|
ขอแนะนำดังนี้ค่ะ
1. เราเจอปัญหาเดียวกันค่ะ ก่อนอื่นคงต้องบอกว่าเราต้องเปลี่ยนมุมมองใหม่ อย่านั่งมองแค่ว่าในชามมันมีอะไรบ้าง แต่ลองจดบัญชีรวบรวมรายการจ่ายของแต่ละเดือน รวมกันทุกวันแล้วเอามาหารจำนวนวันที่ขายค่ะ ใน 1 ชามก๋วยเตี๋ยวมันไม่ได้มีต้นทุนแค่ของสดในนั้นนะคะ ตั้งเป้าขายไว้เลยค่ะ เช็คดูว่าแต่ละวันขายได้ประมาณกี่ชาม สมมุติว่ารายจ่ายต่อวันคำนวนจากพวกค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าจ้างแรงงาน ค่าแก๊ส ค่าวัตถุดิบประเภทของสด ค่าเครื่องปรุงทั้งใส่น้ำซุปและที่ให้ลูกค้าปรุง ค่ารถไปตลาด ค่าถุง ค่าน้ำยาล้างจาน สารพัดสาระเพ รวมออกมาเท่าไหร่ เอามาเฉลี่ยรายวัน สมมุติว่าได้ค่าใช้จ่ายพวกนี้วันละ 2,500 แล้วขายได้สัก 100 ชาม ถ้วยละ 30 บาท ก็ได้กำไรวันละ 500 ประมาณนี้แล้วคุณต้องหักออกไปจากที่คิดว่ามันคือกำไรอีกสัก 30 % เอาไว้สนับสนุนจำพวกต้นทุนที่มองไม่เห็นอีกนะคะ แล้วคุณจะรู้ว่าคุณจะอยู่ได้หรืออยู่ไม่ได้ ถ้าเป็นอย่างที่เราลองยกตัวอย่างมานี้ อยู่ไม่ได้แน่ๆค่ะ ขายของต้องกำไรอย่างน้อยที่สุด 30 % เลยนะคะ ไม่งั้นไม่ได้อะไรเลยเพราะคุณนอกจากลงทุนเงินแล้ว ยังต้องเสียเวลาและเสียแรงงานตัวเองลงไปอีกด้วยค่ะ
2. เอาใส่กระติกไม่ค่อยเวิร์กค่ะ ถ้าไม่ได้ตักๆต่อเนื่องเท่าไหร่ อาจเหม็นบูดได้ แนะนำให้หุงแล้วคดใส่กาละมังแสตนเลสนึ่งในรังถึงใหญ่ๆไว้ค่ะ แต่อาจจะเปลืองแก๊สนิดนึง อันนี้ร้านที่เค้าขายดีๆทำกันมันก็คุ้ม ของเราเองขายเรื่อยๆเราใช้วิธีหุงแค่พอประมาณค่ะ หมดแล้วหุงใหม่ หรือไม่ก็กด cook ซ้ำอีกที
3. ตั้งแต่ต้มน้ำซุปมาหม้อไม่เคยไหม้เพราะต้มซุปค่ะ มีแต่ไหม้เพราะดันเอาสามชั้นชิ้นใหญ่ๆหย่อนลงไปต้มตอนน้ำยังไม่ทันร้อนดี มันติดก้นหม้อซะเละเทะไปเลย
ปกติต้มน้ำซุปเราไม่คนนะคะเรากลัวซุปขุ่น คิดว่าที่ติดก้นหม้อน่าจะเป็นพวกคราบไขมันต่างๆ ที่ใส่ลงไปตอนความร้อนยังไม่กระจายทั่วหม้อ เพราะถ้าอุณหภูมิพอเหมาะ ความร้อนมันจะดันขึ้นหน่อย ต้มอะไรก็ไม่ค่อยติดค่ะ
4. ปรุงให้พอดีค่ะ ปรุงให้พอดีที่เราว่าคือตอนที่ปรุงตอนแรก ไม่ต้องกะให้พอดีเป๊ะแบบไม่ต้องปรุง เอาแค่กลางๆไว้ก่อน เพราะว่ากระดูกและเครื่องต่างๆที่ใส่ลงไปจะออกรสและ "เข้าเครื่อง" เราต้องเคี่ยวซุปไป ช้อนฟอง ช้อนมันออกไปเรื่อยๆจนได้ที่ เวลาในการต้มนี้สัก 2 ชั่วโมงค่ะ ได้ราวๆนี้ค่อยชิมดูอีกที และก๋วยเตี๋ยวเป็นอะไรที่ต้องตั้งไฟไว้ตลอด ดังนั้นขายไปได้สักพักให้เติมน้ำสะอาดลงไปค่ะ หากมีน้ำต้มเนื้อเปล่าๆก็ยิ่งดี กะว่าสักชั่วโมงละ 1 -2 กระบวย หรือถ้าขายดีน้ำงวดลงไปเยอะก็อาจมากกว่านี้ แต่ย้ำว่าต้องชิมเท่านั้นค่ะ ถ้ายังไม่ชำนาญ ทางที่ดีตักซุปที่สำเร็จแล้วรอบแรกไว้สักถ้วยชิมรสดูก็ได้ค่ะ
5. ห่อไม่ให้มันกระจายออกมาไงคะ เพราะเราต้องการกลิ่น แต่ไม่ต้องการกากค่ะ มันดูไม่น่ากิน ส่วนตัวไม่ชอบใช้ผ้าขาวบาง แต่ใช้ลูกกลมๆที่เอาไว้ชงชา แบบที่มันจะเป็นตาข่ายๆครึ่งวงกลมประกบกันน่ะค่ะ เราว่าเครื่องมันออกมาได้พอประมาณ หอมหว่าห่อผ้า
6. ทำให้มันพอดีค่ะ ลองไปศึกษาจากร้านที่เค้าขายดีๆ หลายๆร้านจะได้รู้แนวทางนะคะ ส่วนตัวคิดว่านุ่มดีกว่าเหนียว และยุ่ยก็ยังดีกว่าเหนียวด้วยค่ะ เนื้อนี่เราไม่แน่ใจ แต่ถ้าเป็นไก่นี่เราจะเอาไปทอดก่อน ให้มันคงรูปภายนอกไว้ แต่ข้างในเปื่อยนุ่มพอดีๆ
7. วิธีการเก็บให้สดที่สุดที่เราเคยทำคือ เก็บในถังน้ำแข็ง ปาดเนื้อเป้นชิ้นย่อมๆใส่ถุงไว้อาจจะหลายถุงหน่อย วางน้ำแข็งในทุกๆชั้นถุง เพราะถ้าเก็บเป็นชิ้นใหญ่ๆ บางทีข้างในมันจะไม่ค่อยดีนัก น้ำแข็งบดถึงจะดี แบบก้อนๆมันเอาไม่ค่อยอยู่ค่ะ
8. ร้านที่เราชอบกินก็เป็นร้านใหญ่ คนแน่นร้านเลยนะคะ แต่เค้าไม่ถนัดทำลูกชิ้น เค้าใช้ของบีเอ็มค่ะ ซึ่งเราว่าอร่อยดีทั้งแบบเอ็นและไม่เอ็น
9. เส้นใหญ่ คัดมาตั้งแต่ซื้อเลยค่ะ บอกว่าสำหรับลวกไม่ใช่สำหรับผัด ส่วนใหญ่เค้าแยกกันค่ะ เส้นหมี่น้ำต้องร้อนจัดๆหน่อยค่ะ ถึงจะลวกได้พอดี เส้นบะหมี่ เอาออกจากซองมาแล้ว ต้องคลี่เส้นโดยการฟาดเส้นนิดหน่อยค่ะ เพื่อเคาะเอาแป้งมันที่เคลือบเส้นออก นวดๆคลึงๆอกีนิด แล้วเอาลงกระชอนลวก จุ่มๆเขย่าๆลงในน้ำสะอาดเพื่ล้างแป้ง ขั้นตอนนี้ทำแบบไวๆเลยนะคะ สะบัดๆน้ำออกแล้วนำลงลวกในน้ำร้อนๆ ระหว่างที่ลวกเขย่ากระชอนหรือใช้ตะเกียบคนๆให้ไว ลวกพอแป้งรอบๆเส้นบะหมี่เริ่มใสก็พอค่ะ สะเด็ดน้ำร้อนจุ่มลงน้ำเย็นธรรมดาอีกทีเพื่อหยุดการสุก แล้วคลุกด้วยน้ำมันกระเทียมเจียวเล็กน้อย เส้นเล็กนี่ไม่ยากเท่าไหร่ค่ะ คล้ายเส้นหมี่น่ะแหละ แต่เส้นทุกอย่างลวกขึ้นมาแล้วต้องคลุกน้ำมันเจียวค่ะ ไม่งั้นมันจับกันเป็นก้อนและดูดน้ำซุปจนอืดหมด
ประมาณนี้เลยค่ะ
จากคุณ |
:
your_natty
|
เขียนเมื่อ |
:
10 พ.ย. 53 10:15:48
|
|
|
|
|