : @ - ENYA - @ เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 22:08:18

ความคิดเห็นที่ 52 ...... แล้วเราก็จะทำได้น้ำกะทิผสมน้ำตาลออกมาหน้าตาประมาณนี้   ตอนนี้จะยังดูไม่ข้นเท่าไหร่ ดูเผิน ๆ จะเหมือนน้ำกะทิลอดช่อง (จะว่าไปมันก็อย่างเดียวกันล่ะ) เพราะว่าเรายังไม่ได้ผสมเนื้อทุเรียนลงไปอ่ะค่ะ  แต่อีกเดี๋ยวจะข้นแบบเข้มเลย ^^ จากคุณ : @ - ENYA - @ เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 22:11:53

ความคิดเห็นที่ 53 .... ปกติเมื่อทำถึงตอนนี้ พิมก็จะเอาฉีก ๆ เนื้อทุเรียนใส่ลงไปในน้ำกะทิ คนให้เข้ากัน แล้วก็ตักราดบนข้าวเหนียวหรือข้าวตอกเลยค่ะ  ที่เหลือก็เก็บเข้าตู้เย็นกันไป  ก็ไว้ได้ 2 วันได้แบบสบาย ๆ ค่ะ   .... แต่ในฤดูร้อน ๆ และอากาศร้อนจัดแบบนี้  หากอยากทำขาย หรือทำเสร็จแล้วเอาไปแจกเพื่อบ้าน  ก็ก่อนที่จะใส่เนื้อทุเรียนลงไป  ให้เอาน้ำกะทิที่ผสมน้ำตาลแล้วอย่างในภาพบน  ไปตั้งไฟต่อแป๊บนึง  พอให้ร้อนจัด แต่ไม่ต้องเดือด ก็ยกลงค่ะ จากคุณ : @ - ENYA - @ เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 22:17:42

ความคิดเห็นที่ 54 อยู่เซี่ยงไฮ้ค่ะ มีผลไม้ไทยขายพอสมควร บางห้างก็จะขึ้นป้ายว่าผลไม้จากเมืองไทย โดยเฉพาะห้างของซีพีเขา (ดังมากค่ะที่เซี่ยงไฮ้) บางทีก็ขายโดยกงสุลใหญ่ประจำนครเซี่ยงไฮ้ เป็นงานโปรโมทสินค้าจากไทยค่ะ (เพิ่งมีงานตลาดน้ำผ่านไปค่ะ) แต่ราคาปวดใจมาก ร้านผลไม้ทั่วไปก็อาจเจอเงาะสีดำ คนขายชอบเอาแช่น้ำเอาไว้ บอกว่าขนจะได้ไม่ดำ(เฮ้อ....) ภาษาจีนเรียกลูกขนแดง แต่เราชอบต่อในใจว่าลูกขนดำแล้วเน้อ มังคุดก็แข็งเชียว ลำไยก็แบบว่า เนื้อน้อยติดเม็ดมาเชียว ทางจีนเขาส่งเสริมการเกษตรมากกกก และพยายามปลูกพืชจากไทยหลายอย่าง โดยเลือกปลูกแถบทางใต้ของประเทศ อย่างยูนนาน ไหหลำ ไทยไม่ระวังอาจเจอแจ๊คพอตเอาง่ายๆ เลยค่ะ จากคุณ : ตั้งเพ็กเง็ก เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 22:18:46

ความคิดเห็นที่ 55 ..... จากนั้นก็เอาเนื้อทุเรียนที่เราฉีกไว้ตั้งแต่ตอนแรก ... ใส่ลงไป     แล้วก็คน ๆ ให้เข้ากัน ^^ ..... แต่ถ้าเป็นสมัยก่อนตอนพิมยังเด็ก ๆ สัก 20 กว่าปีที่ผ่านมา  ยายพิมเค้ามักจะเอาทุเรียนทั้งเม็ดลงไปขยำในหม้อน้ำกะทิเลยค่ะ จากคุณ : @ - ENYA - @ เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 22:23:58

ความคิดเห็นที่ 56 .. . ก็จะได้  "น้ำกะทิทุเรียน"  ออกมาหน้าตาประมาณนี้เลยค่ะ ... พอมาถึงขั้นตอนนี้ก็ลองชิมดู  ว่ารสชาติโอเคไหม  ถ้าหวานน้อยไปเติมน้ำตาลทรายลงไปได้ค่ะ  (เพื่อให้ละลายง่าย) แต่ถ้ามันหวาน แต่ยังหวานแบบธรรมดา ไม่โดดเด่น ไม่เข้มข้น  (ไม่ได้หมายถึงหวานจัด) ก็ให้เติมเกลือลงไปนิดนึง สักหยิบมือ เพื่อดึงรสหวานออกมาให้มากกว่าเดิม จากคุณ : @ - ENYA - @ เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 22:29:06

ความคิดเห็นที่ 57 แหะ แหะ พี่ขอบายเมนูนี้นะจ้ะ ไม่สู้อ่ะไม่สู้ ไปกินมังคุดจิ๋วแทนดีก่า จากคุณ : Jekyll and Hyde เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 22:30:17

ความคิดเห็นที่ 58 ...... ...  แต่ถ้าหวานมากไป  (ถ้ากินกับข้าวเหนียวมูน ต้องให้หวานน้อยหน่อย เผื่อความหวานจากข้าวเหนียวมูนด้วย) ..... ก็ให้เติมน้ำสุกอุ่นค่ะ (ค่อยๆ เติม)  เติมพอประมาณ  ให้ได้ความหวานตามต้องการ ก็ใช้ได้ค่ะ  .........  (อย่าเติมน้ำอุ่นเยอะ  เดี๋ยวจะไม่หลงเหลือความมันของกะทินะคะ) จากคุณ : @ - ENYA - @ เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 22:30:42

ความคิดเห็นที่ 59 ........ แล้วพิมก็ขอจบวิธีการทำ "น้ำกะทิทุเรียน" ตามแบบครัวบ้านพิมตรงนี้นะคะ ^___^  หากเพื่อน ๆ มีข้อสงสัยตรงไหนก็ถามกันมาได้ค่ะ ช่วงวันสองวันนี้ พิมยังอยู่หน้าจอคอมส์ค่ะ สามารถตอบได้ ......  แต่ถ้าเป็นวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ จันทร์ หากหลังไมค์มาหาพิม  ... พิมอาจจะไม่ได้ตอบนะคะ (ไปตอบอีกทีวันอังคารเลย)  ^___^ จากคุณ : @ - ENYA - @ เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 22:33:06

ความคิดเห็นที่ 60 ..... คุณตั้งเพ็กเง็ก ค่ะ ....  พิมเคยดูสารคดีเกี่ยวกับการเกษตรของจีนเหมือนกันค่ะ ยังเคยคุยกับคุณสามีเลยว่า จีนเนี่ยเค้าส่งเสริมเรื่องการเกษตรจริง ๆ เลยนะ  อีกหน่อยพิมว่าสงสัยจีนอาจจะเป็นประเทศที่สามารถปลูกผลไม้จากทั่วทุกมุมโลกได้ ก็เป็นได้ค่ะ ป.ล. พิมไม่เคยรู้เลยนะคะเนี่ยว่า  เงาะขนดำ แช่น้ำแล้วจะไม่ดำ    อยู่เมืองไทย เคยแต่เจอแช่เพราะให้มันชุ่ม ๆ น้ำ จะได้หนักๆ กิโลอ่ะค่ะ ป.ล. วันก่อนเจอข่าว จีนทำมอไซด์เลียนแบบมอไซด์ยี่ห้อ honda รุ่น wave เป็นยี่ห้ออะไร พิมจำไม่ได้ แต่รุ่น save ไม่ว่าจะรูปทรง  การตกแต่ง สติ๊กเกอร์ สีสัน ทุกอย่างเหมือน wave จนแทบจะเป็นคันเดียวกันเลยค่ะ (ยกเว้นแต่คุณภาพวัตถุดิบ)  แล้วก็เอาเข้ามาตีตลาดขายในไทยที่ห้างเซียร์เป็นอันดับแรก ตอนนี้เริ่มลามเข้ามาขายที่ตาม Bic C แล้วอ่ะค่ะ พี่ก้อยค่ะ ..... ^^ พี่ก้อยไม่ชอบทุเรียนเหรอค่ะเนี่ย จากคุณ : @ - ENYA - @ เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 23:22:53

ความคิดเห็นที่ 61 แวะมาขอชิม ข้าวตอกน้ำกะทิทุเรียนค่ะ ไม่เคยกินจริง ๆ เลยค่ะ ปล.ข้าวตอก ทำมาจากอะไรคะ ไม่ทราบจริง ๆ ค่ะ คุณพิม จากคุณ : หมู (ตัว) อ้วน เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 23:35:48

ความคิดเห็นที่ 62 ปกติชอบกินข้าวเหนียวทุเรียนมากเลยค่ะ วันนี้มาแอบเก็บสูตรค่ะ อิอิ กินกับข้าวตอกนี่ไม่เคยเห็นเลยค่ะ เพิ่งรู้ว่ามีด้วย น่ากินเหมือนกันนะคะ จากคุณ : may-indy เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 53 00:03:01

ความคิดเห็นที่ 63 โอ๊ยย หลงมาตอนดึกๆ มาเจอทุเรียนแล้วหิวเลยค่ะ นอนไม่หลับแน่นอนถ้าไม่ได้กินทุเรียนภายในคืนนี้ เหลือในตู้เย็นอยู่สองเม็ด(กะไว้กินพรุ่งนี้) คืนนี้เสร็จแน่ มาได้ความรู้ใหม่ด้วยว่า การเติมเกลือจะช่วยดึงรสหวานให้เด่นออกมา อย่างนี้ต้องลองทำดู จากคุณ : ปรุงรสตามชอบ เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 53 00:24:09

ความคิดเห็นที่ 64 น่ากินมากๆค่ะ แต่ว่าขี้เมาจะแ้พ้มั๊ยค๊ะ จากคุณ : เหมียว beautycats เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 53 05:06:42

ความคิดเห็นที่ 65 ข้าวเหนี่ยวทุเรียของโปรดเลยจ้า นู๋พิม แต่ข้าวตอกไม่เคยเลย แล้วถ้าเป็นข้าวเม่าละ เดาว่าน่าจะหอมอยู่นะ เอาว่าแปลกดีละครับ ^^ จากคุณ : นาย เหลือง เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 53 05:08:32

ความคิดเห็นที่ 66 เช้ามาก็แวะมาทู้นี้ก่อน...ยังเหลือไม๊จ๊ะน้องพิม จากคุณ : ลูกไหม เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 53 08:23:20

ความคิดเห็นที่ 67 ...  ทำแบบเดียวกันเลยครับพี่พิม   แบบนี้แหละ สะใจ ใส่ให้เพียบ  ของผม มีแถมเนื้อทุเรียนอีกต่างหาก     โป่ะเพิ่มลงไปบนข้าวเหนียวอีก ...    ต้องลองแบบข้าวตอกดูบ้างแล้วครับ  เคยกินแบบนางลอยน่ะครับ จากคุณ : OverEat เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 53 11:53:50

ความคิดเห็นที่ 68 นึกถึงอดีตในวัยเด็กค่ะ ตอนเด็ก ๆ ช่วงทุเรียนยังออกไม่มาก แม่จะทำน้ำกะทิทุเรียนกับข้าวตอกให้กินกันก่อน พอทุเรียนออกเยอะ ๆ ค่อยกินกันเป็นลูก ๆ จากคุณ : porn.pet เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 53 12:39:47

ความคิดเห็นที่ 69 น่าทานสุดๆ จากคุณ : dutch master (dutch master) เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 53 14:21:57

ความคิดเห็นที่ 70 โอยยๆๆ ขอซักถ้วยนะครับคุณพิม น้ำลายไหลเต็มโต๊ะแล้วครับ จากคุณ : Jeweller LPFC 11 เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 53 16:04:32

ความคิดเห็นที่ 71 จดๆๆๆ คุณพิมขา ขอลอกสูตรหน่อยนะคะ น่ากินน้ำยายไหยเยยค่า จากคุณ : วี้ดวิ้ว เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 53 17:05:08

ความคิดเห็นที่ 72 จากคุณ : . (ฟองเซ) เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 53 17:50:53

ความคิดเห็นที่ 73 คุณพิม น่าทานมากคะ ช่วงนี้ก็ทานทุเรียนเยอะเหมือนกันคะ จากคุณ : Japanese Maple (Japanese Maple) เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 53 22:25:32

ความคิดเห็นที่ 74 เมนูนี้พี่พิมเคยทำปีที่แล้วหรือป่าวคะ เหมือนคุ้นๆ โอ๋เพิ่งไปเกาะช้างมาค่ะ ขากลับซื้อมังคุดมากิน เค้าบอกว่ามังคุดต้นร้อยปี ไม่รู้จริงหรือป่าว จากคุณ : ashtray เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 53 17:22:41

ความคิดเห็นที่ 75 ... หอมกลิ่นน้ำกระทิทุเรียนจังค่ะ จากคุณ : ปลายจันทร์ (lastmoon) เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 53 18:36:53

ความคิดเห็นที่ 76 น่าทานมากเลยค่ะ จากคุณ : tataay เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 53 16:56:02