ความคิดเห็นที่ 1 8.10 น.พาลัคกี้ออกไปเดินเล่นจนถึงหน้าหมู่บ้าน หมาชาวบ้านในรั้วต้อนรับกันเกรียวกราว จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 21:32:57

ความคิดเห็นที่ 2 จากนั้นนั่งพักที่ห้องนั่งเล่นหน้าบ้านระหว่างรอแม่แต่งตัว จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 21:33:56

ความคิดเห็นที่ 3 . จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 21:34:15

ความคิดเห็นที่ 4 .. จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 21:34:31

ความคิดเห็นที่ 5 . จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 21:34:47

ความคิดเห็นที่ 6 .. จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 21:35:03

ความคิดเห็นที่ 7 . จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 21:35:25

ความคิดเห็นที่ 8 เดินไปดูห้องพักราคาประหยัดแบบพัดลม จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 21:35:47

ความคิดเห็นที่ 9 ที่มีห้องน้ำในตัว มาหน้าหนาวนอนไม่แอร์ก็ได้ประหยัดดี จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 21:36:11

ความคิดเห็นที่ 10 รายการเที่ยวที่กำหนดไว้วันนี้ คือเดินทางไปชมพิพิธภัณฑ์พระพิฆเนศ ที่อำเภอดอยหล่อ ติดอำเภอสันป่าตอง ป้าจอยเองจึงเสนอให้ไปวัดพระธาตุหริภุญชัย ทานข้าวซอยข้างวัด จากนั้นจึงค่อยไปพิพิธภัณฑ์พระพิฆเนศช่วงบ่าย 9.30 น.ออกเดินทาง ผ่านถนนทิพย์เนตร เลี้ยวขวาที่หน้าแอร์พอร์ทพลาซ่เข้าถนนมหิดล(ทล.1141) ข้ามสะพานข้ามแม่น้ำปิง จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าถนนเชียงใหม่-ลำพูน(ทล.106) ผ่านทางเข้าเวียงกุมกามด้านขวามือ แก้ไขเมื่อ 30 พ.ย. 53 08:51:34 จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 21:36:47

ความคิดเห็นที่ 11 ที่เลือกวิ่งถนนเส้นนี้ แทนที่จะใช้เส้นทางถนนซุปเปอร์ไฮเวย์(ทล.11) ก็เพื่อชมความสวยงามของถนนเส้นนี้ ถนนเชียงใหม่-ลำพูน เป็นถนนเข้าสู่จังหวัดเชียงใหม่สายเก่า ก่อนที่จะมีการสร้างถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ทำให้หลายอำเภอ เช่นอำเภอป่าซาง อำเภอสารภี ลดความสำคัญลงไป -ถนนสายเลียบแม่น้ำปิงห่าง หรือถนนเชียงใหม่-ลำพูน มีการสร้างถนนอย่างเป็นทางการขึ้น โดยพระยาทรงสุรเดช (อั้น บุนนาค)ข้าหลวงใหญ่มณฑลลาวเฉียง ในสมัยรัชกาลที่ 5 เมื่อปี พ.ศ. 2438 เริ่มสร้างตั้งแต่เชิงสะพานนวรัฐ (หน้าโรงเรียนเชียงใหม่คริสเตียนในปัจจุบัน) เลียบตามแนวแม่น้ำปิงห่างจนถึงเมืองลำพูน ต่อมาในปี พ.ศ. 2454 ทางราชการได้นำต้นยางนามาให้ราษฎรช่วยกันปลูก เพื่อความร่มรื่น สวยงามตลอดสองข้างทาง ในเขตจังหวัดเชียงใหม่ ส่วนในเขตจังหวัดลำพูน ได้ปลูกต้นขี้เหล็ก รวมจำนวนต้นไม้ตลอดเส้นทางสายนี้ มีจำนวนกว่าสองพันต้น ระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 10 ถึง 20 วา จนกลายเป็นเอกลักษณ์ของถนนสายในจนถึงปัจจุบัน ที่มา : วิกิ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 21:37:29

ความคิดเห็นที่ 12 การขยายตัวของบ้านเมือง การบุกรุกชิดแนวถนน ทำให้มีการโค่นหรือจงใจทำให้ต้นยางตายไปเป็นจำนวนมาก รวมถึงการสร้างถนนวงแหวนรอบกลาง ที่มีการโค่นต้นยาง 75 ต้น จนชาวบ้านอำเภอสารภีรวมตัวกันคัดค้าน จำได้ว่าเมื่อครั้งมาทำธุระที่อำเภอสารภีเมื่อกว่า 20 ปีที่แล้ว มีการผูกผ้าเหลืองรอบต้นยาง เหมือนการบวชต้นไม้ เพื่อป้องกันการโค่นต้นยางเหล่านี้ มิเช่นนั้นคงถูกโค่นจนหมด เหมือนต้นพะยอมที่ถนนต้นพะยอม ซึ่งเป็นที่มาของชื่อกาดต้นพะยอม ที่ถูกตัดจนไม่เหลือเมื่อมีการขยายถนน ปัจจุบันต้นยางบนถนนช่วงนี้เหลืออยู่ไม่ถึง 950 ต้น และจะค่อยๆน้อยลงจนหมด เพราะอายุของต้นยางนั้นอยู่ระหว่าง 100-150 ปี อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : http://lumphoon.blogspot.com/2010/07/blog-post_27.html จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 21:38:02

ความคิดเห็นที่ 13 ผ่านร้านเครื่องเรือนทำจากไม้ไผ่ ป้าจอยเองขอแวะดูราคาสินค้า จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 21:38:22

ความคิดเห็นที่ 14 แปลกแต่จริง มาถึงแหล่งผลิต แต่หลายอย่างแพงกว่ากรุงเทพฯ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 21:38:43

ความคิดเห็นที่ 15 10.45 น.เข้าเขตอำเภอเมือง จังหวัดลำพูน ถึงแยกตัดกับ ทล.1015 เลี้ยวขวาเข้าวัดพระธาตุหริภุญชัย จอดรถด้านถนนสุพรรณรังษี วัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร ตั้งอยู่ที่ ถ.อินทยงยศ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ลำพูน วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นเอกชนิดวรมหาวิหาร สังกัดมหานิกาย มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 27 ไร่ 3 งาน 88 ตารางวา มีความสำคัญคือ เป็นพระธาตุประจำปีเกิดปีระกา เปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น. ชาวต่างชาติเสียค่าเข้าชม 20 บาท มองผ่านประตูเข้าไปจะเห็นเขาพระสุเมรุจำลอง แก้ไขเมื่อ 30 พ.ย. 53 14:41:09 จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 21:39:08

ความคิดเห็นที่ 16 ข้างที่จอดรถเป็นบริเวณร้านค้าของที่ระลึก จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 21:39:32

ความคิดเห็นที่ 17 ยังไม่เข้าวัด แต่พาลัคกี้ผ่านฝูงหมาวัด เดินเลียบกำแพงวัดไปออกหน้าวัด จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 21:39:52

ความคิดเห็นที่ 18 ทางด้านถนนประตูท่าสิงห์หรือถนนรอบเมืองใน ฝั่งตรงข้ามคือกาดขัวมุง ซึ่งแปลว่าตลาดบนสะพานที่มุงหลังคา ตลาดนี้สร้างบนสะพานข้ามแม่น้ำกวง สองข้างสะพานเป็นทางกว้างประมาณหนึ่งเมตรสำหรับรถจักรยานยนต์ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 21:40:13

ความคิดเห็นที่ 19 เลี้ยวขวาที่หน้าวัด ติดกับที่จอดรถหน้าวัดคือร้านข้าวซอย-ก๋วยเตี๋ยว ที่ป้าจอยเองแนะนำ มาเชียงใหม่แล้วไม่ทานข้าวซอยก็เหมือนขาดอะไรไปอย่าง เดิมตั้งใจว่าครั้งนี้จะไปทานข้าวซอยอิสลามชื่อดังในเชียงใหม่ หรือไม่ก็ที่ร้านข้าวซอยเสมอใจ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 21:40:39

ความคิดเห็นที่ 20 แฟนบอกว่าเคยมาทานที่ร้านนี้ ตอนมาเที่ยวเวียงกุมกามกับเพื่อนเมื่อสองปีก่อน แสดงว่าร้านนี้น่าจะอร่อย จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 21:41:12

ความคิดเห็นที่ 21 ป้าจอยเองบอกว่าร้านนี้พาสุนัขเข้าได้ แต่เพื่อความแน่ใจให้แฟนถามอีกครั้ง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 21:41:33

ความคิดเห็นที่ 22 ถึงจะพาลัคกี้เข้าได้ แต่ก็เลือกนั่งโต๊ะหน้าร้านติดถนน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 21:41:57

ความคิดเห็นที่ 23 ร้านนี้ไม่มีชื่อ เปิดขายมากว่าสิบกว่าปี เปิดขายทุกวันตั้งแต่เจ็ดโมงเช้า จนกว่าของจะหมดช่วงบ่ายไม่แก่ บางคนเรียกตามชื่อลูกชายป้าเจ้าของร้าน(ใส่เอี๊ยมกุ๊นแดง)ว่าร้านนายเก่ง(หันหลังเสื้อเขียว) โดยมีลูกสะใภ้(ยืนอยู่ในครัว) แก้ไขเมื่อ 01 ธ.ค. 53 22:33:02 จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 21:42:16

ความคิดเห็นที่ 24 เป็นคนปรุงข้าวซอย ร้านนี้มีแต่เนื้อวัวและน่องปีกบนไก่ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 21:42:41

ความคิดเห็นที่ 25 พริกเผาที่มีป้ายเตือนว่าเผ็ดมาก จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 21:43:15

ความคิดเห็นที่ 26 มะนาว ผักกาดดองและหอมแดงสำหรับข้าวซอย จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 21:43:44

ความคิดเห็นที่ 27 ของตัวเองเป็นข้าวซอยเนื้อ 25 บาท จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 21:44:05

ความคิดเห็นที่ 28 ดูจากปริมาณแล้วไม่แพง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 21:44:28

ความคิดเห็นที่ 29 จัดการบีบมะนาว ใส่หอมแดงและผักกาดดอง ไม่ใส่น้ำพริกเผาเพราะต้องการชิมรสแท้ๆของน้ำแกง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 21:44:50

ความคิดเห็นที่ 30 น้ำแกงข้าวซอยร้านนี้หอมเครื่องแกง เนื้อวัวต้มได้เปื่อยกำลังดี จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 21:45:12

ความคิดเห็นที่ 31 สวัสดีค่ะ อาสาม วันนี้ตามมาเที่ยวทันค่ะ จากคุณ : ข้าวเหนียวเขาวง เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 21:45:34

ความคิดเห็นที่ 32 ข้าวเหนียวเขาวง ...ฮิ ฮิ คนแรกเลยฮะ .............................................................. หน้าร้านมีร้านขายหนังไก่ทอดและกุ้งฝอยทอด สั่งมาอย่างละจานๆละ 30 บาท รสชาติพอทานได้ แก้ไขเมื่อ 29 พ.ย. 53 22:50:48 จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 21:45:55

ความคิดเห็นที่ 33 มีก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กน้ำเกินมา 1 ชาม 25 บาท ใส่แป้งแผ่นเกี๊ยวทอด แก้ไขเมื่อ 30 พ.ย. 53 14:45:43 จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 21:46:15

ความคิดเห็นที่ 34 น้ำซุปหอม จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 21:46:38

ความคิดเห็นที่ 35 ปนเนื้อติดเอ็นนุ่มๆ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 21:47:00

ความคิดเห็นที่ 36 . แก้ไขเมื่อ 29 พ.ย. 53 21:48:14 จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 21:47:23

ความคิดเห็นที่ 37 พิพิธภัณฑ์พระพิฆเนศ อยู่ อ.ดอยหล่อ เจ้า จากคุณ : เด็กดอย เจ้าแม่ปาเงิน เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 21:47:54

ความคิดเห็นที่ 38 สั่งข้าวซอยไก่ 25 บาทอีกชาม จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 21:48:40

ความคิดเห็นที่ 39 อิจฉากี้อ่ะ กี้ได้เที่ยวบ่อยจัง จากคุณ : ข้าวมันไก่พิเศษสอง เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 21:49:58

ความคิดเห็นที่ 40 เด็กดอย เจ้าแม่ปาเงิน ...ขอบคุณครับ ............................................................................ ใช่ไม้จิ้มฟันจิ้มเนื้อให้ลัคกี้ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 21:50:09

ความคิดเห็นที่ 41 . จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 21:50:33

ความคิดเห็นที่ 42 .. จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 21:50:55

ความคิดเห็นที่ 43 ลักกี๊สุดหล่อฮะ มาทันอาสามแล้ว จากคุณ : ขอเบิ้ลนะ (ขอเบิ้ลนะ) เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 21:56:32

ความคิดเห็นที่ 44 ข้าวมันไก่พิเศษสอง ...อย่าอิจฉากี้ฮะ คุณแม่ขอร้องงงง ........................................................................... 11.35 น.กลับเข้าวัดพระธาตุหริภุญชัย -ชื่อของวัดพระธาตุหริภุญชัยมาจากชื่อของเมืองหริภุญชัย  ตามที่พระพุทธองค์ได้ทรงพยากรณ์ไว้ เมื่อครั้งเสด็จมาบิณฑบาตในสมัยพระพุทธกาลและได้แวะรับและฉันลูกสมอ  ที่ชาวลั๊วะนำมาถวาย โดยได้ทรงพยากรณ์ไว้ตอนนั้นว่า  สถานที่แห่งจะมีผู้มาสร้างเมืองและตั้งชื่อว่า “หริภุญชัยนคร”   และในกาลต่อมาก็มี ฤาษี  2 องค์  ชื่อว่า วาสุเทพ และ สุกกทันตะ ได้ร่วมกันสร้างเมือง ณ สถานที่แห่งนี้   และให้ชื่อเมืองว่า  หริภุญชัยนคร ในปี พ.ศ. 1204  สมจริงตามคำพยากรณ์ของพระพุทธองค์ทุกประการ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 21:57:03

ความคิดเห็นที่ 45 ขอเบิ้ลนะ...ทันสบายบรื๋อฮะ ................................................ -หริภุญชัยนคร แปลว่าเมืองที่พระพุทธเจ้าเคยเสวยลูกสมอ (หริ แปลว่า สมอ, ภุญชัย แปลว่า เสวย, นคร แปลว่า เมือง)             ส่วนพระบรมธาตุนั้น แต่เดิมเก็บรักษาไว้ในกระบอกไม้รวกและใส่ไว้ในโกศแก้วอีกชั้นหนึ่ง   ต่อมากษัตริย์ผู้ครองนครลำพูนทุกพระองค์ก็ได้บูรณะและพัฒนาขึ้นตามลำดับ  โดยเปลี่ยนจากโกศแก้ว เป็นโกศทองและเปลี่ยนเป็นมณฑป  ในที่สุดเป็นเจดีย์และมีการขยายขนาดของเจดีย์ให้ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ   จนกระทั่งสูงถึง  25  วาครึ่ง กว้าง 12 วาครึ่ง ดังปรากฏให้เห็นอยู่ทุกวันนี้และเรียกชื่อว่า“วัดพระธาตุหริภุญชัย” ที่มา : http://www.hariphunchaitemple.org/modules.php?name=Content&pa=showpage&pid=17 จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 21:58:08

ความคิดเห็นที่ 46 เอาลัคกี้ผ่านไอ้สามขาไปไว้ที่รถ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 21:58:31

ความคิดเห็นที่ 47 จากนั้นเดินมาเข้าวัดทางด้านหน้าอีกครั้ง เลี้ยวขวาที่กำแพงวัดจะพบกับวิหารพระไสยาสน์ ภายในประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ก่ออิฐถือปูนลงรักปิดทอง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 21:58:59

ความคิดเห็นที่ 48 ติดกันเป็นประตูเข้าวัด มีสิงห์ปูนปั้นศิลปล้านหน้าขนาดใหญ่ ยืนตระหง่านอยู่บนแท่นสูง 1 เมตรสองข้างประตู สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอาทิตยราช จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 21:59:24

ความคิดเห็นที่ 49 เข้าประตูมาจะเห็นวิหารหลวงอยู่ตรงหน้า จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 21:59:47

ความคิดเห็นที่ 50 ซ้ายมือเป็นหอไตร -หอไตรหรือหอธรรม ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ขององค์พระธาตุหริภุญชัยจากศิลาจารึก ลพ.15 (ปัจจุบันอยู่ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติหริภุญไชยจังหวัดลำพูน) เป็นจารึกอักษรไทยล้านนา จารึกขึ้นในราว พ.ศ. 2043 ซึ่งอยู่ในช่วงรัชกาลพระเมืองแก้ว จารึกหลักนี้ประดิษฐานอยู่ที่ วัดพระธาตุหริภุญชัย เรื่องราวในจารึกได้กล่าวถึง พระเมืองแก้ว กับพระราชมารดาของพระองค์ได้ร่วมกันบำเพ็ญพระราชกุศล อันยิ่งใหญ่สถาปนาหอไตรปิฎก หรือหอพระธรรมมณเฑียร เป็นสถานที่เก็บรักษาคัมภีร์พระไตรปิฎก ครบทั้ง 85,000 พระธรรมขันธ์ พร้อมทั้งอรรถกถาฎีกาและอนุฎีกา รวมทั้งสิ้นเป็นคัมภีร์ 420 พระคัมภีร์ซึ่งเป็นพระคัมภีร์ใบลานทั้งหมด ลักษณะทางสถาปัตยกรรมของหอไตรหลังนี้มีลักษณะเช่นเดียวกับหอไตรของวัดพระสิงห์ และวัดเชียงมั่น จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งถือว่าเป็นแบบที่นิยมสร้างกันทั่วไปในดินแดนล้านนา สำหรับหอไตร วัดพระธาตุหริภุญชัยหลังนี้ สร้างเป็นอาคารสองชั้น ชั้นล่างก่ออิฐถือปูน ชั้นบนเป็นอาคารเครื่องไม้ ตัวอาคารหอไตร ตั้งอยู่บนฐานขนาดใหญ่ ซึ่งมีบันไดขึ้นทางด้านหน้า สองข้างบันไดมีสิงห์โตหินประดับที่หัวเสา ตัวอาคารหอไตรชั้นล่างที่ก่อด้วยอิฐถือปูนมีประตูทางเข้าทางเดียว ส่วนชั้นบนเป็นเครื่องไม้ทำเป็นบันไดนาคเล็กๆ ตั้งอยู่ด้านหน้าบนประตูทางเข้าชั้นล่าง ตัวอาคารมีการประดับด้วยไม้แกะสลักปิดทองประดับกระจกอย่างสวยงาม มีมุขทั้งด้านหน้าและด้านหลัง หลังคาลดชั้นประดับด้วยช่อฟ้าใบระกาหางหงส์หลังคามุงด้วยแผ่นดีบุก จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 22:00:16

ความคิดเห็นที่ 51 เดินไปที่วิหารหลวง -วิหารหลวง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกขององค์พระธาตุ สร้างขึ้นในสมัยพระเมืองแก้วกษัตริย์ผู้ครองนครเชียงใหม่ ในปี พ.ศ. 2057 เป็นแบบพื้นเมืองทรงล้านนาสวยงามมาก ต่อมาวิหารได้ถูกลมพายุใหญ่พัดปรักหักพังอย่างยับเยิน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 22:00:43

ความคิดเห็นที่ 52 -ในปี พ.ศ. 2458 ท่านเจ้าอาวาสพร้อมด้วยศรัทธาประชาชนชาวเมืองลำพูน ได้ช่วยกันบูรณะขึ้นมาใหม่ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 22:01:25

ความคิดเห็นที่ 53 -ภายในวิหารหลวงเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปปางมารวิชัย 3 ขนาดลดหลั่นกันลงมาสามชั้น นอกจากนี้ในวิหารหลวง ยังเป็นที่ประดิษฐานพระแก้วขาว พระเสตังคมณีศรีเมืองหริภุญชัย ประทับนั่งอยู่เหนือบุษบกที่แกะสลักลงรักปิดทองอย่างสวยงาม จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 22:01:58

ความคิดเห็นที่ 54 หลังวิหารหลวงคือเจดีย์พระบรมธาตุหริภุญชัย -พระบรมธาตุหริภุญชัย เป็นโบราณสถานอันสำคัญของนครหริภุญชัยที่ พระเจ้าอาทิตยราช เป็นผู้สถาปนาขึ้น ในราวพุทธศตวรรษที่ 17 เพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ อันมี ธาตุกระหม่อม ธาตุกระดูกอก ธาตุกระดูกนิ้วมือ และธาตุย่อยอีกเต็มบาตรหนึ่ง ตามพุทธทำนายลักษณะทางสถาปัตยกรรมขององค์พระธาตุหริภุญชัย ตามที่ปรากฏในหนังสือตำนานพระธาตุหริภุญชัย กล่าวว่า มีลักษณะ เป็นสถูปสี่เหลี่ยมทรงปราสาท ที่มีซุ้มทวาร เข้า- ออก ทะลุกันได้ทั้งสี่ด้าน มีปราสาทสี่เหลี่ยมอยู่ตรงมุมละองค์ก่อด้วยศิลาแลง ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่มีมากอยู่ในเมืองนี้ ภายในเป็นแท่น สำหรับประดิษฐาน พระโกศที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 22:02:49

ความคิดเห็นที่ 55 -ในสมัยของพญาสรรพสิทธิ์ กษัตริย์แห่งราชวงศ์จามเทวีวงศ์ ทรงโปรดให้ปฏิสังขรณ์เจดีย์เดิม ที่พญาอาทิตยราชทรงสร้างไว้และได้ขุดร่องทวารประตูเข้า-ออก ทั้งสี่เพื่อความปลอดภัย รูปทรงสันฐานขององค์พระบรมธาตุ ยังคงเป็นลักษณะเดิม คือ เป็นทรงปราสาทสี่เหลี่ยม ที่กว้างใหญ่และสูง เมื่อ พญามังราย ตีเมืองหริภุญชัยได้ โปรดให้ซ่อมแซมดัดแปลงองค์พระธาตุขึ้นใหม่ การปฏิสังขรณ์ครั้งนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงทรวดทรง ขององค์พระธาตุฯจากทรงปราสาทกลายเป็นทรงเจดีย์ฐานกลม แบบทรงลังกา ในสมัยของพระเจ้าแสนเมืองมาประมาณปี พ.ศ. 1951 โปรดให้มีการปิดทององค์พระธาตุ พ.ศ. 1990 พระเจ้าติโลกราชกษัตริย์องค์สำคัญแห่งเมืองเชียงใหม่ ทรงร่วมกับพระมหาเมธังกรเถระ ก่อพระมหาเจดีย์ให้สูงขึ้นเป็น 92 ศอก กว้างยาวขึ้น 52 ศอก เป็นรูปร่างที่เห็นเป็นอยู่ในปัจจุบัน ฐานขององค์พระบรมธาตุมีสัตถบัญชร (ระเบียงหอก ซึ่งเป็นรั้วเหล็กและทองเหลือง) 2 ชั้นล้อมรอบ นอกจากนี้ยังมีสำเภาทองประดิษฐานอยู่ประจำรั้วชั้นนอกทั้งทิศเหนือและทิศใต้ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 22:03:14

ความคิดเห็นที่ 56 และมีซุ้มกุมภัณฑ์และฉัตรประจำทั้งสี่มุม จากมุมซ้ายหน้ามองเห็นวิหารพระทันใจด้านหลังเจดีย์พระบรมธาตุฯ -วิหารพระทันใจ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกขององค์พระธาตุหริภุญชัย ภายในประดิษฐานพระทันใจ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปยืนซึ่งถือว่าเป็น พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถบันดาลให้ผู้ที่กราบไหว้สมหวังได้ดังใจ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 22:03:40

ความคิดเห็นที่ 57 ไปด้วยค่ะ เอากี้นั่งตักหนูก็ได้ จากคุณ : Schnuggy ชนุ๊กกี้ เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 22:03:54

ความคิดเห็นที่ 58 หอคอยประจำทิศทั้งสี่ บรรจุพระพุทธรูปนั่งทุกหอ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 22:04:09

ความคิดเห็นที่ 59 Schnuggy ชนุ๊กกี้...ฮิ ฮิ กี้ชอบกินขาหมูฮะ ................................................................................................. โคมประทีปสำหรับจุดธูปสักการะพระบรมธาตุฯ และจุดเทียนเพื่อบูชาเทียน ซึ่งเป็นเทียนสองเล่มหุ้มด้วยกระดาษ เขียนชื่อและวันเดือนปีเกิดของผู้ที่ต้องการสะเดาะเคราะห์ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 22:05:14

ความคิดเห็นที่ 60 เจดีย์พระบรมธาตุหริภุญชัย มองเผินๆมีลักษณะคล้ายกับ เจดีย์พระธาตุดอยสุเทพที่จังหวัดเชียงใหม่ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 22:05:54

ความคิดเห็นที่ 61 ซ้ายมือของเจดีย์พระบรมธาตุหริภุญชัยคือวิหารพระพุทธ -วิหารพระพุทธ ตั้งอยู่ทางทิศใต้ขององค์พระธาตุหริภุญชัย ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปประทับนั่งปางมารวิชัยขนาดใหญ่ ลงรักปิดทองเรียกว่า"พระพุทธ" จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 22:06:21

ความคิดเห็นที่ 62 ขวามือของเจดีย์พระบรมธาตุหริภุญชัยคือวิหารพระละโว้ -วิหารพระละโว้ ตั้งอยู่ทางทิศเหนือขององค์พระธาตุหริภุญชัย ตัววิหารสร้างใหม่ ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปยืนขนาดใหญ่ เรียกว่าพระละโว้ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 22:06:47

ความคิดเห็นที่ 63 -หอระฆัง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือขององค์พระธาตุหริภุญชัย เป็นหอสำหรับแขวนระฆังและกังสดาลขนาดใหญ่ สร้างขึ้นโดย พระครูพิทักษ์เจติยานุกิจ (ครูบาคำฟู) เมื่อ พ.ศ. 2481 ด้านบนแขวนระฆังขนาดใหญ่ ซึ่งหล่อขึ้นในสมัยเจ้าหลวงดาราดิเรกรัตนไพโรจน์ เจ้าผู้ครองนครลำพูน องค์ที่ 7 และชั้นล่างห้อยกังสดาลขนาดใหญ่ ซึ่งหล่อขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2403 ฝีมือครูบาสูงเม่นโดยกัญจนมหาเถระ เจ้าอาวาสวัดป่าเมืองแพร่ และเจ้าหลวงเมืองเชียงใหม่ เป็นศรัทธาสร้างหล่อกังสดาลนี้ ในวัดพระสิงห์เมืองเชียงใหม่เพื่อไว้เป็นเครื่องบูชาพระธาตุหริภุญชัย ที่มา : วิกิ และ http://www2.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9470000079627 จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 22:07:13

ความคิดเห็นที่ 64 มัวแต่ถ่ายรูปเพลิน แฟนและป้าจอยเองกับคุณเอเดินไปอยู่ที่กาดขัวมุงแล้ว จึงข้ามถนนประตูท่าสิงห์ไปที่กาดขัวมุง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 22:07:43

ความคิดเห็นที่ 65 กาดขัวมุงเป็นตลาดขายสินค้าที่ระลึก ที่สร้างมุงหลังคาอยู่บนสะพายยาวประมาณ 50 เมตรข้ามแม่น้ำกวง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 22:08:11

ความคิดเห็นที่ 66 สินค้าที่ขายมีทั้งของทานเล่นพื้นเมือง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 22:08:35

ความคิดเห็นที่ 67 เสื้อผ้าและสินค้าหัตถกรรม จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 22:08:59

ความคิดเห็นที่ 68 เดินมาจนสุดสะพานออกจากกาดขัวมุง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 22:09:22

ความคิดเห็นที่ 69 ครั้งแรกว่านึกว่าไม่มีอะไรน่าสนใจให้เดินชมต่อ แต่เหลือบไปเห็นป้ายและแผนที่บอกสถานที่ท่องเที่ยวอีกสองแห่ง สอบถามคนแถวนั้นได้ความว่าเดินไม่ไกล จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 22:09:54

ความคิดเห็นที่ 70 เดินตรงไปประมาณ 50 เมตร ทางซ้ายมือเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นลำไย จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 22:10:15

ความคิดเห็นที่ 71 ขวามือติดกับสี่แยก เป็นซุ้มน้ำดื่มที่เป็นวัฒนธรรมทางด้านน้ำใจของคนเหนือ ที่มีอยู่หน้าบ้านให้คนเดินทางได้ดื่มดับกระหาย แต่ซุ้มนี้น้ำแห้งเหือดและไม่มีกระบวยตักน้ำวางอยู่ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 22:10:41

ความคิดเห็นที่ 72 หัวมุมซ้ายมือของสี่แยก คือที่ตั้งของวัดต้นแก้วและพิพิธภัณฑ์วัดต้นแก้ว จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 22:11:17

ความคิดเห็นที่ 73 ตามไปเที่ยวเชียงใหม่ด้วยคนคร้าบ จากคุณ : 311025 เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 22:11:50

ความคิดเห็นที่ 74 มีสาวๆตัวดำออกมาถามหาลัคกี้ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 22:11:53

ความคิดเห็นที่ 75 311025 ...จับหางกี้ตามมาฮะ ......................................................................................................... วัดต้นแก้ว สันนิษฐานว่าย้ายมาจากวัดดอนแก้ว ซึ่งสร้างเมื่อ พ.ศ.1825 เป็นวัดที่สร้างในสมัยพระนางเจ้าจามเทวี ปฐมกษัตริย์แห่งนครลำพูน เริ่มสร้างเมืองลำพูน เหตุที่ย้ายมาเนื่องจากวัดดอนแก้วเป็นวัดใหญ่ ที่ขาดการดูแลรักษาจึงผุพังไปตามกาลเวลา จึงได้ย้ายมาสร้างวัดต้นแก้วขึ้นใหม่โดยมีแม่เฟย พร้อมผู้มีศรัทธาช่วยกันก่อสร้างวัด ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อ พ.ศ.1830 จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 22:13:04

ความคิดเห็นที่ 76 หอระฆังทางขวามือของวัดต้นแก้ว จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 22:13:32

ความคิดเห็นที่ 77 ข้างหอระฆังเป็นศูนย์เรียนรู้การทอผ้ายกดอก จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 22:14:07

ความคิดเห็นที่ 78 พิพิธภัณฑ์วัดต้นแก้วแบ่งออกเป็นสามส่วน ส่วนแรกคือกุฏิเจ้าอาวาส ส่วนที่สองอยู่ตรงข้ามหอระฆัง เป็นอาคารไม้จัดสร้างโดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 22:14:33

ความคิดเห็นที่ 79 ชั้นล่างเป็นศูนย์หัตถกรรมผ้าฝ้ายเวียงยอง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 22:14:59

ความคิดเห็นที่ 80 หัตถกรรมผ้าฝ้ายเวียงยอง เป็นศิลปการทอผ้าฝ้าย ที่ถือว่าเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่น ของชาวยองตั้งแต่สมัยโบราณ มีสีสันสวยงามและมีความปรานีตงดงาม ได้รับการคัดสรรให้เป็นสินค้าโอทอประดับห้าดาว ที่สร้างชื่อเสียงให้กับตำบลเวียงยองและจังหวัดลำพูนเป็นอย่างมาก แต่เดิมมักนิยมทำกันในเฉพาะคุ้มเจ้า เพราะเป็นผ้าฝ้ายที่มีเนื้อแวววาว ได้รับการยกย่องว่าเป็นแพรพรรณชั้นสูง ในสมัยโบราณบุคคลที่สวมผ้าฝ้าย ต้องเป็นบุคคลในระดับสูง เช่นเจ้าเมืองหรือเจ้านายชั้นผู้ใหญ่เท่านั้น หลังจากที่มีการสอนการทอผ้าในคุ้มหลวงลำพูน โดยเจ้าหญิงส่วนบุญ ชายาของเจ้าจักรคำขจรศักดิ์ เจ้าหลวงลำพูนและพระธิดา คือเจ้าหญิงลำเจียก การทอผ้าฝ้ายยกดอกจึงได้แพร่หลายออกไปในบริเวณใกล้เคียง คือชุมชนบ้านเวียงยอง เสียดายตอนที่เดินไปถึง แม่อุ้ยเพิ่งลุกจากหูกทอผ้าเพื่อจะไปทานข้าวเที่ยงพอดี จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 22:15:25

ความคิดเห็นที่ 81 เดินขึ้นไปชั้นสอง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 22:15:52

ความคิดเห็นที่ 82 ที่มีการจัดสัดส่วนวัตถุพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจ เช่นห้องแสดงผ้าฝ้ายเวียงยอง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 22:16:31

ความคิดเห็นที่ 83 ฝาผนังของโถงใหญ่จัดแสดงภาพถ่ายนางงาม บุคคลสำคัญ (เจ้าเมือง) และภาพเหตุการณ์ต่างๆในอดีต ส่วนพื้นที่ภายในจัดแสดงวัตถุหลากหลายประเภท ที่ได้มาจากชุมชนท้องถิ่น และจากการซื้อหาของท่านเจ้าอาวาส อาทิ พระพุทธรูปไม้ คัมภีร์ใบลาน หีบธรรม ผ้าทอ เครื่องเขิน เครื่องดนตรีน้ำต้น ที่มา : http://www2.sac.or.th/databases/museumdatabase/detail_museum.php?get_id=35-001 จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 22:16:59

ความคิดเห็นที่ 84 พิพิธภัณฑ์ส่วนที่สาม คือพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านชาวยอง จัดแสดงประวัติศาสตร์ชนชาติยอง ไม่ได้เข้าชมเพราะปิด จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 22:17:27

ความคิดเห็นที่ 85 ทุกคนเดินออกจากวัดไปก่อน จึงไม่ได้เดินไปพิพิธภัณฑ์วัดพระยืน เดินมาจนถึงหน้าร้านก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นลำไย มองดูแล้วน่าจะเป็นร้านอร่อย อยู่ลึกลับแบบนี้ยังมีลูกค้าเต็ม จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 22:17:56

ความคิดเห็นที่ 86 ลองก๋วยเตี๋ยวสักชามคงใช้เวลาไม่ถึงสิบนาที เลือกนั่งที่โต๊ะใต้ต้นไม้หน้าร้านติดกับร้านกาแฟสด จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 22:18:16

ความคิดเห็นที่ 87 ตามอาสามมาเที่ยวต่อค่ะ  ข้าวซอยเนื้อน่าทานสุดๆ จากคุณ : กระทะเหล็ก เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 22:18:34

ความคิดเห็นที่ 88 เป็นไปตามคาดคือเป็นร้านดัง เคยออกรายการทีวีมาแล้วด้วย จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 22:18:46

ความคิดเห็นที่ 89 กระทะเหล็ก ...ชอบน้ำแกงข้าวซอยร้านนี้ครับ ......................................................................... สั่งเส้นหมี่น้ำมา 1 ชาม 30 บาท จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 22:19:45

ความคิดเห็นที่ 90 น้ำเปล่าฟรี จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 22:20:29

ความคิดเห็นที่ 91 เป็นก๋วยเตี๋ยวซี่โครงหมูอ่อนใส่เลือดหมู จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 22:20:56