ความคิดเห็นที่ 1 มารอคำตอบด้วยค่ะ วันนี้เพิ่งไปติดต่อร้านกาแฟมา จากคุณ : on_a_nice_day เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 53 23:09:26

ความคิดเห็นที่ 2 ขอโทษค่ะ ซ้ำกับข้างบน แก้ไขเมื่อ 08 มิ.ย. 53 23:10:51 จากคุณ : on_a_nice_day เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 53 23:09:38

ความคิดเห็นที่ 3 กรณีฝากขาย ของเสียหายจากการหมดอายุหรือจากการเสียหายโดยที่ไม่เกี่ยวข้องกับทางร้าน ทางผู้ฝากขายต้องรับผิดชอบในส่วนนั้นๆครับ ถ้ามีเสียหายโดยเกิดจากความผิดพลาดของทางร้าน เช่น ทำตก แตก เสียหาย ทางร้านควรรับผิดชอบ( กรณีของผมก็กินเองโลด) อาจจะตกลงกันก่อนล่วงหน้าไว้  ส่วนการคิดตังก็คิดวันที่ไปรับของคืน (หรือวันที่ส่งของรอบสอง) หรือวันที่แวะไปเช็คยอดขายก็ได้ครับ อย่าลืมเตรียมสมุดใบเสร็จรับเงินพร้อมสำเนาไปด้วย หรือไปตรวจนับแล้วเขียนที่นั้นก็ได้ครับ ตอนส่งก็อย่าลืมใบส่งสินค้าด้วย จะได้มีหลักฐานแถมดูเป็นการเป็นงานด้วยครับ จากคุณ : Ch@man เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 53 23:32:19

ความคิดเห็นที่ 4   พูดในฐานะเจ้าของร้านนะครับ ที่ร้านก็คนเอาของมาฝากขายเช่นกันครับ เค้าจะเอาของมาลง จัดการให้ทุกอย่าง แม้แต่กระทั่ง โต๊ะโชว์สินค้าครับ ทางผมไม่ต้องเสียอะไรเลย แค่แบ่งที่วางของเท่านั้นเอง แล้วเค้าก็เชคยอด ของจำนวนที่มาลง และนัดวันมาเก็บเงินในวันที่มาเก็บของครับ สว่นเรื่องเปอร์เซนนั้น เค้ากำหนดมาให้เลยครับ สมมุติ เค้าส่งมา 59 แต่ให้ผมขาย 75 บาทครับ มีสติ๊กเกอร์ราคาติดมาให้เรียบร้อย ถ้าขายไม่หมด ทางเค้าก็เอากลับไป โดยที่ผมไม่ต้องเสียอะไรครับ สำหรับผมถือว่า โอเคนะครับ สบายใจดีครับ จากคุณ : ต๊ะกุ๊กไทย เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 53 23:45:46

ความคิดเห็นที่ 5 ตามแต่ตกลงค่ะ ใจจริงเราก็พยายามขอ minimum guarantee ของขนมแต่ละอย่าง เอากำไรสัก 30% หรือขายให้ได้ 9 ชิ้นจาก 12 ชิ้นก็ยังดี แต่ยังไม่เคยเจอใครใจดีให้เราเลยค่ะ อันนี้เซ็ง เราเองก็ทำเหมือนอย่างที่คุณ Ch@man บอกค่ะ  เพิ่มนิดนึงตรงที่ขนมตัวไหนที่ขายไม่ค่อยออกเราจะแจ้งทางร้านว่าต้องของด เพราะเราเองเป็นคนที่ต้องรับผิดชอบส่วนที่เหลือ ซึ่งเจ้าของร้านที่เรายังส่งอยู่ก็เข้าใจดีค่ะ  ปัญหาอยู่ที่ว่าร้านกาแฟบางร้านจะชอบสั่งของหลายอย่าง พอเหลือมาก ๆ ปัญหาตกอยู่ที่เรา ส่วนเรื่องกำไรส่วนต่างที่เราให้กับร้านนี่ตัวเราเองไม่ค่อยได้มีส่วนกำหนดค่ะ  ถ้าเขาเอากำไรมาก ก็ส่งผลต่อยอดขายของเรา แต่บางร้านที่อยู่ในทำเลดี อาจมีต้นทุนที่ซ่อนรูปอยู่มาก (เช่นค่าเช่าที่/ ร้านใหญ่ค่าไฟสูง) เขาก็อาจจะเอากำไรมากกว่า 25% แต่ขนมขายหมดตลอด แต่ละกรณีไม่เหมือนกันค่ะ  แต่ที่เหมือนกันคือถ้าของเหลือมาก ก็ย้อนกลับไปเหมือนอย่างที่เล่าให้ฟังข้างต้นค่ะ คือเราก็ของด+เสนอสินค้าอื่น ดังนั้นเราก็จะคำนวณต้นทุนของตัวเองและบวกกำไรที่เราต้องการอย่างชัดเจน ก่อนเสนอสินค้าให้ร้านค่ะ ใหม่ ๆ ก็ต้องต่อรอง และดูว่าร้านนั้นเข้ากับเราได้มากแค่ไหน เราเองก็ลองผิดลองถูกมาไม่ถึงปี ตอนนี้ก็ยังไม่ถือว่าคืนทุนค่ะ แค่พอมีกินยังไม่มีเก็บค่ะ รอฟังประสบการณ์เพื่อนคนอื่น เหมือนกันค่ะเผื่อมีเคล็ดดี ๆ ให้เราได้เอาไปปรับใช้บ้าง ขอให้ขายดีนะคะ จากคุณ : Irishcream เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 53 00:01:44

ความคิดเห็นที่ 6 เราฝากขาย เค้าก็จะหักเรา 20% ของราคาที่ขายได้ทั้งหมดค่ะ ขายไม่หมด เราก็ต้องเก็บคืน หรือทิ้งค่ะเองค่ะ แล้วก็เคลียร์เงินเมื่อเราเอาของใหม่ไปส่งค่ะ เราส่งประมาณอาทิตย์ละครั้ง ทำ ๆ ไปแล้วเราว่า กำไรมันช่างน้อยนัก เหนื่อยมากเกิ๊น เฮ้อ... จากคุณ : Iverse เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 53 01:42:45

ความคิดเห็นที่ 7 เรา ให้เค้าประมาณ 15 - 20 เปอร์แหละค่ะ เหลือเราต้องรับผิดชอบส่วนนั้นเอง กำไรไม่เยอะ แต่ทำเพราะอยากทำค่ะ อยากฝึกฝีมือบ่อยๆ แต่ถ้าทำไปฝากขายเยอะๆหลายๆร้าน ต้นทุนมันจะถูกลงเวลาไปซื้อของมาทำขายแหละค่ะ ของเราทำฝากอาทิตละครั้ง ร้านสองร้าน ของเลยซื้อทีละเยอะๆไม่ได้ ต้นทุนก้อจะแพงกว่าคนที่ทำส่งเยอะๆ เพราะเค้าซื้อของมาทำทีละเยอะๆ ต้นทุนต่อหน่วยก้อจะน้อยลงไปด้วย แต่เรายังไม่ซีเรียสในจุดนั้นอ่ะค่ะ ทำเป็นอาชีพเสริม + งานอดิเรก มีความสุุขดี ขายได้พอไม่ขาดทุกนก้อสบายใจแล้ว หุหุ จากคุณ : vekalover เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 53 09:14:15

ความคิดเห็นที่ 8 ของเรากำหนดราคาที่เราต้องการไป แล้วแต่เค้าจะขายเท่าไหร่ในส่วนของเค้าค่ะ ของเหลือเรารับคืนหมดค่ะ รับเงินเมื่อส่งของครั้งต่อไป ปล. ทุกครั้งเรามักมีขนมให้เค้าชิมเสมอค่ะ ประมาณ 1-2 ถุงทุกครั้งไปถือเป็นส่วนต่างที่แล้วแต่เค้าค่ะ จากคุณ : จอกบ่วาย เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 53 11:53:32

ความคิดเห็นที่ 9 อ้าว  พิมพ์ซะยาว  หายเลย เคยทำแบบ ค.ห. 8 แล้วเจ๊งค่ะ  55....  ไม่หรอก  ไม่ถึงกับเจ๊ง  เพียงแต่เสียงกำลังใจไป     ไม่ได้คุยเงื่อนไขกัน  แค่ถามว่าสนใจเค้กไหม  พอดีรู้จักกัน   เขาก็ชิมเค้กแล้วว่าเอามาลงได้    ก็พอรู้กันว่าเป็นลักษณะฝากขาย  ของไม่หมดเรารับผิดชอบ   แต่ทีนี้เจ้าของร้านจู่ ๆ ก็ขึ้นราคามาพรวดพราดเพราะคิดว่ารายได้จากค่าเค้กน้อยไปไม่คุ้มกับค่าตู้แช่ที่เขาซื้อมา  เช่น เดิมส่งขนม 20 ขายหน้าร้าน 25 ขึ้นเป็น 30 หรือ 35 ไม่แจค่ะ   แต่ที่เห็นได้ชัดคือ ยอดขายตก  ขนมเราก็ต้องรับผิดชอบไป  เลยเลิกทำส่ง  จากนั้นก็เห็นตู้แช่เขาว่างไปนานเลยนะคะ   เห็นวางขนมขบเคี้ยวไป  แต่หลังๆ เห็นเค้กมาวางบ้างนิดหน่อย  ไม่รู้ได้ค่าตู้คืนบ้างหรือยัง ลองค้นกระทู้เก่า ๆ ดูนะคะ  มีคำแนะนำไว้  ที่ห้องสีลมก็เคยเห็นอยู่ จากคุณ : เจซอง เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 53 20:33:35

ความคิดเห็นที่ 10 ทำแบบ คห.8 คะ ขายเค้าราคาส่ง ส่วนทางร้านจะขายเท่าไหร่ก็แล้วแต่เค้า มีตู้(กระจกธรรมดา) มีชั้นวางให้เค้า ร้านที่ส่งประจำตอนนี้เค้าบวกเพิ่มแค่ 5 บาทแถบจะทุกอย่าง ของเสียเรารับคืนคะ แรกๆ ของเสียเยอะ หลังๆ เริ่มดีขึ้นเสียน้อยลงเยอะคะหรือบางอาทิตย์ไม่เสียเลยก็มี ส่วนขนมเราก็คิดเองว่าอาทิตย์นี้จะทำอะไร วนๆ ไปคะลูกค้าจะได้ไม่เบื่อ แต่ยืนพื้นตอนนี้คือเค้กส้ม เค้กชอคฯ ครบอาทิตย์ก็ไปตรวจเชคยอดของเหลือ เก็บเงินส่วนที่ขายได้ อันไหนขายต่อได้พี่เค้าก็จะรับไว้ขายต่อ เคยเจอร้านนึงรับไปแล้วบวกเพิ่มอีกเท่าตัว ผลคือของคืนเยอะมาก ขายไม่ออกคะ ส่งได้ไม่ถึง 3 เดือนเราก็เลิกส่งร้านนั้นเลย สุดท้ายเค้าต้องเซ้งกิจการขายต่อให้กับคนอื่น เคยไปเปิดร้านขายเองด้วยนะ..แบบว่าคิดเร็วทำเร็วไปหน่อย ผลคือขายได้แค่เดือนเดียว เลิกคะ เพราะขายแต่เค้ก ลูกค้าส่วนใหญ่ที่เข้ามาจะถามหาเครื่องดื่ม กลัวจมคะเลยคิดว่าเลิกดีกว่าเพราะตอนนี้ก็ยังไม่ได้ทุนคืน (ค่าเช่าร้าน+ค่าตู้เค้ก+ตกแต่ง) อ้วกคะ ตอนนี้เลยกลับมาฝากขายร้านเดิม สบายใจคะ จากคุณ : mojidogz (mojidOgz) เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 53 12:26:11