อย่าใช้น้ำแช่เห็ดหอม อันตราย!!
|
|
ข้อความจาก FWD mail ค่ะ พ่อส่งมาให้อ่าน ระวังกันนะคะทุกคน
สารเคมีเกือบทุกชนิดมีผลต่อร่างกาย ที่มีผู้แนะนำให้ทิ้งน้ำแช่เห็ดก็ดีแล้ว แต่ยังมีอีกทางหนึ่งที่สำคัญคือผู้ทำอาหารขายเพราะปชช.ส่วนใหญ่มักซื้อกิน อย่าลืมช่วยกันให้ข้อมูลกับแม่ค้าและร้านอาหารด้วย Look like the fresh one is much better and the price is now cheaper than the dry one.
ระวัง เห็ดหอม (dry mushroom) โดยสรุป..เขาชุบ หรือพ่นคาร์บอนไดซัลไฟด์ซึ่งมีมหันตภัยรอบด้าน อย่านำน้ำแช่เห็ดหอมมาใช้ในการปรุงอาหาร ให้เททิ้งทันทีอย่าเสียดาย ซึ่งส่วนใหญ่เห็ดหอมที่ใช้กันนั้นนำเข้ามาจากจีนแผ่นดินใหญ่ เมื่อจะนำมาปรุงอาหารก็ต้องแช่น้ำให้นิ่มก่อน ซึ่งน้ำที่แช่ให้เห็ดหอมนิ่มนั้น จะอุดมไปด้วยสารหนัก กรด เกลือกำมะถันต่าง ๆ และอื่น ๆ ซึ่งเราไม่ทราบว่าใช้อะไรบ้างกว่าจะถึงมือเรา ซึ่งสารต่าง ๆ นั้นก็มาจากน้ำจากปุ๋ยที่เพาะเลี้ยงในฟาร์มหรือรม เพื่อกำจัด และป้องกันแมลง ) แต่ก่อนเรามักจะเก็บน้ำนั้นไว้ปรุงอาหารให้หอมน่ากิน จงเททิ้งไป ..บอกต่อให้แม่ ๆ แม่บ้าน แม่ครัว ภรรยา ลูกสาว..รวมทั้งพ่อบ้านที่ชอบทำอาหาร ฯ ถึงว่าตอนหลังซื้อมาเก็บได้นานๆ ไม่มีแมลงใดๆมารบกวนเลย ____________________________________________________________________ คาร์บอนไดซัลไฟด์ มหันตภัยรอบด้าน
"คาร์บอนไดซัลไฟด์" ชื่อ นี้คนที่อยู่ในวงการอุตสาหกรรมผลิตเส้นใยเรยอน แผ่นพลาสติกเชโลเฟน ผลิตภัณฑ์ยางพารา จะมีโอกาสสัมผัสคาร์บอนไดซัลไฟด์เป็น นอกจากนั้นเนื่องจากคุณสมบัติในการละลายไขมันได้ดี จึงมีการนำไปใช้ในการสกัดน้ำมัน ใช้ในการชุบโลหะ เป็นตัวล้างสนิมออกจากโลหะ ในภาคการเกษตรเคยมีการใช้เพื่อรมเมล็ดธัญพืชเพื่อกำจัดแมลง ซึ่งเข้าใจว่าอาจจะเลิกใช้ไปแล้ว
ลักษณะของคาร์บอนไดซัลไฟด์ เป็นของเหลวกลิ่นหอมคล้ายคลอโรฟอร์ม ไอของมันหนักกว่าอากาศ 2 เท่า ดัง นั้นในที่อากาศนิ่ง ๆ คาร์บอนไดซัลไฟด์จะลอยต่ำเรี่ย ๆ พื้น ทำให้เพิ่มความเสี่ยงที่คนจะสูดไอเข้าไป ไอระเหยของมันเมื่อพบกับอากาศจะให้ไอผสมที่ระเบิดได้ และลุกติดไฟได้อย่างรวดเร็ว จึงมีอันตรายมากเมื่อถูกความร้อน เปลวไฟ หรือประกายไฟ ความร้อนของหลอดไฟฟ้าที่เปิดอยู่ก็ทำให้ไอของมันลุกติดไฟได้ และสลายเป็นควันของซัลเฟอร์ออกไซด์ ซึ่งเป็นอันตรายยิ่งขึ้น
ข้อ ควรระวังอย่างยิ่งคืออย่าเก็บคาร์บอนไดซัลไฟด์ไว้ใกล้กรดไนตริก เพราะก๊าซที่ผสมกับไนตริกออกไซด์ จะระเบิดอย่างรุนแรง ขนาดขวดแก้วแตกละเอียดเลยทีเดียว
ไม่ว่าจะสูดดม เข้าไป หรือ ซึมเข้าไปทางผิวหนัง หรือกลืนกิน ผลต่อสุขภาพที่ถูกกระทบคือระบบประสาท จะเกิดอาการตื่นเ ต้น มึนเมาตามด้วยอาการง่วงซึม กระสับกระส่าย ระบบหายใจล้มเหลว อาจถึงตายได้ แต่ถ้าเป็นการสัมผัสแบบระยะยาวทีละน้อย อาการพิษเรื้อรัง จะเริ่มด้วยอาการเจ็บหน้าอก ปวดกล้ามเนื้อ สายตาเริ่มมัว ความจำเสื่อม บุคลิกเปลี่ยนไปคล้ายคนเป็นโรคจิต ที่เคยกล้า ๆ อาจจะกลายเป็นคนขี้อายไปก็ได้ สารนี้ระคายผิวและตาอย่างรุนแรง
คาร์บอน ไดซัลไฟด์เป็นสารอันตราย จึงเป็นสารที่ถูกควบคุม และในประกาศกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยความปลอดภัยในการทำงานเกี่ยวกับสภาวะแวด ล้อม ได้กำหนดค่าความเข้มข้นของสารเคมีในบรรยากาศ ตลอดระยะเวลาในการทำงานโดยเฉลี่ยห้ามเกิน 20 ส่วนในล้านส่วน ที่ใดมีการใช้สารเคมีตัวนี้ ควรดูแลความปลอดภัยของคนงานให้ดี อย่าให้มีไอระเหยในบรรยากาศของห้องทำงานเกิน
ผู้เขียน: รศ.สุชาตา ชินะจิตร
จากคุณ |
:
dead end
|
เขียนเมื่อ |
:
วันวิสาขบูชา 53 08:08:40
|
|
|
|