ความคิดเห็นที่ 1   ก่อนเอาขนมเข้าอบต้องวอร์มเตาก่อนนะครับ วอร์มให้อุณหภูมิตู้อยู่ที่ 400 องศาฟาเรนไฮน์ ปรับไฟบนล่างให้มีขนาดเป็นเม็ดข้าวโพดเห็นไฟแดงนิดหน่อย เมื่อได้ที่ก็เอาเข้าอบ แต่ขออภัยเรื่องเวลาอบของคุ๊กกี้นะครับ ไม่ทราบจริงๆเพราะผมแนวขนมปัง ลองดูครับ จากคุณ : หาเช้า กินค่ำ เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 15:39:39 A:124.121.82.100 X: TicketID:062968

ความคิดเห็นที่ 2 ไม่แน่ใจว่าเป็นเตาแบบในรูปไหม ถ้าใช่ดูรูปนะครับ ด้านล่างมีหัวแก๊ส5หัว(สำหรับไฟล่าง) และด้านข้าง2หัว(สำหรับไฟบน) ส่วนด้านล่าง(ข้างๆมีอีกข้างละหัว (ที่เห็นสายยางด้านขวา มีไว้สำหรับเป็นท่อแยงจุดแก๊ส) อีกข้างจะต่อกับถังแก๊ส ถ้าใช้ไฟล่างและไฟบน ก็จุดหัวล่าง(1,3,5) และไฟบนทั้ง2ข้าง(เปิดในเตา ดูด้านข้างจะเห็นรูกลมๆ มีเดือยยื่นออกมา เลื่อนเปิดปิดรูได้ ให้เลื่อนปิด ไม่งั้นไฟบนจะไม่แรงเต็มที่ ขนมจะมีปัญหา) เวลาจุดไฟ เปิดวาล์วที่ถังแก๊ส แล้วเปิดวาล์วปล่อยแก๊สที่ด้านล่าง(ริมสุดฝั่งซ้าย) ถ้าใช้งานครั้งแรกรอแป๊บนึง เกือบ5นาทีให้แก๊สไหลทั่วท่อก่อน แล้วจึงเปิดวาล์วของสาวท่อแยง(ด้านขวาที่เป็นสายยาง) เปิดนิดเดียว จุดไฟ ทีนี้จึงเริ่มจุดตามหัวต่างๆที่ต้องการ เวลาจุด เปิดวาล์วแก๊สที่หัวนั้นๆ หลังวาล์วสีแดง จะมีจานหมุนวงกลม อันนี้เป็นวาล์วอากาศ เปิดทีละนิด แล้วเอาสายแยงไปในท่อจุดไฟ พอไฟติด จึงค่อยๆหมุนวาล์วอากาศให้แก๊สวิ่งไปสุดท่อ แล้วจึงปรับความแรงของไฟ ให้ได้ขนาดเท่าเม็ดข้าวโพด อาจเห็นเปลวไฟสีส้มนิดๆ ถ้าไฟไม่เสมอกันทั้งท่อ ก็ปรับวาล์วอากาศเอา หมุนมากไป ไฟปลายท่อจะแรง หมุนน้อยไป ไฟปลายท่อจะไม่ติด ท่ออื่นๆก็จุดตามนี้ จุดเสร็จครบหมดปิดวาล์วของสายแยง เพื่อให้ไฟปลายสายแยงดับ วอร์มเตาซักพักให้ได้อุณหภูมิตามต้องการ ถ้าไฟแรงเกิน ก็เบาจากหัวแก๊สสีแดงของแต่ละท่อ ถ้าปรับลด ความลดเท่ากันทุกท่อ ไม่งั้นไฟแต่ละจุดจะไม่เท่ากัน ง่ายๆครับ ไม่ยาก สิ่งที่ต้องระวัง -ไฟบนต้องปิดรูด้านข้างเสมอ ไม่งั้นไฟบนจะไม่แรงพอ                   -เตาแบบนี้ ไวต่อกระแสลม จุดที่วางเตาควรไม่มีลม ไม่งั้นไฟที่หัวแก๊สจะดับ                   -เตาประเภทนี้ อบขนมไฟอาจจะไม่เหมือนเตาไฟฟ้า เพราะเนื้อที่เตาใหญ่กว่า อาจต้องเร่งไฟให้สูงกว่าหนังสือ เพราะของผม อบเตาไฟฟ้าใช้ไฟ 220 พอมาเตาแก๊ส ต้อง250 นึกออกเท่านี้ครับ นึกได้อีกจะมาเพิ่มเติมให้ แต่ถ้าสงสัย หลังไมค์มาเลย จากคุณ : double@pantip เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 16:00:56

ความคิดเห็นที่ 3 เพิ่มเติมครับ เตาแบบในรูป ข้างในมันมี2ชั้น เวลาอบเอาใส่ชั้นล่างนะครับ ชั้นบนผมใช้แต่งสีหน้าขนม ==================================== เจอเรื่องอุณหภูมิ กับการจุดหัวเตามา ว่าอุณหภูมิเท่านี้ จุดหัวไหนบ้าง เตาแกสแบบ 5 ท่อ(ด้านล่าง) เวลาจุดแกส จุดท่อ 1, 3, 5 เวลาใช้ไฟสูง400F จุดไฟบน(ท่อไฟด้านข้าง) และ ท่อ 1, 3, 5 ไฟกลาง 350-399F จุดไฟ 1,3,5 ไฟอ่อน 349F จุดไฟ 2 , 4 จากคุณ : double@pantip เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 16:06:08

ความคิดเห็นที่ 4   ลืมถาม จขกท. ไปว่าเป็นเตาอบระบบแก๊ส (สปาร์ค) หรือว่าระบบท่อแบบคุณ double@pantip จากคุณ : หาเช้า กินค่ำ เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 16:54:58 A:124.121.82.100 X: TicketID:062968

ความคิดเห็นที่ 5 ขอบคุณ ทุก ๆ ท่านนะคะ ลืมบอกค่ะ ว่า เป็นแบบ สปาร์ค ค่ะ ว่าแต่ คุณ double@pantip รูปที่ คห2 คือ ยี่ห้อร่วมเจริญเมือง รึเปล่า มีแบบนี้ด้วยเหรอค่ะ (เราแอบเชยอ่ะ) เพิ่มเติม เวลาอบ พยายามทำไฟแบบที่แนะนำมา แต่รู้สึกว่า อุณหภูมิมันจะสูงขึ้นเรื่อย ๆ ค่ะ ทำให้ควบคุมยากค่ะ ว่าแต่ถ้าคุมได้ แล้วอบเค็กจะอร่อยสู้ไฟฟ้าได้มั้ยค่ะ (มี 46ลิตรของ siemen) ชอบมากค่ะ ใช้ง่ายจริง ๆ จะลองอีกสักตั้ง ถ้าไม่ไหว อาจจะต้องซื้อแบบไฟฟ้ามาใช้แน่เลย แล้วตัวนี้ แอบเสียดาย เพราะชอบยี่ห้อนี้มากค่ะ เพราะเคยไปเรียนเห็นอาจารย์ ใช้ยี่ห้อนี้ แล้วเลยไปหาซื้อมาลองใช้ แต่ไม่สามารถค่ะ ขอให้กีฟนะคะ แต่คุณหาเช้า กินค่ำ ให้ไม่ได้ ก็ขอขอบคุณอีกครั้งค่ะ มีไร เพิ่มเติม ยินดีนะคะ จะเข้ามาอ่านตลอดค่ะ ปล แก้ไข คำพิมพ์ผิดค่ะ แก้ไขเมื่อ 17 ก.ย. 53 23:38:39 จากคุณ : Bit_Bloom เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 23:36:16

ความคิดเห็นที่ 6 เตาอบขนมแบบแก๊ส ตามรูปที่ผมแนบ เป็นแบบเก่าสุดครับ เท่าที่ทราบมีทั้งหมด3แบบ คือ 1.แบบแก๊ส(ตามรูป#2) อันนี้หลักการเหมือนเตาแก๊สตามบ้าน ราคาถูก ดูแลรักษาง่าย แต่คุมไฟลำบากสำหรับมือใหม่ ถ้ารู้ใจเตาแล้ว ก็สบาย 2.แบบสปาร์ท(เหมือน จขกท.) แบบนี้ต่างจากแบบแรกตรงที่ไม่มีสายแยง ระบบสปาร์ทจะทำให้เกิดประกายไฟจากแบตเตอรี่ ถ้าแบตหมด ก็ไม่มีไฟ ถ้าระบบสปาร์ทพังก็หาปืนจุดเตาตามห้างมาใช้แทนได้ ตอนผมซื้อก็เล็งแบบนี้เหมือนกัน แต่ร้านบอกว่า ระบบสปาร์ทมันเสียง่ายนะ เลยเลือกแบบแรก 3.ระบบไฟฟ้า อันนี้ใช้ง่ายมากๆ แต่ราคาก็สูงตามด้วย จุดไฟเสร็จ ปรับปุ่มได้เลยว่าต้องการไฟที่อุณหภูมิเท่าไหร่ แต่จำไม่ได้ว่ามันสร้างความร้อนโดยแก๊สหรือไฟฟ้า ปล.ข้อมูลนี้2ปีแล้วนะครับ ไม่แน่ใจว่าจำมาถูกไหม เพราะตอนจะซื้อก็หาข้อมูลเปรียบเทียบเหมือนกัน ผิดอย่างไรต้องขออภัยด้วย ส่วนเรื่องความอร่อย เตาแบบนี้ทำออกมาอร่อยเหมือนพวกเตาเล็กแหละครับ อยู่ที่ว่าเราสร้างความเคยชินกับเตาได้มากน้อยแค่ไหน ส่วนเรื่องไฟ ถ้าเวลาวอร์มเตาแล้วไฟสูงเกินอุณหภูมิที่ต้องการ ก็เปิดฝาให้มันระบายความร้อนออกมา พอได้อุณหภูมิก็ปิดฝา แล้วเบาไฟลงจากเดิม เม็ดไฟจะเล็กกว่าเม็ดข้าวโพดจนไม่เห็นเปลวไฟสีส้มก็ไม่เป็นไร รออีกซัก5นาทีดูว่าอุณหภูมิยังสูงไหม ก็ได้ครับ เพราะของผมเวลาทำ ตอนแรกก็คุมไฟไม่คล่อง บางทีลุกไปเตรียมนู้นเตรียมนี่ มาอีกทีอุณหภูมิไปถึง270องศาCแล้ว(ต้องการ250) ปล.นึกออกแล้ว พี่สาวแฟนผมใช้แบบไฟฟ้าอยู่ ราคาเตาแพงกว่าแบบรูป#2 ใช้ไฟฟ้าล้วนๆ ค่าไฟแพงกว่าแบบแก๊สแน่นอน ทำให้ราคาต้นทุนขนมสูงด้วย แต่สะดวกตรงคุมไฟได้ตามต้องการ และแยกไฟล่างไฟบนอิสระ เช่นต้องการไฟล่าง170 ไฟบน160 ก็ปรับได้เลย จากคุณ : double@pantip เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 09:38:35

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณค่ะ คุณ double@pantip ข้อมูลมีประโยชน์มากเลยค่ะ รบกวนถามอีกนิดนะคะ ว่า เตาแบบนี้ ถ้าเราได้อุณหภูมิที่เราต้องการแล้ว เอาขนมเข้าไปอบ แล้วอุณหภูมิมันจะสูงขึ้นเรื่อย ๆ รึเปล่า หรือเราต้องนั่งเฝ้าเตาไว้ค่ะ ส่วนถ้าอบเค็ก ต้องใช้ 180 องศาซี อันนี้ จะต้องใช้ 180 องศาซี เลย หรือ ต้องมากกว่านี้อีก แล้วพวก คุกกี้ ประมาณกี่องศาค่ะ (ชักงงตัวเอง)แล้ว ส่วนแบบไฟฟ้าเป็นแบบพี่สาวแฟนคุณใช้ น่าใช้มากเลย ชอบมาก ๆ เลย แต่ตอนแรก คิดว่าต้องขอไฟที่บ้านเพิ่ม (มิเตอร์ไฟ) หรือเปล่าค่ะ ขอบคุณล่วงหน้านะคะ จากคุณ : Bit_Bloom เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 11:44:01

ความคิดเห็นที่ 8 เอาจากของผมนะครับ ของคนอื่นผมไม่รู้ว่าเค้าเป็นเหมือนกันไหม ของผมอบเตาไฟฟ้าตัวเล็ก(ประมาณไมโครเวฟ) ใช้ไฟในการอบ 220 องศาC ตามหนังสือเลย แต่พอเปลี่ยนมาอบเตาใหญ่ แบบ#2 220องศา ไม่สุกครับ 555+ ตอนหลังเลยต้องเพิ่มอุณหภูมิเป็น 250องศา(ตอนวอร์มเตา) พอเอาขนมเข้า มันจะเสียเวลาวางถาด ทำให้ความร้อนภายในออกมา กว่าจะปิดฝา อุณหภูมิก็ลดเหลือ 245 แล้ว3-5นาที ก็จะเหลือ240 (อันนี้คิดว่าเพราะขนมเย็น+ความชื้น ทำให้อุณหภูมิในเตาลด แต่ขนมบางชนิด พอสุก อุณหภูมิมันจะค่อยๆขึ้นไปแตะที่ 250องศาอีกรอบ ถ้าวางไว้นานเกิน แต่ตอนนั้นคงไหม้แล้วครับ 555+ (พวกคุกกี้ อาจเจอเคสนี้ เพราะผมว่ามันแห้ง) ส่วนขนมของผม มีไส้ข้างในมากกว่าแป้ง อุณหภูมิเมื่อสุกเลยอยู่ระดับ 240เท่าเดิม เตาตัวนี้ผมเคยใช้อบเค้กเหมือนกัน 1รอบ แต่จำอุณหภูมิไม่ได้ว่าเท่าไหร่ และเค้กแต่ละตัวใช้อุณหภูมิไม่เท่ากันนะครับ ผมว่ามันขึ้นอยู่กับชนิดเค้กด้วย แต่ตอนอบเค้ก จำได้ว่ามีเอาออกมาเช็คสุกด้วย (เอาไม้จิ้มๆ) ดังนั้นเรื่องอุณหภูมิแนะนำให้ใช้ตามหนังสือก่อนครับ ถ้าไม่สุก หรือกว่าจะสุกนานกว่าหนังสือ ก็ลองเร่งไฟให้สูงขึ้นก็ได้ (ของผมเพิ่มทีละ20องศา ถ้าร้อยเกินค่อยลดทีละ5-10) ส่วนแบบไฟฟ้า ต้องขอมิเตอร์เพิ่มไหม อันนี้ของบ้านพี่สาวแฟนมิเตอร์เค้าใหญ่ด้วย เลยไม่ได้ขอเพิ่ม แต่ถ้าเอามาใช้ในบ้าน คงต้องดูสเปกการกินไฟ แล้วมาเช็คอีกทีดีกว่าครับ เพื่อความชัวร์ แต่ต้นทุนขนมจะสูงกว่าแบบแก๊สนะครับ ถ้าเสียผมว่ามันซ่อมยากกว่าด้วย เพราะแบบ#2 มันเหมือนเตาในบ้านเลย ถ้ารูตันก็แค่เอาไม้ไปแหย่ๆ แต่ของผมใช้มาก็ยังไม่เจอปัญหาใดๆ จากคุณ : double@pantip เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 12:22:47

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณค่ะ คุณ double@pantip อีกครั้งค่ะ สำหรับข้อมูลค่ะ เด๋วรวบรวมความกล้า แล้วจะลองทำอีกสักตั้งค่ะ เผื่อปีใหม่ จะทำคุ๊กกี้แจกค่ะ เพราะเตาเล็ก รอนานค่ะ จริง ๆ ไม่ได้ทำขายค่ะ แต่เห็นเตาใหญ่ดี คิดว่า ทำทีจะได้ไม่เสียเวลา เลยซื้อมา แต่แป๋ว ยังไม่เคยทำสำเร็จซะที ขอขอบคุณอีกครั้งนะคะ จากคุณ : Bit_Bloom เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 13:10:55

ความคิดเห็นที่ 10 เป็นกำลังใจให้นะครับ สู้ๆ ของผมทำครั้งแรกกับเตาใหญ่ ผมทำขนมไหว้พระจันทร์ กว่าจะสำเร็จก็ใช้ทุเรียนกวนไปเกือบ1ปี๊บ ของแบบนี้ไม่ลองไม่รู้ อบไฟแต่งสีหน้าครั้งแรก หน้าขนมดำไปทั้งถาด หน้าคนทำซีดเลย 555+ จากคุณ : double@pantip เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 21:14:18