|
ความคิดเห็นที่ 2 |
นี่เป็นสูตรที่อนุเคราะห์โดยคุณบุหลันรตี ลองศึกษาแล้วเลือกเอาครับ สูตรนี้ดองด้วยน้ำปลาครับ
========================================
สิ่งที่ต้องมี
1.มะนาว 200 ลูก 2.กระดาษทรายหยาบๆ 6 แผ่น 3.น้ำปลาแท้ หรือน้ำปลาผสมอย่างละ 12 ขวด 4.กระด้งตากมะนาว 2 ใบ 5.ขวดโหลแก้วขนาดใหญ่ 2 ใบ 6.คนขัดผิวมะนาว 2-3 คน
เคล็ดไม่ลับ
1.มะนาว ถ้าเลือกแบบเปลือกบางๆ เป็นมะนาวแป้นจะดีมาก แต่ถ้าช่วงไหน หาไม่ได้ พันธุ์อะไรก็เอาค่ะ เวลาซื้อ ควรซื้อ ในหน้าที่มะนาวถูกที่สุด ลูกใหญ่ที่สุด เวลาซื้อ ควรไป ซื้อตอนใกล้ๆตลาดวาย คือไปตอน แม่ค้าจะขนของกลับบ้านอยู่แล้ว จะได้ราคาถูกมาก
2. กระดาษทราย เลือกเบอร์หยาบๆ จะขัดผิวมะนาวออกได้ง่ายๆ มะนาว 200 ลูก ซื้อกระดาษทราย มา 6 แผ่นก่อน เวลาซื้อ ดูหลายๆร้าน ราคากระดาษจะแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับอารมณ์คนขาย
3. น้ำปลา ถ้าให้ดี ก็ควรใช้น้ำปลาแท้ หรือใครจะใช้น้ำปลาผสมก็ได้ เอา ตามความสะดวก และสภาวะการเงิน ส่วนยี่ห้ออะไรนี่ ใครรักใครชอบใคร ก็เลือกเอาตามชอบใจ ถ้าใกล้จะทำ ก็เล็งๆไว้ ที่ไหนเค้าลดราคามากๆ ก็ซื้อมากักตุนไว้ก่อนเลยค่ะ
4. กระด้ง คนที่ไม่เคยเห็นกระด้ง ไปเสิร์ชดูเอาเองนะคะ แต่ถ้าเคยดูหนังผีไทยมาบ้าง อาจจะเคยเห็นแล้ว ถ้าอยู่ต่างจังหวัด แล้วถูกกันดีกับเพื่อนบ้าน ลองออกปากยืมมาสัก 2 ใบ ถ้าซื้อ ก็อย่าซื้อ แบบที่เค้าทาอะไรทับลงไปแล้วนะคะ แต่ถ้าหาอะไรไม่ได้ ก็ลองดู พวกโต๊ะม้าหิน แถวหน้าบ้านหลังบ้านก็ได้ ขัดถูทำความสะอาดดีๆ ก็พอกล้อมแกล้ม วางตากมะนาว ได้เหมือนกันค่ะ
5. คนขัดผิวมะนาว เรื่องนี้สำคัญที่สุด ขอเตือนว่า อย่าคิดทำมะนาวดองเป็นอันขาด ถ้ายังหาคนมาขัดผิวมะนาวไม่ได้
ดังนั้น ใครที่ยังพอมีญาติ ยังไม่ถูกตัดขาดจากกองมรดก ก็แนะนำให้ตามญาติมาช่วยกันทำค่ะ ทำคนเดียวไม่ไหวหรอก เพราะการขัดผิวมะนาวนี่ เป็นเรื่องที่เหนื่อยมากๆค่ะ คนทำก็เลยน้อยลงไปทุกที อย่างที่บ้านเรา พอคุณแม่เลิกทำ ก็มีเราคนเดียว ที่ทำได้ แต่กว่าจะทำซักครั้ง ก็ต้องชั่งใจอยู่นาน ผลัดแล้วผลัดอีก
ถึงวิธีขัดมะนาว จะมีหลายวิธี แต่เราก็พยายามหาวิธี ที่หนักน้อยที่สุดคือ ใช้การกระดาษทราย ขัดผิวมะนาวค่ะ แต่ยังไง ก็ยังต้องออกแรงขัดอยู่ดี แถมเวลาทำ ก็ต้องทำทีละมากๆ 1ปีก็ทำที ประมาณ 200 -300 ลูกค่ะ เลยยิ่งเหนื่อยใหญ่
เราเคย ขัดมะนาวไป ดูทีวีไป ทำตั้งแต่เช้าจนเย็น ตื่นขึ้นมา มะนาวยังเหลือกองเต็มกะละมัง มือนี่เขียวอื๋อ แอร์นี่หอมกลิ่นมะนาวฟุ้งไปนานเลย แต่โชคดี ที่ปีนี้ เราค้นพบ วิธีใหม่ ที่ง่ายที่สุด สำหรับคนโสดและไร้ญาติ เอ๊ย!!ญาติอยู่ไกล อย่างเรา นั่นคือ คือ...การไปจ้างคนอื่นมาขัดให้ค่ะ อ้อ!! คนที่จะมาขัดผิวมะนาว ถ้าเป็นผู้หญิงจะดี เพราะผู้หญิง....ส่วนใหญ่ ขยัน อดทน และทำงานละเอียดๆ ได้ดี แต่โปรดยกเว้นเราไว้ซักคน 55555
6. ก่อนทำ ต้องพยายาม เกาะติดกรมอุตุ ฟังข่าวพยากรณ์อากาศเข้าไว้ ถ้ามีวี่แววฝนฟ้าพายุมรสุมอะไรเข้ามา หยุดไว้ก่อนเลยค่ะ เพราะเราต้องอาศัยแสงแดดแผดกล้า เป็นอย่างมาก ถ้าขัดผิวมะนาวเสร็จ แต่ไม่มีแดดจัดๆให้ตากมะนาวนี่ เศร้ามากเลยค่ะ เพราะวันๆ เราจะไม่เป็นอันทำอะไร นอกจาก คอยวิ่งหอบกระด้งมะนาวออกไปตากแดด แล้วก็หอบกระด้งมะนาววิ่งหลบฝน เป็นภาพที่ออกจะดู น่ารันทดหดหู่มากๆ ไม่ว่าคนวิ่งจะสวยงามเพียงใดก็ตาม 55555 7. การขัดผิวมะนาว เมื่อเอามะนาวที่ขัดผิวออก ไปล้างนำ วางไว้ให้สะเด็ดนำแล้ว มะนาวที่ขัดผิวออกหมด จะเห็นเป็นรอยริ้วๆสีขาวๆ ตามยาว รอบลูกมะนาว ส่วนมะนาวลูกที่ ขัดผิวออกไม่หมด จะเห็นผิวเป็นสีเขียวๆเหลืองๆอยู่ แบบนี้ ต้องเอามาขัดใหม่อีก จึงต้องพยายาม ขัดผิวมะนาว ให้เกลี้ยงจริงๆทั้งลูก ไม่งั้น มะนาวดอง ก็จะออกมาขม ดังนั้น ต้องกำชับคนทำให้เข้าใจ จะได้ระมัดระวังค่ะ คําเตือน : กระทู้นี้ไม่มีรูปภาพปลากรอบใดๆทั้งสิ้น โปรดใช้จินตนาการล้วนๆค่ะ
วิธีทำ (ซะที)
1 .เอามะนาว มาล้างให้สะอาด 1 ครั้ง แล้วผึ่งให้สะเด็ดน้ำ สักครู่ค่ะ 2. ตัดกระดาษทราย เบอร์ 100 หรือเบอร์ที่หยาบๆ เป็นชิ้นๆ ให้ใหญ่กว่าลูกมะนาวสัก 2-3 เท่า 3. ถือมะนาวในมือไหนซักมือตามชอบใจ ให้มั่นคง แล้วใช้กระดาษทราย ขัดมะนาวทีละด้านๆ ต้องออกแรงขัด จนกว่าผิวเขียวๆเหลืองๆ ของมะนาว จะหลุดติดกระดาษออกมา ขัดจากหัวถึงท้ายลูกมะนาว ขัดไปเรื่อยๆ จนทั่วทั้งลูก กระดาษทรายนี้ใช้ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะขัดผิวมะนาวไม่ออกแล้วค่ะ 4. เมื่อขัดผิวมะนาว ได้จำนวนพอประมาณ ก็รวมไปล้างค่ะ ขั้นตอนนี้ ต้องล้างให้สะอาดจริงๆ โดยจะต้องล้างน้ำ รวม 4 ครั้งด้วยกันคือ
ครั้งที่ 1 เอามะนาวที่ขัดผิวแล้ว ใส่กาละมัง ใส่น้ำเยอะๆ ใช้ฟองน้ำถูๆให้ทั่ว เพื่อล้างคราบกระดาษทรายที่ติดอยู่ ให้ออกไปให้หมด แล้วก็เทแต่น้ำทิ้งไป ครั้งที่ 2 ทำเหมือนข้อ 1 อีกครั้ง ครั้งที่ 3 แช่น้ำไว้สักพักใหญ่ๆ ให้คราบคล้ายน้ำ มันๆ สีเขียวๆ เหลืองๆ ของผิวมะนาวออกมา แล้วเทแต่น้ำทิ้งไป ครั้งที่ 4 ทำเหมือนข้อ 3 อีกครั้ง
จากนั้น เอาขึ้นวางพักไว้สักครู่ ให้สะเด็ดน้ำ พอมะนาวหมาดๆ น้ำเริ่มแห้ง จะเห็นรอยริ้วขาวๆยาวๆ เต็มลูกมะนาว รอยที่เห็น เป็นร่องรอยบริเวณที่มะนาว ถูกขัดผิวเขียวๆเหลืองๆออกไป
จึงใช้เช็คได้ว่า มีการขัดผิวมะนาวทั่วทั้งลูกหรือไม่ ถ้ามีรอยเขียวๆ เหลือเยอะแยะ ก็แสดงว่า เริ่มมีการอู้แล้ว ต้องเอาไปให้เค้าขัดใหม่ค่ะ เจอแบบนี้ ต้องให้พักงาน เอ๊ย!!พักสักครู่ค่ะ เมื่อมะนาวสะเด็ดนำแล้ว เอาเรียงใส่กระด้ง เรียงชั้นเดียวนะคะ อย่าวางซ้อนๆกัน แล้วเอามะนาวไปตากแดดได้เลยค่ะ ทำแบบนี้จนมะนาวหมด ชุดไหนเสร็จก่อน ก็เอาไปตากก่อน ไม่ต้องรอกัน แค่นี้ ก็เป็นอันเสร็จขั้นตอนแรกค่ะ
การตากมะนาว
เราจะต้อง ตากมะนาว ตลอดเวลาที่มีแดด และตลอดวัน ตั้งแต่เช้าจนเย็น จนกว่าแดดจะหมด
ข้อควรระวัง อย่าให้มะนาวถูกฝนเป็นอันขาด เดี๋ยวมะนาวจะขึ้นรา วันที่ตากมะนาว แน่นอนว่า คนทําจะไม่สามารถไปช็อบที่ไหนได้แน่นอน เพราะต้องคอยชะโงกชะเง้อ ดูท้องฟ้าไว้เรื่อยๆ เห็นท่าไม่ดี จะได้วิ่งไปเก็บมะนาวได้ทัน
การเอามะนาวไปตากแดด จะต้องตากไว้ จนกว่ามะนาวจะเสียรูปร่าง คือดูแล้ว ลูกบุบๆ ยุบๆ เบี้ยวๆมากๆ จึงจะถือว่าใช้ได้ค่ะ
ถ้าแดดดีๆ ก็ตากไว้สัก 3 วัน
ถ้าแดด มีมั่งไม่มีมั่ง ก็ประมาณ 4-5 วัน หรือจนกว่า มะนาวจะเสียรูปทรงมากๆล่ะค่ะ จึงจะดี การนึ่งมะนาว
พอตากจนมะนาวมีรูปร่างไม่เป็นรูปเป็นทรงแล้ว ก็เอามาใส่รังถึงนึ่งได้เลยค่ะ เวลานึ่ง ให้เรียงมะนาวลงในรังถึง เกลี่ยให้ทั่ว เอาแค่ชั้นเดียวพอ
เวลานึ่ง ประมาณ10-15 นาทีก็พอแล้วค่ะ อย่านึ่งจนมะนาวแตก เอาแบบ...พอให้น่วมๆ แต่อย่าให้ถึงแก่ชีวิต จะเป็นบาปเป็นกรรมมากไป 5555
ตอนเอามะนาวไปนึ่ง ลูกจะเต่งตึงขึ้นมา กลายเป็นมะนาวลูกกลมๆเหมือนเดิม ก็ใช้ได้ค่ะ
ต่อไปก็เอาออกจากรังถึง มาวางพักไว้จนมะนาวเย็นก่อนค่ะ การตากมะนาว...รอบสุดท้าย
เมื่อมะนาวเย็นแล้ว ก็เอาวางเรียงใส่กระด้ง จับไปตากแดดอีกครั้ง ควรนึ่งมะนาว แต่เช้าตรู่ ก็เพราะจะได้ทันตากแดดตอนสายๆนี่ล่ะค่ะ
พอไปตากแดด หลังนึ่งมะนาวแล้วนี่ มะนาวจะบุบๆเบี้ยวๆยุบๆลงไปเร็วกว่าตอนตากแดดรอบแรก
ถ้าแดดดีๆ ตากแดดอีกสัก 2 วันก็พอ
ถ้าแดดหุบๆหายๆไปๆมาๆไม่ค่อยสม่าเสมอ ก็ตากไปเรื่อยๆ จนรูปร่างบุบๆยุบๆบี้ๆ ก็แล้วกันค่ะ
การดอง
หลังจากตากแดดรอบสุดท้าย ก็มาถึง ขั้นตอนสุดท้าย ที่รอคอยค่ะ คือการเอามะนาวมาดองในน้ำปลา ที่บ้านดองมะนาวกับน้ำปลา เพราะน้ำปลา มีรสชาติที่กลมกล่อม มีความเค็มพอเหมาะ ไม่เค็มปี๋เหมือนน้ำเกลือ เมื่อนำมาใช้ดองมะนาว ซึ่งมีความเปรี้ยว จะเกิดการ mix & match จนมีกลิ่นหอม และรสชาติเปรี้ยวอมเค็มอย่างพอเหมาะ คุณแม่บอกว่า ถ้าใช้น้ำปลาแท้ดองมะนาว จะได้มะนาวดองที่มีกลิ่นหอมมากกว่า แต่ถ้าใคร จะใช้น้ำปลาผสม ก็อย่าได้กังวลไป เพราะเราเคยลองใช้น้ำปลาผสมดองมะนาว กลิ่นก็ออกมาหอมเหมือนกัน
แต่ยังไม่เคยทำไว้เปรียบเทียบ ว่าใช้น้ำปลาประเภทไหน จะดองมะนาวได้หอมกว่ากัน ปีนี้เลยลองให้หายข้องใจ โดยใช้มะนาวดองน้ำปลาแท้ 1 โหล น้ำปลาผสมอีก 1 โหล จะได้เปรียบเทียบกันได้
ต่อไป เราก็เอามะนาวบุบๆยุบๆของเรา ใส่ลงไปในขวดโหลแก้ว ทีละชั้นๆ เรียงซ้อนกันไปเรื่อยๆ ขวดโหลใหญ่สุด ใส่มะนาวประมาณ 70-75 ลูก จะพอเหมาะพองามค่ะ จากนั้น ค่อยๆ เทน้ำปลาใส่ลงไป ให้ระดับน้ำปลา มีความสูงถึงคอขวด แล้วก็ปิดฝาซะ จะได้จบสิ้นกันไป 55555
คราวนี้ เราก็ อุ้มโหลไปตากแดดได้ อุ้มดีๆนะคะ เพราะมันหนัก เอาไปวางที่แดดจัดๆ เหมือนเดิม แต่การเอามะนาวดองตากแดดนี่ ฝนจะตกแดดจะออก ก็ปล่อยตากแดดตากฝนไว้อย่างงั้น แหล่ะค่ะ ไม่ต้องอุ้มโหลหนี เวลาฝนตกนะคะ กระทบร้อนกระทบหนาวเข้าไปบ่อยๆ เดี๋ยวมะนาวดองก็เป็นเองค่ะ
ความจริง ตอนกลางคืน ก็ไม่จำเป็นต้องเก็บเข้าบ้าน นอกจาก ดูท่าไม่ดี กลัวคนมาอุ้มโหลหนีไป กลางคืนก็เก็บเข้าบ้านดีกว่านะคะ
การรอคอย
ขั้นตอนนี้ ทำใจลำบาก และกินเวลายาวนาน กว่าขั้นตอนอื่นๆ ช่วงเวลาที่รอนี้ ขอให้ ทุกท่านใจเย็นๆ เชิญกลับไป ประกอบสัมมาอาชีพตามปกติได้แล้วนะคะ ส่วนมะนาว เค้าก็จะดองตัวเองไปเรื่อยๆ
แต่ถ้าไม่สบายใจ อยากจะเปิดโหลดูก็ได้ แต่ไม่ต้องบ่อยนักค่ะ
มะนาวดอง ที่เป็นแล้ว จะมีคุณสมบัติดังนี้คือ มีกลิ่นหอม ไม่ขม ไม่เปรี้ยวจี๊ด ไม่เค็มปี๋ เมื่อใส่ต้มฟัก รสจะกลมกล่อมขึ้นมาทันที ต่างจากตอนไม่ใส่ ประมาณฟ้ากับเหว
และรสเค็ม+รสเปรี้ยว ในมะนาวดอง จะมีอยู่ในปริมาณที่พอเหมาะ เมื่อใส่ลงไปในแกง จึงจะไม่มีรสไหนโดดแหลมขึ้นมา ให้หงุดหงิดใจ และเมื่อ ใส่มะนาวดอง ลงไปในหม้อแกงใส่แล้วก็ใส่เลย ไม่ต้องตักลูกมะนาวขึ้นมา เพราะกลัวมะนาวดองจะแตก ไม่ต้องตักเม็ดออก เพราะกลัวจะขม
เพราะทั้งเปลือก,เนื้อและเม็ดของมะนาว จะถูกดองจนเป็นรสเดียวกันหมดแล้วค่ะ
ดังนั้น ถึงต้มไปนานๆ ต่อให้ลูกมะนาวแตกออก มีเม็ดมะนาวออกมา ก็ไม่ขมค่ะ การเปลี่ยนแปลง ตามช่วงเวลาต่างๆ ของการทำมะนาวดอง
2 สัปดาห์ เริ่มมีกลิ่นหอม 2 เดือน เริ่มเป็น 3 เดือน เริ่มใช้ได้ 1 ปี ใช้ได้ดี รสชาติดี กลิ่นหอมมาก 2 ปีครึ่ง - 3ปี ถ้าไม่โดนขโมยไปซะก่อน เนื้อมะนาวดอง และน้ำมะนาวดองจะกลายเป็นวุ้น หอมมาก และรสชาติดีที่สุด
จากคุณ |
:
oj_long
|
เขียนเมื่อ |
:
23 มิ.ย. 53 20:41:27
|
|
|
|
|