วิเคราะห์สถานการณ์วิกฤต ทัวร์จีน

วิกฤตนี้ โดนวิจารณ์มากที่สุด เลยข้อไล่ไปทีละข้อ

- ถือว่า ทีมงานไม่ทำการบ้านมา เพราะเห็นๆใน profile ชัดเจนเลยว่า ทีม WWW มีหลายคนระบุว่าใช้ภาษาต่างประเทศได้ ทั้ง อังกฤษ ญี่ปุ่น จีน โดยเฉพาะหยีซึ่งพูดภาษาจีนได้ จึงกลายเป็นได้เปรียบเรื่องการสื่อสาร
เรื่องนี้ ผมเข้าใจว่า ทีมงานได้เตรียมตัวช่วยเป็นอีกกลุ่มที่พูดจีนได้ หากมีคนแข่งมาขอความช่วยเหลือก็จะผ่านอุปสรรคสื่อสารได้ อันนี้เป็นเรื่องไหวพริบ การแก้ปัญหา ที่ถูกต้องกับสถานการณ์ ดังนั้น จึงถือว่า ทีมงานประมาทเกินไป ควรนำทัวร์เกาหลี หรือ สเปนมาแทน คงไม่มีใครในทีมพูดสื่อสารได้

- รอบ TLM ทัวร์จีนตั้งใจสื่อสารให้ยาก สั่งชา สั่งอาหารด้วยคำพูด ในขณะที่รอบ WWW ได้หยีมาช่วยสื่อสาร จึงข้ามอุปสรรคนี้ไป ทำให้ WWW ทำงานได้ง่ายกว่า

สองประเด็นแรกนี้ ถือว่า ชนะเพราะมีทักษะทางการสื่อสารเป็นหลัก ไม่ใช่ ไหวพริบ การแก้ปัญหา

- การจับเวลาการจัดโต๊ะ ด้วยความแตกต่างกันของ ช่วงเวลาการเริ่มทำงาน (ปลายกะ คนแข่งเริ่มล้า กับอีกทีมที่เพิงเข้ากะแค่หนึ่งชั่วโมง) จำนวนลูกค้าในร้าน (มากกว่าเห็นๆ แต่ทีมงานไม่เห็น) ความพร้อมของอุปกรณ์ (ทีมแรก ต้องยกโต๊ะจากด้านนอกและทำความสะอาด ทีมต่อมา มันก็ยังวางไว้ที่เดิมให้ใช้ได้ทันที) และการล่วงรู้สถานการณ์มาก่อน ทำให้การรับมือในเรื่องดังกล่าว ไม่ทัดเทียมกันแน่นอน ถือว่าไม่ยุติธรรมต่อคนแข่ง

การแข่งจับเวลา เหมาะสมกับสถานการณ์ปิดที่ตัดปัจจัยกระทบอื่นๆออกไปให้หมด ไม่ใช่มาแอบจับเวลากันเช่นนี้ (เฮ้อ คิดมาได้ไง..)

หัวข้อวิกฤตนี้ คงไม่ซีเรียสมากนัก หากไม่ใช่เป็นตัวคะแนนที่ส่งผลต่างกัน 10 คะแนน ซึ่งเป็นการถ่วงคะแนนไปยังกติกาที่ไม่ชัดเจน และไม่เกี่ยวข้องกับการบริหารโดยตรง คนดูจึงไม่พอใจในเรื่องนี้กันมาก และแม้แต่คนแข่ง ก็งง ไปด้วย เหมือนกับการเอา น้ำจิ้มเครื่องเคียง (gimmick) มาตัดสิน อาหารจานหลัก ที่ควรได้รับความสนใจมากกว่า

ทีมงานควรจะนำความได้เปรียบ-เสียเปรียบที่พบนี้ มาประชุมกัน เพื่อปรับลดคะแนนถ่วงลง เพราะการแก้ปัญหาถูกเปลี่ยนแปลง หรือได้รับผลกระทบไม่คาดคิด การแพ้ชนะตรงนี้ กลายเป็นความโชคดี เข้าทางทีม WWW อย่างคาดไม่ถึง แต่น่าเสียดายที่ทีมงานไม่ทำ และปล่อยเลยตามเลย จนกลายเป็นหัวข้อเจ้าปัญหาไปแล้ว ความน่าเชื่อถือของรายการเลยลดน้อยลงไปมาก

หากให้ผมเพิ่มเติมในประเด็นนี้ ผมยังอยากจะเสริมต่อคุณจ๊ะอ๋อในเรื่องการวิจารณ์ลูกค้าลับหลัง เสียด้วยซ้ำ เพราะบางคนในทีมยังนำเรื่องเหล่านี้มาพูดเล่นกัน ซึ่งในชีวิตจริง เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมอย่างแน่นอน อย่างนี้สิ ถึงเรียกว่า สอบผ่านวิกฤต (ประมาณว่า อยากพูด อยากเม้าท์ แต่ต้องควบคุมตัวเอง เพื่อรักษาภาพพจน์และจรรยาบรรณต่อลูกค้า)

จากคุณ	: เหยี่ยวไฟ2550
เขียนเมื่อ	: 24 ก.พ. 54 11:34:30