PANTIP.COM : D9614510 บรรจุภัณฑ์ของข้าวเหนียวหมูแบบใดต่อไปนี้ที่โดนใจท่านที่สุด [อาหารการกิน]

ความคิดเห็นที่ 25

ถ้ากลุ่มลูกค้าเป็นคนทำงาน office ซื้อไปเป็นอาหารเช้า โดยเฉพาะคนที่ไม่มีรถส่วนตัว แต่ต้องนั่ง BTS/MRT หรือรถเมล์ปรับอากาศ อยากให้หมูหรืออาหารอะไรก็ตามที่มีกลิ่นได้รับการห่ออย่างดี อาจใส่ถุงพลาสติกก่อนหนึ่งชั้น ไม่งั้นขึ้นไปบนรถสาธารณะกลิ่นอาจจะออก โดยเฉพาะตอนเช้า บางทีเราคิดว่ากลิ่นไม่แรง แต่เวลาคนแน่นๆ ทั้งกลิ่นอาหาร กลิ่นเพื่อนร่วมทาง ตลบอบอวนทีเดียว เคยได้กลิ่นหลายครั้ง เลยไม่ค่อยกล้าซื้ออาหารที่อาจมีกลิ่นไปด้วย

ผมเคยโดยสาร BTS เลยคิดว่าถ้าจะซื้อคงเป็นแบบที่ 2

แบบที่ 1 ไม่เลือกครับ

ดูดี ไม่น่าจะก่อให้เกิดขณะมาก แต่ถ้าผมไม่ใช่ลูกค้าประจำจะไม่อยากเสี่ยง เพราะหลายครั้งที่ซื้ออาหารแบบห่อไม่เห็นเนื้ออาหารจริง พอเปิดมาแล้วปริมาณไม่ได้ดั่งใจ แม่แต่ร้านประจำบางทีปริมาณก็ไม่คงที่ ปัจจุบันจึงไม่ซื้ออาหารที่ไม่เห็นปริมาณจริง ถีงแม้ว่าอาจมีห่อที่แกะให้ดูเป็นตัวอย่างก็ตาม ห่อที่เราซื้อจริงมักไม่เป็นตามนั้น

เวลารีบเร่งกนตอนก่อนเข้างาน ต้องแกะข้าวเหนียวออกจากห่ออีก ถ้ากินบนห่อต้องกระจายพื้นที่กระดาษ ถ้ารีบๆหรือมีงานด่วน กินไม่ทันเสร็จต้องห่อเก็บ ไม่ค่อยสะดวก หรือถ้าจะสะดวกต้องแกะใส่จาน ปกติเป็นคนไม่ชอบกินอะไรในที่ทำงานที่ไม่ได้ใส่จานหรือภาชนะที่จัดเก็บยากครับ

แบบที่ 3 ไม่เลือกครับ

ไม่ได้กลัวเรื่องกล่องโฟมทำลายสิ่งแวดล้อม เพราะจริงๆแล้วเป็นขยะที่กำจัดได้ง่าย ไม่ได้ก่อให้เกิดปัญหามากมายแบบที่คนทั่วไปเข้าใจครับ (ไม่ขอพูดในด้านวิทยาศาสตร์เพราะนอกเรื่อง) แต่ที่ไม่ชอบเพราะว่าเวลาซื้อเราก็ไม่เห็นข้างในอีกหละ สิ่งที่ไม่ชอบมากๆคือเวลาที่เป็นอาหารกล่องโฟม ถึงแม้คนขายจะมีแบบเปิดกล่องโชว์อยู่บ้าง แต่ก็เจอปัญหาแบบที่ 1 ที่กล่าวไปคือ กล่องที่เราซื้อบางทีมันน้อยกว่าที่โชว์ ดังนั้นคนที่ซื้ออาหารพวกกล่องโฟมมักจะขอเปิดดูก่อน เคยเห็นบางคนเปิดดูหลายกล่องแล้วหยิบไปกล่องเดียว กล่องอื่นอีก 4-5 กล่องที่เปิดเลือกไม่ซื้อ แม่ค้าก็ปิดกล่องแล้วขายต่อ ซึ่งจริงๆมันก็ไม่ได้สกปรกอะไรเพราะลูกค้าคงไม่ได้เอามือไปจิ้มหรือจ่อหน้าเข้าไปดูใกล้ แต่ความรู้สึกคือเหมือนอาหารกล่องนั้นมันเหมือนข้าวแกงที่เอาไปเสริร์ฟลูกค้าแต่ลูกค้าไม่เอา ถึงแม้ลูกค้าไม่ได้ชิม แต่ผมรู้สึกแปลกๆ เบื้องหลังการทำอาหารอาจจะไม่สะอาดแต่ไม่เห็นก้ไม่เป็นไร แต่ถ้าเป็นของกินที่ผ่านคนเลือกมาแล้ว ไม่ค่อยนิยมครับ (ยกเว้นเวลาซื้อพวกข้าวต้มมัด สลัดที่ใส่ถุงมัด ขนมหม้อแกง-เปียกปูน-วุ้น ที่อยู่เป็นถาดใหญ่ หรือไก่ทอด กล้วยทอด ที่ยังร้อนๆ มีคนมุงดูหลายคน พวกนี้ไม่เกี่ยงครับ)

แต่ข้อดีของกล่องโฟมคือ กินง่าย เช่นเหลือเวลาอีก 5 นาทีต้องทำงาน แค่เปิดกล่องก็กิได้เลย ถ้าเจ้านายมาก็ปิดกล่องทำงานต่อเลย ไม่วุ่นวายเหมือนห่อแบบแรก

แบบที่ 2 เลือกแบบนี้ครับ

ให้มันเห็นกันจะๆไปเลยว่ามีเนื้อมีหนังแค่ไหน พอใจก็ซื้อ ไม่พอใจก็ไม่ซื้อ ดีกว่าเสี่ยงซื้อแล้วต้องมานั่งลุ้น ผมว่ามีลูกค้าผู้ชายหลายๆคนเป็นแบบนี้นะ แพงไม่ว่าแต่ขอให้ได้ปริมาณแบบที่คาดหวังและคงที่คงวา ไม่เสียเวลาต้องมาเปิดกล่องเลือกแบบกล่องโฟมด้วย มัวแต่เลือกเดี๋ยวไม่ทัน BTS

แบบสามสามารถกินได้สะดวกเวลาก่อนทำงาน รีบเร่งเช่นกัน เปิดมากินได้เลย ถ้ามีคนมาขัดจังหวะก็ปิดกล่องเก็บไปก่อน แต่ถ้าเป็นแบบห่อที่หนึ่งจะเสียเวลาเก็บมากว่า ที่สำคัญคือตอนแกะห่อ-เก็บห่อ มือจะมันเพราะสัมผัสห่อได้ง่าย โต๊ะอาจจะเลอะอีก มือมัน-โต๊ะมันนี่ ไม่เอาเลยครับ

ส่วนการห่อใบตอง ก็มีส่วนดีแต่ผมก็ไม่เลือกครับ เหตุผลเหมือนไม่เลือกแบบที่ 1 แถมโอกาสที่มือโต๊ะจะเลอะและมันก็มีมากกว่า ถ้าไม่มีพลาสติดหุ้มอีกที ตอนเอาขึ้น BTS กลิ่นออกแน่ๆ ห่อใบตองคงสะดวกกับการขายที่ลูกค้าซื้อไปกินที่บ้านหรือไม่ต้องเร่งรีบ ค่อยๆแกะค่อยๆกิน มีความสุขกับกลิ่นใบตองติดข้าวเหนียว แต่เอาไปแกะกินที่ทำงานนี่ มันไม่ง่ายเลยครับ

อีกอย่างคือใบตองทีกรุงเทพไม่ได้ถูกๆเลย ซื้อมาแล้วต้องเอามาตัด บางคนแค่เอาผ้าชุบน้ำเช็ด แต่ถ้าไม่ใช่ใบตองที่มาจากสวนเราเอง ขอบอกว่าไม่รู้มีสารเคมีอะไรผ่านมาบ้าง จริงๆแล้วอันตรายกว่าพลาสติกเสียอีก ถ้าจะล้างใบตองก็ต้องมีที่กว้างพอสมควรสำหรับผึ่งให้แห้ง ถ้าทำกินเองที่บ้านก็โอเค แต่ถ้าต้องทำขายทุกวันค่อนข้างเยอะ แค่จัดการกับใบตองก็เหนื่อยแล้ว

เรื่องราคา อาจจะดูสูงไปนิดถ้าเทียบกับราคาข้าวแกงที่พนักงาน office ทั่วไปกินกันข้าง office เพราะบางแห่งอาจหาจานละ 25-30 พอได้ แต่ผมก็เข้าใจนะว่าหมูฝอยแบบในรูปจริงๆแล้วต้นทุนสูง เพราะว่าพอเอาไปทอดแล้วหมูมันจะหดไปเยอะ ถ้าขายถูกกว่านี้หมูคงต้องลดลงเยอะถึงคุ้ม แต่ข้าวเหนียวไม่อยากให้ลด เพราะถ้าอร่อยแต่ไม่อิ่ม คงซื้อกินไม่ได้ทุกวันครับ

โดยส่วนตัวไม่ค่อยชอบหมูฝอยแบบนี้เท่าไหร่ แต่ชอบหมูทอดกระเทียมหรือหมูย่างมากกว่า ถ้าคุณจะลองทำดูก็อาจเอาหมูย่างเลาะไม้ออกแล้วเอามาโปะบนข้าวเหนียวก็ได้ ผมว่าต้นทุนทำหมูทอดหรือหมูย่างต่ำกว่าหมูฝอยอีกเพราะว่าหมูมันไม่หดมาก ดูแล้วปริมาณเยอะกว่า อีกอย่างคือพวกข้าวเหนียวหมูฝอยมักมีขายทั่วไปเกือบทุกที่ที่มีคนทำงาน office เลยก็ว่าได้ แต่ต้นทุนต่ำว่าเพราะใส่ถุงพลาสติกธรรมดา ลูกค้าเลยได้ของที่ถูกกว่า ผมว่ามันเลยอาจขายยากนิด แต่ถ้าเป็นหมูย่าง ส่วนมากที่ตลาดจะปิ้งกันให้เห็นๆ แต่บางทีต้องรีบเข้าทำงาน ไม่อยากยืนรอ หรือถ้ารอใกล้ๆกลิ่นติดเสื้อผ้าอีก ถ้าคุณทำเป็นกล่องแบบที่ 3 แต่เป็นหมูย่าง ผมซื้อนะ

ที่พูดไปเป็นแค่ความรูสึกส่วนตัวครับ ไม่ได้ซื้อข้าวเหนียวบ่อยนัก เมื่อก่อนที่มักซื้อบ่อยคือแซนด์วิชหน้าคอนโด ซื้อเสร็จก็เดินขึ้นรถไฟฟ้าพญาไทได้เลยครับ

ที่ชอบแซนด์วิชคือ ไม่มีกลิ่นแรง กินได้ทั้งเป็นอาหารเช้ากับกาแฟหรืออาหารว่าง ถ้ารีบๆก็นั่งกินบนโต๊ะทำงานได้ ไม่มีกลิ่น ราคาไม่แพงแต่พอแก้หิวได้ (ร้านที่ซื้อจะหั่นเป็นชิ้นเล็ก เอาขนมปังมาหั่นสี่ แล้วใส่ถุงพลาสติกใสหรือกล่องแบบที่ 2 มีประมาณ 5-6 ชิ้น ใส้ก็ง่ายๆ น้ำพริกเผาหมูหยอง บาโลน่า ทูน่ามายองเนส) เจ๊แกใช้ขนมปังฟาร์มเฮ้า เห็นทำไปขายไป แต่ละเช้าเห็นเอาขนมปังมาหลายสิบแถว...

ที่เขียนมามากมายคือ อยากจะบอกในฐานะผู้ซื้อว่า อยากได้อาหารที่กินได้สะดวกในเวลาเร่งด่วน ไม่เลอะมือเนื่องจากการแกะห่อ ไม่มีกลิ่นรบกวนถ้าเอาขึ้นรถสาธารณะหรือกินในที่ทำงาน ราคาไม่แพงเกินไป (อย่าลืมว่าพนักงาน office ธรรมดาบางคนเงินแทบเดือนชนเดือน) ไม่ต้องเสียเวลาในการพิจารณาก่อนซื้อมากนัก บรรจุภัณฑ์ไม่ได้สำคัญมากในด้านรูปลักษณ์ แต่สำคัญที่ฟังก์ชั่นการใช้งานมากกว่า เพราะว่าพวกอาหารเช้าซื้อมาแล้วก็กินเลย แล้วต้องซื้อทุกวัน ถ้าอร่อย ราคาไม่แพง แค่ใส่ถุงพลาสติกธรรมดาเก็บกลิ่นได้ ก็ขายดีครับ (เห็นหลายๆเจ้าก็ใช้ถุงพลาสติกธรรมดา ไม่เปลืองต้นทุนมาก เลยให้ปริมาณได้เยอะ) ยอมรับตามตรงว่าถ้าต้องซื้ออาหารเช้าทุกวัน บางทีก็ดูที่ปริมาณด้วยเหมือนกัน เพราะเป็นสิ่งที่ต้องกินทุกวันเป็นการประทังชีวิต ไม่ได้สนใจรูปลักษณ์ภายนอกมากนัก แต่ถ้าเป็นพวกของว่าง ขนม ชา-กาแฟ พวกนี้อาจสนใจรูปลักษณ์มากหน่อย เพราะบริโภคความสุข ไม่ได้กินประจำทุกวัน มีเงินมากก็ซื้อ เงินน้อยก็ไม่ แต่อาหารเช้านี่ ซื้อต้องกินทุกวัน ซื้อเสร็จปุ๊บต้องรีบวิ่งขึ้น BTS ลงรถมาก็ต้องรีบวิ่งไปตอกบัตร เหลือเวลาแค่ 20 นาทีก็รีบแกะกิน แปรงฟัน เข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างมือ แล้วก็รีบเดินงุดๆไปทำงาน มันไม่ค่อยได้มีเวลาคิดเรื่องสุนทรียภาพในการรับประทานอาหารเท่าไรครับ

แต่ถ้าคุณไปขายตลาดตอนเย็น หรือขายตามที่ท่องเที่ยวพวกอัมพวา ตลาดร้อยปี ฯลฯ ทำห่อข้าวเหนียวน่ากิน ห่อด้วยใบตองหรือใบบัว อันนั้นก็คงเรียกลูกค้าที่เป็นนักท่องเที่ยวได้ แต่พวกนี้มาแค่ครั้งสองครั้ง ซื้อแค่ให้รู้ว่าเป็นอย่างไร ไม่เหมือนขายให้พนักงาน office ที่ต้องซื้อกินทุกเช้าครับ

อย่างไรก็ตาม ขอให้ขายดีนะครับ ผมเชื่อว่าคุณจะได้ไอเดียจากคนอื่นๆอีกเยอะ อาจต้องลองผิดลองถูกช่วงแรกที่ทำขายซักหน่อย ถ้าไม่ขายงเกินไปนัก อาหารรสชาติพอใช้ได้ พูดจากับลูกค้าดี รับรองขายดีครบ

จากคุณ : กขคง

เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 53 08:40:05 A:109.246.5.90 X: TicketID:141052