ความคิดเห็นที่ 1 วันเสาร์ที่ 15-1-11 ตั้งแต่ไปงานศพและถ่ายรูปงานศพมากว่า 30 ปี นี่เป็นงานศพที่มีการส่งศพเช้าที่สุด คือส่งกันตั้งแต่แปดโมงเช้า จากปกติที่ส่งกันประมาณเที่ยงวัน กำหนดการของการส่งศพงานนี้ คือเริ่มทำพิธีตั้งแต่หกโมงเช้า เรียกรถจากบ้านมาถึงหน้าวัดหกโมงตรง ระหว่างเข้าถนนจักรวรรดิ์ผ่านซอยวานิช 1 สังเกตุเห็นว่า ในสำเพ็งเปิดร้านกันแล้ว มีคนมาซื้อของกันมากมาย ถึงศาลา 2 มีลูกเขยมาถึงงานคนเดียว ช่วงระหว่างเตรียมของไหว้ไม่จำเป็นต้องอยู่ถ่ายภาพ จึงเดินออกหลังวัดจักรวรรดิ์ทางด้านถนนมหาจักรแล้วเลี้ยวซ้าย เพื่อเก็บภาพตลาดเช้าสำเพ็ง ตลาดเช้าสำเพ็งเริ่มตลาดตั้งแต่"เต็งหลั่งโกย"หรือตรอกโรงโคม ซึ่งอยู่ต่อจากซอยอิสรานุภาพ(เยาวราช 11) หรือตลาดเก่าเยาวราช เริ่มลงของจัดร้านกันตั้งแต่หลังเที่ยงคืน และเริ่มขายตั้งแต่ตีสองถึงเจ็ดโมงเช้า จากเดิมที่ช่วงกลางวัน ถนนมหาจักรช่วงหลังวัดจักรวรรดิ์เป็นย่านร้านค้าส่งผ้า แต่พอเปลี่ยนเป็นตลาดเช้า ของที่ขายส่วนใหญ่คือของเล่น จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 23:27:19

ความคิดเห็นที่ 2 กิฟท์ช้อป จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 23:27:53

ความคิดเห็นที่ 3 และตุ๊กตาผ้า จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 23:28:18

ความคิดเห็นที่ 4 เดินมาถึงแยกถนนมหาจักรตัดกับซอยวานิช 1 พระสงฆ์ที่ออกเดินบิณฑบาตรผ่านช่วงนี้ ต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าจะผ่านฝูงชน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงไปได้ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 23:28:48

ความคิดเห็นที่ 5 จากสี่แยกหันมองไปทางขวาที่ไปออกด้านถนนราชวงศ์ คนแน่นเต็มซอย ของที่ขายเป็นสินค้าพวกกิฟท์ช้อปและเครื่องประดับของผู้หญิงเป็นส่วนใหญ่ ร้านที่เดิมขายสินค้าเหล่านี้อยู่แล้วเปิดขายด้วย ส่วนหน้าร้านของร้านขายผ้าที่ยังปิดอยู่ จะมีแผงลอยมาเปิดที่หน้าร้าน เจ้าของร้านที่ปิดไม่ได้ค่าเช่า แต่คงไม่ต้องบอกว่าต้องจ่ายเงินให้ใครบ้าง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 23:29:18

ความคิดเห็นที่ 6 เลี้ยวซ้ายไปทางถนนจักรวรรดิ์ เพื่อเก็บภาพเฉพาะช่วงนี้ เพราะมีหน้าที่ต้องไปทำต่อ เอาไว้กลับมาลุยตลาดเช้าใหม่อีกครั้ง ตั้งแต่ตรอกโรงโคมจนถึงถนนจักรวรรดิ์ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 23:29:51

ความคิดเห็นที่ 7 คนที่มาซื้อสินค้าในตลาดเช้า แน่นอนว่าเกือบทั้งหมดเป็นคนที่มาซื้อไปขายต่อ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 23:30:16

ความคิดเห็นที่ 8 ถึงแม้ว่าจะเป็นตลาดขายส่งกิฟท์ช้อปและเครื่องประดับ แต่คนที่มาซื้อของรวมถึงพ่อค้าแม่ค้าก็ย่อมต้องมีช่วงที่รู้สึกหิวบ้าง จึงมีของกินหลากหลายทั้งจากรถเข็น หรือแม้แต่คนเดินขายขนมปังบางลำพู จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 23:30:47

ความคิดเห็นที่ 9 เดินมาจนใกล้ออกถนนจักรวรรดิ์ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 23:31:22

ความคิดเห็นที่ 10 มองย้อนกลับไปในซอยวานิช 1 แม้ตลาดจะใกล้วาย แต่ก็ยังมีคนซื้อของกันอยู่ ราคาไม่ได้ตรวจสอบว่าถูกกว่าช่วงกลางวันปกติหรือไม่ แต่ที่เป็นนิยมคงเพราะอากาศไม่ร้อนและรถไม่ติด จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 23:32:12

ความคิดเห็นที่ 11 ซ้ายมือปากทางออกถนนจักรวรรดิ์ มีร้านขายปาท่องโก๋ อันเป็นของกินยามเช้าที่ออกขายแต่เช้าเช่นกัน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 23:32:42

ความคิดเห็นที่ 12 ตรอกหัวเม็ดตรงข้ามซอยวานิช 1 ไม่มีกิจกรรมใดๆ แต่ก็ไม่แน่ วันหนึ่งที่ผู้ค้ามีมากขึ้น ก็อาจขยายข้ามถนนจักรวรรดิ์ ไปฝั่งตรอกหัวเม็ดและสะพานหันก็ได้ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 23:33:32

ความคิดเห็นที่ 13 เลี้ยวซ้ายที่ต้นซอยวานิช 1 ไปทางวัดจักรวรรดิ์ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 23:34:28

ความคิดเห็นที่ 14 ไม่ต้องแวะเซเว่นเพื่อซื้อขนมจีบ เพราะมีรถเข็นขายขนมจีบจอดตัดหน้าอยู่แล้ว จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 23:35:13

ความคิดเห็นที่ 15 6.20 น.เลี้ยวซ้ายเข้าวัดจักรวรรดิ์ ซึ่งเป็นทางเดินรถขาออก วัดจักรวรรดิ์เป็นอีกวัดหนึ่งที่มีรายได้จากค่าจอดมาก ทั้งจากคนที่มาเข้าของช่วงกลางวันและกลางคืน ปัจจุบันใช้บัตรสมาร์ทการ์ด โดยรับจากทางเข้าวัดด้านต้นถนนอนุวงศ์ และรูดคิดเงินตอนออกด้านถนนจักรวรรดิ์ เนื่องจากมีรายได้จากค่าจอดรถในส่วนนี้มาก ทางวัดจึงไม่คิดค่าจอดรถสำหรับแขกที่มางานศพ โดยสามารถนำบัตรสมาร์ทการ์ดไปรูดปรับเป็นบัตรจอดฟรีได้ ที่โต๊ะระหว่างศาลา 2 และศาลา 3 จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 23:35:56

ความคิดเห็นที่ 16 6.20 น.ลูกหลานเริ่มมาจัดของไหว้ส่งศพแล้ว จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 23:36:40

ความคิดเห็นที่ 17 เจ้าภาพจัดอาหารเช้าไว้หนึ่งหม้อ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 23:37:31

ความคิดเห็นที่ 18 เป็นข้าวต้มหมูสับ แม้ว่าจะทานขนมปังและกาแฟมาจากบ้านแล้ว แต่ก็ทานเพิ่มอีกสองถ้วย เพราะเช้านี้ต้องใช้แรงมาก จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 23:38:08

ความคิดเห็นที่ 19 6.30 น.ร้านขายกาแฟหน้าศาลา 2 เปิดขายรับลูกค้าที่มาซื้อของตลาดเช้า จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 23:38:38

ความคิดเห็นที่ 20 ที่ศาลา 1 มีการบวชหน้าไฟอุทิศให้อาม่า ถึงแม้ว่าอาม่าศาลา 1 จะเป็นคนจีน มีการทำพิธีกงเต็ก แต่คงสั่งเสียให้เผาแทนการฝัง ซึ่งเริ่มเป็นที่นิยมกันมากขึ้น เพราะไม่ต้องเสียเงินซื้อฮวงซุ้ย และไม่ต้องเสียเวลาไปไหว้เช็งเม้งที่ฮวงซุ้ยทุกปี แต่จัดไหว้รวมญาติที่บ้านลูกชายคนโตแทน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 23:39:34

ความคิดเห็นที่ 21 7.09 น.แวบออกไปหลังวัดจักรวรรดิ์อีกครั้ง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 23:40:37

ความคิดเห็นที่ 22 แต่คราวนี้เลี้ยวขวาไปคุยกับเจ๊เปิ้ล เจ้าของร้านขนมหวานนมโต ซึ่งตั้งเพิงผลิตขนมหวานอยู่ที่ด้านซ้ายของถนนมหาจักร ข้างธนาคารนครหลวงไทย สาขาราชวงศ์ ก่อนถึงถนนอนุวงศ์ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 23:41:30

ความคิดเห็นที่ 23 7.25 น.ของไหว้ส่งศพในส่วนของลูกหลานเตรียมพร้อมแล้ว จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 23:42:18

ความคิดเห็นที่ 24 ลูกชาย หลานชายคนโต สะใภ้และลูกสาวต้องใส่ชุดปอ(麻衣) ในพิธีส่งศพและนำศพไปฝัง เริ่มพิธีไหว้ส่งศพด้วยการจุดเทียนขาว 1 คู่ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 23:42:50

ความคิดเห็นที่ 25 ตามด้วยจับต่อกันเพื่อร่วม"เฮี่ยง"ของไหว้ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 23:43:23

ความคิดเห็นที่ 26 เมื่อครบทุกอย่างแล้ว ก้มกราบแบมือสี่ครั้ง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 23:43:57

ความคิดเห็นที่ 27 จากนั้นแยกนั่งซ้ายขวาหน้าศพ โดยชายอยู่ขวาหญิงอยู่ซ้าย จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 23:44:36

ความคิดเห็นที่ 28 คนจัดพิธีตั้งเก้าอี้ยาว โฆษกในพิธีประกาศเชิญให้ผู้มาร่วมงานมานั่งเพื่อประกอบพิธีไหว้ส่งศพ จำนวนคนนั่งเก้าอี้ยาวต้องเป็นเลขคี่ ถ้าเป็นเลขคู่ จะมีเจ้าหน้าที่ในพิธีประกบมาด้วยเพื่อให้เป็นเลขคี่ จากนั้นเชิญญาติหรือแขกที่อาวุโสสูงสุด ประกอบพิธีไหว้ส่งศพเป็นคนแรก จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 23:45:34

ความคิดเห็นที่ 29 แขกคนแรกไหว้ด้วยธูปเสร็จแล้ว ไหว้ด้วยดอกไม้ น้ำชา ส้มและกระดาษเงินกระดาษทอง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 23:46:18

ความคิดเห็นที่ 30 จากนั้นพนักงานหน้าศพจะถามว่า"เขีย"(ยืน)หรือกุ๋ย(คุกเข่า)เพื่อคำนับศพ พนักงานต้องถามทุกครั้ง เพราะบางคนอายุอาจน้อยกว่าผู้ตาย แต่อาจมีศักดิ์ทางญาติสูงกว่าผู้ตาย คืออาจเป็นลูกคนเล็กจากเมียคนเล็กสุดของอากงของผู้ตาย คนที่มาไหว้ส่งศพก็จะรู้ตัวเอง ถ้าอายุมากกว่าผู้ตายก็จะบอกพนักงานว่ายืน จากนั้นพนักงานหน้าศพส่งธูปให้ไหว้หนึ่งดอก เสร็จแล้วให้คนที่ยืนก้มศรีษะคำนับสามครั้ง(ซำเควี้ยกเกวียง)ตามที่โฆษกในพิธีขาน แต่ถ้าบอกคุกเข่าพิธีกรจะประกาสให้"กุ๋ย" ให้คุกเข่าบนเบาะกลมสีน้ำเงิน เมื่อไหว้ด้วยธูปหนึ่งดอกเสร็จแล้ว พิธีกรในพิธีประกาศคำว่า"เขาซิ่ว"ให้โค้งตัวก้มคำนับโดยวางฝ่ามือสองข้างบนเบาะกลม ตามด้วย"จ่ายเขาซิ่ว"ก้มคำนับครั้งที่สอง และ"ซำเขาซิ่ว"ก้มคำนับครั้งที่สาม จากนั้นลุกขึ้นยืน หลังการยืนคำนับหรือคุกเข่าก้มคำนับ พิธีกรเปล่งเสียง"โหล่ยเซ้ง เฮ่าจื้อเฮ่าก่วงเข้าเสี่ย"เสร็จพิธีลูกหลานก้มศรีษะขอบคุณ ให้ผู้ที่มาเคารพศพก้มศรีษะคำนับตอบลูกหลาน โคยคำนับฝ่ายชายทางขวาก่อน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 23:46:59

ความคิดเห็นที่ 31 เมื่อญาติและแขกคำนับศพกันหมดแล้ว ประกอบพิธีไหว้ส่งศพรวม คำนับเสร็จแล้ว เจ้าภาพแจกผ้าเช็ดมือที่ใส่ห่อลูกอมสองเม็ดและด้ายแดง ปกติแล้วเมื่อไหว้ส่งศพเสร็จ เจ้าภาพจะจัดให้มีของหวานให้แขกทาน แต่งานนี้คนทำพิธีกลับบอกว่าเดี๋ยวนี้ไม่ถือ ไม่ต้องก็ได้ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 23:47:59

ความคิดเห็นที่ 32 ญาติที่จัดของมาไหว้ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นซาละเปาและผลไม้ ลาของไหว้ ตามด้วยการเฮี่ยง"เต้า" ซึ่งทำจากกระดาษเหมือนเบาะนั่งมีพนัก ยกจบมอบให้คนตายแล้วนำไปเผา จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 23:49:25

ความคิดเห็นที่ 33 จากนั้นลูกชายและลูกสะไภ้คนโตเป็นคน"เฮี่ยงเต้า"(ยกจบ) จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 23:51:18

ความคิดเห็นที่ 34 ลูกสาวเฮี่ยงส้มและกระดาษเงินกระดาษทอง ตามด้วย"กุยเซีย"หีบเสื้อผ้า แล้วนำของทั้งหมดไปเผา แก้ไขเมื่อ 01 ก.พ. 54 01:20:54 จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 23:51:53

ความคิดเห็นที่ 35 8.19 น.ถึงเวลาเคลื่อนศพไปฝัง ณ สุสาน ลูกหลานจุดธูปเชิญผู้ตายไปฝังยังสุสาน คนทำพิธีมอบ"ห้าวทึง"(孝橦) หรือไม้ไล่ ซึ่งเป็นไม้ไผ่พันด้านหัวด้วยกระดาษแก้ว ใช้แทนคบเพลิงนำทางให้ผู้ตายไปยังสุสาน กระดาษแก้วใช้สีต่างกัน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 23:52:30

ความคิดเห็นที่ 36 จากนั้นพนมมือ พระสงฆ์สวดโดยมือหนึ่งถือกลุ่ด้ายสายสิญจ์ ที่โยงไปยังโลงศพซึ่งพนักงานยกลงจากแท่นไปขึ้นรถ โดยมีลูกชายคนโตถือกระถางธูปเดินตาม ต่อด้วยหลานชายคนโตถือรูปผู้ตายหันออกจากตัว ระหว่างการเคลื่อนศพขึ้นรถ มีความเชื่อว่าคนที่ไม่ใช่ลูกหลานให้หันหลังให้กับโลง อาจเพื่อป้องกันสิ่งอัปมงคลในช่วงดวงตก(ชง) หรืออาจเป็นการบอกเป็นนัยกับผู้ตายว่า ลาจากกันแต่เพียงแค่นี้ รถขนศพนั่งเฉพาะพวกชุดปอหมั่วอี ภรรยาผู้ตาย และซินแสทำพิธีฝัง รถขนศพเป็นรถปรับอากาศ มีกล่องใส่กระถางธูปต่อท่อระบายควันออกนอกรถ และเปลี่ยนเป็นธูปไร้ควันเพื่อไม่ให้แสบตา ระหว่างรถข้ามสะพาน ซินแสทำหน้าที่หย่อนกระดาษเงินกระดาษทอง เพื่อให้วิญญาณที่เฝ้าสะพานเปิดทางสะดวก พร้อมทั้งบอกคนในรถให้กล่าวคำว่า"ป้า(กง)ก๊วยเกี๊ย"หรือคุณพ่อ(อากง)ข้ามสะพาน ใช้รถทั้งหมดสองคัน อีกคันสำหรับเขยและหลาน แขกที่ไปส่งศพและคนแบกโลง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 23:53:13

ความคิดเห็นที่ 37 9.50 น.ขบวนเคลื่อนมาถึง"ซัวจึง"(สุสาน)แห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรี จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 23:53:57

ความคิดเห็นที่ 38 ยกโลงศพวางบนม้านั่งไม้สองตัวที่เตรียมมา ในศาลาสำหรับทำพิธีเคารพศพแล้ว พักให้ทุกคนดื่มน้ำที่โรงอาหารของสุสานและเข้าห้องน้ำ ระหว่างนั้นลูกชายคนโตนำของไปไหว้เจ้าที่และแปะกงประจำสุสาน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 23:54:47

ความคิดเห็นที่ 39 เสร็จแล้วลูกชายคนโตถือกระถางธูปตามหลังพระ ตามด้วยหลานชายคนโตถือรูปผู้ตาย ตามด้วยสะใภ้ ลูกสาว เขยและหลาน เดินเวียนซ้ายตามพระสามรอบ เหมือนการเวียนรอบเมรุก่อนเผา จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 23:55:32

ความคิดเห็นที่ 40 ต่อด้วยการทำพิธีเคารพศพเป็นครั้งสุดท้าย จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 23:56:18

ความคิดเห็นที่ 41 . แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 54 23:57:38 จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 23:57:12

ความคิดเห็นที่ 42 .. จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 23:58:34

ความคิดเห็นที่ 43 เสร็จแล้วเคลื่อนศพไปฝัง ไม่นำไม้ไล่ที่สมมุติเป็นไฟคบเพลิงนำทางไปด้วย แต่วางไว้ที่ฐานของแท่นบูชา บ้านนี้มีลูกชายคนเดียว ลูกชายบุญธรรมไม่มาร่วมในพิธีฝัง หลานชายคนที่สอง จึงถือตะเกียงที่จุดก่อนเคลื่อนศพไปยังหลุมฝังศพ ตามหลังหลานชายคนโต จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 23:59:13

ความคิดเห็นที่ 44 หลุมศพไม่อยู่ในระยะเดินถึง จึงต้องนั่งรถไปถึงจุดที่ใกล้ที่สุด จอดรถแล้วทุกคนเดินไปทำพิธีที่หลุมฝังศพก่อน ยังไม่นำโลงศพลงจากรถ แต่บางงานก็นำโลงศพไปที่หลุมฝังศพพร้อมกัน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 23:59:47

ความคิดเห็นที่ 45 ถึงหลุมฝังศพเตรียมของไหว้หน้าศพและเจ้าที่ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 00:00:54

ความคิดเห็นที่ 46 เริ่มพิธีฝังศพโดยเริ่มจากการไหว้เจ้าที่ประจำหลุมฝังศพ ซึ่งอยู่ทางด้านขวามือของหลุมฝังศพ ของไหว้ประกอบด้วย ส้ม ฮวกก้วยประทับตราสีแดง และแต่เหลี่ยว(ถั่วตัด งาตัด ข้าวพอง ฟักเชื่อมและถั่วเคลือบ) จุดธูปให้ลูกชายคนโตห้าดอก ที่เหลือพนมมือ ซินแสกล่าวขออนุญาตเจ้าที่นำศพมาฝัง ขอให้ลูกหลานอยู่เย็นเป็นสุข จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 00:02:23

ความคิดเห็นที่ 47 ไหว้เจ้าที่เสร็จแล้ว ลูกหลานคุกเข่าหน้าป้ายหลุมฝังศพ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 00:03:47

ความคิดเห็นที่ 48 พระถือสายสิญจ์เดินนำหน้าพนักงานแบกโลงศพมายังหลุมฝังศพ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 00:04:38

ความคิดเห็นที่ 49 ลูกหลานพนมมือพร้อมธูปหนึ่งดอก จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 00:05:21

ความคิดเห็นที่ 50 พนักงานยกโลงมาถึงหลังหลุมฝังศพ จากนั้นวางโลงศพพักบนม้านั่งไม้สองตัว ใช้ชายผ้าขาวซึ่งมัดโลงศพ คล้องไหล่ช่วยกันยกโลงศพวางบนแผ่นไม้ ซึ่งพาดขวางบนหลุมฝังศพ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 00:06:33

ความคิดเห็นที่ 51 ระหว่างนั้นคนที่เชื่อถือโชคลางจะยืนหันหลังให้หลุมศพ รอจนโลงศพลงหลุมแล้วจึงหันหน้ากลับมา แต่สำหรับคนที่มาทำงาน ไม่จำเป็นต้องยืนหันหลัง แต่เจ้าภาพต้องมีอั่งเปาซองแดงแก้เคล็ดให้หลังเสร็จงาน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 00:07:42

ความคิดเห็นที่ 52 ก่อนยกโลงศพลงหลุม ลูกชายคนโตถวายผ้าไตรบังสกุล จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 00:09:04

ความคิดเห็นที่ 53 ถวายผ้าบังสกุลแล้ว ลูกชายคนโตลงไปนั่งพนมมือหน้าหลุมศพร่วมกับคนอื่น จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 00:09:59

ความคิดเห็นที่ 54 จากนั้นพระสงฆ์สวดบังสกุล จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 00:10:59

ความคิดเห็นที่ 55 เสร็จแล้วพนักงานยกโลงศพลงหลุม คนงานใช้เชือกแดงวัดให้โลงศพตั้งอยู่กึ่งกลางหลุมพอดี โดยวัดเทียบกับรอยบากกลางโลงศพ ซึ่งบากไว้ตั้งแต่ยกโลงศพวางในศาลาทำพิธีเคารพศพของทางสุสาน ถ้ายังไม่ตรงจะใช้แผ่นไม้งัดโลงศพ จนกว่าโลงศพจะตั้งตรงกึ่งกลางของหลุมฝังศพพอดี จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 00:12:46

ความคิดเห็นที่ 56 จากนั้นให้ลูกชายคนโตขึ้นมาดู ในครอบครัวที่มีลูกชายหลายคน ลูกชายทุกคนจะต้องขึ้นมาดู และขยับจนกว่าลูกชายทุกคนจะลงความเห็นว่าตั้งตรงกึ่งกลางแล้ว เพื่อให้ลูกชายทุกคนได้รับผลดีจากการฝังศพเท่ากันทุกคน ไม่มีใครได้เปรียบใคร แม้แต่การซื้อฮวงซุ้ยหลุมฝังศพก็เช่นกัน ทำเลและปีกของฮวงซุ้ย ต้องได้รับการแจกแจง จากซินแสฮวงซุ้ยว่ามีผลต่อลูกชายแต่ละคนอย่างไร เมื่อความเห็นพ้องกันแล้วจึงซื้อที่และสร้างฮวงซุ้ยได้ ส่วนลูกสาวไม่ต้องขึ้นมาดู เพราะถือว่าต้องแต่งออก ต้องไปขึ้นกับฮวงซุ้ยของบ้านสามีแทน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 00:14:20

ความคิดเห็นที่ 57 เมื่อยกโลงศพลงหลุมแล้ว แขกที่มาส่งศพหันหน้ากลับมา คนขายล็อตเตอี่รีบเข้ามาเสนอขายล็อตเตอรี่ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 00:15:08

ความคิดเห็นที่ 58 เมื่อโลงศพอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องในหลุมฝังศพแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการหยิบดินโปรยลงหลุม ในสมัยก่อนมีการโปรยเงินเหรียญลงหลุมเพื่อซื้อที่ให้กับผู้ตาย แต่คงมีการติงว่าไม่เหมาะสม จึงเปลี่ยนเป็นการเผากระดาษเงินกระดาษทองที่หน้าหลุมฝังศพไปให้แทน เอ ? แล้วเงินปากผีล่ะ ? จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 00:15:55

ความคิดเห็นที่ 59 ลูก สะใภ้  เขย หลาน  ทุกคนเดินขึ้นมาหยิบดินโปรยลงหลุม จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 00:16:47

ความคิดเห็นที่ 60 ตามด้วยแขกที่มาส่งศพ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 00:17:23

ความคิดเห็นที่ 61 โปรยดินครบกันหมดแล้ว ลูกหลานเซ่นไหว้หน้าป้ายหลุมศพด้วยน้ำชา จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 00:18:08

ความคิดเห็นที่ 62 ซาแซ ฮวกก้วยสีขาว จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 00:18:59

ความคิดเห็นที่ 63 ผลไม้และกระดาษเงินกระดาษทอง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 00:19:40

ความคิดเห็นที่ 64 จากนั้นยกถาด"เจ๊งจี่"ขึ้นจบร่วมกัน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 00:20:11

ความคิดเห็นที่ 65 "เจ๊งจี้"หรือ"เมล็ดพันธุ์เพื่อการงอกเงย "เจ๊ง"หรือ"เจ่ง"แปลว่าการเพาะปลูกการงอกเงย "จี้"แปลว่าเมล็ด รวมกันเป็นเมล็ดพันธุ์เพื่อความเจริญรุ่งเรืองของลูกหลาน "เจ๊งจี้"ในถาดประกอบด้วยเมล็ดธัญพืช 5 ชนิด ได้แก่ ถั่วแดง ถั่วเขียว ถั่วเหลือง ข้าวเปลือกและงา พร้อมเหรียญเงิน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 00:20:48

ความคิดเห็นที่ 66 จากนั้นซินแสยกถาดเหนือหัวยืนเหนือหลุมฝังศพ พร้อมกล่าวคำมงคล ให้เจ๊งจี่เกิดความอุดมสมบูรณ์ร่ำรวยแก่ลูกหลาน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 00:21:21

ความคิดเห็นที่ 67 เสร็จแล้วหยิบเฉพาะเมล็ดธัญญพืชโปรยกระจายลงในหลุม จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 00:21:50

ความคิดเห็นที่ 68 ต่อด้วยบนป้ายหลุมศพ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 00:22:24

ความคิดเห็นที่ 69 และในกระถางธูป จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 00:24:20

ความคิดเห็นที่ 70 โปรยเสร็จแล้วแบ่งเจ๊งจี้ให้ลูกหลานทุกคน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 00:25:23

ความคิดเห็นที่ 71 เสร็จจากขั้นตอนนี้ พวกชุดปอถอดชุดปอออก ก่อนทำพิธีต่อไป ขอถ่ายรูปหมู่ลูกหลานหน้าหลุมศพอีกครั้ง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 00:26:09

ความคิดเห็นที่ 72 ต่อด้วยพิธีโกยดินลงหลุมศพ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 00:26:51

ความคิดเห็นที่ 73 ขั้นตอนนี้เหลือเพียงลูกชายคนโตและหลานชายคนโต ที่เหลือกลับไปรอที่โรงอาหารของสุสาน เริ่มด้วยการไหว้เจ้าที่ข้างหลุมศพพร้อมเครื่องเซ่นไหว้ คือส้มและแต่เหลี่ยว (ถั่วตัด งาตัด ข้าวพอง ฟักเชื่อมและถั่วเคลือบ) จุดธูปคนละห้าดอก จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 00:27:49

ความคิดเห็นที่ 74 ต่อด้วยการจุดธูปคนละดอกไหว้หน้าป้ายหลุมศพ พร้อมของเซ่นไหว้สามอย่าง แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 54 00:31:28 จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 00:29:10

ความคิดเห็นที่ 75 จากนั้นยกจอบพร้อมกันทั้งสองคนเพื่อขอโกยดินปิดหลุม จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 00:30:14

ความคิดเห็นที่ 76 เดินวนขวาขึ้นหลุมฝังศพ ลูกชายคนโตใช้จอบโกยดินลงหลุมทั้งสี่มุม หลานชายคนโตใช้มือโกยดินใส่ตาม จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 00:33:35

ความคิดเห็นที่ 77 ครบสี่มุมทำอีกรอบ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 00:34:15

ความคิดเห็นที่ 78 จนครบสามรอบ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 00:34:44

ความคิดเห็นที่ 79 ครบสามรอบแล้วเซ่นไหว้หน้าป้ายหลุมศพอีกครั้ง บางบ้านจะให้ลูกหลานทำพิธีกลับมาเยี่ยมหลุมศพด้วย เพื่อให้ปีถัดไปสามารถมาไหว้ที่หลุมฝังศพในวันเช็งเม้งได้ มิเช่นนั้นจะต้องรอจนครบสามปี จึงจะมาไหว้ที่หลุมศพในวันเช็งเม้งได้ เสร็จพิธีแล้วเดินออกจากหลุมฝังศพ ลูกชายคนโตถือกระถางธูปเดินนำหน้า หลายชายคนโตถือรูปอากงเดินตามหลัง แต่คราวนี้ไม่หันหน้ารูปออก ส่วนตะเกียงนั้นเชิญกลับไปก่อนแล้ว จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 00:35:12

ความคิดเห็นที่ 80 ตามธรรมเนียมการไปฝังศพนั้น ถ้าไปฝังบ่ายจะให้ลูกหลานและแขกทานข้าวต้มก่อนไปทำพิธีฝัง แต่งานนี้ดูฤกษ์ฝังระหว่าง 10.00-11.00 น.จึงทานข้าวต้มกันหลังจากฝังศพเสร็จแล้ว จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 00:35:57

ความคิดเห็นที่ 81 กับข้าวง่ายๆสามถึงสี่อย่าง วันนี้มีไช้โป๊วผัดไข่ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 00:36:40

ความคิดเห็นที่ 82 ผัดผักบุ้ง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 00:37:19

ความคิดเห็นที่ 83 และผักกาดดอง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 00:37:56

ความคิดเห็นที่ 84 ดื่มน้ำ RC ที่ไม่เห็นนาน เหนื่อยๆแบบนี้ซ่าสะใจชื่นใจดีแท้ ทานข้าวต้ม เข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตากันเสร็จแล้วเดินทางกลับ คราวนี้นั่งกลับในรถขนศพ เพราะต้องไปถ่ายพีธีเชิญวิญญานผู้ตายกลับบ้านและตั้งรูปที่บ้านเพื่อน ส่วนรถอีกคันไปส่งแขกลงที่วัดจักรวรรดิ์ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 00:38:22

ความคิดเห็นที่ 85 12.38 น.ถึงหัวลำโพง รถติดมากที่ถนนเยาวราช จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 00:43:14

ความคิดเห็นที่ 86 12.59 น.ทำพิธีที่หน้าบ้าน เพื่อให้เจ้าที่เจ้าทาง แม่พระธรณีและดวงวิญญานทั้งหลาย เปิดทางสะดวกให้วิญญานของผู้ตายกลับเข้าบ้านได้ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 00:44:02

ความคิดเห็นที่ 87 เซ่นไหว้ที่หน้าบ้านเสร็จแล้ว เชิญกระถางธูป รูปซึ่งหันหน้าออกและตะเกียงแทนดวงวิญญานผู้ตายเข้าบ้าน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 00:44:56

ความคิดเห็นที่ 88 ยกรูปขึ้นตั้ง(เซ็งกุ๊ย)บนหิ้งที่เตรียมไว้ ขยับให้รูปอยู่กึ่งกลางหิ้ง ทุกครั้งที่ขยับตำแหน่ง ซินแสจะกล่าว"ซี้กู่"หรือคำมงคลสี่ บางบ้านจะไม่ยกรูปขึ้นตั้งบนหิ้งทันที แต่จะวางพิงพนักเก้าอี้หลังโต๊ะไหว้ โดยมีเสื้อผู้ตายคลุมพนักพิง ข้างโต๊ะมีกาละมัง พร้อมแปรงสีฟัน ยาสีฟันและผ้าเช็ดหน้า ซึ่งลูกสะใภ้คนโตจะเป็นคนเปลี่ยนน้ำทุกเช้า ทุกเช้าต้องเตรียมอาหารและข้าวไหว้ ครบ 7 วันต้องไหว้ใหญ่หนึ่งครั้ง(ซุ้ง) ระหว่างที่ไว้ทุกข์ต้องใส่เสื้อขาว ใช้เข็มกลัดติดเศษผ้าปอหรือผ้าดำที่แขนเสื้อ ห้ามไปงานมงคล งานศพหรืองานรื่นเริงทุกชนิด แม้แต่จะไปดูหนังก็ไม่ได้ ไหว้ซุ้งครบ 7 ครั้ง 49 วัน จึงทำพิธียกรูปขึ้นตั้งบนหิ้ง พร้อมทั้งออกทุกข์เปลี่ยนมาใส่เสื้อผ้าสีได้ ในสมัยโบราณคนจีนอาศัยรวมกันอยู่ในบ้านเดียวกัน การรวมพลทำพิธีจึงทำได้ง่าย แต่ยุคสมัยเปลี่ยนไป พี่น้องแยกกันอยู่คนละบ้าน บางคนย้ายไปอยู่ต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ จะให้รวมตัวกันทุกเจ็ดวันเป็นเรื่องลำบาก จึงนิยมทำพิธี"เซ็งกุ๊ย"ยกรูปขึ้นหิ้งทันทีเมื่อกลับจากการฝังศพ สำหรับงานนี้ เนื่องจากไกล้วันตรุษจีน จึงทำพิธีตั้งรูปบนหิ้งเพื่อเพื่อทุกข์ใก่อนตรุษจีน และสามารถตั้งโต๊ะไหว้บรรพบุรุษได้ตามปกติ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 00:45:38

ความคิดเห็นที่ 89 ตั้งเครื่องเซ่นไหว้บนโต๊ะหน้ารูป มีกระดาษเงินกระดาษทอง น้ำ 1 ถ้วย แต่เหลี่ยว ส้มสี่ลูกและอี๊แดง(ใช้สาคูต้มใส่น้ำหวานสีแดง) 1 ถ้วย จุดธูปไหว้คนละดอก พระสงฆ์สวดเจริญพระพุทธมนต์ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 00:46:07

ความคิดเห็นที่ 90 ยกของเซ่นไหว้จบให้ผู้ตาย จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 00:46:42