คนในก้นครัวเกือบทุกคน ก็มีจิตใจที่จะไม่หวังค่าตอบแทนกันเกือบทั้งนั้นแหล่ะค่ะ
เพราะทุกคนเชื่อว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่วค่ะ
ขอบคุณนะค่ะ..ที่เอาความดีของคุณมาโฆษณา เอ้ย..มาเล่าสู่กันฟัง....
=============================================
สำหรับสมาชิกที่อยากทราบว่าความจริงเป็นอย่างไร กรุณาอ่านที่ความคิดเห็นที่ 97 ของคุณ Alone with out lonely
ขอบคุณค่ะ
==============================================
อ้าว พอโดนเค้าจับได้ มาแก้ข้อความทำไมจ๊ะ
สร้างภาพอะไรไว้ปิดยังไงก็ปิดไม่มิดหลอกค่ะ
มุนษย์เราทุกคนต้องยืนหยัดอยู่ในโลกแห่งความจริงนะคะ
ปล. อย่าเกรียนบ้างอะไรบ้าง ฮ่า ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
=============================================
เมื่อคืนคุณเขียนบทความนี้มา..หรือป่าว
เมื่อวันที่ 20/07/53 เวลาประมาณ 15.00 น.
ผมได้รับมอบหมายให้ไปรับ Bakery ณ ร้านแห่งหนึ่ง ในซอยโชคชัยร่วมมิตร
เมื่อเดินก้าวย่างเข้าไปในร้าน
เพื่อขอรับเค้กที่สั่งจองไว้ จำนวน 2 ก้อน
(ก้อนหนึ่ง หนานุ่มมีเสี้ยวส้มแปะ อีกก้อนบาง มีฟูครีมแปะ)
ในราคา 1,700 บาท (หนึ่งพันเจ็ดร้อยบาทถ้วน)
ภายในร้านมีลูกค้า 2 โต๊ะ โต๊ะแรก อยู่ด้านขวาในสุด เป็นหญิงสาวสวย 1 คน อีกโต๊ะด้านหน้า ขวา จะมีวัยรุ่น 2 คน (ชายหญิง) กำลังลิ้มรสเค้กด้วยความผ่อนคลาย
ผมได้แจ้งความจำนงค์ ขอรับเค้ก จาก พนง.สาวสวย คนหนึ่งที่มาต้อนรับหน้าร้าน เธอสวยน่ารักแบบหมวยๆๆ มีเสน่ห์ อัธยาศัยดี รูปร่างบอบบาง ผิวขาว สูงประมาณ 155 CM. (ผมเข้าใจว่า น่าจะเป็นญาติหรือหุ้นส่วนกับเจ้าของ)
เธอบรรจงนำเค้กที่สั่งใส่ถุงใส 2 ใบ และส่งมอบให้ผม
ผมถามเธอว่า เป็นเงินเท่าไร? เธอบอกว่า 1,700 บาท
(ผมรู้ล่วงหน้าแล้วว่าเป็นเงิน 1,700 บาท
แต่อยากจะเช็คข้อมูลกับเธอว่าตรงกันไหม?)
ผมยื่นเงินให้เธอจำนวน 1,700 บาท
(ธนบัตร1,000 1 ใบ 500 1 ใบ 100 2 ใบ)
เธอรับเงินไป และแจ้งกลับว่า
จะรับเป็นใบเสร็จจาก แคชเชียร์ หรือว่า ใบเสร็จทางร้าน
ผมบอกว่าขอเป็น "ใบเสร็จทางร้าน"
เธอกดเครื่องบันทึกเงินสด และถาดเก็บเงินก็เลื่อนออกมา และดันถาดเก็บเงินกลับ "โดยที่เงินยังอยู่ในมือของเธอ"
จากนั้น เธอก็ได้ยื่นเงินกลับคืนมาให้ผม เป็นจำนวน 1,700 บาท
พร้อมกับหันไปอีกมุมหนึ่งเพื่อออกใบเสร็จรับเงิน
(ระหว่างนั้นผมคิดในใจว่า... ผมเชื่อว่า รูปร่างผมไม่น่าจะหล่อ จนทำให้ใจหญิงสาว...ละลายได้ และลดราคาเค้กในอัตรา 100%)
จากนั้นเมื่อเธอเขียนเสร็จ เธอได้ยื่นใบเสร็จรับเงินให้ผม
และกล่าวว่า "ขอบคุณค่ะ"
ซึ่งแสดงให้เห็นว่า การซื้อขายส่งมอบได้สิ้นสุดลง
ผมถามย้ำกลับว่า เรียบร้อยแล้วหรือ? เธอตอบว่า "ใช่ค่ะ"
ผมแกล้งเดิน 2 ก้าวเกือบถึงประตูหน้าร้าน ก็ไม่มีเสียงตอบกลับมาใดๆ เลย
ผมเลยเดินย้อนกลับไปหาและยิ้มๆๆ แล้วบอกว่า
คุณยังไม่ได้เก็บเงินผมเลย!! จะให้ผมกลับได้อย่างไร?
ผมจะกินเค้กที่คุณตั้งใจทำ โดยที่คุณยังไม่ได้รับเงินเลย ไม่ลงหรอก!!!
เธอยิ้มแบบเขินอาย (เธอลืมเก็บเงินผมไปจริงๆ เธอเข้าใจว่ารับเงินและเก็บใส่เครื่องบันทึกเงินสดแล้ว และจิตใจมุ่งแต่มาเขียนใบเสร็จให้เสร็จครับ)
ผมยื่นเงินให้เธออีกครั้ง แล้วเธอก็รับเงินไป "ขอโทษค่ะ" "ขอบคุณค่ะ"
เสียงขอโทษ ขอบคุณ อากัปกิริยา พูดแล้วลิ้นพันกันแบบเขินอาย ในรูปแบบของสาวๆๆ น่ารัก ดูแล้วก็น่ารักดีเหมือนกัน (แต่ผมไม่อยากให้เกิดแบบนี้บ่อยๆ..กลัวร้านขาดทุน)
ตลอดเวลาช่วงสั้นๆๆ ที่ ผมและเธอได้มีโอกาสเจอกัน
เหตุการณ์เกิดขึ้นระหว่างกันเพียงไม่กี่นาที
และแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตน
(น่าจะอยู่ในความทรงจำระหว่างกัน)
ผมเชื่อครับ (ดูก้นครัวเห็นคนตั้งใจทำเค้กกัน) ว่า เค้กทุกก้อนที่ขาย หรือแม้แต่อาหารทุกจาน ของทุกร้านค้า มีต้นทุนพอสมควร "และอนาคตอาจจะเกิดต้นทุนแฝงได้-ผมไม่อยากให้เกิด"
และที่สำคัญที่ไม่อาจมองข้ามหรือตีราคาค่างวดได้นั้น
นั่นคือ "ความตั้งใจบรรจงทำอาหารให้อร่อย" ด้วยเจตนาที่บริสุทธิ์
ผมไม่อาจล่วงละเมิดหรือ ทำลายความตั้งใจ นั้นได้ครับ
คือ ความตั้งใจของคนประกอบอาหาร Bakery Ice Cream ที่จะให้ "ผู้ซื้อ" ได้มีโอกาสทานของอร่อยสุดฝีมือ ไม่แบ่งแยกว่าเป็นร้านไหน จะโด่งดัง หรืออยู่ในซอกเหลือบแต่อย่างไร? โดยมีสำนึกรับผิดชอบสังคมครับ
ที่เล่าสู่กันฟัง เพื่อบอกกล่าวกันว่า
"โปรดอย่าโกงสังคม คนทำอาหาร/ร้านอาหาร กันเลยครับ"
เพราะผมเชื่อว่า "ทุกร้าน" เขาตั้งใจทำอาหาร
และทุกร้านมีความ "อร่อย" ในตัวมันเอง
(ถ้าชิมแล้วไม่อร่อย ก็ควรเสนอแนะกัน)
พ่อค้าแม่ค้า เขาจำลูกค้าได้ว่า "คุณชอบรสชาติแบบไหน อย่างไร?"
ฉะนั้น.....แม้เงินเพียง 1 บาท !!!
จงโปรดอย่าโกงเงินพ่อค้าแม่ค้า
จงโปรดอย่าสร้างความได้เปรียบเสียเปรียบทางการค้าของร้านอาหาร
แม้ว่าจะมีโอกาสเพียงเล็กน้อยเสี้ยววินาที
และขอให้ พ่อค้าแม่ค้า ที่ "ไม่มีโอกาส ได้ประชาสัมพันธ์เชิญชวน ร้านค้า"
"อย่าเสียใจเสียกำลังใจ กับการได้เปรียบเสียเปรียบในสังคมครับ"
จงตั้งใจทำหน้าที่ "พ่อค้า แม่ค้า" ตั้งใจทำอาหารด้วยจิตวิญญาณของ "คนครัว" พัฒนาฝีมือให้ถูกปากถูกใจกับลูกค้าทุกคน และควรคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมด้วย
ผมเชื่แก้ไขเมื่อ 22 ก.ค. 53 00:23:13
แก้ไขเมื่อ 22 ก.ค. 53 00:24:01
แก้ไขเมื่อ 22 ก.ค. 53 12:53:24
แก้ไขเมื่อ 22 ก.ค. 53 18:42:23
แก้ไขเมื่อ 22 ก.ค. 53 18:44:50
แก้ไขเมื่อ 22 ก.ค. 53 19:20:07
แก้ไขเมื่อ 22 ก.ค. 53 19:23:17
แก้ไขเมื่อ 22 ก.ค. 53 20:36:00