ความคิดเห็นที่ 1 มือที่ทำงานสำหรับเรายังไงก็สวยเสมอค่ะ จากข้อควาข้างต้น เราเห็นด้วยนะคะ แต่ที่แน่ๆคือมากด้วยประสบการณ์การทำงาน อาจจะไม่ใช่ว่าเก่งทุกคนที่มีบาดแผล จากคุณ : shinobu เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 54 22:00:15

ความคิดเห็นที่ 2 "มือหยาบกร้านอุบาทว์ด้วยแผล คือมือของเชฟผู้มากประสบการณ์" สะกดผิดนะคะ ความหมายไปคนละเรื่องเลย ส่วนอ่านแล้วคิดยังไงกับข้อความนี้ .. เราว่าก็เว่อร์ไปหน่อย ไม่เห็นจำเป็นต้องมีแผลแบบอุบาทว์ถึงจะเป็นสัญลักษณ์ของคนมีประสบการณ์ เราว่าถ้ามีแผลมาก มันบอกว่าเชฟเป็นคนซุ่มซ่ามมากกว่านะ จากคุณ : แม่เนื้ออุ่น (หลับอุตุ) เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 54 22:12:04

ความคิดเห็นที่ 3 ขอสะกดตามคุณแม่เนื้ออุ่นในความเห็นที่ ๒ ด้วยคนค่ะ ........... เห็นจริงตามข้อความซึ่งดิฉันแปลความหมายในประโยคดังกล่าวว่ามีนัยยะที่จะสื่อถึงคนทำงานครัว มือมักจะไม่บอบบาง มีลักษณะหยาบกร้าน อาจมีแผลบ้างจากการทำอาหารบ้างไม่ได้ดูเนียนสวยก็ด้วยเนื่องมาจากการทำงานหนักในครัว ทั้งหั่น ต้ม ขัด ล้าง ยก ผัด ฯลฯ แต่เข้าใจว่า คงไม่ได้หมายถึงมีแผลที่น่าเกลียดน่ากลัวเสมอไปดังข้อความว่า"อุบาทว์"แต่อย่างใด จากคุณ : กระต่าย เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 54 22:35:02 A:96.226.10.114 X: TicketID:166635

ความคิดเห็นที่ 4 ไม่เกี่ยวครับ ไม่เชื่อมาดูมือผมสิ นุ่มกว่าหลายๆคน แต่สามารถหยิบจับวัตถุร้อนๆได้มากกว่าคนอื่นๆเยอะครับ ส่วนถ้าเป็นแผล จะรีบรักษาครับ บอกตามตรง ไม่ชอบ มันดูสกปรก... จากคุณ : เอเจ เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 54 22:37:29

ความคิดเห็นที่ 5 มาจากหนังสือการ์ตูนมั้งครับ เรื่องจอมโหดกระทะเหล็ก น่าจะเป็นตอน ที่ รุ่นพี่ที่ร้านกลับมาจากฝึกที่เมืองจีน แล้ว ก็ดวลกัน แล้วรุ่นพี่ก็เข้าไปดูมือของพระเอก(อะกิยามะ จาง) แล้วเห็นมือมีตาปลาจากมีดและกระทะก็พูดขึ้นมาว่า มือที่เต็มไปด้วยบาดแผลเปรียบเหมือนเหรียญตราของพ่อครัว จากคุณ : อะกิยามะ จาง!!! (LokisorA) เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 54 22:42:20

ความคิดเห็นที่ 6 มือหยาบกร้านจริงๆครับ ส่วนเรื่องบาดแผลนี่เชฟเก่งๆ เค้ารู้จักระวัง ก็จะไม่ค่อยมีกัน ส่วนใหญ่มีแต่รอยด้าน และอยากจะบอกว่าแผลเป็นที่มือหายเร็วครับ สมัยผมเข้าครัวใหม่ๆนี่แผลเต็มเลย ยี่สิบกว่าแผลได้ ไม่ได้ซุ่มซ่ามนะครับ แต่เรายังไม่รู้จักวิธีที่ดี เชฟสั่งมาผมก็ใส่เต็มที่่ครับ จำได้ว่าตอนนั้น ผ่ากั้ง หลายร้อยตัวต้องเสร็จภายใน ชั่วโมงครึี่ง แผลนี่เพียบเลย แต่ตอนนี้เราประสบการมากขึ้นแทบไม่เป็นแผลเลยครับ เหลือไว้แต่รอยด้านๆของผิวหนัง จากคุณ : pboii เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 54 22:59:52

ความคิดเห็นที่ 7 อันดับแรกคือ เห็นว่า "หยาบกร้าน" และ "อุบาทว์" ของคุณสะกดผิด (ที่ถูกต้องคือตาม คคห.2) อันดับสอง เชฟ หรือ คนทำอาหาร จะต้องมีมือกร้านๆ แผลเยอะๆ จริงรึ? โดยส่วนตัว ไม่เคยไปรู้จักมักจี่เชฟหญ่ายยยยที่ไหน ที่รู้จักดีคือ "แม่" แม่ทำอาหารทุกวัน วันละหลายครั้ง ก็ไม่ถึงขนาดมือหยาบกร้าน หรือมีแผลเยอะแยะ เพราะทำอาหารนะ จากคุณ : ยิ้มมุมปาก เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 54 23:01:44

ความคิดเห็นที่ 8 ทา crabtree&evelyn ทุกวัน มือเลยไม่ด้าน อิอิ จากคุณ : JACQUETTE เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 54 23:12:30

ความคิดเห็นที่ 9 ขอโทษหลายๆความเห็นนะครับ สะกดผิดจริงๆ พอดีไม่รู้ว่าที่ถูกคือยังไง^ ^" @คห4 หรอครับ ผมนึกว่า ต้องมือด้านซะอีก ถึงจับอะไรแล้วไม่รู้สึกร้อน @คห5 น่าจะใช่นะครับ ผมเพิ่งอ่าน ภาคแรกจบไปด้วย^^ อากิยามะ จาง มาตอบเองกันเลยทีเดียวนะเนี่ย เปลี่ยนไปเยอะนะครับ สุภาพเชียว 55555 ว่าแต่มือด้าน นี่ฝึกได้มะครับ อย่าง เอาหินลับมีดมาขัดๆฝ่ามือทุกวันๆ แล้วมันจะด้านไหม ตอนนี้อยู่หอ ไม่ค่อยได้ทำอาหารอะครับ ทำก็เกรงใจห้องข้างบน ก่อนทำเลยดูทุกครั้งว่าเขาตากผ้าไหม แล้วจะทำตอนเขาไม่อยู่อะครับ. จากคุณ : Jabitt เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 54 23:31:49

ความคิดเห็นที่ 10 อ่านแล้วคาใจ เอ๊า!!!!! ดูซะให้พอ จากคุณ : เชฟกะทะเหล็ก เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 54 23:33:19

ความคิดเห็นที่ 11 ต้องเปลี่ยนเป็นมือเป็นสมบัติของเชฟครับ เพราะถ้าทำพลาดในครัวแล้วทำให้มือใช้การไม่เหมือนเดิมนี่ จบเลยนะครับ มือของเชฟต้องดูแลรักษาให้ดี พยายามอย่าให้บาดเจ็บ จากคุณ : นั่งเฝ้าคอม เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 54 23:33:56

ความคิดเห็นที่ 12 มันหยาบกร้านหรือไม่? บาดแผลทุเรศจนดูไม่ได้หรือไม่? พิจารณาเองครับ จากคุณ : เชฟกะทะเหล็ก เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 54 23:34:21

ความคิดเห็นที่ 13 ลืมบอกไปผมไม่ใช่เชฟใหญ่ แต่เคยเปิดร้านอาหาร ทำอาหารเอง หยุดทำไปพักใหญ่ แล้วก็กลับมาทำอีก และชีวิตนี้ก็คงไม่เลิกทำครับ ก็ดูมือผมเองว่าคนทำครัวมันไม่จำเป็นต้องเป็นแบบหนังสือการ์ตูนหรือสื่อที่คุณอ่านมาครับ จากคุณ : เชฟกะทะเหล็ก เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 54 23:37:18

ความคิดเห็นที่ 14 อาจจะหยาบกร้าน แต่ไม่น่าจะถึงขนาดอุบาทว์ด้วยบาดแผลมั้งคะ อ่านดูมันสยองไปหน่อยอ่ะ จากคุณ : MiSs Sandee เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 54 23:56:38

ความคิดเห็นที่ 15 รูปนี้ถ่ายไว้เตื่อนสติตัวเอง ได้จาก อาทิตย์แรกของการเริ่มอยู่หน้าเตา ร้านยุ่งมากจนลืมตัว เอามือเปล่าจับด้ามหม้อบนที่อยู่บนเตา หลังจากนั้นอาทิตย์นึงก็ใส่ถุงมือสองชั้น เปลี่ยนทุกชั่วโมงตลอด เจ๊บแสน แต่ก็หยุดงานไม่ได้ ตั้งแต่นั่นมา ก็ดูแลมือตัวเองตลอด เพราะถ้ามือมีแผล หรือใช้งานไม่ได้ นั่นก็คือหยุดงาน หรือไม่มีมีเงินนั่นเอง แต่แผลได้ประจำส่วนมากจะเป็นตามใต้ท้องแขนมากกว่า เป็นรอยไหม้นิดหน่อย ๆ ผมว่าเชฟที่มีแผลเยอะ คือ เชฟที่ซุ่มซ่ามมากกว่าครับ เพราะการรักษาความสะอาดของร่างกายก็คือหน้าที่อย่างหนึ่ง แก้ไขเมื่อ 07 มี.ค. 54 00:09:07 แก้ไขเมื่อ 07 มี.ค. 54 00:06:51 จากคุณ : dsnaz เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 00:05:32

ความคิดเห็นที่ 16 เราว่าหยาบนะใช่คะ เพราะให้มือทำงานเยอะ แต่แผลนี่เห็นด้วยว่าซุ่มซ่ามมากกว่า อ้อ..แถมให้อีกอย่าง คือ เชฟใช้มีดไม่เป็นกะไม่รู้จักเซฟตี้ ที่ถูกวิธี จากคุณ : lonely pig เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 00:21:09

ความคิดเห็นที่ 17 ผมไม่เคยเจอคนทำอาหารที่ไหนมือหยาบกร้าน (มากๆ) หรือมีแผลเยอะๆ เลยนะครับ ลองไปขอดูมือแม่ค้าขายอาหารแถวบ้าน บางคนมือนุ่มสวยกว่าของผมอีก ... ผมมือด้านกว่าเยอะอ่ะครับ แหะๆๆ จากคุณ : Djehuti เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 00:25:18

ความคิดเห็นที่ 18 ผมเห็นแม่ผมขายของทุกวัน (ตั้งแต่เด็กจนป่านนี้ 63) ซํกผ้า กวาดบ้าน ทำกับข้าว เลี้ยงดูผมมาจนโต มือแม่ผมนุ่มมากครับ ไม่เคยเห็นรอยแตก รอยหยาบกระด้างที่ไหนเลย บางทีแม่ผมยังมาบ่นเลยว่า มือแม่ทำไมไม่ยักกะแตกไม่ยักกะกร้านอย่างคนอื่นเค้า ผมว่าเป็นที่บางคนมากกว่า ปล. วันนี้น่ะมือผมนี่แหละ แตก และ กร้าน เพราะวันนี้ต้องซักผ้าด้วยมือตั้งแต่กลางวันยันเย็นเลย คนเดียวอีกตะหาก จากคุณ : As it happens to be me เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 02:18:03

ความคิดเห็นที่ 19 เหมือนจะเพิ่งอ่าน มาจาก จอมโหดกระทะเหล็กไปตะกี้นี้เอง  คำพูดแบบเดียวกันเลยง่ะ = = จากคุณ : คุ้มข้าวกล้อง เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 02:22:44

ความคิดเห็นที่ 20 ผมว่าเป็นหน้าที่ที่สำคัญของผู้ปรุงอาหาร ที่จะต้องรักษาสุขภาพอนามัยของมือ ให้สะอาดอยู่ตลอดเวลานะครับ เหมือนในเรื่องแดจังกึมที่ซังกุงหรือนางใน ต้องเอามือซุกไว้ในผ้ากันเปื้อนโดยตลอด เคยไปเที่ยวศรีลังกาหรืออินเดีย ในบางพื้นที่ เขายังกินข้าวด้วยมืออยู่เลย ตามร้านอาหารใหญ่ ๆ ก็ไม่เว้น ถ้าจะใช้ช้อนก็ต้องขอ (ยกเว้นร้านที่บริการชาวต่างชาติเขาจะวางช้อนไว้ให้) ดังนั้นประชาชนต้องรักษาความสะอาดของมืออยู่เสมอเพราะต้องใช้หยิบ อาหารกิน เรื่องหยาบกร้านไม่ว่ากันแต่อุบาทว์ด้วยบาดแผลนี่คงไม่ได้แล้ว จากคุณ : เด็กหนุ่มหน้าตาดี เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 02:57:10 A:128.178.252.22 X: TicketID:120371

ความคิดเห็นที่ 21 เอ่อ... มือคนอื่นดูดีจัง >< หลังจากทำอาหารวันละ 2 มื้อมา 7 วัน มือเราตอนนี้หยาบ แห้ง ขอบเล็บด้าน+ร่น+หลุด+ลอกเป็นแผ่น มีชะอมฝังในซอกเล็บ (เฮ้ย ลืมตัดเล็บ !!) และไม่รู้ว่ากลิ่นกาแฟมันมาอยู่ที่ซอกเล็บได้ยังไง เราเป็นแม่ครัว novice นะ เพิ่งจะทำอาหารได้ 7 วันเอง -*- ไร้ประสบการณ์ แต่อยากกินของดี ๆ เลยต้องทำเอง เหนื่อยมาก แต่จะสู้ต่อไปค่ะ ^^ จากคุณ : Iverse เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 03:56:12

ความคิดเห็นที่ 22 โฮเฮะ มีทั้งภาพมือไร้แผล และมีแผลมาแสดงหลักฐานกันเลยทีเดียว ต้องขอบคุณ ณ ที่นี่ด้วยนะครับ ที่นำมาแบ่งปันกัน^^ ผมเห็นด้วยนะ ว่ามือคนครัวไม่ครัวมีแผล แผลนั้นน่าจะเกิดจากความผิดพลาดที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นมากกว่า(หลายคนเรียกมัน ว่าซุ่มซ่าม) แต่ผมว่า ยากนะครับ ที่คนเราจะไม่ผิดพลาดเลย สี่ตีนยังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง ลิ้นยังได้เจ็บเพราะเผลอถูกขบด้วยฟัน คนในครัวที่ทำงานกับของมีคม และเปลวไฟ จะไม่พลาดเลย นั่นยอมยาก (แต่ก็เข้าใจในความหมายของหลายคน ว่ามันไม่ควรเกิดขึ้น) การผิดพลาด ผมว่า เกิดจาก1.ไม่รู้วิธีที่ถูกต้อง 2.สติ-สมาธิไม่พร้อมทำงาน ซึ่งงานครัว ที่ได้ยิน ก็ต้องผ่านการสอนกันมา ก็หักลบข้อที่1ไปได้ แต่ข้อ2 นี่ผมว่ายาก. ได้ยินว่างานครัวนั้นกดดันมาก ยิ่งเจอเชฟใหญ่ เพื่อมร่วมงานอารมณ์บูด สื่อสารด้วยภาษาแนวสบถ ย่อมก่อให้เกิดความกดดัน ผมเปรียบว่าเหมือนยืนบนกองไฟ แล้วยิ่งพอแขกเยอะทีไร ก็เหมือนน้ำมันที่เติมลงบนไฟ ทำเอาไฟบรรลัยกัลย์ = = ต้องยอมรับว่า การที่มาเจออารมณ์แย่ๆของคนอื่นก็พลอยทำให้เราแย่ไปด้วยได้ มีน้อยคนนักที่จะเฉยๆได้ ไม่ว่าคนอื่นจะอารมยังไง ซึ่งนับว่าเป็นความสามารถพิเศษเฉพาะตัวที่ฝึกไม่ได้ ทุกครั้งที่ต้องรีบทำงานให้เสร็จเร็วขึ้น ลองคิดถึงขับรถ ขับรถเร็วขับรถช้า โอกาสอุบัติเหตุก็ต่างกันมากแล้ว ยิ่งสมรรถภาพที่ความเร็วสูง การจะควบคุมหรือจะหยุดมันก็ยากยิ่ง แม้ว่าจะเป็นรถคันละสิบล้าน แต่ถ้าเจอมอไซตัดหน้าที่ความเร็ว200km การจะหยุดให้อยู่ในระยะ5เมตร มันเป็นไปไม่ได้เลย ความผิดพลาดต่างๆนั้น  ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น และทุกคนก็ล้วนพยายามทำดีที่สุดแล้ว ............ เข้าใจนะครับ ว่าหลายคนแค่พยายามบอกว่า เชฟใหญ่ มือเขาไม่อุบาทว์หรอก แต่ในส่วนลึก ผมก็รู้สึกว่า ต้องมีบ้างหละน๊า^ ^" 55555+ แก้ไขเมื่อ 07 มี.ค. 54 04:38:31 จากคุณ : Jabitt เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 04:36:01

ความคิดเห็นที่ 23 เราว่ามือคนทำอาหารนี่สำคัญ  เพราะมีแผล ทำอาหารไม่สะดวก  กับข้าวต้องใช้มือทำทั้งนั้น   จับ นวด คลึง ยิ่งถ้าทำโชว์หน้าร้านนี่ให้มีแผลไม่ได้เลยนะ   ถ้ามีแผลแล้วติดพลาสเตอร์หรือพันผ้าคงมาทำอาหารให้ลูกค้าไมไ่ด้หรอก มันดูสกปรกน่ะค่ะ   แม่ครัวเขาระวังมือกันมากเลยนะ ไม่เคยเห็นมือแม่ครัวหยาบกร้าน  แต่ที่ทำอาหารซ้ำๆซากๆจนเอ็นยึดนี่เจอมาแล้ว  ทำไส้อ่อนขายทุกวัน(ร้านข้าวต้ม) ทำทุกวันวันละเป็นชั่วโมงๆต่อเนื่องหลายปี  เอ็นยึดเกือบต้องผ่า  ทำให้เขาเลิกกิจการข้าวต้มเลยล่ะ  มาขายอื่นแทน จากคุณ : อยากเห็นเธอตอนแก่จัง เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 06:46:53

ความคิดเห็นที่ 24 เป็นคนทำเบเกอรี่ครับ เคยเป็นแผลที่นิ้วเพียงเล็กน้อย ทำงานไม่ถนัดเลย จึงได้เห็นคุณค่าของมือว่า สำคัญมากๆๆๆๆ ดังนั้นจะระวังมาก ไม่ว่าจะใช้มือทำอะไร จะไม่เสี่ยงที่จะทำให้เกิดการบาดเจ็บครับ เพราะเราต้องใช้ทุกวัน แล้วมันลำบากมากๆ ถ้าเป็นแผล ส่วนเรื่องหน้า(มือ)ด้าน ก็คงมีบ้างเป็นธรรมดา ผมว่าผู้ชายมือด้านก็คงพอโออยู่ นุ่มเนียนเกินไป ก็เขินๆ แค่ทำด้านเบเกอรี่นี่คนก็เริ่มๆ สงสัยกันไปแปลกๆ บ้างแล้ว จากคุณ : jumjee เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 08:56:41

ความคิดเห็นที่ 25 ตอนทำครัวใหม่ๆ ก็โดนมีดบาดบ่อยมาก เนื่องจากยังไม่ชินกะการทำงานที่ต้องทำอย่างรวดเร็ว บาดได้บาดดี เกือบทุกวัน แถมโดนน้ำร้อนลวกบ้างอะไรบ้าง เผลอไปจับหม้อร้อนบ้างก็บ่อย แต่ว่าพอทำไปนานๆๆๆๆ ก็จะเริ่มรู้จักระมัดระวังตัวเองมากขึ้น จนไม่ค่อยต้องเจ็บปวดเหมือนแต่ก่อน แต่ก็ยังมีบ้างเป็นครั้งคราว อิอิอิ แต่มือด้านอ่ะ แห้งด้วย แต่เป็นกุ๊กต้องอดทนค่า จากคุณ : คุณนายหนูน้อย เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 09:43:28

ความคิดเห็นที่ 26 เราว่า น่าจะเป็นแนวคิดของคนทำอาหารจีนแบบร้านอาหารหรือภัตตาคารจีนมากกว่าค่ะ งานทำอาหารจีนแบบเลี้ยงโต๊ะจีนเป็นงานที่หนักมาก และต้องแข่งกับเวลา ต้องยก แบกหามของจำนวนมาก หรือขนาดใหญ่ อย่างมากก็มีผ้าขนหนูผืนเล็กๆช่วย เวลาหยิบหูหม้อ กระทะ.... และต้องทำอาหารหน้าเปลวไฟที่ลุกโชนมากๆ (ไฟแรง จนน่ากลัวขนคิ้วจะไหม้ 555) อยู่กับหน้าเตาที่ร้อนจัด ต้องทอดอาหารในน้ำมันร้อนๆ เร็วๆ (อาหารจีนหลายอย่างจะนำเนื้อสัตว์ไปทอดแบบ Deep Fried เร็วๆให้ผิวตึงก่อน ค่อยนำมาผัด) จึงมีโอกาสที่จะเกิดแผลพุพองได้ง่ายที่มือ.... มือของกุ๊ก(เชฟ)จีนจึงน่าจะหยาบกร้านกว่า เมื่อเทียบกับเชฟชาติอื่นๆซึ่งการทำอาหาร ไม่ต้องตรากตรำหรือโหดเท่า... สำหรับเบเกอรี่ ส่วนใหญ่ โอกาสจะเป็นแผลก็เกิดจากโดนเตาอบ โดนของร้อนอ่ะค่ะ บางทีความรีบร้อนก็ทำให้มือไปโดนโดยไม่ตั้งใจ แต่คงไม่ถึงขนาดมือหยาบกร้าน หรอกค่ะ... จากคุณ : กุ๊กกลาง เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 10:50:54

ความคิดเห็นที่ 27 ไอ้แผลน่ะมันมีแน่ๆอยู่แล้ว แต่ต้องรีบรักษาแล้วก็อย่าพลาดอีก มือสำคัญนะคะ ทั้งแผล ทั้งต้องรักษาความสะอาด จากคุณ : soft stone เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 13:06:57

ความคิดเห็นที่ 28 รู้สึกประโยคนี้จะเคยเห็นจาก การ์ตูน จอมโหดกะทะเหล็ก นะครับ จากคุณ : Heart Break Kid เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 54 08:18:25

ความคิดเห็นที่ 29 เราทำครัวไม่ค่อยโดนมีดบาดหรอกค่ะ จะโดนแต่ถาดอบ กะทะ หม้อร้อนๆที่ชอบ เผลอไปจับโดนมากกว่า ส่วนใหญ่จะเป็นตามท้องแขน เหมือนคห.บนๆ ความเห็นส่วนตัวนะคะถ้ามีแผลที่มือจะไม่อยากทำครัวเลยค่ะ มือเราโดนกระดาษหนังสือ กระดาษA4บาดบ่อยกว่ามีดอีก จากคุณ : panani เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 54 15:19:14

ความคิดเห็นที่ 30 เพิ่มเติมค่ะ แต่มือของแม่เราทำลอดช่องโดนน้ำปูนใสทุกวัน หยาบและแห้งของจริงค่ะ จากคุณ : panani เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 54 15:21:18