ความคิดเห็นที่ 1 ไม่รุ้สิ ของเราก็ราคานี้อ่ะ จากคุณ : เจ้าหนูจอมมึน เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 16:45:56

ความคิดเห็นที่ 2 เ่อ่อ ราคาก็หักมุมตาม จากคุณ : Eastern Far away เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 16:49:25

ความคิดเห็นที่ 3 อ่ะนะ   จากคุณ : aneshi เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 17:03:53

ความคิดเห็นที่ 4 อ่ะนะ   จากคุณ : aneshi เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 17:05:14

ความคิดเห็นที่ 5 บ้านอยู่แถวไหนคะ บางทีอาจช่วยได้ ว่าแต่ ทำทานเอง ทำยังไงเหรอคะ จากคุณ : เพราะฟ้าไม่มีหัวใจ เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 17:26:45

ความคิดเห็นที่ 6 เอ่อ...กล้วยหักมุก มันคืออะไรครับ ไม่ได้มุขนะ ไม่รู้จริงๆ ^^a จากคุณ : cura เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 17:30:19

ความคิดเห็นที่ 7 ชื่อกล้วยอีกพันธุ์หนึ่งค่ะ ผลโตๆ หน้าตาคล้ายไปทางกล้วยน้ำว้า มีมานานแล้ว ผู้ใหญ่สมัยก่อนชอบทานค่ะ เกิดมาก็เคยเห็นแต่ว่า กล้วยหักมุกเค้าขายเป็นกล้วยหักมุกปิ้ง ปิ้งพร้อมเปลือกจนดำสนิท ไม่เคยเห็นแบบอื่นเลยค่ะ ทานไม่เป็นเหมือนกัน แต่ชักอยากลองทำดูบ้าง จากคุณ : เพราะฟ้าไม่มีหัวใจ เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 17:37:29

ความคิดเห็นที่ 8 มาตอบให้คะ . .  เพราะที่บ้านมีอาชีพขายกล้วยปิ้ง - กล้วยทับ มา 30 กว่าปี ก่อนเราเกิด คือ ขายตั้งแต่รุ่น ยาย  แม่ และ พี่คนโต คือ รุ่นสุดท้าย ซึ่งก็เลิกขายมาได้ 2 ปี แล้วคะ 1.  กล้วยหักมุก  มีราคาแพงขึ้นมาก เรื่อยๆ  ซื้อมาแล้วต้องใช้แปรงทาสีปัดทำความสะอาด และนำไปบุ่มให้สุกด้วยแก๊สก้อนห่อหนังสือพิมพ์ 3 - 5 วัน ถึงจะนำออกมาขายได้ 2. ต้องใช้ถ่านให้การย่างโดยใช้ไฟอ่อน (เดี๋ยวนี้ถ่ายกระสอบหนึ่งก็เกิน 500 บาทแล้ว ใช้ตั้งแต่กระสอบละ 120 บาท )เป็น เวลาเกือบ 30  นาทีถึงจะสุกไส้ใน  ต้องค่อยกลับพลิกด้านตลอดเวลา ( เมื่อก่อนเคยขาย 5 - 6 ใบ 10 บาท ) 3. ปัจุบัน กล้วยหักมุม ไม่ค่อยมีใครปลูก เพราะปลูกยาก กว่ากล้วยไหน และใช้ระยะเวลานานกว่าจะออกผล  จึงทำให้ผลผลิตมีน้อยลง เพื่อน ทราบกันมั๊ยว่า ต้นกล้วย 1 ต้น ตั้งแต่เริ่มโต จน ออกเคลีอกล้วยใช้ระยะเวลา 1 ปี  ต้นหนึ่งก็ได้แค่เพียง 1 เคลือ เมื่อออกเคลือแล้วต้นกล้วยก็จะตาย แต่กล้วยหักมุกใช้เวลามากกว่า 1 ปี 4 . ส่วนพวกกล้วยปิ้ง ที่บอกว่าอบน้ำผึ้งนะคะ  เขาไม่ได้ใช้น้ำผึ้งมาอกหรอคะ  เพียงแต่มันหวานมากโดยธรรมชาติ เพื่อนๆ ทำเองก็ได้ คือ น้ำกล้วยที่สุกงอมมากเปลือกออกสีดำ แต่ไม่เสียนะคะ มาย่างด้วยไฟอ่อนๆ ประมาณที่เขาใช้ปิ้งไข่นะคะ ค่อยพลิกเป็นระยะๆ น้ำตาลให้ผลกล้วยมันจะไหลออกมา โดยกะความร้อยที่เราย่างมันจะประมาณคล้ายพวก คาราเมล คือ น้ำตาลที่เราทำให้เกือบไหม้นะคะ จากคุณ : ลาบาดอร์ (ลาบาดอร์) เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 17:40:47

ความคิดเห็นที่ 9 ที่บ้านเรามีคนให้มา 1 หวี  เริ่มจะสุกงอม พรุ่งนี้ต้องอบไปแจก คนที่ทำงานแล้วแหละ   เพราะเราชอบกินกล้วยหักมุกอบ/ย่าง/เชื่อม จากคุณ : พิกุลเหล็ก เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 17:41:33

ความคิดเห็นที่ 10 แหม เข้ากระทู้ช้าไปสิบนาที แม่บ้านเพิ่งเอาเข้าไปอบเดี๋ยวนี้เอง ยังไม่สุกเลย ราคา/หวีไม่รู้ ข้างบ้านเอามาจากสวนที่ต่างจังหวัดมาฝาก 1 หวี จากคุณ : การกินเป็นสิ่งจำเป็น เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 17:48:44

ความคิดเห็นที่ 11 หน้าซอย ขาย 3 ลูก 20 บาท ค่ะ เพรชบุรี ซอย 5 จากคุณ : poisonlove เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 18:06:21

ความคิดเห็นที่ 12 แถวเยาวราชใบละ 7 บาท มานานมากแ้ล้วคะ จากคุณ : Tokyo Tower & Forever Love เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 18:15:48

ความคิดเห็นที่ 13 อ่านคห.8 แล้ว ถึงได้ทราบว่าทำไมเดี๋ยวนี้หากินยากจัง เมื่อก่อนชอบกินมากเลยค่ะ แต่เดี๋ยวนี้หาซื้อยากเลยไม่ได้กินนานแล้ว จากคุณ : NaRuMon เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 19:26:31

ความคิดเห็นที่ 14 ถ้าสะดวกก็มาหาซื้อที่ตลาดสะพานขาว-มหานาค ตอนหัวค่ำไปจนถึงดึกๆได้ครับ ราคาตกหวีละ 15-25 บาท ตามสภาพ หรือไม่ก็ที่ตลาดคลองเตยครับ หวีละ 20-30 บาท ครับผม จริงๆ ถ้าเอากล้วยหักมุกมาล้างผิวให้สะอาด แล้วกรีดให้เป็นรอยเสียหน่อย เอาเข้าไมโครเวฟไฟแรงสุดๆซัก 5 นาที ออกมาก็เหมือนกล้วยหักมุกปิ้งเลยครับ จากคุณ : digimontamer เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 21:16:18

ความคิดเห็นที่ 15 ที่ตลาดท่าทรายขาย 3 ใบ 20 บาท แถวชินเขต จากคุณ : Lilac เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 22:22:06

ความคิดเห็นที่ 16 อยากกิน คิดถึงตอยอยู่อนุบาล กินทุกวันเลยอร่อยมากๆ จากคุณ : แมวต่างแดน เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 02:21:30

ความคิดเห็นที่ 17 ชอบกินมากเอามาเชื่อมอร่อย ฉาบก็กินเพลิน แต่เดี๋ยวนี้แม่ค้าปิ้งไม่เป็นสักแต่ว่าให้เปลือกดำ ไส้ไม่ค่อยสุกต้องมาปิ้งต่อที่บ้าน จากคุณ : แพงแค่ไหนก็ซื้อ เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 04:03:32 A:90.224.230.172 X: TicketID:159141

ความคิดเห็นที่ 18 กระทู้นี้อ่านแล้วหิวจัง ของโปรดเราด้วยสิ ขอบคุณคุณ ลาบาดอร์ (ลาบาดอร์) มากกค่ะ ในไม่ช้า กล้วยปิ้งแบบนี้ต้องเป็นของหายากไฮโซได้กินกันเฉพาะร้านอาหารหรูๆแน่ๆเลยอ่ะ เหอเหอ จากคุณ : cashmamamia เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 06:45:43

ความคิดเห็นที่ 19 เชื่อมก็อร่อย ออกเหนียวๆ หนึบๆ แถวหน้าศิริราชและบางลำภูมีขาย แบบปิ้งมีขายข้างที่จอดรถกทม.บางลำภูใบละ 5 บาทเอง จากคุณ : สมะชาย เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 09:03:35 A:192.168.0.224 X:203.154.166.162 TicketID:186344

ความคิดเห็นที่ 20 ชอบ คุณ คห.8 มากเลย ได้ความรู้เพียบ จากคุณ : แล้วเราก็เจอกัน เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 11:18:28

ความคิดเห็นที่ 21 จริงครับ เดี๋ยวนี้กลายเป็น "กล้วยหักมุม"...555 ราคาสูงขึ้นมาก จนคนจนอาจจะซื้อกินไม่ไหวแล้วครับ พี่ๆในสภาฯ เมื่อวานเห็นกล้วยไข่ขายในห้าง หวีละ 45.- บาทครับ!!! เมื่อก่อนยังหวีละ 20.- / 25.- เลย.... เศร้าใจครับ อีกหน่อยคงต้องบอกลูกๆ หลานๆ ว่า กล้วยแพง กินเข้าไปทั้งเปลือกเลยลูก...??? แก้ไขเมื่อ 22 ก.พ. 54 11:31:17 จากคุณ : crossfire เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 11:19:50

ความคิดเห็นที่ 22 ปลูกขายน่าจะดีเนอะ แต่สงสัยพอเป็นคนขายก็กลายเป็นโดนกดราคาอีก จากคุณ : เพราะฟ้าไม่มีหัวใจ เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 13:13:51

ความคิดเห็นที่ 23 แม่ชอบไปซื้อกินที่สำเพ็ง ใบละ 10 บาท บ่นว่าแพง...แต่ก็ซื้อกินทุกทีน่ะ สงสัยจะชอบมาก จากคุณ : aammy26 เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 16:25:04

ความคิดเห็นที่ 24 ขอบคุณ คุณ ลาบาดอร์ (ลาบาดอร์)  มากค่ะ  เข้าใจแล้วค่ะ  มิน่าทำไมถึงแพง  เพราะอย่างนี้นี่เอง เราซื้อแถวท่าดินแดง  ขายอยู่ 4 ใบ 20 และแถวบางปะกอก  ขายอยู่ 3 ใบ 20  และแถวดาวคะนอง  ขายอยู่ 4 ใบ 20  แล้วแต่ขนาดด้วยจ้า ต่อให้ราคาขึ้น  เราก็จะหาซื้อทานต่อไป  แบบว่าชอบมากค่ะ        จากคุณ : aneshi เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 54 17:13:14

ความคิดเห็นที่ 25 เคยเห็นครับ กล้วยหักมุกจะเป็นกล้วยใบขนาดใหญ่กว่ากล้วยน้ำว้า แต่ไม่ยาวเท่ากล้วยหอม เปลือกจะมีรูปร่าง ขึ้นเหลี่ยมๆหน่อย และจะมีขนขาวๆขึ้นรอบกล้วยด้วยครับ เป็นไรๆเล็กๆ มันกล้วยชนิดอื่นทั่วไป โดยส่วนมากนิยมเอามาทำกล้วยปิ้งกัน โดยนำกล้วยหักมุกที่สุขโดยธรรมชาติหรือผ่านการบ่มจนสุก *****วิธีการทำกล้วยหักมุกปิ้ง(เห็นและผ่านมาโดยตรงน่ะครับ  ญาติเคยทำให้กินตอนเด็กๆ) น้ำกล้วยหักมุกที่สุกมาก หรือเกือบงอม มาผ่ากลางครับ ผ่าทั้งเปลือกนะครับ แล้วนำเกลือชนิดเม็ดใหญ่ไม่ละเอียดมาทาที่กล้วยตรงบริเวณที่ผ่า ปิ้งไปปิ้งมา จนสุก แค่นี้เองครับ ก็กินได้ เปลือกดำๆไหม้ๆนิดหน่อย กลิ่นหอมๆโดยเฉพาะตัวของกล้วยหักมุกปิ้ง แค่นี้ก็อร่อยและครับ จากคุณ : หนุ่มผู้ไร้เดียงสา เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 15:26:36