ความคิดเห็นที่ 1 สูตรในโจ แพสทรี่ ปริมาณสำหรับทำพายครัสต์บน-ล่าง สำหรับถาดพาย 9 นิ้ว (มาตรฐานที่ฝรั่งมักจะใช้ทำพายกัน) ผมใช้แค่ครึ่งสูตรนะครับ จะทำได้พอดี 4 อันในถ้วยฟอยล์พอดีเลย สูตร Pie crust (เต็มสูตรจาก Joe Pastry และเปลี่ยนหน่วยวัดเรียบร้อยแล้ว) เนย 170 กรัม (3/4 ถ้วย หรือ 3/4 ก้อนมาตรฐานที่ขายในไทย) แป้งอเนกประสงค์ 280 กรัม (2 ถ้วย) เกลือ 1/4 ช้อนชา (ถ้าใช้เนยเค็มอาจจะไม่ใส่ก็ได้ แต่ผมชอบแป้งเค็มๆ) ผงฟู 1/4 ช้อนชา (จริงๆ แล้วผมเคยทำแบบสูตรไม่ใส่ผงฟูนะครับ ก็ออกมาดีเหมือนกัน ดังนั้น ถ้าใครไม่ชอบ ผมว่าไม่ใส่ก็น่าจะได้) ครีมชีส 130 กรัม (1/2 ถ้วย หรือ 1/2 ก้อนที่ขายในไทย ทั้งยี่ห้อฟิลาเดลเฟีย และแคโรไลน์) น้ำเย็นจัด ประมาณ 2-4 ช้อนโต๊ะ น้ำส้มสายชู (หรือน้ำมะนาว) ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 22:18:21

ความคิดเห็นที่ 2 เริ่มด้วยเนยเย็นจัดๆ หั่นเป็นก้อนเล็กๆ ครั้งนี้ผมทำครึ่งสูตรของเค้า ผมใช้เนย 85 กรัม หั่นเสร็จ เอาไปแช่แข็งเก็บไว้ เคล็ดลับของการทำพายครัสต์ คือส่วนผสมทั้งหมดต้องเย็นๆๆๆ เย็นจัดๆ เลยครับ จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 22:19:01

ความคิดเห็นที่ 3 ผสมแป้ง เกลือ ผงฟู ลงในชามผสม แล้วก็คนๆๆๆๆ ให้เข้ากัน จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 22:19:27

ความคิดเห็นที่ 4 ใส่ครีมชีสลงไป จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 22:20:37

ความคิดเห็นที่ 5 ใช้มือบี้ๆๆ ให้ผสมกับแป้ง (rub in) หรือถ้ามี pastry cutter ก็ใช้ได้ครับ แต่ขั้นนี้ยังไม่ซีเรียสเรื่องไขมันผสมกับแป้ง ดังนั้นใช้มือได้เลยครับ จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 22:21:29

ความคิดเห็นที่ 6 จนเป็นเม็ดเล็กๆ แบบนี้ จริงๆ แล้วน่าจะให้เล็กกว่านี้อีกหน่อยนะครับ เสร็จแล้วเอาไปแช่ช่องแข็งสัก 10 นาที ให้เย็นจัดๆ จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 22:22:10

ความคิดเห็นที่ 7 เอาถุงซิปล็อกขนาดใหญ่ออกมา (อาจจะใช้ถุงพลาสติกใสก็ได้ครับ) ใส่แป้งเย็นๆ ของเราลงไป ตามด้วยเนยเย็นเจี๊ยบ บางคนอาจจะสงสัย ว่าทำไมถึงต้องเน้นเรื่องส่วนผสมเย็นนัก เหตุผลหลักๆ คือ แป้งพายที่เราต้องการ เราต้องการแป้งที่นุ่ม เบา ร่วนเป็นแผ่น (flaky) ไม่แข็ง ด้าน เหนียว หนัก และแป้งพายที่เบา ร่วนเป็นแผ่นมันเกิดจากตอนที่อบก้อนเนยเล็กๆ ในเนื้อแป้งจะละลาย ทำให้เกิดช่องว่างในเนื้อแป้ง ทำให้แป้งร่วนเป็นแผ่นอย่างที่ต้องการ และนอกจากนี้ ความเย็นยังชะลอการเกิดโปรตีนกลูเต็นในแป้ง ทำให้แป้งนุ่มเบาไม่เหนียวหนึบ หรือหนักแข็งกระด้างครับ ถ้าเนยไม่เย็น เนยมันจะละลายซึมไปกับแป้งครับ จะทำให้แป้งที่ได้ไม่ร่วนเป็นแผ่น (flaky) อย่างที่ต้องการครับ จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 22:22:44

ความคิดเห็นที่ 8 ต่อๆ ปิดถุงให้สนิท ถ้าใช้ถุงพลาสติกธรรมดา ก็เอาหนังยาง (แถวบ้านผมเรียกยางวง) รัดให้แน่น แล้วเขย่าๆๆๆๆ พยายามจับแป้ง (และเนย) ให้น้อยที่สุดครับ เพราะความร้อนจากมือเราจะทำให้เนยละลายซึมเข้าเนื้อแป้ง ซึ่งเราไม่ต้องการครับ จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 22:23:16

ความคิดเห็นที่ 9 เสร็จแล้วก็เอา rolling pin มาทุบๆๆๆ คลึงๆๆๆ ให้แป้งและเนยในถุงแบนเป็นแผ่น จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 22:23:47

ความคิดเห็นที่ 10 คล้ายๆ แบบนี้ แต่เนื่องจากถุงที่ใช้เล็กไปครับ มันเลยดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 22:24:18

ความคิดเห็นที่ 11 เปิดออกดู หน้าตาดูไม่ดีเท่าไหร่ ไม่เหมือนที่ตาโจเค้าทำแฮะ ไม่เป็นไร จากประสบการณ์เคยทำพายมาอย่างโชกโชน (3-4 ครั้ง) ผมว่ายังพอไปต่อได้น่ะ จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 22:25:20

ความคิดเห็นที่ 12 เทียบกับของในเว็บเค้าแล้ว เหมือนของผมแป้งจะน้อยไปหรือไงเนี่ย หรือไม่ก็เอาออกมานอกตู้เย็นนานเกินไป ไอน้ำรอบๆ เกาะ ทำให้แป้งชื้น (รูปนี้จากเว็บโจ แพสทรี่) แต่ the show must go on ครับ แก้ไขเมื่อ 08 พ.ย. 53 22:26:42 จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 22:26:01

ความคิดเห็นที่ 13 ไหนๆ ก็มาถึงนี่แล้วครับ ทำต่อๆ เอาน้ำเย็นจัดมา (ของผมเย็นมาก ใส่น้ำแข็งด้วย) ผสมกับน้ำส้มสายชู ทำไมต้องใส่น้ำส้มสายชู ทำไมต้องใส่มะนาว? เหตุผลก็คือ น้ำส้มสายชูกับมะนาว มีความเป็นกรดครับ กรดจะไปทำลายพันธะโปรตีนในแป้ง ไม่ให้เกาะตัวกันเป็นสายยาว ซึ่งมันจะทำให้แป้งที่ได้แข็งและหนักครับ จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 22:27:23

ความคิดเห็นที่ 14 ค่อยๆ ริน ใส่ผสมลงไป ทีละนิดนะครับ ย้ำว่าทีละนิด และคนผสมไปด้วย เอาแค่พอแป้งเกาะกัน ไม่จำเป็นต้องใส่น้ำหมดนะครับ เพราะทำแต่ละครั้ง แป้งมีความชื้นไม่เท่ากันครับ ครั้งนี้ที่ผมทำ ยอมรับว่าใส่น้ำเยอะไปนิดครับ มันแฉะ และจะทำให้คลึงเป็นแผ่นยาก จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 22:28:07

ความคิดเห็นที่ 15 เสร็จแล้วก็คลี่พลาสติกแร็ปบนโต๊ะ เทแป้งลงไปบนแร็ป แล้วใช้แร็ปห่อแป้งให้เป็นก้อน พยายามจับแป้งให้น้อยที่สุดครับ แล้วก็เอาไปแช่ตู้เย็น ทิ้งไว้ 1-2 ชั่วโมง หรือทิ้งไว้ข้ามคืนก็ได้ครับ ถึงตรงนี้ เป็นอันเสร็จพิธีกรรมการทำแป้งพายแบบ shortcrust แล้วนะครับ ที่เหลือก็แค่เอามาขึ้นรูป แล้วเอาไปอบ (หน้าตาแบบในรูปนี้ เห็นได้ชัดว่ามันแฉะไปนะครับ ดังนั้นระวังเรื่องน้ำกันนิดนึง) จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 22:28:57

ความคิดเห็นที่ 16 ในระหว่างที่รอแป้งพายในตู้เย็น ผมก็ไปทำไส้พายครับ วันนี้จะทำพายอาหารคาว (savory pie) สองไส้ คือไส้ ทูน่าชีสพาสต้าไว้ท์ซ้อส (ชื่อยาวมาก เพราะตั้งเอง) กับไส้แฮมชีสครับ เป็นรีเควสจากคุณแฟนและน้องสาว เริ่มต้นด้วยการทำไวท์ซ้อสก่อน โดยทั่วไปแล้ว ไวท์ซ้อส (ที่ใช้เป็นส่วนประกอบในพาสต้าหลายๆ อย่าง) จะมีส่วนประกอบหลักๆ คือ นม เนย และแป้งครับ สัดส่วนคือ นม 1 ถ้วย แป้ง 2 ช้อนโต๊ะ เนย 2 ช้อนโต๊ะ ถ้าอยากได้ข้นๆ ก็เพิ่มที่แป้งและเนยอย่างละเท่าๆ กันครับ ในรูปนี้ผมใช้วิธีลดนมเอาครับ เพราะอยากได้ครีมข้นๆ อยู่ในพาย เหลวเกิน มันจะแฉะ จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 22:29:57

ความคิดเห็นที่ 17 วิธีทำไวท์ซ้อส ก่อนอื่นก็ตั้งกระทะให้ร้อน ใช้ไฟอ่อน แล้วใส่เนยลงไป จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 22:30:37

ความคิดเห็นที่ 18 คนให้เนยละลายแล้วใส่แป้ง แล้วก็คนๆๆๆๆ ประมาณ 3-4 นาที ใครจะใส่เกลือก็ใส่ได้นะครับ แต่ผมไม่ใส่เพราะว่าเนยเป็นเนยเค็มอยู่แล้ว และเดี๋ยวต้องมีชีสอีก มันจะเค็มไปกันใหญ่ จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 22:31:32

ความคิดเห็นที่ 19 แล้วก็ค่อยๆ เทนมใส่ลงไป จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 22:32:12

ความคิดเห็นที่ 20 คนไปเรื่อยๆ ครับ จนเนยกับนมเป็นเนื้อเดียวกัน ตัวซ้อสจะข้นขึ้นด้วยครับ เสร็จแล้วก็เทใส่ถ้วยเก็บไว้ครับ แก้ไขเมื่อ 08 พ.ย. 53 22:33:36 จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 22:32:50

ความคิดเห็นที่ 21 ส่วนประกอบที่สอง คือผักในไส้ทูน่าครับ ผมซอยกระเทียม หอมหัวใหญ่ แครอทเอาไว้ จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 22:34:08

ความคิดเห็นที่ 22 ตั้งกระทะให้ร้อน ใส่น้ำมัน จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 22:34:35

ความคิดเห็นที่ 23 ใส่กระเทียมลงไปก่อน ตามด้วยหอมหัวใหญ่ (ในรูปมัวแต่ถ่ายรูปครับ กระเทียมไหม้กันเลยทีเดียว) จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 22:35:03

ความคิดเห็นที่ 24 ตามด้วยแครอท แล้วก็ผัดจนหัวหอมดูใสๆ และแครอทนิ่ม แล้วก็เอาขึ้นครับ จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 22:35:38

ความคิดเห็นที่ 25 พายทูน่าครั้งนี้ ผมจะใส่เส้นพาสต้าลงไปด้วยครับ ดังนั้น ก็ต้มเส้นพาสต้า ในที่นี้ใช้เส้นมักกะโรนี โรยเกลือลงไปนิด ใส่น้ำมันพืชเข้าไปหน่อย แล้วต้มประมาณ 5-6 นาที จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 22:36:12

ความคิดเห็นที่ 26 เสร็จละครับ ส่วนประกอบทั้งหมดของพายทูน่าชีสพาสต้าไว้ท์ซ้อสซัมเมอร์ซ้อลลังกาหน้าสองหน จริงๆ แล้วจะผัดรวมกันไปหมดเลยก็ได้แหละครับ (แล้วแยกพาสต้าไว้) แต่ที่ผมแยก เพราะตอนแรกที่ผม ผมคิดว่าเหลือแหงๆ เลยทำแยกไว้ จะได้เก็บได้นานไม่เสีย แต่สุดท้ายใช้จนหมดเลยครับ ส่วนไส้แฮมชีส คงไม่ต้องอธิบายมากครับ แค่หั่นแฮมเป็นชิ้นเล็กๆ กับเตรียมชีสไว้ จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 22:36:49

ความคิดเห็นที่ 27 หลังจากรอจนแป้งในตู้เย็นได้ที่ ประมาณ 1 ชั่วโมงให้หลัง ก็เตรียมขึ้นรูปแป้งพายกัน เทคนิคนี้ผมทำครั้งแรก เอามาจากโจ แพสทรี่เหมือนกัน นั่นก็คือ เริ่มจากการปูแผ่นแร็ปลงบนโต๊ะก่อน ทำไมต้องทำอย่างนี้? จากประสบการณ์การคลึงแป้งพาย มันจะติดโต๊ะมากครับ และเสียเวลาทำความสะอาดโต๊ะมากทีเดียว หลังจากปูแผ่นพลาสติกแล้วก็โรยแป้ง เยอะนิด จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 22:37:33

ความคิดเห็นที่ 28 เอาแป้งออกมาจากตู้เย็น ผมแบ่งออกเป็น 4 ส่วน จะทำพาย 4 ถ้วยครับ มันได้พาย 4 ถ้วยเป๊ะเลยครับ จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 22:38:20

ความคิดเห็นที่ 29 เอาออกมาส่วนนึงก่อน ส่วนที่เหลือกลับเข้าตู้เย็น เอาแป้งมาวางบนแผ่นพลาสติกโรยแป้งที่เตรียมไว้ แล้วโรยแป้งทับ แล้วก็เอาแผ่นพลาสติกอีกแผ่น แปะทับบนสุด จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 22:39:09

ความคิดเห็นที่ 30 คลึงแป้งให้แบนตามปกติครับ คลึงบนแผ่นแร็ปพลาสติก ไม่ต้องกลัวเหนียวหนึบติดโต๊ะ ไม่ต้องกลัวเหนียวหนึบติด rolling pin แต่ต้องลองหมั่นเปิดพลาสติกดูนะครับ ส่วนไหนติด ก็โรยๆ แป้งเพิ่มเข้าไป จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 22:39:46

ความคิดเห็นที่ 31 พอแป้งแบนได้ที่ เอาถ้วยที่จะใช้อบมาเป็นแบบครับ ในรูปคือแผ่นล่างรองก้นถ้วย ก็จะตัดให้แป้งเลยออกมาประมาณนิ้วครึ่ง เพราะถ้วยที่ผมใช้มันก้นลึกนิดนึงครับ จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 22:40:38

ความคิดเห็นที่ 32 วิธีย้ายแป้งไปวางบนถ้วย ง่ายๆ เลยก็พับเป็นสี่ทบแบบในรูปครับ ที่ทำงี้เพื่อให้ยกแป้งไปวางบนถ้วยได้ง่ายๆ ไม่ขาดซะก่อน จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 22:41:11

ความคิดเห็นที่ 33 แล้วยกไปวางบนถ้วยโดยให้ปลายแหลมอยู่ที่กลางถ้วย แล้วคลี่ออก จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 22:41:43

ความคิดเห็นที่ 34 คลี่จนเต็มแผ่นปิดถ้วยจนหมด จะเห็นว่าอาจจะมีรอยขาดอยู่บ้าง อย่าตกใจไปครับ ซ่อมได้ จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 22:42:24

ความคิดเห็นที่ 35 ค่อยๆ กดแป้งให้เข้ารูปกับถ้วย พยายามอย่าดึงแป้งให้ยืดนะครับ เพราะเดี๋ยวตอนอบมันจะหด ส่วนที่ขาด ก็เอาน้ำแตะๆ แล้วเชื่อมไปกับแป้งข้างๆ ได้ หรือถ้าเป็นรู ก็เอาเศษแป้งแตะน้ำนิดนึงแล้วเอามาปะได้ครับ ถึงตรงนี้ ถ้าขอบแป้งมันเกินถ้วยออกมามากเกิน และอยากให้มันออกมาสวย อาจจะใช้กรรไกรทำขนมหรือมีดเล็มให้สวยงามได้ครับ แต่ผมชอบแป้งที่ขอบหนาๆ ผมไม่เล็มออกครับ จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 22:43:05

ความคิดเห็นที่ 36 แป้งที่เหลือจากการทำก้นถ้วยมันอาจจะมีเศษๆ เอามาปั้นรวมกันได้ครับ แต่อย่าคลึงมาก อย่าทำอะไรกับแป้งเยอะ มันจะเกิดกลูเต้นมาก ปั้นรวมเป็นก้อน แล้วก็คลึงให้เป็นแผ่น จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 22:43:49

ความคิดเห็นที่ 37 ทำแป้งด้านบน ตัดให้เลยขอบถ้วยมาแค่ประมาณ 1-2 เซ็นต์ก็พอครับ จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 22:44:36

ความคิดเห็นที่ 38 แล้วก็ถึงเวลาที่รอคอย ตักไส้ใส่เข้าไปครับ ชั้นล่างอย่าเพิ่งเอาไว้ท์ซ้อสลงนะครับ เดี๋ยวก้นพายมันจะแฉะเกิน เอาพวกของแข็งใส่ลงไปก่อน ใส่พาสต้า ชีส ทูน่า ผัก สลับๆ กันไปกับไว้ท์ซ้อสครับ อ่อ ระหว่างนี้ก็ไปเปิดเตา อุ่นเตาให้ร้อนที่ประมาณ 200 องศาเซลเซียสได้เลยครับ จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 22:45:14

ความคิดเห็นที่ 39 จนมันพูนออกมาแบบนี้เลยครับ จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 22:45:46

ความคิดเห็นที่ 40 ใช้เทคนิคการย้ายแป้งพายแบบเดิม เอาแผ่นบนวางลงไป จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 22:46:08

ความคิดเห็นที่ 41 พับแป้งด้านล่างขึ้นมาทบกับด้านบน ทำเป็นขอบ ไม่สวยไม่เป็นไรครับ มันเป็น homemade pie ความดิบๆ ความไม่สวยของมันนี่แหละ คือเสน่ห์ครับ จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 22:46:36

ความคิดเห็นที่ 42 ดูกันใกล้ๆ พับขึ้นมาทำเป็นขอบแบบนี้ จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 22:47:10

ความคิดเห็นที่ 43 อาจจะใช้ส้อมกดแต่งขอบให้สวยก็ได้ครับ จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 22:47:39

ความคิดเห็นที่ 44 แต่ผมชอบวิธีกดจีบด้วยมือมากกว่าครับ วิธีทำคือใช้มือข้างนึงทำจีบด้านนอกด้วยนิ้วชี้กับนิ้วโป้งอย่างในรูป แล้วใช้นิ้วชี้อีกข้างนึงกดแป้งเข้าหาจีบที่ทำไว้ครับ ในรูปไม่เห็นมืออีกข้าง เพราะผมต้องใช้ถือกล้องถ่ายรูปไปด้วยครับ ทำคนเดียว ถ่ายคนเดียว จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 22:48:13

ความคิดเห็นที่ 45 แล้วก็ออกมาเป็นพายสวยงาม?? จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 22:48:42

ความคิดเห็นที่ 46 กรีดช่องระบายไอน้ำด้านบนซะหน่อยครับ เพราะเวลาอบมันจะเกิดไอน้ำในไส้ขึ้นมาก ถ้าไม่เปิดช่องไว้มันจะดันให้พายทะลัก จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 22:49:11

ความคิดเห็นที่ 47 ครีเอทช่องเอาตามที่ชอบเลยครับ เสร็จแล้ว เอาเข้าช่องแข็งเลยครับ พายยิ่งเย็นยิ่งดีครับ แป้งจะหดน้อยเวลาอบ จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 22:49:38

ความคิดเห็นที่ 48 ทีนี้มาที่อีกไส้ครับ ไส้แฮมชีส ปรากฏว่าในตู้เย็นแฮมไม่พอครับ เลยผสมไส้กรอกลงไปอีกครึ่งนึง จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 22:50:09

ความคิดเห็นที่ 49 ชีสก็ใช้เชสด้าชีสแบบขูดแล้ว หรือถ้าใครไม่มี ก็ใช้ชีสแผ่นก็ได้ครับ หรือถ้าใครจะผสมมอสซาเรลล่าลงไปด้วยก็ได้ ไส้มันก็จะยืดตึ๋งหนืดเหมือนกินพิซซ่าดี ผมเคยทำมาแล้วครั้งนึง จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 22:50:41

ความคิดเห็นที่ 50 ใส่ผสมมันลงไปให้พูนออกมาครับ กินเองอย่ากลัวอ้วนครับ ฮื้ออออ อย่ากลัวววว จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 22:51:23

ความคิดเห็นที่ 51 แล้วก็ปิดฝาซะ ทำจีบรอบ กรีดช่องให้สวยงาม พายแฮมชีส ผมสิ้นคิดสุดๆ ใช้ตัว H มันนี่แหละ ง่ายดี จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 22:52:05

ความคิดเห็นที่ 52 บนถาดอบผมปูกระดาษรองอบซะหน่อย เพื่อให้เวลาชีสมันเยิ้มออกมา หรือไส้ไหลทะลักแตกออกมาจะได้ไม่เปื้อนถาด ขี้เกียจทำความสะอาดนั่นแหละครับ เรื่องของเรื่อง จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 22:52:31

ความคิดเห็นที่ 53 วางลงไปบนถาด ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 22:53:04

ความคิดเห็นที่ 54 ต้องแต่งหน้าซะหน่อยครับ เอาไข่ไก่หนึ่งฟอง ตีให้เข้ากัน หรือจะใช้แค่ไข่แดงก็ได้ครับ เอามาทำ egg wash จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 22:53:34

ความคิดเห็นที่ 55 เอาแปรงจุ่มไข่มาทาให้ทั่วหน้าพาย พายที่ได้สีจะสวย เป็นเงางามครับ ถ้าไม่ใช้ไข่ ก็ใช้นมสดแทนได้ครับ สีสวยเหมือนกัน แต่ไม่เงางามเท่า ปล. แปรงอันนี้ 60 บาทจากไดโซะ ไปดูตามห้างอันละเป็นร้อยแน่ะ จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 22:54:31

ความคิดเห็นที่ 56 ทาไข่... ทาไข่จริงๆ ไม่ใช่ ทา (ร์ต) ไข่ ทาให้ทั่วครับ จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 22:55:17

ความคิดเห็นที่ 57 เอาเข้าเตาอบครับ (ถ้าสังเกตเทอร์โมมิเตอร์ผม จะเห็นว่าผมอบใช้ไฟอ่อนเกินสูตรครับ ที่เป็นงั้นเพราะด้วยความเคยตัวหลังจากที่ทำขนมปังมาติดกันมาหลายรอบ ผมเลยอบที่ 180 องศาเท่าขนมปังครับ ลืม จริงๆ แล้วต้อง 200 องศา แต่ผลที่ได้ผมว่าไม่ต่างกันมากนะ) จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 22:56:40

ความคิดเห็นที่ 58 เวลาผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง พายจะเริ่มสีสวยน่ากิน กลิ่นเริ่มยั่วจมูกสุดๆ จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 22:57:07

ความคิดเห็นที่ 59 สีน้ำตาลทองสวย ไส้ข้างในเดือดปุดๆๆๆ เตรียมเอาออกมาได้แล้ว จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 22:57:44

ความคิดเห็นที่ 60 ขอชิมสักชิ้นนะคะ จากคุณ : ทำตัวเป็นปริศนา เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 22:57:45

ความคิดเห็นที่ 61 #60 คุณทำตัวเป็นปริศนา --- เชิญเลยครับผม -------------------------------- ยกออกมาวางให้เย็นนิดนึง พวกพายของคาวพวกนี้ กินตอนร้อนๆ ได้เลยครับ (ถ้าเป็นพายผลไม้ ควรรอให้ไส้มันเซ็ตตัวนิดนึง) แต่เนื่องจากว่าผมทำตอนเช้ามืด เลยทิ้งไว้ก่อน สายๆ ค่อยมากิน จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 22:59:07

ความคิดเห็นที่ 62 พายทูน่าชีสพาสต้าไว้ท์ซ้อสซัมเมอร์ซ้อลลังกาหน้าสามตลบ จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 22:59:33

ความคิดเห็นที่ 63 พายไส้กรอกแฮมชีส จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 23:00:59

ความคิดเห็นที่ 64 ยิ่งนับวันยิ่งเทพนะครับ... ถ่ายภาพสวยชัดน่าทานด้วย จากคุณ : L-Nets เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 23:01:21

ความคิดเห็นที่ 65 สังเกตแป้งครับ flaky แบบนี้แหละ คือสิ่งที่เราต้องการ จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 23:01:27

ความคิดเห็นที่ 66 post ได้ไวมากครับ แสดงว่า เตรียมเนื้อหา และรูปมาอย่างดี จากคุณ : L-Nets เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 23:02:53

ความคิดเห็นที่ 67 #64 คุณ L-Nets --- ขอบคุณมากครับ ตอนนี้กล้องมันเริ่มเปื้อนไปหมดแล้วล่ะครับ ---------------------- ตอนสายๆ มาแหวกพายทูน่าฯ ดูครับ ขอบอกว่าอร่อยมาก ที่เห็นดำๆ ตรงก้น คือก้นไหม้นิดนึงนะครับ แฮ่ๆ ส่วนดำๆ ในไส้พาย คือกระเทียมไหม้เพราะมัวห่วงถ่ายรูปครับ จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 23:03:55

ความคิดเห็นที่ 68 หิวค่ะ........... จากคุณ : Devil mim เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 23:04:25

ความคิดเห็นที่ 69 #66 คุณ L-Nets --- ใช่แล้วครับ ผมเตรียมรูปกับข้อความเอาไว้ก่อน เพราะตอนแรกจะแปะกระทู้นี้ตั้งแต่วันที่พันทิปเดี้ยงๆ น่ะครับ ต้องเตรียมเอาไว้ก่อน ไม่งั้นเดี๋ยวเดี้ยงแล้วต้องพิมพ์ใหม่ เซ็งแย่เลย ------------------------------- ทูน่าชีสพาสต้าไว้ท์ซอสอีกซักทีครับ ส่วนไส้กรอกแฮมชีสนั้นถ่ายไม่ทันครับ ไม่เหลือให้ถ่ายซะแล้ว .... สรุปแล้ว อร่อยมากครับ แต่ๆๆ ผมว่าแป้งที่ได้ ไม่ต่างกับสูตรที่ไม่ใส่ครีมชีสครับ ดังนั้น คราวหน้าคงไม่ใส่ครีมชีสที่แป้งแล้วครับ มันเปลือง ครีมชีสก้อนนึงเป็นร้อยแน่ะ จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 23:05:47

ความคิดเห็นที่ 70 #68 --- คุณ Devil mim หิวตอนดึกๆ ระวังนะครับ เดี๋ยวต้องไปหาอะไรกิน ฮี่ๆ จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 23:06:40

ความคิดเห็นที่ 71 ขอบคุณที่ติดตามจนจบกระทู้นะครับ รู้สึกว่ารูปจะใหญ่ไปหน่อยว่ามั้ยครับ เอาไว้คราวหน้าลดขนาดอีกหน่อยดีกว่า ใครจะเอาสูตรไปทำตาม เชิญเลยนะครับ ได้ผลยังไง ตั้งกระทู้ให้ดูกันมั่งครับ Enjoy your PI ครับ จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 23:08:12

ความคิดเห็นที่ 72 คุณชาเขียวคะ  ไม่ต้องลดขนาดรูปค่ะ แบบว่า ใหญ่ ๆ เห็นชัดเจนดีค่ะ แล้วติ๋ว จะส่งการบ้านนะคะ จากคุณ : หมู (ตัว) อ้วน เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 23:37:38

ความคิดเห็นที่ 73 คุณชาเขียวท่าจะเอาจริงทางทำขนมแน่แล้ว... รูปสวยค่ะ วิธีทำก็ละเอียดละออดี  แถมทำออกมาได้น่าทานมากอีกด้วย จากคุณ : Amber n the Gang เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 53 00:06:47

ความคิดเห็นที่ 74 น่าหม่ำมากๆเลยค่ะ ชอบหม่ำพายมากๆ ด้วยค่ะ จากคุณ : นู๋ยู้ฮู้ เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 53 00:12:45

ความคิดเห็นที่ 75 ไม่น่าเปิดเข้ามาดูกลางดึกเลย หิว ><" จากคุณ : น้องปุยฝ้ายกับเจ้าชายเผือกร้อน เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 53 00:32:48

ความคิดเห็นที่ 76 พายเจ้านี้อร่อยน่าดูเลย ^ ^ จากคุณ : allenalina เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 53 01:05:26

ความคิดเห็นที่ 77 ♥ เข้ามาชมตอนดึก ๆ แบบนี้จะไปหาแบบนี้ได้ที่ไหนน๊า อิ..อิ.. น่าทานมากเลยครับ ^^ จากคุณ : P.S. i love you เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 53 01:47:08

ความคิดเห็นที่ 78 น่ากินที่สุดเลยค่ะ จากคุณ : BoomK เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 53 02:16:48

ความคิดเห็นที่ 79 น่าทานมากกกเลยค่ะ ดาวจ๋าเคยทำแบบนี้แล้ว ตอนนี้กำลังหัดทำแบบพัฟ แต่ไม่ได้ดั่งใจสักครั้ง เห็นของคุณชาเขียวแล้วน่าทำมากเลยยย .. คราวก่อนดาวจ๋าลองทำขนมปังชินาม่อนแบบที่คุณชาเขียวรีวิว แต่ดาวจ๋าใช้แป้งขนมปังแบบที่ชอบอ่ะค่ะ ผลตอบรับ ดีในระดับหนึ่ง  เป็นเพราะคนช่วยชิมไม่ชอบกลิ่นชินามอนอ่ะค่ะ ขอบคุณสำหรับสูตรและรูปสวยๆที่นำมาแบ่งปัน ขนมปังที่ทำค่ะ แก้ไขเมื่อ 09 พ.ย. 53 07:13:39 จากคุณ : ดาวจ๋า (satineesh) เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 53 07:12:15

ความคิดเห็นที่ 80 แวะมาขอชิมด้วยคนนะคะ เดียร์ขี้เกียจทำแป้งพายมากที่ซู๊ดดดดดดด อ้อนเจ้าของกระทู้หม่ำแทนดีกว่า อิอิ จากคุณ : Ab Psy ReinDEAR++ เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 53 08:12:51

ความคิดเห็นที่ 81 ทำพายได้น่าทานเชียวค่ะ ชอบทำพายของคาวเช่นกัน มันง่ายดีจริงๆ จากคุณ : MAE FAI เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 53 09:37:56

ความคิดเห็นที่ 82 ชอบดูผู้ชายทำขนมค่ะ น่าทานมากด้วย จากคุณ : สาวเกาะ เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 53 10:51:13

ความคิดเห็นที่ 83 ทำได้สวยงามน่าทานมากค่ะ  ขอชิมบ้างนะคะ ภาพขนาดนี้ดีแล้วนะคะ  เห็นชัดเจนดี  ไม่ต้องย่อเล็กหรอกค่ะ จากคุณ : กระทะเหล็ก เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 53 11:21:51

ความคิดเห็นที่ 84 แจ่มมากค่า น่าทาน ใส่อึ้มมาก ๆ จากคุณ : กินจนกลม เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 53 11:56:22

ความคิดเห็นที่ 85 น่าทานมากๆๆๆๆเลยค่ะ ใส้อูมตูม ถ้าขาย ขายหมดแน่นอน  แต่..... ขาดทุนยับเยิน  เพราะของดีเกินราคา จากคุณ : ป้าพริก เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 53 12:54:10

ความคิดเห็นที่ 86 น่าทานมากมาก ทูน่าของโปรดด้วย ขอเก็บสูตรเลยนะคะ ใส่เต็ม ๆ คำเลย ^^ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : นุ่น (muesli_fuzzy) เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 53 13:15:56

ความคิดเห็นที่ 87 #72 คุณหมู (ตัว) อ้วน --- ส่งการบ้านเมื่อไหร่จะตามไปชมครับ #73 คุณ Amber n the Gang --- ไม่แน่นะครับ ถ้าทำแล้วเวิร์คผมอาจจะเปิดร้านขนมไปให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย #74 คุณนู๋ยู้ฮู้ --- ชอบพายเหมือนกันเลยครับ #75 คุณน้องปุยฝ้ายกับเจ้าชายเผือกร้อน --- 5555 อันนี้ตัวใครตัวมันล่ะครับ #76 คุณ allenalina --- เท่าที่ได้ชิมไปไม่กี่คำ (ส่วนใหญ่แฟนผมจัดการหมด) ก็อร่อยใช้ได้ครับ #77 คุณ P.S. i love you --- จริงๆ จะว่าไป เมืองไทยหากินพายของคาวไม่ง่ายเหมือนกันนะครับ ส่วนมากจะเป็นรสชาติเหมือนขนมซะมากกว่า #78 คุณ BoomK --- ขอบคุณมากครับ #79 คุณดาวจ๋า --- ซินนามอนบันน่ากินมากเลยครับ นี่ใส่เม็ดมะม่วงหิมพานต์ด้วยใช่หรือเปล่าครับ #80 คุณเดียร์ --- แป้งพายถ้ามีเครื่องปั่นอาหาร (food processor) ล่ะก็ทำง่ายเหมือนกันครับ แต่ก็ยังยากตอนคลึงให้แบนนี่แหละ เดี๋ยวคราวหน้าผมทำรีวิววิธีทำแป้งพายด้วยวิธีอื่นๆ ดีกว่า #81 คุณ MAE FAI --- แฟนผมเค้ากินเป็นแต่พายของคาวเหมือนกันครับ พายขนม พายผลไม้เค้าไม่ค่อยชอบ #82 คุณสาวเกาะ --- ขอบคุณครับ จะว่าไป ผมก็ไม่ค่อยเห็นผู้ชายรอบๆ ตัวคนไหนชอบทำขนมเหมือนกันแฮะ -_-" #83 คุณกระทะเหล็ก --- ขอบคุณครับ เรื่องภาพผมกลัวจะโหลดช้า ถ้าภาพใหญ่และเยอะ แต่เห็นทั้งคุณกระทะเหล็ก และหมู (ตัว) อ้วนว่าพอดีแล้ว งั้นผมอาจจะไม่ย่อภาพอีกครับ #84 คุณกินจนกลม --- ไส้มันเยอะเพราะถ้วยมันใหญ่และก้นลึกด้วยแหละครับ ทำแบบนี้บ่อยๆ แอบเปลืองนะนี่ #85 คุณป้าพริก --- ถ้าขายคงเจ๊งแหงๆ เลยครับ ใส่ไส้ไปแบบนี้ #86 คุณนุ่น --- ยินดีครับ ลองทำเมื่อไหร่ เอามาดูกันมั่งนะครับ จากคุณ : ชาเขียว เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 53 13:22:37

ความคิดเห็นที่ 88 ใช่ค่ะคุณชาเขียว ดาวจ๋าใส่มะม่วงหิมพานต์ทุบหยาบๆ  ใส่น้ำตาลทรายแดง ใส่ลูกเกดใส่ชินามอล ใส่ๆลงไปตามวัตถุดิบที่มีและคิดว่าน่าจะเข้ากันได้ คนชอบชินามอลก็บอกว่าอร่อยค่ะ  แต่คนไม่ชอบก็บอกว่ากลิ่นมันแรง  คริคริ ดาวจ๋าทานได้ชิ้นสองชิ้นแล้วก็ต้องรีบหาเพื่อนช่วยชิมช่วยกระจายความอวบค่ะ  เอิ้กๆๆ จากคุณ : ดาวจ๋า (satineesh) เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 53 14:00:07

ความคิดเห็นที่ 89 ผู้ชายเข้าครัวที่ไร ผู้หญิงต้องอายทุกที เชฟเก่งๆ ผู้ชายทั้งน้านนนนนนน น่าหม่ำมากค่ะ ทั้งแป้งทั้งไส้ ทำเอาน้ำลายย้อย จากคุณ : blog..ชั้นเอง เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 53 20:06:29

ความคิดเห็นที่ 90 ที่บ้านน้ำหนักขึ้นกันถ้วนหน้าหรือยังเนี่ย ทำไมต้องมาดูกระทู้แบบนี้ก่อนนะ หิวววว จากคุณ : อาซิ่ม เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 53 00:22:38

ความคิดเห็นที่ 91 ขนาดรูปกำลังดีแล้วล่ะครับ จอใหญ่ดูพอดี ๆไม่เล็กไม่ใหญ่ อ๊ากกก หิว ผมทำเป็นแต่ขนมปังทาแยม อ๊ากกกก อิจฉา อิอิอยากลองบ้างแต่เครื่องครัวยังไม่พร้อมครับ จากคุณ : Jump.Jr เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 53 01:38:52