ความคิดเห็นที่ 1 เราจะเตรียมส่วนเครื่องปรุงต่าง ๆ แยกเอาไว้ แล้วเมื่อจะทานเราจะนำมาคลุกที่ละส่วนที่เราต้องการทาน เริ่มทำหมูหวานกันดีกว่า ------------------------------- โดยในสูตรนี้ เราจะนำเนื้อหมูไปหมักกับซีอิ๊วขาวเป็นระยะเวลาสัก 1-2 วัน จากนั้นเราจะนำเนื้อหมูทั้งชิ้นไปนึ่ง เพื่อเป็นการรักษาคุณภาพและรสชาติของเนื้อหมู ให้ยังคงความชุ่มชื้น ไม่แห้ง และ เหนียวเกินไป เมื่อนึ่งเสร็จแล้วเราจะหั่นเนื้อหมูเป็นชิ้น ๆ พอคำ จากนั้นนำไปเคี่ยวรวมกับน้ำตาลมะพร้าว จนเนื้อหมูมีสีออกน้ำตาลอ่อน ๆ เงา ๆ ซึ่งจะทำให้เนื้อหมูมีรสชาติออกหวาน และ เค็มนิด ๆ ส่วนผสม    * เนื้อหมู 350 กรัม ส่วนไหนที่ชอบก็ได้ มันมากน้อยแค่ไหนก็ตามใจชอบ    * ซีอิ๊วขาว 1/2 ถ้วย    * น้ำตาลทรายแดง 1 ช้อนโต๊ะ    * น้ำตาลมะพร้าว 5 ช้อนโต๊ะ    * น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ    * น้ำเปล่า 3 ช้อนโต๊ะ จากคุณ : hanuman_bs4 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 16:12:00

ความคิดเห็นที่ 2 หมักเนื้อหมูกับซีอิ๊วขาว และ น้ำตาลทรายแดง และเก็บในตู้เย็นอย่างน้อย 36 – 48 ชั่วโมง จากคุณ : hanuman_bs4 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 16:12:20

ความคิดเห็นที่ 3 ใส่น้ำเปล่าลงในหม้อนึ่ง แล้วตั้งด้วยไฟแรง นึ่งเนื้อหมูประมาณ 20 นาที จากคุณ : hanuman_bs4 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 16:12:36

ความคิดเห็นที่ 4 เมื่อนึ่งเสร็จแล้ว พักเนื้อหมูไว้ประมาณ 10 นาที จะช่วยทำให้เนื้อมีความชุ่มชื้นขึ้น ไม่แห้ง จากคุณ : hanuman_bs4 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 16:12:50

ความคิดเห็นที่ 5 หั่นเนื้อหมูเป็นชิ้น ๆ พอคำบาง ๆ จากคุณ : hanuman_bs4 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 16:13:03

ความคิดเห็นที่ 6 ตั้งกะทะด้วยไฟอ่อน ใสน้ำตาลมะพร้าวลง คนจนน้ำตาลละลาย จากคุณ : hanuman_bs4 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 16:13:20

ความคิดเห็นที่ 7 เคียวไปเรื่อย ๆ จนน้ำตาลมีสีออกน่้ำตาลอ่อน ๆ จากคุณ : hanuman_bs4 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 16:13:32

ความคิดเห็นที่ 8 ใส่น้ำปลา และ น้ำเปล่าลงไป จากคุณ : hanuman_bs4 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 16:13:45

ความคิดเห็นที่ 9 เติมเนื้อที่พักเอาไว้ลงไป จากคุณ : hanuman_bs4 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 16:13:57

ความคิดเห็นที่ 10 คนให้เข้ากัน และ เคี่ยวต่อไปเรื่อย ๆ สัก 5 – 10 นาที จนเหลือน้ำในกะทะแค่คลุกคลิก จากคุณ : hanuman_bs4 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 16:14:11

ความคิดเห็นที่ 11 ขั้นตอนต่อไป - ย่างปลาดุก (หรือ ซื้อมาแบบที่ย่างมาแล้วก็ได้) ------------------------------------------------------------------------ ส่วนผสม    * ปลาดุก (ขนาดประมาณ  3  ขีด) 3 ตัว    * ซีอิ๊วดำ 1/2 ถ้วย    * ซีอิ๊วขาว 1/3 ถ้วย    * เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ    * พริกไทย 1  ช้อนชา    * กระเทียมไทย 1/2 ถ้วย    * สำหรับย่าง: ไม้เสียบยาวประมาณ  25  ซม, เตาถ่าน, ตระแกรงย่าง จากคุณ : hanuman_bs4 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 16:14:29

ความคิดเห็นที่ 12 นำปลาดุกไปแช่ในน้ำเกลือประมาณ 10  นาที  เพื่อลดเมือก และกลิ่นคาวลง จากคุณ : hanuman_bs4 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 16:14:44

ความคิดเห็นที่ 13 นำปลาดุกมาเอาลำไส้ออก  เสร็จแล้ว ล้างน้ำให้สะอาด จากคุณ : hanuman_bs4 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 16:14:58

ความคิดเห็นที่ 14 บั้งปลาดุก ข้างละ 3 บั้ง ทั้ง  2  ด้าน โดยใช้มีดคม ๆ จากคุณ : hanuman_bs4 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 16:15:15

ความคิดเห็นที่ 15 นำไม้แหลมมาเสียบเข้าทางปากปลาดุกไปทางหาง โดยให้เหลือด้ามไม้พอที่จับได้ จากคุณ : hanuman_bs4 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 16:15:27

ความคิดเห็นที่ 16 หมักปลาดุกกับเครื่องปรุงทั้งหมด ทิ้งไว้ประมาณ  20  นาที จากคุณ : hanuman_bs4 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 16:15:39

ความคิดเห็นที่ 17 ชุดไฟในเตาถ่าน และ รอให้ไฟเบาลงเล็กน้อย และเริ่มมีขี้เถ้าเล็กน้อย นำปลาไปย่างบนเตาถ่าน  ใช้ไฟอ่อน ๆ ถ้าไฟเริ่มลุกแรงขึ้นให้นำขี้เถาใส่ลงไปเพิ่ม กลับปลาดุกสลับไปมาทั้ง  2  ด้าน จนสุกเหลืองนวล ใช้เวลาย่างประมาณ 20 นาที จนสุก จากคุณ : hanuman_bs4 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 16:15:51

ความคิดเห็นที่ 18 นำปลาดุกย่างทั้งตัวไปทอดในน้ำมันท่วม จากคุณ : hanuman_bs4 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 16:16:06

ความคิดเห็นที่ 19 ทอดจนหนังปลาเริ่มกรอบ นำปลาขึ้น พักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน และ บี้ปลาดุกออกเอาเฉพาะเนื้อปลา เสร็จแล้วพักเอาไว้ จากคุณ : hanuman_bs4 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 16:16:18

ความคิดเห็นที่ 20 ขั้นตอนต่อไป - การเตรียมกะปิ ------------------------------------ การเผากะปิโดยใช้ใบตองห่อ จะทำให้กะปิหอม และ เป็นการฆ่าเชื้อโรคต่าง ๆ ด้วย ถ้าไม่มีใบตองสามารถใช้กระดาษอลูมิเนียมฟรอยและนำไปให้สุกในกะทะร้อนโดย ไม่ต้องใช้น้ำมันก็ได้ ห่อกะปิด้วยใบตอง จากคุณ : hanuman_bs4 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 16:16:35

ความคิดเห็นที่ 21 ปิดปลายห่อด้วยไม้กลัด หรือ ไม้จิ้มฟัน จากคุณ : hanuman_bs4 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 16:16:46

ความคิดเห็นที่ 22 นำไปเผาด้วยเตาถ่านจนสุกหอม จากคุณ : hanuman_bs4 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 16:16:57

ความคิดเห็นที่ 23 หั่นกระเทียมเป็นชิ้นบาง ประมาณ 3 กลีบใหญ่ๆ จากคุณ : hanuman_bs4 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 16:17:09

ความคิดเห็นที่ 24 นำกระเทียมไปทอดในน้ำมันประมาณ 2-3 ช้อนโต๊ะ จนมีสีเหลืองเล็กน้อย จากคุณ : hanuman_bs4 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 16:17:24

ความคิดเห็นที่ 25 ใส่กะปิที่เผาแล้วประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ ลงไปผัดด้วยกัน จากคุณ : hanuman_bs4 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 16:17:37

ความคิดเห็นที่ 26 ผัดกะปิจนหอม จากคุณ : hanuman_bs4 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 16:18:02

ความคิดเห็นที่ 27 ใส่น้ำที่เราได้มาจากหมูหวานประมาณ 3 ช้อนโต๊ะ ลงไป จากคุณ : hanuman_bs4 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 16:18:17

ความคิดเห็นที่ 28 ผัดต่อไปเรื่อย ๆ จนส่วนผสมเข้ากันดี เสร็จแล้วพักเอาไว้ จากคุณ : hanuman_bs4 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 16:18:30

ความคิดเห็นที่ 29 ขั้นตอนต่อไป - การเตรียมเครื่องเคียง -------------------------------------------- ตีไข่ 2 ฟอง และนำไปทอดในกะทะให้เป็นแผ่นบาง ๆ จากคุณ : hanuman_bs4 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 16:18:44

ความคิดเห็นที่ 30 ม้วนไข่ที่ได้และหั่นเป็นเส้นบาง ๆ เสร็จแล้วพักเอาไว้ จากคุณ : hanuman_bs4 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 16:18:59

ความคิดเห็นที่ 31 ปลอกเปลือกมะม่วงและสับเป็นเส้น ๆ เสร็จแล้วพักเอาไว้ จากคุณ : hanuman_bs4 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 16:19:11

ความคิดเห็นที่ 32 นำกุ้งแห้ง 1/3 ถ้วยไปทอดจนกรอบ เสร็จแล้วพักเอาไว้ จากคุณ : hanuman_bs4 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 16:19:32

ความคิดเห็นที่ 33 นำกุ้งแห้งอีก 1/3 ถ้วย ไปโขลกให้ละเอียด เสร็จแล้วพักเอาไว้ จากคุณ : hanuman_bs4 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 16:19:44

ความคิดเห็นที่ 34 ซอยหอมแดง และ พริกเหลือง ทอดพริกแห้ง เสร็จแล้วพักเอาไว้ จากคุณ : hanuman_bs4 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 16:19:55

ความคิดเห็นที่ 35 ซอยถั่วฝักยาว เสร็จแล้วพักเอาไว้ จากคุณ : hanuman_bs4 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 16:20:06

ความคิดเห็นที่ 36 ไม่ทานหมู ไม่ทานปลาดุก แต่เห็นแล้วแทบอดใจไม่ไหวค่ะ ทำได้น่าทานมากๆๆค่ะ จากคุณ : khan_sithon เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 16:20:14

ความคิดเห็นที่ 37 ตอนนี้เราพร้อมที่จะจัดจานข้าวคลุกกะปิแล้ว ---------------------------------------------------- นำข้าวสวยประมาณ 3 ถ้วย ใส่ในอ่างผสม เติมกะปิที่เตรียมไว้แล้วลงไป จากคุณ : hanuman_bs4 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 16:20:32

ความคิดเห็นที่ 38 ปรุงรสด้วยน้ำปลา ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ จากคุณ : hanuman_bs4 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 16:20:43

ความคิดเห็นที่ 39 ใส่หมูหวานประมาณ 4 ช้อนโต๊ะ จากคุณ : hanuman_bs4 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 16:20:55

ความคิดเห็นที่ 40 สุดยอดแห่งความน่ากินมากอีกแล้วค่ะ จากคุณ : สาววิเศษ เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 16:20:58

ความคิดเห็นที่ 41 ถ้าจะขอเอาจานปล่าวมารออาหารคุณ hanuman จะได้ไหมคะ ทำทานเองหน้าตาไม่น่าทานแบบนี้เลยค่ะ จากคุณ : Poo-Ma เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 16:21:03

ความคิดเห็นที่ 42 คลุกให้เข้ากัน และ ชิ้มรส รสชาติที่ได้ต้องออก เค็มนำ หวานตาม จากคุณ : hanuman_bs4 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 16:21:06

ความคิดเห็นที่ 43 ใสมะม่วงสับ พริกเหลืองซอย และ เนื้อปลาดุกย่างทอด อย่างละครึ่งของส่วนผสมลงไป จากคุณ : hanuman_bs4 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 16:21:18

ความคิดเห็นที่ 44 คลุกให้เข้ากัน และ ชิมรส สามารถใส่เนื้อปลาเพิ่มความมัน มะม่วงเพิ่มความเปรี้ยว และพริกเพิ่มความเผ็ด ตามใจชอบ จากคุณ : hanuman_bs4 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 16:21:34

ความคิดเห็นที่ 45 ใส่กุ้งแห้งป่น 1/2 ของส่วนผสม  คลุกให้เข้ากัน จากคุณ : hanuman_bs4 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 16:21:46

ความคิดเห็นที่ 46 จัดข้าวคลุกกะปิโดยใช้ถ้วย หรือ แม่พิมพ์ ลงในจาน จากคุณ : hanuman_bs4 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 16:21:58

ความคิดเห็นที่ 47 จัดเครื่องเคียงทั้งหมด ประกอบด้วย แตงกวา ไข่หั่นเป็นเส้น ๆ ถั่วฝักยาวซอย มะม่วงสับ กุ้งแห้งทอด หอมแดงซอย หมูหวาน และ เนื้อปลาดุกที่เหลือ ลงไปรอบ ๆ จาน จากคุณ : hanuman_bs4 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 16:22:12

ความคิดเห็นที่ 48 โรยหน้าด้วยกุ้งแห้งป่นที่เหลือ และ ตบแต่งด้วยพริกแห้งทอด จากคุณ : hanuman_bs4 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 16:22:24

ความคิดเห็นที่ 49 เสร็จแล้วครับ ข้าวคลุกกะปิ ปลาดุกย่างทอด หมูหวาน ครบเครื่องเคียง ;-)) จากคุณ : hanuman_bs4 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 16:22:35

ความคิดเห็นที่ 50 ข้าวคลุกกะปิ ชอบมั่กมาก โดยเฉพาะหมูหวาน ขาดกันไม่ได้เลย จากคุณ : allenalina เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 16:23:23

ความคิดเห็นที่ 51 ของอร่อยขั้นตอนช่างมากมายเหลือหลาย เห็นแล้วรู้เลยว่า....อืม...อร่อย ๆๆ อยากกินเลยอ่ะ จากคุณ : บอกกล่าว เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 16:24:59

ความคิดเห็นที่ 52 กรีดร้องด้วยความหิว และ อยากกิน(ฮา) อยู่เมืองนอกได้แต่มองจอน้ำลายหยด เข้ามาดูเมนูห้องก้นครัวคลายความคิดถึงบ้าน แต่ได้ความหิวกลับไปแทน(ฮา) ดูแล้วก็ฮึดรีบอ่านหนังสือ ปั่น thesis จะได้รีบกลับบ้านไปกินของอร่อยเร็ว ๆ จากคุณ : วรินทร์รตา เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 16:33:35

ความคิดเห็นที่ 53 ชอบมากเลย ครับ ข้าวคลุกกะปิ  น่ากินที่สุด จากคุณ : OFFBASS เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 16:35:58

ความคิดเห็นที่ 54 น่าทานมากๆๆๆ ค่ะ ทำอาหารได้เก่งจังเลยค่ะ เห็นแล้วหิว ท้องร้องเลยแหละ จากคุณ : Ang_mom เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 16:36:55

ความคิดเห็นที่ 55 สุดยอดฝรั่งเลยค่ะ  ทำอาหารไทยได้น่ากินมากๆ จากคุณ : ป้าอ้วนเหนียวเนื้อ เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 16:42:44

ความคิดเห็นที่ 56 ทำได้ละเอียด และน่าทานดีจังค่ะ จากคุณ : sweet temtation เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 17:17:02

ความคิดเห็นที่ 57 สุดยอดของสุดยอดคะ จากคุณ : almost lee เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 17:30:11

ความคิดเห็นที่ 58 ขอสารภาพอย่างไม่อายว่าทำไม่เป็นค่ะเพราะเคยคิดว่าขั้นตอนมากมาย ซื้อกินง่ายกว่า นับถือคุณหนุมานอย่างจริงใจค่ะ ที่ทำออกมาได้ครบถ้วนน่ากินที่สุด จากคุณ : ชลันธร เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 17:45:41

ความคิดเห็นที่ 59 แต่ละเมนูของคุณหนุมานนี่พิถีพิถันจริง ๆ คะ คนไทยอย่างเราอายเลยคะ ชื่นชมคุณจริง ๆ จากคุณ : eve... เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 18:34:51

ความคิดเห็นที่ 60 น่าทานมากค่ะ  ขอบอก จากคุณ : เดือนสว่าง เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 18:39:20

ความคิดเห็นที่ 61 น่าทานจริงๆ ค่ะ จากคุณ : mojikojung เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 18:43:11

ความคิดเห็นที่ 62 น่าทานมากๆ เลยค่ะ ขอบคุณคุณหนุมานที่นำมาแบ่งปันนะคะ =) จากคุณ : ~ExTrA aLcaLiNe~ เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 18:44:49

ความคิดเห็นที่ 63 ข้าวคลุกกะปิเครื่องเยอะสุดๆ ปกติที่บ้านทำกินยังไม่ได้เยอะขนาดนี้เลยค่ะ น่าทานมาก จากคุณ : ShAdOw's Panda เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 18:55:48

ความคิดเห็นที่ 64 น่าทานมาก ถึงมากที่สุด จากคุณ : vigannda เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 19:02:29

ความคิดเห็นที่ 65 คุณหนุมานคะ ชื่นชมกับความละเมียดละไมใส่ใจกับกรรมวิธีปรุงอาหารไทยของคุณที่สุดเลยค่ะ เป็นข้าวคลุกกะปิที่ครบเครื่องมาก ได้ทั้งอาหารตา และรู้แน่ๆว่าต้องอร่อยล้ำ จากคุณ : lovelyjone/jog เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 19:15:45

ความคิดเห็นที่ 66 ...  ข้าวคลุกกะปิตำรับคุณพี่หนุมานนี่ ไม่ใช่ครบเครื่องนะครับ    ต้องเรียกว่า " ทรงเครื่อง " ทีเดียวครับ จากคุณ : ชายกาง... (OverEat) เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 19:26:32

ความคิดเห็นที่ 67 น่าทานมากๆค่ะ จากคุณ : จันทร์เจ้าเอ๋ย (eui_memory) เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 19:35:23

ความคิดเห็นที่ 68 สุดยอดดดดดดดดดดดดด.. แอบถามคุณหนุมาน เคยทำอาหารไทยโบราณๆแบบนี้เลี้ยงเพื่อนชาวต่างชาติไม๊คะ เค้าทานได้ไม๊คะ เพราะกลิ่นกะปิก็แรงเอาเรื่องอยู่ จากคุณ : mayny the kop เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 19:36:44

ความคิดเห็นที่ 69 คุณ hanuman_bs4 เป็นฝรั่งจริงๆ เหรอคะ ทำอาหารไทยเก่ง แล้วยังใช้ภาษาไทยได้ถูกต้องด้วยค่ะ จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 19:52:55

ความคิดเห็นที่ 70 สุดยอดดดดดค่ะ จากคุณ : Schnuggy ชนุ๊กกี้ เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 19:53:43

ความคิดเห็นที่ 71 น่าทานมากๆเลยค่ะ แถมวิธีทำก็ละเอียดด้วย ขอบคุณมากๆนะคะ  พรุ่งนี้ลองทำบ้างดีกว่า จากคุณ : ฉันไม่เคยได้อยู่ในชีวิตของเธอ เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 20:04:09

ความคิดเห็นที่ 72 อยากให้กิ๊ฟมากเลยค่ะ ขอบคุณคุณหนุมานมากมายเลยค่ะ สำหรับการรีวิวอาหารไทยสูตรดั้งเดิมแบบนี้ การเกริ่นนำ ทำให้ได้อรรถรสเป็นอย่างมาก การนำเสนอก็เฟี้ยวเงาะมากๆ อยากให้กิ๊ฟใจจะขาด จากคุณ : balahala เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 21:05:06

ความคิดเห็นที่ 73 ไม่ต้องเสียเวลงเวลารีวิวแล้ว ว ว คุณหนุมาน ยังไงก็ทำไม่เป็น ขอให้เปิดร้านด่วนเลย จากคุณ : อิ อิ เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 21:22:59 A:58.8.3.217 X: TicketID:098315

ความคิดเห็นที่ 74 หิวดึกเลยทำไงดีเนี่ย น่าทานที่สุดในชีวิตโลก จากคุณ : mmac01 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 22:19:19

ความคิดเห็นที่ 75 หิวดึกเลยทำไงดีเนี่ย น่าทานที่สุดในชีวิตโลก จากคุณ : mmac01 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 22:19:42

ความคิดเห็นที่ 76 น่าทานมากเลยค่ะ จากคุณ : Angies เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 22:28:20

ความคิดเห็นที่ 77 เห็นแล้วหิวเลย จากคุณ : Natthanuch1 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 22:46:20

ความคิดเห็นที่ 78 โอย ท้องร้องกลางดึก พี่ต้องรับผิดชอบนะเนี่ย ทำน่ากินขนาดนี้ได้ไง ฮ่าๆๆ จากคุณ : katwan เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 23:00:34

ความคิดเห็นที่ 79 โห่ ฮิ้ว โห่ ฮิ้ว โห่ ฮิ้ว โห่ ฮี้ โห่ โห่ยยยย...........................หิวววววววววววววววววววว.......... ฮือ ๆ ไม่น่าเข้ามาเลย  ดึกแล้วซะด้วย ทรมาน น่าทานมาก ภาพตอนสับมะม่วง น้ำลายสอเลยล่ะค่ะ จากคุณ : Sparking Gunner เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 23:40:30

ความคิดเห็นที่ 80 น่าทานมากเลยค่ะ จะลองทำหมูหวานตามสูตรนี้ดูบ้าง ที่เคยทำแข็งเป็กเลยค่ะ จากคุณ : คะน้า (KaNa-IRC) เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 53 00:12:21

ความคิดเห็นที่ 81 ทำอาหารได้น่ากินสุดยอดเลยคะ ทั้งอาหารทั้งภาพสวยจริงๆคะ จากคุณ : The_November เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 53 01:10:09

ความคิดเห็นที่ 82 โหยยย น่าทานมากๆครับ จากคุณ : nakung_no82 เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 53 01:45:41

ความคิดเห็นที่ 83 เป็นข้าวคลุกกะปิที่อลังการมากเลยค่ะ น่ากินเป็นที่สุดด้วย จากคุณ : Clover78 เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 53 02:20:33

ความคิดเห็นที่ 84 น่าอร่อยจังเลยค่ะ ขอบคุณนะคะที่เอามาแบ่งให้ชม หวังว่าจะมีโอกาสไปลองทำกินบ้าง...เมื่อไหร่ก็ไม่รู้จะทำได้แบบนี้ จากคุณ : ด.ญ.นวลแป้ง เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 53 05:23:01

ความคิดเห็นที่ 85 น่ากินมากๆ จากคุณ : เหมียว beautycats เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 53 05:52:44

ความคิดเห็นที่ 86 หิวววววว ไม่ได้ทานข้าวคลุกกะปิมานานมาก ๆ ๆ  ๆ ๆ จากคุณ : wippygal25 เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 53 07:09:54

ความคิดเห็นที่ 87 ดูแล้วนำลายจะหก อยู่เมืองนอกหากินที่ไหนเนี่ยยยย จากคุณ : zolam เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 53 08:29:24

ความคิดเห็นที่ 88 น่ากินมาก ๆ ค่ะ จากคุณ : The Best of Me เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 53 09:18:51

ความคิดเห็นที่ 89 ถึงเครื่องจริงๆ  สุดยอดค่ะ จากคุณ : Pecan เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 53 09:23:35

ความคิดเห็นที่ 90 คารวะเลยค่ะ คุณแน่จริงๆ ค่ะ จากคุณ : เขาอกทะลุ เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 53 09:43:58

ความคิดเห็นที่ 91 สูตรของเราว่าอร่อยแล้ว  มาเจอสูตรนี้ ของอิฉันชิดซ้ายตกขอบโลกไปเลยค่ะ จากคุณ : Puvarin เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 53 10:08:12

ความคิดเห็นที่ 92 ขอบคุณค่ะ  มาชิมค่ะ จากคุณ : ไก่อเมริกา เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 53 10:52:44

ความคิดเห็นที่ 93 เมนูนี้สงสัยขอผ่าน .... เพราะคนที่บ้านแค่ได้กลิ่นกะปิ ก็วิ่งแล้วค่ะ จากคุณ : Pjanet เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 53 11:52:52

ความคิดเห็นที่ 94 จากคุณ : ceacar salad เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 53 11:57:54

ความคิดเห็นที่ 95 สีข้าวคลุกกะปิสวยน่ากินมากๆ เลยค่ะ หิวเลยย จากคุณ : bsmirai เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 53 12:24:57

ความคิดเห็นที่ 96 บอกได้คำเดียวว่าสุดยอดครับ เมนูข้าวคลุกกะปิเป็นอีกหนึ่งจานที่ผมชอบมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก แต่ของคุณหนุมานนี่ทำอย่างพิถีพิถันมากเลยครับ ทั้งการนึ่งหมูก่อนแล้วไปเคี่ยวกับน้ำตาลมะพร้าวจนออกสี (เวลาผมทำกินเองผมใส่ซีอิ๊วดำช่วยเพิ่มสีอะ) การย่างปลาดุกที่ดูน่ากิน (บ้านผมทำเองไม่ใส่ปลาดุกย่างครับ) การเตรียมเครื่องกะปิสำหรับคลุกข้าวก็ดูมีสไตล์จริงๆ (บ้านผมจะใช้กะปิคลุกกับข้าวแล้วลงผัดให้หอมน่ะครับ สรุปที่บ้านผมทำนี่ท่าจะเพี้ยนไกลออกจากต้นตำรับไปมากโขแหละครับ) สำหรับผมคิดว่าอาหารมันเป็นการแสดงออกด้านวัฒนธรรมที่มีการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อย พูดง่ายๆคือผมไม่ซีเรียสนะ ถ้าอาหารในอดีตจะสามารถกลายร่างเป็นอีกอย่างในวันนี้ แต่กระนั้น ผมก็นิยมคนที่คงแบบแผนการทำแบบต้นตำรับเอาไว้อย่างคุณหนุมานครับ น่านับถือจริงๆ จริงๆตามอ่านคุณหนุมานหลายกระทู้แล้วแต่ไม่เคยได้โพสต์เลยครับ หวังว่าชาตินี้คงได้กินกับข้าวฝีมือคุณหนุมานซักครั้ง ฮ่าๆ จากคุณ : gelgloog (gelgloog) เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 53 12:36:22

ความคิดเห็นที่ 97 จากคุณ : tRechin เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 53 13:01:47

ความคิดเห็นที่ 98 อาหารจานโปรดเลยค่ะ จากคุณ : ข้าวเหนียวเขาวง เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 53 13:04:32

ความคิดเห็นที่ 99 คุณหนุมาน ข้าวคลุกกะปินี่ก็เป็นอีกจานนะคะ ที่ชอบทานข้าวคลุกกะปิที่อร่อยเกิดจากการพิถีพิถันในการทำ เพราะฉะนั้นคนทั่วไปที่ไม่เคยทานข้าวคลุกกะปิแบบครบหรือทรงเครื่องของคุณหนุมาน(ขอยืมคำว่าทรงเครื่องของชายกางมานะคะ ใช้คำนี้ได้เลยสำหรับอาหารจานของคุณหนุมาน) จะไม่รู้เลยว่าทำไมข้างคลุกกะปิที่แบบธรรมดา กับข้าวคลุกกะปิที่พิถีพิถันทุกขั้นตอนนั้นเทพอย่างไร เห็ยแล้วก็สามารถจิตนาการถึงกลิ่นและรดชาดได้เลย ถ้าจะสวรรค์โปรดล่ะก็ต้องได้ชิมจริงๆ 555 ชื่นชม ชื่นชมจริงๆค่ะ จากคุณ : TUKTA03 เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 53 13:34:22

ความคิดเห็นที่ 100 ชื่นชมครับ จากคุณ : Random_life เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 53 13:37:21

ความคิดเห็นที่ 101 เป็นเมนูที่ผมชอบมากเลย จากคุณ : DJ BrYaN เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 53 16:35:02

ความคิดเห็นที่ 102 ยอดเยี่ยมมากค่ะ จากคุณ : NooJJ เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 53 16:35:30

ความคิดเห็นที่ 103 เริดมากกก+ ฮ่ะ   หิวเลยน่ะเนี้ย... . . แก้ไขเมื่อ 14 พ.ย. 53 17:15:27 จากคุณ : JADE&GUY เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 53 17:14:51

ความคิดเห็นที่ 104 น่ากินมากๆ ขอบคุณครับ จากคุณ : KDDI เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 53 18:27:56