ความคิดเห็นที่ 1 ขอบคุณครับ ข่าวดีๆ จากคุณ : หนูหริ่ง (chaleambui) เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 11:58:34

ความคิดเห็นที่ 2 ว๊าย   เราเอามาผัดประจำเลย จากคุณ : tweewat เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 12:11:15

ความคิดเห็นที่ 3 ขอบคุณค่ะ เวรกรรมล่ะคราวนี้ เราใช้ผัดใช้เจียวไข่มา ๗-๘ ปีแล้วอ่า จิตตก จากคุณ : Guga เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 12:11:27

ความคิดเห็นที่ 4 ขอบคุณค่า ที่เอาสาระดีๆมาบอก ดีน๊าที่หนูไม่มีปัญญาซื้อมาทาน 5555+ จากคุณ : ปลาทองป๊องป่อง เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 12:11:56

ความคิดเห็นที่ 5 ว๊ายยยยยย!!! ^^ จากคุณ : เชฟกระทะหล่น (Are Yoi) เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 12:20:50

ความคิดเห็นที่ 6 ว๊ายยยยยยยย (คุกกี๊หล่น!!) จากคุณ : Juicy Pu เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 12:27:06

ความคิดเห็นที่ 7 แล้วเวลาผัดพาสต้าหละครับ มันก็เกิดควันนะ จากคุณ : aeiorb เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 12:29:37

ความคิดเห็นที่ 8 Extra-virgin Olive Oil ..กลิ่นมันแรงไม่ค่อยชอบเลย เอาไว้ทำสลัดอย่างเดียวค่ะ กับคลุกเส้นสปาเกตตี้ จากคุณ : never the last เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 12:33:09

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณค้าบ รุสึกว่าที่บ้านจะใช้ จากคุณ : PoRPe Kowpan เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 12:38:26

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณค่ะ จากคุณ : เหมียว beautycats เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 12:58:07

ความคิดเห็นที่ 11 มีผลวิจัยอะไรยืนยันมั้ยครับ หรือว่าแค่เสียงลือเสียงเล่าอ้าง พูดถึงควัน ควันอะไรมันก็สารก่อมะเร็งทั้งนั้นแหละครับ แต่มันเข้มข้นมากน้อยแค่ไหนก็ว่ากันไป จากคุณ : ผีฟรีคิก เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 13:24:03

ความคิดเห็นที่ 12 น้ำมันเจอความร้อน มันก็เกิดควันกันทั้งนั้นนะคะ ลองดูเวลาเราทอดปลา ทอดไข่ก็ได้ เราต้องสังเกตให้น้ำมันมันควันขึ้นเล็กน้อย ก่อนที่จะเอาปลามาลงทอดกันทั้งนั้น จากคุณ : ~~ช้างน้อยร้อยโล~~ เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 14:00:30

ความคิดเห็นที่ 13 ลองไปตั้งที่หว้ากอ มั้ยครับ เผื่อจะได้ข้อมูลจริงๆ จากคุณ : ยุ่งจิง เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 14:03:11

ความคิดเห็นที่ 14 อยากจะบอกว่าอ่านเป็น extra viagar   555  สงสัยจะตาไวเกินไปหน่อย ^^ จากคุณ : =ทาร์ตน้ำตาลข้น= เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 14:23:20

ความคิดเห็นที่ 15 น้ำมันแต่ละชนิดจะมีจุดเดือดไม่เท่ากันครับ เมื่อน้ำมันร้อนจนเป็นควันจะมีสารก่อมะเร็งเกิดขึ้นครับ เพราะฉะนั้นควรใช้น้ำมันให้ถูกประเภทกับการทำอาหาร เช่น จะทอดก็ใช้น้ำมันจุดเดือดสูง ส่วนน้ำมันมะกอกจุดเดือดต่ำมากครับ อีกอย่าง extra virgin เอาไว้ผสมกับอาหาร เช่น สลัด แซนด์วิช เพราะจะมีกลิ่นลูกมะกอกเด่นด้วย ถ้าจะผัดหรือทอด ใช้ olive oil ธรรมดาก็ได้ครับ คคห 19 ของคุณ dragonite ตอบคำถามได้ดีมากครับ แก้ไขเมื่อ 14 ส.ค. 53 18:42:10 จากคุณ : korkij เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 15:04:43

ความคิดเห็นที่ 16 ลองดูข้อมูลเพิ่มเติมในนี้ครับ http://www.metrosafety.co.th/food/Tip.php?subaction=showfull&id=1192450016&archive=&start_from=&ucat=33& บ คคห 19 ของคุณ dragonite ตอบคำถามได้ดีมากครับ แก้ไขเมื่อ 14 ส.ค. 53 18:42:20 จากคุณ : korkij เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 15:07:01

ความคิดเห็นที่ 17 รบกวนอ่าน กระทู้นี้ก่อนจะเชื่อนะครับ http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X9567870/X9567870.html http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X9565662/X9565662.html อย่าเชื่อแค่เพราะว่าออกทีวีนะครับ อย่างรายการนึงที่เอา fwd mail มาออกข่าวโดยไม่ได้กรองข่าวกันก่อน เช่นเรื่อง กุ้งกับวิตามินซี,ประเทศไทยเปลี่ยนเวลา,genpet หลายๆเรื่องแล้ว เพราะบางรายการไม่มีการตรวจสอบข้อมูลก่อนจะเอามาออกนะครับ เรียกอีกอย่างว่ามักง่าย จากคุณ : ccjn เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 15:13:14

ความคิดเห็นที่ 18 มาเก็บความรู้ค่ะ ขอบคุณสาระดีๆ จากทุกท่านนะคะ จากคุณ : เชฟตูน บ้านหวานเย็น เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 16:32:51

ความคิดเห็นที่ 19 มันจะเกิดสารก่อมะเร็งต่อเมื่ออุณหภูมิเกิน smoke point ขึ้นไปแล้วซึ่งน้ำมันจะเริ่มเปลี่ยนสภาพ ซึ่งถ้าจะทำอาหารผัด ก็ขึ้นกับว่าคุณผัดที่อุณหภูมิสูงเท่าไหร่ และนานแค่ไหน ปกติอาหารผัดไม่ได้ใช้อุณหภูมิสูงและนานมากแบบของทอด ส่วนน้ำมันพวก virgin olive oil นั้น smoke point จะไม่สูงมากนัก ปกติจึงไม่แนะนำให้เอาไปทอดอาหารซึ่งต้องใช้อุณหภูมิสูงระดับหนึ่งในเวลานานๆ (อาจจะเกือบ 200'C หรือกว่านั้นถ้าไม่คุมให้ดี) ซึ่งจะว่ากันไปจริงๆแล้ว ถ้าจะเอาการทอดแบบคุมอุณหภูมิจริงๆแบบฝรั่ง เขาก็ว่ากันว่าแค่ราวๆ 180'C ก็พอเหมาะแล้วกับการทอดอาหารทั่วๆไป smoke point ของ extra virgin olive oil ราวๆ 190 ส่วน virgin olive oil ก็ราวๆ 210 (ลองเทียบกับ palm oil ที่จะราวๆ 230-240'C) ถ้า olive oil พวกใช้การสกัดโดยสารเคมีก็มักมี smoke point สูงกว่านี้อีกหน่อย จะเห็นได้ว่า ถ้าเอา extra virgin ไปใช้กับการทอด ก็ค่อนข้างเสี่ยงกับการที่อุณหภูมิจะสูงเกินไปว่า smoke point ได้ง่าย ฉะนั้นแล้วจริงๆแล้วพวก extra virgin olive oil เอามาผัดได้......ถ้ารวย และไม่สนใจว่ากลิ่นอันเป็นคุณสมบัติสำคัญที่ต้องจ่ายแพงเพื่อ extra virgin olive oil จะหายไปกับความร้อนในการผัด จากคุณ : dragonite เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 17:13:28

ความคิดเห็นที่ 20   ว้าย...(มั่ง) มะเร็งจริงไม่จริง อันนี้ไม่รู้ครับ แต่ตอนทำงาน(ทำอาหาร) เวลาผัดผมจะใช้ pomace oil ซึ่งเป็นน้ำมันมะกอกผสมกับน้ำมันพืช แน่นอน มันมีราคาถูกกว่าน้ำมันมะกอกล้วน อย่างพาสต้าเนี่ยก็จะผัดด้วย pomace oil พอใส่จานแล้วค่อยฉีด extra virgin olive oil ตามลงไปก่อนเสิร์ฟ แบบนี้ก็หอมได้โดยไม่ต้องเอา extra virgin ไปผัดครับ(จริงๆแล้วเน้นประหยัด) จากคุณ : Chef_vee เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 17:54:06

ความคิดเห็นที่ 21 เราใช้เอามาทำน้ำสลัดกับคลุกพาสต้าค่ะ เคยอ่านมาเหมือนกันค่ะ จากคุณ : ฟ้าสวยมาก เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 18:16:13

ความคิดเห็นที่ 22 ตามนั้นค่ะ  แต่ไม่น่าจะรุนแรงขนาดนั้นมั้งคะ จากคุณ : ก้านดอกบัว เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 18:48:08

ความคิดเห็นที่ 23 เอามาผัดได้ แต่ไม่ควรเอาไปใช้แบบ deep fried เพราะจุดเดือดเค้าจะต่ำ ลองสังเกตุอาหารทางประเทศแถบที่ต้องใช้น้ำมันมะกอกทำกับข้าว(อิตาลี สเปน) จะไม่ค่อยมีอาหารที่ต้องใช้ของทอดน้ำมันเยอะๆแบบทางเอเชียมากนัก เลยไม่มีน้ำมันมะกอกสำหรับทอดน้ำมันเยอะสักเท่าไหร่ จากคุณ : Babesi เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 19:37:32

ความคิดเห็นที่ 24 ใช้ผัดได้ค่ะ แต่อย่าใช้ความร้อนสูง และอย่าทอดนานค่ะ จากคุณ : PartyLM เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 21:35:07

ความคิดเห็นที่ 25   ว๊ายยย... ตรูจะว้ายกับเค้าทำไมเนี่ย.... จากคุณ : kongpair เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 02:48:19

ความคิดเห็นที่ 26 ไม่รู้จริง ๆ เหรอครับ เรื่องการไม่ควรนำน้ำมันบางชนิดมาใช้ความร้อนทำอาหาร อย่างที่คุณ dragonite บอกนั่นแหละ น้ำมันหลาย ๆ ชนิดก็จะมีจุดเกิดควัน (smoke point) แตกต่างกัน เช่น olive จุดเกิดควันจะต่ำกว่าเพื่อน และน้ำมันรำข้าว จุดเกิดควันจะสูงกว่าน้ำมันหลาย ๆ ชนิด แล้วมันดีไม่ดีอย่างไร คือว่า ถ้าน้ำมันถูกความร้อนจนถึงจุดเกิดควันแล้ว มันจะเป็นการสร้างสาร toxins ที่เป็นสารก่อมะเร็งขึ้นมาครับ แล้วจะรู้ได้ไงว่าน้ำมันร้อนจนถึงจุดเกิดควันแล้ว ... ก็ง่าย ๆ ถ้าคุณให้ความร้อนจนควันมันขึ้น ตรงนั้นแหละครับ คุณสามารถเลือกได้เลยว่า จะใช้น้ำมันนั้นต่อ หรือว่าควรจะทิ้งไปซะดี เพราะมันไม่ดีต่อสุขภาพแล้วล่ะ เค้าถึงแนะนำให้ทานน้ำมัน olive แบบเย็น และใช้พวกน้ำมันถั่วเหลืองหรือรำข้าวในการผัดทอดไงครับ แต่ข้อเสียของน้ำมันรำข้าวเวลาใช้ทอด มันก็คือจุดเกิดควันมันสูง ดังนั้นบางคนไม่รู้ เห็นน้ำมันนิ่ง ๆ โยนของทอดลงไป แป๊บเดียวไหม้ซะแล้ว เพราะว่าในน้ำมันอุณหภูมิมันสูงมาก (กว่าที่คิด) แต่ถ้าใครพอจะชิน หรือกะความร้อนถูกต้อง ก็ไม่ค่อยจะมีปัญหาในส่วนนี้เท่าไหร่ เรื่องคุณสมบัติ สารโน่นสารนี้ วิตามิน E ไม่ต้องไปซีเรียสมากหรอกครับ หายไปเพียบตั้งแต่โดนความร้อนแล้ว ยิ่งความร้อนระดับผัดทอดด้วยล่ะก็นะ ส่วนน้ำมัน Olive Extra Virgin ใช้สำหรับทานกับสลัด หรือทานเย็น ๆ ดีที่สุดครับ เพราะคุณค่าทางอาหารอยู่ครบถ้วน ถ้าจะใช้กับความร้อน ให้ชัวร์ว่าความร้อนไม่มาก และใช้แค่ pomace ก็พอ จากคุณ : Morning Star เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 05:55:17

ความคิดเห็นที่ 27 อ่านความเห็น คุณช้างน้อยร้อยโล #12 แล้วก็เป็นห่วง ถ้าสามารถปรับปรุงได้ ใช้การกะความร้อนด้วยการปรับไฟ หรืออังมือ (ระวังหน่อย) จะดีกว่านะครับ การที่คุณรอให้น้ำมันขึ้นควัน แล้วค่อยเอาปลาลงทอดน่ะ .... ไม่ดีเลยนะครับ ผลร้ายมันไม่ได้มาในระยะสั้นนะครับ มันมาตอนที่แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว จากคุณ : Morning Star เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 05:59:55

ความคิดเห็นที่ 28 ว้าย... (เลียนแบบเค้าบ้าง) บ้านเราใช้น้ำมันมะกอกแบบนี้ตลอดเลย ไม่ได้รวยนะคะ แต่เพื่อสุขภาพของครอบครัว เวลาป่วยจะเสียค่าซ่อมแพงกว่าค่าน้ำมันอีกค่ะ จากคุณ : คุณกุ๋ย เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 20:19:24

ความคิดเห็นที่ 29   จริงๆที่รายการเค้าบอกก็ไม่ผิดนะครับว่า ถ้าเอา extra virgin olive oil มาทำอาหารประเภทผัด อาจเป็นอันตราย และก่อให้เกิดมะเร็งได้ (ตามหลักวิทยาศาสตร์ที่ผมเรียนที่รร ในอังกฤษ และทุกคนก็ยอมรับว่าเป็นเรื่องที่รับรู้กัน) แต่ในขณะเดียวกัน ในการทำอาหารผัดบางครั้งก็ไม่อ้นตรายเสมอไป อยู่ที่ลักษณะการปรุงครับ เช่น ถ้าเราผัดผักแบบไทย/จีนโดยใช้ extra virgin อันตรายแน่นอน เพราะคนไทย/จีน เราจะใส่น้ำมันลงในกระทะรอจนให้ร้อนจัด หรือบางคนอาจเจียวกระเทียมก่อน แล้วจึงใส่ผักลงไปผัด ซึ่งตอนรอกระทะให้ร้อน หรือรอกระเทียมให้หอม จะใช้ความร้อนมาก รายการอาหารที่อังกฤษเกือบทุกรายการจะออกมาเตือนเสมอๆว่าไม่ควรทำแบบนี้ เพราะอันตราย แต่เวลาที่ฝรั่งทำอาหาร (ผมไม่รู้ที่อื่นเป็นยังไงนะครับ แต่ที่ผมอยู่ เด็กนักเรียนในโรงเรียน พ่อแม่ผู้ปกครอง และชาวบ้านทั่วไปได้รับการสั่งสอนกันมาแบบนี้) คือ วิธีที่ 1 ใช้ extra virgin ได้ แต่เทลงกระทะตั้งแต่เริ่มเปิดไฟเลย (ตอนนั้นกระทะยังไม่ร้อน) แล้วกระทะก็ค่อยๆอุ่นขึ้น ไม่ต้องรอให้กระทะร้อนมากแบบไทย แต่ให้เราเอาผักหรือเนื้อลงไปผัดคลุกให้น้ำมันเคลือบเลย ทำแบบนี้ทำให้อุณหถูมิของน้ำมันที่ต้องสัมผัสกับกระทะไม่สูงเกินไป เนื่องจากน้ำจากผักหรือเนื้อก็จะออกมาเจือจางน้ำมันด้วย ไฟจะค่อยๆร้อนขึ้น คราวนี้จะผัดหรือจะทำอะไรก็ตามสบาย วิธีที่ 2 ให้ใส่น้ำลงกระทะก่อน ใส่แค่นิดเดียวพอ รอจนร้อน แล้วเอาผักหรือเนื้อที่เราต้องการลงผัด เหมือนกับการผัดกับน้ำ พอผัดไปได้สักพัก ค่อยๆเติม extra virgin ลงไปคลุกเคล้า วิธีที่ 3 ถ้าต้องผัดพวกหัวหอมใหญ่กับน้ำมันให้หอมก่อน (เช่นจะทำพวกพาสต้าต่างๆ) ซึ่งต้องใช้ไฟแรงพอควร ให้ใช้ light olive oil แทน เทน้ำมันลงกระทะตั้งแต่ยังไม่ร้อน รอแค่ให้กระทะเริ่มร้อน แต่อย่าให้เป็นไอ แล้วใส่หอมสับลงไปผัดจนหอมได้เลย บางคนก็นิยมใส่หอมหรือเนื้อตั้งแต่กระทะยังไม่ร้อนด้วยซ้ำ พอผัดจนหอมแล้วจะใส่อะไรต่อไปก็ตามสะดวก วิธีที่ 4 ถ้าจะทอดไข่ดาว ทำไข่เจียว หรือทอดพวกหมูชิ้นเล็กแบบหมูกระเทียบ หรือทอดปลา จะใช้น้ำมันพืชชนิดอื่น จะมีคนที่ใช้ light olive oil บ้างก็ต่อเมื่อตอนนั้นที่บ้านไม่มีน้ำมันถั่วเหลืองหรือน้ำมันข้าวโพดจริงๆ เพราะการทำอาหารแบบนี้ใช้ไฟแรงหรือต้องใช้เวลาค่อนข้างนาน ส่วนมากแล้ว extra virgin olive oil จะเอามาใช้ทำน้ำสลัดมากกว่า หรือไม่ก็เอาใส่ในอาหารผัดที่ผัดด้วยน้ำมันชนิดอื่นเสร็จเรียบร้อยแล้ว แล้วค่อยราด extra virgin ลงไป หลังจากที่ตักใส่จานแล้ว แต่ถ้าทำอาหารที่ต้องเข้าเตาอบ เช่นจะอบ roast veg ต่างๆ หรืออบไก่แล้วจะให้หนังนุ่ม+ชุ่ม ก็จะใช้น้ำมันพืชอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่ olive oil เอามาคลุกผักหรือทาผิวไก่ครับ อีกนิดสำหรับสาวๆครับ คนอังกฤษใสสมัยยุควิคตอเรีย จะเอา extra virgin olive oil มาทาหน้า นวดเบาๆซักประมาณ 10-15 นาที แล้วเอาสำลีชุบน้ำอุ่นเช็ดออก จะเป็นการทำความสะอาดผิวหน้าได้อย่างดีเยี่ยม และยังเป็นการบำรุงผิวอีกด้วย ปัจจุบันก็ยังมีคนใช้วิธีนี้อยู่ครับ ผมคิดว่าคงเหมือนกับที่ไทย เมื่อไม่นานมานี้ที่นิยมเอาน้ำมันมะพร้าวมานวดหน้า ผมเคยเอา extra virgin olive oil มาเช็ดหน้าเหมือนกัน ถ้าเป็นชนิดดีๆนี่ เช็ดออกด้วยน้ำอุ่นแล้วหน้าไม่เหนียวเหนอะหนะเลยครับ จากคุณ : Alpro นะ ไม่ใช่ A-Pro เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 07:59:28 A:109.246.5.90 X: TicketID:141052

ความคิดเห็นที่ 30   เอ่อ...ผมย้อนกลับไปอ่าน คห 29 ที่ผมเขียนก็งงเองเล็กน้อย เอาเป็นว่า วิธีง่ายๆที่ชาวบ้านแถวนี้ทำกันก็คือ ถ้าทำพวกผัดผัก ผัดพาสต้าต่างๆ ก็ใช้ light olive oil เทใส่กระทะตั้งแต่เริ่มเปิดไฟเลย จะรอให้กระทะอุ่นขึ้นมานิด หรือไม่รอก็ได้ ก็ให้ใส่ผักหรือเนื้อสัตว์ลงไปคลุก ผัดไปได้เลย พอทำเสร็จแล้วอยากให้หอมก็ตักใส่จานแล้วค่อยเท extra virgin ลงไปประมาณ 2-3 ช้อนโต๊ะ ถ้าจะทอดไข่ ปลา หมู ไก่ แนวๆที่มีแต่เนื้อแล้วต้องใช้น้ำมันมากหน่อยคล้ายๆเราทำหมูกระเทียม พวกนี้ควรใช้น้ำมันพืชชนิดอื่นครับ วันก่อนมีรายการทางโทรทัศน้ เป็นรายการเกี่ยวกับสุขภาพ เปรียบเทียบคนที่เป็นโรคหัวใจในประเทศอังกฤษกับอิตาลี่ ไม่แน่ใจในรายละเอียดนะครับ เพราะไม่ได้ตั้งใจฟัง จำได้คร่าวๆว่า เค้าสรุปว่ากิน extra virgin olive oil จะช่วยลดปัญหาโรคหัวใจได้ โดยคนที่เข้าทำการทดลองต้องดื่ม olive oil ประมาณ 1 แก้วต่อวันหรืออะไรนี่หละ แต่รายการบอกว่า เป็นการทดลองเชิงวิทยาศาสตร์ ในชีวิตจริงเราคงไม่ต้องไปกินน้ำมันเพียวๆ เพราะจริงๆแล้วมันมีหลายสาเหตุ หลายปัจจัย ให้เรากินในรูปที่มากับอาหารดีกว่า เพราะถ้ากินเพียวๆ ถึงแม้จะแค่ช้อน สองช้อน มันก็พะอืดพะอมพอควร หรือถ้าใครอยากกินจริงๆ ก็เอามาราดบนขนมปังเลยครับ จะได้ไม่เลี่ยนเกินไป จากคุณ : Alpro นะ ไม่ใช่ A-Pro เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 08:28:25 A:109.246.5.90 X: TicketID:141052

ความคิดเห็นที่ 31 เขาคงไม่ให้ร้อนจนขึ้นควันละมังคะ แต่ถ้ายังกังวลอยู่ ยกให้อิฉันทั้งขวดก็ได้นะคะ จากคุณ : แม่ค้าลูกชิ้นนึ่ง เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 09:15:57

ความคิดเห็นที่ 32 Extra Virgin ราคาแพง พอไปทำให้ร้อน รสชาติเปลี่ยน ไม่น่าจะแตกต่างกับการ ใช้ Olive Oil ธรรมดา   แต่เวลาทำ Spaghetti Garlic and Oil ทุกเชฟก็แนะนำให้ใช้น้ำมันมะกอกที่ดีที่สุด ดังนั้น เขาคงจะแนะนำพวกที่จะเอา Extra Virgin ไปทอดมากกว่า อาหารพวกที่ต้องการการทอดในน้ำมันลอย ทั่วไปเขาแนะนำให้ใช้ Extra Virgin เมื่อเราต้องการรสชาติแท้ๆ ของ Extra Virgin Olive Oil ก็ต้องทานแบบอุณหภูมิห้อง นำมาทานกับสลัด จิ้มขนมปัง จากคุณ : swin เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 13:09:29