ความคิดเห็นที่ 1 ภาษาถิ่นจะเรียกกันสั้นๆว่า  “ลูกจัน”  ซึ่งหมายถึง “จันทน์เทศ”  ถ้า เป็น “ลูกจัน”  อีกชนิดหนึ่งมักจะเรียกว่า  “จันหอม”  ซึ่งหมายถึง  “จัน อิน” หรือ “จันโอ” “จันทน์เทศ”  ที่ยังไม่แก่จัดลูก/ผลจะมีสีเขียว จากคุณ : สายอ้อ เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 53 22:19:56

ความคิดเห็นที่ 2 เมื่อแก่จัดก็จะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง จากคุณ : สายอ้อ เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 53 22:20:31

ความคิดเห็นที่ 3 สำหรับจันทน์เทศขนาดที่จะนำมาแช่อิ่ม  จากการสอบถามจาก “มือ อาชีพ” ที่ทำมานาน   “ถ้าจะทำเป็นดอก  ต้องไม่แก่หรืออ่อนเกินไป กลีบดอกที่จะทำอย่าให้ บางมากนัก  แล้วก็พับเอาไว้ด้วยก่อนแช่น้ำเกลือ”   พูดไปก็เลือกจันทน์ เทศไปด้วย “สิบลูกก็พอแล้ว  แค่อยากลอง  ยังไม่รู้เลยว่าจะทำได้หรือเปล่า” จากคุณ : สายอ้อ เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 53 22:21:44

ความคิดเห็นที่ 4 ก่อนจะลงมือปอกเปลือกเตรียมน้ำเกลือเข้มข้น  สำหรับแช่จันทน์เทศ หลังปอกไว้ก่อน  ใช้เกลือเม็ดละลายน้ำ  ค่อยๆเติมเกลือไปเรื่อยๆ  จน เกลือที่เติมลงไปไม่ละลาย  หรือจะชิมเอาก็ได้ครับ  แต่ต้องเค็มมากๆ จากคุณ : สายอ้อ เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 53 22:22:28

ความคิดเห็นที่ 5 ปอกแล้วแช่น้ำเกลือทิ้งไว้ 1 คืน  ใช้มีด (แกะสลัก) ในลักษณะที่เหมือน กับการ “ปอกเปลือก”  แต่เป็นการปอกเปลือกที่ไม่ขาดออกจากกัน  เริ่ม จากส่วนก้นจากตรงกลางลงไปหาขั้ว   ลูกแรกเมื่อทำกลีบชั้นนอกสุด  บางมาก  และปอกลงไปเกือบถึงขั้ว  ดู แล้วก็ไม่น่าจะใช่  เมื่อลองพับกลีบตามคำแนะนำ  พับแล้วไม่สามารถ คงรูปอยู่ได้  กลายเป็นกลีบบาน สรุปว่าใช้ไม่ได้  ลูกต่อมาเพิ่มความหนาของส่วนที่จะทำกลีบให้มาก ขึ้น  ปอกลงไปประมาณ   3 ส่วน 4  ของลูก/ผล   แล้วพับกลีบเข้าด้าน ใน   จะได้หน้าตาแบบนี้ จากคุณ : สายอ้อ เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 53 22:23:41

ความคิดเห็นที่ 6 แต่ก็ยังคิดว่า  “ไม่พับกลีบน่าจะสวยกว่า” หลังจากทำตามคำแนะนำไป 1 ดอก  ที่เหลือก็ทำตามที่คิด เริ่มจาก กลีบชั้นนอกสุด  จะทำกี่กลีบก็ได้ครับขึ้นอยู่กับคนทำจะกำหนด เอาเอง จากคุณ : สายอ้อ เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 53 22:24:39

ความคิดเห็นที่ 7 ชั้นต่อๆมาก็ปอก  ให้ได้จำวนกลีบเท่ากับชั้นนอก  ถ้ากลีบแต่ละชั้นไม่ ตรงกัน น่าจะสวยกว่า  ซึ่งบางดอกก็ทำได้  แต่บางดอกกลีบก็ตรงกัน หมด  กลีบดอกที่ทำได้  4   ชั้น จากคุณ : สายอ้อ เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 53 22:25:21

ความคิดเห็นที่ 8 ชั้นในสุดจะหุ้มเมล็ดอยู่  ใช้วิธี ผ่า เพื่อนำเมล็ดออกมา  จะผ่าให้จำนวน กลีบเท่ากับชั้นอื่นๆ  หรือน้อยกว่าก็ได้  ที่ทำก็มีทั้งเท่ากันและน้อยกว่า จากคุณ : สายอ้อ เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 53 22:26:06

ความคิดเห็นที่ 9 ผ่าออกมาแล้วนำเมล็ดไปตากให้แห้งสนิท  ก็จะได้ “ลูกจันทน์”  ไว้ สำหรับเป็นส่วนประกอบสำหรับอาหารบางชนิด  ที่ต้องการกลิ่นลูก จันทน์ จากคุณ : สายอ้อ เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 53 22:26:57

ความคิดเห็นที่ 10 ขณะผ่าชั้นที่สาม  ถ้าใช้มีดพลาดไป  ก็จะทำให้ชั้นสุดท้ายเสียหายได้ ครับ จากคุณ : สายอ้อ เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 53 22:27:37

ความคิดเห็นที่ 11 มาถึงตรงนี้กับสิ่งที่คิด  “ไม่พับกลีบน่าจะสวยกว่า”  ดูแล้วมีแววเป็นไป ได้ครับ  เมื่อเปรียบเทียบกับดอกที่ทำตามคำแนะนำคือพับกลีบ ทำไปจนหมด เมื่อดูดอกแรกๆที่แช่อยู่ในน้ำ  เริ่ม “หุบ”  ไม่บานเหมือน ตอนที่ทำใหม่ๆ จากคุณ : สายอ้อ เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 53 22:28:25

ความคิดเห็นที่ 12 ล้างให้สะอาด  แต่ให้เหลือความเค็มไว้บ้าง (ใช้วิธีชิมเอาครับ)  เมื่อแช่ อิ่มแล้วจะได้รสหวานที่เข้มขึ้น  พักให้สะเด็ดน้ำ  จะเห็นว่าลูกจันทน์ไม่มี ลักษณะที่จะเป็นตอกไม้เหมือนตอนที่ทำใหม่ๆเลย ก่อนแช่ในน้ำเชื่อม  ตัดขั้วทิ้งด้วยครับ (ที่เห็นเป็นชิ้นๆ คือชิ้นส่วนของลูกแรกที่ทำแล้วใช้ไม่ได้  กับส่วนที่เป็น กลีบชั้นอกของลูกที่ 2ซึ่งปอกลึกเกินไป  ลูก/ผลกลางแถวล่างสุด) จากคุณ : สายอ้อ เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 53 22:29:57

ความคิดเห็นที่ 13 ต้มน้ำเชื่อมไม่ต้องเข้มข้นมากนัก  เพราะจะต้องต้มน้ำเชื่อมสองครั้ง น้ำประมาณหนึ่งถ้วยครึ่ง กับน้ำตาลทรายหนึ่งถ้วย  แต่ต้องดูให้ปริมาณ น้ำเชื่อมที่ได้ให้ท่วมลูกจันทน์ด้วยครับ   พักน้ำเชื่อมที่ได้ให้เย็นสนิท   ก็นำลูกจันทน์แช่ในน้ำเชื่อม  ทิ้งไว้หนึ่ง คืน  นำน้ำเชื่อมไปต้มอีกครั้ง  เคี่ยวให้น้ำเชื่อมงวดลงเล็กน้อย  เมื่อเย็น สนิทก็นำลูกจันทน์ลงไปแช่ทิ้งไว้อีกหนึ่งคืน จากคุณ : สายอ้อ เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 53 22:31:46

ความคิดเห็นที่ 14 จันทน์เทศที่ดูเป็นดอกไม้เหลือเพียงดอกเดียว  คือดอกที่พับกลีบตั้งแต่ ครั้งแรก   ที่ไม่ได้พับกลีบไว้ไม่เป็นดอกไม้เหมือนที่คิด   “ไม่พับกลีบน่าจะสวยกว่า”  ก็น่าจะเป็น “ความคิดที่ผิด” แต่ก็ยังแก้ไขได้  เพราะสามารถนำมาพับกลีบก่อนจะแช่ลงในน้ำเชื่อม ครั้งที่สองได้  แต่จะทำยากกว่าการพับตั้งแต่ครั้งแรก  กลีบที่ค่อนข้าง บางเมื่อพับแล้วก็จะหลุดออกได้บ้าง แบบไหนดูดีกว่าก็คงขึ้นอยู่กับคนมอง มุมบนซ้ายมือคือดอกที่พับกลีบตั้งแต่ตอนที่ทำ  ที่เหลือพับกลีบทีหลัง จากคุณ : สายอ้อ เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 53 22:33:43

ความคิดเห็นที่ 15 หลังจากนั้นก็นำขึ้นจากน้ำเชื่อม  เก็บในตู้เย็น น้ำเชื่อมที่เหลือนำไปผสมกับน้ำอัญชัน  จะได้น้ำอัญชันที่ไม่เปลี่ยนสี   และมีกลิ่นหอมของลูกจันทน์ ใครได้จันทน์เทศสดเป็นของฝาก  ก็ลองดูครับ  แช่อิ่มแล้วรสชาติจะ ต่างกับสดๆมากมาย ใครไม่เคยกิน  ช่วงนี้ลองไปหาได้ในงานโอทอปที่เมืองทอง  น่าจะเจอ ครับ ยังไงก็ ชิม ก่อนซื้อนะครับ  เพราะมีเพื่อนหลายคนกินไม่ได้ จากคุณ : สายอ้อ เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 53 22:35:15

ความคิดเห็นที่ 16 ได้จันทน์เทศแช่อิ่มพร้อมๆกับคุณทิพย์ (สาววิเศษ)  ชวนทำเค้กฝอยๆ   http://www.pantip.com/cafe/food/topic/D9604919/D9604919.html แถวบ้านไม่มีฝอยทองที่ถูกใจ จะทำเองก็ยังไม่ได้ลอง  เลยเอาจันทน์ เทศแช่อิ่มมาทำให้เป็นฝอยเพื่อใช้แทนฝอยทอง จากคุณ : สายอ้อ เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 53 22:36:26

ความคิดเห็นที่ 17 ไม่ได้คาดหวังอะไรมากนัก  แค่อยากทำ   ที่คุณทิพย์บอกไว้มีกลิ่นวนิลา  แต่จันทน์เทศก็มีกลิ่นอยู่แล้ว  ก็เลยไม่ ใช้วนิลา   จันทน์เทศฝอยทั้งหมด  น้ำหนัก  85   กรัม แบ่งครึ่งส่วนผสม  ครึ่งแรกใช้จันทน์เทศกรุก้นพิมพ์ ส่วนที่สอง  ใส่จันทน์เทศลงในส่วนผสม ส่วนแรกที่ได้  น้ำหนักจันทน์เทศ  5  กรัม  ทำครั้งต่อไปจะเพิ่มจันทน์ เทศเป็น  10  กรัม จากคุณ : สายอ้อ เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 53 22:37:44

ความคิดเห็นที่ 18 ส่วนที่สอง  ใส่เนื้อจันทน์เทศลงในส่วนผสม จากคุณ : สายอ้อ เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 53 22:38:22

ความคิดเห็นที่ 19 หลังจากชิมแล้ว  จากที่ไม่แน่ใจว่า “ จะไปด้วยกันได้หรือเปล่า ? ” เปลี่ยนไปเลยครับ “ จันทน์เทศแช่อิ่มครั้งต่อไปจะทำอย่างไร   ให้ง่ายขึ้นในการจะนำมา ทำเค้ก ” เพื่อนบ้านอีกหลายคนที่ให้ลองชิม  ตอบรับไปในทางที่ดีหมด  แต่บน พื้นฐานของคนที่คุ้นกับกลิ่นและรสของจันทน์เทศอยู่แล้วนะครับ ขอบคุณคุณทิพย์ (สาววิเศษ)  และคุณแหม่ม Tiara ครับ จากคุณ : สายอ้อ เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 53 22:39:39

ความคิดเห็นที่ 20 สวัสดีค่ะพี่สายอ้อ  ดีใจจังเลยค่ะวันนี้มาทันพี่สายอ้อ  รีวิวด้วย จากคุณ : KowneawMooping@Moobambam เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 53 22:47:44

ความคิดเห็นที่ 21 โอ้โห  ดัจัง  หนูได้เจอจันทน์เทศแล้ว วันนั้นหนูพาจันอิน จันขาว มาเปิดอก วันนี้เจอฝาแฝดแล้ว อินกับจัน อิอิ จากคุณ : 2แบ๊ว (boonnote) เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 53 22:48:44

ความคิดเห็นที่ 22 ได้รับความรู้ที่ไม่เคยรู้......เพียบเลยค่ะ จันทน์เทศแช่อิ่ม.......เข้าใจทำเป็นกลีบดอกไม้สวยงามมากเลยค่ะ มาลงตัวกับขนมเค้กสีออกมานวลๆน่ากินอีก ไว้มีโอกาส...จะต้องหามาชิมให้ได้เลยค่ะ ขอบคุณ........คุณสายอ้อเช่นกันค่ะ สำหรับความรู้ใหม่ๆ...ที่มาแนะนำกันตลอด จากคุณ : สาววิเศษ เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 53 22:49:51

ความคิดเห็นที่ 23 ปราณีต และสวยงามมากๆค่ะคุณสายอ้อ จากคุณ : Schnuggy ชนุ๊กกี้ เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 53 22:50:12

ความคิดเห็นที่ 24 ไม่เคยทานสักที ต้องลองหามาลองบ้างแล้ว จากคุณ : ฮังเลก้นหม้อ เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 53 22:52:57

ความคิดเห็นที่ 25   ต๊าย ยังมีอีกหรอ จันทน์เทศ ไม่ได้เห็นหลายปีแล้วคะ   แช่อิ่มทำสวยมากๆคะ จากคุณ : aammttaa (coat armor) เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 53 22:55:37

ความคิดเห็นที่ 26 พี่สายอ้อ ... ยกมือว่าไม่เคยหม่ำเลยอะคะ ได้ความรู้อีกแล้ว  น่าหม่ำมากๆเลยค่ะ ภาพสวยด้วยอะคะ อยากถ่ายภาพสวย ๆ แบบนี้จังเลย จากคุณ : นู๋ยู้ฮู้ เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 53 22:57:33

ความคิดเห็นที่ 27 ไม่เคยกินเลยค่ะ จะบอกว่าไม่เคยเห็นลูกจันทร์เทศเลยก็ว่าได้ ขอบคุณที่นำมาให้ชมนะคะ เค้กน่าหม่ำมาก ๆ เลยค่ะ จากคุณ : บ้านฟ้าซอย 5 เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 53 23:05:01

ความคิดเห็นที่ 28 คณ : KowneawMooping@Moobambam @สวัสดีค่ะ นู๋ข้าวเหนียว                                                           วันนี้ที่ 1 เลยค่ะ คุณ : 2แบ๊ว (boonnote) @ อันกับจัน หลังผ่าตัดหรือเปล่าครับ                                     แยกกันอยู่ซะไกลเชียว คุณ : สาววิเศษ @ คุณทิพย์ครับ ยังมีอะไรอีกมากมายที่เราไม่รู้ครับ คุณ : Schnuggy ชนุ๊กกี้ @ ขอบคุณครับคุณไก่ คุณ : ฮังเลก้นหม้อ @ เมืองทองเลยครับ งานหมดวันที่ 29 ครับ คุณ : aammttaa (coat armor) @ มีอีกเยอะเลยครับ  ขอบคุณครับ คุณ: นู๋ยู้ฮู้  @ นู๋ยู้ ผลไม้เฉพาะถิ่น  ถ่ายให้เยอะๆเข้าซิครับ คุณ: บ้านฟ้าซอย 5  @ คุณดาครับมีเฉพาะบางพื้นที่ครับ  เค้กน่าหม่ำ                                มาจากต้นแบบดีครับ จากคุณ : สายอ้อ เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 53 23:12:14

ความคิดเห็นที่ 29 เคยกินครั้งแรกแบบแช่อิ่มอบแห้งที่สถานีรถไฟหลังสวน กินแล้วก็ติดใจกับกลิ่นเฉพาะตัวค่ะ ครั้งต่อมาแบบแช่อิ่มมีน้ำเชื่อมที่ภูเก็ตค่ะ หนนี้ได้เห็นต้นของต้นจันทน์เพราะบ้านเพื่อนมีต้นเบ่อเริ่มเลยอยู่ข้างบ้าน แม่เขาทำแช่อิ่มให้กิน แต่ไม่ได้เป็นดอกไม้สวยงามแบบนี้หรอกนะคะ แค่หั่นเป็นเสี้ยวๆ เท่านั้น น่าเสียดายที่ปัจจุบันเพื่อนบอกว่าโค่นทิ้งไปแล้ว เพราะกลัวต้นล้มทับบ้านใกล้เรือนเคียง และต้องการขยายบ้าน..ทำอย่างไรได้ ที่ภูเก็ตแพงขึ้นทุกวัน จากคุณ : ตั้งเพ็กเง็ก เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 53 23:23:41

ความคิดเห็นที่ 30 สวยงามมากมายค่ะ จากคุณ : ข่อยริมทาง เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 53 23:33:54

ความคิดเห็นที่ 31 สวยจังเลยค่ะ  แบบพับกลีบเนี่ย  งามมาก ไม่เคยเห็นเหมือนกัน  มาเก็บความรู้ไปนะคะ จากคุณ : Amber n the Gang เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 53 01:15:21

ความคิดเห็นที่ 32 ที่ตลาด Jalan Kangsar ปีนีง ผลสุกเกลืองกิโลฯละ 30 บาท และเป็นที่นิยมทานกันมาก แบบแช่อิ่มจัดเป็นสินค้าที่ระลึกที่มีชื่ออย่างหนึ่งของปีนัง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 53 02:02:48

ความคิดเห็นที่ 33 พี่สายอ้อเก่งสุดยอดเลยค่ะ... จากคุณ : Madam_Hatyai เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 53 04:01:40

ความคิดเห็นที่ 34 กินแล้วดีครับ ได้พริกเกลือหน่อย เฉาะสดๆเลย แซ่บ จากคุณ : ภักษาภิรมย์ เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 53 05:25:15

ความคิดเห็นที่ 35 เพิ่งเคยเห็น ขอบคุณค่ะ จากคุณ : ผอบ เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 53 07:04:34

ความคิดเห็นที่ 36 สวยงามมากค่ะคุณสายอ้อ และเป็นความรู้มากสำหรับผลที่นำมาขนมได้หลากหลายอย่างน่าทานที่ซู้ดดดดด จากคุณ : ดาวจ๋า (satineesh) เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 53 08:11:44

ความคิดเห็นที่ 37 ไม่เคยรู้จักมาก่อนเลยค่ะ รสชาดจะเป็นอย่างไรบ้างน๊า ... จากคุณ : lastmoon เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 53 08:17:13

ความคิดเห็นที่ 38 สวยมากๆ ค่ะคุณสายอ้อ  เคยชิมครั้งแรกที่งานคุณวัฒน์  รสชาดไม่คุ้นลิ้นชิมชิ้นเล็กๆแล้วเลิกค่ะ 55555 จากคุณ : ซูชิ เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 53 08:46:21

ความคิดเห็นที่ 39 อยากชิมเค้กลูกจันทน์เทศจริงๆเลยค่ะ  ขอบอกว่าสร้างสรรมากๆ จากคุณ : ป้าอ้วนเหนียวเนื้อ เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 53 11:32:50

ความคิดเห็นที่ 40 เข้ามาด้อมๆมองๆค่ะ ไม่เคยเห็นน่ะคะ ฮ่าๆๆๆๆ แต่ว่าทำออกมาสวยงามน่าทานจริงๆเลยค่า ^^ จากคุณ : ปลาทองป๊องป่อง เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 53 16:31:08

ความคิดเห็นที่ 41 คุณ : ตั้งเพ็กเง็ก @ ดีจังที่มีคนติดใจกลิ่นเฉพาะตัว   คุณ : ข่อยริมทาง  @ ขอบคุณครับ คุณ : Amber n the Gang  @ สวัสดีครับคุณแอมเบอร์ ขอบคุณครับ   คุณ : laser  @ สวัสดัครับอาสาม  ขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมครับ คุณ : Madam_Hatyai  @ เอิงขาไม่ถึงขนาดนั้นแน่ๆ คุณ : ภักษาภิรมย์  @ เดิมทีก็เคยกินแบบนั้นครับคุณเนียง คุณ : ผอบ  @ ไม่แปลกที่เพิ่งเคยเห็นครับ  เพราะมีแค่บางพื้นที่เท่านั้น คุณ : ดาวจ๋า (satineesh) @ ขอบคุณครับ คุณ : lastmoon  @ อธิบายไม่ถูกครับจิ๋ว  ต้องลองด้วยตัวเองมั้ง คุณ : ซูชิ  @ ขอบคุณครับ  เรื่องไม่คุ้นเป็นเรื่องปกติ  ส่วนใหญ่ก็เป็น                  อย่างนั้นครับ คุณ : ป้าอ้วนเหนียวเนื้อ  @ ป้าอ้วนครับถ้าไม่มีปัญหาเรื่องอายุของ                                    ขนม  ป้าอ้วนได้ชิมแน่เลย                                                                                ขอบคุณป้าอ้วนที่เห็นเป็นสร้างสรรครับ คุณ : ปลาทองป๊องป่อง  @ ขอบคุณครับ แล้วก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ไม่                                    เคยเห็นครับ จากคุณ : สายอ้อ เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 53 20:08:06

ความคิดเห็นที่ 42 หน้าตาจันทร์เทศมันเป็นต้นแบบนี้เองเหรอคะ เอามาทำแล้วจะรสยังไงน้า แต่น่ากินดีค่ะ จากคุณ : เชฟตูน บ้านหวานเย็น เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 53 21:42:37

ความคิดเห็นที่ 43 เปิดโลกทัศน์ใหม่อีกแล้วค่ะคุณสายอ้อ เหมือนว่าจะเคยลองชิม แต่นิดเดียวและเมื่อนานมาแล้ว รสชาติจำไม่ได้แล้วเจ้าค่ะ เดี๋ยวต้องหาที่ชิมใหม่ จากคุณ : Ab Psy ReinDEAR++ เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 53 00:18:48

ความคิดเห็นที่ 44 คุณ : เชฟตูน บ้านหวานเย็น @ อธิบายยากครับ นอกจากลองชิมด้วย                                         ตัวเอง คุณ : Ab Psy ReinDEAR++ @ คุณเดียร์ครับ คงต้องลองครับ  เพื่อ                                           จะได้ตอบตัวเองได้ว่าชอบหรือเปล่า จากคุณ : สายอ้อ เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 53 19:57:35