ความคิดเห็นที่ 1 07/05/2010   “Nagiya”   ร้าน Nagiya เป็น Izakaya ที่มีความโดดเด่นเรื่อง Kushiyaki และ Nabe ตามที่เขาโฆษณา แต่ผมคิดว่าร้านนี้มีอาหารกี่อย่าง ... ก็อร่อย และ น่าประทับใจ แทบทุกอย่างครับ   ร้านอาหาร จำพวกย่างๆ ถ้าเป็นญี่ปุ่นแท้จริงๆ เขาจะเปิดเฉพาะตอนเย็นไปถึงดึกๆครับ ยกตัวอย่างเช่น Torajirou ที่ Nihonmaru, Jidori-ya Kenzou ร้านไก่ย่างเทพ ซ.26, Ginzado Yakiniku ระหว่างทองหล่อ 5 – 7 , Tan Yakiniku เป็นต้น ... ส่วนเหตุผลที่เค้าเปิดเฉพาะตอนเย็น ผมคิดว่า คงเป็นเพราะร้านแบบนี้ลูกค้าเข้าไปเมื่อไหร่ ก็มีกลิ่นย่างก็ติดตัวออกมาด้วย ที่ญี่ปุ่นคงไม่ค่อยมีมีใครอยากตัวเหม็นกลับไปทำงาน อีกอย่างถ้าจะสังสรรค์ทั้งทีก็คงนั่งนาน และก็คงไม่มีใครอยากเมาด่วน ยกเว้นคนอกหัก :D ชีวิตตอนพักกลางวันที่ญี่ปุ่นมีแต่ความรีบเร่ง แค่ราเมน ข้าวหน้าเนื้อ ข้าวแกงกะหรี่ ก็น่าจะเป็นสิ่งที่เหมาะสมสำหรับมื้อเที่ยง เหมือนกับบ้านเราที่มักจะกินข้าวแกง ก๋วยเตี๋ยวเป็นอาหารจานด่วน ส่วนถ้าอยากกินข้าวเหนียวส้มตำปลาร้าให้สั่งไปกินบน Office แล้วเราจะได้รับความสนใจมากโดยเฉพาะท่านหัวหน้า แก้ไขเมื่อ 26 ต.ค. 53 12:52:42 แก้ไขเมื่อ 26 ต.ค. 53 12:45:59 จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 12:44:46

ความคิดเห็นที่ 2 ส่วนใหญ่อาหารร้าน Nagiya จะเป็นกับแกล้ม จานพอดีๆ กินเพลิน บรรยากาศร้านคึกคัก สร้างความสนุกสนานเป็นกันเองมาก เสียงของพนักงานเองก็จะคอยปลุกเร้า แสดงถึงความเอาใจใส่ ตั้งใจทำงานกันมาก และในความรู้สึกของผม ผมว่าร้านนี้เขามีจุดเด่นด้านการบริการดี พ่วงเข้ามาด้วย นอกจากอาหาร (และเหล้า) รสชาติที่ดีแล้ว ไม่เคยอารมณ์เสียกับบริการของร้านนี้แม้แต่ครั้งเดียว แม้จะคนเยอะแค่ไหนก็ตาม ร้านนี้ยังให้ความประทับใจทุกครั้งที่ไปกินครับ จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 12:46:41

ความคิดเห็นที่ 3 อาหารที่เรียกว่าเป็นจุดเด่นของทางร้านก็คือ Nabe นาเบะก็คือหม้อไฟ และที่ผมชอบมากที่สุดเห็นจะเป็น Motsu Nabe ... แปลเป็นไทยได้ความว่า หม้อไฟไส้วัว ฟังดูน่ากลัวไปมั้ยเนี่ย ? แต่ไส้วัวที่ว่าเป็นไส้วัวจากวัวขนดำพันธุ์ญี่ปุ่น หรือที่เรียกทางการว่า Kuroge Wagyu นะครับ เป็นไส้จากวัวที่ผลิตเนื้อ Kobe, Matsusaka, Hida ฯลฯ ที่มีไขมันแทรกอยู่มาก และเป็นไขมันที่ดี (ยังไง...) เพราะนอกจากมันจะทำให้น้ำซุปของเราหอมหวลไปด้วยกลิ่นของเนื้อวัว และมันยังจะมาละลายต่อในปากของเราอีก โอ้...พูดแล้วก็อยากจะกิน กิน กิน !! จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 12:48:06

ความคิดเห็นที่ 4 การหม่ำ Kimchi Motsu Nabe ในแบบฉบับของผม 1. จัดเรียงใบกุยช่ายไว้เปรียบเสมือนฝาหม้อ ที่จะคอยเก็บความร้อนและไอระอุให้อยู่ภายในหม้อไฟนั้น จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 12:49:41

ความคิดเห็นที่ 5 2. เมื่อน้ำเดือด และทุกอย่างภายในหม้อไฟสุกแล้ว ก็หม่ำได้ตามอัธยาศัย เติมน้ำซุปได้ตามใจชอบ จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 12:50:40

ความคิดเห็นที่ 6 3. เมื่อกินหมดแล้ว เหลือซุปไว้เลือกทำได้ 2 อย่าง 3.1) ทำเป็นอุด้ง หรือ ราเมน ร้อนๆแล้วซด จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 12:52:23

ความคิดเห็นที่ 7 3.2) ทำเป็นข้าวตุ๋นไข่ โดยการสั่งข้าวญี่ปุ่นมา 1 ที่ และไข่ดิบ 1 ฟอง ใส่ข้าวลงไปก่อนให้ดูดซึมน้ำซุป แล้วจึงใส่ไข่ที่ตีหยาบๆลงไป หยอดโรยให้เป็นสาย แล้วจึงปิดไฟลง ค่อยๆตักใส่ถ้วย แล้วซด จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 12:54:33

ความคิดเห็นที่ 8 ของเสียบไม้ย่าง Kushiyaki ทั้งหลาย เป็นต้นว่า Buta Bara Shio Yaki หมูสามชั้นย่างเกลือ, Negima เนื้อไก่ย่างกับต้นหอม และ อื่นๆอีกมากมาย ก็มีให้เลือกได้อร่อยตามใจชอบครับ จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 12:55:21

ความคิดเห็นที่ 9 “Oroshi Harami Ninniku” แปลเป็นไทยว่า เนื้อกระบังลมวัวย่าง พร้อมหัวไชเท้าขูด และกระเทียม ...... เนื้อกระบังลมวัว เอ่อ คือ ทีแรกผมก็ไม่อยากเชื่อว่าเขาจะแปลมันออกมาเช่นนี้ เพราะมันทำให้เพื่อนของผมบางคนที่ไม่รู้ภาษาญี่ปุ่น ถึงกับผงะ และไม่กล้ากินกระบังลมวัว ถึงเขาและเธอคนนั้นจะชอบกินเนื้อวัวมากก็ตาม .... จนผมต้องแอบสั่งมาในช่วงชุลมุน และเมนูนี้ก็กลายเป็นของโปรดของเพื่อนผมหลายๆคน Harami, Karubi, Rosu 3 ชื่อนี้เป็น 3 ส่วนของวัว ที่นิยมขายตามร้านเนื้อย่างญี่ปุ่นทั่วไป ซึ่งผมมักจะให้ความหมายกับ เนื้อ 3 ชนิดนี้ ตามที่ผมเข้าใจว่า Harami คือเนื้อพื้นท้องมีไขมันแทรกนิดหน่อย Karubi เนื้อติดซี่โครง Short Ribs มีไขมันแทรก Rosu เนื้อสันนอก เซอร์ลอยน์ ติดมัน แต่ไม่เคยเข้าใจว่า Harami คือกระบังลมวัวนะ.... ถึงมันจะอยู่ใกล้กัน แต่เรียกว่าเนื้อส่วนท้อง หรือพื้นท้อง น่าจะฟังดูน่าหม่ำกว่ามั้ยครับ อิอิ แก้ไขเมื่อ 26 ต.ค. 53 12:55:51 จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 12:55:37

ความคิดเห็นที่ 10 ไม่ไหวแล้ว... วิวสวย อาหารน่ากินตั้งแต่ต้นเลย.... จากคุณ : L-Nets เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 12:55:57

ความคิดเห็นที่ 11 ร้าน Nagiya มีเนื้อไก่ดิบจิ้มวาซาบิ (Tori Wasa) ซึ่งผมชอบกินมาก โดยอีกร้านหนึ่งที่มี และอร่อยเหมือนกันก็คือร้าน Jidori-ya Kenzou อยู่ในซ.สุขุมวิท26 (อารีย์) ร้านนั้นจะออกมาในแนวยำใส่กับ Ponzu เปรี้ยวนิดๆกินกับปลาแห้งขูดและวาซาบิสด ร้านที่ว่านี่เด็ดมากเรื่องไก่ๆนะครับ เพราะว่าเขามีฟาร์มเลี้ยงไก่เองอยู่ที่ราชบุรี ส่วนเกลือ เขาก็หอบมาจากอาเจนตินาและอิตาลี ส่วนถ่าน Binchotan ก็เอามาจากญี่ปุ่น อะไรจะขนาดนั้น แต่เขาก็ย่างไก่ออกมาได้เทพจริงๆ แค่เกลือกับไก่ สองอย่างนี้ก็ทำให้เราได้อิ่มเอมกับรสชาติของไก่บ้านอย่างเต็มที่แล้ว พูดแล้วน้ำหลายไหล ... อ่อเรากำลังอยู่ในร้าน Nagiya ไม่ใช่เหรอ ? :D กลับมาก่อนๆๆ ไก่ดิบที่ร้าน Nagiya มีให้เลือกถึงสองแบบครับ “TORI WASA” ไก่ดิบ จิ้มกับโชยุ และวาซาบิ เมนูนี้ร้านไก่ย่างที่ญี่ปุ่นชอบขายในชื่อ Tori Wasa เป็นเนื้อสันในไก่ดิบแช่เย็น หั่นมาพอดีคำ ให้ความรู้สึกเหมือนกินปลาเนื้อแน่นๆ ที่ไม่มีกลิ่นคาวเลยครับ ทีแรกก็มีแต่คนกลัวไก่ดิบ ถามว่ากินได้เหรอ ไม่ตายเหรอ .... กลายเป็นว่าระยะหลังๆนี่ ถามหาแต่ไก่ดิบ อยากกินไก่ดิบ ซะงั้น จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 12:57:13

ความคิดเห็นที่ 12 “TORI YUKKE” คือเนื้อไก่ดิบยำ โปะหน้าด้วยไข่แดงดิบ เอาเข้าไป อะไรจะดิบขนาดนั้น แต่เมนูนี้ก็อร่อยเยี่ยมเช่นกัน เพราะปกติผมเป็นคนชอบกิน Yukke อยู่แล้ว ผมรู้สึกว่าเนื้อไก่เย็นๆกับไข่ไก่รสชาติหอมมันเข้ากันดีจัง เอ๊ะหรือว่าเราเป็นผีปอปไปแล้วเนี่ย ?? ปล. สำหรับคนที่ชอบกิน Beef Yukke ผมแนะนำให้กินที่ร้าน Ginzado ร้านนั้นเขามีทั้ง Beef Yukke และ Tan Yukke เป็นยำลิ้นวัวดิบ สุดยอด อร่อยมากครับ จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 12:57:47

ความคิดเห็นที่ 13 ส่วนจำพวกปลาดิบ ผมรู้สึกเฉยๆนะ ถึงเคยสั่งมาลองมันก็พอใช้ได้อยู่ แต่ก็ไม่ได้พีคเท่าไหร่ ถ้าอยากกินคงจะไปตามร้าน Sushi จริงๆมากกว่า เป็นต้นว่าร้าน Honmono ตอนนี้เขาก็กำลังฮิตกันอยู่ ไว้ใครอยากกินปลาดิบ ก็รอไปกินร้านเฉพาะทางไปเลยดีกว่าเนอะ นอกจากนี้ยังมี Tofu Salad สลัดเต้าหู้ จานนี้อร่อยมากนะ ความไม่ธรรมดา ซ่อนอยู่ในความธรรมดา หลายคนคิดว่าสลัดเต้าหู้ แล้วไง ? ขอให้ลองดู แล้วจะติดใจ แล้วไง ! จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 13:00:02

ความคิดเห็นที่ 14 Kyabetsu กะหล่ำปลีสดกรอบ จิ้มกับมิโสะรสเผ็ดนิดๆ เมนูนี้ผมกินครั้งแรกที่ร้าน TORITETSU YAKITORI ที่สถานี JR Narita ในโตเกียว และผมรู้ซึ้งว่ามันเป็นกับแกล้มที่ยอดมาก กินแล้วไม่อ้วน แถมกินเพลิน จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 13:03:28

ความคิดเห็นที่ 15 หมูสามชั้นตุ๋นโชยุ และ ไข่ยางมะตูม จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 13:05:00

ความคิดเห็นที่ 16 เบค่อน+ชีส จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 13:05:48

ความคิดเห็นที่ 17 ต่อจากนี้ผมขอพาทุกท่านลัดฟ้าไป South Island ที่ประเทศ New Zealand ครับ ทริปนี้มีความทรงจำ พร้อมประสบการณ์การดีๆมากมาย และผมได้พบกับสิ่งที่ไม่เคยพบเจอในชีวิตหลายอย่างเลยทีเดียว   จะว่าไป Concept ในการออกทริป New Zealand ครั้งนี้ หลักๆก็คือ “Road Trip” แท้ๆเลยครับ ขับไป เที่ยวไป ขับไปซื้อของสดๆในซุปเปอร์มาร์เก็ต หรือจากฟาร์มปลาแซลม่อน แล้วมาทำกินกัน มีหม้อไฟปลาแซลม่อนสดจากฟาร์มในหุบเขาที่เต็มไปด้วยหิมะ,  Yakiniku ซี่โครงแกะ, Steak เนื้อ Augus ที่เลี้ยงใน New Zealand, เห็ดแชมปิญอง, Portobello Mushroom ที่สดมากๆ และก็อีกหลายอย่างที่ผมจะค่อยๆเล่าให้ฟังละกันครับ   ประเทศนิวซีแลนด์นี่เป็นประเทศที่แค่ขับรถไปเรื่อยๆก็เหมือนได้ท่องเที่ยว ชมวิว สวยงามตระการตามากครับ เรียกว่าถ้าใครเป็นคนชอบหลับในรถแล้วล่ะก็ พูดได้ว่า เหมือนเดินทางไกลมาแล้วได้สัมผัสประเทศนี้แค่เสียงล้อบดถนน เพราะว่าทุกกิโลเมตรที่ผมขับไป ผมใช้ประสาทสัมผัสทั้งหมด และใช้ความจำเท่าที่มี เก็บทุกอย่างเป็นความประทับใจ ...แต่คุณรู้ไหม ผมถ่ายรูปไปทั้งหมดเท่าไหร่ ... ประมาณว่าเตรียม Memory Card ไปเท่าไหร่ ก็ไม่พอครับ แก้ไขเมื่อ 26 ต.ค. 53 13:08:27 จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 13:08:07

ความคิดเห็นที่ 18 28/06/10   “High Country Salmon Farm”   ประเทศ New Zealand มีฟาร์มแซลมอนอยู่หลายแห่ง ซึ่งแต่ละแห่งจะเลี้ยงแซลมอนต่างๆสายพันธุ์กัน โดยแต่ละฟาร์มจะมีผลผลิตตลอดปี โดยช่วงฤดูหนาว แซลมอน จะสะสมไขมันไว้มากที่สุด เนื่องจากสภาวะน้ำที่เย็นจัด ทำให้ปลาต้องปรับตัวให้เข้ากับฤดูกาล … แต่ทำไมคนจึงต้องสะสมไขมันด้วย อันนี้ต้องถามนักวิจัยมนุษย์ ฮ่าๆๆ   ที่ High Country Salmon Farm เขาเลี้ยงปลาแซลมอน สายพันธุ์ Atlantic Salmon ต่างจาก Mt.Cook Salmon Farm ที่ใช้ King Salmon หรือ Chinook Salmon ครับ   เมื่อเดินเข้าไปในฟาร์มของ High Country ก็จะมีคุณป้าคนนึง ชวนไปให้อาหารปลาที่กระชัง ... ดีจัง ใจดี ให้อาหารปลา ผม มาดาม และเพื่อน เรา สอง สาม คน ก็เออ ออ เดินไปให้อาหารปลา...เสร็จแล้วก็เอาปลามากินเป็นอาหาร เยี่ยมไหมล่ะ ? แก้ไขเมื่อ 26 ต.ค. 53 13:11:58 จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 13:11:35

ความคิดเห็นที่ 19 เข้ามาอ่านต่อค่ะ จากคุณ : ป้าอ้วนเหนียวเนื้อ เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 13:12:02

ความคิดเห็นที่ 20 กิ๊ฟหมดตั้งแต่ภาคที่แล้ว ทำไงดี ได้แต่นั่งมองแล้วก็เช็ดน้ำลาย 555 ต้มไข่ได้เทพมากค่ะพี่แอม ทำได้ไงไม่รุ ไข่ขาวสุกแต่ไข่แดงร่อนออกมาเป็นลูกๆเลย หม้อไฟแทบจะล้นออกมาแล้วววว ช่วยซด น่ากินทั้งแบบอุด้งกับแบบข้าวราดไข่เลยค่ะ อันไหไนอร่อยกว่ากันคะ จากคุณ : ฟันคุดน้อยซี่ที่7 เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 13:12:22

ความคิดเห็นที่ 21 น้ำลายไหล XD~ จากคุณ : breaka เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 13:12:27

ความคิดเห็นที่ 22 --" แก้ไขเมื่อ 26 ต.ค. 53 13:16:22 จากคุณ : ฟันคุดน้อยซี่ที่7 เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 13:12:27

ความคิดเห็นที่ 23 ซ้ำค่ะ --' แก้ไขเมื่อ 26 ต.ค. 53 13:15:45 จากคุณ : ฟันคุดน้อยซี่ที่7 เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 13:12:46

ความคิดเห็นที่ 24 ปลาแซลมอนของ High Country เนื้อจะนุ่มกว่า เพราะมีไขมันมาก แต่ที่สำคัญก็คือ ทุกฟาร์มจะมี Sashimi ปลา Salmon ที่หั่นให้กินสดๆ พร้อมโชยุ วาซาบิ และนั่งกินในฟาร์มเลยครับ เราก็นั่งกิน Sashimi ไปดูปลาว่ายไปด้วย เป็นอะไรที่ได้อารมณ์..แปลกๆไปอีกแบบครับ จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 13:13:45

ความคิดเห็นที่ 25 จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 13:15:34

ความคิดเห็นที่ 26 เพื่อนผมคนหนึ่งที่ได้เห็นรูปนี้ เขาบอกว่าเอาปลาไปย้อมสีมาหรือเปล่า ผมไม่ได้ทำอะไรกับรูปที่ถ่ายมาเลยนะครับ ย่ออย่างเดียวเท่านั้นเอง ดังนั้น ขอให้เชื่อ ในสิ่งที่คุณเห็น และจงเชื่อในรสชาติที่สด อร่อยสุดยอดของ Sashimi ที่กินในฟาร์มแซลม่อนนี้ ! ฮ่าๆๆๆ จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 13:17:06

ความคิดเห็นที่ 27 ตามต่อค่ะ จากคุณ : ladystrawberry เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 13:18:23

ความคิดเห็นที่ 28 ไขมันหอมนุ่มละลายในปาก เนื้อปลาสดอร่อยมาก และคิดว่าคงจะสดกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 13:18:49

ความคิดเห็นที่ 29 ทันถ่ายทอดสด ^^ ขอเช็คอินครับผม :D จากคุณ : AugusT[CrusheR]VeronicA เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 13:19:56

ความคิดเห็นที่ 30 น้ำของทะเลสาบทุกทะเล ที่นิวซีแลนด์ ใสเป็นสีฟ้าอ่อนๆ ดูงดงามอย่างไม่เคยเห็นที่ไหน เขาบอกว่าน้ำทะเลสาบของที่นี่ สามารถดื่มได้ และสะอาดกว่าน้ำประปาบางประเทศเสียอีก ผมก็คิดแบบนั้นนะ ใสเห็นตีนเป็ดเลย จ๊ากกกกกกก จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 13:20:07

ความคิดเห็นที่ 31 เห็นแซมม่อนแล้ว หิวต่อได้เลย ;) จากคุณ : BROWN STITCH เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 13:20:20

ความคิดเห็นที่ 32 28/06/10   “Aoraki Mt.Cook”   ระหว่างทางไป Mt.Cook Village แก้ไขเมื่อ 26 ต.ค. 53 13:23:05 จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 13:22:29

ความคิดเห็นที่ 33 28/06/10 “Aoraki Mt.Cook” ภูเขาที่สูงที่สุดของประเทศ New Zealand เรา สอง สาม คน เดินทางไปที่ Mt.Cook Village เพื่อสัมผัสความหนาวเย็น และหิมะล้อมรอบตัว โดยเราพักกันที่ The Hermitage Mt.Cook โรงแรมเพียงแห่งเดียวที่ตั้งอยู่ในเขต Mt.Cook Village นี้ แน่นอนว่าเป็นห้องแบบ Self-Contained คือห้องนอน ห้องน้ำ และที่สำคัญที่สุด “ห้องครัว” ปล. ผมจองที่พักผ่าน http://www.wotif.com ทุกที่ที่ไปเลยครับ ง่ายและราคาดี และโดยรอบห้องพักของเรา ปกคลุมเต็มไปด้วยหิมะ จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 13:24:28

ความคิดเห็นที่ 34 วิวหน้าบังกะโล จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 13:25:27

ความคิดเห็นที่ 35 อาหารมื้อเย็นที่เราทำกินกันท่ามกลางความหนาวเหน็บ ติดลบ 8 องศา เซลเซียส นั่นก็คือ Salmon Kimji Nabe … เพราะเราได้แซลมอนสดๆจากฟาร์ม เมื่อตอนบ่ายนี้เอง ผมเลยจัดการเอามาทำหม้อไฟกิมจิ ให้เรา สอง สาม คน ทานกัน ... เป็นเมนูเปิดตัวการทำอาหารมื้อแรกในดินแดนแห่งความบริสุทธิ์ Pure New Zealand อย่างเป็นทางการ ด้วยแซลมอนที่สดมาก และมีเนื้อที่นุ่มมาก จนสามารถเก็บไปฝันให้หมอนเปียกน้ำลายไหลย้อยยามค่ำคืนได้ แก้ไขเมื่อ 26 ต.ค. 53 13:26:30 แก้ไขเมื่อ 26 ต.ค. 53 13:26:12 จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 13:25:47

ความคิดเห็นที่ 36 ในเมื่อข้างนอกมีแต่หิมะ ในคืนแรกเราเลยแช่ไวน์ขาว ของ Stoneleigh Marlborough Chardonnay 2008 ของประเทศมหัศจรรย์นี้ ไว้กับหิมะฟูฟ่อง ให้ Chilled กำลังดี แล้วเอามาเปิดดื่ม ปิดท้าย จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 13:26:58

ความคิดเห็นที่ 37 ช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง ถึง ต้นฤดูหนาว จะเป็นช่วงนี้ผล Kiwi จะออกผลมากที่สุด มีคุณภาพ และ ราคาถูกที่สุด ดังนั้น เราจึงกินกันเป็นของหวานปิดท้ายของอาหารทำเองทุกมื้อ ส่วนใหญ่เราจะกิน Golden Kiwi กัน เพราะจะมีรสหวานมากกว่า Kiwi ธรรมดานิดหน่อย คิดแล้วก็คิดถึงเหลือเกิน....เจ้ากีวี่สีทอง จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 13:27:15

ความคิดเห็นที่ 38 29/06/10   สำหรับเช้านี้ Breakfast ตัวแสดงหลักยังคงเป็นแซลมอนสดจากฟาร์มอยู่ เมนูได้แก่ Smoked Salmon Egg Benedict ต้องขออภัยที่ซอสไม่เนียน เพราะอากาศหนาวมากจนกะอุณหภูมิไม่ถูก มือแข็งไปหมดเลยทีเดียว ฮ่าๆ แก้ไขเมื่อ 26 ต.ค. 53 13:28:42 จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 13:28:22

ความคิดเห็นที่ 39 Salmon Steak แบบ Medium Rare ง่ายๆแต่อร่อยได้ใจความ จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 13:29:31

ความคิดเห็นที่ 40 เป็ดเหมือนเป็ดของเล่นในอ่างน้ำเลย 55555 แต่วิวสวยสุด ๆ จากคุณ : AugusT[CrusheR]VeronicA เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 13:30:27

ความคิดเห็นที่ 41 ต่อจาก Mt.Cook  เรา สอง สาม คน ก็เดินทางต่อไปยัง Queenstown หลายท่านอาจจะสงสัยว่า เรา สอง สาม คนนี้ประกอบด้วยใครบ้าง ? ทริปนี้มีผู้ร่วมเดินทางรวมทั้งหมด 3 คนครับ ผม มาดาม และเพื่อนผู้หญิงที่ศึกษาต่ออยู่ที่ Christchurch ผมเลยเรียกทริปนี้ว่า Kiwi’s Winter Wonderland สำหรับ เรา สอง สาม คน ฮ่าๆๆๆ เอาให้ดูว่าขนาดตอนสายๆ ยัง - 8 ไม่อยากคิดว่าเมื่อคืนอุณหภูมิเท่าไหร่ :D แต่เราก็ผ่านกันมาได้อย่างสนุกและอร่อย จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 13:30:44

ความคิดเห็นที่ 42 Goodbye Mt.Cook จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 13:32:17

ความคิดเห็นที่ 43 on the way to Queenstown จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 13:32:40

ความคิดเห็นที่ 44 29/06/2010 on the way to Queenstown จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 13:33:24

ความคิดเห็นที่ 45 เกาะกระทู้ตามไปด้วยครับ... ภาพสวยงามมาก...ปลาแซลมอนทิ่มตาเลยครับ จากคุณ : บ้านเรามีภูเขาอยู่หน้าบ้าน เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 13:33:44

ความคิดเห็นที่ 46 29/06/2010 ใครหลับขณะนั่งรถเที่ยวที่ NZ ผมขอบอกอีกครั้งว่า ให้มาใหม่อีกรอบก็ไม่คุ้มครับ เพราะมันสวยงามตระการตาจนต้องพูดซ้ำหลายๆรอบ มหัศจรรย์จริงๆ กดถ่ายมั่วๆ ได้ภาพติดวิญญาณหลอนมา ก็ยังสวยได้ จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 13:35:16

ความคิดเห็นที่ 47 29/06/10 “Ferg Burger” @ Queenstown ร้าน Burger โลคอลแบรนด์ ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดบนประเทศนี้ เห็นทีจะหนีไม่พ้น ร้าน Ferg Burger ที่มีต้นกำเนิดอยู่ในเมืองแห่งกิจกรรมกระตุ้นต่อม adrenalin ท่านกลางอ้อมกอดของขุนเขา และทะเลสาบที่สวยงาม Burger ของร้านนี้มีให้เลือกหลายแบบครับ สำหรับคุณสุภาพสตรีร่างเล็ก กระเพาะเล็ก พึงต้องคำนึงถึงขนาดใหญ่ ถึงใหญ่มากของเบอร์เกอร์ร้านนี้ไว้ด้วย ... แต่เราสองสามคน ไม่กลัว เลยสั่งมากินกันคนละ 3 ชิ้น พร้อม Onion Rings และ Chips ครบเซ็ต อิ่มมากจนแทนคลานออกจากร้าน ฮ่าๆ แก้ไขเมื่อ 26 ต.ค. 53 13:36:14 จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 13:35:58

ความคิดเห็นที่ 48 สัมผัสแรกที่ทำให้ผมรู้สึกได้ว่าเขาตั้งใจในการทำเบอร์เกอร์มากแค่ไหน คือ “แป้งขนมปัง” ผมรู้สึกได้ถึงความแตกต่างจาก Fast Food ทั่วไปที่แป้งขนมปังมักจะฟูๆพองๆเหมือนขนมปังที่ทำให้ปลากินแถวเขาดิน ... แต่แป้งขนมปังของ Ferg เขาเหนียวนุ่มดีทีเดียว และไม่หนาฟูมากนัก จับและกัดได้ถนัดยิ่ง พูดถึงสัดส่วนของแป้งขนมปัง ผัก และ เนื้อนั้น ผมว่าสมดุลดีครับ มีผักสลัดอยู่ในเบอร์เกอร์เป็นสัดส่วนที่มาก จนแอบคิดว่ามันไม่ใช่ Junk Food (เหรอ?) เป็นผักที่สดกรอบ และมีมากมายหลายชนิด ซึ่งนำมารวมกันแล้วได้กลิ่นหอม และสร้างรสสัมผัสให้กับเบอร์เกอร์ได้อย่างเข้ากัน ตัวเนื้อก็อร่อยครับ มีกลิ่นหอมของการย่างบนเปลวไฟ มั่นใจได้ว่าไม่ได้เอาเศษเนื้อมาทำให้เสียชื่อร้านแน่นอน เมื่อความสมดุลพอดีมารวมกันอยู่ในเบอร์เกอร์ชิ้นโต ก็คงเป็นความใหญ่มหึมานี่ล่ะครับที่จะทำให้เราท้อไปบ้าง เพราะเวลาเอาเบอร์เกอร์มาใกล้ๆเราจะรู้สึกว่ามันชิ้นใหญ่กว่าหน้าเราเสียอีก จะกินหมดหรือเปล่าเนี่ย...ผมคิดในใจ และถ้าผมกัดลงไปตรงกลางชิ้น เบอร์เกอร์ก็จะเลอะแก้ม ผมเลยค่อยๆแทะเหมือนแทะข้าวโพด กินแรกๆจะรู้สึกว่ากินยากจัง สักพักก็จะไหลลื่น กินไปคุยไป แป้บเดียวหมดชิ้นซะแล้ว อร่อยเพลินครับ จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 13:36:50

ความคิดเห็นที่ 49 อีกอย่างที่อยากแนะนำคือ หอมทอด Onion Rings ร้านนี้อร่อยมากครับ หอมใหญ่ของเขาสดและหวานมาก หั่นมาเป็นชิ้นหนาๆใหญ่ๆ กินแล้วรู้สึกเต็มปากเต็มคำดี จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 13:37:10

ความคิดเห็นที่ 50 Chips หรือ Fries ก็แบบ Thick Cut หั่นหนาๆแบบทีผมโปรดปราน กรอบนอกนุ่มใน จิ้มกับ Aioli หรือมายองเนสรสกระเทียม เที่ยวทั้งที่ ขออ้วนให้รู้แล้วรู้รอดไป จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 13:37:29

ความคิดเห็นที่ 51 นั่นคือผมเองครับ เชื่อหรือเปล่า ? :D จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 13:38:12

ความคิดเห็นที่ 52 29/06/10 อาหารเย็นที่ Queenstown เราก็กินกันง่ายๆ แกล้มกับไวน์ขาวเช่นเดิม อากาศก็ยังติดลบประมาณ -2 องศาซี เราจึงต้องกินอะไรที่เสริมสร้างไขมันและแร่ธาตุ....ในขณะที่ยังอิ่มกับ Ferg Burger อยู่เลย ฮ่าๆ มันฝรั่งผัดกับเบคอน โรย NZ parmesan Cheese จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 13:38:35

ความคิดเห็นที่ 53 เห็ด Portobello Shoyu Butter ก็ประมาณว่าเห็ดผัดเนยกับโชยุ จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 13:38:54

ความคิดเห็นที่ 54 30/06/10 อาหารเช้าวันนี้ผมตื่นขึ้นมาทำ Full English Breakfast ให้เราสองสามคนกิน จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 13:39:31

ความคิดเห็นที่ 55 ประกอบด้วย  NZ Parmesan Cheese Stuffed Button Mushroom, English Pork Sausage, Scramble Egg, Bacon Strip, Sauteed Brussels Sprout เพื่อเรียกพละกำลัง และปลุกทุกคนออกจากเตียง จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 13:39:51

ความคิดเห็นที่ 56 อากาศเช้านี้เหมือนอากาศจะอุ่นขึ้น แต่อุณหภูมิคงยังติดลบอยู่ เราจึงต้องขับรถด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะถนนในช่วงเช้าที่มีน้ำแข็งแผ่นเกาะอยู่บนพื้นถนน (Black Ice) นั้นอันตรายมาก เพราะเราจะไม่สามารถคาดการณ์ได้เลยว่าน้ำแข็งมันเกาะอยู่ตรงไหน และถ้าอยู่ตรงทางโค้ง หรือบริเวณที่เราต้องเบรกกระทันหัน เราจะเบรกไม่อยู่เลยครับ เหมือนรถเล่น Ice Skate แบบนั้นเลย ของจริงผมเจอระหว่างทางไป Milford sounds เป็นประสบการณ์ใหม่ที่คงหาไม่ได้ที่เมืองไทย นอกจากรถบรรทุกปลาไหลคว่ำบนถนน ถึงจะได้เจอปรากฎการณ์ไถลลื่นขนาดนั้น :D จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 13:40:30

ความคิดเห็นที่ 57 ยิ่งขับรถไป เราจะยิ่งได้เห็นวิวที่สวยจนอยากจะหยุดรถเพื่อถ่ายรูปทุกๆ 1 กิโลครับ เพื่อความประหยัดเวลาผมก็ขับรถไป ถ่ายไปนี่ล่ะครับ ตั้งโหมด Auto เล็งไปทางหน้ารถ แล้วกดถ่ายเลย… ธรรมชาติและสภาพแวดล้อมที่ New Zealand เขาว่ากันว่ากดมั่วๆ รูปยังออกมาสวยได้ ผมเชื่ออย่างนั้นเช่นกัน เรากำลังเดินทางไปเมือง Te Anau ที่เราจะไปพักค้างคืนที่นั่น เก็บแรงก่อนที่จะตื่นเช้าในวันต่อไปเพื่อเดินทางไปยังดินแดนแห่งเวทมนตร์ที่เปี่ยมด้วยเสน่ห์... Milford Sounds จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 13:40:54

ความคิดเห็นที่ 58 30/06/10 ที่ Te Anau Holiday Park มีที่พักที่แสนสะดวกสบาย ราคาไม่แพงเลย ห้องครัวก็กว้าง อุปกรณ์ และมีพื้นที่ด้านนอกสำหรับกิจกรรม ปิ้งเนื้อยามค่ำ จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 13:41:53

ความคิดเห็นที่ 59 เราได้ไปซื้อของกินเพิ่มที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งในตัวเมือง Te Anau และที่ได้มานั่นคือ หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์แบบยังมีชีวิต ...คงไม่ต้องพูดถึงความสด ความสะอาด และกลิ่นที่หอมเหมือนนั่งดมหอยอยู่ริมทะเล.... มันสุดยอดมากครับ ก่อนที่ผมจะนำไปประกอบอาหารผมเอาแปรงมาขูดๆพวกสาหร่ายส่วนเกิน และนำไปผ่านน้ำเย็น เพื่อล้างเศษอื่นๆออกไปครับ จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 13:42:35

ความคิดเห็นที่ 60 ผมนำ NZ green lips mussels ที่ยังมีชีวิตอยู่ มาทำเมนูที่ชื่อว่า Mussels meuniere หรือเรียกเป็นภาษาไทยได้ว่า หอยแมงภู่อบไวน์ขาว ไวน์ขาวของ New Zealand ที่ซื้อมาเผื่อดื่ม เผื่อทำอาหาร เก็บอยู่ในรถเพียบ จัดการใส่ลงไปเกือบหมดขวด พร้อมกับหอมใหญ่, celery, carrot, bay leave, เกลือ พริกไทยดำ และเนยชั้นยอดของ New Zealand กลายเป็นหอยแมลงภู่อบไวน์ขาวที่ผมถูกใจตัวเองมากที่สุด ตั้งแต่เคยทำมา เพราะรู้สึกว่าได้ใช้ของดีๆมาประกอบกันกลายเป็น Mussels Meuniere ที่รสชาติลงตัว เพราะหอยสดมาก อร่อยมาก จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 13:43:57

ความคิดเห็นที่ 61 เมนูสำหรับเย็นนี้ยังไม่หมดแค่นั้น เพราะเราได้พกเตาสำหรับทำ Yakiniku มาด้วย เป็นเตาแก๊สแบบพกพา พร้อมกระทะร้อนที่ย่างได้ทุกสิ่ง แน่นอนว่าผมได้หมักซี่โครงแกะ และหมักเนื้อ Rib eye, Scotch Fillet สำหรับทำ Yakiniku  มาตั้งแต่ที่ Queenstown เมื่อวานนี้ โดยซอสที่ซื้อจากร้านขายของชำเกาหลีใน Christchurch Lamb Chop ซี่โครงแกะที่ได้มานั้นเยี่ยมมาก ดูจากซี่โครงแล้วยังเป็นแกะเด็กอยู่เลย ใครคิดว่าซี่โครงแกะ ยิ่งใหญ่ยิ่งดีนั้นคิดผิดถนัดนะครับ เพราะถ้าซี่โครงแกะมีขนาดใหญ่ แปลว่าแกะที่นำมาชำแหละนั้นมีอายุมากแล้ว แกะแก่จะยิ่งมีกลิ่นสาบ มีเนื้อหยาบกว่า และเหนียวกว่า ดังนั้นถ้าจะเลือกซื้อซี่โครงแกะ ให้ดูที่ขนาด ยิ่งเล็กยิ่งดี เพราะจะมั่นใจได้ว่า เราได้เลือกแกะที่เนื้อนุ่ม กลิ่นหอม ไขมันกำลังดี กินอร่อยที่สุดครับ จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 13:46:01

ความคิดเห็นที่ 62 ส่วนเนื้อวัวก็นุ่ม หอม อร่อยมาก เนื้อวัวที่ NZ นั้นคล้ายกับเนื้อที่ฝั่ง AUS คือถึงแม้จะมีไขมันไม่มากนักเหมือนเนื้อญี่ปุ่น แต่จุดขายของเนื้อโซนนี้ เขาวัดกันที่ความนุ่ม และความหอมของเนื้อที่ผ่านการ Aged มีกลิ่นเนยแฝงอยู่ในเนื้อ ถึงจะไม่ละลายในปาก แต่ก็เคี้ยวสบาย และมีเอกลักษณ์ของความเป็นเนื้ออยู่เยอะมาก กินเป็นครึ่งกิโลก็ไม่เลี่ยน เคี้ยวกินได้เรื่อยๆ นอกจากนี้ยังมีเห็ด Champignon หรือ White Button mushroom ที่นำมาย่างบนเตาพร้อมไปกับเนื้อ และก็มีเห็ด Portobello เห็ดร่มเจ้าเดิม ... จะสังเกตได้ว่าเรากินเห็ดกันเยอะมาก เพราะว่าหาซื้อได้ง่าย ราคาถูก และที่สำคัญเป็นของโปรดของเราสอง สาม คน ... จะให้กินเนื้ออย่างเดียวก็ไม่ไหว เดี๋ยวท้องจะผูกซะก่อน เนอะ จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 13:46:30

ความคิดเห็นที่ 63 01/07/2010 "Milford Sounds" เราเริ่มออกเดินทางกันตั้งแต่เช้ามืดเพื่อไปที่ Milford Sounds โดยเผื่อเวลาไว้ล่วงหน้าประมาณ 3 ชั่วโมง (2ชั่วโมงในฤดูร้อน และฤดูอื่นๆที่ไม่มีน้ำแข็ง) เพื่อจะไปให้ทันเรือรอบเช้าสุดเวลา 09.45น. เนื่องจากในช่วงฤดูหนาวพระอาทิตย์จะขึ้นช้า โดยปกติจะเริ่มเห็นแสงแรกประมาณช่วง 8 โมงเช้า การขับรถในช่วงก่อนพระอาทิตย์ขึ้นในฤดูนี้จะต้องใช้ความตั้งใจ และระมัดระวังเป็นพิเศษเนื่องจากถ้าเราขับเร็ว และเหยียบเบรกแรงๆโดยไม่จำเป็นรถอาจจะสูญเสียการควบคุมได้ ถึงแม้รถที่ผมเช่ามาเป็น Subaru Forester 4WD ขับเคลื่อนสี่ล้อตลอดเวลา และมีระบบ Stability Control ด้วย แต่เราก็ไม่ควรวางใจกับสถานการณ์ที่เรามิอาจคาดได้ ผมก็คลานไปเรื่อยๆด้วยความเร็ว 60-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อความปลอดภัยของทุกๆคน จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 13:48:00

ความคิดเห็นที่ 64 01/07/2010 "Milford Sounds" ยิ่งเราเดินทางลึกเข้าไปเรื่อยๆ เราจะยิ่งรู้สึกว่า.....New Zealand ดินแดนที่น่าค้นหาอย่างยิ่ง จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 13:50:22

ความคิดเห็นที่ 65 01/07/2010 "Milford Sounds" หลังจากทะลุออกมาจากอุโมงค์ เราก็เจอกับสิ่งนี้ แทบจะหยุดหายใจไปชั่วขณะหนึ่งเลยทีเดียว.... จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 13:51:44

ความคิดเห็นที่ 66 ความโชคดี... ผมคิดว่ามันเป็นความโชคดีนะ เราไปถึงที่ท่าเรือ Milford Sounds เวลาประมาณ 09.15 ก่อนเวลาเรือออกประมาณครึ่งชั่วโมง แต่นั่นไม่ใช่ความโชคดีอะไรหรอก จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 13:53:22

ความคิดเห็นที่ 67 ความโชคดีที่ผมพูดถึงก็คือ พวก เรา สอง สาม คน ได้สุ่มเลือกบริษัทเดินเรือนำเที่ยว Milford และความโชคดีก็ทำเราได้กลายเป็นเป็นลูกค้าเพียงกรุ๊ปเดียวที่จะขึ้นไปอยู่บนเรือ กลายเป็นว่า เราได้ล่องเรือเที่ยว Milford Sounds แบบส่วนตัว บนเรือส่วนตัว ไม่มีใครมาแย่งมุม ไม่มีใครมายืนขวาง นี่ล่ะที่ผมเรียกว่าความโชคดี เพราะจังหวะและเวลาที่พอดีจริงๆ จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 13:53:43

ความคิดเห็นที่ 68 ทำให้ประสบการณ์ล่องเรือเที่ยว Milford Sounds ครั้งนี้น่าจดจำยิ่งนัก เรา สอง สาม คน กับไกด์อีกหนึ่งคน บนเรือลำใหญ่ ที่ไม่มีใครอื่น นอกจากเรา ในดินแดนแห่งเวทมนตร์ที่แสนวิเศษแห่งนี้ เป็นอะไรที่ยากจะลืมเลือน และก็คงไม่คิดจะลืมแน่นอน เพราะคงหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 13:54:33

ความคิดเห็นที่ 69 เรือส่วนตัว มีเพียง เรา สอง สาม คน เท่านั้นจริงๆ จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 13:55:05

ความคิดเห็นที่ 70 หลังจากผ่านประสบการณ์ขึ้นเรือส่วนตัวเที่ยว Milford เสร็จแล้ว ก็ค่อยกลับมาเก็บวิว ตามรายทางที่เราผ่านมาแล้วเมื่อเช้า ขณะที่ตอนนั้นมันยังมืดๆอยู่ Mirror Lake ทำไมคนถึงตื่นเต้นกับทะเลสาบกระจกแห่งนี้? เพราะผมเห็นว่าทะเลสาบที่นี่ มันก็ใสเหมือนกระจกทุกแห่งไป ดังนั้น ถ้าจะว่าไป นิวซีแลนด์คงมีทะเลสาบกระจกอยู่เยอะมาก จนแทบนับไม่ถ้วน ประเทศนี้บริสุทธิ์จริงๆ จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 13:55:33

ความคิดเห็นที่ 71 เดินทางออกจาก Milford Sounds เวลาใกล้ๆเที่ยง ตรงไปยัง Lake Wanaka ทะเลสาบที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง ระยะทางค่อนข้างไกล แต่เราก็ไม่หิวเพราะผมได้เตรียม Sandwich ไว้ให้ลูกทัวร์ตั้งแต่เมื่อเช้านี้ เอาไว้รองท้องก่อนที่เราจะเดินทางค่อนข้างไกล ลัดเลาะ Cardrona Valley Road ตรงสู่ Wanaka เมืองเงียบๆริมทะเลสาบ จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 13:56:06

ความคิดเห็นที่ 72 ระหว่างทางไป Lake Wanaka จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 13:56:33

ความคิดเห็นที่ 73 01/07/2010 Lake Wanaka ยามค่ำคืน จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 13:57:17

ความคิดเห็นที่ 74 เราซุกหัวนอนกันที่ Self-contained Motel ชื่อ Brookvale Motel เป็นโรงแรมที่มีพื้นที่ให้ทำกิจกรรมย่างเนื้อได้อีกแล้ว มื้อนี้เราจึงลงเอยด้วย Yakiniku อีกรอบ แถมด้วย Bluff Oyster หอยนางรมสดๆที่กำลังเปิดฤดูกาลให้หม่ำอยู่ ... เนื่องจากหอยนางรมเป็นสัตว์ทะเลที่เจริญเติบโตช้า ดังนั้น ในหนึ่งปี ทางนิวซีแลนด์เขาจะเปิดเป็นฤดูกาล Bluff Oyster ในช่วงหน้าหนาว หอยนางรมจากเมือง Bluff ทางใต้สุดของเกาะนิวซีแลนด์ จะเป็นหอยนางรมตามธรรมชาติที่มีคุณภาพมาก เนื่องจากทะเลที่สะอาดและปราศจากมลภาวะ มีกลิ่นหอม ลักษณะะกลม ตัวไม่ใหญ่ และมีรสหวานคล้ายกับหอย Belon Oyster จากแคว้น Normandie ในฝรั่งเศส กินสดๆคู่กับไวน์ขาว หรือแชมเปญล่ะก็ คืนนี้นอนไม่ได้ หรือไม่ได้นอนชัวร์ จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 13:57:57

ความคิดเห็นที่ 75 Goodbye Lake Wanaka จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 13:59:31

ความคิดเห็นที่ 76 02/07/2010 “Lake Pukaki” เราออกเดินทางจาก Lake Wanake มาแวะที่ Lake Pukaki ทะเลสาบที่มีน้ำสีฟ้าเว่อร์ๆ ซึ่งทีแรกเราได้ขับผ่านมาทางนี้แล้วตอนก่อนจะขึ้นไป Mt.Cook แต่ว่าวันนั้นฟ้าปิด หมอกลง ทำให้มองแทบไม่เห็นอะไรเลย จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 14:00:00

ความคิดเห็นที่ 77 ต่อจาก Lake Pukaki เราจะลองเดินทางไป Salmon Farm อีกแห่งหนึ่งที่ชื่อว่า Mt.Cook Alpine Salmon ฟาร์มแซลมอนที่เขาอ้างว่าอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลมากที่สุดในโลก ตั้งอยู่บน Hydro-cannel Road ที่เป็นทางส่งน้ำผลิตไฟฟ้าจาก Lake Tekapo มาที่ Lake Pukaki จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 14:00:39

ความคิดเห็นที่ 78 02/07/2010 “Mt.Cook Alpine Salmon Farm” เป็นฟาร์มที่เลี้ยงแซลมอนพันธุ์ King Salmon ซึ่งเป็นสายพันธุ์เดียวกับปลาแซลมอนที่หาได้ในทะเล Alaska หรือเรียกอีกชื่อว่า Chinook salmon ซึ่งหาได้ในมหาสมุทรแปซิฟิก จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 14:01:12

ความคิดเห็นที่ 79 ผู้เชือดปลา จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 14:02:04

ความคิดเห็นที่ 80 แซลมอนพันธุ์นี้จะมีไขมันน้อยกว่า Atlantic Salmon และเนื้อมีสีส้มจัดกว่า เมื่อกินเป็น Sashimi เราจะสัมผัสได้ถึงความเด้งดึ๋ง จนเกือบจะเป็นปลาที่เรียกว่าเนื้อกรอบได้เลยทีเดียว เพราะรสสัมผัสของปลาแซลมอนของฟาร์มนี้ เมื่อเทียบกับปลาในฟาร์มก่อนหน้าที่ High Country Salmon Farm จะต่างกันมาก ซึ่งเหตุผลหลักก็คือเพราะเขาเลี้ยงปลาพันธุ์ต่างกันตามที่ได้กล่าวไว้ เรื่องของความสดก็คงไม่ต้องโฆษณาหรือกล่าวอธิบายอะไรมากมายนัก เพราะเป็นที่รู้กันว่า เมื่อเราให้อาหารปลาเสร็จปุ๊บ เราก็นำปลานั้นมาเป็นอาหารได้เลย มันจะมีความสดมากมายเพียงใด และความอร่อยนั้นก็เข้าขั้นเทพ อย่างไม่ต้องสงสัย จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 14:02:28

ความคิดเห็นที่ 81 “Lake Tekapo” ทะเลสาบแห่งนี้เต็มไปด้วยความทรงจำอันแสนวิเศษ เนื่องจากเป็นที่พักคืนสุดท้ายของ Road Trip ซึ่งต่อจากนี้เราจะมุ่งเข้า Christchurch และขับรถเที่ยวรอบๆเมืองแทน ที่พักของเราชื่อ Three Rivers Lodge เป็นที่พักที่พวกเราชอบมากที่สุดในบรรดาที่ไปพักมา ผมเห็นทีแรกผมนึกถึงภาพยนตร์เกาหลีชื่อ IL MARE ที่พระเอกมีบ้านสวยๆอยู่ริมทะเล ส่วนที่นี่เป็นทะเลสาบ ซึ่งถึงแม้จะไม่ได้อยู่ติดทะเลสาบขนาดนั้น แต่เราก็ได้วิว บรรยากาศ และการออกแบบแนวเดิ้นๆของที่พักแห่งนี้ไปสร้างความสุขได้เต็มๆเหลือเกิน จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 14:04:07

ความคิดเห็นที่ 82 ให้มองเงาในกระจกสะท้อน และก็จะเห็นวิวที่มองเห็นจากในบ้านครับ จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 14:05:53

ความคิดเห็นที่ 83 #65 ถ้าไม่มีถนน นึกว่ากำลังเดินทางไปทำหลายแหวนกันอยู่เลย น่าเดินเล่นมาก 55555 จากคุณ : AugusT[CrusheR]VeronicA เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 14:07:09

ความคิดเห็นที่ 84 Salmonnnnnnnnnnnnnnnnnnn จากคุณ : duckyp เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 14:07:14

ความคิดเห็นที่ 85 ตอนบ่ายเราออกไปทำกิจกรรม Ice Tubing กลิ้งห่วงยางลงจากเขาหิมะ กับ แช่น้ำร้อนที่ Alpine Spring and Spa Lake Tekapo แล้วก็ซื้ออาหารจากซุปเปอร์มาร์เก็ต กลับมาทำมื้อใหญ่กินการที่บ้านหลังสวยของเรา และแน่นอนว่าต้องมีการชักภาพเป็นที่ระลึกบ้างพอสมควร จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 14:07:31

ความคิดเห็นที่ 86 ริม Lake Tekapo จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 14:09:04

ความคิดเห็นที่ 87 น้ำใสเว่อร์ ตามสไตล์ Pure New Zealand ขนาดลำคลอง ลำธารในเมือง Christchurch ยังใสได้อีก จากคุณ : Calamity เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 14:10:23