รู้อะไรดีๆ ที่อิตาลี ก่อนไปเที่ยว เรื่องอาหารการกิน ตอนที่ 7 VINO ไวน์อิตาลี "ITALIAN WANDER
|
|
คราวนี้่เรามากล่าวถึงเครื่องดื่มที่เป็นที่นิยมที่สุดของชาวอิตาลี และเป็นเครื่องดื่มที่ขาดไม่ได้เลยในวิถีชีวิตของชาวอิตาลี คือ VINO วีโน่ หรือ ไวน์นั่นเอง
ความเดิมต่อจากคราวที่เเล้ว
เครื่องดื่มระหว่างมื้อ อาหารก็เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดค่ะ มักจะเป็นไวน์ ซึ่งประเทศอิตาลี เป็นประเทศที่ผลิตไวน์ได้มากกว่าประเทศอื่นอีกด้วย ซึ่งเราจะมากล่าวคร่าวๆ กันไปก่อนและจะมากล่าวในรายละเอียดอีกครั้งในเรื่องไวน์ ไวน์ เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เกิดจากปฏิกริยาจาการหมักน้ำตาลจากผลองุ่นและออกมาเป็นแอลกอฮอล์ ซี่งได้ค้นหาข้อมูลเรียบเรียงจากอินเตอร์เนต และไปเจอ Mr.rosso ที่เขียนกล่าวเรื่องไวน์อย่างละเอียดมาแบ่งปัน เพราะ อิตาลีเป็นเมืองที่หาดื่มไวน์คุณภาพดีๆ ราคาสบายกระเป๋าสำหรับคนรักไวน์ได้ดี แต่มักไม่ค่อยมีคนเขียนถึงไวน์อิตาลีมากนัก การดื่มไวน์ของที่นี้ถือว่าเป็น ศิลปะอย่างนึงเลยทีเดียว มีทั้งไวน์ก่อนอาหาร และ หลังอาหาร ไวน์ก็จะเป็นทั้งไวน์ แดงและไวน์ ขาว ซึ่งในหน้าร้อนคนมักจะนิยมดื่มไวน์ขาวแช่เย็น หรือ เบียร์ มากกว่าในหน้าหนาวซึ่งจะนิยมดื่มไวน์ แดง นอกจากไม่ต้องแช่เย็นแล้ว เพราะอุณหภูมิในหน้าหนาวก็เย็นพอ สำหรับอุณหภูมิในการดื่มไวน์ นอกจากไวน์แดง และไวน์ขาวแล้ว ก็ยังมีทั้ง ไวน์ ซ่าส์ ที่เรียกว่า spumante สปูมานเต้ หรือ ไวน์ หวานที่มักรับประทานกับขนมหวานนั่นเอง
แต่จะเป็นที่รู้จักกันทั่วไปโดยจะแบ่งออกเป็น 2 ชนิดใหญ่ๆ คือ - ไวน์แดง (vino rosso) วีโน รอซโซ่ เฉพาะไวน์แดงนิยมดื่มโดยไม่ต้องแช่เย็นหรือแช่เย็นก็ได้ และ - ไวน์ขาว (vino bianco) วีโน เบียงโก นิยมดื่มโดยการแช่เย็น และ การผสมระหว่างไวน์แดงและไวน์ขาวเป็นไวน์สีชมพู ซึ่งรสชาดจะอ่อนละมุนกว่า เรียกว่า ไวน์สีชมพู (vino rosato) วีโน โรซาโตะ ส่วนไวน์ที่มีการอัดแก็สลงไปเรียกว่า สปาร์กลิงไวน์(Sparkling wine) สปาร์กลิงไวน์ คือ (vino frizzante) วีโน ฟริซซานเต้ และที่เป็นเหมือนแชมเปญคือ spumante สปูมานเต้ และอีกอันที่เป็นเหมือน สปาร์กลิงไวน์ ที่พิเศษ เรียกว่า lambrusco ลัมบรูซโก ถ้าหมักออกมาไม่ได้เป็นไวน์เขาก็จะหมักส่วนที่โดนอากาศเข้า เป็น น้ำส้มสายชูจากไวน์ แทน โดยบางบ้านที่อิตาลีก็จะทำไวน์ เองที่บ้าน คนอิตาเลี่ยนนิยมทำอาหารเก็บไว้เอง เหมือนคนไทยสมัยก่อนที่มีวิธีการถนอมอาหารเก็บไว้ แต่คนอิตาเลี่ยนปัจจุบันก็ยังคงทำกันอยู่ โดยมากจะเป็นไวน์ และ ซอสมะเขือเทศ หรือแม้กระทั่งน้ำมันมะกอก และ ผลมะกอกดอง เคล็ดในการดื่มไวน์ แกล้มมื้ออาหาร ถ้าเป็นการทานกับชีส ขอแนะนำไวน์แดง เนื้อสัตว์สีแดง ที่ตอนยังไม่ทำสุก จะมีสีแดงๆ มักจะดื่มคู่กับไวน์แดง ส่วนเนื้อสัตว์สีขาว เช่น ปลา อาหารทะเล หรือ แม้กระทั่ง ไก่ หรือ กระต่าย นิยมดื่มไวน์ขาว แต่การดื่มไวน์ไม่ว่าจะเป็นไวน์ขาวหรือไวน์แดง ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน และไวน์หวานมักจะเป็นไวน์ขาวจะดื่มแกล้มกับของหวานหรือชีสก็ได้เช่นกัน ถ้าจะให้แนะนำ ถ้าสั่งเป็นขวดๆ ราคาค่อนข้างสูง ถ้าอยากดื่มให้เต็มที่กับมื้ออาหารให้สังเกตในเมนู ที่บอกปริมาณเป็น ลิตร หรือ ครึ่งลิตร หรือ ให้ถามว่า vino della casa? (วีโน เดลลา คาซา) คือ ไวน์ที่ทำเองที่บ้าน ราคาจะประหยัดกว่า เพราะจะเป็นไวน์ที่ทางร้านทำเอง หรือ ซื้อมาจากที่ร้านที่จำหน่าย เป็นปริมาณมากๆ ที่ ขายไวน์สดๆ ขายเป็นลิตรๆ จากแกลลอนที่บรรจุเป็นถังใหญ่ รสชาดรับรองไม่ต่างจากไวน์ที่เป็นขวดๆ บรรจุเลยที่เดียว ถ้าเห็นร้านแบบนี้สามารถเข้าไปลองชิมไวน์ได้และซื้อเป็นลิตรๆ โดยราคาจะตกอยู่ประมาณลิตรละ 1-2 ยูโร การขายจะบรรจุในขวดพลาสติก จะนำไปเองหรือ ที่ร้านจะมีจำหน่าย หรือ ไม่เสียค่าขวดเพราะบางร้านจะนำขวดน้ำดื่มลิตรบรรจุให้ ไวน์ที่นี้มีหลายชนิดให้เลือกไม่ต่างจาก พาสต้าและชีสเลยที่เดียว การดื่มไวน์ไม่ใช้ดื่มกรึบๆ ให้เมาเหมือนเบียร์ แต่ต้องดื่มแบบมีวิธี เพราะรสชาดของไวน์ ตอนเปิดขวด และทิ้งไว้สักครู่รสชาดจะเปลี่ยนไปอย่างไม่น่าเชื่อ การแบ่งประเภทของไวน์ง่ายๆ ที่นิยม จะได้จำง่ายๆ และหาได้ทั่วไป ที่ราคาไม่แพงลิบลิ่ว คือ ไวน์แดง Vino Rosso (วีโน รอซโซ) ที่หาได้ง่ายและราคาไม่สูงนัก ที่นิยมกันก็จะเป็น Barbera Piemonte จะออกหวานเล็กน้อย มาจากทางเหนือของอิตาลี Chianti (เคียน-ติ) Montepulciano ทัศคานี, Sangiovese, Primitivo ทางตอนใต้ของอิตาลี เมืองปูเรีย, Lambrusco เป็นไวน์แดงรสหวานมีฟอง ไวน์ซ่าส์ Vino frizzante (วีโน ฟริซซานเต้), Nero d avola เมืองซิชิลี, และ Brunello de Montalcino เป็นไวน์ที่มีชื่อเสียง ไวน์ขาว Vino Bianco (วีโน เบียงโก) เช่น Orvieto, Verdicchio, Vernaccia, Greco de tufo, Falanghina และไวน์เรียกน้ำย่อย ที่มีชื่อ Prosecco ที่ดื่มก่อนมื้ออาหาร และที่เป็นเหมือนแชมเปญคือ spumante สปูมานเต้ รวมทั้งจะมีไวน์ขาวที่ออกหวาน ดื่มคู่กับขนมหวาน สมัยก่อนจะมีการหมักไวน์จากน้ำผึ้งซึ่งไม่ค่อยได้ทำในปัจจุบัน และเมื่อมีการทำไวน์หก จะใช้นิ้วจิ้มไวน์ที่หกมาแตะระหว่างซอกคอ เพื่อหมายถึงความโชคดี ก็คงเป็นการตกใจแบบฉันทำไวน์หก แล้วเลยหาเรื่องแก้เก้อแน่ๆ เลยค่ะ
นอกจากใช้ดื่มแล้วก็สามารถใช้มาบำรุงผิวได้เหมือนกัน ในบางแห่งที่เป็น ไร่องุ่นก็นำไวน์มาใช้ในการอาบ หรือ ทำเครื่องสำอางค์บำรุงผิวพรรณ เป็นต้นกำเนิดของ สปา ไวน์ หรือ ไวน์ สปา ที่เรียกว่า vino spa หรือ Spas. Vinotherapieที่เมืองไทยก็มีอยู่ที่ village farm วังน้ำเขียว เห็นไหมค่ะ ไม่ได้มีประโยชน์แค่ดื่มอย่างเดียว สารในองุ่น หรือ สารสกัดจากเมล็ดองุ่น สามารถนำใช้ประโยชน์ได้มากมายทีเดียว หรือแม้แต่กากกาแฟ
VINO วีโน่ หรือ ไวน์ เครื่องดื่มที่เป็นศิลปะ ต่อมาสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับมื้ออาหารของชาวอิตาเลี่ยน คือ การดื่มไวน์ การดื่มไวน์ของที่นี้ถือว่าเป็น ศิลปะอย่างนึงเลยทีเดียว มีทั้งไวน์ก่อนอาหาร และ หลังอาหาร ไวน์ก่อนอาหารนิยมเป็นไวน์ขาวออกซ่าส์เสริฟ์ในขณะที่เย็น ที่จริงแล้วไวน์ถือกำเนิดบนคาบสมุทรอิตาลีก่อนในประเทศฝรั่งเศสด้วยซ้ำไป ประเทศอิตาลีมีปริมาณการผลิตไวน์ออกจำหน่ายเป็นอันดับที่ 2 ของโลก รองจากประเทศฝรั่งเศส ชาวอิตาเลียนมีความใกล้ชิดกับไวน์เหมือนกับที่ชาวเยอรมันมีความผูกพันกับเบียร์ กล่าวกันในวงสนทนาว่าชาวอิตาเลียน 1 ใน 3 คนจะมีความเกี่ยวข้องกับไวน์ การปลูกองุ่นสามารถปลูกได้ทั่วไปแทบทุกพื้นที่ จึงมีผู้ผลิตไวน์มากมายนับร้อยนับพันราย หลายๆพื้นที่จะเป็นเขตควบคุมการผลิตไวน์ที่มีคุณภาพที่เรียกว่า Denominazione di Origine Controllata หรือเขต DOC เช่นเดียวกับที่ฝรั่งเศสมีเขต Appellation dOrigine Controlee [AOC] หรือที่สหรัฐอเมริกามีเขต Approved Viniculture Areas [AVA]
จากคุณ |
:
PinePh
|
เขียนเมื่อ |
:
1 มี.ค. 54 05:08:19
|
|
|
|