ความคิดเห็นที่ 1 พ่อค้าไก่รูปงาม จากคุณ : แม่ไม่ว่าหรอก เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 53 17:41:25

ความคิดเห็นที่ 2 กระจาดปลาใกล้ๆกัน จากคุณ : แม่ไม่ว่าหรอก เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 53 17:42:12

ความคิดเห็นที่ 3 นี่ก็ปลาอีก จากคุณ : แม่ไม่ว่าหรอก เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 53 17:42:58

ความคิดเห็นที่ 4 สุพรรณบุรี เมืองดินดีน้ำดี ปลาชุม คงจะเป็นปลาจากแม่น้ำท่าจีน จากคุณ : แม่ไม่ว่าหรอก เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 53 17:43:56

ความคิดเห็นที่ 5 นี่ไงปลาร้าสับ เจ้าที่เพื่อนรักชาวสุพรรณ ยืนยันว่าอร๊อย อร่อยนะ เธอว์ ฉันต้องขับรถกลับบ้าน อาทิตย์เว้นอาทิตย์ก็เพื่อปลาร้าสับเจ้านี่ เพื่อนรัก บอกว่า ห่อใบตองปิ้งไฟ อ่อนๆ หอมแดง ตะไคร้ พริกขี้หนูซอยๆๆๆๆๆๆ แล้วโรยๆๆๆๆ คลุกเหล้าให้เข้ากัน กระหน่ำตามด้วยใบมะกรูดซอยอย่าได้ ยั้งมือ บีบมะนาวซักซีก ข้าวร้อนๆ เป็นหม้อก็ไม่พอ น่าเสียดาย เจ้าของกระทู้ ไม่ชอบกินปลาร้า แต่พอจะนึกภาพออกเพราะ ชอบใบมะกรูดเหมือนกัน จากคุณ : แม่ไม่ว่าหรอก เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 53 17:49:19

ความคิดเห็นที่ 6 ปลาสลิดหน้าตาชวนกินมาก พรรคพวกร่วมทาง ห้ามเด็ดขาด ห้ามนำปลาสลิดและปลาแดดเดียว ทั้งหลายขึ้นรถ ทุกคนลงมติว่า มัน จะอบอวลตลอด ระยะทางกว่า 800 กม จะทรมานยิ่งนัก เจ้าของกระทู้ จำต้องยอมตามมติ เสียงส่วนใหญ่ ด้วยความเสียดาย จากคุณ : แม่ไม่ว่าหรอก เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 53 17:53:56

ความคิดเห็นที่ 7 ปลาช่อนแดดเดียว แบบนี้ ถิ่นฐานของเจ้าของกระทู้ ไม่มีขาย จึงได้แต่มองด้วยตาละห้อย จากคุณ : แม่ไม่ว่าหรอก เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 53 17:55:41

ความคิดเห็นที่ 8 นี่ก็น่ากิน จากคุณ : แม่ไม่ว่าหรอก เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 53 17:56:59

ความคิดเห็นที่ 9 ลูกสีดำ เรียกว่าลูกไข่เน่า แม่ค้าชาวสุพรรณใจดีให้ลองชิม เค็มๆ อมเปรี้ยว เพราะนำมาผ่านกรรมวิธี ดองด้วยเกลือ จากคุณ : แม่ไม่ว่าหรอก เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 53 18:00:30

ความคิดเห็นที่ 10 อย่างนี้เรียกว่ามะกอกน้ำ ต้นโตขึ้นตามริมตลิ่ง รสชาติออกฝาดๆ นำมาบากเป็นริ้วๆ แช่น้ำปูนใส และน้ำเกลือ แล้วจึงนำไปเชื่อมน้ำ ตาล จากรสฝาดไม่อร่อย จึงเปลี่ยนเป็น รสหวานอมเปรี้ยว อร่อย เมื่อสมัยเจ้าของกระทู้เป็นเด็กๆ ว่ายน้ำเก็บลูกที่ร่วงๆ มาให้ป้า ทำ ตามกรรมวิธี ดังที่ว่า กินกันอร่อย ไป จากคุณ : แม่ไม่ว่าหรอก เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 53 18:04:02

ความคิดเห็นที่ 11 ขอโทษค่ะ ลงรูปผิด มะกอกน้ำต้องเป็นรูปนี้ รูปข้างบน ก็กล้วยน้ำว้า ราคาถูกอย่างน่าใจหาย แบบนี้ ที่แถวบ้าน เจ้าของกระทู้ ต้องเป็น หวีละ 30 บาท จากคุณ : แม่ไม่ว่าหรอก เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 53 18:05:49

ความคิดเห็นที่ 12 ดอกขจร หรือ บางทีก็เรียกว่า ดอกสลิด แกงจืดหมูบะช่อก็อร่อยเลิศ จากคุณ : แม่ไม่ว่าหรอก เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 53 18:07:16

ความคิดเห็นที่ 13 ดอกผักปัง ไม่ทราบทำอะไรกินได้บ้าง ไม่เคยกินค่ะ จากคุณ : แม่ไม่ว่าหรอก เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 53 18:08:03

ความคิดเห็นที่ 14 ดอกโสน .. หลายท่านอาจจะเห็นว่าไม่น่าสนใจไม่เห็นจะแปลก สำหรับเจ้าของกระทู้ อยู่ในถิ่นมี่ไม่มีพืชผักพื้นบ้าน ที่คุ้นเคยมาแต่ครั้งยังเป็นเด็ก เมื่อได้มาเห็นก็จะตื่น เต้น อยากซื้อไปซะหมดทุกอย่าง แต่ติดว่าเดินทาง ไกลนัก ซื้อไปก็จะเน่าเสียไม่ได้กินแน่ๆ จึงได้แต่ถ่าย รูปมาอวดกันดู จากคุณ : แม่ไม่ว่าหรอก เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 53 18:10:55

ความคิดเห็นที่ 15 ข้าวเหนียวแปะก๊วย จากคุณ : แม่ไม่ว่าหรอก เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 53 18:11:50

ความคิดเห็นที่ 16 เข้ามาร่วมติดตามไปเที่ยวสุพรรณด้วยคนครับ จากคุณ : ฮูยัน เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 53 18:12:40

ความคิดเห็นที่ 17 เพื่อนที่ไปด้วยตื่นเต้น กว่าเจ้าของกระทู้ เมื่อเห็นลูกจัน ตะกร้านี้ จากคุณ : แม่ไม่ว่าหรอก เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 53 18:13:30

ความคิดเห็นที่ 18 แม่ค้า ที่ตลาดเทศบาล ชักชวนให้ ไปเที่ยวตลาดน้ำเปิดใหม่ ที่ วัดแค ก็เหมารถตุ๊กๆ ไปกัน จากคุณ : แม่ไม่ว่าหรอก เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 53 18:18:36

ความคิดเห็นที่ 19 ลืมรูปค่ะ จากคุณ : แม่ไม่ว่าหรอก เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 53 18:20:10

ความคิดเห็นที่ 20 เข้าไปในวัดแค ชมคุ้มขุนแผน กราบอาจารย์คง อาจารย์ผู้ประสิทธิ ประสาทวิทยาอาคม เสกใบมะขาม เป็นต่อแตนให้ขุนแผน แล้วก็ ข้าม ถนน มาเลือกหาขนมกิน เริ่มที่ ขนมไข่ปลา หนึบๆ มันๆ มะพร้าวทึนทึก จากคุณ : แม่ไม่ว่าหรอก เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 53 18:22:50

ความคิดเห็นที่ 21 ขนมตาลสามสี จากคุณ : แม่ไม่ว่าหรอก เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 53 18:23:20

ความคิดเห็นที่ 22 ตะโก้ ขาวดำ จากคุณ : แม่ไม่ว่าหรอก เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 53 18:23:56

ความคิดเห็นที่ 23 ขนมต้ม นึกถึงสมัยเรียนหนังสือ เมื่อถึงคราวสอบ ที่เทวาลัยพระคเณศร์ ก็จะมีขนมต้มแดงต้ม ขาว บูชากันไม่ขาด เป็นความเชื่อของนัก ศึกษาที่รุ่นพี่ๆ บอกว่า สอบวิชาใดบ้างที่อา จารย์ หินๆ ออกข้อสอบโหดๆ พวกขาดความมั่น ใจเพราะขาดเรียน ก็จะ ไปบนบานศาลกล่าวติด สินบน พระคเณศร์ แต่เมื่อผลสอบออกมาได้ ดังใจหวัง เพื่อนๆก็จะอิ่มหมีพีมันด้วยว่า เป็น ศิษย์พระคเณศร์ กันทั้งสิ้น แก้ไขเมื่อ 26 ก.ย. 53 19:18:29 จากคุณ : แม่ไม่ว่าหรอก เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 53 18:28:23

ความคิดเห็นที่ 24 ตะกร้านี้ขาดแต่กะปิ ก็จะได้พริกมะขาม จากคุณ : แม่ไม่ว่าหรอก เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 53 18:29:47

ความคิดเห็นที่ 25 คุณยายเชิญชวนให้ซื้อ ใจน่ะอยากจะอุดหนุนเหลือเกิน แต่กว่าจะถึงบ้าน พริกคงจะเน่าซะก่อน จากคุณ : แม่ไม่ว่าหรอก เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 53 18:30:59

ความคิดเห็นที่ 26 ห่อหมกนี่ก็น่ากิน จากคุณ : แม่ไม่ว่าหรอก เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 53 18:31:38

ความคิดเห็นที่ 27 เพื่อนที่ไปด้วยกัน บ่นจนวันกลับว่าทำไม ไม่ซื้อมะม่วง น้ำดอกไม้ นี่นะ 3 กิโล ร้อย บาท ที่บ้านเรา กิโลละ 70 แถมไม่สดอย่างนี้ จากคุณ : แม่ไม่ว่าหรอก เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 53 18:33:36

ความคิดเห็นที่ 28 เขียวเสวย นี่ก็ 3 กิโล ร้อยบาทเหมือนกัน เพื่อนก็บ่นไม่เลิก จากคุณ : แม่ไม่ว่าหรอก เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 53 18:34:24

ความคิดเห็นที่ 29 มาต่อกันที่ ตลาดศรีประจันต์ บรรยากาศช่างคุ้นเคยและคุ้นตา เพราะเป็น ฉากของหนังไทย และ ละครทีวีหลายต่อหลายเรื่อง ที่น่ายินดี ก็คือ ชุมชน ไม่ละทิ้ง พยายามรักษาไว้อย่างสุดกำลัง จากคุณ : แม่ไม่ว่าหรอก เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 53 18:38:27

ความคิดเห็นที่ 30 สถานที่อันเป็น ที่เกิดของ ท่าน ปยุติ ปยุตโต ภายในอาคารจัดแสดงเรื่องราวของท่าน ตั้งแต่เด็ก เข้าใจว่า โยมมารดาของท่าน เป็นช่างเย็บผ้า เห็นมี ผ้าชิ้นงามๆ จัดแสดงอยู่ และมีจักรเย็บผ้ารุ่นเก่าๆ อ่านผ่านๆตา แจ้งว่า โยมบิดาของท่าน นำจักรเย็บ ผ้าไปให้ ลูกสาวชาวบ้านในละแวกนั้น ได้หัดใช้ โดยไม่คิดเงินด้วยใจปรารถนาให้ สาวๆ มีอาชีพ ติดตัว จากคุณ : แม่ไม่ว่าหรอก เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 53 18:42:35

ความคิดเห็นที่ 31 ถัดมาก็เป็นตลาด เย็น จากคุณ : แม่ไม่ว่าหรอก เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 53 18:43:18

ความคิดเห็นที่ 32 ลงรูปผิดอีกแล้ว รูปบน ซ้ำค่ะ สองหนุ่มที่เห็น เป็นชาวคณะที่ ร่วมทาง จากคุณ : แม่ไม่ว่าหรอก เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 53 18:44:15

ความคิดเห็นที่ 33 ไม่ต้องบรรยายก็ได้... ใช่ไหมคะ จากคุณ : แม่ไม่ว่าหรอก เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 53 18:45:19

ความคิดเห็นที่ 34 แบบนี่ก็ไม่ต้องบรรยาย เจ้าของกระทู้กับเพื่อน หยิบกินกันคนละ ผล... หวานมากค่ะ หวานด้วยน้ำใจ จากคุณ : แม่ไม่ว่าหรอก เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 53 18:46:24

ความคิดเห็นที่ 35 จากการพูดคุยกับชาวคณะ ทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่า ชาวสุพรรณ นั้นมีอัธยาศัยไมตรี ดีงาม ถามไถ่อะไร ก็ไม่ขัดข้อง ทุกคนดูจะรอบรู้ในเรื่องบ้านเมืองของ ตนเองไปซะทุกแห่ง ไม่ใช่ว่ากินกล้วยเค้าฟรี แล้วมายกยอนะคะ จากคุณ : แม่ไม่ว่าหรอก เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 53 18:48:50

ความคิดเห็นที่ 36 ผู้คนที่เจ้าของกระทู้และชาวคณะส่วนใหญ่ ได้สัมผัส พูดจาไต่ถาม ล้วนแต่เป็นคนรากหญ้า ทั้งสิ้น เพราะ ข้าราชการนั้น คาดว่าน่าจะไป รวมตัวอยู่ในงานที่สนามกีฬา กันหมด อย่างเช่น แม่ค้าขนมครก ท่านนี้ เป็นผู้ให้ข้อมูล เรื่องราวของท่าน ปยุต ที่ศรีประจันต์ ไม่นับ คนขับตุ๊กๆ รูปงามที่ สาธยาย คนดัง ที่เป็นชาวสุพรรณ มากกว่า สิบคน (ไม่มีท่านบรรหาร อยู่ในรายชื่อ นี้ คงจะตกสำรวจ ฮ่าฮ่า) แก้ไขเมื่อ 26 ก.ย. 53 18:53:02 จากคุณ : แม่ไม่ว่าหรอก เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 53 18:52:04

ความคิดเห็นที่ 37 เมืองสุพรรณบุรี ถึงไม่มี หอบรรหาร-แจ่มใส ไม่มี มังกรยักษ์ ไม่มีอุโมงค์ปลา บึงฉวาก หรือ ควายไทย ก็น่าจะมีคนไปเที่ยว เยี่ยมเยียน มากมาย เพราะน้ำใจไมตรี ชาวสุพรรณ นี่แหล่ะค่ะ เจ้าของกระทู้ได้มีโอกาสไปตลาดสามชุกด้วย แต่ไม่ได้ถ่าย รูปมาให้ ดูกัน เพราะเห็นว่ามีคนนำมารีวิวกันหลายท่านแล้ว มีอีกตลาดหนึ่งที่ได้ไปชมคือตลาดเก้าห้องที่บางปลาม้า พวกเรา แวะในช่วงวันเดินทางกลับ ชาวคณะลงความเห็นว่า ถ้าไม่ได้แวะ คงจะเสียใจแย่ มีอะไรดีๆให้ชมมากมาย สุดท้ายของกระทู้นี้ เจ้าของกระทู้และเพื่อนร่วมทาง ขอเอาใจช่วย ชาวชุมชน ทุกตลาดได้ประสพความสำเร็จในการบริหารจัดการฟื้น ฟู อดีตของท่านให้ลูกหลานได้ศึกษา ให้คนต่างถิ่นได้มาเยือน... ลากันด้วยรูปพระปรางค์ วัดมหาธาตุ นี่ล่ะค่ะ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาชม แก้ไขเมื่อ 26 ก.ย. 53 19:11:36 จากคุณ : แม่ไม่ว่าหรอก เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 53 19:04:05

ความคิดเห็นที่ 38 ขอตามไปเที่ยวด้วยคนนะคะ เป็นอีกคนหนึ่งที่ชอบเดินตลาดมาก ได้บรรยากาศและอารมณ์แบบบ้านๆดี ของกินก็ชวนให้คิดถึงวัยเด็ก จากคุณ : lovelyjone/jog เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 53 19:13:34

ความคิดเห็นที่ 39 อุดมไปด้วยแหล่งอาหารมากๆเลยค่ะ เห็นแล้วหิวขึ้นมาในทันใด จากคุณ : Jakka-Lan เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 53 19:57:41

ความคิดเห็นที่ 40 ...  พาเดินชมตลาดเก่าริมน้ำ เมืองสุพรรณฯ    เล่นเอาทำให้ผมคิดถึงตัวเอง ครั้งที่มาเปิดร้านอาหารที่สุพรรณฯ  ก็มาเดินจ่ายของที่ตลาดนี้แหละครับ    ปลาสลิดที่ขายในสุพรรณฯ  จะมีแหล่งมาจากดอนกำยาน หลังวัดป่าฯ  ชาวบ้านมีอาชีพทำปลาสลิดตากแดดขาย  เวลามีคนซื้อ เค้าจะห่อด้วยกระดาษแล้วใส่ใบมะกรูด ผิวมะกรูดฝาน ดับกลิ่นได้ 100 % เลยครับ นำขึ้นรถมาด้วย รับรองว่าไม่มีกลิ่นเล็ดลอดครับผม    ดีใจที่ชอบร้านไผ่ขวางนะครับ ... จากคุณ : OverEat เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 53 20:06:04

ความคิดเห็นที่ 41 ขอบคุณค่ะ ชอบมากๆ ค่ะ จากคุณ : นู๋ยู้ฮู้ เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 53 20:08:11

ความคิดเห็นที่ 42 อยากไปตลาดคะ ของกินมากมายจริงๆเลยคะ จากคุณ : virung เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 53 20:18:49

ความคิดเห็นที่ 43 ตามมาเที่ยวตลาดสุพรรณฯด้วยคนค่ะ  มีแต่ของน่าทาน น่าซื้อหาทั้งนั้น ขอบคุณสำหรับภาพสวยๆ  และเนื้อหาดีๆนะคะ จากคุณ : กระทะเหล็ก เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 53 20:27:50

ความคิดเห็นที่ 44 อืม...ก่อนจะคอมเม้นท์อื่นใดนั้น ต้องขอบอกว่าเห็นด้วยกับ จขกท.เรื่องอัธยาศัยของคนที่นั่นค่ะ ใจดี น่ารักแล้วก็เป็นมิตรจริงๆ เท่าที่เคยเจอ ส่วนกิ๊ฟท์อื่นๆให้เพราะคิดถึงรสชาติของกินหรือภาพในจินตนาการไปตามที่ จขกท.พูด แค่คิดก็อร่อยแล้วค่ะ ^^ ปล.ตะโก้สีดำไม่เคยเห็นเลยค่ะ แปลกดี จากคุณ : dreammyoye เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 53 22:16:08

ความคิดเห็นที่ 45   กรี๊ดดดดดดดดดดด ภาพที่9 ไข่เน่า ผลไม้ป่าหายากที่เคยกินสมัยเด็กๆ 5555 ความจริงมันก็ไม่อร่อยเท่าไหร่ค่ะ กลิ่นก็แปล่งๆสีก็ดำๆคล้ำๆ แต่ตอนเด็กๆเคยกิน และไม่ได้เห็นมานานแล้ว พอเห็นแล้วนึกถึงสมัยเด็กๆตอนไปเล่นตีนเขาหลังหมู่บ้านเลยค่ะ มีต้นไข่เน่าด้วย 555 จากคุณ : น้ำมะตูมแช่เย็น เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 53 10:26:27