ความคิดเห็นที่ 1 ตอนนี้ของขึ้นราคาทุกอย่างเลยค่ะ ยอมรับ เห็นใจคนทำอาหาร ของกินขายนะ แต่ก็ไม่อยากให้ลดคุณภาพ  เรื่องขึ้นราคา อาจจะทำให้คนกินหนีหายไปส่วนนึง  ถ้าเป็นพวกเบเกอรี่ เราแนะนำว่า ให้ทำขนาดเล็กลงค่ะ เคยมีเพื่อนทำขนมส่งตาม รร. และขายในตลาดบางแห่ง ราคาไม่สูง   เค้าใช้วิธี เปลี่ยนพิมพ์ขนมค่ะ แต่ถ้าคิดว่าทำให้ต้นทุนเพิ่มอีกในเรื่องการต้องไปซื้อพิมพ์ใหม่ เราว่า จากเดิมที่เคยเทส่วนผสมลงพิมพ์แค่ไหน ให้ลดลงมาสักหน่อย แล้วอาจจะต้องดูเรื่องเวลาในการอบค่ะ เผื่อขนมจะไหม้ ถ้าเราลดปริมาณและอบนานหรือไฟแรงเท่าเดิม แต่เพื่อนเราจะใช้พิมพ์ใหญ่ ทำให้ขนมดูชิ้นใหญ่ อย่างพวกเค้กต่างๆ เค้าใช้แบบทำให้ดูหน้ากว้าง แต่ขนมจะไม่หนาค่ะ เพื่อนบอกว่าเค้าก็ต้องทำแบบนี้ ไม่งั้นขึ้นราคาก็คนไม่ซื้อ จะให้ลดคุณภาพของ เขาก็บอกว่าเค้าทำไม่ลง เพราะเด็กๆกินกันเยอะ  ไม่อยากใช้ของราคาถูกๆหรือของใกล้หมดอายุมาทำขายเด็กๆ  พวกขนมพวกนี้ ไม่ใช่ของจำเป็น คนจะกินน้อยถ้าของแพง  ช่วงไหน เศรษฐกิจไม่ดี เค้าก็บอกเลยว่าขายยาก ฝีดมาก อาศัยทำแบบนี้ ให้่ขนมดูชิ้นใหญ่   เช่นเค้ก 2 ปอนด์ เค้าจะเทใส่พิมพ์ 3 ปอนด์ อะไรทำนองนั้นน่ะค่ะ เล่าสู่กันฟังจากที่เคยได้เห็นและคุยกับเพื่อนนะคะ   ขอให้กำลังใจค่ะ ทุกคนลำบากหมด เราไปจ่ายกับข้าว ของแพงมาก ไม่เคยเจอของกินแพงเท่านี้มาก่อนเลย แม้แต่มะขามเปียก  ผักคะน้า ผักบุ้งจีน ทำไมมันแพงขนาดนั้น   โอ้.. แต่ก็นะ ทำให้เราต้องใช้สติในการซื้อและกินใช้มากขึ้น ดีไปอีกอย่างค่ะ เตือนตัวเองและสอนลูกหลาน ให้รู้จักคิดก่อนซื้อ และคิดก่อนทิ้ง อย่าท้อแท้นะคะ ทุกคนก็ลำบาก แต่เราต้องผ่านไปได้ค่ะ จากคุณ : ใบยี่หร่า เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 54 06:55:13

ความคิดเห็นที่ 2 ลองแวะไปดูไอเดียที่บล็อกคุณปูเป้นะคะ เคยจำได้ว่าเธอบอกว่าทำขายในราคา 8 บาท และทางร้นที่รับเขาขายในราคา 10 บาทค่ะ มีขนมหลายอย่างที่ทำแล้วได้กำไร http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=poopae99&month=08-2010&date=02&group=9&gblog=2 ถ้ายังไง ลองส่งหลังไมค์ไปคุยกับเธอดูนะคะ ขอให้มีรายได้มากๆจากการทำขนมขายน๊า จากคุณ : ดาวจ๋า (satineesh) เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 54 07:27:27

ความคิดเห็นที่ 3 ไม่มีประสบการณ์โดยตรงนะคะ แต่จากการสังเกตเวลาไปซื้อของมาทำเบเกอรี่ รู้สึกได้อย่างหนึ่งว่า หากคิดจะทำขาย ต้องพยายามซื้อวัตถุดิบทีละมากๆ และซื้อจาก แหล่งที่ขายราคาส่งค่ะ  เช่น ร้านขายอุปกรณ์เบเกอรี่ใหญ่ตามชานเมือง มักจะมีราคา ถูกกว่าในเมือง ยิ่งซื้อวัตถุดิบแบบยกกล่อง ยกถุงใหญ่ พอย้อนกลับมาคิดเป็นต้นทุน ต่อหน่วย เช่น แป้งเค้ก 1 กิโล จะถูกลงมากค่ะ เชื่อว่า คนที่ทำขนมขายจริงๆก็คงจะซื้อแบบนี้ ถึงทำให้ราคาขนมไม่สูงและยังอยู่ได้ ในขณะที่เราๆทำแบบ Home Made ยังต้องซื้อปลีกอยู่ ย่อมมีต้นทุนสูงกว่าค่ะ ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ต้องคำนวณดีๆด้วยว่า ซื้อมาแต่ละล็อต ควรจะใช้ให้หมดก่อนที่มันจะ หมดอายุ หรือ เสื่อมสภาพ แต่เชื่อว่า หากทำขายยังไงๆก็คงใช้หมดเร็วอยู่แล้วค่ะ นอกจากการซื้อของในปริมาณมากแล้ว มีอีกอย่างหนึ่งที่จะช่วยลดต้นทุนได้ คือ การใช้วัตถุดิบที่มีราคาถูกกว่า คุณภาพอาจจะด้อยกว่ากันหน่อย แต่ในเมื่อเราถูก จำกัดด้วยราคาขายที่ค่อนข้างต่ำ ก็อาจจะจำเป็นที่ต้องเลือกใช้ให้เหมาะสม เช่น การใช้เนยเทียมปนหรือแทนเนยสด  ทั้งนี้ทั้งนั้น จขกท.คงต้องพิจารณาด้วยว่า หากลดคุณภาพจะมีผลต่อผู้ซื้อหรือไม่ค่ะ แก้ไขเมื่อ 02 มี.ค. 54 08:00:17 จากคุณ : กุ๊กกลาง เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 54 07:58:00

ความคิดเห็นที่ 4 ... ไม่สามารถแนะนำไรได้เลยอะ ... สู้สู้ คะ จากคุณ : BROWN STITCH เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 54 08:15:04

ความคิดเห็นที่ 5 10 บาทนี่ไม่รู้จะขายอะไรดีเนอะ ร้านป้าเรากลุ่มเป้าหมายก็คนงานอ่ะค่ะ มีขนมปังมาส่ง เราไม่รู้เค้าส่งให้เท่าไหร แต่ให้ป้าเราขายชิ้นละ 6 บาทค่ะ ส่งอาทิตย์ละครั้ง ขายดีค่ะ ตอนนั้นเราก็ทำเค้กกล้วยหอมสูตรดังก้นครัวไปขายเล่นๆ กำไรแทบไม่มี แต่อยากให้ป้าเค้ามีขนมขายตลอด แล้วก็พวกขนมปังกรอบอ่ะค่ะ แต่ตอนนี้เลิกทำแล้ว ไม่ได้กำไร เราว่าอยู่เฉยๆ ดีกว่าไม่เหนื่อยด้วย จากคุณ : may-indy เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 54 09:10:29

ความคิดเห็นที่ 6 1 อาจจะต้องใช้สูตรลดต้นทุน ซึ่งก็อาจจะทำให้ขนมอร่อยน้อยลง หรือ 2 ทำชิ้นให้เล็กลง กว่าเดิมนิดหน่อยก็อาจะได้ขนมเพิ่มขึ้น ไม่รู้ไอเดียนี้จะใช้ได้ไหมคะ สู้สู้ นะคะ จากคุณ : แม่กั๊ตจัง (moozka) เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 54 09:31:21

ความคิดเห็นที่ 7 เค้าขายปุยฝ้ายในราคาลูกละ 10 บาทจ้า   เวลาซื้อแป้งบัวแดงจะไปซื้อที่ร้านเบเกอรี่  1 กก. ราคาถุงละ 38 บาท (ที่ Tops 57 บาท) ส่วนนมจะซื้อนมข้นจืดของ คาร์เนชั่นที่ Tops กระป๋องละ 21.50 บาท ( 7-11 22บ. และร้านเบเกอรี่ 22 บ.) ไข่ก็ตามตลาดเอาใช้เบอร์ 0 ค่ะ ราคา 10 ใบ 34 บาท น้ำตาลใช้ยี่ห้อลิน 1 กก. 32 บาท พิมพ์ที่ใช้ก็ขนาดมาตรฐานอะนะ  ทำตามสูตรเจ๊หลีบอกว่าทำได้ 18 ลูก ใช่ไหม   แต่เค้าทำได้ 22 ลูกอะ  แถมนุ่มมาก ๆด้วย ทั้งนี้มันอยู่ที่การตีไข่ด้วยอะจ้า  ตีไข่ในจังหวะพอดีมันจะประหยัดต้นทุนได้อีก แถมขนมจะนุ่มกว่าเดิมด้วย เวลานึ่งก็ 13 นาที สุก บวกค่าแก๊สค่าไฟ ค่ากระดาษรองพิมก็อยู่ที่ลูกละ 4-5 บาท ขายลูกละ 10 บาท ได้กำไรประมาณ 5-6 บาทจ๊ะ ว่าแต่แม่ค้าขายเป็นลูกละเท่าไหร่ หรือขายเป็นถุงอะจ๊ะ จากคุณ : Linmy เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 54 14:07:17

ความคิดเห็นที่ 8 เห็นด้วยกับ #1 ทำไมตอนนี้ของแพงมาก ๆ เลย ไปตลาดเดินอ้อมตลาด 3 รอบ ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะทำอะำไรกินดี แพงไปหมด ปล. เมื่อวานทำแกงส้มมะรุมทาน หยิบมะขามเปียก 3 ห่อ ส่งใบ 20 ให้แม่ค้า แม่กลับบอกว่า ไม่พอจ๊ะ 3 ห่อ 30 บาท ถึงกับอุทานกันเลยทีเดียว กลับมาบ้าน เล่าให้แม่ฟัง แม่ถึงกับอึ้ง พร้อมกับรำพึง อายุปูนนี้ เกิดมาเพิ่งเคยเจอ มะขามเปียกห่อละ 10 บาท แก่ป่านนี้ จะไปปลูกมะขามเอาไว้เก็บกินเอง คงไม่ทันซะแล้ว (ในห่อมีประมาณ 3-4 ฝัก แพงมั่ก ๆ) แก้ไขเมื่อ 02 มี.ค. 54 14:53:35 จากคุณ : Triple_N_and_T เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 54 14:53:19

ความคิดเห็นที่ 9 โอ๊ะ คห.8 ข้างบนราคายังถูกกว่าแถวบ้านเราอีกนะนี่  ที่ตลาดราคาถุงละ 20 บาทแนะ แพงมากๆ จากคุณ : Linmy เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 54 15:38:22

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณทุกๆท่านมากๆค่ะ สำหรับคำแนะนำ ตอนนี้เราขายเค้กกล้วยหอม ใส่ถุงล่ะ4ถ้วย  ปุยฝ้าย 5ถ้วย ใช้พิมพ์เบอร์ 2216 อะค่ะ ถ้าเล็กกว่านี้คงดูน่าเกลียดไปถ้าชิ้นใหญ่ชิ้นเดียว ก็ขายยากค่ะแม่ค้าที่เราส่งเค้าบอก  T_T จากคุณ : patty babeby เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 54 21:07:01

ความคิดเห็นที่ 11 เข้าใจอารมณ์เลยค่ะ ขนาดจะทำขายเองไม่ฝาก ยังคิดหนัก ตั้งแพงก้อไม่ได้ แต่ตั้งถูกก้อขาดทุน ของมันไม่จำเป็นกิน ถ้าราคาดูแพงก้อคงขายยาก เครียดไปตามๆกัน ของก้อไม่รู้จะแพงไปถึงไหน จากคุณ : vekalover เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 14:43:10

ความคิดเห็นที่ 12 ถ้าอยากทำขนมให้มีต้นทุนลดลง จากที่ใช้เนยสด ก็อาจจะเปลี่ยนเป็นมาการีนแทนก็ได้คะ ต้นทุนจะถูกลงเยอะมาก แต่ถ้ายังคงใช้เนยสด ก็ควรซื้อแบบเป็นลัง 5 กิโล ราคาก็จะถูกลงกว่าซื้อเป็นกิโลคะ ส่วนเวลาซื้อพวกแป้งถ้าซื้อเป็นลัง 10 กิโลได้ก็จะยิ่งดี ราคาจะได้ถูกลง พวกน้ำตาลเห็นที่ห้างไหนราคาถูก เราก็ต้องไปขนๆๆๆ มาค่ะ ตอนนี้ของขึ้นราคา เราเองก็ต้องใช้วิธีซื้อของทีละเยอะๆเหมือนกัน เพื่อต้นทุนที่ถูกลง แต่เนยที่ใช้ก็ยังคงเป็นเนยสดเหมือนเดิม เพราะถ้าเทียบความอร่อยกับมาการีนแล้วล่ะก็ ยังไงเนยสดก็อร่อยกว่าคะ   หรืออีกทางเลือกนึงก็คือ เปลี่ยนกลุ่มลูกค้าค่ะ หันไปส่งร้านกาแฟสด จะได้กำไรดีกว่าคะ เอาใจช่วยน่ะคะ สู้ๆคะ ^^ จากคุณ : nOoLiN_ThiChA เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 54 12:29:47