ความคิดเห็นที่ 1 ผมนึกว่าเค้าหมักกันเป็นเดือนๆซะอีกกว่าจะกินได้ จากคุณ : cura เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 54 11:44:21

ความคิดเห็นที่ 2 ว่าจะทำกินบ้างเหมือนกันค่ะ  ชักกลัวซะแล้วววว......ลองปรับสูตรตัวเองอีกสักครั้ง สองครั้งสิคะ  อย่าลืมจดไว้ด้วยล่ะ  อิอิ ถ้าดีจาได้ขอลอกบ้าง....ง่ายๆแบบนี้เลยจ้า!!! จากคุณ : phanet เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 54 12:46:45

ความคิดเห็นที่ 3 เคยทำแบบให้น้ำปลาแทนเกลือ โดยผสมน้ำปลา+น้ำตาล+พริกเกาหลี+กระเทียมสับ+ต้นหอมหั่นขนาด 2 นิ้ว+ขิงซอยนิดหน่อย แล้วชิมดูก่อน ถ้ารสโอเคแล้วค่อยนำไปคลุกเคล้ากับผักที่สะเด็ดน้ำแล้ว ทิ้งไว้อุณหภูมิข้างนอก รอให้เกิดการเปรี้ยวจากปฏิกริยาของกระเทียม+ต้นหอม+น้ำตาล ก่อน สัก 2-3 ชม ให้ความร้อนจากอุณหภูมิข้างนอกเป็นตัวเร่ง แล้วค่อยใส่ตู้เย็น ถ้าทำเสร็จแล้วรีบใส่ตู้เย็นเลย กิมจิจะไม่เปรี้ยว ตอนนี้เพื่อนเกาหลีหลายคนหันมาใช้น้ำปลาไทยทำแทน เห็นบอกว่าน้ำปลาไทยอาหย่อยกว่าน้ำปรุงรสของแดจังกึม ปล. ถ้าสะเด็ดน้ำเปล่าออกไม่หมด ทำให้กิมจิบูดได้ กิมจิที่ดีต้องเปรี้ยวแบบไม่มีฟอง ถ้ามีฟองแปลว่าบูด อย่ากิน เดี๋ยวขรี้แตกค่ะ จากคุณ : ilovekenchou เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 54 14:30:33

ความคิดเห็นที่ 4 สูตรของผมใช้น้ำปลาครับ เทใส่ถ้วยตวงเอาเลย อ้อ ไม่ใส่แครอทกับไช้เท้าครับ จากคุณ : nickvp เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 54 16:06:39

ความคิดเห็นที่ 5 สูตรกิมจิอร่อยๆ (ได้มาจากซอนแซงนิม ชั้นเรียนภาษาเกาหลี) ทดลองทำไปแล้ว 2 ครั้ง อร่อยค่ะ ไปปรับสูตรเอาเองนะคะ เพราะตอนที่ได้สูตรมา ช่วยกันทำเยอะก็เลยใช้ของเยอะค่ะ พอเอามาทำกินเอง เราก็กะๆ เอา ซื้อผักกาดมา 5 โล หัวไชเท้า 5-6 หัว ประมาณนี้ค่ะ แล้วก็ปรับใช้แต่พริกเกาหลีอย่างเดียว (เพราะไม่ชอบเผ็ดอ่ะค่ะ) ผักกาดเขียว  35 กิโลกรัม หัวไชเท้า ประมาณ 3-5 กิโลกรัม ขิง  1 แง่ง (ใส่นิดหน่อย ใส่มากขม) น้ำปลา น้ำตาลทราย กระเทียม  500 กรัม หอมหัวใหญ่ 2 กิโลกรัม พริกขี้หนูสดเม็ดยาว 1.5 กิโลกรัม พริกชี้ฟ้าแห้ง 1 กิโลกรัม (ใช้พริกปาปริก้าแทนก็ได้ แต่จะไม่เผ็ด) ต้นหอม 1 มัดใหญ่ แป้งข้าวเหนียว เกลือ วิธีทำ 1. ล้างผักกาดให้สะอาด ผ่าครึ่งหัว และหมักด้วยเกลือไว้ ประมาณ 4 ชั่วโมง ให้ผักมันตาย(สลบ)ก่อน 2. ล้างหัวไชเท้า ให้สะอาด ปลอกเปลือกแล้วหั่นซอยเป็นชิ้นเล็กๆ ยาวๆ 3. ล้างต้นหอมให้สะอาด แล้วหั่นเป็นท่อนยาวๆ 4. ปอกกระเทียม, หอมหัวใหญ่และขิง  ล้างให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ  แล้วปั่นให้ละเอียด (เวลาปั่นกระเทียม ให้ใส่น้ำปลาลงไปด้วยพอให้ปั่นได้) 5. ล้างพริกขี้หนูสดให้สะอาด ปั่นให้ละเอียด (ในกรณีใช้พริกปาปริก้าเพิ่มสีแดง)  แต่ถ้าใช้พริกชี้ฟ้า ให้แช่น้ำทิ้งไว้ให้นิ่มก่อน เอาเม็ดพริกข้างในออกให้หมด แล้วนำมาปั่น (พริกชี้ฟ้าจะเผ็ดอยู่บ้าง ให้กะตามความชอบเผ็ดของแต่ละบ้านเอาเอง ส่วนถ้าอยากได้กิมจิที่มีสีแดงสวยสด ให้เพิ่มสีด้วยพริกปาปริก้า หาซื้อได้ตามซุปเปอร์มาร์เก็ต หรือใช้พริกของเกาหลี) 6. เตรียมน้ำในกะทะ เปิดไฟ แล้วใส่แป้งข้าวเหนียวประมาณ 2 ทัพพี จากนั้นกวนแป้งไปเรื่อยๆ จนเป็นแป้งเปียก จากนั้นปิดไฟแล้วเทแป้งทิ้งไว้กาละมังที่จะผสม ซักครู่พอให้แป้งเย็น 7. ใส่น้ำตาลประมาณ 2 ทัพพีลงไปในแป้งเปียก 8. นำกระเทียม, หอมหัวใหญ่, ขิง ที่ปั่นละเอียดแล้วลงไปในแป้งเปียก 9. ใส่พริกที่ปั่นเตรียมเอาไว้ลงไปในแป้งเปียก กะเอาพอประมาณความเผ็ดตามใจชอบ 10. ใส่น้ำปลาประมาณ 1 ลิตรในแป้งเปียก กะเอาพอประมาณความเค็มตามใจชอบ (อย่าลืมว่าในผักกาดเขียวนั้นมีความเค็มของเกลืออยู่ส่วนนึงแล้วด้วย) 11. ปรุงรสแป้งเปียกให้มีรสชาติตามใจชอบของผู้กิน 12. ถ้าผักกาดสลบดีแล้ว ให้ล้างด้วยน้ำสะอาด 2 ครั้ง ครั้งสุดท้ายให้บีบน้ำออกให้แห้ง 13. นำต้นหอมและหัวไชเท้า ลงไปคลุกเคล้ากับน้ำพริกที่เตรียมไว้ 14. นำผักกาดที่ล้างจนสะเด็ดน้ำแล้ว มาคลุกเคล้ากับน้ำพริก โดยทาน้ำพริกลงบนใบผักกาดทีละใบ ให้ทั่ว 15. ชิมรสชาติกิมจิตามใจชอบ 16. เก็บใส่ภาชนะบรรจุปิดฝา  ให้เก็บไว้ในอุณหภูมิห้อง (นอกตู้เย็น) 1 วัน จากนั้นจึงนำเข้าไปเก็บไว้ในตู้เย็นได้ 17. ถ้าชอบเปรี้ยว ให้เก็บไว้ข้างนอกก่อน เมื่อกิมจิมีรสชาติเปรี้ยวตามที่ต้องการ ก็ค่อยเก็บไว้ในตู้เย็น จากคุณ : platoo_cd เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 09:21:53

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณครับทุกๆท่าน โดยเฉพาะข้อแนะของคุณ คห5  จะนำไปปรับปรุงทำเรื่อยๆครับ แต่ข้อเสียของผมคือขี้เกียจชั่ง-ตวง-วัดอ่ะ มันก็เลยออกมามั่วๆแบบนี้ ตอนนี้ก็ทำกินทุกวันอาทิตย์ครับ(กินได้7วันพอดี)..กินกะไข่เจียว/หมูทอด/ข้าวผัด อร่อยครับ  ตอนหลังเอาไปผัดกะหมู3ชั้นก็ไม่เลวครับ แม้แต่ไปกินแจ่วฮ้อน/หมูกะทะนอกบ้านพกเอาไปกินด้วยก็เข้ากันดีครับ  ขอบคุณอีกทีครับ เข้าท่าลงตัวเมื่อไรแล้วจะมาคุยอวดให้อ่านใหม่ครับ จากคุณ : j_adz_z เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 54 10:05:57