ความคิดเห็นที่ 1 ครั้งนี้ใช้ชา Lapsang Souchong ของ WHITTARD ครับ กลิ่นของใบชาก่อนชงนั้น คล้ายกับกลิ่นปลาแห้งรมควัน บางตำราว่ากลิ่นนี้เกิดจากการรมควันด้วยไม้ลำไย แต่บางตำราบอกว่าเกิดจากการรมควันด้วยไม้สน (แต่ผมว่ากลิ่นมันใช่ทั้งสองอย่าง เลย) หลังชงลองสูดกลิ่นชาเข้าไปก็รู้สึกจะได้กลิ่นคล้ายๆยางสนเหมือนกันครับ (ใครที่เล่นดนตรีไทยพวกซอ จะเคยเห็นยางสนที่ใช้ขัดคันชักให้ฝืด กลิ่นคล้ายๆแบบนั้น) จากคุณ : น้ำค้างหยกเก้าบุปผา เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 53 19:22:06

ความคิดเห็นที่ 2 ชาบรรจุในถุงชาวงกลมครับ ใช้เวลาชงประมาณ 2 - 4 นาที ใช้น้ำเดือด ชงได้ 1 รอบ ที่ข้างกล่องบอกว่าควรใช้ชา 1 ซอง ต่อน้ำ 1 ลิตร คิดว่าน่าจะเป็นเพราะกลิ่น ของชานั้นแรงจึงต้องใช้น้ำชงในปริมาณมาก แต่หากใครชอบความเข้มข้น จะชง 1 ซอง ต่อ 1 ถ้วยก็ไม่ว่ากันครับ แม้ว่าสีของน้ำชาจะเข้ม แต่รสสัมผัสนั้นนุ่มนวล ไม่ ขม ไม่ฝาด ส่วนใหญ่ชาแดงอบแห้ง เช่น ชาอู่หลงที่อบแห้งแบบชาหยานของอู๋อี๋ ซาน จะมีกลิ่นค่อนข้างแรง แต่รสชาติจะไม่ขมฝาด วันที่อากาศไม่สดใส ฝนตก พรำๆ ท้องฟ้าขมุกขมัว ได้ดื่มชา Lapsang Souchong ซักถ้วยก็คงจะดีมิใช่น้อย จากคุณ : น้ำค้างหยกเก้าบุปผา เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 53 19:23:04

ความคิดเห็นที่ 3 ใบชาในซองเป็นเกรด BOPF ชา Lapsang Souchong นั้น ความเห็นส่วนตัวคิดว่า เหมาะกับพวกอาหารคาวครับ ผมดื่มทีไรก็คิดถึงติ่มซำ แฮ่ะๆๆ อันที่จริงจะดื่มคู่กับ พวกแซนวิชแฮมชีส ก็น่าจะเข้าท่า หรือดื่มคู่กับพิซซ่าก็เข้าที แต่คิดว่าไม่ค่อยเข้า กันกับพวก ขนมนมเนย เท่าไหร่ จากคุณ : น้ำค้างหยกเก้าบุปผา เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 53 19:24:11

ความคิดเห็นที่ 4 มาลองชงตามตำรากันดีกว่า จากคุณ : น้ำค้างหยกเก้าบุปผา เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 53 19:25:21

ความคิดเห็นที่ 5 ใครที่ไม่ชอบมีพิธีรีตรองมาก จะชงในถ้วยมัคก็ไม่ผิดกติกา จากคุณ : น้ำค้างหยกเก้าบุปผา เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 53 19:31:10

ความคิดเห็นที่ 6 ความหลังที่เล่าค้างไว้...ก็มีดังนี้ครับ สมัยสัก 20 กว่าปีก่อนตอนผมยังเด็กๆ (อ้าว...เลยรู้อายุเลย แฮ่ะๆๆ) จำความได้ ว่า พอถึงวันพระใหญ่ โดยเฉพาะช่วงเข้าพรรษาเยี่ยงนี้ ที่บ้านผมก็จะทำขนมเพื่อ เอาไปวัดกันครับ พวกขนมเทียน ข้าวต้มมัด แล้วการนึ่งขนมพวกนี้ เขาบอกว่า ต้องก่อเตาฟืนนึ่งจึงจะทำให้ขนมอร่อย ก็เนื่องจากบ้านหลังเก่าที่เคยอยู่นั้น มีต้น ลำไยต้นใหญ่หลายต้นครับ ก่อนเข้าฤดูฝน ก็ต้องตัดแต่งกิ่งก้านต้นลำไย กิ่งก้าน ที่ตัดออกมาก็จะผ่าไว้ทำฟืน แต่เนื่องด้วยบางปี เข้าหน้าฝนเร็ว ไม้ลำไยที่เก็บไว้ จึงไม่ค่อยแห้งดีครับ เมื่อนำไม้ลำไยดังกล่าวมาทำฟืน ปลายด้านนอกที่ตรงข้ามกับด้านที่ติดไฟก็จะ คลายน้ำออกมาเป็นฟองๆ กลิ่นของน้ำที่คลายออกมานั่นแหละครับ เหมือนกลิ่น ของชา Lapsang Souchong เป๊ะเลย และที่บอกว่ากลิ่นคล้ายไม้สน อันนี้จะว่า คล้ายก็คล้ายครับ การก่อไฟด้วยฟืนนั้น ต้องมีเศษไม้สำหรับเป็นเชื้อไฟ ทาง ภาคเหนือจะมีไม้ที่ว่านี้ขายครับ เรียกว่า "ไม้เกี๊ยะ" ก็คือไม้สนป่าสีออกแดงๆ เวลาดมจะได้กลิ่นน้ำมันสนด้วย และเนื่องจากมีน้ำมันสนในเนื้อไม้นี่เอง จึงทำให้ ติดไฟง่าย กลิ่นของไม้สนเวลาติดไฟ ผสมกับกลิ่นของไม้ลำไยที่เล่าให้ฟัง คือ กลิ่น Lapsang Souchong เลยครับ ใช่เลย ดังนั้นเมื่อดื่มชา Lapsang Souchong ทีไร ไม่รู้เป็นเพราะคุ้นเคยกลับกลิ่นนี้หรือเปล่า ผมถึงไม่เคยเวียนหัว เลย แต่กลับทำให้หวนคิดถึงความหลังอยู่ร่ำไป ตอนนี้บ้านไม้หลังเก่าที่ผมเคยอยู่ หลังนั้นถูกรื้อไปแล้ว แต่ความทรงจำดีๆ ยังคงอยู่เสมอ ป.ล. ตะกี้แม่โทรมาบอกว่า หมาที่เลี้ยงไว้ถูกรถชนตายเสียแล้ว TT_TT แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 53 19:49:14 จากคุณ : น้ำค้างหยกเก้าบุปผา เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 53 19:34:35

ความคิดเห็นที่ 7 ไม่สวย ไม่เริ่ด ก็ดื่มได้ อิอิ ชอบค่ะ ตามมาหม่ำชาด้วยคนค่ะ  ชงแบบนี้ชอบค่ะ ส่วนใหญ่คนที่ชอบคิดถึงความหลัง เรียกว่า สูงวัยแล้วนะ อิอิ เสียใจด้วยนะคะ เรื่องน้องหมา  สู้ ๆ ค่ะ ปล. ขอบคุณค่ะ ตอนนี้อาการยู้ เริ่มดีขึ้นแล้วค่ะ แต่ยังกลัว ๆ อาหารทะเลอยู่ แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 53 19:43:48 จากคุณ : นู๋ยู้ฮู้ เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 53 19:42:46

ความคิดเห็นที่ 8 ชาย้อนความหลัง..อิอิ เห็นแล้วน่าดื่มที่สุดเลย เคยใช้ไม้เกี๊ยก่อฟืนอยู่พักหนึ่ง เลยรู้ว่าความหอมของไม้สนนั้น หอมแบบยางไม้สน มากเลยครับ จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 53 20:14:02

ความคิดเห็นที่ 9 ชอบประโยคในรุปสุดท้ายจังค่ะ^ ^ ไม่ได้ดื่มชามานานแล้ว อ่านแล้วอยากขึ้นมาเลยค่ะ ปล.เสียใจด้วยนะคะ หวังว่าเค้าคงไปที่ๆสงบสุขกว่าเราแล้ว... จากคุณ : โลกนี้ยังคงน่ารักเสมอ เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 53 20:46:53

ความคิดเห็นที่ 10 เสียใจด้วยนะคะเรื่องน้องหมา T_T จากคุณ : bassgirl เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 53 22:57:44

ความคิดเห็นที่ 11 คุณน้ำค้างหยกฯ ช่างนำเสนอนะครับ  ชาแบบนี้ผมก็เพิ่งเคยได้เห็นนะ  แปลกดี เอ..เมื่อกี้ลองไปอ่านดูในเว็บจีน  ดูเหมือนเขาจะบอกว่า มันหอมขนาดว่า เติมนมผสม ความหอมก็ไม่เปลี่ยน  แสดงว่า ชาชนิดนี้ น่าจะดื่มแบบชาฝรั่งได้  เคยลองแบบทำแบบชาลิปตันเติม น้ำตาล ผสมนมไหมครับ อยากรู้จักจังว่าจะเป็นอย่างไร ? อืมมม...สำหรับน้องหมาที่ไปผุดไปเกิดก่อนเวลาอันควรนั้น  น่าสงสารจัง  แต่เห็นที เป็นความทุกข์ที่ต้องเจ้าของทำใจแล้วล่ะ  ขอให้ทำใจได้ในเร็ววัน แต่ใครจะไม่รู้ว่า  มันอาจจะกำลังมีความสุข เพราะได้เล่นโยโย้ ที่อีกภพหนึ่งก็ได้ จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 53 23:24:32

ความคิดเห็นที่ 12 มาช้ากว่าเพื่อนเลย หุ หุ กลิ่นอาหารหรือเครื่องดื่มทำให้เรานึกถึงความหลังได้เร็ววิธีหนึ่งเลยค่ะ อะ กลิ่นของใบชาก่อนชงนั้น คล้ายกับกลิ่นปลาแห้งรมควัน น่าสนใจจริงๆ คุณน้ำค้างช่างสรรหาใบชามาทดลองจริงๆ ขอแสดงความเสียใจเรื่องน้องหมาด้วยนะคะด้วยนะคะ ที่บ้านเลี้ยงไม่เคยรอด มักจะจากไปแบบนี้เกือบทุกตัวเลยค่ะ น่าสงสารมาก ตัวสุดท้ายเห็นเหตุการณ์กับตาเลย คิดเสียว่า มันเกินมาใช้กรรม ถ้ามีโอกาสให้ทำบุญกรวดน้ำ อธิษฐานขอให้มันไปจุติในภพและภูมิที่ดีขึ้นนะคะ จากคุณ : Noshka เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 53 10:20:15

ความคิดเห็นที่ 13 เห็นแล้วอยากลองดื่มชาตัวนี้ดูบ้าง  ยิ่งคุณน้ำึค้างฯบรรยาย เกี่ยวกับความหลัง  เราเหมือนได้กลิ่นชาตัวนี้ลอยมาเลยค่ะ จากคุณ : กระทะเหล็ก เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 53 11:00:44

ความคิดเห็นที่ 14 ว้าบ้านเราไม่มีไม้ไม้เกี๊ยะ ใช้แต่ขี้สูดมาก่อไฟ 555 ผมชอบชาเหมือนกันกินแต่ชาจีนหนักเข้าไปอีกเพื่อนดันขายชาอีก เลยตามเลยกินชามาเรื่อยๆตั้งแต่ปี 35 แวบเดียวปี 53 เลิกยากซะแล้ว ยินดีที่ได้รู้จักทุกท่าน เดี๋ยวผมตามไปที่ web นะครับ จากคุณ : ป๋อ (อูหลง) เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 53 13:23:22

ความคิดเห็นที่ 15   มาช้าที่สุดเลยเรา คุณน้ำค้างนำเสนอจนผมอยากลองเลยครับ แต่ท่าทางค่าตัวจะสูงนะเนี่ย แพคเกจดูไฮโซจริงๆ จากคุณ : Fire Water Earth เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 53 16:21:57

ความคิดเห็นที่ 16 ไม่เคยดื่มชาชนิดนี้เลยคะ  อยากลองจิบดูมั่งจังเลย >.< จากคุณ : กันดัมจัง เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 06:55:13

ความคิดเห็นที่ 17 ผมก็รักชา แต่ชอบกาแฟมากกว่า แต่ตอนหลังห่วงเรื่องสุขภาพเลยหันมาดื่มชาแทน ปกติชอบ English breakfast ของ Dilmah แต่เริ่มเบื่อแล้วครับ จากคุณ : Biocalm เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 53 08:59:03