ความคิดเห็นที่ 1 ขึ้นไปดูห้องพักชั้นสอง ห้องใหญ่มีเตียงสองเตียงและปูฟูกเพิ่มได้ มีทั้งพัดลมและเครื่องปรับอากาศ มีระเบียงนั่งดื่มด้านนอกติดถนน ห้องน้ำมีเครื่องทำน้ำร้อน มาเชียงใหม่กับเพื่อนกลุ่มใหญ่ครั้งหน้า ถ้าแลกแต้มห้องพักที่ Imm ท่าแพไม่ได้ จะพาเพื่อนๆมาพักที่นี่ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 02:47:48

ความคิดเห็นที่ 2 8.15 น.ออกจากที่พักไปทานข้าวเช้า จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 02:48:39

ความคิดเห็นที่ 3 ผ่านเซ็นทรัลกาดสวนแก้วที่ถนนห้วยแก้ว ถึงแยกรินคำเลี้ยวซ้ายเข้าถนนนิมมนาเหมินท์ จอดรถที่ปากซอยนิมมานเหมินท์ 11 จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 02:49:36

ความคิดเห็นที่ 4 ปากซอยเป็นที่ตั้งของร้าน G-long, ที่อนุญาตให้นำสุนัขเข้าร้านได้ แต่ต้องนั่งที่ด้านนอก จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 02:50:29

ความคิดเห็นที่ 5 มีรายการอาหารพร้อมราคาตั้งอยู่ที่ทางเข้าร้าน ร้านนี้มีเครปขายด้วย แต่มาเช้าไปยังไม่ขาย จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 02:51:29

ความคิดเห็นที่ 6 มีเมนูขนาดใหญ่ให้ลัคกี้เลือกด้วย จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 02:54:05

ความคิดเห็นที่ 7 " จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 02:55:03

ความคิดเห็นที่ 8 ร้านนี้ขายอาหารฝรั่ง มีชุดอาหารเช้าและชุดพิซซ่า ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 25-155 บาท จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 02:56:29

ความคิดเห็นที่ 9 มาเช้าไปสาวๆยังไม่ตื่น จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 02:57:38

ความคิดเห็นที่ 10 อดดูสาวๆเสียแล้วลัคกี้ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 02:58:50

ความคิดเห็นที่ 11 ร้านนี้มีไวไฟ สั่งกาแฟร้อนและขอรหัสต่อเน็ทเข้าบอร์ดมือถือ 902 และห้องก้นครัว จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 03:00:00

ความคิดเห็นที่ 12 ชุด French Toast 35 บาทของป้าจอยเอง แก้ไขเมื่อ 08 พ.ย. 53 03:02:09 จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 03:00:47

ความคิดเห็นที่ 13 ป้าจอยเองแบ่งให้ลัคกี้ 1 ชิ้น จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 03:01:32

ความคิดเห็นที่ 14 ชุดอาหารเช้าชุด 2 พร้อมกาแฟของแฟน 46 บาท จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 03:02:45

ความคิดเห็นที่ 15 แบ่งทานกับลัคกี้ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 03:03:37

ความคิดเห็นที่ 16 ลัคกี้ทานอาหารเช้าก่อนออกเดินทางแล้ว ไม่อยากให้ทานมากเพราะเดินทางนานอาจอาเจียน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 03:04:25

ความคิดเห็นที่ 17 อยากพาลูกสาวไปเที่ยวบ้างจังเลยค่ะ แต่หาที่พักที่ให้เหมียวอยู่ด้วยยากจัง แก้ไขเมื่อ 08 พ.ย. 53 03:05:31 จากคุณ : Mojo-Joey เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 03:04:58

ความคิดเห็นที่ 18 ของตัวเองเป็นข้าวผัดอเมริกันพร้อมน้ำซุป 1 ถ้วย 73 บาท จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 03:05:25

ความคิดเห็นที่ 19 Mojo-Joey ...ที่พักบางแห่งค่าปรับแพงครับ ......................................................................... ข้าวผัดได้หอม เฉาะไข่แดงคลุกกับข้าว จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 03:07:00

ความคิดเห็นที่ 20 ตัวที่บ้านผม ได้กินแต่ข้าวเม็ด แถมยังไม่เคยพาไปเที่ยวใหนเลย บุญจริงๆ ที่ได้เกิดเป็นลัคกี้ครับ ^^ จากคุณ : Are Yoi เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 03:07:56

ความคิดเห็นที่ 21 มาพร้อมไส้กรอกและไก่ทอดกรอบอย่างละชิ้น จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 03:08:05

ความคิดเห็นที่ 22 Are Yoi ...เมื่อวานพ่อพากี้ไปหม่ำซีฟู้ด 2 จังหวัดฮะ ............................................................................. มีอ้อน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 03:09:47

ความคิดเห็นที่ 23 ค่าอาหารเช้ามื้อนี้ 5 คน 1 ตัว 340 บาท จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 03:10:31

ความคิดเห็นที่ 24 อิ่มแล้วใส่แว่นเตรียมเที่ยวต่อ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 03:11:27

ความคิดเห็นที่ 25 ลัคกี้ทานอาหารเช้าอย่างหรูเลยนะเนี่ย.... จากคุณ : Amber n the Gang เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 03:11:27

ความคิดเห็นที่ 26 Amber n the Gang ...อย่าให้ดีโน่เห็นนะฮะ ฮิ ฮิ ............................................................................. แต่ก่อนอื่นขอเข้าไปล้างมือในร้านที่ติดเครื่องปรับอากาศก่อน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 03:13:16

ความคิดเห็นที่ 27 ในร้านน่านั่งคนละบรรยาศกับด้านนอก จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 03:14:08

ความคิดเห็นที่ 28 9.25 น.ออกจากร้าน G-long.กลับรถมาที่แยกรินคำ ตรงไปเข้าทางหลวงหมายเลข 11 ผ่านวัดเจดีย์เจ็ดยอด ถึงแยกแม่ริม เลี้ยวซ้ายเข้าถนนโชตนา (ทล.107) ผ่านตำหนักเจ้าดารารัศมี ผ่านแยกสะเมิง ข้ามสะพานข้ามแม่น้ำแม่ริม เลี้ยวซ้ายที่ถนนข้างเทศบาลแม่ริม (ทล.1133) ระยะจากปากทางไปถึงวัดพระพุทธบาทสี่รอย 28 กม. ถึงสามแยกหน้าวัดหนองก๋ายเลี้ยวขวา วิ่งขึ้นเขา 15 กม.โดย 3 กม.สุดท้ายเป็นทางชัน เส้นทางไม่แพ้ทางขึ้นดอยอ่างขาง ถนนคอนกรีตอย่างดี แต่ต้องขับด้วยความระมัดระวังและต้องรู้กำลังของรถที่ใช้ อย่างเช่นรถขับเคลื่อนสี่ล้อที่วิ่งตามหลังคันนี้ ใจร้อนแซงทางขึ้นเขา พอเจอทางหักศอกขึ้นเขา ไหลถอยหลังลงมาเกือบชนกัน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 03:15:20

ความคิดเห็นที่ 29 11.05 น.ถึงลานจอดรถวัดพระพุทธบาทสี่รอย ขับขึ้นมาลำบากแบบนี้นึกว่าคนคงน้อย แต่ปรากฏว่ารถจอดเกือบเต็มลานจอดรถ มองรอบๆแล้วเจ้าถิ่นเต็มลานจอดรถ จึงไม่ได้ให้ลัคกี้ลงมาด้วย อีกทั้งไม่เหมาะที่จะพาลัคกี้ขึ้นไปด้วย จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 03:16:26

ความคิดเห็นที่ 30 วัดพระพุทธบาทสี่รอยตั้งอยู่ที่ตำบลสะลวง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 03:17:37

ความคิดเห็นที่ 31 ทางขึ้นเป็นบันไดพญานาคเจ็ดเศียรสีทอง ในตระกูลวิรูปักษ์ ข้างบันไดทั้งสองข้างเป็นบ่อพญานาคพ่นน้ำ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 03:18:50

ความคิดเห็นที่ 32 ซ้ายมือหนึ่งในสามของขั้นบันได คืออนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 03:20:03

ความคิดเห็นที่ 33 สุดบันไดเป็นวิหารเล็กๆที่สร้างโดยพระชายาเจ้าดารารัศมี แวะกราบพระในวิหาร จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 03:20:59

ความคิดเห็นที่ 34 ข้างวิหารเป็นทางเดินลงไปวิหารพระพุทธบาทสี่รอย หัวบันไดมีป้ายสุภาษิตล้านนา "กิ่วปูกิ่วดอยผ่อหัน กิ๋วคนผ่อบ่หัน" แปลว่า "ส่วนคอดของภูเขานั้นมองเห็น แต่บุญวาสนาของคนเรานั้นมองไม่เห็น" จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 03:21:54

ความคิดเห็นที่ 35 ลงบันไดเป็นลานกว้าง ด้านซ้ายมือเป็นฆ้องขนาดใหญ่ ข้างฆ้องก่อนขึ้นพระวิหารพระพุทธบาทสี่รอย เป็นตำนานของพระพุทธบาทสี่รอย จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 03:23:05

ความคิดเห็นที่ 36 -เมื่อครั้งสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าได้เสด็จจารึกประกาศธรรม และโปรดเวไนยสัตว์มายังปัจจันตประเทศ(ประเทศไทยในปัจจุบัน) จนมาถึงเทือกเขาทางตอนเหนือที่มีชื่อว่า"เวภารบรรพต"พร้อมกับพุทธสาวก 500 องค์ ขณะประทับอยู่ที่นั้น ทรงทราบด้วยญานสมาบัติว่าบนเทือกเขาแห่งนี้ มีรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้า 3 พระองค์คือ พระพุทธเจ้ากกุสันธะ พระพุทธเจ้าโกนาคมนะและพระพุทธเจ้ากัสสปะ พระสารีบุตรทูลถามว่าทรงเล็งดูด้วยเหตุใด "ดูก่อนท่านทั้งหลาย สถานที่แห่งนี้แม้นว่าพระพุทธเจ้าทั้ง 3 พระองค์ ที่ล่วงมาแล้วในอดีตกาล ต่างก็มาประทับรอยพระบาทไว้ ณ ที่นี้ทุกพระองค์ และพระศรีอาริยเมตไตร ก็จักเสด็จมาประทับรอยพระบาททั้งสี่รอยนี้ ให้เหลือรวมเป็นหนึ่งเดียว" จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 03:26:00

ความคิดเห็นที่ 37 เมื่อพุทธองค์ตรัสแก่สาวกทั้งหลายแล้ว จึงทรงเสด็จไปประทับรอยพระบาท ซ้อนรอยพระบาทพระพุทธเจ้าทั้ง 3 พระองค์ จึงมีรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าทั้งหมด 4 พระองค์ เกิดเป็นพระพุทธบาทสี่รอย เมื่อประทับรอยเสร็จแล้วทรงอธิษฐานว่า "เมื่อเราตถาคตนิพพานไปแล้ว เทวดาจักนำพระธาตุของเราตถาคต มาบรรจุไว้ที่รอยพระพุทธบาทนี้ เมื่อผ่านไปแล้ว 2,000 ปี พระพุทธบาทสี่รอยนี้จักปรากฏแก่ปวงคน และเทวดาทั้งหลาย ก็จักได้มาไหว้บูชา" เมื่อทรงอธิษฐานและทำนายไว้ดังนี้แล้ว ก็เสด็จไปประทับที่เชตวันอาราม ในเมืองสาวัตถี เมื่อเสด็จปรินิพพานไปแล้ว เทวดาทั้งหลายก็นำพระธาตุของพระพุทธองค์มาบรรจุไว้ที่พระพุทธบาทสี่รอย จวบจนผ่านไปประมาณ 2,000 วัสสา เทวดาต้องการให้พระพุทธบาทสี่รอย ปรากฏแก่คนทั้งหลายตามที่พระพุทธองค์ทรงอธิษฐานไว้ จึงเนรมิตเป็นรุ้ง(เหยี่ยว)ตัวใหญ่ บินลงมาจากที่ตั้งแห่งพระพุทธบาทสี่รอยนี้ ไปลักเอาลูกไก่ของชาวบ้านคนหนึ่ง ที่ตีนเขาเวภารบรรพตนี้กลับขึ้นไปบนเขา ชาวบ้านคนนั้นจึงตามขึ้นไปหมายจะฆ่าเหยี่ยวถึงรังด้วยความโกรธ แต่กลับพบรอยพระพุทธบาทสี่รอย อยู่บนพื้นต้นไม้และเถาวัลย์ จึงทำการสักการะบูชาแล้วลงจากเขา และบอกเล่าให้ชาวบ้านทั้งหลายในหมู่บ้านฟัง ความสืบต่อกันมา มีผู้ขึ้นเขาไปสักการะบูชากันมาก และเรียกรอยพระพุทธบาทสี่รอยว่า"พระบาทรังรุ้ง(รังเหยี่ยว)" จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 03:26:59

ความคิดเห็นที่ 38 ต่อมาในสมัยพระยาเม็งราย เสวยราชสมบัติในเมืองเชียงใหม่ ทรงทราบข่าวจึงมีพระราชศรัทธา อยากเสด็จไปกราบ จึงนำราชเทวี เหล่าเสนาพร้อมบริวารทั้งหลาย ขึ้นเขาเวภารบรรพตไปกราบมนัสการพระพุทธบาทสี่รอย ครั้นกลับสู่เมืองเชียงใหม่แล้ว ก็เสวยราชสมบัติตราบเมี้ยนอายุขัย ราชนิกูลที่สืบราชสมบัติต่างเจริญรอยตาม ขึ้นเขามากราบพระพุทธบาทสี่รอยทุกพระองค์ หลังจากนั้นมาพระพุทธบาทรังรุ้งหรือรังเหยี่ยวนี้ ก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็น"พระพุทธบาทสี่รอย" เพราะมีรอยพระพุทธบาทประทับซ้อนกันถึงสี่รอย จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 03:28:11

ความคิดเห็นที่ 39 คือรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าทั้งสี่พระองค์ ที่ล่วงมาแล้วในภัทรกัลป์นี้คือ -รอยแรก รอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้ากกุสันธะ เป็นรอยใหญ่ยาว 12 ศอก -รอยที่สอง รอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าโกนาคมนะ ยาว 9 ศอก -รอยที่สาม รอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้ากัสสปะ ยาว 7 ศอก -รอยสุดท้าย รอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าโคตะมะ เป็นรอยที่เล็กที่สุด ยาว 4 ศอก จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 03:29:18

ความคิดเห็นที่ 40 เมื่อมาถึงสมัยพระยาธรรมช้างเผือก ผู้ครองนครเชียงใหม่ ได้ขึ้นไปกราบสักการะพระพุทธบาทสี่รอย พร้อมบริวาร 500 คน และได้สร้างพระวิหารครอบรอยพระพุทธบาทสี่รอยไว้ชั่วคราว โดยแต่เดิมถ้าใครต้องการดูรอยพระพุทธบาทบนยอดหินก้อนใหญ่ ต้องใช้บันไดพาดขึ้นไป หรือปีนขึ้นไปดู ซึ่งก็คงจะขึ้นได้เฉพาะผู้ชายเท่านั้น พระยาธรรมช้างเผือกจึงให้สร้างแท่นยืน คล้ายนั่งร้านรอบก้อนหินที่มีพระพุทธบาทสี่รอย เพื่อที่ผู้หญิงจะได้สามารถขึ้นไปดูรอยพระพุทธบาทได้ และสร้างหลังคาชั่วคราวมุงไว้ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 03:30:42

ความคิดเห็นที่ 41 ต่อมาในสมัยพระชายาเจ้าดารารัศมี ได้เสด็จขึ้นไปกราบนมัสการพระพุทธบาทสี่รอย และได้มีพระราชศรัทธาก่อสร้างวิหาร เป็นการกราบบูชารอยพระพุทธบาทสี่รอยไว้ 1 หลัง ปัจจุบันได้บูรณะปฏิสังขรณ์แล้วทั้งหลัง มีเพียงผนังวิหาร พื้นวิหารและพระแท่นที่ยังเป็นของเดิมอยู่ ต่อมาในปี พศ.2472 ครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา ได้ขึ้นไปกราบนมัสการพระพุทธบาทสี่รอย และได้รื้อพระวิหารที่พระยาธรรมช้างเผือกสร้างไว้ชั่วคราว จากนั้นสร้างพระวิหารครอบรอยพระพุทธบาท และฉาบปูนครอบรอยพระพุทธบาทไว้ เพื่อรักษาให้ค้ำชูพระพุทธศาสนาไปตลอดกาลนาน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 03:31:29

ความคิดเห็นที่ 42 มีผู้ศรัทธานั่งภาวนาเจริญสมาธิอยูรอบกำแพงพระวิหาร นอกจากนี้ยังมีหนังสือบทสวดมนต์ ให้ผู้ที่ขึ้นมากราบนมัสการได้สวดบูชาพระพุทธบาทสี่รอย หลังจากจุดธูปเทียนสักการะก่อนขึ้นพระวิหาร จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 03:31:58

ความคิดเห็นที่ 43 ด้านหลังฐานครอบพระพุทธบาทสี่รอย ห้ามผู้หญิงเดินผ่าน น่าจะเป็นความเชื่อว่า เป็นจุดที่เทวดาบรรจุพระสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าไว้ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 03:32:27

ความคิดเห็นที่ 44 หลังพระวิหารพระพุทธเจ้าสี่รอย มีวิหารอีกหลังประดิษฐานพระพุทธรูปปางต่างๆ ด้านขวามีเจดีย์ 1 องค์ ไม่ได้เดินไปดู จึงไม่ทราบว่าเป็นเจดีย์อะไร จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 03:32:59

ความคิดเห็นที่ 45 จากหน้าพระวิหารพระพุทธบาทสี่รอย มองเห็นอุโบสถหลังงามที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ความจริงแล้วมีทางเดินทางจากพระวิหารพระพุทธบาทสี่รอยไปยังอุโบสถได้ แต่ไม่ทราบทาง จึงต้องเดินกลับลงมาที่ลานจอดรถก่อน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 03:33:26

ความคิดเห็นที่ 46 ระหว่างเดินลงบันไดพญานาค 7 เศียร แวะกราบรูปปั้นครูบาศรีวิชัย จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 03:33:50

ความคิดเห็นที่ 47 สุดบันได้ลี้ยวขวาข้ามสะพาน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 03:34:14

ความคิดเห็นที่ 48 ซ้ายมือเป็นร้านอาหาร ที่ป้าจอยเอง คุณเอและแม่บ้านแอบไปทานก๋วยเตี๋ยวที่พอทานได้ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 03:34:46

ความคิดเห็นที่ 49 เลี้ยวขวาเดินตามทางลาดขึ้นไปที่อุโบสถ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 03:35:16

ความคิดเห็นที่ 50 ซ้ายมือเป็นศาลแม่พระธรณีบีบมวยผม จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 03:35:38

ความคิดเห็นที่ 51 ก่อนถึงอุโบสถเป็นลานกว้าง ตัวอุโบสถอยู่สูงขึ้นไปอีกหนึ่งชั้น กำแพงด้านขวามือมีประโยคที่ดูรูปเก่าๆแล้วไม่ใช่ประโยคนี้ ที่เขียนว่า"แม่ญิงเอาผัว ป้อจายออกลูก" จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 03:37:24

ความคิดเห็นที่ 52 ส่วนกำแพงด้านซ้ายเขียนว่า"แฮ้ง ๓ ตั๋ว ลงบ้านหนอง ๔ แจ้ง" จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 03:38:07

ความคิดเห็นที่ 53 ตรงกลางเป็นบันไดนาคสะดุ้งขึ้นสู่อุโบสถ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 03:39:20

ความคิดเห็นที่ 54 ตัวบันไดนาค เป็นรูปแบบพุทธศิลป์ทางเหนือ ที่เรียกว่าบันไดมกรคายนาค คือพญานาคโผล่ออกมาปากของมกร มีขาและมีลำตัวยาวเหมือนพญานาค ลำตัวทอดยาวเลี้ยวซ้ายขวาต่อจากปลายบันได ทำหน้าที่เป็นเหมือนกำแพงของอุโบสถ **ขอบคุณข้อมูลจากคุณ jassb1** แก้ไขเมื่อ 09 พ.ย. 53 19:33:41 จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 03:40:50

ความคิดเห็นที่ 55 สุดบันไดเป็นกรอบพญานาคแขวนฆ้อง ตุ้มตีฆ้องหน้กมาก จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 03:41:25

ความคิดเห็นที่ 56 ลานอุโบสถเป็นพื้นหินอ่อน ตัวอุโบสถวิจิตรสวยงาม เป็นอุโบสถทรงจัตุรมุข ชั้นเดียว กว้าง 35 เมตร ยาว 35 เมตร ค่าก่อสร้าง 40 ล้านบาทเศษ สร้างขึ้นเพื่อถวาย ในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวครองสิริราชสมบัติครบ ๕๐ ปี จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 03:42:46

ความคิดเห็นที่ 57 เข้ากราบพระประธานในอุโบสถ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 03:44:09

ความคิดเห็นที่ 58 พระประธานประดิษฐานอยู่หลังกรอบลวดลายสวยงาม เหมือนที่วิหารพระเจ้าเก้าตื้อที่วัดสวนดอก ที่ถนนสุเทพในตัวเมืองเชียงใหม่ เสาและคานเป็นลายปูนปั้นประดับกระจกสีสวยงาม จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 03:49:45

ความคิดเห็นที่ 59 ผนังอุโบสถด้านบนไม่มีภาพพุทธประวัติ แต่เป็นภาพของรัชกาลที่ 2 หลวงปู่แหวน หลวงพ่อสดวัดปากน้ำและท่านพุทธทาส เป็นต้น จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 03:51:21

ความคิดเห็นที่ 60 กราบนมัสการรับพรและน้ำมนต์จากพระครูบาพรชัย ปิยวัณโณ เจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทสี่รอย "ความสำเร็จในการพัฒนาให้ปรากฏอยู่ในปัจจุบันนี้ มาจากพระภิกษุหนุ่มที่ถือว่าต้องทรงวิทยาคุณเป็นอย่างสูง คือพระพรชัย ปิยวัณโณ  ซึ่งท่านเกิดเมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๐ นี่เอง นับถึงวันที่ผมเขียนก็มีอายุเพียง ๓๔ ปี   นับว่าหนุ่มมากสำหรับพระที่กล้าไปอยู่องค์เดียว  ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมแบบนี้ และอยู่เป็นเวลานานถึง ๙ ปี คือเป็นเณร ๑ ปี เป็นพระอีก ๑๘ ปี  ท่านบรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุ ๑๓ ปี  พออายุ ๑๖ ปี ก็สอบนักธรรมเอกได้  ธุดงค์มาพักอยู่ที่วัดรางสันป่าตึง   วัดพระเจ้าตนหลวง ตำบลสันป่ายาง  ที่เชิงเขาพระพุทธบาทสี่รอย ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๓๐  อยู่ได้สัก ๒ เดือน   ได้นิมิตเห็นปราสาทหลังใหญ่โตงดงามมากอยู่บนเขาสูง  ได้ขึ้นบันไดไปก็พบรอยพระพุทธบาทอยู่ในปราสาท   เมื่อวันรุ่งขึ้นออกบิณฑบาตเล่าให้โยม ๆ  ฟังก็บอกว่าบนเขามีรอยพระพุทธบาท มีวัดแต่มักจะเป็นวัดร้าง   เพราะพระเณรมักอยู่อาศัยไม่ได้ท่านจะขึ้นไปชาวบ้านก็ห้าม  สุดท้ายพอเวลาตีสองท่านก็ขึ้นไปยังพระพุทธบาทสี่รอย   เดินไปเป็นระยะทางประมาณ ๒๒ กม.  และไปอยู่ประจำองค์เดียว ๑ ปี  เป็นเณร ๘ ปี เป็นพระจนปีที่ ๘ จึงเริ่มมีพระมาจำพรรษาด้วยมากถึง ๑๑ รูป  ต่อจากนั้นท่านก็เลยเริ่มบูรณะวัด  เริ่มตั้งแต่วิหารเจ้าดารารัศมี  เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๖ สร้างกุฏิทรงล้านนา  สร้างมหาเจดีย์  สร้างอุโบสถที่งดงามหลังโตเหมือนปราสาทที่ท่านนิมิตนั่นแหละ ท่านต้องต่อสู้กับความวิเวก  กับสัตว์ป่าด้วยการแผ่เมตตา  สู้กับความอดอยากสารพัดที่จะสู้ทุกรูปแบบ   ถ้าไม่ไปเห็นกับตาคงไม่เชื่อว่าพระภิกษุอายุเพียงเท่านี้จะทำได้ขนาดนี้  และท่านถือว่าไม่ต้องไปบอกบุญใคร   อาศัยพระบารมีของพระพุทธบาท  อธิษฐานขอจากปวงเทพเทวาว่าจะสร้างโบสถ์ ให้เป็นไปตามหน้าบุญ   "มีก็ฉัน ไม่มีก็ไม่ฉัน มีก็เอา ไม่มีก็ไม่เอา  ใครจะมาทำบุญก็มา"  แล้วอธิษฐานขอจากครูบาศรีวิลัย เทพเทวา ไม่วุ่นวาย ไม่ยึดติด" ที่มา : http://www1.mod.go.th/heritage/nation/tour/prabat4.htm จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 03:51:53

ความคิดเห็นที่ 61 เดินชมและเก็บภาพรอบอุโบสถ เริ่มจากบันไดนาคสีทองหน้าทางขึ้นอุโบสถ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 03:52:18

ความคิดเห็นที่ 62 แฟนเตรียมทองคำเปลวทองแท้มาด้วย จังหวะดีได้ปิดทองลุกนิมิตทั้งเก้าลูกรอบอุโบสถ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 03:52:45

ความคิดเห็นที่ 63 ภาพพุทธประวัติบนกำแพงหลังอุโบสถ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 03:53:11

ความคิดเห็นที่ 64 ลวดลายหน้าบันทางเข้าอุโบสถ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 03:53:51

ความคิดเห็นที่ 65 ภาพข้างประตูเข้าอุโบสถ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 03:54:19

ความคิดเห็นที่ 66 กรอบหน้าต่างของอุโบสถ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 03:54:51

ความคิดเห็นที่ 67 ภาพนักษัตร จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 03:55:17

ความคิดเห็นที่ 68 และทหารของพระรามเหนือฐานอุโบสถ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 03:55:53

ความคิดเห็นที่ 69 วัดสวยงามมากค่ะ  ไปเที่ยวกะกี้ด้วยคนค่ะ จากคุณ : Schnuggy ชนุ๊กกี้ เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 03:56:03

ความคิดเห็นที่ 70 ฐานอุโบสถแบบย่อมุม จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 03:56:47

ความคิดเห็นที่ 71 Schnuggy ชนุ๊กกี้...นั่งข้างๆกี้ก็ได้ฮะป้าไก่ กี้ไม่กัดหรอกฮะ ............................................................................... เสารอบอุโบสถ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 03:58:34

ความคิดเห็นที่ 72 แต่ละเสามีลวดลาย จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 04:00:02

ความคิดเห็นที่ 73 และกระจกสีแตกต่างกัน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 04:01:24

ความคิดเห็นที่ 74 พญานาคจากมุมด้านหน้าและด้านหลังของลานอุโบสถ มาตวัดรัดกันตรงกลางเป็นกำแพงล้อมอุโบสถ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 04:02:43

ความคิดเห็นที่ 75 วิหารพระพุทธบาทสี่รอยเมื่อมองจากทางเดินบนอุโบสถ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 04:03:09

ความคิดเห็นที่ 76 บันไดพญานาคทางขึ้นข้างอุโบสถ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 04:03:33

ความคิดเห็นที่ 77 ลวดลายใต้ลำตัวพญานาคของบันไดทางขึ้นข้างอุโบสถ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 04:05:52

ความคิดเห็นที่ 78 ลวดลายใต้ลำตัวพญานาคของบันไดทางขึ้นด้านหน้าอุโบสถ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 04:06:42

ความคิดเห็นที่ 79 พระวิหารพระพุทธบาทสี่รอย เมื่อมองจากเหนือบันไดพญานาคขึ้นลานอุโบสถ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 04:08:39

ความคิดเห็นที่ 80 ระหว่างเดินลงเนินไปที่ลานจอดรถ เจอกับลูกครึ่งหางกุดพันธุ์เดียวกับลัคกี้ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 04:09:08

ความคิดเห็นที่ 81 บริเวณลานจอดรถตรงข้ามทางขึ้นพระวิหารพระพุทธบาทสี่รอย เป็นร้านค้าของกลุ่มแม่บ้าน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 04:09:43

ความคิดเห็นที่ 82 สินค้าที่จำหน่ายมีทั้งอบเชยแท่ง มะขามป้อมแช่อิ่ม กระท้อนแช่อิ่ม หญ้าหวาน ชาบรรจุถุงบรรจุลูกใต้ใบ หญ้าเอ็นยึด ใบมะรุม กระดุมทอง ใบหม่อน ใบรางจืด ใบย่านาง มะระขี้นก หญ้าหนวดแมว และสมุนไพรชุมเห็ดเทศ พร้อมวิธีชงและสรรพคุณทางยา จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 04:10:15

ความคิดเห็นที่ 83 แต่ที่เน้นเจาะจงว่าถ้ามีที่นี่ โดยเฉพาะจากแม่แฟน ต้องซื้อบ๊วยดองซึ่งถูกมาก คราวที่แล้วแฟนมากับเพื่อน แต่ขึ้นมาบ่ายค่อนเย็นวันธรรมดา แม่ค้าเก็บของกลับบ้านหมดแล้ว แบบบรรจุขวดเล็กขวดละ 10 บาท ถ้าซื้อ 1 โหล 100 บาท แบบบรรจุขวดโหลๆใหญ่ 100 บาท โหลเล็ก 50 บาท แฟนซื้อเสร็จแล้วตอนลงมาสมทบ ซื้อเพิ่มอีก 2 โหลแถม 1 ขวด ใส่กล่องกระดาษใหญ่ มีที่ว่างใส่ได้อีก 3 ขวดรวมเป็น 28 ขวด 225 บาท เอาไว้แจกชงดื่ม ทำน้ำแกงหมูสับใส่ไข่หรือนึ่งปลา แก้ไขเมื่อ 08 พ.ย. 53 11:34:37 จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 04:10:47

ความคิดเห็นที่ 84 ให้แม่ค้าช่วยยกไปเก็บที่ท้ายรถ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 04:11:33

ความคิดเห็นที่ 85 12.55 น.ขับลงเขาคดเคี้ยวหวาดเสียว แต่สบายใจที่ได้ขึ้นมาทำบุญและกราบพระพุทธบาทสี่รอยของแท้ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 04:12:52

ความคิดเห็นที่ 86 ไม่ต้องกลัวหลงทาง เพราะมีป้ายบอกเส้นทางที่ต้องการไปเป็นระยะๆ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 04:13:40

ความคิดเห็นที่ 87 มีเวลาขอแวะวัดหนองก๋าย เพราะขาขึ้นเห็นป้ายที่บอกว่า พระประธานวัดนี้ มีอายุกว่า 1,300 ปี จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 04:15:28

ความคิดเห็นที่ 88 วัดหนองก๋ายตั้งอยู่เลขที่ 99 หมู่ 4 ต.สันป่ายาง อ.แม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ สังกัดสงฆ์มหานิกาย มีเนื้อที่ 4 ไร่ 2 งาน 50 ตารางวา สร้างเมื่อ พศ.2297 เดิมตั้งอยู่บนภูเขา ต่อมาได้ย้ายวัดมาอยู่ในหมู่ ณ ที่ตั้งปัจจุบัน ปัจจุบันวัดหนองก๋ายเป็นโบราณสถาน ที่อยู่ในความดูแลของกรมศิลปกร จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 04:16:00

ความคิดเห็นที่ 89 ซ้ายมือทางเข้าวัดมีอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย เนื่องจากตามประวัตินั้น ท่านเคยแวะพักที่นี่ ระหว่างเดินทางขึ้นไปกราบนมัสการพระพุทธบาทสี่รอย และก่อสร้างมณฑป(พระวิหาร)ครอบพระพุทธบาทสี่รอย ต้องขนปูน เหล็กและวัสดุก่อสร้างจากตรงนี้ เดินลัดป่าเขาขึ้นสู่วัดพระพุทธบาทสี่รอยด้วยความยากลำบาก ในสมัยนั้นท่านได้ดำริที่จะสร้างถนนขึ้นสู่วัดพระพุทธบาทสี่รอย หลังก่อสร้างถนนขึ้นสู่ดอยสุเทพแล้วเสร็จ แต่ถูกกลั่นแกล้งให้ต้องอธิกรณ์ จึงกลับไปอยู่ที่วัดบ้านเกิดที่จังหวัดลำพูน ต่อมาในปี พศ. 2545 ทางวัดพระพุทธบาทสี่รอยผลักดันให้มีการสร้างถนน ตามเจตนารมณ์ของครูบาศรีวิชัย จนแล้วเสร็จในปี พศ.2547 กองทัพภาคที่ 3 ก่อสร้างให้ประมาณ 9 กม.ที่เหลือสร้างโดยศรัทธาสาธุชน เมื่อครั้งที่ครูบาศรีวิชัยทำบุญฉลองพระวิหารครอบพระพุทธบาทสี่รอย ได้สั่งให้ทำบุญสรงน้ำ พระพุทธบาทสี่รอยเป็นประจำทุกปี ในวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำเดือน 4 (เดือน 6 เหนือ) โดยให้แห่ฆ้อง กลอง และเครื่องสังฆทานในตอนเย็น-ค่ำของวันขึ้น 14 ค่ำ ถึงเช้าทำบุญตักบาตร สรงน้ำในวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เรียกว่าประเพณีเดียว(เดิน)ขึ้นดอยเพื่อสรงน้ำพระพุทธบาทสี่รอย ทางวัดพระพุทะบาทสี่รอยได้สืบสานประเพณีนี้ต่อ ระหว่างปี พศ.2537-2547 หลังจากขาดผู้นำในการดำเนินงานไปเกือบ 30 ปี และหวังว่าจะมีการสืบทอดประเพณีนี้ จนกว่าพระศรีอาริยเมตไตร จะเสด็จมาประทับรอยเป็นรอยที่ 5 เพื่อรวมพระพุทธบาททั้งสี่รอยเป็นรอยเดียว รูปเหมือนครูบาศรีวิชัยที่หน้าวัดหนองก๋าย จะอัญเชิญแห่ขึ้นวัดพระธาตุดอยสุเทพครั้งหนึ่งในเย็นวันขึ้น 14 ค่ำ ก่อนวันวิสาขบูชา 1 คืน และแห่ขึ้นวัดพระพุทธบาทสี่รอยอีกครั้งหนึ่งในวันสรงน้ำพระพุทธบาทสี่ร้อย ในเย็นวันขึ้น 14 ค่ำ ก่อนวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำเดือน 4 (เดือน 6 เหนือ) 1 คืน ด้านข้างอนุสาวรีย์มีต้นโพธิ์ใหญ่ มีเสาค้ำยันจากผู้มีจิตศรัทธา ตามความเชื่อว่าช่วยค้ำจุนทะนุบำรุงศาลนา เหมือนที่วัดพระธาตุลำปางหลวง จังหวัดลำปาง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 04:19:07

ความคิดเห็นที่ 90 วัดหนองก๋ายเคยได้รับรางวัลวัดดีเด่นสองครั้ง วัดแห่งนี้มีเว็บไซต์รับบริจาคเงินและมีรายการวิทยุของตัวเอง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 04:19:54