ความคิดเห็นที่ 1 ถ้าเรียนจบ CIA แล้ว แต่ไม่มีประสบการณ์การทำงาน  ทางร้านอาหารหรือโรงแรมจะรับเข้าทำงานตำแหน่งอะไรค่ะ   แล้วตำแหน่งนั้นเงินเดือนเท่าไหร่ จากคุณ : เอกจิตรา เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 53 17:44:52

ความคิดเห็นที่ 2 อย่ามองที่เงินเดือนครับ ทำงานสะสมประสบการณ์ก่อนดีกว่า ความรู้ดีกรีมีพอสมควรแล้ว ลงมือทำ(งาน)เลยครับ จากคุณ : nonsoul เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 53 18:50:32

ความคิดเห็นที่ 3 อย่างที่ข้างบนบอกคะ  ของอย่างนี้อยู่ที่ประสบการณ์ล้วนๆ จากคุณ : ~Just Relax~ เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 53 19:10:08

ความคิดเห็นที่ 4 ควรหาประสบการณ์โดยการทำงานค่ะ  ไม่ควรนึกถึงว่าจะเริ่มต้นด้วยเงินเท่าไร  เแค่เขารับเราก็นับว่าโชคดีแล้วค่ะ สายอาชีพนี้ประสบการณ์มีค่าที่สุด  เรียนมากใช่แสดงว่าเก่งมาก จากคุณ : Daytime Lantern เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 53 19:31:23

ความคิดเห็นที่ 5 ความเห็นส่วนตัวนะ : head chef ถ้าอยากเป็น ต้องไปเรียน เพิ่มเพราะ Le ที่ดุสิต แค่ practical, ทฤษฎีพวก Menu planning, Food cost, Menu engineering, Business Financial, Human resource management. ถ้าไม่เรียนจะรู้ไหม ส่วนใหญ่จบมาก็ลงเต็มที่ให้ apprentice chef หรือ commis chef. ทั้งนี้ ทั้งนั้นทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวเอง ขวนขวายแค่ไหน ผมว่าถ้าหวังจะเป็น executive chef หรือ head chef คือ ไปเรียนต่อให้ได้ เนื้อหา ที่ผมบอกไปนะครับ ส่วนประสบการณ์ก็สําคัญ ถ้าสามารถเรียนไปด้วยทํางานไปด้วยจะดีมาก. จากคุณ : เด็กle (shima) เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 53 19:52:49

ความคิดเห็นที่ 6 เรียน on line กับมหาวิทยาลัยต่างประเทศจะดีกว่ามั้ยครับ แล้วทำงานหาประสบการณ์ไปด้วย ผมเองก็เคยลงเรียนวิชา kitchen management จาก cornell university โดยใช้วิธีนี้เหมือนกัน จากคุณ : chonwut เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 53 21:02:43

ความคิดเห็นที่ 7 การทำอาหารให้ได้ดี  อยู่ที่ประสบการณ์ค่ะคุณ ต่อให้เรียนสูง เรียนได้หลายวุฒิหลายใบ แต่ไม่ได้ลงมือทำจริงๆ จังๆ ก็เท่านั้น ขอให้ไปอ่านประวัติของเชฟเอียนดูสิคะ  คนจะเก่งได้ขนาดนั้นถึงกับมีร้านอาหารติดอันดับ 1ใน 4 ของนิวยอร์ค ต้องผ่านการฝึกฝนทำงานจากก้นครัวแค่ไหน  การเรียนในสถาบันหรูๆ ใช่ว่าจะเก่ง ดูเอาจากรายการของเชฟแรมซีย์ก็ได้  ถึงคนที่มีประสบการณ์เป็น Executive chef ตั้งแต่ยังเด็ก อายุ 20ปี  มาแข่งรายการนี้ก็ใช่ว่าจะผ่านง่ายๆ จากคุณ : kaoim เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 53 10:40:04

ความคิดเห็นที่ 8 ประสบการณ์ใน้ห้องเรียนเทียบกับของจริงไม่ได้เลยค่ะ 90 practical คิดแล้วก็เท่ากับการทำงานในครัวจริงๆ แค่ 90 วัน แถมเป็นการทำงานที่รับผิดชอบแค่อาหารที่ต้องส่งแค่ 1 จานในเวลาตั้ง 3 ชั่วโมง ต่างกับชีวิตการทำงานจริงลิบลับค่ะ ต้องเรียนรู้ทักษะการจัดการ Process ต่างๆ ในครัวอีกเยอะ ถ้าอยากอยู่ในสายงานนี้จริง ต้องขวนขวายใฝ่รู้ค่ะ อย่า Ego สูง คิดว่าดีแล้ว เก่งแล้ว เจอมาเยอะแล้วพวกจบสถาบันดังๆ แล้วรับฟังคำวิจารณ์ไม่ได้ พอมีคนติ กลับบอกว่าคนพวกนั้นไม่รู้จักรสชาติอาหารแบบดั้งเดิม ทั้งๆ ที่จะว่าไปแล้วหน้าที่ของเชฟก็คือการทำอาหารให้ลูกค้าพอใจที่สุดต่างหาก ต้องรู้จักด้วยว่าลูกค้าชอบแบบไหน  รสไทยชอบ กับฝรั่งชอบมันต่างกันค่ะ เชฟที่ดีคือเชฟที่ใส่ใจคนกิน รู้จัก customize รสชาติ ไม่ใช้ยัดเยียดรสชาติที่เราคิดว่าดีแล้ว อร่อยแล้ว  แล้วให้คนกินรู้สึกเหมือนเรา ตอนนี้มี Degree เป็นใบเบิกทางมาแล้ว ไม่ต้องเสียเวลาไปเรียนที่ไหนอีกหรอกค่ะ หางานทำเลย แล้วก็ทำใจเลยว่าจะต้องเริ่มจากตำแหน่งล่างๆ เลย และใช้เวลาอีกนานในการใต่เต้า สะสมประสบการณ์ไปเรื่อยๆ แล้วจะพบว่าในการทำอาหาร อะไรก็ไม่เท่ากับประสบการณ์ อันนี้เป็นคำบอกเล่าของรุ่นน้องที่จบ LCDB แล้วไปทำงานที่โรงแรมค่ะ เค้าบอกว่า  "โห พี่ ทักษะการใช้มีดของป้าที่จบแค่ ป.4 แต่ทำงานมา 15 ปีนี่สุดยอด ผมชิดซ้ายเลย มีดเมิดเค้าก็ไม่เห็นต้องใช้ของแพง มีดบ้านๆ นี่แหละ" สิ่งที่ LCDB สอนดีคะ แต่ออกแนวหรูเกินกว่าสิ่งที่จะได้พบในการทำงานจริง นอกเสียจากว่าคุณจะเปิดร้านของตัวเองและเป็นเชฟเอง อยากใช้อุปกรณ์ วัตถุดิบเลิศหรูขนาดไหนไม่เป็นปัญหา แต่ทำไปเป็นลูกจ้างเค้า ต้องหัดทำซอสยังไงก็ได้ให้อร่อยจากเนยเกรดพื้นๆ อุปกรณ์ทุกอย่างไม่ชั้นเลิศเหมือนที่โรงเรียน ตะกร้อซี่หักๆ กระทะบุบๆ มีดบิ่นๆ ต้องหัดทำงานกับมันให้ได้ จบ  LCDB ไม่ได้การันตีว่าจะทำอาหารอร่อยและเก่ง คุณก็น่าจะรู้ดี ตอนที่เราเรียนเพื่อนๆ ในห้องคงมีหลายคนที่ตอน  Basic มึนยังไง จบ  Superior ก็ยังมึนอยู่ แต่ก็จบมาได้ด้วยคะแนนเฉียดฉิว  การ Organize งานเละยังไงตอนจบก็ยังเละอยู่ สำหรับคนภายนอกภาพลักษณ์ดีแน่นอนค่ะ ว่า โอ้โห จบจาก  LCDB แต่คนในสายอาชีพเค้าไม่ได้มองแบบนั้นหรอกค่ะ เค้าออกจากรู้สึกไม่ค่อยเชื่อในฝีมือด้วยซ้ำ หลายคนที่มองว่าพวกจบ LCDB คงเป็นคุณหนู หนักไม่เอา เบาไม่สู้ ถ้าคุณอยากไปในสายงานนี้จริง ก็ต้องพิสูจน์ตัวเองให้ได้ว่าคุณไม่ได้เป็นได้แค่ Cook  แต่คุณสามารถที่จะเป็น  Chef ได้ ขอให้โชคดีค่ะ แก้ไขเมื่อ 11 ต.ค. 53 17:24:53 จากคุณ : dsmatty เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 53 11:25:00

ความคิดเห็นที่ 9 จขกท.นะครับ บอกตามตรงครับ ผมเองถึงแม้จะแล้วแต่ก็ยังไม่รู้สึกว่าตัวเองเก่งอย่างที่ว่านั่นแหละครับ ทีแรกก็นึกเหมือนคนอื่นๆที่อยากจะหาทางลัดให้ได้เร็วที่สุดเหมือนคนอื่นทั่วไป คือหาโรงเรียนหรือสถาบันดังๆที่มีชื่อเป็นที่ยอมรับ จึงได้เข้ามาเรียนที่ LCBD เพื่อหวังว่าเมื่อเรียนเสร็จจะเก่งสมตามค่าเรียนที่แพงขนาดนั้น แต่จริงๆแล้ว ถึงแม้เรียนจบแล้ว ก็ยังรู้สึกว่าตัวเองไม่เก่งพอ จะเก่งก็แค่บ้างเท่านั้น เช่น การวางแผนการทำงานดูดีขึ้น การจัดจานเป็นไปได้ดีขึ้น เทคนิคต่างๆดีขึ้นมากๆ เรืองรสชาติ ฮาฮาฮา ยังลูกผีลูกคนอยู่ ถีงแม้ Chef จะบอกว่า OK บ้าง Nice บ้าง Very good บ้าง แต่บางครั้งก็ออกทะเลไปเลยก็มีบ่อยครั้งครับ (เรียน Basic จะเข้าครัว 29 ครั้ง +สอบ 1ครั้ง Intermedia = 29 ครั้ง + สอบ 1 ครั้ง Superior =28 ครั้ง + สอบ 1 ครั้ง แน่นอนว่ามันเที่ยบไม่ได้กับคนที่อยู่แต่ในครัวแค่ 3 เดือนก็พอ) ผมเองตอนนี้คะแนนเรียนก็ถือว่าใช้ได้ เพราะมากกว่าคะแนนเฉลี่ยในห้อง และโรงเรียนออกจดหมายรับรองให้ไปฝึกงานกับโรงแรงระดับ 5 ดาว ซึ่งหาก คนที่พอจะทราบอยู่แล้วจะทราบว่าคะแนนต้องถึงเท่าไร โรงเรียนจะออกหนังสือรับรองให้ และจะไม่ออกหนังสือรับรองให้กับนักเรียนที่มีคะแนนต่ำกว่าเกณฑ์ (อาจเป็นเรื่อง การรักษาภาพลักษณ์ของโรงเรียนที่ไม่ส่งนักเรียนที่มีคะแนนต่ำออกไปให้คนภายนอก ตำหนิโรงเรียนก็เป็นได้ว่า นี่หน่ะเหรอ คุณหนูจบจาก LE CORDON BLEU ทำได้แค่นี้) ตามที่ผมได้อ่านความเห็นของทุกความเห็น ผมเข้าใจดีเลยครับว่ายังไงก็ต้องใช้ประสบการณ์ ในสายอาชีพนี้ ครั้งแรกที่คิดไว้ว่าอยากไปเรียน CIA เพราะเป็นสถาบันระดับโลก และถ้าผมอายุมากกว่านี้ และถ้ามีครอบครัวด้วยหล่ะก็ การที่จะไปเรียนต่อผมคิดว่าคงเป็นเรื่องยาก และถ้าหากหาประสบการณ์ไปก่อน แล้วค่อยไปเรียนนั้นก็หมายความว่าโอกาสที่จะได้ไป เรียนเมื่ออายุใกล้เลข 4 นั้น น่าจะน้อยลงมากๆ ผมเข้าใจนะครับว่าใบ Cer. ต่างๆมันไม่ได้มีความหมายอะไรซักเท่าไร แต่ในความคิดผมนั้น ถ้าหากเก่งด้วย และมี Cer. ด้วย มันน่าจะเป็นที่ยอมรับมากกว่า อย่างนั้นรึเปล่าครับ (อันนี้ตามความคิดผมเอง) ถึงยังไงก็แล้วแต่นะครับ ผมพอมองเห็นภาพแล้วหล่ะครับว่าควรจะทำอะไรต่อไปดี อาจจะเรียนไปด้วย ทำงานไปด้วย พร้อมๆกัน เพราะจะได้ทั้งภาคทฤษฎี และปฎิบัติไปด้วย ในตัว แต่จะไปที่ประเทศไหนอันนี้เป็นปัญหาให้คิดอีกแล้วครับ เพราะอเมริกาไม่ให้นักเรียนทำงาน และถ้าจะเรียนเพียงอย่างเดียวก็จะไม่ได้ประสบการณ์อย่างที่ทุกท่านให้ความเห็นมา T.T จากคุณ : Longhairboyz เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 53 17:49:56