ความคิดเห็นที่ 1 หม้อที่จะใช้ต้มก็มีแล้ว .. จากนั้นก็มีน้ำส้มสายชู + น้ำมะนาว 1 ลูก ผสมกันให้ได้ 1/4 ถ้วย จากคุณ : บูดจริงๆ (สารกันบูด) เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 53 12:38:09

ความคิดเห็นที่ 2 จากนั้นก็เอานมทั้งหมดที่มีไปต้ม แต่อย่าให้เดือด จากการสังเกตุ มันจะมีฟองอากาศเล็กๆ ขึ้นมาที่ขอบหม้อ จากคุณ : สารกันบูด เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 53 12:41:54

ความคิดเห็นที่ 3 มาลุ้นด้วยคนค่ะ ตื่งเต้งๆๆ จากคุณ : วี้ดวิ้ว เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 53 12:44:03

ความคิดเห็นที่ 4 ต่อจากนี้คือขบวนการทำให้แตกแยกกัน ระหว่าน้ำกับเนื้อนม ก็ใส่น้ำส้มกับน้ำมะนาวที่เตรียมไว้นั่นแหละลงไป .. .. เทลงไปแล้วก็คน ๆ ๆ ๆ แล้วปิดไฟเลย มันจะออกมามีสภาพอย่างที่เห็นนี่แหละครับ จากคุณ : สารกันบูด เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 53 12:45:03

ความคิดเห็นที่ 5 แล้วมันเป็นไงต่ออ่ะ อยากรู้มากมาย จากคุณ : faika (faika) เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 53 12:47:13

ความคิดเห็นที่ 7 แล้วมันเป็นไงต่ออ่ะ อยากรู้มากมาย จากคุณ : faika (faika) เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 53 12:47:33

ความคิดเห็นที่ 8 เข้ามา เพราะอยากรู้เหมือนกันค่า ชอบชีสม๊ากมาก จากคุณ : ยู (#Lucky_nooyu#) เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 53 12:53:33

ความคิดเห็นที่ 9 มันก็เป็นอย่างที่จะเห็นดังต่อไปนี้ หลังจากที่มันแห้งแล้ว จากคุณ : สารกันบูด เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 53 12:54:41

ความคิดเห็นที่ 10 เข้ามารอดูค่ะ จากคุณ : นางหนูลูกแม่ เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 53 12:59:38

ความคิดเห็นที่ 11 ต่อค่า ต่อค่า มันรู้สึกค้างเติ่งยังไงไม่รู้อ่า จากคุณ : อะตอมค่ะ เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 53 13:00:51

ความคิดเห็นที่ 12 พอได้อย่างนี้แล้วก็เอาไปใส่เกลือ แล้วก็คลุก ๆ ไปมา .. แล้วก็อัดใส่ภาชนะทรงอะไรก็ได้แล้วแต่ชอบ .. หลังจากเสร็จสิ้นขบวนการแล้ว นำไปชั้งได้เนื้อชีสออกมา 240 กรัม พอดีเลย .. เรื่องรสชาติ เค็มๆ มันๆ หอมนมอ่อนๆ เรียกได้ว่า ดูด้วยตาคล้าย มอสซาเลล่า แต่ไม่เหนียวนุ่ม (ถ้าทำได้ขนาดนั้นรวยไปแล้ว) ฟันธงเลยว่า จะกินก็กินได้ จากคุณ : บูดแล้ว (สารกันบูด) เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 53 13:01:40

ความคิดเห็นที่ 13 เข้ามาดูค่ะ จากคุณ : porshicu เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 53 13:02:37

ความคิดเห็นที่ 14 สัญญาณมันไม่ค่อยจะ "ลื่น" เลยทำให้คนดูไม่ "รื่น" ไปด้วย .. คราวหน้าจะมาแก้ตัวใหม่น้า จากคุณ : สารกันบูด เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 53 13:03:37

ความคิดเห็นที่ 15 แหล่ม จากคุณ : eXPleang เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 53 13:03:43

ความคิดเห็นที่ 16 ผมว่าต้องเอาของหนักๆทับให้น้ำมันออกไปมากกว่านี้ แล้วตามด้วยการห่อขี้ผึ้งแล้วหมักในอุณหภูมิที่เหมาะสม อีกนานเป็นเดือน  ขั้นตอนนี้คงต้องใส่หัวเชื้อราเฉพาะด้วย จะได้อกกมาเป็นชีสชนิดต่างๆนะครับ ลองเมื่อไหร่  จะมาขอชม และขอชิม คนไทยเราเก่งอยู่แล้วครับ จากคุณ : silverliner เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 53 13:31:38

ความคิดเห็นที่ 17 อ่านในหนังสือบ้านเล็กฯของลอร่า เขาบอกว่าต้องเอาอะไรหนัก ๆ ทับค่ะ จากคุณ : ตั้งเพ็กเง็ก เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 53 14:41:34

ความคิดเห็นที่ 18 ต้องเอาของหนัก ๆ ให้น้ำออกให้เยอะที่สุด แล้วก็เอาชีสก้อนเนี่ยไปวางให้ที่ ที่อุณหภูมิคงที่ในโทรทัศน์เค้าจะไว้ในถ้ำอะ  คอยกลับทุก ๆ วัน เป็นเวลาอย่างต่ำ 6 เดือน   ดูรายการนั้นจนจำขบวนการขึ้นใจแล้ว   ขยันจังเลยคะ คุณ จขกท. จากคุณ : sepultula (SEPULTULA) เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 53 15:27:51

ความคิดเห็นที่ 19 เพิ่งดูในรายการของญี่ปุ่นมาเหมือนกัน  ว่าจะลองทำเหมือนกัน แต่ไม่รู้ว่าทำแล้ว จะไปทำอะไรกินต่อดี ขอบคุณมากค่ะที่ทำให้ดู จากคุณ : แม่การะเกด เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 53 15:45:35

ความคิดเห็นที่ 20 อยากลองทำบ้างจัง จากคุณ : nansyd เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 53 21:12:29

ความคิดเห็นที่ 21 น่าลองนะเนี่ย เคยทำแบบที่ใช้นมกับโยเกิร์ตอันนั้นก็อร่อยเหมือนกัน แต่ใช้เวลานาน เดี๋ยวลองแบบนี้บ้างดีกว่า จากคุณ : แม่จ๋า (mama's jajar) เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 53 22:06:05

ความคิดเห็นที่ 22 เสียด๊าย ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ คราวที่แล้วซื้อมาไม่ได้เปิดดื่มเลย ทิ้งไปหมดเลย จากคุณ : MalaiM เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 53 13:53:52

ความคิดเห็นที่ 23 ถ้าไม่มี rennet หรือ rennin มันก็คงไม่เป็นชีสเหลืองๆอย่างที่ขายๆหรอกครับ เคยคิดจะทำแต่ติดเจ้าตัวนี้แหละ จากคุณ : ภูธิต (ภูธิต) เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 53 20:15:16