ความคิดเห็นที่ 1 มีอีกที่เวียดนามค่ะ ประเทศอื่นไม่แน่ใจค่ะ รอท่านต่อไป จากคุณ : ไก่ (Schnuggy ชนุ๊กกี้) เขียนเมื่อ : 5 ก.ค. 53 02:04:56

ความคิดเห็นที่ 2 สงสัยอยู่เหมือนกัน แล้วเจ้าพวงเติมนี่ล่ะ อย่างร้าน ฮะจิบัง ก็มีไม่ครบเหมือนร้านของไทย จากคุณ : zeeroj_jung เขียนเมื่อ : 5 ก.ค. 53 02:33:14

ความคิดเห็นที่ 3 พวงเติมของฝรั่งก็เป็น พริกไทยป่น กับ เกลือป่นค่ะ ก็วางอยู่ทุกโต๊ะเหมือนกัน แหะๆ ใช้ได้มั๊ยคะ  เอาบะหมี่หมูแดงมาฝากค่ะ จากคุณ : ไก่ (Schnuggy ชนุ๊กกี้) เขียนเมื่อ : 5 ก.ค. 53 02:57:40

ความคิดเห็นที่ 4 เวียดนามครับ น้ำปลาต้นกำเนิดรู้สึกเวียดนาม จากคุณ : วี เขียนเมื่อ : 5 ก.ค. 53 03:26:11

ความคิดเห็นที่ 5   น้ำปลาเวียดนามอร่อยสุดๆเลยค่ะ มันไม่เค็มอย่างเดียว มีหวานแปร่มๆด้วย ทำข้าวผัดแล้วหอมมากๆค่ะ จากคุณ : jingjingleaw เขียนเมื่อ : 5 ก.ค. 53 03:56:46

ความคิดเห็นที่ 6 ยืนยันว่ามีของเวียดนามค่ะ พวงเครื่องปรุงนี้ไม่แน่ใจ แต่เวลาไปร้านเวียดนาม มีทั้งซอสพริกศรีราชา คล้ายๆ แบบศรีราชาไทย ที่เขาเอาชื่อไป(แต่เผ็ดแหลมกว่า)   มีซอสพริกแบบปั่นหยาบๆ รสออกเปรี้ยวๆ เผ็ดๆ คล้ายๆ พริกน้ำส้มปั่นของเรา ที่พวกคนอเมริกันนิยม มีทั้งซอสสีน้ำตาลๆ ของจีน ทั้งพริกเผ็ดใหญ่ (ฮาลาปันโย ของอเมริกาใต้)หั่นขวาง ทั้งมะนาว,น้ำปลา พริกไทย น้ำตาล ฯลฯ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะมีคนไทยไปกินเยอะด้วยหรือเปล่า ?? ไปร้านจีนมาเลย์ใกล้ๆ กัน ก็มี ซอสพริกเขา ในโหลตักๆ แต่มัน มันๆ มีน้ำมัน แล้วเขาใส่ถั่ว หรืออะไรด้วยก็ไม่รู้ บางร้านก็มีพริก(ฮาลาปันโย)ดองน้ำส้ม ถ้าไปร้านพิซซ่า เขาก็มีออริกาโน่,เกลือ,พริกไทย บางร้านก็มีพริกป่นให้เติม  บางร้านก็มีเหมือนชีสผงๆ เล็กๆ ให้เติม แต่ที่แน่ๆ ไม่มีซอสมะเขือเทศให้เติมอย่างบ้านเราค่ะ ร้านจีน ก็มี ซอสถั่วเหลือง และซอสศรีราชา, ซอสพริกเวียดนาม,พริกไทย ให้เติมกัน รวมถึงซอสเป็ด (Duck sauce) เหมือนน้ำจิ้มเด็ก เปรี้ยวๆ หวานๆ ของเรา ร้านญี่ปุ่น ก็มี ซอสถั่วเหลือง วางไว้ให้เติม ที่นิวยอร์คนี้ ไปร้านไหน ขอ Hot sauce  จะมีแทบทุกร้านเลยค่ะ โดยมากจะใช้ของเวียดนาม แต่บางร้านอาจจะแตกต่างออกไป หรือว่าคนนิวยอร์คนี่กินเผ็ดกันมากก็ไม่รู้ค่ะ บางคนนี่กินเผ็ดยิ่งกว่าคนไทยอีก จากคุณ : โดดเดี่ยวผู้น่ารัก เขียนเมื่อ : 5 ก.ค. 53 04:21:06

ความคิดเห็นที่ 7 พูดถึงเรื่องพริกน้ำปลา พวกแขกนี่ก็ชอบกินเหมือนกัน รวมถึงต่างชาติที่เคยมาเมืองไทย แล้วกินอาหารไทยแท้ๆ เป็น จะหลงไหลในรสของพริกน้ำปลาด้วย จากคุณ : โดดเดี่ยวผู้น่ารัก เขียนเมื่อ : 5 ก.ค. 53 04:25:30

ความคิดเห็นที่ 8 น้ำปลาเวียตนาม ตราปูสามตัว นี่ อร่อยกว่าน้ำปลาไทยอีกครับ ราคาขวดละ4เหรียญ น้ำปลาไทยราคาไม่เกิน2 เหรียญ (ราคาที่นิวยอร์กครับ) ใช่ปรุงพวกแกงต่างๆ หรือราดข้าวสวยร้อนๆ แกล้มด้วยหัวหอม พริกสด ในยามหากับข้าวไม่ได้เลย จากคุณ : smartupid เขียนเมื่อ : 5 ก.ค. 53 04:45:27

ความคิดเห็นที่ 9 อุ๊ย คุณพงษ์ มาเล่นห้องนี้ด้วย อิอิ สบายดีนะคะ จากคุณ : โดดเดี่ยวผู้น่ารัก เขียนเมื่อ : 5 ก.ค. 53 04:59:15

ความคิดเห็นที่ 10 ฟิลิปปินส์ก็มีค่ะ เห็นเพื่อนที่โรงเรียนเป็นฟิลิปปินส์ไปร้านเอเชียด้วยกันซื้อไปใช้ด้วยแหละ ซื้อทิพรสของไทยนะ เพราะมันถูก :) จากคุณ : Vishuda เขียนเมื่อ : 5 ก.ค. 53 05:39:54

ความคิดเห็นที่ 11 มีครับ อย่างที่ข้างบนๆบอกไป ...Fish sauce is a staple ingredient in Filipino, Vietnamese, Thai, Lao, and Cambodian cuisine and is used in other Southeast Asian countries. ... http://en.wikipedia.org/wiki/Fish_sauce ถ้าอิงตามงานเขียนของ อ. คึกฤทธิ์ ในหนังสือ "พ่อครัวหัวป่าก์" โรมันโบราณมีเครื่องปรุงรสอาหาร เหมือนๆน้ำปลาเรานี่แหละ เรียกว่าการุม (Garum) หรือลิควาเมน (Liquamen) ...Garum, similar to liquamen, was a type of fermented fish sauce condiment that was an essential flavour in Ancient Roman cooking, the supreme condiment.... http://en.wikipedia.org/wiki/Garum จากคุณ : น้ำใส เขียนเมื่อ : 5 ก.ค. 53 05:56:56

ความคิดเห็นที่ 12 เห็นที่เกาหลีก็มีนะคะ เพื่อนบอกว่า เอาไว้ใส่ในกิมจิ จากคุณ : น้องน้อยคอยกวน เขียนเมื่อ : 5 ก.ค. 53 06:28:54

ความคิดเห็นที่ 13 ขออนุญาตทักทาย คห9 ครับ สวัสดีครับ คุณน้องพนิดา ผมสบายดีครับ ช่วงนี้มาเที่ยวห้องก้นครัวทุกวันครับ ได้ไอเดียการทำกับข้าวดีมากเลยครับ คุณก็คงสบายดีนะครับ จากคุณ : smartupid เขียนเมื่อ : 5 ก.ค. 53 06:59:26

ความคิดเห็นที่ 14 น้ำปลาเป็นเครื่องปรุงที่นิยมมากในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และยังเป็นหนึ่งใน "สามรัตนะของอาหารแต้จิ๋ว" อันประกอบด้วย น้ำปลา หัวไชโป๊ และเกี้ยมไฉ่ ครับ โดยเวียดนามได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่ประวัติความเป็นมาเกี่ยวกับการผลิตน้ำปลายาวนานกว่าประเทศอื่นๆ และมีการใช้น้ำปลาในลักษณะที่แพร่หลายก่อนคนไทยหลายสิบปี ส่วนประเทศทางแถบตะวันตกแม้จะใช้การหมักปลากับเกลือเหมือนกัน แต่ลักษณะการใช้จะนิยมใช้ปรุงอาหารในขณะที่เนื้อปลายังไม่ถูกย่อยสลายไปมากนัก คือยังเป็นชิ้นหรือเป็นตัวอยู่ เช่นปลา Anchovy ที่ใช้ในการปรุงรสของอาหารตะวันตก และคำว่า Nuoc-mâm (น็อก-นัม) ที่เป็นคำใช้เรียกน้ำปลาในภาษาฝรั่งเศสก็เรียกตามจากภาษาเวียดนาม ซึ่งเริ่มจากทหารชาวฝรั่งเศสที่เข้ามาในช่วงสงครามเวียดนามติดอกติดใจกันมาก จนจนถึงกับมีการผลิตน้ำปลากระป๋องส่งไปยังกองทัพฝรั่งเศสในระหว่างสงครามโลกเลยทีเดียว ปล.ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีการส่งออกน้ำปลาและผลิตภัณฑ์จากปลาเป็นอันดับหนึ่งของโลกนะครับ จากคุณ : Djehuti เขียนเมื่อ : 5 ก.ค. 53 07:09:01

ความคิดเห็นที่ 15 ว่าด้วยเรื่องน้ำปลา http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2010/03/D8979740/D8979740.html จากคุณ : majolica เขียนเมื่อ : 5 ก.ค. 53 07:30:11

ความคิดเห็นที่ 16 ขอแก้นิดนะครับ nouc mam อ่านว่า "นื๊ก ม้าม" ครับ ไม่ใช่น็อกนัม คอนเฟิร์มเรื่องกิมจิครับ กิมจิบางสูตรเค้าให้ใช้น้ำปลาใส่จริงๆ แล้วก็ผมเคยเห็นคนญี่ปุ่นเอาไปผสมทำซุป tsukemen เหมือนกันครับ เจ๋งมาก จากคุณ : k3v1n เขียนเมื่อ : 5 ก.ค. 53 11:12:04

ความคิดเห็นที่ 17   ลาว เขมร เวียตนาม ฟิลิปปินส์ เพื่อนคนฟิลิปปินส์ไปกินอาหารด้วยกันเขาขอน้ำปลาด้วย เราเลยงง ถามว่าเธอรู้จักน้ำปลาด้วยหรือ เขาบอกบ้านเขาก็มีน้ำปลา เกาหลี มายืนยัน คห.12 เพราะเราไปซื้อกิมจิที่ซุปเปอร์เกาหลี เขาจะมี 2 สูตร สูตรใส่น้ำปลา กับไม่ใส่น้ำปลา คห. 6 Hot sauce ที่คุณหมายถึงใช่ซอสพริกตราไก่หรือเปล่า ถ้าใช่ จะเห็นที่ขวดเขาเขียนว่า SRIRACHA HOT SAUCE ผลิต ในอเมริกา แต่ทำไมเรียกซอสพริกศรีราชา แบบบ้านเราไม่รู้ สงสัยจะซื้อสูตรไปผลิต จากคุณ : very baby (very baby) เขียนเมื่อ : 5 ก.ค. 53 11:30:53

ความคิดเห็นที่ 18 ต้นกำเนิดของน้ำปลาไม่ได้อยู่ที่จีนหรอคะ ได้ยินว่าคนจีนโพ้นทะเลที่มาขึ้นฝั่งไทย มาถึงก็ทำกิจการหมักน้ำปลาเลย วันนั้นไม่แน่ใจว่าอ่านหนังสือหรือดูโทรทัศน์ก็บอกว่า น้ำปลามีต้นกำเนิดมาจากจีน จากคุณ : Muaypop เขียนเมื่อ : 5 ก.ค. 53 11:38:03

ความคิดเห็นที่ 19 น้ำปลาเขมรค่า อรอยที่สุด ไม่เค็มอย่างเดียว ออกหวานนิดๆ คิดถึงงงงง จากคุณ : I have a great mom เขียนเมื่อ : 5 ก.ค. 53 13:03:43

ความคิดเห็นที่ 20 ถ้าชอบน้ำปลามีรสหวานนิด ๆ ลองเมกาเชฟสิครับ จากคุณ : วี เขียนเมื่อ : 5 ก.ค. 53 14:21:49

ความคิดเห็นที่ 21 น้ำปลาเวียดนามหอมหวานชื่นใจจริงๆค่ะ คนรู้จักทำน้ำปลาอยู่ที่เวียดนาม เค้าบอกว่าน้ำปลาหมักดีดี ส่งไปญี่ปุ่น เกรดต่ำลงมาส่งขายในประเทศเวียดนาม ให้ยี่ห้ออื่นเอาไปผสมน้ำตาลใส่ขวดขาย เค้าชมว่าน้ำปลาไทยอร่อยที่สุด ไม่หวาน คนเราก็ชอบไม่เหมือนกันเนอะ จากคุณ : บลูบราร่า เขียนเมื่อ : 5 ก.ค. 53 15:37:55

ความคิดเห็นที่ 22   ดิฉันเคยได้ยินว่า น้ำปลาเวียดนามอร่อย แต่เจือปนผงชูรสเยอะมาก จากคุณ : สมใจ เขียนเมื่อ : 5 ก.ค. 53 16:16:32 A:93.222.141.98 X: TicketID:230573

ความคิดเห็นที่ 24   น้ำปลายี่ห้อปูสามตัวนี่รสชาติดีครับ กลิ่นแรงใช้ได้เลย จากคุณ : หมูแดง เขียนเมื่อ : 5 ก.ค. 53 16:33:41 A:110.168.93.86 X: TicketID:189700

ความคิดเห็นที่ 25 ออกเสียงเวียดนามอีกคนค่ะ คิดแล้วอยากกินไข่ต้มยางมะตูมราดน้ำปลาพริกขี้หนูบีบมะนาวใส่ด้วย ซี๊ดดดด จากคุณ : PattyPukes เขียนเมื่อ : 5 ก.ค. 53 20:25:16

ความคิดเห็นที่ 26 ที่่ตั้งกระทู้เพราะเคยถามพ่อตาซึ่งมาจากเมืองจีน มาขายก๋วยเตี๋ยวแกหมักน้ำปลาใช้เอง แต่พอไปเที่ยวมาเลเซียและสิงคโปร์ กินก๋วยเตี๋ยวไม่เคยเห็นร้านไหนมีน้ำปลาวางให้เติมเลย เคยถามคนจีนที่นั่น"เขาไม่รู้จักครับ" เขายังชมประเทศไทยว่าบนโต๊ะให้เครื่องปรุงมากมาย และน้ำปลาไทยอร่อยมากๆ ด้วยความอยากรู้ เวลาเข้าห้างที่นั่นสอดส่ายตาไปเห็นน้ำปลาของไทยอยู่2ยี่ห้อคือ"ปลาหมึก" กับ "ทิพรส" จากคุณ : Satu-Haadyai เขียนเมื่อ : 5 ก.ค. 53 20:38:20

ความคิดเห็นที่ 27 ไม่ว่าจะไทยหรือเวียดนามต่างก็รับเอาน้ำปลา (ปลาหมัก) มาจากจีนทั้งคู่ครับ เพียงแต่น้ำปลาตามรูปแบบที่นิยมกันอยู่นั้นเป็นการพัฒนาคิดค้นที่ริเริ่มมาจากทางเวียดนามครับ คล้ายๆ กับการที่อียิปต์เป็นผู้ผลิตกระดาษ(จากปาปิรุส) เป็นชาติแรกของโลก แต่จีนเป็นผู้ผลิตกระดาษในรูปแบบอย่างปัจจุบันเป็นชาติแรกของโลก คือมันต่างกันที่รูปแบบของกรรมวิธีหรือลักษณะของผลิตภัณฑ์น่ะครับ จากคุณ : Djehuti เขียนเมื่อ : 6 ก.ค. 53 00:38:39

ความคิดเห็นที่ 28 ใช่ค่ะซอสพริกตราไก่ ผลิตที่อเมริกา แต่รู้สึกว่าเชื้อชาติเวียดนามค่ะ คิดว่าไม่มีการซื้อสูตร แต่เป็นการเอาชื่อไปจดทะเบียนน่ะค่ะ เพราะถ้าคนเคยกินซอสพริกศรีราชาไทยแท้ จะรู้ถึงความต่าง อาจจะเพราะว่า คนไทยส่วนใหญ่ รู้จักชื่อซอสพริกในนาม ซอสศรีราชาด้วยมั้งคะ   เลยใช้เรียกแทนซอสพริกเลย เขาก็เลยเอาชื่อนี้ไปจดทะเบียน เราเคยอ่านเรื่องซอสพริกศรีราชา จำได้ประมาณว่า ที่ชื่อ ศรีราชา นั้น เป็นชื่อตามอำเภอ ในจังหวัดชลบุรี เมื่อก่อนปลูกพริกมากมาย จนมีการคิดทำซอสพริกขาย ชื่อ ซอสพริกศรีราชา   ตอนหลังเขาเลิกกิจการ หรือแยกบริษัทกัน หรือไงนี่แหละค่ะ จำไม่ได้แน่ชัด แก้ไขเมื่อ 06 ก.ค. 53 07:50:05 จากคุณ : โดดเดี่ยวผู้น่ารัก เขียนเมื่อ : 6 ก.ค. 53 07:34:36

ความคิดเห็นที่ 29 ซ้อสพริกศรีราชาของชาวเวียดนามติดอันดับหนึ่งซ้อสยอดนิยมในสหรัฐ ข่าวเศรษฐกิจ กรมส่งเสริมการส่งออก -- อังคารที่ 26 มกราคม 2553 12:12:39 น. นิตยสาร Bon Appetit ฉบับเดือน มกราคม 2010 ได้ลงเรื่องซ้อสยอดนิยมอันดับหนึ่งในสหรัฐว่าเป็นซ้อสพริกศรีราชา แต่เป็นซ้อสที่ผลิตในสหรัฐโดยคนเวียดนามแต่ใช้ชื่อศรีราชา สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ.นครลอสแอนเจลีสจึงจัดทำรายงานเกี่ยวกับซ้อสพริกศรีราชาในตลาดสหรัฐ ดังนี้ ความเป็นมาผู้ริเริ่มชื่อ David Tran อพยพจากเวียดนามมาอยู่ลอสแอนเจลีส เมื่อปี 1980 ไม่สามารถหาซ้อสพริกที่ชอบได้ จึงเริ่มผลิตเอง และขายจากรถบรรทุก ต่อมาเมื่อธุรกิจขยายตัว จึงตั้งโรงงานผลิตที่ Rosemead เขตลอสแอนเจลีส ใช้ชื่อบริษัทว่า Huy Fong Foods Inc. และผลิตซ้อสเพิ่มขึ้นอีกหลายชนิด แต่ซ้อสที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคือซ้อสที่ใช้ชื่อว่า ซ้อสพริกศรีราชา ตามชื่อซ้อสยอดนิยมของประเทศไทย ที่ตั้งชื่อตามชื่อเมืองศรีราชา ประเทศไทย  Huy Fong Foods ขายซ้อสศรีราชาตราไก่ ปีละ 10 ล้านขวด http://www.ryt9.com/s/expd/784141 แก้ไขเมื่อ 06 ก.ค. 53 07:50:55 จากคุณ : โดดเดี่ยวผู้น่ารัก เขียนเมื่อ : 6 ก.ค. 53 07:45:57

ความคิดเห็นที่ 30 หลายคนคงคุ้นชื่อ จากซอสพริกสีส้ม รสชาดเปรี้ยว เผ็ด อมหวาน ถูกต้องแล้ว นั่นแหละคือ ซอสพริกศรีราชา ซอสพริกต้นตำหรับ ที่ผลิตจากเมืองชายหาดเล็กๆ แห่งนี้นั่นเอง น้ำพริกศรีราชา ซึ่งส่วนผสมหลักมาจากกระเทียม และพริกสีส้ม น้ำส้มสายชู   สมัยก่อนโรงทำน้ำพริกจะตั้งอยู่ที่ตลาดศรีราชา หรือปากตรอกแหลมฟาน ผู้คิดค้นและผลิตซอสพริกเจ้าแรกของโลก จะใช้ชื่อว่า ศรีราชาพานิช ส่วนตอนนี้กิจการของ บริษัท ศรีราชาพานิช ได้ขายกิจการให้ ซอสภูเขาทองไปแล้วครับ ดูต่อ  http://www.gmsauce.com/srirajat.html แต่ก็มีหลายยี่ห้อน้ำสูตรซอสพริกศรีราชาไปทำเป็นยี่ห้อนั้นกันหลากหลาย แม้ซอสพริกศรีราชา ไปอยู่กับหลายยี่ห้อ การแข่งขัน (แสดงถึงความนิยม) ก็ไม่ตกลงไป “ซอสพริกศรีราช มีมานานกว่า 60 ปีแล้ว เดิมคนชลบุรีรู้จักในชื่อพริกศรีราชา และเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งเป็นที่รู้จักอย่างจริงจังเมื่อประมาณ 20 ปีก่อน แม้ว่าชื่อเสียงของเราจะเป็นที่รู้จัก แต่ส่วนแบ่งทางการตลาดในประเทศกลับมีไม่มากนัก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะสินค้าที่มียังถูกกระจายไปสู่ส่วนต่างๆ ของประเทศไม่ทั่วถึง ดังนั้นในเร็วๆ นี้ เราจะหาบริษัทที่เข้ามาดูแลเรื่องการกระจายสินค้า เพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่าย และยังจะปรับโครงสร้างการทำงานภายในให้ทันสมัยมากขึ้น”       http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=53e192974e21ae9e&table=%2Fguru%2F แก้ไขเมื่อ 06 ก.ค. 53 07:51:29 จากคุณ : โดดเดี่ยวผู้น่ารัก เขียนเมื่อ : 6 ก.ค. 53 07:47:20

ความคิดเห็นที่ 31   โหข้อมูลดีทั้งนั้นเลย นอกเหนือจากเรื่องน้ำปลาแล้วยังรู้เรื่องอื่นๆเพิ่มเติมอีกน่ะ ดีจัง ชอบๆ     ปล. ผมไม่ได้กินน้ำปลามาเกือบ 30 ปีแล้วครับ ที่บ้านใช้ซีอิ้วขาวอย่างดีครับ                                       ขอบคุณมากครับ จากคุณ : นกชิด เขียนเมื่อ : 6 ก.ค. 53 09:01:33

ความคิดเห็นที่ 32 เราก็ใช้ชื่อยี่ห้อ si racha ได้ครับ เพราะอำเภอศรีราชาสะกดแบบนี้ จากคุณ : วี เขียนเมื่อ : 7 ก.ค. 53 03:10:47