ความคิดเห็นที่ 1 มารอฟังด้วยครับ จากคุณ : Ice americano เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 11:47:36

ความคิดเห็นที่ 2 ต้องคว้านท้องทำฮาราคีรี แบบซามูไรญี่ปุ่น จากคุณ : smokie เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 11:51:45

ความคิดเห็นที่ 3 ^ ^ ^ ^ ค.ห.2 เข้าท่าแฮะ ประมาณว่ามันต้องตาย ถึงจะสาสม ... มารอฟังด้วยคนครับ อยากรู้เหมือนกันว่าต้องประมาณไหนถึงจะพอใจ ... จากคุณ : สุขาอยู่หนใด เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 12:02:48

ความคิดเห็นที่ 4 อืม...น่าคิดนะคะว่าแค่ไหนถึงจะพอใจ เราว่าบางทีสิ่งที่ลูกค้าต้องการคือความจริงใจในการขอโทษอะ แบบว่าบางทีความรู้สึกผิดมันไม่ได้ออกมาแค่จากปากแค่คำว่าขอโทษนะ แต่มันลึกซึ้งกว่านั้น เรื่องแบบนี้มันสัมผัสกันได้ว่าจริงหรือเปล่า อย่างเราถ้าเจอเรื่องที่มันผิดพลาด แล้วเค้าขอโทษจริงๆ แบบไม่ได้ตั้งใจให้เกิดขึ้น เราก็ ok นะ เพราะขนาดเครื่องจักรมันยังผิดกันได้ แต่ส่วนใหญ่ที่เจอจะแบบว่าปากบอกขอโทษ แต่น้ำเสียง หน้าตามันไม่ได้สื่อแบบนั้นอ่ะคะ มันเลยยิ่งทำให้รู้สึกแย่ไปกันใหญ่ จากคุณ : ซาลาเปาตัวน้อย~~ เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 12:20:45

ความคิดเห็นที่ 5 เข้ามารอฟังด้วยคนครับแหะๆ ขอเสริมอีกนิด เคยได้ยินมาว่าที่ญี่ปุ่นบริการดีมากๆ อยากรู้ว่าดียังไงและแบบไหน หากเค้าเจอปัญหาอย่างที่ จขกท. บอก คนญี่ปุ่นที่ทำงานเป็นคนบริการจะแก้ไขปัญหาแตกต่างจากคนไทยอย่างไร ช่วยตอบผมด้วยนะคร้าบบบ ขอบคุณครับ จากคุณ : jewes38352 เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 12:21:29

ความคิดเห็นที่ 6 คงต้อง ประกาศขอโทษทางทีวี และหนังสือพิมพ์ เป็นเวลา 7 วัน แซวขำๆน่ะค่ะ... ถ้าเป็นเรา ก็ขอโทษ(แบบจริงใจไม่ใช่ขอไปที) ส่วนถ้าเป็นเรื่องความเป็นความตาย ก็ ออกค่ารักษาพยาบาล ให้ ก็พอ แบบว่าไม่ต้องการอะไรมากอ่ะค่ะ คนทำมาหากินเหมือนกันมันเป็นอุบัติเหตุ ความผิดพลาดแบบไม่มีใครอยากให้เกิด .. ไม่ใช่ว่าโกรธกันมาแต่ชาติปางไหน พอเห็นเรามากินอาหารที่ร้าน แล้วได้โอกาสก็จงใจ ใส่แมลงสาบลงไปในถ้วยให้เรากิน ถ้าเป็นแบบนี้ก็คงต้องให้มันเจ๊งๆๆๆๆปิดร้านไปเลย สะใจ!! จากคุณ : TUNE TUNE เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 12:21:43

ความคิดเห็นที่ 7 เราว่าหลายๆท่านที่เคยประสบปัญหาพวกนี้ คงคิดว่า.... อยากให้ปรับปรุงให้ดีขึ้น มากกว่าได้ยินคำขอโทษนะคะ การที่คนเราจะทำอะไรผิดพลาด ก็มีกันทุกคนนั้นแหล่ะค่ะ แต่ว่าถ้ารอบคอบ ตรวจสอบให้ดีที่สุด จะเกิดความผิดพลาดไหมละคะ ปล.ตอบแบบนี้จะเป็น คห.ฆ่าตัวตายไหมเนี่ย ???? จากคุณ : ปลาทองป๊องป่อง เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 12:23:49

ความคิดเห็นที่ 8 เท่าที่เคยอ่านผ่านกระทู้มา ยังไม่ค่อยเห็นมีลักษณะที่จขกท.ว่ามาเท่าไรนะ จากคุณ : ลูกนกหลงทาง เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 12:35:14

ความคิดเห็นที่ 9   เคยไปทานอาหารร้านดัง ๆ เจ้าหนึ่ง ผัดไทยมีเส้นฝอยขัดหม้อด้วย อิอิ ทีนี้ เด็กเสริฟเห็น ก็ทำเงียบ ไปบอก ผจก. ผจก.มายืนมองเรา เราก็รู้ว่ามายืนมองว่าเราจะว่าไง  เราทานเสร็จพอดี เขี่ยฝอยขัดหม้อเส้นเล็ก ไปไว้ข้าง ๆ จาน แต่เราทานผัดไทยหมดเลยนะ เราเรียก ผจก.มาเก็บเงิน เพราะเขายืนตรงนั้น  เราบอกเขาว่า มีฝอยขัดหม้อ เส้นเล็ก ๆ ด้วยอะคะ แต่ทานหมดแล้ว ผจก.บอกว่า จะลดให้เรา ชดเชยให้ เขาก็กลัวเหมือนกัน เป็นผู้หญิงด้วย ได้แต่ยืนมองเราว่า  เราไม่ว่าเขา เราบอกว่าไม่เป็นไรค่ะ จะจ่ายเงินให้เต็มไม่ต้องลด ผิดพลาดกันได้ คราวหน้าอย่ามีละกันค่ะ เราก็ยิ้มให้เขา เขาก็ขอบคุณเรา เราไม่ใช่คนเรื่องมาก  เราคิดว่า ผิดพลาดกันได้ การผัดอาหารเนี่ย เราคิดว่าทุกคนที่ทำอาหารเขาไม่ตั้งใจ หากเราผ่อนปรนกันได้ สังคมก็จะน่าอยู่ขึ้นมา ยอม ๆ กันซักนิด ชีวิตจะได้มีความสุข จากคุณ : แกงไก่ไข่ดาว เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 12:43:06

ความคิดเห็นที่ 10 กรณีแบบเจออะไรในผลิตภัณฑ์ชื่อดังเหมือนกัน เรามักจะถามคนที่มาตั้งกระทู้ก่อนว่า ได้ติดต่อไปที่บริษัทหรือยัง ที่ถามเพราะเราต้องการจะบอกว่าควรให้โอกาสเจ้าของสินค้าได้แก้ไขความผิดพลาดนั้นก่อน แล้วทีนี้เมื่อเราให้โอกาสเขาแล้วปฏิกิริยาตอบรับเป็นไงก็รอดู ถ้าปฏิกิริยาตอบกลับมาแย่มาก แบบนี้เชียร์ให้โวยเลย แต่ถ้าดูๆแล้วทางเจ้าของสินค้ามีปฏิกิริยาที่ดีขอโทษขอโพย รับสินค้าไปตรวจสอบปรับปรุง อันนี้ควรจะชื่นชม เพราะเราต้องรู้ว่าไม่มีใครอยากให้เกิดความผิดพลาดขึ้นหรอก ยิ่งเดี๋ยวนี้อินเตอร์เน็ตกระแสมันแรง เราลงอะไรไปก็ต้องไตร่ตรองให้ดี บางทีอาจคิดง่ายๆแค่บ่น แต่กระแสในอินเตอร์เน็ตก็อาจทำให้บริษัทบางทีเจ๊งไปเลยก็ได้ .... คนเราควรอยู่ด้วยความเข้าอกเข้าใจกัน อะไรผ่านได้ก็ผ่าน อภัยกันได้ก็ทำไป ถ้าทำตามขั้นตอนแล้วเจอปฏิกิริยาอะไรที่มันไม่ดีมากๆอันนี้ค่อยโวย เราสนับสนุนเต็มที่ จากคุณ : เสียงจากบ้านนา เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 13:20:11

ความคิดเห็นที่ 11 อยากได้รับการขอโทษแบบสำนึกผิดอย่างจริงใจค่ะ แล้วทางร้านควรหาทางป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาดนั้นซ้ำอีกค่ะ แต่จากที่เจอบางครั้งจะเป็นการแก้ตัว หรือไม่ก็ขอโทษแบบที่น้ำเสียงประชดก็มีค่ะ ถ้าจะขอโทษแบบนี้อย่าทำดีกว่าค่ะ เพราะจะยิ่งทำให้โมโหเข้าไปกันใหญ่ เราว่าทุกคนสามารถทำผิดได้ทั้งนั้น และถ้าลูกค้าได้ยินคำขอโทษดีๆตั้งแต่แรก อารมณ์โมโหมันก็ลดลงแล้วนะคะ ปล. เราว่าบางครั้งลูกค้าก็ทำเกินไปค่ะ เค้าทั้งขอโทษดีๆ ทั้งให้ทานอาหารมื้อนั้นฟรีก็ยังไม่พอใจค่ะ สรุปงวดนั้นได้ที่พักโรงแรมฟรีอีกด้วยค่ะ (ลูกค้าต่างชาตินะคะ) จากคุณ : ดอกกุหลาบสีพีช เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 13:21:50

ความคิดเห็นที่ 12 ในฐานะเจ้าของกิจการ ตอบได้ว่า "จนปัญญา" ที่จะแก้ครับ ได้แต่ขอโทษแล้วก็ยิ้มสู้ เคยมีลูกค้าโต๊ะหนึ่ง 4 คน ฝรั่งคู่หนึ่ง และชายไทยกับหญิงฝรั่งคู่หนึ่ง คู่ลูกค้าฝรั่งเคยไปกินที่ร้านมาก่อนหลายครั้ง จำกันได้ คู่ที่ผู้ชายไทยกับหญิงฝรั่งไม่แน่ใจ แต่เขาทักผมด้วยการเรียกชื่อ...นึกไม่ออกจริงๆว่าเป็นใคร แต่ว่าชื่อร้านน่ะ มันก็เป็นชื่อผมน่ะนะ เขาคงจะเดาเอาว่าคงเป็นผมแน่ (Pantip ครับ...ร้านไม่ใช่ชื่อเดียวกับ login นี้นะครับ เดี๋ยวจะเข้าข่ายโฆษณา แล้วจะยึดอมยิ้มผมไป) สั่งเครื่องดื่มไปเรียบร้อย ทุกอย่างดูดี ไม่มีปัญหา ผมได้อธิบายเมนู และอาหารพิเศษ ฯลฯ ทีนี้ถึงเวลาสั่งอาหาร คู่ไทย-ฝรั่ง ไม่รู้จะสั่งอะไรดี ตัดสินใจไม่ได้ คู่ฝรั่งก็แนะนำ (ทีนี้ก็เลยรู้เลยว่า คู่ไทย-ฝรั่ง ไม่เคยไปกินที่ร้านมาก่อน มาตู่เรียกชื่อเพื่อให้ดูสนิทสนม) ผู้ชายฝรั่งสั่ง Filet Mignon คุณผู้ชายไทยสั่ง Pork Chop บอกว่ามีเพื่อนแนะนำมา คุณผู้หญิงฝรั่งที่มากับคุณผู้ชายไทย (คงจะภรรยาครับ เพราะอายุประมาณ 50 ทั้งคู่) หลังจากดูเมนู อ่านคำอธิบายแล้ว ตกลงสั่ง Spaghetti Tomato Sauce ตามเพื่อน ยกอาหารมาให้ เธอกินเข้าไป (อาจจะ) แค่ช้อนเดียว เธอไม่รอครับ ถือจาน ดิ่งเข้าครัว ตะโกนว่าทำอาหารประสาอะไร (ใช้ภาษาไทย) ใส่น้ำตาลซะหวานจนกินไม่ได้ ผมอธิบายว่าไม่มีน้ำตาล มันหวานมาจากซ๊อสมะเขือเทศและหอมใหญ่ ก็ไม่ฟัง เดินออกจากครัวกลับไปที่โต๊ะ บ่นไป เพื่อนก็กินไป ทีนี้บ่นหลายเรื่องเลย ผมบอกว่ารสชาติของอาหารนั้น ผมได้แจงไว้ในเมนู ใต้รายการอาหารทุกประเภท ทีนี้ก็เลยได้แรงสมทบจากสามีว่า "ในเมื่อลูกค้าบอกว่าหวาน มันก็หวานซิ มาเถียงทำไม" ผมบอกว่า ไม่ได้เถียงครับ เพียงแค่ต้องการอธิบายให้เข้าใจว่า อาหารไม่มีน้ำตาล ท่านได้ลองชิมดูหรือเปล่าครับ "ชิมทำไม เค้าบอกว่าหวาน มันก็ต้องหวานซิ"... อ้าว! ในขณะเดียวกัน เพื่อนที่สั่งอาหารซึ่งทำจากกระทะเดียวกันกินจนหมดจาน ผมไม่กล้าถามว่าหวานหรือเปล่า เพราะกลัวว่าลูกค้าจะลำบากใจในการตอบ ก็เลยบอกว่าเมื่อไม่ชอบ ผมจะทำให้ใหม่โดยไม่ใส่ซ็อสมะเขือเทศก็ได้ หรือว่าอยากจะเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นก็ได้ "ไม่ต้อง" คือคำตอบจากคุณผู้ชายไทย..."กินไม่ลง" จากคุณผู้หญิง ถ้าอย่างนั้น ผมไม่คิดค่าอาหารจานนั้นก็แล้วกัน "ไม่จำเป็น แค่นี้จ่ายได้ มาครั้งเดียวคงพอแล้ว"...ใช่เลย ไม่เคยมาก่อน ถ้าอย่างนั้น ผมขอโทษอีกครั้ง เอาเป็นว่าไม่คิดมื้อนี้ก็แล้วกัน พอผมพูดจบ คุณผู้ชายไทยก็บอกว่า "ก็ดี" แล้วชักชวนทั้งโต๊ะออกไป...อ้าววว ขอ อ้าว อีกครั้งเถอะ ซื่อบื้อจริงๆ พูดไปได้ยังไง...หมดเลยตู มื้อนี้ ทั้งเครื่องดื่ม ทั้งอาหาร เกือบสองพัน ที่บอกว่าตะโกน ข้างบนน่ะ ตะโกนจริงๆครับ เพราะว่าเมื่อพวกเขาลุกไปแล้ว โต๊ะอื่นๆถามผมว่าเกิดอะไรขึ้นในครัว แต่ทุกคนได้ยินกันหมดว่าเราได้พูดอะไรกัน เพราะเสียงพวกเขาไม่เบาเอาเลย ทุกสิ่งทุกอย่างที่ จขกท. ว่ามาข้างบนน่ะ ผมโดนไปหมดในรายการเดียวเลยละ คืนวันรุ่งขึ้นลูกค้าฝรั่งกลับมา ต้องการจ่ายค่าอาหาร ผมบอกว่าไม่เป็นไร คิดว่าซื้อความสบายใจให้กับทุกคนก็แล้วกัน ร้านจวนจะปิดแล้ว ก็เลยชวนให้นั่งดื่มกันนิดหน่อย ปรากฏว่าตอนเก็บโต๊ะ เจอเงินที่เขาเสียบไว้ใต้ผ้ารองจาน สองพัน ลูกค้าน่ารักๆอย่างนี้ ผมก็มีนะ ทุกวันนี้ยังเป็นลูกค้าประจำกันอยู่ครับ จากคุณ : tnu เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 13:32:44

ความคิดเห็นที่ 13 ใช่ เห็นด้วย บางครั้งอ่านบางกระทู้เราคิดอยู่เลยว่ามันอะไรกันนักกันหนามิทราบ จะให้ไปฆ่าตัวตายชดใช้ความผิดเลยไหม แบบกระทู้แนะนำข้างบนเป็นต้น บางครั้งอ่านดูก็เหมือนจะเกินไปจริงๆ อย่าบอกว่าก็เธอไม่ได้อยู่ ณ สถานการณ์นั้น หรือได้กินอาหารสกปรกแบบฉัน เธอก็พูดได้ซิ เราไม่ได้ต้องการณ์เจตนาจะสื่อแบบนั้นนะ แต่เค้าขอโทษแล้ว เค้าพร้อมรับผิดชอบแล้ว แต่บางครั้งก็ยังเห็นไล่บี้กันเอาเป็นเอาตาย เกินไปหน่ะ ร้อยทั้งร้อยก็คงไม่มีใครอยากให้เกิดความผิดพลาดหรอกจริงไหม แต่ก็มีลูกค้าบางกรณีมาคอยจ้องจะหาเรื่องกินฟรีเหมือนกันนะ จากคุณ : อุดมไปด้วยความสุข เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 14:08:39

ความคิดเห็นที่ 14 เคยไปทานร้านอาหารค่อนข้างมีระดับในตำบลที่มุกอยู่ สั่งข้าวผัดปู(85บาท)และกาแฟเย็น (ุ65บาท)   กาแฟมีมด ข้าวผัดปูมีหนังสติ๊กในข้าว เด็กเสริฟที่ดูแลโต๊ะเราอยู่ เห็นตอนที่มุกเขี่ยมดและหนังสติ๊กออก  มุกกับแฟนก็ทานจนหมดค่ะ  เจ้าของร้านน่ารักมากๆ จะไม่คิดค่าอาหารมื้อนั้นและขอโทษเราอยู่หลายครั้งตลอดมื้ออาหารนั้น แต่มุกกับแฟนก็ไม่ได้ว่าอะไร  รุ่งขึ้น มีขนมเค๊กมาส่งให้ที่ร้านของมุกค่ะ น้องพนักงานบอกว่า เจ้าของร้านฝากมาให้  ปลื้มมมม   ปล. หนูจ่ายตังค์ค่าอาหารนะคะ จากคุณ : นางร้ายนิสัยเสีย เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 14:40:32

ความคิดเห็นที่ 15 ความเห็นส่วนตัวนะคะ รู้สึกว่าเดี๋ยวนี้คนใจร้อนมากขึ้น ยอมกันน้อยลง อ้างสิทธิอันพึงมีพึงได้โดยขาดการให้อภัยและเคารพสิทธิผู้อื่น เข้าใจค่ะว่าเวลาโกรธมักจะคุมอารมณ์ไม่อยู่ แล้วบางครั้งอาจจะออกอาการพาล เคยเจอประมาณว่าทางผู้ประกอบการก็ยอมแทบจะทุกอย่างแล้วตามที่ขอ แต่พอเห็นยอมแล้วก็ขอกันมากขึ้น จนลืมนึกไปว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นที่ลูกค้าได้รับจากความผิดพลาดของการบริการ (ซึ่งในบางครั้งมันเกิดจากเหตุสุดวิสัย) มันไม่ได้รุนแรงถึงขั้นเป็นเหตุให้เสียชีวิต ยกตัวอย่างเช่น ทำอาหารผิดไม่ตรงตามที่สั่ง มีหนอนในผัก     ในกรณีที่เป็นความผิดพลาดที่ร้านค้าไม่ได้มาตรฐานเอง หรือพนักงานบริการไม่ได้ปฏิบัติตามเกณฑ์ที่มาตรฐานกำหนดไว้ ตรงนี้ลูกค้ามีสิทธิที่จะต่อว่าและได้รับการชดเชยตามสถานการณ์และความรุนแรงที่เกิดขึ้น แต่ต้องต่อว่ากับผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบ คือผู้จัดการร้าน หรือเจ้าของกิจการ  บางครั้งเห็นบางท่านต่อว่าเด็กเสริฟ ต้องขออนุญาตให้ความเห็นว่า เด็กเสริฟก็คงได้แต่ขอโทษ แล้วก็อาจจะเดินไปบอกผู้จัดการ (คงไม่มีอำนาจพอที่จะยอมลดราคาหรือให้ท่านทานฟรีได้) ตัวเองเคยทำงานทั้งในวงการอุตสาหกรรมอาหารในส่วนผลิต เคยไปช่วยเขียนคู่มือการปฏิบัติงานร้านอาหารในห้าง เป็นเด็กเสริฟในร้าน แล้วก็เคยเป็นลูกค้าที่ไปนั่งทานที่ร้าน ต้องขอบอกว่าความผิดพลาดมันเกิดขึ้นได้เสมอค่ะ ตอนเป็นเด็กเสริฟนี่เจอลูกค้าหลายประเภทมาก เข้าใจค่ะว่าเมื่อลูกค้าเข้าไปทานอาหาร ท่านต้องอยากได้อาหารที่มีคุณภาพและบริการที่ดี แต่บางท่านมาเพื่อหาเรื่องก็มีค่ะ ทำอะไรก็ไม่ถูกใจไปซะหมด ขอโทษก็แล้ว เปลี่ยนจานใหม่ให้ก็แล้ว ไม่คิดค่าอาหารก็แล้ว บางคนนะคะแค่ซื้ออาหารกลับไปแล้วรสชาติไม่อร่อย ไม่ถูกปากท่าน ถึงกับโทรมาต่อว่าแล้วก็เรียกร้องให้ทางร้านชดใช้โดยการไม่คิดค่าอาหารในครั้งต่อไปที่จะมาสั่งใหม่ ทางร้านก็ต้องยอมเพื่อรักษาชื่อเสียงค่ะ ตอนเป็นลูกค้าไปนั่งทานเลยไม่ค่อยเรื่องมาก อะไรที่ไม่ได้หนักหนาก็จะยอมๆ กันไป เพื่อจะได้กินอย่างมีความสุขค่ะ  เคยไปทานไก่ย่างที่ร้านนึงแล้วเจอเหมือนเส้นลวด ซึ่งเดาว่ามาจากเศษลวดที่มัดชิ้นไก่แล้วเชฟดึงออกไม่หมด ก็แค่เขี่ยไว้ข้างจานค่ะ ไม่ได้ต่อว่าเพราะว่าเรายังไม่ได้กินเศษลวดเข้าไป  ทีนี้พนักงานเสริฟมาเห็นเอง แล้วเค้าก็เลยถามว่าเจอในอาหารใช่มั๊ย เค้าขอโทษค่ะ แล้วตอนที่เค้ายกขนมมาให้  เค้าก็เอาขนมมาเพิ่มให้อีกสองชึ้น แล้วบอกว่าเป็นการขอโทษจากเชฟ เห็นบางท่านบอก ถ้าเป็นที่เมืองนอกก็คงฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกันยกใหญ่ ขออนุญาตบอกบ้างค่ะ ว่าฝรั่งบางทีก็ไม่ได้เรื่องมากจุกจิกหยุมหยิมค่ะ บางทีช้อนตกพื้นเค้ายังไม่ขอเปลี่ยนเลยค่ะ เอาใจเขามาใส่ใจเราค่ะ ลองคิดกลับกันว่าถ้าท่านทำงานพลาด ท่านอยากได้รับการอภัยจากผู้อื่นหรือไม่ แต่ถ้าพลาดแล้ว ก็ต้องปรับปรุงและไม่ระวังที่จะให้เกิดขึ้นอีกค่ะ  ฉะนั้นส่วนตัวคิดว่าการขอโทษ ยอมรับผิด และปรับปรุงแก้ไข รวมไปถึงการชดเชยตามสมควร  น่าจะเพียงพอแล้วในกรณีที่เจอสิ่งไม่ดีในร้านอาหาร จากคุณ : พัดจิ เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 14:43:04

ความคิดเห็นที่ 16 เริ่มเบื่อกระทู้ด่าร้านอาหารแบบไร้เหตุผลเหมือนกัน บางคนก็เกินไปนะ ทั้งๆ ที่ร้านเค้าก็ขอโทษ ลดราคา ไม่คิดเงิน ก็น่าจะพอใจได้แล้ว จริงๆ ที่ จขกท บอกมา ถ้าทางร้านขอโทษอย่างจริงใจ ก็เพียงพอแล้วละ แต่ที่เห็นมาตั้งกระทู้ประจานกันน่ะ คงเพื่อสนองความสะใจเท่านั้นเองแหละ หรือไม่งั้นจะให้ทางร้านกราบขอโทษเลยมั้ย หรือจะฟ้องเรียกค่าเสียหายแบบเมืองนอกเค้า จากคุณ : วิญญาณไม่ขายใคร เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 15:07:10

ความคิดเห็นที่ 17   เมื่อช่วงคนมีสีปิดราชดำเนิน เราเห็นร้านแถบนั้นเงียบมากๆ  ก็เลยสงสาร ชวนเพื่อนไปทานเป็นร้านอาหารชื่อดัง ในร้านมีพนักงานมากมาย แต่มีลูกค้ารับประทานกันอยู่แค่สามโต๊ะ เราทานอาหารชนิดหนึ่ง เป็นจำพวกลาบ  รสชาดอร่อยใช้ได้ แต่ทานไปมาจวนหมดจาน ก็ต้องอึ้งเพราะพบลูกแมลงสาบตัวเล็กๆน่ะค่ะ ก็เลยหยุดทานจานนั้นแล้วก็เอาผักกลบไว้  เพื่อนจะทานก็ไม่ให้ทาน จนกระทั่งทานเสร็จ ก็เรียกเด็กมาเช็คบิล แล้วก็ขอพบผู้จัดการร้านนิดหนึ่ง แล้วเราก็พูดกับผู้จัดการร้านเบาๆ แล้วเขี่ยแมลงสาบให้ผู้จัดการร้านดู ผู้จัดการร้านก็ขอโทษเรา แล้วเรียกเด็กเสริฟเข้าไปในห้องทำครัวด้านหลัง หลังจากนั้น ผู้จัดการก็ออกมาขอโทษเราอีกครั้ง และให้พนักงานแคชเชียร์ไม่ให้คิดเงินสำหรับจานนั้น ตอนนั้นลูกค้าทั้งสองโต๊ะที่เหลือก็พยายามมองว่าเกิดอะไรขึ้น  แต่เราก็ยิ้มๆไม่ได้พูดอะไร ณ ตอนนั้น เข้าใจได้เลยว่า   ถ้าเราเป็นเจ้าของร้าน แล้วเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ เราจะทำอย่างไร แต่เราคิดว่า  แค่อาหารจานเดียว กับเหตุการณ์คาดว่า ไม่ตั้งใจให้เกิด หรือเป็นความผิดพลาดที่ไม่มีใครต้องการให้เกิด  เราเข้าใจเจ้าของร้านดี เพราะ อาหารแค่จานเดียว ราคา 70 บาท  ไม่ควรทำให้เจ้าของกิจการต้องถูกพิพากษาให้เป็นจำเลยสังคม  ไม่ควรให้แม่ครัวต้องถึงกับถูกไล่ออก และไม่ควร ให้พนักงานเสริฟต้องมารองรับอารมณ์จนกระทั่งต้องตกงาน อาจจะคิดเห็นแตกต่างออกไป แต่คิดเช่นนั้นจริงๆ จากคุณ : ilovetrip เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 15:50:50

ความคิดเห็นที่ 18 แค่คำขอโทษที่ออกมาจากใจจริงก็พอแล้วครับ จากคุณ : จริงใจ (Hirame) เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 15:54:08

ความคิดเห็นที่ 19 ไม่เคยเจออะไรปนเปื้อนร้ายแรง แต่คิดว่าลูกค้าคงต้องการ "การขอโทษที่จริงใจและคิดจะเก็บเรื่องที่เกิดขึ้นไปหาที่มาและปรับปรุงอย่างแท้จริง" ไม่ใช่ พูดขอโทษไปงั้น ไม่คิดตังค์ แล้วก็จบไป คือมันต่างกันนะ ระหว่างพนักงาน/ผจก/เจ้าของที่เค้า"เสียใจ"กับเรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆและจะนำไปแก้ไขจริงๆ กับพวกที่ขอโทษขอไปที ลดค่าอาหารขอไปที ลูกค้าที่เจอปัญหาจะได้กลับๆจบๆไป  ซึ่งบางคนที่เค้ามาตั้งกระทู้เล่าเนี่ย บางทีเค้าเล่าให้เราเห็นภาพไม่ได้หรอกค่ะ ว่าเค้าเจอความขอไปทียังไง อย่างบางทีเจอแมลงสาบในอาหารเงี้ย ก็อ้างนู่นอ้างนี่ เดินมาเองมั่งอะไรมั่ง บางคนก็อ้างว่าไม่รู้เรื่องโทษพ่อครัวมั่งอะไรมั่ง ปัดสวะให้พ้นตัวไปเรื่อย อืม...  ต้องลองไปเห็นร้านอาหารที่พนักงานเค้าขอโทษอย่างจริงใจดู แล้วจะเห็นความแตกต่างน่ะ คนไทยมักจะถือว่าไม่ใช่ความผิดจากมือตัวเอง จะไม่ขอโทษน่ะ ถ้าลูกค้าเจอพนักงาน/ผจก/เจ้าของที่ขอโทษจริงใจ+จะแก้ปัญหาแล้วยังเรื่องมากอีก อันนั้นลูกค้าแย่ค่ะ ร้านใหญ่ ๆ มีสาขาเยอะ ๆ นี่ต้องรับผิดชอบมากกว่าร้านเล็ก ๆ หรือแผงลอยข้างถนนหรือเปล่า เช่น ถ้าเจอหนอนในผักของร้านสุกี้ชื่อดัง กับเจอแมลงวันในจานขนมจีนข้างทาง จะทำยังไง << ผักในร้านสุกี้มันชาร์จเพิ่มกี่เท่าจากราคาตลาดล่ะคะ ในขณะที่ขนมจีนข้างทางเค้าวางให้หยิบฟรีเลย ในเมื่อคิดราคาแพงกว่า(มาก) ความสะอาด พิถีพิถันก็ควรจะมากตาม จากคุณ : ทังโคริริน เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 15:57:12

ความคิดเห็นที่ 20   เรื่องแมลงสาบน้อย (หรือหนอน) ในอาหารเนี่ย ... ถ้าร้านอาหารแสดงความสำนึกผิดอย่างจริงใจ (ดูจากแววตา คำพูด และท่าทาง) ก็ให้อภัยได้ (ต้องไม่ใช่แมลงตัวยักษ์ขนาดมองเห็นได้ชัดๆนะ) เพราะที่บ้านก้อมีโอกาสเจอแมลงสาบเหมือนกัน แต่ถ้าเป็นเรื่องมารยาทของพนักงาน คงทำใจให้อภัยยากหน่อย จากคุณ : jett เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 19:04:12 A:124.121.57.233 X: TicketID:079517

ความคิดเห็นที่ 21   ไม่เกี่ยวกับอาหาร แต่กรณีน่าจะเหมือนกัน เคยมีเรื่องโจ๊กในแก็งวิ่งราว ว่า คนนี้แปลก เวลาไปขอมังดีๆก็ด่าหาว่ามือเท้าดีไม่รู้จักทำมาหากิน พอไปฉกชิงวิ่งราวมัง ก็ดันบอกขอดีๆก็ได้ ไม่รู้มังจะเอายังไงกันแน่ คนเราไม่มีความพอเพียงในทุกๆเรื่อง (บางคนจ้ะ) จากคุณ : 101 เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 19:05:34 A:183.89.247.134 X: TicketID:276606

ความคิดเห็นที่ 22 เราเป็นเจ้าของร้านอาหารเหมือนกันค่ะ มีครั้งหนึ่งเกิดปัญหากับน้ำจิ้มที่วางไว้หน้าร้าน  และเราเห็นกับตา คือแมลงวันบินตกลงไป  ><  เครียดมากทำไรไม่ถูก หน้าร้านก็มีลูกค้าขาประจำยืนรออาหารที่สั่งอยู่ (ร้านของเราเป็นแบบในห้าง ก็จะมีการฉีดพวกยาตอนปิดร้าน  แมลงคงโดนยา  เพราะเราเห็นมันบินมึนไปมึนมาได้พักนึงก่อนตกลงไปในน้ำจิ้ม) ลูกค้า: อ่ะ  สงสัยแมลงวันคงเหนื่อย  ลงไปนอนเล่นแล้ว เรา   : (หน้าคงเหวอ) ว้าย ขอโทษนะคะ เดี๋ยวจะเปลี่ยนโถน้ำจิ้มให้ใหม่ค่ะ ลูกค้า: ไม่เป็นไรครับ  ปกติที่ร้านไม่เคยมีอะไรแปลกปลอมอยู่แล้ว  ผมเข้าใจ เรา   : (น้ำตาแทบไหลเลย) ยกมือไหว้ ขอโทษอีกครั้ง  และขอบคุณลูกค้ามากๆที่เข้าใจ(และไม่ร้องเรียนทางแผนก) ลูกค้า: ไม่เป็นไรหรอกครับ  ทานกันมานาน (ยิ้มให้เรา) เรา   : ขอบคุณมากๆนะคะ ********************************* ทุกวันนี้ลูกค้าท่านนี้ก็ยังเป็นขาประจำที่ร้านอยู่  รู้สึกขอบคุณมากๆที่ไม่ทำการร้องเรียน  ไม่งั้นเราอาจโดนยกเลิกสัญญาได้เลย ขอบคุณจริงๆค่ะ จากคุณ : ใจตัวเองห้ามยากที่สุด เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 20:09:33

ความคิดเห็นที่ 23 ทุกวันนี้กินข้าวนอกบ้านผมจะทำใจไว้นิดๆ เผื่อเจอเรื่องแย่ๆเสมอนะครับ เรื่องแบบนี้ต้องอาศัยความเห็นอกเห็นใจกันทั้งสองฝ่ายครับ เรื่องแบบนี้พูดลำบากครับ จะให้ทำข้อตกลงแบบ ถ้าเป็นแบบนี้ต้องทำแบบนั้นคงจะลำบาก ทางร้านก็ต้องขอโทษและต้องรับผิดชอบด้วยความ"จริงใจ" ไม่ใช่ทำแบบขอไปที เพราะลูกค้าเจออะไรที่ไม่พึงประสงค์แบบนี้ก็คงเสียความรู้สึกเป็นธรรมดา และทางร้านต้องเอาข้อผิดพลาดไปปรับปรุงแก้ไขด้วยว่าร้านมีจุดบกพร่อง ช่องโหว่ตรงไหนที่ทำให้เกิดความผิดพลาดนี้ (แต่ก็มีจุดที่ต้องคิดนิดนึงว่าเมืองไทย ลูกจ้างหรือแม้กระทั่งผู้จัดการร้านบางร้านก็ไม่มีอำนาจตัดสินใจในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า อันนี้คงต้องคิดกันต่อว่าต้องทำยังไง) ส่วนลูกค้าก็ต้องมีความเห็นอกเห็นใจทางร้านด้วยระดับหนึ่ง โดยถ้ารู้สึกว่าทางร้านรับผิดชอบด้วยความจริงใจแล้ว ก็อาจจะยั้งๆอารมณ์ไว้นิดนึงก็ดีนะครับ เพราะพวกเราคือมนุษย์ย่อมมีข้อผิดพลาดได้อยู่แล้ว จากคุณ : WishComingTrue เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 21:04:04

ความคิดเห็นที่ 24 ที่บ้านผมเป็นร้านขายต้ทเลือดหมูใบตำลึง + อาหารตามสั่ง เคยมีครั้งนึง พวกคุณหญิงคุณนายมากิน แล้วกรี๊ดสนั่นร้าน ลูกค้าโต๊ะอื่นตกใจกันใหญ่เข้าไปสอบถาม ปรากฎว่าชีหวีดร้องอย่างโหยหวนว่าทางร้านทำอาหารสกปรก มีขาแมลงสาบอยู่ในต้มเลือดหมู พอลูกค้าท่านอื่นได้ยินก็เริ่มเรียกจ่ายตังกันเป็นแถว คนที่ยังไม่ได้กิน ก็ยกเลิกแล้วออกไปจากร้านทันที เนื่องจากร้านผมเป็นกิจการในครัวเรือน พ่อเป็นคนทำ แม่เป็นลูกมือ ลูก ๆ เป็นเด็กเสิร์ฟบ้าง ล้างจานบ้าง ยอมรับว่าทำอะไรไม่ถูกเลยครับ พ่อเกือบร้องไห้เลย แม่ก็ลนลาน ผมเลยไปขอโทษ ขอโทษกันทั้งบ้านเลยครับ จิตตกมากๆ โค้งกันจนหลังขดหลังงอ แล้วยังด่าร้านผมแบบสาดเสียเทเสีย แช่งให้แจ๊งต่อหน้า จนพ่อผมน้ำตาเล็ด  ตอนนั้นพวกผมก็เชื่อว่าอาจจะมีขาแมลงสาบติดมากับตำลึงจริงๆ ไม่รู้จะทำยังไง เราก็ไม่อยากให้เกิด ผมเลยเดินเข้าไปเอาช้อนเขี่ยดู ปรากฎว่าเป็น หนวดตำลึงครับ หนวดตำลึงที่มันเหี่ยวเป็นเส้นดำ ๆ คือบ้านผมใช้ตำลึงวันนึงเป็นสิบ ๆ กิโล ตอนเด็ดตำลึงนั้นก็มีหนวดตำลึงติดมา แล้วหนวดตำลึงจะเหี่ยวเร็วมาก ทำให้ เกิดเรื่องราวแบบนี้ขึ้นครับ พอ ชันสูตรแล้วว่าเป็นหนวดตำลึง ชีก็เงียบ แล้วเชิด ๆ หน้าลุกขึ้นเดินขึ้นรถ แล้วหันมาบอกว่าวันหลังไม่มากินแล้ว คิดดูครับ ค่าอาหารก็ไม่จ่าย แถมทำร้านเสียชื่อเสียง ลูกค้าที่ออกไปก่อนหน้านี้ก็ไม่รู้ความจริงว่าอะไรเป็นอะไร สุดท้ายเราเสียอย่างเดียวเลยครับ วันนั้นพ่อปิดร้านเลยครับ ขายต่อไม่ได้จริง ๆ เนืองจากรู้สึกเสียใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ฝากไว้นะครับว่า บางอย่าง นิดๆ หน่อย ๆ ก็ให้อภัยกันบ้าง ไม่ใช่ว่ามาในนามผู้บริโภคก็จะเรียกร้องสารพัดอย่าง จะเอานั่นเอานี่ จะต้องคุ้ม อย่างนั้นอย่างนี้ มากินทีต้องเผาผลาญทรัพยากรทุกอย่างให้คุ้มค่าอาหารที่จ่ายเรา นึกถึงใจเขาใจเราไว้นะครับ นอกจากทางร้านจะไม่หนักใจแล้ว เรายังจะสบายใจอีกต่างหากครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : SynBi เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 00:38:46

ความคิดเห็นที่ 25 คนเราสมัยนี้ต้องการใช้สิทธิซะเต็มประดาครับ แต่ไม่คำนึงถึงเลยว่ามันเป็น "สิทธิที่สมควรได้" รึว่า "สิทธิที่ได้มาจากการเรียกร้องอย่างไม่สมควร" สำหรับบางคน ขอโทษ... เท่าไหร่ก็ไม่หาย ชดใช้... แค่ไหนไม่พอ สำนึกผิด... ก็ไม่สมควร แก้ตัว... ก็ไม่มีโอกาสแล้ว ดังนั้นเจ้าของร้าน / พนง.บริการ ต้องมีสติ และไหวพริบในการแก้ปัญหาเป็นคราวๆ ไปครับ เพราะแต่ละคนแต่ละร้านก็แต่เจอไม่เหมือนกันหรอก ลูกค้าแตกต่างกัน ส่วนตัีวทุกวันนี้เวลาออกไปทานอาหาร รึว่ารับบริการอะไรก็ต้องเผื่อใจไว้อยู่แล้วน่ะครับ ว่าไม่มีอะไร 100% หรอก ผิดนิดพลาดหน่อยก็ไม่เป็นไร ให้อภัยกันได้ ... แก้ไขเมื่อ 15 ส.ค. 53 00:45:33 จากคุณ : ~cenobite+ เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 00:44:15

ความคิดเห็นที่ 26 ถ้าไม่นับพวกลูกค้าที่เยอะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะ ... ลูกค้าทั่ว ๆ ไป อยากได้แค่คำขอโทษที่จริงใจ และความสนใจที่จะแก้ปัญหาให้ เราว่าแค่นั้น น่าจะพอนะคะ แต่ปัญหาส่วนใหญ่อยู่ที่  บางคนไม่มีอำนาจตัดสินใจในการแก้ปัญหาให้ แล้วลูกค้าบางคนก็พร้อมจะใส่อารมณ์ทุกอย่างลงไป วินาทีนั้น จากคุณ : :: VamleS :: เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 00:47:22

ความคิดเห็นที่ 27 เจอบ่อยที่สุด และไม่เคยโวยซักครั้ง มีเส้นผมในอาหารที่ทานไปเกือบหมดแล้ว พวกแมลงสาบไม่เคยเจอเอง แต่มีเพื่อนคนนึงมันเจอตอนกินด้วยกันกับผม 4-5 รอบเข้าไปแล้ว พิซซ่าเจ้านึง สั่งมาทานที่บ้าน เจอพลาสติกห่อไส้กรอกอยู่บนหน้า ผมกินไปแล้วคายมาดูเพราะสัมผัสมันแปลกๆ โทรไปบอกทางเบอร์โทรด่วน ซักพักผู้จัดการสาขารีบโทรกลับมาขอโทษ แล้วเสนอจะให้พิซซ่าถาดใหม่ ผมบอกไม่ต้องหรอกผมทานอิ่มแล้ว ผู้จัดการบอกว่า งั้นจะส่งคนไปเอาพลาสติกชิ้นที่ว่าไปตรวจสอบ ผมก็เลยเก็บใส่กระปุกไว้ ........ผ่านมาเป็นปียังไม่มีแมวที่ไหนมาเอาพลาสติกชิ้นที่ว่าซักตัว พิซซ่าเจ้าเดียวกัน สั่งพร้อมน้ำอัดลม ทุกๆ 1 ใน 3 ครั้ง เปิดออกมามันจะระเบิดฟู่ประจำ ล่าสุดผมเปิดให้ดูตรงหน้าเด็กส่งพิซซ่าเลย ระเบิดหกเต็มห้อง แต่ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร แค่บ่นๆนิดหน่อย แถมให้ทิปด้วยนะ เป็นคนไทยต้องอดทน จากคุณ : แมงแกลบ เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 01:05:02

ความคิดเห็นที่ 28 เข้ามายิ้ม จากคุณ : Poifhai@Thailand เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 01:39:24

ความคิดเห็นที่ 29 อ่านกระทู้ห้องนี้แล้ว รู้สึกได้เลยครับ ว่าคนมีหลายประเภทจริงๆ เรื่องเดียวกันแท้ๆ บางคนก็เอาเรื่องจะเป็นจะตาย บางคนที่สบายๆ ขอแค่คำขอโทษอย่างจริงใจก็พอ จากคุณ : replay เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 01:48:11

ความคิดเห็นที่ 30 ต้องกราบทีนครับ พร้อมกินฟรี 1 ปี จากคุณ : Nickest of Bakane เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 02:03:37

ความคิดเห็นที่ 31 #24 ทำไมไม่เก็บเงินล่ะครับ เรียกให้มาจ่ายเงินด้วย แล้วทำไมต้องตกใจขนาดนั้น เพื่อนผมไปกินข้าวราด เจอขาแมลงสาบจริงๆ ไม่ใช่หนวดตำลึง คนขายยังไม่ตกใจขนาดนั้น ก็ขออภัย และไม่เก็บเงิน เพื่อนผมก็ว่าๆ ไปว่าเสียความรู้สึก เพราะร้านประจำ ทำไมไม่ตรวจดูให้แน่ก่อน เรื่องอย่างนี้โลกของความจริงมันต้องเร็วครับ มีอะไรให้รับใช้ ไหนครับ ปัญหาคืออะไร ตรวจสอบก่อนนะครับ อ้าว หนวดตำลึงนี่ครับ ไม่มีอันตราย ลูกค้าท่านอื่นไม่ต้องตกใจไปครับ การค้าขายสมัยนี้ชื่อเสียงของร้านสำคัญนะครับ คุณปล่อยเลยตามเลยได้อย่างไร? ผมงงจริงๆ ไม่ทราบเป็นเวลากี่นาทีจากตอนพบขาแมลงสาบ (หนวดตำลึง) ถึงเดินออกจากร้านไปครับ ถ้าเป็นนิยายฝ่ายตัวเอกก็ต้องเซื่องๆ ให้ฝ่ายผู้ร้ายรังแก ที่คุณเล่านี่เหมือนละครเลยนะครับ หรือผมจะอ่านนักสืบพันทิปมากไป? หวังว่าคงไม่โกรธนะ ผมคิดว่าที่เขียนไปนี่ก็คงพอมีประโยชน์บ้างล่ะ ถ้าเจอคราวหน้า ถ้าเจอแมลงสาบจริงๆ ก็ต้องตัดสินใจรวดเร็วเช่นกันครับ เรื่องพวกนี้ต้องอาศัยศิลปะการจัดการ อาชีพอื่นก็เหมือนกันครับ ผมยังต้องก้มหัวให้ลูกค้า พูดขอโทษแล้วขอโทษอีก ถ้าความผิดเกิดจากฝ่ายเราจริงๆ แต่อย่างไรก็ต้องตรวจสอบให้รู้แน่ก่อนว่าอะไรเป็นอะไร คำถามหัวกระทู้ คำขอโทษอย่างจริงใจครับ สำหรับกรณีไม่ร้ายแรง แล้วที่เพื่อนคุณบอกว่าออกมาไม่ให้ถูกด่านี่มันยังไง งง ถูกด่าทางเนตนี่เหมือนการบอกคนอื่นๆให้ได้รับทราบ ไม่ได้ไปด่าเจ้าหน้าที่ร้านซักหน่อย อาชีพไหนก็ต้องเคยถูกลูกค่าบ่นว่ามาบ้างล่ะ ไม่ใช่เปิดร้านอาหารนี่อย่างเดียว คำพูดของเพื่อน จขกท กับการด่าทางเนตนี่มันเกี่ยวกันตรงไหน? จิตใจอ่อนแอ? อย่างผมไปกินต้มยำหัวปลา แล้วมันคาวมาก แฟนบอกเพราะหัวปลาไม่สด หรือคนตอนใส่ ฯ ก็เลยลดราคาชามนั้นให้ครึ่งหนึ่ง (แต่เราสองก็ไม่ได้แตะต้องชามนั้นเลย) ลูกค้ายังไงก็ไม่คุ้มอยู่แล้ว ไม่ได้กินยังต้องมาเสียตัง หนังยาง หิน ฝอยขัดหม้อ พลาสติก ผม เคยเจอมาหมด ก็พูดไปขำๆกับคนขาย แมลงสาบยังไม่เคย ถ้าเจอคงไม่ไปเหยียบอีก แก้ไขเมื่อ 15 ส.ค. 53 02:38:04 จากคุณ : guerilla gorilla เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 02:24:31

ความคิดเห็นที่ 32 ถ้าประเภท มีแมลงอยุ่ในจาน หรือมีเศษฝอยขัดหม้อนี่ ขอโทษอย่างจริงใจไม่พอครับ   น้าผมเปิดร้านอาหารที่ อเมริกา คิดว่าถ้ามีของพวกนี้อยู่ในจานจะเกิดอะไรขึ้นครับ อย่างเบาๆลูกค้ากินฟรีครับ  อย่างหนักเจอ อย. ครับอันนี้หนักเลยอาจถึงขั้นต้องปิดร้าน ดังนั้นเรื่องความสะอาดนี่ทางร้านระวังกันเต็มที่ กลับมาประเทศไทย ถ้าเจอแบบเดียวกัน อย่างเก่งไม่คิดเงินอาหารจานนั้น หรือ ลดราคาให้เป็นพิเศษเพิ่มจากเดิมนิดหน่อย  ถามว่าจะมีกี่ร้านที่รู้สึกกลัวและระวังอย่างเต็มที่ในคราวต่อไป   จริงอยุ่คนไทยใจดีไม่เรื่องมากแต่ว่าก็มีข้อเสียคือถูกเอาเปรียบง่ายๆ  ดังนั้นเจอร้านหรือคนมักง่ายมันก็ต้องมีโวยหนักๆกันบ้างครับ จากคุณ : พุงกาง เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 02:24:44

ความคิดเห็นที่ 33   เราเห็นตัวอย่างที่ยกมา หนอนในผักงี้ คือที่เห็นกระทู้แนะนำมันทั้งเศษแก้วในมูส (กินเข้าไปเลือดกลบปาก) พลาสติกปั่นในน้ำแตงโมงี้ (กินเข้าไปแล้วอีกต่างหาก นมผสมเมลามีนที่จีนสั่งประหารมาแล้วนะเออ) มันพอหรอแค่ขอโทษแล้วให้กินฟรี เรื่องส่วนใหญ่ที่เขาเอามาด่านี่เกี่ยวพันถึงสุขภาพในภายหลังทั้งนั้น แล้วถามจิงเหอะ เจอแมงสาบในข้าว เศษแก้วในมูสเลือดกลบปาก พลาสติกปั่นรวมกะน้ำแตงโมเนี่ย เค้าเอาไปเปลี่ยนมาให้ หใกนฟรี ยังจะกินกันต่อลงอีกหรอ? ชีวิตและสุขภาพของตัวเองไม่รักไม่ดูแล แล้วจะให้แมวที่ไหนมาดูแลฟระ ถ้ายังไงก็ยกกระทู้ที่คุณข้องใจมาเป็นตัวอย่างเลยดีกว่า อย่ากล่าวขึ้นมาลอยๆ เพราะเท่าที่ตามอ่านดูส่วนใหญ่ก็พลาดแบบร้ายแรง แถมไม่รับผิดชอบ ทำลายหลักฐานกันทั้งนั้น ไม่ก็ทำเนียนๆ นิ่งๆเงียบๆไป ในนี้เห็นหลายกรณีแล้วที่เข้ามาเรียกร้องสิทธิของผู้บริโภค และก็ได้รับการแก้ไขปัญหาอยางจริงจัง ได้รับความสนใจจากเจ้าของร้านหรือเจ้าของผลิตภัณฑ์ สิทธิของคุณเอง คุณไม่ใช้ คุณก็ไม่มีสิทธิที่จะมาเรียกร้องให้คนอื่นเขาไม่ใช้ตามคุณนี่ เพราะใช้ชีวิตแบบปล่อยปละละเลยกันแบบนี้ไง เลยมีแต่คนคอนจะมาเอาเปรียบ ปล.อันนี้ตอบเรื่องร้านถูกร้านแพง คนเข้าร้านแพงทั้งๆที่อาหารมันก็เหมือนๆกับร้านถูก เอาตาตุ่มตรองดูยังรู้เลยว่าเขาคาดหวังอะไร อันนี้ไม่น่าถามนะ ร้านแพงย่อมถูกคาดหวังในคุณภาพและบริการมากกว่าร้านถูกอยู่แล้ว เมื่อได้รับของและการบริการที่ด้อยคุณภาพ เขาก็ต้องออกมาเรียกร้องสิทธิของเขา ที่จะต้องได้ให้คุ้มกับที่จ่ายไปอยู่แล้ว ไม่งั้นจะตั้ง สคบ. มาทำมะเขือเผาอะไร จากคุณ : eternity เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 02:32:11 A:58.64.107.204 X: TicketID:180415

ความคิดเห็นที่ 34 หนอนในผักนี่แสดงว่าผักนั้นปลอดสารพิษรึเปล่า ไม่น่าจะเป็นไรนะ จากคุณ : ออมซิลล่า เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 02:51:20

ความคิดเห็นที่ 35 เราเจอเส้นผม ยางมัดถุง และแมงวันบ่อยอ่ะ แต่ส่วนมากจะปล่อยทิ้งไป แค่สั่งอย่างอื่นมากินแทน ถ้ามันไม่ใช่อาหารจานละพันกว่าบาทขึ้นไป เราว่า คำว่า แค่ไหนถึงพอ มันขึ้นอยู่กับว่า สิ่งที่ร้านทำผิดพลาดไปมันร้ายแรงแค่ไหนค่ะ ถ้าแค่เจออะไรเล็กๆน้อยๆ แค่ขอโทษ แบบ ไม่เสแสร้ง ก็คงจบ แต่ถ้ารุนแรง เช่น เจอพลาสเตอร์ปิดแผล มีเลือด น้ำเหลืองเกราะกรังอยู่ในจานอาหาร แบบนี้เราคง ไม่จบแค่นั้นค่ะ คุณต้องออกค่ารักษาพยาบาลในการตรวจ และ ค่าชดเชยที่เราต้องทนวิตกกังวล(ถ้าไม่สามารถตรวจเจอในวันรุ่งขึุ้นหลังจาก ทานอาหารเช่น เอดส์ ไวรัสตับอักเสบ) จากคุณ : Mojo-Joey เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 04:51:22

ความคิดเห็นที่ 36 อะไรไม่สำคัญเท่าความจริงใจครับ ไม่ใช่การขอโทษตามหน้าที่ นี่คือข้อเสียใหญ่ของร้านอาหารแบบแฟรนไชส์ เพราะเจ้าของเน้นแต่จ้างคนมาดูแลตามสาขาต่างๆ พนักงานก็แค่ทำหน้าที่เหมือนหุ่นยนต์ ไม่ได้ใช้ใจบริการ ผมเคยทำงานร้านอาหารไทยใน ตปท ร้านที่ผมทำ จะยุ่งมากๆทุกๆวัน แขกรอทานข้าวเต็มร้านทุกวัน มีวันหนึ่ง ร้านยุ่งเหมือนเคย เสริฟ์อาหารกันไม่ทัน ซึ่งตามปกติแล้ว จะแบ่งหน่าที่ชัดเจนว่า wait คนไหนมีหน้าที่ take order ใครอยู่หน้าบาร์ ฯลฯ แต่ถ้าไม่ทันจริงๆ wait ก็จะเข้าไปช่วยเสริฟ์อาหาร รุ่นพี่คนหนึ่ง เป็น wait ที่ทำมานานมากแล้ว ก็เข้าไปช่วยเสรฟ์ตามปกติ โดยถือหม้อต้มข่าไก่ร้อนๆ ที่ยังมีไฟจากแอลกอฮอล์คุกรุ่นอยู่ ด้วยความที่คนแน่นมาก เดินเสริฟ์ก็ลำบาก ไปถึงโต๊ะลูกค้าเกิดพลาด ทำน้ำซุปร้อนๆทั้งหม้อหกใส่ลูกของลูกค้าโต๊ะนั้น ซึ่งอายุเพียงไม่กี่เดือน คนตกใจกันทั้งร้านครับ หันมามองกันหมด เด็กร้องไห้จ้าด้วยความเจ็บปวด wait ตกใจทำอะไรไม่ถูก เจ้าของร้านรีบเข้ามาแก้ไข เอาผ้าชุบน้ำมาลูบ พร้อมกับปฐมพยาบาลเบื้องต้น ระหว่างรอ ambulance มา เมื่อรถ ambulance มา ก็รีบพาส่ง รพ. พร้อมกับขอโทษลูกค้าด้วยความจริงใจ และจะรับผิดชอบกับ คชจ ทุกๆอย่างที่เกิดขึ้นทั้งหมด ส่วน wait คนนั้นได้แต่ขอโทษไปร้องไห้ไปกับความผิดพลาด โชคดีครับ ที่เด็กไม่เป็นอะไรมาก เพราะการแก้ไขปฐมพยาบาลเบื้องต้นที่ถํกต้อง และ ambulance มาเร็ว คชจ ต่างๆครั้งนั้น...หลายพันเหรียญครับ เฉพาะเรียก ambulance มา มันจะมาหมด ทั้ง fire dep บางที Police dep ก็มา เจ้าของร้านยังคงรับผิดชอบตลอด ทั้งไปเยี่ยม ไปช่วยดูแล แสดงความเป็นห่วงด้วยความ "จริงใจ" หลังจากนั้นไม่นาน ลูกค้าโต๊ะนี้ ก็กลับมาที่ร้านอีกครั้ง พร้อมกับอุ้มลูกน้อยมาด้วย เค้าบอกว่า มันเป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นได้ เค้าเห็นความตั้งใจและความจริงใจในการแก้ปัญหา ถึงแม้จะเกิดเรื่องเลวร้าย แน่เค้าก็ประทับใจ และอยากจะกลับมาเป็นลูกค้าที่นี่อีก เจ้าของร้าน บอกกับพนักงานทุกคนว่า "ลูกค้าโต๊ะนี้ กินฟรีตลอดชีวิต" ห้ามเก็บเงินเด็ดขาด แต่ลูกค้า ก็ปฎิเสธ และชำระเงินทุกๆครั้งที่มาทาน โดยคิดยอดรวมที่ทาน แล้ววางเป็นทิปให้พนักงาน ทุกวันนี้ ครอบครัวนี้ ก็ยังคงเป็นลูกค้าที่มาทานที่ร้านเป็นประจำ ความรับผิดชอบของร้านอาหารและพนักงานเสริฟ์ นอกจากต้องมีความจริงใจในการบริการแล้ว ยังต้องมีความเป็นมืออาชีพในการแก้ปัญหาต่างๆ ไม่ใช่เพียงใช้เงินและลมปากที่ไม่จริงใจในการที่จะทำให้ปัญหามันจบๆไปให้พ้นตัว เหมือนอย่างร้านอาหารหลายๆร้าน ที่หมั่นขึ้นกระทู้แนะนำและเป็นที่กล่าวขานในพันทิป ***added แก้ไขเมื่อ 15 ส.ค. 53 09:40:00 จากคุณ : LAPD21 เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 07:38:43

ความคิดเห็นที่ 37 ดีครับ  มีกระทู้นี้มา  ขอตอบด้วยครับ... ถ้าเจอเรื่องไม่ดีในร้านอาหาร ต้องขอโทษขนาดไหนถึงจะพอ??? ตอบ....ขอโทษด้วยความจริงใจ ทั้งน้ำเสียง กริยาท่าทาง และคำพูดครับ.... ผมไม่ทราบว่าคนที่มาบ่นหรือมาต่อว่าคนตั้งกระทู้ตำหนิร้านอาหาร ได้เคยสังเกตกันบ้างไหมครับว่า  ปัญหาที่เกิด ส่วนใหญ่มาจากอะไร ????? ปัญหาคือ ทางร้านไม่ได้ให้ความสำคัญเกี่ยวกับความรู้สึกของลูกค้าครับ ส่วนใหญ่เมื่อเกิดปัญหา มักมองวิธีการแก้ปัญหาแบบง่ายๆ จนหลายๆครั้ง ปัญหาเล็กน้อยก้กลายเป็นปัญหาใหญ่ได้ แถมบางครั้งก็ไม่มีคำขอโทษหรือการแสดงความเสียใจออกมาจากผู้รับผิดชอบเลย การแก้ปัญหา สิ่งที่สำคัญคือ แก้ไขความรู้สึกที่เสียไปของลูกค้าให้กลับโดยเร็วที่สุด โดยนิสัยของคนไทยส่วนใหญ่  ย่อมมีความเกรงใจและรู้จักให้อภัยเป็นทุูนเดินอยุ่แล้ว  เมื่อได้รับการดูแลเอาใจใส่และแสดงความจริงใจออกมา ย่อมก่อให้เกิดความรู้สึกที่ดีชดเชยกับความรู้สึกที่เสียไปอย่างแน่นอน ดังจะเห็นได้จากตัวอย่างหลายๆตัวอย่างในกระทู้และความเห้นต่างที่ได้บอกกล่าวมาแล้ว ส่วนวิธีการแก้ไขนั้น  ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และปฏิภาณไหวพริบของเจ้าของร้านครับ  ว่าควรจะทำอย่างไร  รวมทั้งขึ้นอยุ่กับเหตุผลและอารมณ์ของลูกค้าด้วยส่วนหนึ่ง การขอโทษแบบขอไปที หรือไม่มีความจริงใจ ไม่สมเหตุสมผล นั่นคือสาเหตุที่ทำให้เกิดกระทู้ตำหนิในห้องพันทิบและเวบต่างๆครับ   ผมกล้าบอกได้เลย ว่าถ้าทางร้านแสดงความขอโทษด้วยความจริงใจตามที่ได้อธิบายไปเบื้องต้นแล้ว  เหตุการณ์มากกว่า 80% ในเวบจะไม่กลายมาเป็นกระทู้ให้เรามานั่งถกเถียงกันหรอกครับ..(อีก 20% เผื่อกรณีเจอลูกค้าไร้มารยาท ไร้เหตุผล และเกรียนครับ ) ดังนั้น ขอสรุปอีกครั้งครับว่า  การแสดงความเสียใจและการขอโทษด้วยความจริงใจ  เป้นสิ่งที่ดีที่สุดที่ทางร้านควรจะกระทำต่อลูกค้า แม้จะเป็นความบกพร่องที่เกิดจากทางร้านหรือไม่ก็ตาม  หากอยู่การดูแลของทางร้านก็สมควรที่จะทำครับ จากคุณ : _snowy เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 08:19:35

ความคิดเห็นที่ 38 เห็นด้วยกับครับ กับความคิดที่ 37 ผมว่าถ้าร้านจริงใจที่จะขอโทษจบง่ายครับ และที่ถามว่าร้านใหญ่ ๆ มีสาขาเยอะ ๆ นี่ต้องรับผิดชอบมากกว่าร้านเล็ก ๆ หรือแผงลอยข้างถนนหรือเปล่า เป็นผมถูกต้องครับ ผมจ่ายแพงกว่าเพื่อสิ่งที่ดีกว่า ถ้าผมไปกินข้างทางผมก็ต้องรับสภาพในส่วนนึงแล้วครับ เพราะตามร้านใหญ่มักมีการโฆษณาว่าสะอาด สด ใหม่ ลูกค้าคาดหวังว่าจะได้สิ่งเหล่านั้นกลับไม่ได้ก็ต้องไม่พอใจเป็นธรรมดาอยู่แล้วครับ อยู่ที่เขาคาดหวังแค่ไหนความต้องการที่จะชดเชยก็ต้องมากไปด้วยครับ และที่เพื่อน จขกท.พูดนะ ผมว่าดีแล้วล่ะครับที่ลาออก สมควรแล้วครับเพราะทำงานบริการยังไงก็ต้องเจอทุกวันครับ เพราะถ้าไม่มีใจบริการไปทำอย่างอื่นเถอะครับ !!!!เน้นนะครับไม่มีใครอยากไปทานอาหารแล้วไม่มีความสุขหรอกครับ จากคุณ : nonba เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 09:19:48

ความคิดเห็นที่ 39 อยากทราบว่า คห33 ให้จบเรื่องประเภทนี้ยังไงครับ อย่าบอกนะครับว่าก็ระวังอย่าให้เกิด ในเมื่อ สี่ท้าวยังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง เรื่องมันเกิดไปแล้ว ทุกกรณีที่ท่านยกมา จะให้จบยังไงครับ อยากทราบจริงๆ ยกมาซักรณีก็ได้ จากคุณ : oh wow เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 09:57:26

ความคิดเห็นที่ 40 คนปกตินะครับ เวลามีใครมาขอโทษ ถ้าเค้าสามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ มันก็จบแค่นั้นแหละครับ แต่ส่วนใหญ่ ที่คุณ จขกท. เห็นว่า พื้นที่เว็ปบอร์ดส่วนใหญ่จะมีการ ตำหนิอย่างแรงๆ ไม่จบไม่สิ้น ไม่ว่าทางร้านจะเสนอบริการเพิ่มเติม พร้อมกับคำขอโทษแล้วก็ยังไม่พอจริงๆมีอยู่ไม่กี่อย่างหรอกครับ ผมขอแยกเป็นประเด็นให้ นะครับ 1. ร้านงี่เง่าเอง ไม่ว่าจะพนักงาน หรือเจ้าของร้าน ลูกค้าแรงมา ตูแรงกลับใส่เลย คราวนี้หละยาว "เดี๋ยวแม่เอามาลง Pantip ได้ 100 ความเห็นแน่นอน" 2. ลูกค้าคุมอารมณ์ไม่อยู่ "ตูโกรธธธธธธธธธธธ  อะไรก็หยุดไม่อยู่ ช้าๆ ยังช้าอยู่นั้น สั้งแล้ว ยังไม่มาอีก งั้นเช็คบิล อ่าวๆ เช็คบิลยังช้า แม่ด่า ให้แง่งง เลย เชอะต่อให้เอาซูชิทองคำมาให้ตูก็ไม่เอา ตูจากเอาหุ้น50% ของร้าน" 5555 สรุปเหตุการณ์นี้ ใช้เวลาในร้านทั้งสิ้น 10นาที 3. ลูกค้าประเภท อาร์ทตัวพ่อตัวแม่ ซึ่งจะสามารถหาได้จาก กระทู้ มาม่า โดยทั่วไปใน Pantip แห่งนี้ 4. ร้านชั้นเลว เอาอย่างเดียว ลูกค้าหน้าไหนไม่สน ฟันแหลก จะปิดกิจการละขอโกยก่อน 5. เป็นความหมั่นไส้ ความแค้นส่วนตัว ของลูกค้า หรือ คนภายในร้าน แบ่งเป็นเคสๆ (ขำๆ)    5.1 สามีอาจไปมอง เด็กเสริฟอย่างออกหน้าออกตา กลับบ้านมาสาปมัน แง่งง เลย เอาที่ไหนดี พิมพ์ๆ Pantip ห้องก้นครับละกันคนดูเยอะดี 5555    5.2 ร้านตรงข้ามบ้าน "ว๊าวมันขายดี วุ๊ย อยากได้ๆ ตอนนั้นเซ็งไว้ก็ดี เอาไงดีๆ เผามันใน Pantip นี่แหละ ให้เจ๊ง เดียวจะไปเซ็งต่อ"    5.3 พนักงานในร้านหมายเลข 1 "เนี๊ยๆ โต๊ะนั้นหนะ เรียกอยู่นั้น เมียก็มา สามีก็มอง แต่ไฟหน้าฉัน เซ็งหว่ะแก"          พนักงานในร้านหมายเลข 2 "แกก็ทำๆไปเหอะ งานเรางานบริการ"          พนักงานในร้านหมายเลข 1 แต่ฉันไม่ชอบ เมียมันเลย วีนอยู่นั้นแหละ เอาเนื้อไปให้ บอกไม่เอาไม่กินสัตว์ใหญ่ เอาหมูไปให้บอกเอามาทำไมเดี๋ยวอ้วน เอาไก่ไปให้ บอกไม่ชอบจืดอย่างกะกระดาษ          พนักงานในร้านหมายเลข 2 เหรอแก เรื่องมากจริงๆ งั้นเดี๋ยวคืนนี้ รีบไปเมาท์ใน Pantip เลยนะแก เรียกร้องความเห็นใจ ให้กะคนในอาชีพเราหน่อย 6. สร้างเรื่อง อยู่ว่างๆ ไม่มีไรทำ แฟนพึ่งเลิก เมียทิ้ง เพื่อนไม่คบ วุ๊ว ทำไรดีๆ   ปิ้ง! มาเกรียนใน Pantip ดีกว่าาาา   เอาอะไรดีๆ เอาเรื่องเกี่ยวกับอาหาร ดีกว่า ห้องก้นครัว เอะหรือว่า ชานเรือนดี ผู้หญิงเยอะโน้มน้าวง่าย คริๆ (เชื่อมั๊ยว่าเดี๋ยวนี้มีอย่างงี้เยอะมากๆๆๆๆๆๆ ไม่รู้ว่างจิตอะไรก็มากมาย) ในความเป็นจริงเว็บบอร์ด มันก็เป็นเหมือนดาบสองคม นั้นแหละ ครับ เราเห็นการถ่ายทอดมาจากด้านเดียว ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ เกิดอารมณ์คล้อยตามได้ง่าย บ้างครั้งก็จริง บ้างครั้งก็โมเม บ้างครั้งก็โอเวอร์  บ้างเรื่องถึงกับต้องตั้งสติก่อนอ่าน คนเราควรจะรักษาสิทธิของตัวเอง เป็นเรื่องที่ถูกต้องครับ แต่อย่า รักษาจนไปละเมิดสิทธิของคนอื่นละกันครับ สังคมมันแย่ลงทุกวัน อย่าให้มันมาแย่เพราะอารมณ์ร้อนๆ เลยครับ มีอะไรถ้อยทีถ้อยอาศัยคุยกันด้วยเหตุผลครับ แก้ไขเมื่อ 15 ส.ค. 53 14:35:37 แก้ไขเมื่อ 15 ส.ค. 53 10:03:19 จากคุณ : Jackmoder เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 09:59:25

ความคิดเห็นที่ 41   เคยไปทานร้านอาหารร้านนึง ที่ต่างจังหวัดค่ะ เป็นร้านที่มีชื่อเสียงในจังหวัดมากเมื่อสมัยก่อน แต่ปัจจุบันไม่ค่อยมีคน ไปกินข้าวครั้งแรก สั่งข้าวผัดอเมริกัน ได้แมลงวันแถมมาในข้าวผัด ก็บอกเด็กที่ร้านไปเบาๆ ไม่ให้โต๊ะอื่นได้ยิน เค้าก็ขอโทษแล้วเดินไปบอกเจ้าของร้านที่เคาร์เตอร์เค้าก็คิดเงินตามปกติ ไม่มีลดหรือทำอาหารให้ใหม่ สองวันต่อมากลับไปกินอีกรอบ สั่งข้าวอบหม้อดิน ครั้งนี้นอกจากจะแถมแมลงวันมาให้แล้วยังแถมฝอยขัดหม้อให้อีก ดิชั้นยังไม่แตะซักคำด้วย แค่เขี่ยเฉยๆ เราบอกเด็กที่ร้านอีกรอบ เด็กเดินมาก็หัวเราะ  แล้วบอก อีกแล้วหรอพี่ ขอโทษด้วยนะคะ (เสียงแบบหัวเราะตลกๆอ่ะ) แล้วก็เดินไปบอกเจ้าของร้าน เจ้าของร้านก็มองเรา แล้วทำหน้าบูดๆใส่เรา แล้วหันไปคุยกะแฟนตัวเองและเด็กเสริฟ ว่า ไม่ใช่อยากกินฟรีแล้วเอามาใส่เองหรอ ดิชั้นได้ยินแล้วปรี๊ดดดดดดมากกกกกกค่ะ เลยบอกคนในโต๊ะว่าเลิก ไม่ต้องกินมันแล้ว แล้วเดินไปที่เคาร์เตอร์ที่เจ้าของร้านอยู่ แล้วก็ด่าเจ้าของร้านว่า ปากอย่างงี้คงได้ขายหรอกนะคะ ของน่ะ  มิน่าล่ะคนมันถึงได้หนีไปหมด มาทานอาหารน่ะ มีเงินจ่ายนะคะ  ไม่ได้มาขอกิน ในเมื่อสินค้าตัวเองมีปัญหาแทนที่จะปรับปรุง แต่ดันมาว่าลูกค้าแบบนี้ คงเจริญล่ะ แล้วก็วางเงินไว้ แล้วเดินออกมา อย่าว่าเราเป็นลูกค้าเรื่องมากเลยนะคะ ถ้าขอโทษแล้วมันดูจริงใจ ไม่ใช่หัวเราะเยาะ รึพูดจิกเราแบบนี้ เราทนได้ ไม่ว่าอะไรค่ะ แต่กรณีนี้เนี่ย มันน่าโมโหจริงๆนะ T_T จากคุณ : GURUสายแผ่พุง เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 11:09:54

ความคิดเห็นที่ 42 ในฐานะ พนักงานร้านไอติมร้านนึง(เป็นนักศึกษาแล้วเอาวันหยุดมาทำงานคับ) ของแบบนี้ต่อให้ประเคนไงก็ตาม ถ้าลุกค้าไม่พอใจ ก็ต้องยิ้มรับอย่างเดียว คติ"ลูกค้าคือพระเจ้า"ใช้ได้เสมอครับ ยังเคยมีเคส พนง รับออเดอร์ลืมยิ้มนิดเดียว ลุกค้าคอมเพลนกับ ผจก เลย เรียกได้ว่าเซ็งกันเป็นแถบ แล้วบางทีน้ำแข็งหมดลูกค้าก็ยังดันทุรังจะเอาไอติมกลับบ้าน พอกลับไปแล้วไอติมละลายก็มาบ่น ไอ้เราก็ อะไรแว๊๊๊๊๊๊๊๊๊๊ ตราบใดที่ยังทำงานบริการอยู่ ยิ้มสู้ดีที่สุดครับ ถ้าทนไม่ไหวจริงๆก็คงต้องออก แก้ไขเมื่อ 15 ส.ค. 53 11:33:05 จากคุณ : seruel01 เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 11:21:58

ความคิดเห็นที่ 43 เคยไปกินร้านราเมงกับเพื่อนๆ 4-5 คนเจอฝอยขัดหม้อ 1 กระจุกในจานโซบะ ก็กินกันต่อไปนะไม่ถึงกับวีนใส่พนง.แค่บอกเค้าตอนคิดตังค์แต่เค้าก็ไม่คิดตังค์จานนั้น เกิดมาก็เพิ่งเจอฝอยขัดหม้อในจานอาหารนี่แหละ นานๆกินทีคงไม่ถึงขั้นเป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างร้ายแรงหรอกมั้ง ภายใน 24ชม. ตับก็กำจัดพิษออกหมดแล้ว แต่ถ้าเจอแบบนี้ทุกวันๆถึงจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ อย่างน้อยเราควรเห็นใจพนง.ซึ่งเค้าก็เป็นแค่ลูกจ้างคำขอโทษ และข้อเสนอที่เค้าให้มาเพื่อแลกกับความผิดพลาดก็น่าจะเพียงพอแล้วนะ อย่าลืมว่าคุณอยู่ประเทศไทย คนไทยมีน้ำใจเอื้ออาทรต่อกัน ถ้าคิดกันแบบนี้ประเทศไทยคงน่าอยู่มากขึ้น ขอบคุณจขกท.ที่ตั้งกระทู้นี้ แก้ไขเมื่อ 15 ส.ค. 53 12:00:04 จากคุณ : =Le 29 juin= เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 11:58:54

ความคิดเห็นที่ 44 เหมือนมาม่ายังไม่จบจากกระทู้นั้นยังไงก็ไม่รู้ จากคุณ : Bluedonut เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 11:59:03

ความคิดเห็นที่ 45 ลูกค้าคือพระเจ้านะใช่ แต่พระเจ้าก็ต้องรู้ว่าอะไรควรไม่ควร บางครั้งแค่คำขอโทษจากใจ คำเดียวสั้น ๆ ก็เกินพอแล้ว จากคุณ : LarukuLarc เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 12:04:31

ความคิดเห็นที่ 46 เกลียดคำว่า "ลูกค้า คือ พระเจ้า" เพราะคนไทยรับเอามาแล้วก็มาใช้ด้วยความสำนึกผิด ๆ มีปัญหากับร้านอาหาร ... ไม่จัดการให้จบ ณ ที่เกิดเหตุ ชอบเก็บมาตั้งกระทู้ด่า โดยไม่ให้เขามีโอกาสแก้ไข ถ้าบอกหรือต่อว่า ณ ที่เกิดเหตุแล้วทางผู้ให้บริการงี่เง่า จะมาตั้งกระทู้ด่าจะไม่ว่าอะไรเล้ยยยยยยยยยย บอกตรงๆ เห็นกระทู้แนวอยู่ีที่ร้านไม่โวย มาโวยในพันทิปแล้ว โคตรรำคาญ เพราะกล้าหาญผิดที่ผิดทางจริงๆ   ส่วนทางร้านจะต้องชดใช้ให้แค่ไหนถึงจะพอใจ โดยส่วนตัวไ่ม่ค่อยเรื่องมาก สะกิด ๆ พนักงานไปเรียก ผจก. มา รับทราบผลงาน จะได้ QC ให้เข้มขึ้นหน่อย รายงานทางโรงงานผลิตให้ด้วย จานนั้นกินฟรี ก็โอ ทำให้กินใหม่บางทีก็กินไม่ลงน๊าาา เปลี่ยนเป็นทำอย่างอื่นให้กินได้ม๊ะ เจอมาหมด... ทั้งเส้นผมในลูกชิ้น อันนี้้ร้าน MK  สะกิดบอกพนักงานตาม ผจก. มาเงียบๆ  แล้วชูให้ดู ก็ขอโทษขอโพยกันไป ลดราคาให้ ถามว่าเป็น Member ยัง มีับัตรยังแล้วก็ทำบัตรให้เลย เจอ เศษแก้วชิ้นยักษ์ ในถาดผัดไทย กับบุปเฟ่ต์ รร.5 ดาว เหมาห้องจัดเลี้ยงประจำปี ก็สะกิดบอกไป พร้อมสงสัยมันหลงมาได้ไงฟร่ะ เจอ แมลงวัน ในจานผัดซีอิ้ว เรียกเฮียเจ้าของร้านมาดู แกบอกว่ามันบินตกไปเอง ร้านไม่เกี่ยว แบบนี้ก็ลาขาดนะเฮีย เพราะปรกติร้านเฮียก็ไม่ค่อยสะอาดอยู่แล้ว เจอแมลงวันในแก้วชาเย็น ... อันนี้เป็นรถซาเล้ง เลยไม่รู้จะตามไปบอกยังไง ขายแล้วก็เร่ขายไปไหนไม่รู้แล้ว เคยติแพนเค้ก ลิตเติ้ลโฮมสาขานึง บอกว่าทำไมไม่เหมือนที่เคยกิน มันรับไม่ได้อย่างแรงเลยต้องบอก ทางเขาก็ขอโทษจะทำให้ใหม่ แต่บอกไปว่า ไม่ไหวจะกิน ไม่เป็นไร ถามเพราะสงสัยว่าเปลี่ยนสูตรมั้ย เจอเอแคลร์บูด Coffee bean by dao ทั้ง ๆ ที่ไปซื้อตั้งแต่เปิดร้าน โทรกลับไปโวย เพราะซื้อไป 10 กล่อง ทั้งหมด 1200 บาท ตอนแรกโยกโย้อ้างว่าของผลิตใหม่ทุกวัน เลยถามว่า ชั้นเพิ่งไปซื้อตอน 10 โมง ขึ้นรถไปถึงบ้านเพื่อนที่ชลฯ 12.00 น้ำแข็งแห้งก็ให้มา ทำไมหลานแกะกินแล้วเปรี้ยว ไม่มีลูกค้างี่เง่าจะโทรมาบอกหลอกกินฟรีเพราะเรื่องแค่นี้ แ่ต่ของบางส่วนจะเอาไปให้ผู้ใหญ่ ถ้าหลานไม่แกะกินก่อน หน้าแหกมั้ย เถียงกันนานมากกว่า กว่าร้านจะยอมรับผิด ทางนี้ก็ให้หลานไล่แกะชิมทุกกล่อง เปรี้ยวหมดทุกกล่อง   สุดท้ายร้านบอกเก็บบิลไว้ แล้วไปหาคนชื่อ..... ไม่บอกว่าจะชดใช้อะไรให้กับของบูด ๆ เราก็เลยบอกว่า ชั้นไม่ว่างไปในทันที จะไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แต่ไปแน่ พอว่างแวะไป เข้าไปส่งบิลแจ้งชื่อ ทางเขาก็ถามว่า จะรับเอแคลร์เลยมั้ย ฮาาาาาาาา เลยขอเปลี่ยนเ็ป็นเค้กแทน แถมต้องจ่ายเงินเพิ่มอีก ฮาาาาา ทุกวันนี้ยังเป็นลูกค้าอยู่ .... แต่รมณ์เสียให้เถียงเป็นวักเป็นเวรกว่าจะยอมรับผิด ร้านไม่อยากผิดพลาด ไม่มีใครอยากผิดพลาด แต่ถ้าพลาดแล้วยอมรับผิด กับติเพื่อก่อ เอาไปพัฒนาปรับปรุงกันจริง ๆ จัง ๆ ก็ชื่นจายยยยยยยยยย คนเสียเงินแล้วล่ะ ปล. แก้คำผิด แก้ไขเมื่อ 15 ส.ค. 53 12:18:23 จากคุณ : DeE dEe เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 12:10:19

ความคิดเห็นที่ 47 ถ้าจะเอามาตรฐานของต่างประเทศที่เจริญแล้ว มาจับ ผมว่าก็ต้องให้ความยุติธรรมกับ ราคาอาหารด้วยอ่ะนะ   ก๋วยเตี๋ยว 30-40 บาทจะเอามาตรฐานเดียวกับ ตปท. ที่เจริญแล้วก็ดูจะเกินไปนิด จากคุณ : คุณปลาทอง เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 12:46:21

ความคิดเห็นที่ 48 เคยเจอแนวนี้เหมือนกันค่ะ ประมาณว่าซื้อของห้างที่ต้องชั่งน้ำหนักก่อนแล้วค่อยมาติดราคา พนักงานประจำซุ้มคิดราคาผิด เราเองที่เดินเกือบจะถึงแคชเชียร์ก็ต้องเดินย้อนกลับไปที่ซุ้ม พอเจอพนักงานก็บอกว่าราคาที่ติดบนถุงที่เราซื้อพอคำนวนดูแล้วต่อขีดมันแพงกว่าราคาที่ติดที่ป้ายนะ พนักงานคนนั้นก็ทำท่าทางเซ็งๆ แล้วคว้าถุงจากมือเราไป ไม่พูดอะไรสักคำ ท่าทางแบบนั้นมันทำให้เราโมโหมากค่ะ ซักพักมีพนักงานอีกคนเดินกลับมาพร้อมถุงใบนั้นแล้วยกมือไหว้ขอโทษเราเลย เรียกว่าแสดงความขอโทษอย่างจริงใจอ่ะ ซึ่งมันต่างจากพนักงานคนแรกมากๆ เพราะงั้นเราว่าบางทีการที่ลูกค้าแสดงความไม่พอใจกับความผิดพลาดของร้านอาหาร อาจเป็นเพราะว่าพนักงานไม่ได้แสดงความสำนึกผิดอย่างจริงใจก็ได้นะ ลองเจอเหตุการณ์อย่างเราต่อให้มันร้ายแรงกว่าแค่เรื่องราคา แต่ถ้าพนักงานพูดคำว่าขอโทษด้วยท่าทางสำนึกผิดขนาดนั้น สถานการณ์อาจจะไม่แย่ขนาดนี้ก็ได้ แก้ไขเมื่อ 15 ส.ค. 53 13:03:21 จากคุณ : สวยจนพ่อเป็นกังวล เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 13:02:40

ความคิดเห็นที่ 49 ความคิดเห็นส่วนตัวนะ เราว่าคนบางคน แยกไม่ออกระหว่าง "ความตรงไปตรงมา" กับ "ความก้าวร้าว" "รักษาสิทธิ์ตัวเอง" กับ "ก้าวล้ำสิทธิ์คนอื่น" ส่วนที่ถามว่าขอโทษเท่าไหร่ถึงจะพอ เราว่าแค่ขอโทษด้วยความจริงใจและพร้อมที่จะรับผิดชอบกับความผิดพลาด ก็น่าจะพอ จากคุณ : Aphrodite of Milos เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 13:22:11

ความคิดเห็นที่ 50 สำหรับผม มันสำคัญที่ว่าทางร้านจะขอโทษอย่างไร บางร้านก็ไม่ค่อยฉลาด หรือไม่มีการอบรมพนักงาน ประมาณว่าเจอแมลงสาบในจาน พนักงานเดินมาหยิบออกแล้วทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จากนั้นบอกว่าเชิญทานต่อได้เลย ลูกค้าเสียเงินให้ก็ย่อมคาดหวังบริการที่ดี ถ้าเป็นร้านข้าวแกงข้างถนนมันพอทำใจได้ 35-40.- บาท จะเอาอะไรมาก ราคามันก็ตามคุณภาพ แต่ถ้าเป็นร้านในห้าง หรือร้านที่ขายราคาเฉลี่ยต่อหัวหนึ่งร้อยขึ้นมันก็ย่อมมีความคาดหวังสูงขึ้นเป็นเรื่องธรรมดา นอกเสียจากว่าทางร้านจะขายราคาเท่าข้าวแกงข้างถนน สำหรับผมต้องการแค่การขอโทษที่จริงใจจากพนักงาน และผู้จัดการ หากเป็นกรณีร้ายแรง เช่น เจอเศษแก้วในเครื่องดื่ม แบบนี้ผมแนะนำให้ทางร้านส่งจดหมายขอโทษลูกค้า 2 ฉบับ ฉบับแรกเป็นสำเร็จรูปก็ได้ แต่อีกฉบับให้ผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบสูงสุด เขียนด้วยลายมือมา เพราะมันดูจริงใจกว่า แน่นอนควรมี 2 ฉบับ มื้อนั้นแน่นอนว่าต้องไม่คิดเงิน ส่วนบัตรของขวัญจะให้หรือไม่แล้วแต่ทางร้านจะคิดเองว่าควรจะให้หรือไม่ เพราะกรณีแบบนี้ฟ้องร้องกันมีแต่แพ้ทั้งคู่ ทางที่ดี วิน-วิน ดีที่สุด ไม่มีใครอยากมีเรื่องกันหรอก เพราะมันเสียเวลาทั้ง 2 ฝ่าย แต่ที่สำคัญยิ่งกว่าคือ เสียความรู้สึก บางร้านทั้งที่กินกันมาเป็นสิบปี แต่เพราะพนักงานไม่รับผิดชอบ ไม่ขอโทษทั้งที่ควรขอโทษ ก็ทำให้เสียลูกค้าประจำไป ซึ่งกรณีแบบนี้ จัดได้ว่า แพ้ทั้งคู่ ลูกค้าก็เสียร้านประจำไป ร้านก็เสียลูกค้าประจำไป จากคุณ : toor36 เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 13:22:44

ความคิดเห็นที่ 51 เคยไปกินปลาหม้อไฟ ที่พัทยา พ่อก้นั่งกินไป ไม่นานครับพี่น้อง แมงสาปครับ ตัวเป็นๆๆ เลย พุ่งพรุดออกมาจากไอ้ตรงที่มันจุดไฟอ่ะ ไม่ใช่แค่ตัวเดียว ประมาณ 4-5 ตัวเลย ตัวน้อยๆ 4-5 ตัว วิ่งออกมากระจายเต็มโต๊ะ แม่ก็สะดุ้ง เราก้สะดุ้ง แต่ที่สะดุ้งยิ่งกว่าคือพ่อ 555+ เต็มๆ ชามเลย ปลาหม้อนั้น ด้วยความตกใจพ่อเลยเผลอ ร้องออกมา มองกันทั้งร้านเลย (ไม่ได้ตั้งใจเด้อ) แล้วเจ้าของร้านเขาก็มา ขอโทษแล้วเปลี่ยนปลาให้ใหม่ พร้อมทั้งคิดเงิน แค่ 50% ของรายการอาหารทั้งหมด - -" ซึ่งพ่อเราก็อือๆๆ ไหนตรูก็กินแมงสาปปิ้งไปแล้วได้ใหม่ก้ช่างเถอะ เลยกินต่อ 55+ จำได้ว่าวันนั้นพ่อร้องดังมากกกกกกกกกกกกกกกกกกก จากคุณ : shinkyo เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 13:29:29

ความคิดเห็นที่ 52 สำหรับเรา  แค่คำขอโทษด้วยความจริงใจ ในความผิดพลาดที่ไม่ได้เจตนา ไม่ใช่เกิดจากความ สะเพร่า หรือไม่ใส่ใจ  แค่นั้นก็พอแล้วค่ะ จากคุณ : @ โกลเด้นคุง @ เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 13:40:34

ความคิดเห็นที่ 53 เห็นใจเรื่องหนวดตำลึงมากค่ะ เคยเจอเหตุการณ์ใกล้เคียงกัน  ลูกค้าคอมเพลนเรื่องมีผมในอาหาร ก็ทำออกมาให้ใหม่  เอาของเก่ากลับมา ตอนแรกก็แปลกใจที่เส้นผมนั้นสีทอง ทั้งที่ในครัวผมดำกันทุกคน  ก็อดคิดไม่ได้ว่า มันมาจากไหน ไปๆ มาๆ ถึงรู้ว่า มันเป็น เส้นของข้าวโพดน่ะค่ะ   (เรียกไม่ถูก  แต่พี่ในครัวเขาเรียกเหมือน ทะลึ่งๆ ก็ขำๆ กันน่ะค่ะ) จากคุณ : โดดเดี่ยวผู้น่ารัก เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 14:01:44

ความคิดเห็นที่ 54 นั่นสิคะ แต่เราว่า บางทีราคากับเกรดของร้านมีผลต่อความคาดหวังของผู้บริโภคนะคะ  ตัวอย่างเช่น นางสาว A ไปกิน MK เจอมด ในซุป อาจโวยวาย เรียกผู้จัดการ  ต่อมาวันรุ่งขึ้น ไปทานขนมจีนข้างทาง เจอมดในน้ำยา อาจแค่เขี่ย ๆ ออก แล้วหม่ำต่อไป  (เพราะหันไปเจอหน้าคุณแม่ค้า กัวโดนเหวี่ยง) จากคุณ : มาฯ (มาทำไรที่นี่) เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 14:03:34

ความคิดเห็นที่ 55 ^ ^ ^ คล้ายกับ 48 เราเคยซื้อของจากแมคโคร ซื้อโครงไก่แต่ติดราคาเนื้ออก  เลยถ่ายรูปเอาไว้ (เห็นชัดๆ เลยว่าข้างในเป็นซี่โครงแต่ผ้ายราคาเป็นอกไก่) แต่ไม่ได้ทำอะไรต่อ หนึ่งปีผ่านไปจะ format คอมพิวเตอร์ บังเอิญไปเจอรูปนี้ เลยส่งไปให้แมคโคร (สนง.ใหญ่) หลังจากนั้นผจก.สาขาก็โทรมา ขอโทษขอโพยใหญ่ ขอให้เราไปรับเงินคืน แต่เราก็ไม่ได้ไป ถ้าเราต้องการเงินคืนเราคงทำตั้งแต่ปีที่แล้วแล้วล่ะ เมื่อเห็นว่าผจก.ดูรับผิดชอบดี เราก็เลยเล่าข้อบกพร่องเท่าที่เราเห็นให้เค้าฟัง เพื่อให้เค้านำไปปรับปรุง  ถ้าคนที่โทรมาน้ำเสียงไม่ดี เราก็จะไม่พูดให้เสียเวลาหรอกนะ สำหรับเรา แค่นี้ก็พอนะ   เราว่า ที่สุดของการแก้ปัญหาของผู้ให้บริการคือ 1. "คำขอโทษอย่างจริงใจ"   2. "น้อมรับปัญหา" เพื่อแก้ไขปรับปรุงต่อไป 3. อาจจะชดเชยบางส่วนให้ลูกค้า มันอาจซื้อความรู้สึกคืนมาไม่ได้ แต่เราได้แสดงความรับผิดชอบในส่วนของเรา ทำ 3 ข้อนี้อย่างจริงใจเราว่ามันก็เป็นที่สุดในการแก้ปัญหาแล้ว ในมุมของลูกค้า อาหารมื้อนี้ก็ไม่ใช่มื้อเดียวในชีวิต แล้วก็ ใช่ว่าตัวเราเองจะไม่เคยทำผิดพลาด  ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน โลกจะได้เป็นโลกน่าอยู่ต่อไป ^ ^ จากคุณ : FloraLilly เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 14:05:11

ความคิดเห็นที่ 56 ของเราเคยตั้งกระทู้ต่อว่า M เบอร์เกอร์ ที่ว่าเด็กมันใช้มือเปล่าๆ หยิบพายที่ทอดแล้ว มาใส่ซองพาย แต่ก่อนหน้ามันจะเช็ดเคาเตอร์คิดตังมานะ มือเพิ่งถือผ้าขี้ริ้วมาหมาดๆ แต่ไม่ได้ล้างมือ แล้วไปหยิบ (ตอนตี 4 ไปส่งแม่ที่สนามบินเพิ่งกลับ) เราถามมันว่า ใช้มือเปล่าหยิบเหรอ เด็กตอบว่าครับ เราบอกต่อว่า มันสกปรกนะ เด็กก็ตอบว่าครับอีก แค่นั้นเอง ไม่มีคำขอโทษใดๆ เลยโทรไปที่ศูนย์ ไปต่อว่า ผู้จัดการโทรกลับ ยืนยันว่าเด็กไม่ได้ทำ เด็กไม่ยอมรับว่าทำ แต่จะให้เราไปรับพายเป็นการขอโทษ (ตรูไม่อยากกินเฟ่ย) คือเค้าขอโทษ แต่ไม่ยอมรับผิด ไม่คิดจะปรับปรุง <<< กรณีนี้เราควรยอมรับได้เหรอ แต่พอโพสในนี้ กลับมีคนบอกว่า ไปกินโรตีข้างถนน คนทำเพิ่งไปชิ้งฉ่องมาเห็นๆ เค้ายังกินได้เลย แต่ทำไมกับกระทู้ที่โพสต่อว่าร้านข้างถนน ว่ามีลูกค้าใช้มือจิ้มไก่ หรือแม่ค้าใช้มือเปล่าหยิบอาหาร ถึงมีแต่คนเข้าข้างก็ไม่รู้ ทีกับร้าน M ที่เราเล่าถึง เค้าโฆษณาว่าเค้ามีมาตราฐานงั้นงี้ สะอาดงั้นงี้ กลายเป็นเราโดนคนโพสต่อว่าแทน กรณีเราตั้งกระทู้ต่อว่า เพราะว่าทางร้านเค้าไม่ยอมรับผิดไง ขอโทษ แต่เค้าไม่ผิดนะ ไรงี้ ส่วนอีกร้านคือ Zen สาขาซีคอน ส่วนนึงพนักงานผิดจริง แต่อีกส่วนเราเข้าใจผิดไปเอง(เพราะโกรธต่อเนื่องจากที่พนักงานทำผิดในตอนแรก) เราเลยโพสต่อว่าเหมารวม แต่พอเคลียกับทางร้านเสร็จ ส่วนไหนที่เราเป็นฝ่ายที่เข้าใจผิด เราก็มาแก้ไขข้อความ เล่าถึงรายละเอียดแต่เรายอมรับว่า Zen แก้ปัญหาได้ดีมาก ต้องขอชมเชย ส่วนร้านที่ไม่ได้โพสต่อว่าเพราะผู้จัดการน่ารักคือ พิซซ่าฮัท สาขาสยาม เราไปกินกับเพื่อนแล้วเจอเส้นผม ในชิ้นสุดท้ายที่กิน เราก็เขี่ยๆ แต่ผู้จัดการมาเห็นพอดี เราไม่ได้เอ่ยปากเลยนะ เค้ารีบขอโทษ แล้วจะเปลี่ยนใหม่ให้ (เหลือชิ้นเดียวเนี่ยนะ) เราก็บอกไม่เป็นไร แต่ก็ไม่ได้กินนะ พอดีอิ่มน่ะ พอไปจ่ายตังเค้าก็ลดให้ น่ารักดี โดยส่วนตัวแล้วเคยทำงานบริการ ต้องบอกว่าลูกค้าเป็นพวกไฮโซทั้งนั้น แบบไฮโซจริงๆ พวกคุณหญิงคุณนาย เราต้องน้อมรับความผิดทุกประการ แม้ว่าจริงๆลูกค้าจะเป็นฝ่ายผิดก็ตาม (ที่ๆที่เราคยทำงาน ลูกค้าคือพระเจ้าจริงๆ) เราเข้าใจความรู้สึกของคนที่เป็นฝ่ายบริการนะ รู้ซึ้งเลยด้วย พอไปรับบริการก็ไม่ได้อยากได้ขนาดที่เราเคยทำหรอก แต่อยากให้แค่ได้ตามมาตราฐานที่พึงควรของร้านนั้นๆก็พอแล้ว ร้านข้างฟุตบาตเราก็กิน ร้านอาหารในตลาดเราก็กิน พ่อค้าแม่ค้าทำไม่ดีใส่ เราก็เฉย เราไม่เรื่องมากหรอก แต่ไม่ใช่เข้าร้านที่ต้องเสียเงินเกินหลัก 100 ต่ออาหาร 1 ชนิด แต่บริการเหมือนกับร้านอาหารข้างฟุตบาตงี้ เราก็รับไม่ได้เหมือนกัน บางครั้งที่ยอมจ่ายเงินแพง เพื่อต้องการบริการ แต่พอผิดหวังมันก็นะ.... สรุปคือ ที่ต้องการคือ ความจริงใจในการขอโทษ ต้องกล้ายอมรับใส่สิ่งที่ตัวเองผิด ไม่ใช่ผิดแต่มาทำเป็นปัดสวะให้พ้นตัว แบบนั้นมันไม่ใช่ แก้ไขเมื่อ 15 ส.ค. 53 14:38:01 จากคุณ : Rita_Bunny เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 14:25:21

ความคิดเห็นที่ 57 ความคิดเห็นที่ 53 ครับ ...มาขำด้วย หลายคนอาจจะไม่รู้จัก บางคนอาจจะไม่เคยเห็นด้วยซ้ำไป เพราะเวลาซื้อข้าวโพด ส่วนใหญ่แล้วก็คือข้าวโพดต้ม เขาจะดึงส่วนนั้นออกไปหมดแล้ว แต่เขาเรียกกันอย่างนั้นจริงๆ "หม _ _ข้าวโพด" ไม่ใช่คำทะลึ่ง มีอยู่ในพจนานุกรม จากคุณ : tnu เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 14:27:17

ความคิดเห็นที่ 58 ต้องการคำว่า sincerely ค่ะ จากคุณ : น้ำชาใบเตย เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 14:29:29

ความคิดเห็นที่ 59 บางครั้งคนไทยยังต้องการ "ให้อภัย" อยู่เสมอน่ะครับ ส่วนเจ้าของกิจการยังต้องการ "ความรับผิดชอบ" จากจิตใจที่แท้จริง จากคุณ : Artistex เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 14:55:36

ความคิดเห็นที่ 60   แถวบ้านเรียก " ซางข้าวโพด " นะไม่เคยได้ยินแบบนั้นเลยอ่า นอกจากคุยกันขำ ๆ จากคุณ : hug bunny hop เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 15:25:11

ความคิดเห็นที่ 61 ความจริงใจที่สัมผัสได้...มั้งคะ ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบที่ว่าเลย ที่สุดๆก็แค่เส้มผม คงเพราะไม่ค่อยกินอาหารนอกบ้าน อันนี้เพื่อนเคยเจอ กินอาหารในห้างลักษณะเป็นชาบู เจอลูกแมลงสาบก็แจ้งทางร้าน ร้านก็เปลี่ยนหม้อให้ สักพักมันมาอีกแล้วก็แจ้งอีกเริ่มหงุดหงิด ร้านก็ทำเหมือนเดิมขอโทษแล้วก็เปลี่ยนหม้อ แต่ไม่ให้เปลี่ยนที่นั่ง ไม่นานแมลงสาบจิ๋วก็มาอีกแล้วเขาทนไม่ไหวโทรแจ้งสาขาใหญ่ให้แจ้งสาขาย่อย ทีนี้ก็ตามเรื่องกันให้วุ่นวาย เป็นอันว่ามื้อนั้นกินฟรี เขาโกรธนะบอกว่าจะไม่ไปกินสาขานี้อีก แต่ร้านยี่ห้อนี้สาขาอื่นยังกินเป็นปกติ ^^ .......ตอนนี้งงอยู่ว่าแมลงสาบมันออกมาจากไหน ตรงไหน จากคุณ : felton เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 15:34:14

ความคิดเห็นที่ 62 คำขอโทษอย่างจริงใจและการปรับปรุงค่ะ เราเองเคยเจอแมลงวันในก๋วยเตี๋ยว ร้านที่เราไปทานเป็นร้านชื่อดังในจังหวัดเรา เราเรียกพนักงานที่ร้านมาดูเค้าก็ดูแล้วก็บอกว่า แถวนี้แมลงวันมันเยอะ แค่นั้นค่ะ ไม่มีคำขอโทษใดๆทั้งสิ้น เราก็เลยให้เค้าไปเรียกเจ้าของร้านมาดู เค้าก็มาแล้วถามด้วยน้ำเสียงที่หงุดหงิด "มีอะไรเหรอ" เราก็ชี้ให้เค้าดูซากแมลงวัน เค้าก็ถาม"แล้วจะเอาไง" เราก็ไม่พูดอะไรเพราะตอนนั้นเราเริ่มโมโหแล้ว ก็เลยเดินออกมาโดยที่ไม่พูดอะไรอีก ตั้งแต่นั้นมาเราก็ไม่ไปทานที่ร้านนั้นอีกเลย และเราก็เล่าเรื่องนี้ให้คนรู้จักฟังไปหลายคน เราคิดว่าลูกค้าหลายๆคนคงคิดเหมือนเราคือ คาดหวังการตอบสนองที่ทันทีทันใด และจริงใจค่ะ จากคุณ : addict-to-dear เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 15:34:34

ความคิดเห็นที่ 63 เราเคยทำงานเป็นเด็กเสริฟ ขายของหวาน (เปิดร้านเล่นๆกันเองกะเพื่อน)ในงานมหาลัย เรารู้เลยจากนั้น ค่ะ เพราะเราเจอลูกค้าหลายร้อยรูปแบบ บางคนก็บ่นๆๆ ให้ตายสิ !! เราว่าเค้ารอประมาณ 1 นาที แล้วไม่มีน้องๆไปให้เมนู เค้าก็บ่นๆๆ อาหารมาช้านิดนึงเองนะ จริงๆนะ เค้าก๋บ่นๆๆๆ ว่านานนนมากกกกกกก บ่นว่าอย่างนู้น อย่างนี้ คือเราเข้าใจดีค่ะ บางคนก็ ดี บางคนก็ไม่ดี บางคนเรื่องมากกก มาก บางคนเรื่องมากน้อย หรือบางคนอะไรก็ได้ เราเคยเห็นคนที่เรื่องมากๆๆ มากๆๆๆ แบบว่าชี้นิ้ว สั่งไปที่กะทะเลยของแม่ค้าค่ะ ว่าเฮ้อ เธอ กะทะ ยังไม่สะอาด ล้างใหม่สิ ตอกไข่แบบนี้เลยหรอ หมูเอามือจับหรอ อะไรแบบเนี๊ยๆๆ ไม่สกปรก หรือไง ตายแล้วๆๆ เราสงสารคนขายขึ้นมาจับใจ เราเลยเป็นคนไม่เลือกมาก ตั้งแต่นั้นเลยค่ะ ไม่ไหวๆๆๆ ไม่อายคนอื่น ก็อายตัวเองบ้างเนอะ จากคุณ : หมูหวานน้ำกะทิ เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 15:37:34

ความคิดเห็นที่ 64 ร้านใหญ่ ๆ มีสาขาเยอะ ๆ นี่ต้องรับผิดชอบมากกว่าร้านเล็ก ๆ หรือแผงลอยข้างถนนหรือเปล่า เช่น ถ้าเจอหนอนในผักของร้านสุกี้ชื่อดัง กับเจอแมลงวันในจานขนมจีนข้างทาง จะทำยังไง ^ ^ มันแน่อยู่แล้วครับ ก็ร้านใหญ่คิดราคาแพงขนาดนั้น มันบวกค่าบริการที่ "พิเศษ" เอาไว้แล้ว - "ขอโทษ"  แต่ก็ยังโดนต่อว่า ว่า....แค่นี้เหรอ - "เอาไปเปลี่ยนให้"  ก็ยังโดนว่าได้ว่า...ชั้นไม่ต้องการ กินไม่ลงแล้ว - "ลดราคาให้"  ...โอ๊ย  แค่นี้ชั้นมีปัญญาจ่าย แล้วลดแค่นี้ จะลดทำไม - "ไม่เก็บเงินจานที่มีปัญหา" ...อ้าว ก็ต้องไม่เก็บออยู่แล้ว ได้แค่นี้เองเหรอ บางกรณี มีการเรียกผู้จัดการมาคุยแล้ว ทำทุกอย่างข้างต้นแล้ว ก็เห็นว่ายังไม่ยอม ^ ^ เท่าที่ผมสังเกต น้อยครั้งที่ร้านจะได้ทำ "ทุกอย่าง" ที่ว่าไปข้างต้นแล้ว ลองอ่านกระทู้เหล่านั้นดีๆ ครับ หลายครั้งจะขาดตกอะไรบางอย่างไป ก่อนอื่น เกิดเรื่องต้อง "ขอโทษ" ทันที แสดงความใส่ใจด้วย ไม่ใช่ขอโทษห้วนๆ แต่ต้องสอบถาม แสดงความอยากปรับปรุงให้เห็น เอาไปเปลี่ยนให้ < บางทีความผิดพลาดของจานแรกร้ายแรงมาก เช่น เนื้อเน่า อย่างนี้ทำให้ลูกค้าหมดอารมณ์กินได้นะครับ คิดว่าเปลี่ยนแล้วจะดีขึ้นเหรอ ลดราคา < ก็ดูเป็นกรณีไป ถ้าไม่หนักหนาก็ใช้วิธีนี้ได้ แต่ถ้าเรื่องใหญ่มันดูเหมือนใช้ส่วนลดฟาดหัวลูกค้า บัตรกินฟรี < อันนี้ไม่ค่อยชอบ เหมือนมองว่าลูกค้าเห็นแก่กิน ให้ฟรีแล้วจะจบเรื่อง ไม่เก็บเงินจานที่มีปัญหา < แล้วถ้ามันเป็นปัญหาประเภทความเสียหาย เช่น มีเศษแก้วทำลูกค้าปากแตกล่ะ แค่ไม่เก็บเงินจะพอมั้ย สรุป จขกท.ต้องดูเป็นเคสไปครับ ไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัวว่าโวยวายแค่ไหนสมควร/เกินควรแก่เหตุ ยังไงก็ตาม สิ่งที่ขาดไม่ได้ทุกครั้ง คือคำขอโทษ และการสัญญาว่าจะปรับปรุงตัวเอง จากคุณ : ayres เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 15:46:30

ความคิดเห็นที่ 65 เคยซื้อก๊วยเตี๋ยวเนื้อมากินบ้าน อร่อยมากเลย กินหมดปุ้บเจอแมลงสาบตัวบิ๊กบึ้มลอยอยู่ในน้ำ น้ำกับสีของแมลงสาบมันสีเดียวกัน เลยมองไม่ออก .. ตอนนั้นยังเด็ก ไม่ได้คิดจะโวยอะไร บอกเจ้าของร้านยังไม่กล้าเลย ก็ยังไปซื้ออีกนะ แต่กินแบบแหยงๆ ถุงต่อมาไม่เจอละ จากคุณ : ประสาทนอแรด เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 15:59:04

ความคิดเห็นที่ 66   เห็นด้วยกะคุณ คห46 ที่ว่า "มีปัญหากับร้านอาหารไม่จัดการให้จบ ณ ที่เกิดเหตุ ชอบเก็บมาตั้งกระทู้ด่า" จากคุณ : Vermouth เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 17:11:00 A:10.0.1.124 X:110.164.162.116 TicketID:226522

ความคิดเห็นที่ 67 นิดๆ หน่อยๆ ถ้ายอมรับได้ ก็อภัยให้กันไป เคยไปกินที่ลิตเติ้ลโฮม สั่งซุปเห็ด เจอซากครึ่งร่างของพี่แมลงวัน แปลว่าอีกครึ่งร่างมันคงไปนอนอร่อยอยู่ในกระเพาะแล้ว แต่กระนั้นก็เรียกพี่พนักงานมาแสดงอารมณ์เล็กน้อย พี่พนักงานอายุก็มากกว่าเรา ก็ลดโทนเสียงลงมา บอกให้รู้ว่ามีสิ่งแปลกปลอมติดมาและตกไปสู่กระเพาะแล้ว พี่พนักงานก็ขอโทษขอโพย ไปยกซุปเห็ดชามใหม่มาให้ ผ่านมาแปดปีแล้ว ผมก็ยังมีชีวิตอยู่ดีนะ ^^ เพราะรู้สึกให้อภัยตั้งแต่ที่พี่เขาเอ่ยขอโทษขอโพยเหมือนเป็นความผิดใหญ่หลวงของพี่เขา ทั้งๆ ที่ผมว่ามันน่าจะเป็นความรับผิดชอบของพ่อครัวมากกว่า อีกกรณีก็ฟูจิ ไปทานที่พระรามสาม แล้วเกิดอาการท้องเสียอย่างหนัก โทรไปโวย แทนที่น้องคอลเซ็นเตอร์จะแก้ต่าง ก็แสดงความรับผิดชอบว่าจะตรวจสอบให้ แล้วก็โทรมาถามต่อเนื่องอยู่สองวัน แค่นี้แหละ พอใจละ หรือกรณีของเค้กร้านหนึ่ง สั่งมาเป็นหน้าเผือก ปรากฏกลับมาลองชิม เผือกบูดซะแล้ว โทรไป เขาก็ขอโทษ แต่เราต้องการมากกว่าคำว่าขอโทษ ก็แหงะ ใครมันจะไปกินวะ วันต่อมา เขาก็เอาเค้กมาส่งถึงบ้าน พร้อมบัตรสแตมป์สะสม ก็โอเคนะ ยินดีไป หรือของพิซซ่าที่โวยไปล่าสุด เพราะไม่เอาเครื่องปรุงมาให้ แถมกว่าจะเอามาให้ก็อีกสองชั่วโมง ก็ถามว่าอยากให้รับผิดชอบยังไง (จริงๆ ไม่น่าถามนะ มันคือสิ่งที่คุณควรคิดเองมากกว่า เพราะกว่าเครื่องปรุงคุณจะมา ผมก็ซัดไปแบบไม่อร่อยปากเสียแล้ว) ถามว่าอยากให้เปลี่ยนให้ไหม สองชั่วโมง พิซซ่ามันคงเหลือเป็นแผ่นสวยงามละมั้ง ก็ให้เขาคิดเอง สุดท้ายทางนั้นเสนอบัตรแลกซื้อพิซซ่ามูลค่าห้าร้อยบาทมาให้ ได้มากกว่าคุ้ม ก็เลยทิปน้องที่มาส่งไปอีกห้าสิบบาท ก็ประมาณนี้ล่ะครับ จากคุณ : น้องหยิก เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 19:28:34

ความคิดเห็นที่ 68   ขึ้นอยู่กับว่า ตอนขอโทษมีความจริงใจแล้วสำนึกผิดแค่ไหนครับ ถ้าแค่บอกแบบขอไปที ชาติหน้าก็ไม่ให้อภัยครับ จากคุณ : babysnail เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 21:25:45

ความคิดเห็นที่ 69 ขอเข้ามา confirm อีกคนคะ ว่าหากที่ร้านมีการขอโทษ และแสดงความรับผิดชอบอย่างจริงใจ ความรู้สึกโกรธจะหายไปอย่างรวดเร็ว (กรณีไม่ใช่ลูกค้าขาวีน และไม่มีเหตุผล) แต่จากที่ผ่านมาที่เพื่อนของเรา และเรา ประสบมา ไม่เคยได้สัมผัสความจริงใจเหล่านั้นเลย ที่เจอจะเป็นขอโทษ แต่ทำหน้าระแวง สงสัย, ส่งพนักงานต้อนรับมาประกบโต๊ะเราอย่างเห็นได้ชัด, เจ้าของร้านหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย, บางร้านใช้คำพูดขนาดว่า "แค่ข้าว...จะเอาไปเปลี่ยนให้ สักครู่นะครับ" (เจอแมลงสาบในข้าว) ไร้คำขอโทษใดๆ ทั้งๆที่สิ่งทีเจอมันก็สุดๆนะ ในความเห็นของเราและเพื่อน - เจอเศษแก้วในพิซซ่า ร้านดัง ชนิดที่ว่าเพื่อนของเรากำลังเคี้ยวพิซซ่าอยู่ แล้วมีเสียงดังกรึ้บ ดังออกมาจากปาก พอคายออกมาเป็นเศษแก้ว (ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเศษแก้ว ไปอยู่ในพิซซ่า ได้อย่างไร!) - เจอเส้นขน ที่ขลิ้ม ขนาดความหนา บอกได้เลยว่าไม่ใช่ผมแน่นอน - -" - เจอแมลงสาบขนาดกลาง ในร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดัง - เจอแมลงสาบตัวลูก ในร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ฯลฯ คือชีวิตของเพื่อนเราคนนี้ ช่างถูกโฉลกกับเรื่องนี่จริงจิ๊ง ส่วนตัวเราเจอแค่ลูกแมลงสาบครั้งเดียว จากคุณ : i-am-oat เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 22:01:09

ความคิดเห็นที่ 70 เราก็เห็นด้วยกับหลาย ๆความเห็นนะ เพราะบางกระทู้นี่เหมือนจะเอาให้ตาย ทั้งที่พนักงานก็ขอโทษและยินดีจะทำออดเดอร์ใหม่ให้ พร้อมให้ส่วนลดแล้ว ขนาดแฟนเราเคยเจอเศษแก้วในอาหาร ที่ร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งหนึ่ง เค้าไม่ได้บาดเจ็บอะไร บ้วนออกมาทัน ทางร้านก็รีบทำออเดอร์ใหม่ให้ แล้วก็ไม่คิดเงินสำหรับค่าอาหารชุดที่แฟนเราสั่ง เค้าแสดงให้เห็นความกระตือรือร้น และจริงใจในการแก้ปัญหาแล้วเราก็จบ ไม่คิดจะโวยวายอะไรต่อ ไม่คิดจะมาตั้งกระทู้ด้วยค่ะ เสียเวลา เพราะเป็นเรื่องที่จบไปแล้วที่ร้านอาหารนั้น แต่ถ้าเกิดความผิดพลาดแล้ว ทำหน้าเนือย ๆ ไม่กระตือรือร้น ไม่จัดการแก้ปัญหาใด ๆ ให้ ตรงนี้ก็สมควรจะให้รู้กันทั่ว ๆ จากคุณ : แบ๊น แบน เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 22:16:27

ความคิดเห็นที่ 71 คุณความเห็นที่ 60 คะ ซังข้าโพดคือส่วนที่เป็นแกนกลางที่เมล็ดข้าวโพดเกาะติดอยู่น่ะค่ะ แล้วส่วนที่เป็นเส้น ๆ สีทองใต้เปลือกเรียกว่าไหมข้าวโพดค่ะ จากคุณ : มดละเอียด เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 23:38:08

ความคิดเห็นที่ 72 ชอบคห.ที่ 4 กับ คห.ที่ 12 ค่ะ แค่คำขอโทษจริงใจ บางทีคนที่กำลังโกรธไม่พอใจ มันก็ลดไปกึ่งนึงเลยนะคะ เวลาเจอปัญหา โดนต่อว่าเนี่ยะ สำหรับเรา เราจะตกใจ แต่การมั่นใจว่า "ข้าไม่ผิด" เนี่ยะ มันจะออกมาทางตา แม้ว่าเค้าจะพูดขอโทษหวานแค่ไหนก็ตาม ปากขอโทษ แต่ใจยังค้าน ต่อให้มื้อนั้นจะให้ทานฟรี เชื่อว่าใครก็เอา แต่ไม่มีวันกลับมาอีกแน่นอน แต่อย่างคุณคห. 12 เราคิดว่าเค้าพยายามขอโทษชดเชยอย่างถึงที่สุดแล้ว ถ้าลูกค้าไม่ได้เป็นพวกหลอกรับประทาน ยังไงก็ตามใจก็ละลายไปแล้วหล่ะค่ะ จากคุณ : LovelyDuckLinG เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 23:59:45

ความคิดเห็นที่ 73 ชอบคห.ที่ 4 กับ คห.ที่ 12 ค่ะ แค่คำขอโทษจริงใจ บางทีคนที่กำลังโกรธไม่พอใจ มันก็ลดไปกึ่งนึงเลยนะคะ เวลาเจอปัญหา โดนต่อว่าเนี่ยะ สำหรับเรา เราจะตกใจ แต่การมั่นใจว่า "ข้าไม่ผิด" เนี่ยะ มันจะออกมาทางตา แม้ว่าเค้าจะพูดขอโทษหวานแค่ไหนก็ตาม ปากขอโทษ แต่ใจยังค้าน ต่อให้มื้อนั้นจะให้ทานฟรี เชื่อว่าใครก็เอา แต่ไม่มีวันกลับมาอีกแน่นอน แต่อย่างคุณคห. 12 เราคิดว่าเค้าพยายามขอโทษชดเชยอย่างถึงที่สุดแล้ว ถ้าลูกค้าไม่ได้เป็นพวกหลอกรับประทาน ยังไงก็ตามใจก็ละลายไปแล้วหล่ะค่ะ จากคุณ : LovelyDuckLinG เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 00:00:03

ความคิดเห็นที่ 74 นั่นสิน่าจะไหมนะ ไม่น่าใช่หม ึย จากคุณ : Dr.boyze เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 00:06:37

ความคิดเห็นที่ 75 ของเราที่เจอ  ไปกินโออิชิราเมน มา แล้วเจอแมงวันอยู่ในถ้วย (กินไปสองคำแล้ว มันลอยฟ่องขึ้นมา - -'') ก็เลยเรียกพนักงานมาดู เค้าก็ขอโทษยกถ้วย ทำถ้วยใหม่มาให้ คนอื่นอาจจะกินไม่ลง แต่เรากินค่ะ แหะๆๆ ถามว่าเรามายด์มั้ยกับเรื่องแมงวัน ขอบอกว่าไม่มายด์ แค่พนักงานรับผิดชอบ และ กล่าวขอโทษ ตรงนี้เป็นอันว่าจบกัน ต่างคนต่างยิ้มให้กัน ผิดที่แมงวันค่ะ เราโกรธแมงวันที่มาตายในถ้วยเราทำไม Y.Y จากคุณ : ลิตเติ้ลคิมเดวิลล์ เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 00:07:18

ความคิดเห็นที่ 76 ของเราที่เจอ  ไปกินโออิชิราเมน มา แล้วเจอแมงวันอยู่ในถ้วย (กินไปสองคำแล้ว มันลอยฟ่องขึ้นมา - -'') ก็เลยเรียกพนักงานมาดู เค้าก็ขอโทษยกถ้วย ทำถ้วยใหม่มาให้ คนอื่นอาจจะกินไม่ลง แต่เรากินค่ะ แหะๆๆ ถามว่าเรามายด์มั้ยกับเรื่องแมงวัน ขอบอกว่าไม่มายด์ แค่พนักงานรับผิดชอบ และ กล่าวขอโทษ ตรงนี้เป็นอันว่าจบกัน ต่างคนต่างยิ้มให้กัน ผิดที่แมงวันค่ะ เราโกรธแมงวันที่มาตายในถ้วยเราทำไม Y.Y จากคุณ : ลิตเติ้ลคิมเดวิลล์ เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 00:07:29

ความคิดเห็นที่ 77 ตอนแรกที่เล่า เราก็กะจะเรียกว่า ซังข้าวโพด แต่ก็สับสน เพราะตอนเด็กๆ ทำตุ๊กตา จากเปลือก และก็แกนข้าวโพด แล้วเรียกว่า ตุ๊กตาจากซังข้าวโพด เลยคิดว่า  ส่วนของเส้นนั้น คงไม่ได้เรียกว่าซัง ข้าวโพดแน่เลย จะเรียกว่า ไหมข้าวโพดก็น่าจะได้ แต่คำว่าหม..ข้าวโพด คนต่างจังหวัดบางคน เขาก็ยังใช้เรียกกันอยู่ อะไรเอ่ย เปิดม่านเห็นไหม เปิดไหมเห็นเม็ด? เรื่องขอโทษ  บางที ยอมรับผิด ขอโทษอย่างจริงใจ (สุดซึ้ง) เสียใจจริงๆ  เขายังไม่รับเลยค่ะ แก้ไขเมื่อ 16 ส.ค. 53 00:17:46 จากคุณ : โดดเดี่ยวผู้น่ารัก เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 00:15:22

ความคิดเห็นที่ 78 เห็นด้วยว่า ลูกค้าต้องการ  "คำขอโทษอย่างจริงใจ" ทุกคนมีลิมิตของตัวเองค่ะ เรื่องอะไรปล่อยได้ ก็แล้วกันไป แต่ถ้าเจอหลายเรื่องเข้าก็ต้องวีนกันบ้าง ยิ่งทักแล้วมึน ทักแล้วเงียบ ไม่รีบแก้ไขนี่ต้องโดนหนัก เรื่องร้านใหญ่ ร้านเล็กนั้น มันต้องต่างกันอยู่แล้ว ยิ่งจ่ายเงินมาก ยิ่งคาดหวังมากกว่าเป็นธรรมดา แต่เราจบที่ร้านนะคะ ถามตรงนั้น เคลียร์ตรงนั้น วีนตรงนั้น ส่วนถ้าเจอขนาดอันตรายต่อสุขภาพ บาดจ็บ ทางร้านก็ควรต้องดูแลอยู่แล้ว จากคุณ : lekumi เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 00:59:49

ความคิดเห็นที่ 79 ก็อื่นก็ต้องมีคำว่าขอโทษก่อนละครับ แล้วอย่างก็ดูเป็นกรณีไปว่าร้ายแรงหรือไม่ร้ายแรงแล้วก็ชดใช้ตามแต่กรณีไป แต่ส่วนใหญ่ที่ผมเจอก็ขอโทษก็พอแล้วยังไม่เจอถึงขนาดเป็นเรื่องเป็นราวขนาดนั้น ภาวนาว่าอย่ามีเลย ปล ร้านใหญ่ๆก็ควรมีมาตรฐานที่มากกว่าร้านทั่วไปครับผมเสียเงินในส่วนที่เพิ่มเพื่อคุณภาพไม่ใช้ค่ายี่ห้อ จากคุณ : freeingtone เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 01:40:59

ความคิดเห็นที่ 80 อย่างบางกรณีขอโทษ(เน้นว่า อย่างจริงใจ และ แสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบอย่างจริงใจ) และ นำไปปรับปรุง เราก็ว่า โอเคค่ะ อะไรที่หยวนๆกันได้ก็หยวนๆกันไป หนอนในถาดผัก อันนี้โอเคค่ะ อาจจะพลาดๆกันได้บ้าง เขี่ยออกไปแล้วทานได้ ไม่มีปัญหา สงสัยสดจริงอะไรจริง แต่ บางกรณีเราว่า ขอโทษอย่างเดียวมันไม่พอหรอกค่ะ มันสมควรที่จะ รับผิดชอบ ให้มากกว่านี้ สมควรที่จะมอง "เรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่" ค่ะ เช่น กรณี เศษแก้วในขนม อันนั้น เราว่าเรื่องใหญ่มากๆนะ ถ้าเค้าเกิดเป็นอะไรไป มากกว่านั้น ใครรับผิดชอบล่ะค่ะ ? มันง่ายไปมั้ง กับคำว่า ขอโทษ ไม่คิดเงินค่าอาหาร ให้ส่วนลด หรือลูกค้าผิดหรอค่ะ ที่ดันซวยไปหยิบจานที่มีเศษแก้ว ? ลองนึกค่ะ ถ้าเป็นตัวคุณโดนเองคุณจะแค่ยินดีรับคำขอโทษมั๊ย ? ทั้งเจ็บ ทั้งเสีบเงินค่ารักษาพยาบาล สำคัญ เสียสุขภาพจิตค่ะ คุณได้รับผิดชอบลูกค้าดีพอรึยัง ? เคสนี้ ร้ายแรงพอกับเคสพลาสติกในแตงโมนั่นแหละค่ะ (ค่ะ มันไม่ใช่เรื่องเล็ก มันคือเรื่องใหญ่ ถูกแล้ว) เป็นความผิดพลาดของทางร้าน แล้วลูกค้าล่ะค่ะ ถ้าเค้าเป็นอะไรไปล่ะ ? โทษนะคะ ทานพลาสติกเข้าไปนะคะ ไม่ใช่วุ้น แต่สุดท้ายเรื่องก็เงียบ . . . ไร้ความรับผิด ในส่วนที่สมควรจะรับผิดชอบ ล่าสุดเราไปทานก๋วยเตี๋ยวไก่ ร้านแถวๆบ้าน ทานแค่เส้นไป สองคำ เจอน้องแมลงสาบเบบี๋ ในน้ำแกง สภาพศพ โดนต้มซะซีดขาวจั๊ว คอนเฟิร์ม โดนต้มในหม้อน้ำแกงชัวร์ เราก็เงียบๆ แกล้งเดินไปเอาของที่รถ คือแอบไปคาย แล้วให้แฟนเอาตังค์ไปจ่ายป้าที่ขาย จัดการเอาน้องแมลงสาบเบบี๋ ซุกๆไว้ เค้าก็ถามเรานะ ว่ามีอะไรรึป่าว ? เราก็บอกเค้าไปว่า อ๋อ หนูปวดท้องค่ะทานต่อไม่ไหว โรคกระเพาะ รุนแรง เราทราบว่า มันเป็นเหตุสุดวิสัยค่ะ ถ้าเราเอาไปบอกตอนนั้น รับรอง เจ๊งชัวร์ เพราะคนเยอะอยู่ แถมเป็นร้านในหมู่บ้าน กระจายเร็วแน่นอน เอาแมลงสาปซุกๆไว้เพราะ เจ๊ข้างหลัง ต้องหันมาสอดแนมแน่นอน = = บอกแล้วไงค่ะ คนไทยไม่ใจร้ายหรอกค่ะ หยวนได้หยวน แต่บางอันมันไม่ได้อ่ะ จากคุณ : idyzlesla เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 01:58:44

ความคิดเห็นที่ 81 สำหรับเราถ้าเรื่องเล็กๆ แค่ขอโทษ อย่างจริงใจ เราก็จบเลยค่ะ แต่ถ้าเรื่องใหญ่ ก็ต้องพิจารณากันเป็นกรณีค่ะ แต่ที่แน่ๆ จะเลือกที่จะคุยกับคนที่มีอำนาจตัดสินใจ ไม่ใช่ด่าไปซะทุกคนค่ะ *เพิ่มเติมข้อความ และแก้ไขพิมพ์ผิดค่ะ แก้ไขเมื่อ 16 ส.ค. 53 02:11:32 จากคุณ : ARu เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 02:08:51

ความคิดเห็นที่ 82 ยืนยันว่า เรียกว่า หมอ ยข้าวโพดก็ได้ครับเพราะเคยเปิดพจนานุกรมเล่นตอนเด็กๆ จากคุณ : อิ (Blaannagnwaeilig) เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 02:09:20

ความคิดเห็นที่ 83 ทุกอย่างจะจบ ขึ้นอยู่กับความรู้สึกที่จริงใจที่มอบให้ แค่นั้นที่ต้องการ แต่ด้วยอารมณ์ตอนนั้น บางทีอาจใช้อารมณ์ในเวลานั้นนำ จนลืมความจริงที่ควรให้อภัยไปซะบ้าง บางทีเราไปกินร้านตามสั่งแถวบ้าน เจอผมแม่ค้า ก็เออ เขี่ยออก กินต่อ แค่นั้น จากคุณ : กระบี่ในใจ เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 02:16:57

ความคิดเห็นที่ 84   สงสารคนทำร้านอาหารเหมือนกันนะ ลูกค้าร้อยพ่อพันแม่ มาดีมาร้ายก็ยังเดาไม่ได้ แต่เข้าใจว่าสำคัญอย่างแรกเลยคือต้องบอกพนักงานว่าห้ามโบ๊ย โบ๊ยเมื่อไหร่เรื่องยาว (รับลูกดีๆ จากร้ายก็กลายเป็นดีได้บ้าง) จำได้ว่าในอเมริกามีธรรมเนียม"ไม่อร่อยยินดีคืนเงิน"ที่พูดจริงทำจริง ที่เคยเจอคือ "คืนให้(ต่อจาน) ค่าน้ำฟรี แล้วทานอิ่มรึเปล่า จาน(ใหม่)นี้ on the house" คือกลัวโดนฟ้องกันขึ้นสมอง แต่กฎหมายบ้านเราไม่มีกำหนดอะไรในกรณีชดเชยไว้บ้างรึไงนะ? คห.27 เรื่องขวดน้ำอัดลมระเบิดมีวิธีแก้จากคนไม่ชอบน้ำอัดลมซ่าเกิน เปิดแบบไม่ระเบิดทั้งๆที่พึ่งเขย่าเสร็จใหม่ๆอยู่ด้วยแต่ใช้เวลานิดนึง ให้เปิดแบบปล่อยลมยางให้มันดังฟี๊ๆโดยไม่ให้ซีลขวดแตกก่อน แล้วพอฟองมันจะไต่ขึ่นมาถึงคอขวดก็หมุดปิดกลับเข้าไป รอให้ฟองยุบแล้วทำใหม่อีกซักสองสามรอบ(สามสี่รอบก็ด๊ะ)แรงอัดก็จะหมด จากคุณ : abstract เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 02:28:00 A:124.120.151.94 X: TicketID:071021

ความคิดเห็นที่ 85 เคยสั่งหมูมะนาวกินที่วอร์มอัพ แล้วเอาไปทำ 3 ครั้งมันไม่สุข เวลาเก็บเงินมีหมูมะนาวเราก็วีนเรียกผู้จัดการ สรุปเขาไม่คิดเงินค่าหมูมะนาวแต่เราก็เอาเงินไปให้เด็กเสริฟหมด แฟนเคยนั่งเก้าอี้หัก ที่ร้านอาหาร ก็บ่น ๆ กินบะหมีแล้วมีหนอนในผัก เขาก็แค่เอาหนอนออกให้เปลี่ยนผักให้บะหมีไม่ทำใหม่ด้วยก็ช่างเถอะ เราว่าของแบบนี้แล้วแต่ ลูกค้ามากกว่า ว่าเรื่องมากเท่าไหน จากคุณ : มนชิจัง เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 03:54:02

ความคิดเห็นที่ 86   นอกเรื่องนิด คุณ คห 57, 60, 71, 74, 77 ครับ ตอนเด็กๆ แถวบ้านผมก็เรียกเส้นๆรอบฝักข้าวโพดว่า หม_ย เหมือนคุณ tnu เหมือนกันครับ ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไร พูดไปก็ไม่เขิน แต่ดันเผลอไปพูดที่ รร. คุณครูที่สอนวิชา สปช. เลยบอกว่าต้องเรียกว่า 'ไหม' ให้สุภาพ กลับบ้านเลยมาบอกแม่ๆ พี่ๆ ว่าต่อไปอย่าเรียก หม_ย นะ มันเชย ต้องเรียกว่า 'ไหม' พอดีที่บ้านทำไร่ข้าวโพด เลยต้องปรับไม่ให้ลูกค้า ที่อาจเป็นแม่ค้าผู้หญิงเขิน ถ้าเกิดมีการพูดเรื่องเกี่ยวกับข้าวโพดขึ้นมาน่ะครับ เข้าเรื่อง: - ผมเห็นด้วยครับว่า บางครั้งทางร้านก็ลำบากใจ เพราะขอโทษแล้ว อะไรก็แล้ว แต่เหมือนลูกค้าก็ยังไม่พอใจ บางคนเอามาโพสต์ต่อ (บางคน ไม่ทุกคนนะครับ ต้องขอโทษ ไม่ได้พาดพิงใคร) พอมีคนท้วงว่า ทางร้านก็แสดงความรับผิดชอบแล้ว ก็จะมีการตอบกลับมาว่า ผู้จัดการร้านขอโทษแบบไม่แสดงความจริงใจ อย่างนี้ใครก็พูดได้ครับ เพราะคนโพสต์พูดอยู่ข้างเดียว เราคนอ่านไม่ได้เห็นหน้า ไม่ได้ฟังเสียง ผู้จัดการร้านเลย ทางร้านก็โดนเละไปแล้ว - บางคนชออบบอกว่า ฟ้องเลย ถ้าเป็นต่างประเทศ โดนฟ้องแน่ แต่บอกก่อนนะครับ ในความเป็นจริงนั้นมันไม่ได้ง่ายอย่างนั้นหรอก ผมไม่รู้ว่าที่อื่นเป็นอย่างไร แต่ที่ลอนดอน ที่บ้านทำร้านอาหาร เด็กในร้านรับออร์เดอร์มา แต่เชฟทำสเต็กให้ลูกค้าผิด ลูกค้าเลยโวย พี่ชายผมก็เลยไปขอโทษลูกค้าให้เด็กเสิร์ฟ ลูกค้าบอกเนื้อสุกไป ไม่ใช่อย่างที่สั่ง เรายอมรับผิดแน่นอน เลยทำให้ใหม่ พอทำให้ใหม่ ปรากฎว่าลูกค้าบอกดิบไป แต่เรามั่นใจว่ามันพอดี รู้แล้วว่าลูกค้าหัวหมอ จะขอกินฟรี พี่ชายเลยบอกว่าไม่ได้ เพราะครั้งแรกเราทำผิด เราขอโทษและทำให้ไหม่แล้ว แต่จานใหม่นี่เราไม่ผิดแน่นอน ลูกค้าก็เริ่มโวยวายอีก แล้วบอกว่าจะฟ้องร้าน ว่าบริการไม่ได้มาตรฐาน เอาเปรียบลูกค้า บลาๆๆๆ แล้วก็เดินออกไม่ยอมจ่าย พี่ชายเลยบอกให้ลูกค้ารอก่อน แล้วโทรเรียกตำรวจเลย ลูกค้ายังทำใจแข็ง พอตำรวจมาก็โม้กับตำรวจใหญ่ แต่พี่ผมก็ไม่ยอม ก็บอกตำรวจไป ตกลงกันไม่ได้ ลูกค้าเลยใช้ไม้ตายบอกว่าจะฟ้องร้านต้องโดนปิดแน่ พี่ชายผมเลยบอกว่าเชิญฟ้องเลย ทางร้านก็จะฟ้องเหมือนกัน เพราะทางลูกค้าไม่พอใจกับบริการของทางร้านเอง และเราได้ทำให้ดีที่สุดแล้ว และทางร้านจะฟ้องเรียกค่าเสียหายกลับด้วย เพราะการทีลูกค้าโวยวาย ทำให้ลูกค้าคนอื่นหนีหมด เราต้องมาคุยกับตำรวจ ขายไม่ได้หลาย ชม เสียรายได้ไปเยอะ ปรากฎว่าพอเราเอาเข้าจริง ลูกค้าก็ไม่กล้าฟ้อง แล้วก็เดินออกไปจากร้าน ...แต่เดี๋ยวก่อน ออกไปฟรีๆไม่ได้ ต้องจายเงินมาก่อนครับ ดังนั้นจะบอกว่า คนที่ไม่รู้ แล้วชอบมาพูดว่าทีเมืองนอกฟ้อง...อย่างงู้นอย่างงี้ อย่ามั่วครับ มันไม่ได้ง่ายอย่างนั้น ซี้ซั้วทำไป เดี๋ยวจะโดนฟ้องกลับมาซะเอง เพราะฉะนั้นคุยกันด้วยเหตุผล จากประสบการณ์ของเราดีกว่า อย่าไปอ้างคนอื่นเลย - อีกนิดครับ นอกเรื่องหน่อย แต่อยากให้ลองนึกภาพดู อาทิตย์ก่อน ผมทำพาสต้ากินเอง เตรียมเครื่องปรุงอย่างดี ล้างหัวหอม เอามะเขือเทศแช่น้ำยา 15 นาที ก่อนเอาไปล้างน้ำอีก 2-3 รอบ ลวกพาสต้าอย่างดี น้ำมันมะกอกก็เลือกแบบไฮโซที่สุดเพราะทำกินเอง กระทะ จาน ชาม สะอาดสุดๆ เพราะเป็นคนค่อนข้างเจ้าระเบียบเรื่องทำอาหารกินเอง ทำเสร็จกินไปได้ซักครึ่งจาน รู้สึกว่าในปากมีอะไรแปลกๆ แลบลิ้นเอานิ้วหยิบมาดู โอ้...มันคือเส้นผมนั่นเอง ไม่ใช่ของใครอื่น ของผมเองแน่ๆ นี่ขนาดผมรองทรงสั้น ไม่ใช่ผมยาวแบบผู้หญิง ระมัดระวังเรื่องความสะอาดในการทำอาหารสุดๆเพราะทำให้กับตัวเราเอง มันยังพลาดกับเรื่องง่ายๆอย่างนี้เลยครับ แม้แต่แม่ผมเอง ล้างผักอย่างสะอาด เป็นคนระมัดระวังแน่นอน แต่หลายครั้งเวลาทำผัดคะน้าน้ำมันหอย เจอเจ้านอนตัวเล็กหลายครั้ง ผมเลยฟ้องเลย ว่าแม่ทำอาหารไม่สะอาด แต่ไปฟ้องพ่อนะครับ บังเอิญพ่อเป็นคนประณีประนอม เราเลยยังอยู่เป็นครอบครัวที่อบอุ่นมาจนปัจจุบัน...ด้วยประการชะนี้แล จากคุณ : sexiolinguist เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 06:10:08 A:109.246.5.90 X: TicketID:141052

ความคิดเห็นที่ 87 ขอบคุณทุกความเห็นมากเลย...ได้ประโยชน์เยอะดี บางข้อมูลจะเอาไปบอกเพื่อน ๆ เพื่อเอาไปสอนน้อง ๆ service ต่อด้วย ปล. เรื่องข้าวโพด  บ้านเราเรียก "หนวด" ข้าวโพดอ่ะ จากคุณ : saturn_eyes เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 11:40:23

ความคิดเห็นที่ 88 เราว่าเรื่องเล็กๆ ที่พลาดกันได้ เช่น เส้นผม หรือ หนอนในผัก แค่เปลี่ยนให้ หรือไม่คิดเงิน พร้อมคำขอโทษแบบจริงใจก็พอแล้วค่ะ ถ้าเรื่องใหญ่ขึ้นหน่อย แมลงสาบ เศษพลาสติก ถ้าคนทานไม่ได้รับบาดเจ็บหรือไม่สบาย ก็ควรให้ผู้จัดการหรือเจ้าของร้านมาขอโทษหน่อย ไม่ต้องมีบัตรลดก็ได้ แค่แสดงความจริงใจและเอาไปปรับปรุง อันที่ซีเรียสคือ ทานแล้วอาหารเป็นพิษ แก้วบาดปาก แบบนี้ควรรับผิดชอบจริงจัง จ่ายค่ารักษา อะไรก็ว่าไป ปล. จำได้ว่าเคยมีเคส ฮะจิบัง ที่ไปตรวจแล้วมีเชื้อโรคเยอะแยะเลยอ่ะค่ะ หลังจากดังอยู่แป๊ปนึงแล้วก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย ทางร้านก็ไม่เห็นเปลี่ยนอะไร เลยไม่ค่อยมั่นใจว่าเมืองไทยมันเอาเรื่องได้จริงๆหรอ ถ้าร้านไม่รับผิดชอบ จากคุณ : PinkyBabybird เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 12:20:50

ความคิดเห็นที่ 89 ขอให้นำลิงค์กระทู้นี้ ไปแปะให้พวกที่มากระทืบเท้าต่อว่า จะเป็จะตาย ถึงเลือดถึงเนื้อ ในความผิดพลาดได้อ่านทุกครั้งเลยนะครับ ผมอ่านหลายกระทู้ที่มาติ มาชม มาต่อว่า มาซ้ำเติม ด้วยอารมณ์ที่เราๆท่านๆอ่านแล้วก็จะรู้ โดยความรู้สึกว่า เอาให้ถึงตาย หลายกระทู้แล้ว เหนื่อยใจแทนครับ ความรู้เหล่านั้นก็จะจางไป เฮ้อ!!! จากคุณ : Thomas (vatis) เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 12:44:33

ความคิดเห็นที่ 90 บางทีมันก็ขึ้นอยู่กับพนักงานบางคน ที่ให้บริการไม่ดี แต่อย่างอื่นดีหมด แล้วยิ่งถ้ามาเจอเรื่องแย่ๆเข้าลูกค้าก็จะยิ่งไม่พอใจ บางรายถึงขนาดด่ากันในร้าน พนักงานก็ควรรู้จักว่าเป็นงานบริการ พนักงานบางคนชอบทำสีหน้าไม่พอใจหรือ สั่งอะไรก็ทำช้า อย่างเวลาขอนู่น ขอนี่เพิ่ม ก็จะหาว่าเราเรื่องมาก เสริ์ฟผิด ก็หาว่าทำมาแล้วอะไรประมาณนี้ ทั้งๆที่ตอนสั่งเราก็พูดถูกนะว่าเอาอะไร แต่กลับไปทำอย่างอื่นมาให้ ทั้งๆที่เป็นความผิดใคร ? แก้ไขเมื่อ 16 ส.ค. 53 13:09:16 จากคุณ : princeanchy เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 13:08:09

ความคิดเห็นที่ 91 ผมเจอแมลงสาบ ตัววัยรุ่น สีกำลังดำดีเลยครับ เจอใน โอเลี้ยง มาเห็นตอนที่กินเกือบหมดแก้วแล้วครับ ลองคิดตามดู อึ๋ยยยยยยยย จากคุณ : ken_jung เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 13:09:17

ความคิดเห็นที่ 92 คห.ยาวมากขอตอบก่อนค่อยขึ้นไปอ่าน... ต่างจิดต่างใจค่ะ อาหารยังว่าอร่อยไม่เหมือนกัน คำขอโทษ/การรับผิด บรรทัดฐานคนเราก็ไม่เหมือน ถ้าจะหามาตรฐาน เดี๋ยวก็จะบอกว่า Double Standard อีก เฮ้อ... จากคุณ : @~UltRaViOleT~@ เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 13:09:21

ความคิดเห็นที่ 93 หนูว่านไม่ได้รวนหรือกวนนะคะ บางล็อคออินเคยเห็นแว๊บๆว่าถ้ามีกระทู้พวกนี้ แบบเจอนู่นนี่นั่นในอาหาร หรือเจ้าของร้าน เด็กเสิร์ฟยังงู้นยังงี้ เอาเรื่องเลย ยอมได้ไง ยอมไม่ได้ พอมาอ่านกระทู้นี้ กลายเป็นว่าเล็กๆน้อยๆเราก็ยอมกันไป จิตใจคนเราสองมาตราฐานจริงๆด้วย จากคุณ : คลับซ่าส์ เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 13:36:20

ความคิดเห็นที่ 94 สำหรับเราแค่ทางร้านขอโทษอย่างจริงใจและกระตือรือล้นในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าก็ดีใจแล้วค่ะ แต่ถ้าไม่มีพฤติกรรมอย่างที่บอกข้างต้นก็คงไม่ยอมเหมือนกันค่ะ จากคุณ : MeawKing เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 13:42:09

ความคิดเห็นที่ 95 นอกเรื่องค่ะ การอ่านข้อความต่าง ๆ รวมถึงกระทู้ เดี๋ยวนี้ต้องใช่วิจารณญาณกันมากว่าเมื่อก่อนเยอะเลยค่ะ เพราะมันเหมือนว่าคนเราพอไม่พอใจอะไร ก็จะมาเรียกร้อง ป่าวประกาศออกสื่อ หลาย ๆ เหตุการณ์เราก็ได้แต่ฟังความข้างเดียว บุคคลที่ถูกพาดพิงก็ไม่สามารถมาชี้แจง หรือหาข้อแก้ต่างให้กับตนเองได้ บางครั้งบางครา คนที่ผ่านไป-มา ไม่ได้รู้เรื่องดีพอ หรืออ่านแล้วเห็นใจ เลยเทใจไปที่คนเดือดร้อน ก็วิจารณ์ต่างๆ นานา อันนี้ไม่ได้ว่านะคะ วิจารณ์กันได้ค่ะ เราเองก็เคยวิจารณ์ แต่ขอให้มีความรับผิดชอบต่อสังคมและคำพูดกันหน่อย เราเองเดือดร้อนหรือ?? ...ก็เปล่า เราเองอยู่ในเหตุการณ์หรือ?? ...ก็เปล่า(อีกนั่นแหล่ะ) แต่เห็นวิจารณ์กันสาดเสียเทเสียไปทำไม (สำหรับทางท่านนะคะ ย้ำค่ะว่าบางท่าน) แต่หลายๆ  ท่านก็วิจารณ์ได้ดี และน่ารักมาก ๆ ค่ะ อันนี้ขอชื่นชมนะคะ เพราะบางความเห็นวิจารณ์ได้มีประโยชน์ต่อส่วนรวมมาก ๆ เลยค่ะ ปล.แค่จะมาบอกว่า เวลาอ่านก็เอาหูไว้หูกันบ้าง สังคมจะได้น่าอยู่ค่ะ จากคุณ : plakadas เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 13:48:54

ความคิดเห็นที่ 96 ผมอยากเห็นความกระตือรือล้นในการแสดงความรับผิดชอบแล้วก็ ต้องการรับทราบที่มาที่ไปของข้อผิดพลาดและแผนการแก้ไขเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกในอนาคตสำหรับร้านที่ชอบครับ ส่วนร้านที่ไม่ชอบขอกินฟรีก็พอ จากคุณ : Zkizzik เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 14:31:26

ความคิดเห็นที่ 97 เราว่ามันขึ้นอยู่กับทัศนคติของแต่ละคนนะคะ อย่างเราเนี่ย ปกติเป็นคนขี้วีนโดยนิสัยอันเป็นเบื้องลึก (55+ ขุดไม่ออกจริงๆนะ) เป็นคนขี้โวยวายมาก แต่มันยังไงไม่รู้สิ เราเป็นพวกที่แบบถ้ามันไม่เหลืออดจริงๆก็จะไม่อะไร ถ้าเค้ายอมรับผิดขริงๆเราก็ไม่คิดอะไรมาก ส่วนกรณีที่เป็นร้านอาหาร เราก็ไม่ค่อยคิดอะไรนะ ถ้าอาหารถูกใจ เคยไปกินที่ร้านอาหารชื่อดังใกล้ๆกับอบู่เย็นในหัวหิน วันนั้นไปกับคุณแฟน สั่งอาหารไปหลายอย่าง นึงในนั้นก็มีกุ้งแช่น้ำปลา เราก็กินไปเรื่อยๆ ตักตัวแรกมา อืมมม อร่อย กินไปอย่างอิ่มหนำ จนแฟนเราเค้าจะกินตัวแรกบ้าง เอาละสิ คุณชายท่านทำหน้าแปลกๆ ชิมไปคำแรก ทำจมูกฟุดฟิด มองไปมองมา เค้าก็ไม่กิน เราก็ไม่ได้สน ก็ชั้นจะกิน พอจะตักตัวต่อไปกินปุ๊ป อืมมม คุณชายสั่งห้ามค่ะ บอกว่าอย่าเลย ระวังท้องเสียนะ เราก็อ่าว ตัวที่เรากินไปทีแรกไม่เห็นมีไรผิดปกติเลยอะ เค้าก็บอกว่าตัวอื่นๆมันหางเริ่มดำแล้วนะ ไม่ค่อยสด เราก็อืมม ไม่ก็ได้ เดี๋ยวจะโดนเค้าโกรธเสียถ้าดื้อจะกินนัก สรุปว่าจานนั้นก็ไม่ได้แตะอีก จนสั่งคิดเงิน น้องเด็กเสริฟเค้ากำลังจะยกกลับเข้าครัว เค้าเห็นเข้า เค้าก็ถามว่า ไม่ถูกปากรึเปล่าจานนี้ เห็นเหลือเยอะ เราก็บอกเค้าไป (แต่วันนั้นอารมณ์ดีเลยไม่ได้วีน 55+) หางกุ้งมันดำแล้วค่ะ ก็เลยไม่กล้ากิน น้องเค้าก็เลยยกกลับไปเก็บ ซักพักเดินเอาบิลมาให้ ปรากฏว่ารายการนั้นไม่คิด แล้วก็ให้ส่วนลดเพิ่ม พร้อมๆกับที่ผู้จัดการเดินเข้ามาขอโทษ เราก็เออนะ ไม่ได้อยากได้ส่วนลด หรืออะไรเลย ก็บอกเค้าไป เค้าบอกว่ารับไปเถอะครับ ถือว่าเป็นความผิดของทางร้าน กลายเป็นว่าเรากับแฟนประทับใจร้านนั้นมาก เพราะเค้ารับผิดชอบกับลูกค้าขาจรอย่างเราๆอย่างดี ทั้งๆที่เราไม่ได้เรียกร้องอะไรเลย เล่ามาซะเวิ่นเว้อ สรุปเลยดีกว่า เราว่ามันขึ้นอยู่กับนิสัยของแต่ละคนค่ะว่าเค้าพอใจแบบไหน แต่สำหรัีบเราแล้ว แค่ความจริงใจก็พอแล้วค่ะ เหมือนเอาใจซื้อใจกัน จากคุณ : poondiks เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 14:33:45

ความคิดเห็นที่ 98   ความรับผิดชอบ มันอยู๋ในจิตสำนึกของคนอ่ะค่ะ แล้วโดยแฉพาะเจ้าของร้านอาหารด้วยแล้ว เราว่าความรับผิดชอบต่อลูกค้า หรือผู้บริโภคคือสิ่งที่ต้องอยู๋ในสามัญสำนึกของผู้ประกอบการทุกคน การถามว่า "เท่าไหร่ถึงพอ" แปลว่าคุณไม่ได้เข้าใจ แล้วก็ไม่มีวันเข้าถึงใจของลูกค้าได้หรอกคะ จะบอกว่า เมื่อมีความผิดพลาดเกิดขึ้น ลูกค้า(อย่างเรา) ไม่ได้ต้องการ การไม่คิดเงินอาหารมื้อนั้น หรือส่วนลดครั้งต่อไป หรือกระเช้าแสดงความเสียใจ หรืออะไรที่เป็นสิ่งของเลยสักนิด สิ่งที่เราต้องการมากที่สุดคือ ความสำนึกในความเสียหายที่เกิดขึ้น การแสดงความเสียใจ การกระตือรือล้นในการบรรเทาความเสียหายนั้น ในเบื้องต้น แค่นี้พอแล้วจริงๆค่ะ ไม่ใช่การพูดถึงการชดเชยที่เป็นตัวเิงิน หรืออะไรทำนองนั้น ความเสียหายที่เกิดขึ้น อาจจะหนัก - เบา แล้วแต่กรณีนั้น เราว่าความเสียหายที่เกิดขึ้น ที่หนักที่สุดคือ การเสียหายทางความรู้สึกค่ะ ความรู้สึกของเรา ไม่สามารถซื้อได้ด้วยเงิน แต่สิ่งที่จะซื้อได้ก็คือความจริงใจของผู้ประกอบการ ใจให้ใจ เคยได้ยินไม๊คะ (เหมือนคห.ที่ 97 อ่ะคะ) แค่นี้ สำหรับเรา เราว่ามันเพียงพอแล้วคะ จากคุณ : คิดถึงหมีพูห์ เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 15:37:27 A:203.146.213.83 X: TicketID:273287

ความคิดเห็นที่ 99 เค้าขอโทษ ก็ รู้ จัก ยกโทษให้บ้าง ก็แค่นั้น จากคุณ : ann_juliet เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 15:54:35

ความคิดเห็นที่ 100 สำหรับคนหัวสูงบางคนกราบติงมันยังคิดว่าไม่พอ... ขอโทษเล็กๆก็พอแล้ว ผมเคยเจอแมลงในข้าวตอนใกล้หมด ชี้ให้พนักงานดู เค้ามาเปลี่ยนให้ก้พอใจละไม่ต้องขอโทษด้วยซ้ำ จากคุณ : ผืนแผ่นดิน เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 16:31:15

ความคิดเห็นที่ 101 กรณีที่ผมเจอ ถ้าดีมา ผมก็ดีกลับครับ แต่ถ้าแย่มา อย่าได้คิดว่าคืนนี้จะนอนหลับฝันดีเลย ^^ จากคุณ : Fares เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 17:06:58

ความคิดเห็นที่ 102   มันขึ้นอยู่กับกรณี และสภาวะเหตุการณ์ในตอนนั้นนะค่ะ คนที่อยู่ในเหตุการณ์หรือเจอเท่านั้นถึงจะรับรู้หรือรู้สึกได้ดีที่สุด เราก็เจอมาหมดแล้ว ทั้งเส้นผม ทั้งแมลงวัน หนอน แมลงสาป ฝอยขัดหม้อ ก้อนกรวด หนังยาง สิ่งแปลกปลอมอื่นๆปะปนอยู่กับอาหาร หรือแม้กระทั่ง หมาในร้านอาหารโดนสาดน้ำ แล้วสะบัดขน ทั้งน้ำทั้งขนกระเด็นใส่ทั้งอาหาร หน้าและตัวเรา  แต่เหตุการณ์ข้างต้นที่กล่าวมา เราก็ไม่ได้โวยวายหรือเรียกพนักงานหรือเจ้าของร้านมาให้รับรู้เรื่องที่เกิดขึ้น ก็แค่จ่ายเงิน เดินออกร้านไป เพราะเรารู้ว่าเรื่องอย่างงี้มันเป็นเรื่องที่ผิดพลาด และสามารถพบเจอได้ทั่วๆไป ไม่ได้ร้ายแรงอะไรมาก ถึงจะเรียกพนักงานหรือเจ้าของร้านมาให้ดู มันก็แค่นั้น เพราะโอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้นใหม่มันมีได้อยู่ตลอดเวลา  และส่วนมากสิ่งแปลกปลอมที่เราเจอนั้น หรือท่านอื่นๆพบเจอเกือบร้อยทั้งร้อย พบเจอในขณะที่ยังไม่ได้ทานเข้าปากไป หรือทานเข้าปากไปแล้วก็คายออกมาได้ทัน แต่ในเรื่องน้ำผลไม้ผสมพลาสติกปั่น สำหรับเราถือว่าค่อนข้างร้ายแรง ในเชิงต่อสุขภาพต่อร่างกาย (ไม่ใช่ร้ายแรงในเรื่องของความผิดพลาดหรือสะเพร่า  เพราะทุกคนสามารถทำผิดพลาดกันได้) เพราะได้กินพลาสติกเข้าไปแล้ว บางคนอาจจะคิดว่าตอนกินไม่ได้รู้สึกเลยหรือ  มันไม่รู้สึกหรอกค่ะ เพราะใช้หลอดดูด และมันเป็นน้ำปั่น มีเกล็ดน้ำแข็ง ถ้าพลาสติกมันแทรกอยู่ระหว่างน้ำแข็ง แล้วเราดูดเข้าไป เราไม่รู้หรอก ไม่ได้เคี้ยวด้วยเพราะมันเป็นน้ำ ที่เรามาโพสต์ในนี้ ไม่ได้ต้องการเรียกร้องอะไร เพราะถ้าอยากเรียกร้อง อยากให้เค้ามากราบ หรืออยากกินฟรี เราก็เรียกร้องตั้งแต่อยู่ที่ร้านแล้ว  จะมาโพสต์ในนี้เพื่อเรียกร้อง เราว่ามันไม่มีประโยชน์อะไรเลย เพราะเหตุการณ์มันจบไปแล้ว ตั้งแต่เราจ่ายเงินและเดินออกจากร้าน  เราแค่อยากเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น  และให้ผู้ที่ได้อ่านจะได้ระวังตัวมากขึ้นในการรับประทานอาหาร ขอถามย้ำอีกสักครั้งนะค่ะ ว่าการที่เราหรือท่านอื่นๆมาโพสต์กระทู้เรื่องเกี่ยวกับร้านอาหารถึงสิ่งที่เราได้เจอมา คุณๆคิดว่ามันต้องเป็นการโพสต์เพื่อเรียกร้อง ขอความรับผิดชอบกับทางร้านเสมอเลยเหรอค่ะ  ทำไมไม่คิดว่าที่มาโพสต์ เพื่อเป็นการแบ่งปันสิ่งที่ได้เจอมา และให้ท่านผู้อ่าน ได้มีการระมัดระวังขึ้นในการรับประทานอาหารบ้างล่ะค่ะ ส่วนคำพูดที่ชอบพูดกันบ่อยๆว่า  ต้องขอโทษขนาดไหนถึงจะพอ   มีประโยคๆนึงที่เอามาจากในหนังสือ อยากเอามาแบ่งปันกันให้รับรู้  "บางสิ่งบางเรื่องมันไม่สามารถชดเชยกันด้วยคำขอโทษหรือว่าชดเชยด้วยค่าเสียหายแล้วก็จบหรอก เพราะไม่งั้นโลกนี้ก็ไม่ต้องมีกฏหมาย มีตำรวจ หรือศาลแล้ว  สิ่งนั้นก็คือ ความรู้สึกทางจิตใจและชีวิตคน" จากคุณ : Bow_ka เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 17:22:14

ความคิดเห็นที่ 103 สิ่งสำคัญเลย ผมว่า อยู่ที่ คำว่า พอดี นั่นแหละครับ ทางร้าน ก็ต้องตอบแทนลูกค้าให้กับเท่าที่เค้าเสียหาย ส่วนลูกค้าก็ต้อง ใจเย็นบ้างให้อภัยบ้าง ส่วนเรื่องต่างประเทศ ผมคิดนะว่าคนละ วัฒนธรรม คนละประเพณี กัน เรามันเมื่องพุทธ การให้อภัยกัน คือสิ่งที่ดี แต่อย่าลืมว่า ให้อภัยกับคนที่ควรให้อภัย ถ้าคนที่ทำ ผิดแล้วไม่สำนึก เราก็ไม่ควรที่จะให้อภัย ครับ จากคุณ : ElMinZeed เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 17:46:21

ความคิดเห็นที่ 104 แค่แสดงความจริงใจในการขอโทษ แล้วรับปัญหาไปแก้ไขอย่างจริงจัง อาจมีสิ่งตอบแทนเล็กๆน้อยๆให้หายเคือง ตรงนี้อาจกลับกลายเป็นเรื่องประทับใจไปได้ด้วยซ้ำ ในกรณีถ้าคุณเป็นโรงงานอาหารส่งออก เจอสิ่งแปลกปลอมในอาหาร อาจถึงขั้นโดนปิดโรงงานได้เลยนะคะ ต้องเข้มงวดกับพนักงานนิดนึง จากคุณ : miscellaneous เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 18:38:25

ความคิดเห็นที่ 105 ก็ ทำเป็นเอกสาร ยอมรับความผิดพลาดและวิธีการแก้ไข ไม่ให้มันเกิดขึ้นอีกไงครับ แบบหลายๆ ร้านที่เคยมาโพสในนี้และ เค้าก็ทำการแจ้งกลับว่าจะแก้ไขยังไงพร้อมทั้งออกเอกสารเป็นลายลักษณ์ อักษร ครับ รวมถึงในขณะที่เกิดเหตุ ต้องแสดงถึง ความตั้งใจในการรับผิดชอบ มิใช่แบบร้านGU คนเยอะอยู่แล้วไม่ มี มะรึง สักคนคงไม่เป็นไร จากคุณ : nutkung0124 เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 18:42:06

ความคิดเห็นที่ 106 เคยไปกินก๋วยเตี๋ยวรถเข็นในอำเภอที่ทำงานอยู่ กำลังคนๆๆๆ ปรากฎว่าเจอตัวที่เหมือนปลิงอ่ะ ม้วนหัวเลย  โห...โชคดีมากที่วันนี้มัวแต่คนอยู่นั่นแหละ ยังไม่ได้กินสักคำ..เราก็ยกไปแล้วก็ยื่นให้คนขายดู แบบ..เงียบ ๆ..ไม่พูดอะไรเลย แม้กระทั่งเพื่อนที่โต๊ะเราก็ยังไม่พูดอะไร คนขายก็ทำชามใหม่มาให้ เราก็นั่งกล้ำกลืนกินไปสักสองสามคำ แล้วก็กลับไปอ้วกที่ทำงาน... ไม่กล้าโวยวาย ไม่กล้าพูด กลัวคนอื่นกินไม่ลง สงสารคนขายอ่ะ เราว่าเค้าไม่ตั้งใจไม่มีใครอยากให้เป็นแบบนี้ เฮ้อ แต่ที่น่าสงสาร คือตัวเองมากกว่า จากคุณ : เอื้ออารี เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 19:05:15

ความคิดเห็นที่ 107 ร้านบางร้าน สร้างมาทั้งชีวิต กลับต้องมาพังเพราะกระทู้เดียว จากคุณ : HowpengInHouseCAT เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 19:52:58

ความคิดเห็นที่ 108 หวังว่า คนที่ไม่รู้จักพอ คงจะได้เข้ามาอ่านแล้วคิดได้เสียบ้างนะครับ จากคุณ : เม็ดทรายสีฟ้า เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 19:54:21

ความคิดเห็นที่ 109 เราเคยไปทำงานที่ เมกาอ่า เป็นพนักงานเสริฟอาหาร มีครั้งนึง เราหันหลังจัดของอยู่ หันกลับมาเจอลูกค้ายืนรอ เราก็กลัวเค้ารอนานไง เลยไม่ทันได้ใส่ "ถุงมือยาง" แต่ก็ใช้ทัพพี กับที่คีบ ตักอาหาร นะ ไม่ได้ใช้มือเปล่าหยิบ โดนฝรั่งว่า "คุณควรจะใส่ถุงมือนะ" แล้วทำให้หน้าเหวี่ยงๆ เลยต้องตักจานใหม่ให้ชี ไป เราว่าบางเรื่องฝรั่งมันก็มากไปนะ =*= เราเลยคิดว่า ถ้ามันเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ อย่างเส้นผม หนอนในผัก ฝอยขัดหม้อ ก็น่าจะแค่บอกพนักงานดีๆ ให้เขารับรู้ไว้ (คิดในแง่ดี มันก็เป็นเส้นผม หนอน ฝอยขัดหม้อที่ฆ่าเชื้อ มาแล้วนะ 5555) ไม่รู้นะ ถ้าเทียบสังคมไทย กับฝรั่ง ถ้าจะให้แบบเอาเรื่องถึงขนาดปิดกิจการ แบบต่างประเทศ เพื่อรักษามาตรฐานความสะอาดไรงี้ เราชอบสังคมไทยที่เป็นแบบให้อภัยต่อกัน หนักนิด เบาหน่อยก็หยวนๆกันไป แต่ถ้าเป็นกรณีที่ บอกแล้ว แต่เหวี่ยงกลับมา เหมือนลูกค้าชั้นเยอะ ไม่ง้อ ไรงี้ ก็จะเป็นอีกอารมณ์นึง จากคุณ : Ducky_Evil เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 20:34:34

ความคิดเห็นที่ 110 เดินทางสายกลางบ้างก็ดี สังเกตุไหม หยุดยาวทีไร ก็แห่แหนกันไปที บางร้านพนักงานก็งง นะ โหร้านเราดังขนาดนี้เลยเหรอ รับมือกันไม่ทัน ยิ่งร้านไหน เก็บค่าบริการ 10% ก็โดนวัดระดับการบริการมาก อะไรที่มันมากไป ก็ลดลง อะไรที่มันไม่ใส่ใจ ก็เพิ่มขึ้นมาบ้างอะไรบ้าง....คนเราเดี๋ยวนี้มารยาทเปลี่ยนไป จากคุณ : lovescooter (lovescooter) เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 20:55:47

ความคิดเห็นที่ 111 ไม่ต้องการอะไรมากหรอกค่ะแค่ แค่คำขอโทษอย่างจริงใจ เราก็พร้อมให้อภัยได้เสมอ เพราะทุกอย่างย่อมผิดพลาดกันได้เสมอ... จากคุณ : Mu_jumP เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 21:12:11