ความคิดเห็นที่ 1 ใช่ค่ะ เห็นด้วยเลย น่าพาไปบ้านพักคนชราอ่ะ น่าสงสารมาก โหวต จากคุณ : alpado เขียนเมื่อ : 3 ก.พ. 54 18:49:17

ความคิดเห็นที่ 2 โหวตค่ะ จากคุณ : ลงท้ายว่าคิดถึง เขียนเมื่อ : 3 ก.พ. 54 19:15:31

ความคิดเห็นที่ 3 ร่วมโหวต เรียบร้อยแล้วค่ะ จากคุณ : ตัวที่สี่ เขียนเมื่อ : 3 ก.พ. 54 19:47:32

ความคิดเห็นที่ 4 คุณยายคงต้องมีคนดูแลล่ะค่ะ เพราะทั้งสองท่านแก่ชรามากแล้ว คงไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองไปได้ซักเท่าไหร่ แต่ได้ออกข่าวอย่างนี้แล้ว ทางรัฐควรจะมีการจัดการบ้างนะคะ และคงไม่ใช่แค่คุณยายสองท่านนี้ ไม่รู้ว่าจะมีคนชราอีกเยอะแค่ไหน ที่ถูกทอดทิ้งแบบนี้ จากคุณ : memolunla เขียนเมื่อ : 3 ก.พ. 54 19:50:47

ความคิดเห็นที่ 5 ช่วยโหวตครับ จากคุณ : torlufc` เขียนเมื่อ : 3 ก.พ. 54 20:04:10

ความคิดเห็นที่ 6 ข้อความจากน้อง ไผ่ พาทิศ จากเฟสบุ๊คค่ะ Pai Partith Pisitkul,ch.7 โอยเส้า ทางการ เก็บภาษี เราไป เรายอมให้ เอาไปให้ยายเลยอ่ะ 2 นาทีที่แล้ว · ถูกใจ จากคุณ : คลับซ่าส์ เขียนเมื่อ : 3 ก.พ. 54 20:04:42

ความคิดเห็นที่ 7 สงสารคุณยายคะ อายุมากแล้วน่าจะอยู่สบายกว่านี้นะคะ จากคุณ : Snack Box in The Summer เขียนเมื่อ : 3 ก.พ. 54 20:15:56

ความคิดเห็นที่ 8 เพิ่งอ่านเมื่อตอนกลางวันเหมือนกันค่ะ น่าสงสารมาก ขนาดต้องยอมกินแมงสาป คือ ไม่มีจริงๆอ่ะ รัฐ ช่วยอะไรได้บ้างไหม ในฐานะคนไทยที่อยู่บนแผ่นดินไทยค่ะ อ่อ สงสัยต้องให้เฮีย สอ(นายกในนามธรรม) ช่วยซะแล้ว หวังพึ่งนายก(รูปธรรม) คงจะยาก อิอิ จากคุณ : สาวน้อยเหล็กดัดฟัน เขียนเมื่อ : 3 ก.พ. 54 20:17:59

ความคิดเห็นที่ 9 โหวตค่ะ.. จากคุณ : นัตโต้ เขียนเมื่อ : 3 ก.พ. 54 20:40:50

ความคิดเห็นที่ 10 น่าสงสารจังเลยค่ะป้าว่าน แล้วยังไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามาให้ความช่วยเหลือหรือคะ จากคุณ : jena_naam เขียนเมื่อ : 3 ก.พ. 54 21:03:42

ความคิดเห็นที่ 11  ผมอ่านข่าวแบบนี้แล้ว มันเว่อร์เกินเหตุ คนกินแมงสาปได้ยังไง จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 3 ก.พ. 54 21:17:51

ความคิดเห็นที่ 12 โหวต จากคุณ : บราวนี่ชีสเค้กท็อปปิ้งวิคครีม เขียนเมื่อ : 3 ก.พ. 54 22:08:20

ความคิดเห็นที่ 13 ช่วยโหวตครับ จากคุณ : คาสโนว่าฆ่าไม่ตาย เขียนเมื่อ : 3 ก.พ. 54 22:10:20

ความคิดเห็นที่ 14 11 คับ คนไม่มีจะกินหาอะไรกินได้ก็จับเข้าปากให้อิ่มท้องก่อนหล่ะคับ ความจนเป็นสิ่งที่ทุกๆคนไม่อยากจะเจอคับ แต่บางคนไม่สามารถหลีกเลี่ยงมันได้คับ เวลาไม่มีมันไม่มีจริงๆนะคับแค่เศษสตางค์ก็ยังหาไม่ได้เลย จากคุณ : พ่อมดเอ็ก เขียนเมื่อ : 3 ก.พ. 54 22:16:28

ความคิดเห็นที่ 15 (_ _'') โหวตไป จากคุณ : lonea เขียนเมื่อ : 3 ก.พ. 54 22:27:32

ความคิดเห็นที่ 16 สมัยหนูว่านเด็กๆ แม้แต่เศษขนมในถังขยะ เศษผลไม้ เศษทุเรียน ยังเก็บกินกับน้องเลยค่ะ คนไม่มีน่ะ ท้องหิว มันกินได้ทุกอย่างล่ะค่ะ ขอแค่ให้รอดไปวันๆ จากคุณ : คลับซ่าส์ เขียนเมื่อ : 3 ก.พ. 54 22:31:31

ความคิดเห็นที่ 17 ลูกบุญธรรม..ยังหนีไป แล้วทำไมไม่นึกถึงตอนที่คุณยายรับมาเลี้ยงนะ คนเราพอถึงเวลาจริงๆ ก็มองข้ามคนที่คอยอยู่ข้างๆเรามาตลอด ทำอะไรบางครั้งก็เพื่อเอาตัวเองรอด และทิ้งอีกคนไว้ข้างหลัง..ถ้าจะหนีไปหาชีวิตที่ดีกว่า ทำไมไม่พาอีกคนไปด้วย!! อ่านมาหลายข่าว สไตล์ลูกบุญธรรม ลูกแท้ๆก็ยังทิ้งพ่อแม่ได้ลงคอ.. อนิจจา สงสารคุณยาย จากคุณ : แมลงสาบไม่อร่อย เขียนเมื่อ : 3 ก.พ. 54 23:06:25 A:124.120.11.185 X: TicketID:305241

ความคิดเห็นที่ 19 #18 โอกาสของคนไม่เหมือนนิครับ บางคนทำงานแทบตายก็ยังไม่มีเงินเก็บ   ถึงเหตจะเป็นเคยเป็นอย่างไรแต่ผลก็เกิดขึ้นแล้ว ผมรู้แต่ว่าคุณยายสองคนนี้น่าสงสารมาก จากคุณ : NaMusSaTae เขียนเมื่อ : 3 ก.พ. 54 23:45:18

ความคิดเห็นที่ 20 #18 อาจเพราะว่า บ้านที่เค้าอยู่ ไกลจากตัวเมือง การคมนาคม ธุรกิจ สาธารณสุข เข้าไปไม่ถึงมั้งครับ ผมเคยไปวัดป่าแถวนั้น ตัวอำเภออยู่ไกลมากๆ และเป็นจังหวัดติดชายแดน เหมือนเป็นทางตัน ภูมิประเทศเป็นภูเขา ถนนเส้นหลักก็มีเส้นเดียว ขนาดผมนั่งรถจากตัวเมืองกาญจนบุรียังตั้งสองชม.กว่าจะวัดป่า คิดแล้วก็ มันต่างกับใช้ชีวิตในเมืองกรุงมากๆ จากคุณ : LuYingFeng เขียนเมื่อ : 3 ก.พ. 54 23:58:48

ความคิดเห็นที่ 21 คห. 18  ค่ะ.. เป็นไปได้นะค่ะว่า  สมัยคุณยายสาวๆนั่น   พื้นที่ตรงที่อาศัยตรงนี้ก็อาจยังไม่เจริญ  เป็นป่าเป็นเมืองที่อาจจะไม่ได้มีอาชีพอะไรให้ทำมาหากินได้เป็นกอบเป็นกำ  ยิ่งสมัยนั้น..สาวไทยส่วนใหญ่ได้เรียนหนังสือไม่สูงหรือแทบไม่มีโอกาสได้เรียนหนังสือเลย   คุณยายทั้งสองท่านสมัยสาวๆอาจแค่ปลูกผักหญ้าหาอาหารกินไปตามแต่มีกำลังวังชาโดยแทบไม่ได้มีเรื่องเงินทองมาเกี่ยวข้องมากนัก   อย่างมากก็ได้แค่รับจ้างเล็กๆน้อยๆซึ่งละแวกนั้นก็อาจไม่มีงานจ้างอะไรมากมาย   ยิ่งเมื่ออายุเยอะขึ้น  เรี่ยวแรงถดถอยลงไป  อาหารการกินบำรุงบำเรอไม่มี   ความเสื่อมโทรมของร่างกายก็ยิ่งชัดเจนกว่าคนเมืองที่อยู่ในวัยเดียวกัน แม้แต่ในปัจจุบันก็ตามเถอะ   ที่ห่างไกลมากๆก็ยังคงมีบรรยากาศของความยากจนแร่นแค้นอยู่มาก  ถ้าคุณได้ไปสัมผัสด้วยตัวเอง   คุณอาจจะห่อเหี่ยวและหมดหวัง  และอาจเริ่มเข้าใจว่า ทำไมชาวบ้านบางคนถึงยอมให้ผู้นำชุมชนบางคนที่ไม่ดีมากำกับ   ทำไมชาวบ้านยอมขายเสียง  ...  เพราะชาวบ้านลำบากเกินกว่าย้ายถิ่นออกมาจากตรงนั้นได้ก็มีค่ะ  แต่ถ้าชุมชนเข้มแข็งจากพลังชาวบ้านที่ร่วมใจกันก็อีกประเด็น  ซึ่งส่วนใหญ่ก็ต้องได้ผู้นำท้องถิ่นที่มีจิตสำนึกด้วยค่ะ   เมืองไทยในน้ำมีปลา  ในนามีข้าวก็จริง   แต่คนที่เอาเปรียบถือสิทธิ์ครองพื้นที่ส่วนกลางของสังคมโดยใช้ความหัวหมอมีมาแต่ไหนแต่ไร     ส่วนคนจนที่ซื่อและลำบากก็ยังมีอยู่แม้ในทุกวันนี้   เพียงแต่พวกเราไม่ได้เข้าไปเห็น  คนพวกนี้ถูกเอารัดเอาเปรียบจนนาทีสุดท้ายของลมหายใจก็มีความเป็นไปได้สูงค่ะ   .. จากคุณ : greenery เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 54 00:12:44

ความคิดเห็นที่ 22 คห.18 ตอนนี้ควรช่วยกันแก้ปัญหากับปัจจุบัน หรือ อดีต คะ....เฮ้ออ จากคุณ : 234 เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 54 00:13:07 A:111.84.213.72 X: TicketID:288777

ความคิดเห็นที่ 23  ขอโทษนะคะ อยากให้มองที่สาเหตุ อย่ามองแต่ผลลัพธ์อย่างเดียว ถ้าหากรู้ถึงสาเหตุแล้ว จะทำยังไงต่อคะ ในเมื่อเป็นแบบนี้ไปแล้ว จะหาสาเหตุเพื่ออะไรคะ เราไม่เข้าใจ จากคุณ : หน้าแง๊ว~* เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 54 00:13:15

ความคิดเห็นที่ 24 ปัญหาตอนนี้คือ จะทำอย่างไรให้คุณยายทั้งสอง มีสภาพชีวิตที่ดีขึ้น จากคุณ : Bany_jung เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 54 00:13:59

ความคิดเห็นที่ 25 ขอตอบ คห.18 นะคะ คุณคิดว่าในชนบทที่ห่างไกลตัวเมือง มีแต่ป่า เขา แม่น้ำ มันจะทำอะไรได้มากคะ นอกจากทำไร่ ทำงานหนักเหมือนวัวเหมือนควาย ผลผลิตออกมา ปีไหนน้ำท่วม ซวยไป ปีไหนแล้ง บรรลัยเกิด เอาง่ายๆเลยครอบครัวหนูว่านเองก็เป็นเกษตรกรค่ะ ปลูกข้าวโพดเดือนครึ่ง หักค่าปุ๋ย ยา เม็ดพันธุ์ ค่าแรงบางเป็นบางครั้ง หักจิปาถะ เหนื่อยแทบตาย เป็นควายยังสบายกว่า เพราะเหลือกำไรแค่พันกว่าบาท ไม่ต้องสมัยก่อนหรอกค่ะ แม้แต่สมัยนี้เองก็ยังไม่มีชาวบ่านจริงๆรวยซักคน ที่เห็นบ้านหรูหรา รีสอร์ทสวยงามน่ะ นายทุนจากที่อื่นทั้งนั้นค่ะ จากคุณ : คลับซ่าส์ เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 54 00:16:17

ความคิดเห็นที่ 26 #18 ไม่ต้องหาสาเหตุแล้วค่ะคุณ เวลามันเลยมานานแล้ว ช่วยกัน ณ ปัจจุบันดีกว่าค่ะ จากคุณ : เตียจิ๊กนึ่ง เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 54 00:22:23

ความคิดเห็นที่ 27 #18  รู้จักมั๊ย รวยกระจุกจนกระจาย หนะครับ คนจนไม่มีจะกินอายุก็เยอะแก่ตัวเงินสะสมมาสมัยสาวๆเงินก็หมดไป มนุษย์เงินเดือนบางคนยังใช้เงินเดือนชนเดือนเลยครับจะไปอะไรกับยายแก่ๆ 2คน แกกินแมลงสาบกินหนูก็อนาถชีวิตพอแล้วยังจะไปหาเหตุผลอะไรมารองรับความจนของแกอีก จากคุณ : alooohaaa เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 54 00:29:01

ความคิดเห็นที่ 28 OMG  ทานแมลงสาปกับหนูประทังชีวิต เราแค่เห็นแมลงสาปตกในน้ำ เราก็ทิ้งน้ำทั้งแก้วแล้วล้างแก้วหลายๆ รอบแล้ว    หรือถ้าแมลงสาปเดินผ่านจาน,ชามอาหาร  เราก็ทิ้งทั้งจานเลย แล้วล้างจานให้สะอาด แต่คุณนายต้องทานมัน(แมลงสาป)เพื่อให้มีชีวิตรอด  เศร้าจริงๆค่ะ       จากคุณ : เจ๊วรรณา เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 54 00:30:22

ความคิดเห็นที่ 29 คุณยายคะ T_T ปล.เราพูดอะไรไม่ถูกเลย จากคุณ : save money เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 54 00:32:17

ความคิดเห็นที่ 30 คห.18 คะ คิดว่านาทีนี้แล้ว อย่าเสียเวลาไปวิเคราะห์สาเหตุต้นเหตุอะไรเลยค่ะ คุณยายท่านก็แก่มากแล้ว เข้าสู่ช่วงบั้นปลายชีวิตแล้ว  ทางใดที่พอจะช่วยเหลือประคับประคองชีวิตบั้นปลายของท่านไปได้ ก็เมตตาช่วยเหลือท่านดีกว่า   ชีวิตที่ผ่านมาท่านอาจจะเก็บออมไม่เป็น ใช้เงินผิดทาง ฟุ่มเฟือย ถูกโกง  หรืออะไรก็แล้วแต่ (ซึ่งเราก็สุดรู้ และไม่ควรจะด่วนตัดสินไปเอง)  แต่ก็ไม่ใช่เหตุผลที่เราจะปล่อยให้ท่านกินแมลงสาบต่อไปนี่คะ เมตตาธรรมค้ำจุนโลกค่ะ แก้ไขเมื่อ 04 ก.พ. 54 00:34:56 แก้ไขเมื่อ 04 ก.พ. 54 00:34:21 จากคุณ : แป้งทอด เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 54 00:33:37

ความคิดเห็นที่ 31 ขออย่าให้คนที่ช่วยได้คิดแบบ #18 เลย ทำดีไม่ต้องคิดมาก รีบๆช่วยยายแกเถอะ ให้อย่างน้อยแกได้กินข้าวอิ่มบ้างก็ยังดี จากคุณ : MiSs Sandee เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 54 00:40:06

ความคิดเห็นที่ 32 สงสารอ่ะ จะร้องไห้เลย สงสารจัง ทำอะไรได้บ้างคะ อยากรู้จัง พร้อมช่วยเต็มที่ค่ะ จากคุณ : หมูหวานน้ำกะทิ เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 54 00:53:58

ความคิดเห็นที่ 33 เห็นความเห็นคห.18 พูดไม่ถูกเลย...-*- ถ้าจะมาคิดกันในแง่นี้ก็คงไม่ต้องมาช่วยเหลืออะไรคนแก่ตกทุกข์ได้ยากเลยสินะ โอกาสไม่ได้มีกับทุกคน บางคนรวยล้นฟ้า บางคนจนจมดิน บางคนได้งานทำ บางคนหาเท่าไหร่ก็ไม่มีงาน บางคนมองที่เหตุ บางคนมองที่ผล นานาจิตตัง ช่วยเหลือคนแก่2ชีวิต มันคงไม่ต้องไปหาเหตุมองหาอะไรให้มันวุ่นวายหรอกนะ... จากคุณ : ดังฮู เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 54 01:08:51

ความคิดเห็นที่ 34 พูดไม่ออกกับ #18 มือไม่พาย ก็ขอความกรุณาอย่าเอาเท้าราน้ำ ได้มะคับ จากคุณ : InfantryBoy เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 54 03:01:27

ความคิดเห็นที่ 35 เดี๋ยวนี้มีคนแบบ #18 เยอะ คิดว่าตัวเองมีความรู้เยอะ ชอบแสดงความเห็นวิเคราะห์อะไรต่างๆนานาเพื่ออวดภูมิต่อคนอื่น ไม่มีอะไรที่ข้าไม่รู้ จะเป็นเรื่องอะไรก็รู้หมด "แต่ไม่เคยลงมือทำอะไรเลย" สำหรับหนทางช่วยคุณยาย ผมก็หาจากกระทู้ http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A10201770/A10201770.html#10 นั่นแหละครับ ถ้าใครมีอะไรที่ง่ายกว่านี้เช่นเลขบัญชีก็ช่วยเอามาแปะหน่อยนะครับ ผมอยากโอนเงินไปเหมือนกัน ความคิดเห็นที่ 55 [ถูกใจ] [แจ้งลบ] ติดต่อทีมงาน เอามาจาก fb คุณ ศิริรัชฎ์ Khemasiri โพสว่า... - คนในชุมชนที่ดูแลคุณยาย ชื่อคุณสิริชัย สังขจรัส โทร 082-242-4177. ลองสอบถามดูครับ - ทราบมาว่านายอำเภอสั่งดูแลเป็นพิเศษหลังทราบข่าวครับ ที่มา : www.หน้าหนังสือ.com/imobile3gx ความคิดเห็นที่ 66 [ถูกใจ] [แจ้งลบ] ติดต่อทีมงาน ยายบัวเงิน ปัญญา แฃะยายดวงใจ กันทิมา บ้านเลขที่ 7 หมู่ที่ 3 ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี อันนี้น่าจะเป็นที่อยู่คุณยาย อ่ะ เราอ่านมาจากคอมเม้นคนในกระทู้ข่าว จากคุณ : Doctor-K (Devamorana) เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 54 03:04:04

ความคิดเห็นที่ 36 คห.18 เขาพูดแบบคนรุ่นใหม่น่ะซิ...พูดแบบมีหัวไว้ให้ผมงอกอย่างเดียว ใจปิด... คนกรุงเทพทำงานลากเลือดยังไม่ชนเดือนเลย คนต่างจังหวัด...โดยเฉพาะชาวบ้านเนี่ยทำเหมือนวัวเหมือนควายเลย ได้ค่าแรงมาแค่พออยู่รอดก็บุญแล้ว...จะเอาที่ไหนมาเก็บมิทราบ??? พอแก่ตัวก็จะมีโรคภัย...ทำงานไม่ค่อยไหวแล้ว จากคุณ : papagearna เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 54 05:29:44

ความคิดเห็นที่ 37 #18 แสดงว่าไม่เคยจน #18 ต้องลองจนดูบ้างนะคับว่ามันเป็นยังไง ที่นอนอุ่นๆบางทียังไม่มีให้นอนเลยคับ คนตามชนบทของเมืองไทยที่มีชีวิตแบบคุณยาย สองท่านนี้ยังมีอีกมากมายในประเทศที่ทุกคนเรียกว่าเจริญแล้วอย่างประเทศไทยคับ จากคุณ : พ่อมดเอ็ก เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 54 08:23:06

ความคิดเห็นที่ 38 อย่าเสียเวลาไปวิเคราะห์สาเหตุต้นเหตุอะไรเลย ช่วยกันได้ ก็ช่วยกันไปครับ.. คนไทยด้วยกัน... จากคุณ : 500 เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 54 08:27:52 A:208.54.4.50 X: TicketID:281066

ความคิดเห็นที่ 39 คิดเหมือน คห 18 เป็นความคิดที่เห็นแก่ตัว คนเราควรเอื้ออาทรต่อกัน นี่อะไร มองลึกในจิตใจ เหมือนเห็นเงินเป็นพระเจ้า บันดาลสุขได้ทุก(ข์)อย่าง หวงสิ่งที่พึงเกื้อกูลคนอื่นๆ หวงไว้ตายไปเอาไปไม่ได้หรอก แบ่งคนอื่นช่วยใช้ ได้บุญ ได้กุศุลด้วย ตอนนี้คนที่มีจิตเอื้ออาทรกำลังหาทางช่วยเหลือคุณยายกัน ถ้าไม่คิดช่วยก็สงบปากสงบคำ อย่าเผยธาตุแท้เห็นแก้ตัวของตนออกมาให้คนอื่นเห็น แล้วคุณรู้ได้ยังไงว่าเมื่อคุณยายยังสาว หาเงินได้เท่าไหร่ใช้เกลี้ยง หรือคุณคือ ลูกบุญธรรมคนนั้นของยาย??? จากคุณ : ชีวิตสุดยอด เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 54 08:37:37

ความคิดเห็นที่ 40 คห18 พูดมาก็อาจจะมีส่วนจริงนะครับ แต่ตอนนี้ปัญหาตรงนี้มันเกิดแล้ว ใครช่วยอะไรได้ก็ช่วยกัน จากคุณ : LAPD21 เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 54 09:08:36

ความคิดเห็นที่ 41 สงสารคุณยายอ่ะ ชีวิตลำเค็ญขนาดนี้ยังโดนคนบางคนที่ไม่รู้จักเห็นใจคนอื่นกล่าวหาแบบนี้ ทำเวรทำกรรมอะไรมาเนี่ยคะคุณยาย จากคุณ : meh_dg_r เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 54 09:17:05

ความคิดเห็นที่ 42 โอ้วว โลกนี้มันสวยจริงๆ ผมว่าคนมีสิทธิคิดได้สองด้านนะ ในอีกด้านนึงที่เราไม่เห็นด้วยมันก็อาจจะมีส่วนถูกก็ได้ ไม่เห็นจะต้องเอาความคิดตัวเองหรือคนส่วนมากตั้งเป็นหลักว่าคิดแบบนั้นมันถูกหรือผิด คนคิดไปอีกด้านที่เราไม่เห็นด้วย เราต้องเหยียบย่ำซ้ำเติมรุมประนามงั้นรึ มิน่าสังคมมันถึงได้เน่าเฟะเหมือนทุกวันนี้ เพราะต่างคนต่างไม่ฟังเหตุผลของคนอื่น ยึดเอาความคิดของตัวเองถูกต้องฝ่ายเดียว โอ้ววโลกมันสวยจริงๆ จากคุณ : แม่ฮ่องสอนมหานคร เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 54 09:32:05

ความคิดเห็นที่ 43 #18 คนบางคนทำงานตัวเป็นเกลียว เพื่อส่งเงินทุกบาททุกสตางค์ให้ลูกให้หลาน ตัวเองจะมีหรือไม่ค่อยว่าอีกที พอกินไปวันๆพอ แต่วันนึง วันที่ตัวเขาเองหมดเรี่ยวแรงกลับกลายเป็นว่าไม่มีเงินแม้แต่สตางค์เดียว หรือแม้แต่คนที่เขารักสักคนหันกลับมามองเขาเลย คนที่เขาจน เขาจนมากจริงๆนะคะ จะใช้ให้พอแต่ละวันบางทียังยากเลย ยิ่งถ้าบางคนต้องกู้หนี้ยืมสินเพื่อมาเลี้ยงดูครอบครัว วันๆ ไม่ต้องกินกันหล่ะค่ะ จ่ายดอกก็หมดแล้ว ใช่ว่าคุณยายทั้งสองจะเป็นคนที่เคยถูกหวยรางวัลที่ 1 แต่ใช้เงินไม่เป็นจนต้องมาเป็นแบบนี้ซะเมื่อไหร่ ... สงสารแกเถอะค่ะ ยังไงก็คนไทยด้วยกันนะคะ จากคุณ : dorapanda เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 54 09:56:39

ความคิดเห็นที่ 44 ไม่มีใครที่จะทำให้เมืองไทยน่าอยู่..... นอกจากคนไทย....เท่านั้น... อย่ามามัวหาสาเหตุในอดีต.... อย่ามัวมาโตแย้งกันในเรื่องความเห็นของคนๆนึง... สิ่งที่ต้องรีบช่วยกันโดยเร็วที่สุดในตอนนี้... ทำอย่างไรก็ได้ที่จะให้คุณยายทั้งสองมีชีวิตที่ดีขึ้น มีความอบอุ่นและมีความสุขที่แท้จริงในชีวิต... เลิกคิดว่าธุระไม่ใช่ได้แล้วครับ... ต่างประเทศประสบภัยพิบัติ..น้ำใจคนไทยหลั่งไหลไปช่วย.... นี่คนไทยด้วยกัน....ไม่ช่วยสายเลือดไทยก็ไม่รู้จะว่ายังไงละครับ... ไม่พูดมากล่ะ....ผมจะไปหาทางช่วยคุณยายละครับ... สมาชิกท่านใดอยากสร้างกุศลและสร้างความสุขบั้นปลายชีวิตให้คุณยายติดต่อ คุณสิริชัย สังขจรัส โทร 082-242-4177 ซึ่งเป็นผู้ที่อยู่ในชุมชนที่ดูแลคุณยายอยู่ครับ.. แก้ไขเมื่อ 04 ก.พ. 54 17:46:26 จากคุณ : โก๋เอก..บจ.345 เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 54 10:20:00

ความคิดเห็นที่ 45 #42 การเปิดใจกว้างยอมรับความคิดเห็นผู้อื่นกับการ "ไร้มนุษยธรรม" ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน จากคุณ : Doctor-K (Devamorana) เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 54 10:42:56

ความคิดเห็นที่ 46 คห. 18 คุณอย่ามองแบบเอาตนเองเป็นหลักแล้วมองออกไป แบบให้ตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาล โลกไม่ได้หมุนรอบตัวท่านนะครับ ประเทศไทยไม่ใช่ว่าในน้ำีมีปลา ในนามีข้าว คนของเราไม่มีวันยากจนไปเสียทุกคนนะครับ โลกมีหลายด้าน หลายมุมมอง มองให้มันทั่วให้ครบด้วยครับ ถึงสาเหตุมันจะเป็นอย่างที่ท่านว่า แล้วท่านเห็นควรจะให้ทำอย่างไรครับ หางานให้ยายแกทำโดยให้ยายได้ค่าจ้างเท่ากับแรงงานขั้นต่ำอย่างนั้นหรือครับ หรืออย่างไร เมื่อท่านคิดจะเสนอทางเช่นนั้น ท่านก็ควรจะเสนอทางแก้ให้ด้วย ไม่ใช่ว่าจะมาติิอย่างเดียวแล้วก็เปิดก้นหนี เพราะถ้าทำเช่นนั้น ความเห็นของท่านก็ถือว่าไร้ค่า ไม่ได้สร้างสรรค์อะไรใ้ห้สังคม บางทีการสงเคราะห์ผู้ที่อยู่ในบั้นปลายชีวิตแบบนี้ มันก็ไม่ต้องไปคำนึงเหตุ คำนึงผลอย่างที่คนบน ๆ เค้าว่ามานั่นแหละถูกแล้วครับ อีกไม่นานท่านก็จะลาโลกใบนี้ไปแล้ว อย่าไปกะเกณฑ์อะไรกับท่านให้มากนักเลยครับ จากคุณ : Cholesterol Lover เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 54 10:43:24

ความคิดเห็นที่ 47 #42 การเปิดใจกว้างยอมรับความคิดเห็นผู้อื่นกับการ "ไร้มนุษยธรรม" ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน จากคุณ : Doctor-K (Devamorana) เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 54 10:43:54

ความคิดเห็นที่ 48 ที่อ่านมาบ้านหลังเก่าเป็นกระต๊อบ ใกล้พัง ต่อมามีฝรั่งใจดีสร้างให้ใหม่ มีลูกบุญธรรมหนึ่งคน แต่หนีออกจากบ้านไปแล้ว แสดงวคามคิดเห็น : บางคนเจอแมลงสาบในอาหาร ถึงกับอ้วก แต่ยายสองคนนี้ กลับไล่จับมันมากิน ไม่ว่าเมื่อก่อนจะมีหรือไม่มี แต่ตอนนี้คุณยายสองคนนี้ น่าสงสาร มองจากมุมที่เห็น ต่างคนต่างความคิด เพราะสังคมมันเปลี่ยนไปตามกาลเวลา ไม่รู้จะพูดอะไรแหละ จากคุณ : Nachama เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 54 11:03:36

ความคิดเห็นที่ 49 ******   ณ. จุดๆนี้ อยากทราบว่า มีใครบ้านใกล้ๆบ้างคะ อยากรบกวนฝากข้าวสารอาหารแห้งไปให้ หรือจะช่วยเหลืออะไรได้ดี  (ขอคิดก่อนนะคะ ยังคิดไม่ออกว่าจะไปถึงอย่างไร เดี๋ยวมองหาเพื่อนแถวกาญจบุรีก่อน) **********  ใครไม่เห็นด้วย ก็ปล่อยไปเถอะค่ะ ต่างคนต่างมีสิทธิ์คิด ******************โฟกัสว่าจะช่วยยังไงได้บ้างดีกว่า จากคุณ : SweetAme (SweetAme) เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 54 11:24:41

ความคิดเห็นที่ 50 #18 ยืม login มาตอบ (กาแฟขม) ไม่ช่วย ไม่สงสารเขา ไม่มีมนุษยธรรมก็หลบไป ไปอยู่ในที่ๆ ของคุณ อย่าได้ออกมาเผ่นผ่านอีกเลย กอดตรรกะโง่ๆ ของคุณไว้ให้แน่น กินกาแฟขมต่อไป แล้วก็จะไม่มีใครช่วยคุณเอง อ่อ คงมีคนมาช่วย เพราะเห็นเข้ามากดไลค์ข้อความ ฮ่วยยยยยย คนเขามีน้ำจิตน้ำใจ มาตอบขวางซะงั้น เกรียนนนนนนนนนนนนนนน จากคุณ : พูห์ครับ เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 54 11:33:38

ความคิดเห็นที่ 51 จะบ้าตาย อ่่านห้องเฉลิมไทย โมโห คนที่มาบอกโพสต์นอกเรื่อง มาเจอห้องนี้ มาโมโหพวกนักวิเคราะห์กะโหลกกะหลาปัญญาอ่อน นี่อีก ดูตาม้าตาเรือบ้างนะครับเวลาวิเคราะห์เรื่องอะไรเนี่ย บ้าไปแล้ว จากคุณ : TRAF เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 54 12:06:01

ความคิดเห็นที่ 52 รวมส่งจากพันทิปแล้วส่งไปให้คุณ สิริชัย สังขจรัส โทร 082-242-4177 หรือว่าสมาชิกท่านใดอยู่ในพท. จะช่วยประสานงานไหมคะ จะช่วยยังไงบอกมาเลยค่ะ จัดหนัก ส่วนคห.18 กรุณาไปวิเคราะห์ต้นเหตุปลายเหตุที่อื่นเถิดนะคะ ไม่ช่วยอย่าเอาติงราน้ำจริงๆ นั่นแหละ ปล. โอ้วว โลกนี้ไม่สวยหรอกค่ะ ถ้าโลกสวยจริง คงไม่มีคนแบบคุณกับคห.18 แพล่มออกมาในกระทู้นี้หรอก ีนี่แหละ โลกแห่งความจริง มีคนอยากช่วย กับคนประเภท .... (จุด จุด จุด) แก้ไขเมื่อ 04 ก.พ. 54 13:28:53 จากคุณ : อาซิ่ม เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 54 13:23:07

ความคิดเห็นที่ 53 น่าสงสารจริงๆ ครับ ยังไงน่าจะมีเจ้าหน้าที่มาพาไปอยู่บ้านพักคนชรา น่าจะดีกว่า จะได้มีคนดูแล จากคุณ : Lonely Guy เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 54 13:48:39

ความคิดเห็นที่ 54 จริงๆ คุณยายทั้งสองจะเคยทำอะไรไม่ดีมาหรือเปล่า ก็คงไม่มีใครทราบ และคงไม่ใช่เวลามาขุดคุ้ยประวัติ คนกำลังลำบาก พอช่วยได้ ก็ช่วยกันไป อดีตก็คือ อดีต ย้อนกลับไปแก้ไขไม่ได้ แม้ว่าจะเคยทำไม่ดีไป สภาพลำบากที่ผ่านๆ มา ก็คงทำให้คิดอะไรได้หลายอย่าง ตอนนี้ คนที่คิดช่วย คือ คนลำบาก ไม่ใช่คนดี ไม่ใช่หรือคะ จากคุณ : Ms. Kim เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 54 13:51:49

ความคิดเห็นที่ 55 ต้องเข้าใจนะคะ ว่าพื้นฐานของแต่ละคนไม่เท่ากัน บางคนทำแทบตาย ก็แค่มีกินวันนี้พรุ่งนิ้เท่านั้น คงไม่มีเงินเก็บสำหรับอีก 10 ปีข้างหน้าหรอกค่ะ แล้วบางครั้งบางคนที่ไม่มีความรู้โอกาสในสังคมมันน้อยมากค่ะ การจะหาเงิน ให้มีเงินเก็บเพียงพอนั้นยากจริงๆค่ะ รู้สึกอยากช่วยเหลือตั้งแต่อ่านข่าวแล้วค่ะ มีหนทางไหนหรือเปล่าค่ะ จากคุณ : มอคคาโอรีโอ เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 54 14:19:02

ความคิดเห็นที่ 56 เราติดใจเรื่องกินหนูกินแมลงสาบเนี่ยแหล่ะ ข่าวเขียนให้เวอร์เกินจริงรึเปล่า เพราะถ้ากินของแบบนั้นเข้าไปจริงๆ คุณยายไม่ท้องเสียเข้าโรงพยาบาลไปแล้วเหรอนั่น จากคุณ : รักแฟน เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 54 14:20:00

ความคิดเห็นที่ 57 โหวตค่ะ จากคุณ : หมึกหน้ามึน เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 54 15:51:27

ความคิดเห็นที่ 58 เกินบรรยายจริงๆๆ ค่ะ น่าสงสารคุณยายทั้ง 2 มากเลยค่ะ จากคุณ : jA'MaMa' เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 54 17:33:40

ความคิดเห็นที่ 59 ส่งลิงค์นี้ไปให้ช่อง3 ccถึงสรยุทธ เดี๋ยวก็เป็นข่าว พอเป็นข่าวแล้ว รับรองพวกราชการที่เกี่ยวข้อง ที่ไม่มีเรื่องก็ไม่ทำอะไร มันก็จะออกมาเอาหน้าทันทีครับ ผมรับรองเห็นมาเยอะะะะะะะะะะะะะะ แก้ไขเมื่อ 04 ก.พ. 54 19:52:49 จากคุณ : เชฟกะทะเหล็ก เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 54 19:50:08

ความคิดเห็นที่ 60 น้ำใจหลั่งไหล ช่วย 2 คุณยาย จับแมลงสาบ-หนู กินประทังชีพ       น้ำใจหลั่งไหล ช่วย 2 คุณยาย จับแมลงสาบ-หนู กินประทังชีพ เรื่องราวของ 2 หญิงชราที่สุดแสนจะรันทดนี้ ได้รับการเปิดเผยจากนายสิริชัย สังขจรัส ชาวตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ว่า พบหญิงชราสองคนพี่น้อง คือ นางบัวเงิน ปัญญา อายุ 75 ปี และนางดวงใจ กันทิมา อายุ 80 ปี อาศัยอยู่ในกระต๊อบหลังหนึ่งที่สภาพทรุดโทรมมาก ไม่มีเลขที่ ซึ่งอยู่ใกล้กับบ้านของนายสิริชัย โดยทั้งสองพี่น้องมีฐานะยากจนมาก บางวันไม่มีเงินแม้แต่จะซื้ออาหารทาน จึงยอมกินแม้กระทั่งหนู และแมลงสาบที่วิ่งเข้ามาในบ้าน เพื่อประทังความหิวไปวัน ๆ โดยยายบัวเงิน กล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีชายชาวต่างชาติสงสารที่พวกตนยากจน จึงมาสร้างบ้านหลังนี้ให้ ก่อนจะเดินทางกลับประเทศไป ส่วนลูกบุญธรรมที่พวกตนอุปการะไว้ ก็หนีออกจากบ้านไปนานแล้ว และไม่กลับมาอีกเลย เพราะทนอยู่ในสภาพที่ยากลำบากเช่นนี้ไม่ไหว ตนจึงอาศัยอยู่กับพี่สาววัย 80 ปี ในบ้านหลังนี้กันเพียงสองคนมานาน 40-50 ปีแล้ว และต้องคอยดูแลพี่สาวซึ่งเดินไปไหนมาไหนไม่ได้ แม้ว่าตนจะมีสภาพร่างกายไม่ต่างไปจากพี่สาวสักเท่าไหร่ ยายบัวเงิน บอกเล่าชีวิตที่รันทดต่อว่า ด้วยสภาพร่างกายที่ไม่แข็งแรง ไม่ได้ทำงาน ทำให้บางวันพวกตนไม่มีเงินไปซื้อหาอะไรมากิน ก็จำเป็นต้องจับหนู หรือแมลงสาบที่วิ่งผ่านเข้ามาในบ้าน เป็นอาหารประทังชีวิตให้อยู่รอดไปวัน ๆ แต่หากวันใดไม่มีทั้งหนู และแมลงสาบ พวกตนก็จะดื่มน้ำที่เพื่อนบ้านช่วยตักมาให้ กลั้วท้องให้หายหิว ซึ่งหากวันใดน้ำหมด ตนและพี่สาวก็ต้องทนหิว เพราะสุขภาพร่างกายไม่แข็งแรง ไม่สามารถลงไปตักน้ำที่บ่อน้ำหลังบ้านได้ ทำได้แต่เพียงรอให้เพื่อนบ้านตักน้ำมาให้ดื่มเท่านั้น ขณะที่นายแขก เพื่อนบ้านคนหนึ่ง กล่าวว่า คุณยายทั้งสองคนรักกันมาก และคุณยายบัวเงินจะคอยดูแลพี่สาวมาตลอด ซึ่งแม้ว่าทั้งคู่จะยากจน ไม่มีเงินซื้อข้าวกิน ก็ไม่เคยเอ่ยปากขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านเลย แต่เพื่อนบ้านก็มักจะมาช่วยเหลือคุณยายเท่าที่จะช่วยได้ เพราะรู้สึกสงสารคุณยายทั้งสองคนเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ นายสิริชัย ได้กล่าวด้วยว่า คุณยายทั้งสองแม้จะอยู่ในวัยชรา แต่ก็ยังไม่เคยได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเลยแม้แต่ครั้งเดียว จึงขอวิงวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือผู้ใจบุญเข้ามาช่วยเหลือคุณยายทั้งสองด้วย เพราะเพื่อนบ้านบริเวณนั้นก็มีฐานะยากจนไม่ต่างไปจากคุณยายเลย อย่างไรก็ตาม หลังมีการนำเสนอข่าวออกไป ก็มีหน่วยงานต่าง ๆ เร่งเข้าไปให้ความช่วยเหลือคุณยายทั้ง 2 แล้ว ขณะที่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รมว.สาธารณสุข สั่งให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าไปให้ความช่วยเหลือแล้วเช่นกัน   โดย นายจำรัส กังน้อย นายอำเภอสังขละบุรี ได้สั่งการให้ดำเนินการเปิดบัญชีธนาคาร เพื่อมอบให้กับ คุณยายบัวเงิน และคุณยายดวงใจ เนื่องจากมีประชาชนเป็นจำนวนมากที่ทราบข่าวได้โทรศัพท์เข้ามา เพราะต้องการให้ความช่วยเหลือ จนถึงขณะนี้ได้มียอดเงินที่โอนเข้ามาที่บัญชีของคุณยาย บัวเงิน ปัญญา เลขที่บัญชี 679-2195-60-4 บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ธนาคารไทยพานิชย์ สาขาอำเภอสังขละบุรี มากพอสมควร ซึ่งบัญชีธนาคารดังกล่าว ตนได้มอบให้กับ นายทรงบุญ อรุณทอง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 และนายสิริชัย สังขจรัส เพื่อนบ้านของคุณยายเป็นผู้ดูแลบัญชีในการเบิกจ่ายเงินให้กับคุณยายทั้งสอง ต่อมาได้มีการส่งตัวคุณยายทั้งสองไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลสังขละบุรี โดย น.พ.กฎษดา วุทยากร ผอ.โรงพยาบาล เผยว่า จากการตรวจร่างกายของคุณยายทั้งสอง พบว่า คุณยายบัวเงิน วัดความดันได้ 120/70 ถือว่าปกติ ส่วนคุณยายดวงใจ วัดได้ 150/110 ถือว่ามีความดันสูง เจ้าหน้าที่จึงลงความเห็นว่า สมควรให้คุณยายทั้งสองนอนพักอยู่ที่โรงพยาบาลก่อน ซึ่งประชาชนทั่วไปสามารถเดินทางมาเยี่ยมได้ที่ ตึกผู้ป่วยใน ห้อง 1 โรงพยาบาลอำเภอสังขละบุรี ตลอดเวลา ส่วนบ้านของคุณยายขณะนี้ นายอำเภอสังขละบุรี ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่อาสาสมัครและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปช่วยดูแลความสะอาด และต่อเติมบ้านที่ทรุดโทรมให้แข็งแรงมากกว่าที่เป็นอยู่แล้ว คาดว่าอีกคงไม่นานก็คงจะแล้วเสร็จ ส่วนทางด้านการให้ความช่วยเหลือด้านสวัสดิการต่าง ๆ เช่น เบี้ยยังชีพคนชรา ก็ได้สั่งให้หน่วยงานเร่งตรวจสอบอย่างเร่งด่วนแล้ว สำหรับผู้ที่ประสงค์จะช่วยเหลือคุณยายทั้งสอง สามารถบริจาคเงินช่วยเหลือได้ที่ ชื่อบัญชี นางบัวเงิน ปัญญา หมายเลขบัญชี 679-2195-60-4 บัญชีออมทรัพย์ ธนาคารไทยพานิชย์ สาขาสังขละบุรี จ.กาญจนบุรี  หรือติดต่อมายัง นายสิริชัย ที่หมายเลขโทรศัพท์ 082-242-4177 ที่มา http://hilight.kapook.com/view/55861 จากคุณ : เจ๊วรรณา เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 54 22:31:56

ความคิดเห็นที่ 61 ดูจากรูป ผอมตัวนิดเดียวเอง ว่าแต่ท่านๆที่เกี่ยวข้องจะให้ความสนใจยายซักกี่เดือนคะ?? ไม่ใช่ว่าหมดกระแสแล้ว ยายก็ต้องจับหนูกินเหมือนเดิม  ถ้าไม่เป็นข่าวจะให้ความสนใจยายอย่มั๊ย กลัวตรงนี้ จากคุณ : คลับซ่าส์ เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 54 22:41:15

ความคิดเห็นที่ 62 ตัวเล็ก ผอมมาก น่าสงสารอะ จากคุณ : -->+:+โชยุ&วาซาบิจัง+:+<-- เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 54 23:16:34

ความคิดเห็นที่ 63 คห.18 ความคิดไม่ได้เจริญตามการศึกษาหรอกนะคะ ถ้าหน้าที่การงานดี มีเงินเก็บเป็นล้าน แต่จิตใจต่ำ แบบนี้อย่าเกิดเป็นคนเลยค่ะ คนเราเลือกเกิดไม่ได้ ประเทศไทยนะคะ ไม่ใช่เยอรมัน ความเหลื่อมล้ำทางสังคม การกระจายรายได้ เคยเรียนมั้ยคะ?? คุณเคยคิดบ้างมั้ยคะ ว่าถ้าวันนึง คุณโดนไล่ออกจากงาน คุณล้มละลาย คุณไม่มีเงิน "คุณจะใช้ชีวิตได้เข้มแข็งอย่างคุณยายมั้ย"?? แต่ฉันรู้อย่างนึงคะ ว่าถ้าวันนึง คุณลำบาก "จะไม่มีใครช่วยเหลือคุณเลย" เวรกรรมมีจริงนะคะ คิดอะไร ได้อย่างงั้น ปล. คุณจะด่าฉันกลับก็ได้นะคะ ข้อหาที่ฉันมีจิตใจเมตตาเพื่อนมนุษย์มากกว่าคุณ จากคุณ : BaiToei LovE Lahm เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 54 00:44:38

ความคิดเห็นที่ 64 รบกวนผู้ที่เกี่ยวข้องมาตอบคำถาม จขกท ที่ #61 ด้วยนะครับ จะช่วยยังไง ช่วยแค่ไหน ช่วยนานเท่าไหร่ ผมจะเข้ามาดูนะ ถ้าคิดจะช่วยคนพวกนี้อ่ะนะ มีทั้งประเทศเลยครับ สกู๊ปชีวิตออกอากาศได้ทุกวัน (ผมไม่แน่ใจเวลาออกอากาศนะ และไม่รู้ว่าเลิกไปหรือยัง) ถ้ามีเป็นข่าวอีกซัก 4-5 ราย พวกคุณคงเบื่อและเลิกสนใจไปเอง ผมเคยดูข่าวคนอ้วน 300 กว่าโลหรือเปล่าจำไม่ได้ ที่เป็นตุ๊ดอ่ะ ได้เป็นคนไข้พิเศษอะไรซักอย่าง ที่รักษาแล้วน้ำหนักเหลือ 80 กว่าโล ประเด็นคือว่า พอนักข่าวไปสัมภาษณ์ ถามว่า “คิดว่าจะควบคุมน้ำหนักไม่ให้กลับไปอ้วนอีกได้หรือไม่” เขาตอบว่า “ต้องพยายามไม่ให้กลับไปอ้วนอีก เพราะถ้าหนูกลับไปอ้วนอีก สังคมก็ต้องช่วยเหลือหนูอีกถูกมั้ย” ผมได้ยินแล้วเซ็งเลย คิดกันได้แค่นี้เหรอ คิดว่าสังคมมีหน้าที่ต้องช่วยเหลือซะงั้น เรื่องเบี้ยคนชราที่ตกสำรวจ ก็เป็นเรื่องของรัฐบาลที่ต้องแก้ไขกันไป ลองดูตัวอย่างคนแก่รุ่นราวคราวเดียวกัน อายุ 83 ปี (แก่กว่าด้วยซ้ำ) คนแวดล้อมอาจดีกว่านิดนึง เพราะลูกหลานยังไม่ทิ้ง แต่แกก็ไม่รับความช่วยเหลือ ขึ้นกับพื้นฐานจิตใจมากกว่า ว่าอยู่ไปเพื่ออะไร สู้ชีวิตแค่ไหน อยู่แบบไม่มีเงินก็อยู่ได้ถ้าใจสู้ http://www.tairomdham.net/index.php?topic=3946.0 จากคุณ : ยืม login แฟนมาตอบ (กาแฟขม) เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 54 00:44:57

ความคิดเห็นที่ 65 ^ ^ ^ ยัง ยังไม่เลิก พยายามจะมาแสดงความรู้จับแพะชนแกะเพื่อแถต่อไปอีก ทำไมถึงมีจิตใจต่ำช้าขนาดนี้ ชีวิตไม่เคยได้รับความกรุณาจากใครหรือยังไง จากคุณ : Doctor-K (Devamorana) เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 54 01:59:44

ความคิดเห็นที่ 66 ^ ^ พึ่งมาอะ ข้างบนเค้าไปพูดอะไรไม่ดีไว้หรือ สงสารคุณยาย   ส่วนตัวเห็นว่าอยากให้ไปอยู่บ้านพักคนชรามากกว่า จะได้มีคนดูแล  ส่วนเรื่องเงินบริจาค เรากลัวจะมีคนฉวยโอกาส จากคุณ : หมู1 เรียก หมู2 เปลี่ยน เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 54 05:14:00

ความคิดเห็นที่ 67 ตอนแรกงงๆปนไม่อยากจะเชื่อ เพราะคิดว่าเมืองไทยอุดมสมบูรณ์ ผักบุ้งตำลึงดอกโสนข้างทางเยอะแยะ เก็บทำมากับข้าวได้สบายๆ พออ่านถึงตรงที่ว่าแค่บ่อน้ำหลังบ้านยังไม่มีแรงไปตักแล้วก็เข้าใจเลยค่ะ จากคุณ : เร่ร่อน เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 54 06:08:22

ความคิดเห็นที่ 68 ผมไม่อยากให้ส่งเงินให้ยายอ่ะ พูดตรงๆเลย แบบไม่กลัวโดนไหลตามน้ำมาด่า เพราะคุณส่งให้กัน คิดว่ายอดเงินจะได้เท่าไหร่? 1 แสน? 1 ล้าน? 10 ล้าน? ผมว่าอย่างดีก็น่าจะช้อยที่ 2 เงิน 1 ล้านน่ะ ผมใช้ปีเดียวอ่ะ เงินเท่านี้ แล้วคุณยายใช้ได้เท่าไหร่ครับ? อย่างดีที่สุดประหยัดมากก็ใช้ ไป 10 ปี แต่ที่น่าจะเป็นคือโดนญาติรุมตอมเอาไปกิน เผลอๆ หมดเร็วกว่าผมอีก เบี้ยยังชีพคนชราเนี่ยที่เพิ่งมาแอคทิฟกันตอนเป็นข่าว พูดตรงๆค่าอาหารหมายังแพงกว่าเลย ส่งแกไปให้องค์กรที่เกี่ยวข้องดูแลเถอะครับ เคสแบบนี้มีเป็นหมื่นเป็นแสน เพราะคนจนคือคนส่วนใหญ่ ผมถามคุณว่า คุณจะทำงานเลี้ยงคนพวกนี้ไหวเหรอ พูดตรงๆ อาทิตย์เดียวคนที่เคยโอนก็ลืมแล้วผมว่านะ เมื่อไหร่ welfare state แบบ universal จะเกิดซักทีนะ มันหน้าที่รัฐบาลแท้ๆ จากคุณ : hexa เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 54 07:35:01 A:223.206.106.229 X: TicketID:256654

ความคิดเห็นที่ 69 คห.64 ค่ะ พี่คนอ้วนที่คุณบอกว่า.... ผมเคยดูข่าวคนอ้วน 300 กว่าโลหรือเปล่าจำไม่ได้ ที่เป็นตุ๊ดอ่ะ ได้เป็นคนไข้พิเศษอะไรซักอย่าง ที่รักษาแล้วน้ำหนักเหลือ 80 กว่าโล ประเด็นคือว่า พอนักข่าวไปสัมภาษณ์ ถามว่า “คิดว่าจะควบคุมน้ำหนักไม่ให้กลับไปอ้วนอีกได้หรือไม่” เขาตอบว่า “ต้องพยายามไม่ให้กลับไปอ้วนอีก เพราะถ้าหนูกลับไปอ้วนอีก สังคมก็ต้องช่วยเหลือหนูอีกถูกมั้ย” ผมได้ยินแล้วเซ็งเลย คิดกันได้แค่นี้เหรอ คิดว่าสังคมมีหน้าที่ต้องช่วยเหลือซะงั้น เราอ่านข่าวค่ะ และเราว่าพี่เค้าไม่ได้ความอย่างนั้น   เค้าไม่อยากให้สังคมมารับภาระที่เค้ามากกว่า จึงพยายามไม่ให้อ้วนอีก เค้าอ้วนจากโรคนะค่ะ..อันนี้น่าเห็นนะคะ เราเข้าใจว่าคนที่เค้าลำบาก คนชรา คนจน ยังมีอีกมากมายและสวัสดิการของบ้านเราก็ยังครอบคลุมดี ซึ่งต้องปรับปรุงและพัฒนาอีกมาก แต่... เราเป็นคนไทยด้วยกัน  อะไรที่สามารถช่วยได้ เกื้อกูลกันได้ก้อทำเถอะค่ะ ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรง..ไม่สำคัญว่าจะช่วยมากน้อย ช่วยกันระยะสั้น ระยะยาว..อย่างน้อยถือว่าทำให้คนที่เค้าขากโอกาส ไม่มีข้าวกิน ไม่มีที่อยู่ ได้อิ่มเต็ม ได้หลับสบาย กันบ้างก้อพอ...   แก้ไขเมื่อ 05 ก.พ. 54 12:49:26 จากคุณ : ((อยากหลับตา)) เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 54 12:48:51

ความคิดเห็นที่ 70 คุณกาแฟขมนี่ ท่าทางจะไม่รู้จักคำว่า เอื้ออาทรต่อเพื่อนมนุษย์นะคะ :) จากคุณ : ปลาทองอหังการลิงบ้าคะนองศึก เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 54 13:32:32

ความคิดเห็นที่ 71 เผื่อไว้เป็นหนึ่งทางเืลือกสำหรับเพื่อนๆที่อยากส่งของไปใหุ้คุณยายนะคะ เมื่อเช้าลองโทรไปที่ไปรษณีย์ อ.สังขละบุรี เจ้าหน้าที่ผู้ชายท่านหนึ่งรับ เเจ้งว่า บ้านของคุณยายทั้งสองอยู่ห่างจากไปรษณีย์ประมาณ 1 กิโลเมตร โดยนโยบายทางไปรษณีย์ไม่ส่งสินค้าที่มีขนาดใหญ่ (ลังขนาด 50 บาท) ต้องมารับเอง เจ้าหน้าที่เเจ้งว่าถ้าใหญ่ขนาดนั้น คุณยายก็คงมารับเองไม่ไหว ถ้าอยากส่งของให้คุณยาย ขอเป็นกล่องขนาดเล็กลงมาจะดีกว่า ไปรษณีย์จะได้ไปส่งให้ถึงที่ ส่วนเรื่องที่อยู่ ขอคำเเนะนำจากไปรษณีย์มาได้แบบนี้คะ จ่าหน้าถึง คุณยายบัวเงิน ปัญญาเเละคุณยายดวงใจ กันทิมา  หมู่ 3 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี 71240  ตามนั้นได้เลยคะ เราลองเช็คที่อยู่ไปรษณีย์สังขละบุรีเเล้ว ปรากฏว่าอยู่ในพื้นที่เดียวกันคะ เมื่อมาถึงที่ไปรษณีย์ เจ้าหน้าที่เค้าจะทราบคะว่าหมายถึงใคร ที่ไหน... ูู^ ^ ^ ขออนุญาตก๊อปข้อความมาลงเลยนะคะ  เเว่บออกมาจากเฉลิมไทย จากคุณ : Etsysara เขียนเมื่อ : 5 ก.พ. 54 15:24:43

ความคิดเห็นที่ 72 สะเทือนใจจังค่ะ... จากคุณ : protagonist เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 54 10:45:37

ความคิดเห็นที่ 73 ความคิดเห็นที่ 11   [ถูกใจ]  [แจ้งลบ]  ติดต่อทีมงาน ผมอ่านข่าวแบบนี้แล้ว มันเว่อร์เกินเหตุ คนกินแมงสาปได้ยังไง จากคุณ : TinyNu [FriendFlock] [Bloggang] เขียนเมื่อ : 3 ก.พ. 54 21:17:51 [แก้ไข] ตอบ ยังมีคนอีกมากมายที่ต้องคุ้ยถังขยะเพื่อหาสิ่งที่สามารถดำรงชีวิตต่อไป ยังมีคนมากมายในสังคมที่ยังต้องการความช่วยเหลืออีกมากครับ ชีวิตนึงถ้าสามารถช่วยเหลือคนอื่นได้โดยที่ตัวเองไม่ลำบากอะไรน่าจะช่วยเขาครับ อย่างน้อยก็เพื่อนร่วมโลก เพื่อนร่วมชาติ แต่การช่วยเหลือนั้นควรทำแบบที่ถูกต้อง อย่างที่ควรจะเป็น สอนให้คนจับปลา ดีกว่าไปจับปลาให้เขากินครับ จากคุณ : ไข่หมูก (giantmodify) เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 54 17:51:30

ความคิดเห็นที่ 74 โหวตค่ะ จากคุณ : mamoii เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 54 20:47:38

ความคิดเห็นที่ 75 อ่านข่าวแล้ว สงสารคุณยายทั้งสองมาก  และยังสงสารตัวเอง ที่ต้อง ได้อ่าน ความคิดของคุณแฟนกาแฟขม  ที่ทำให้รู้ว่า มนุษย์จิตใจต่ำ ไร้มนุษยธรรม  ยังมี ในสังคม มันคือ  ความจริงที่น่าเจ็บปวด เราไม่น่ามาอ่านเจอเล้ยย  เซ็ง  คนแบบนี้ อยากจะฝากอาหารให้คุณยาย  ใครจะไปช่วยคุณยาย หลังไมค์หาเรานะคะ เราคงไม่สะดวกไป แต่อยากฝากอาหารไปอ่ะค่ะ จากคุณ : geeoun_kk เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 54 21:44:38