ความคิดเห็นที่ 1 vote แล้วค่ะ จากคุณ : BROWN STITCH เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 13:53:23

ความคิดเห็นที่ 2 ชอบ company ครับ ผมว่า company เป็นสไตล์อิตาเลี่ยน แต่ hut เป็น สไตล์อเมริกา จากคุณ : nail of cat เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 13:56:42

ความคิดเห็นที่ 3 เดิมผมชอบ company ครับ แล้วมาเจอลูกแมลงสาบใต้กระดาษลูกฟูก ที่มาโพสให้เพื่อนๆดูกัน ผมจึงได้ส่งเรื่องไปให้ทางบริษัทเค้าดู ทางเค้าก็สอบถามนะครับ ว่าจากสาขาไหน ซื้อตอนกี่โมง วันที่เท่าไหร่ แต่ไม่เอ่ยคำว่าขอโทษซักคำ ตอนนี้ผมเลยหันมาคบกับน้อง hut แทน ผมได้พบว่าเนื้อตัวน้องเค้านิ่มดีจริงๆ ลิ้มลองแล้วติดใจครับ แต่ถามว่าถ้า company 1แถม1 หรือให้กินฟรีเอาไหม? บอกได้คำเดียวครับ "เอา" เพราะผมมันชอบของที่คุ้มค่า :) จากคุณ : double@pantip เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 14:02:24

ความคิดเห็นที่ 4 ชอบ company ครับ ผมว่า company เป็นสไตล์ไทย ไทย ไืทย แต่ hut เป็น สไตล์ไทย จากคุณ : Rovershearer เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 14:07:41

ความคิดเห็นที่ 5 ็Hut ครับ อร่อยกว่าแทบทุกหน้า สำหรับผมนะ จากคุณ : ตวงสิทธิ์ เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 14:13:00

ความคิดเห็นที่ 6 ชอบคอมปะนี แต่เดี๋ยวนี้ไม่กินแล้ว เพราะรู้สึกว่า ยี่ห้อไหน ก็แพง -_-" จากคุณ : โถ๊..พ่อคุณของบ่าว เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 14:18:16

ความคิดเห็นที่ 7 ผมชอบ Hut  ภรรยาผมชอบ Com ผมเป็นคนทานง่าย ภรรยาทานยาก เลยต้องตามใจ แต่ส่วนตัว ชอบHut จากคุณ : Rotor2 เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 14:27:32

ความคิดเห็นที่ 8 ^ ^ สรุปง่ายๆ ท่านกลัวเมีย ว่างั้นเหอะ 555+ จากคุณ : double@pantip เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 14:43:19

ความคิดเห็นที่ 9 Com ค่ะ เราว่ามันต่างกันพอสมควรนะ เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยทานเพราะแพง จากคุณ : smallkid เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 14:51:18

ความคิดเห็นที่ 10 ชอบ com ค่ะ เพราะเคยเจอบริการไม่ประทับใจจาก hut มา แต่รู้สึกว่าเี๋ดี๋ยวนี้ขนาดพิซซ่าจะเล็กลงกว่าเมื่อก่อนเยอะเลย สั่งถาดกลางแฟนบอกทำไมมันเกือบเท่าถาดเล็กเลย จากคุณ : คนที่คุณรักเค้าก็รักคุณเช่นกัน เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 15:21:00

ความคิดเห็นที่ 11 hut แป้งพิซซ่าอร่อยดี จากคุณ : tinglew เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 15:57:27

ความคิดเห็นที่ 12 55555 เค้าบอกว่ารัสต้า ต้องกลัว ภรรยากันทู๊ก โคนนนนนน จากคุณ : Rotor2 เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 16:01:45

ความคิดเห็นที่ 13 company ครับ รุสึกว่าคุ้มกว่า อิอิ จากคุณ : หมูที่อ้วนที่สุดในสามโลก เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 16:02:42

ความคิดเห็นที่ 14 ไม่ชอบทั้งสองเจ้า แต่ถ้าต้องเลือก เลือก คอมฯ ค่ะ จากคุณ : kitty สีชมพู เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 16:13:45

ความคิดเห็นที่ 15   company อีก 1 เสียงค่ะ จากคุณ : Mushroom forest เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 16:19:05

ความคิดเห็นที่ 16 Com เหมือนกันค่ะ รู้สึกว่าทานแล้วถููกใจ จากคุณ : I am TeeO เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 16:37:19

ความคิดเห็นที่ 17 company อร่อยกว่า จากคุณ : เป็นที่ยินดีดุจพระอาทิตย์ เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 16:44:06

ความคิดเห็นที่ 18 ปกติสั่ง COM ตลอดค่ะ ว่าจะสั่ง HUT ตอน 1 แถม 1 มาลองบ้าง แต่เห็นขนาดของ pizza จากที่เพื่อนสมาชิกโพสต์โชว์ เลยกลับไปสั่ง COM 1แถม 1 เหมือนเดิม ปล. ตอนนี้จะสั่ง pizza เฉพาะตอนลดราคาเท่านั้นค่ะ ^^" จากคุณ : ฮิเมโกะ เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 17:13:39

ความคิดเห็นที่ 19 ไม่ชอบทั้งสองเจ้า ชอบทานพิซซ่าแบบอิตาเลียนแท้ๆ แป้งบาง อบจากเตาฝืนมากกว่า แต่ถ้าจำเป็นต้องเลือก ขอเลือก Pizza Hut คะ จากคุณ : La Petite Binoclarde เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 17:52:45

ความคิดเห็นที่ 20 company เพราะแทบจะไม่เคยกิน hut เลยอ่ะค่ะ จากคุณ : guidemania เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 17:52:58

ความคิดเห็นที่ 21 Hut only จากคุณ : monkeypim เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 20:31:25

ความคิดเห็นที่ 22 ชอบทั้ง2เจ้า แต่comตัวเลือกเยอะกว่ามาก จากคุณ : NokJbz เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 21:15:46

ความคิดเห็นที่ 23 เราบอกความแตกต่างระหว่างสองแบรนด์นี้ไม่ได้ แต่ด้วยโปรฯทำให้พักหลังทาน company บ่อยกว่า จากคุณ : หลังอาหารเย็น เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 21:16:58

ความคิดเห็นที่ 24 company ทั้งบ้านเลยจ้า เค้าว่ากันว่า company แยกตัวมาจาก hut hut เอาชื่่อไป company เอาูสูตรมา เลยทำให้ hut ไม่อร่อย  ไม่รู้จริงรึเปล่า จากคุณ : BerRum* เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 21:24:29

ความคิดเห็นที่ 25 เรียนคห.24 ไม่ถููกซะทีเดียวครับ เท่าที่ผมจำได้(จากข่าวในตอนนั้น) ที่มาคือบริษัทไมเนอร์ฟู๊ด คือผู้ได้สิทธ์เฟรนไชน์PIZZA HUT(จากอเมริกาป่าวหว่า?) มาเปิดร้านขายในประเทศไทย ขายไปขายมาธุรกิจรุ่งขยายสาขาไปทั่วประเทศทำกำไรมหาศาล บริษัทแม่ของPizza Hut เปลี่ยนนโยบายไม่ต่ออายุเฟรนไชน์ให้ไมเนอร์ฟู๊ด เพื่อที่จะเข้ามาดำเนินการขายเองเป็นPizza Hut สาขาประเทศไทย นั่นหมายความว่าไมเนอร์ฟู๊ดหมดสิทธ์ในตัวพิซซ่าแบรนด์นี้(ซึ่งสร้างตลาดในประเทศไทยกับมือ) ด้วยจุดแข็งด้านตลาดในประเทศ ความเชี่ยวชาญในการผลิตสินค้า สาขาที่กระจายทั่วประเทศ และความพร้อมในด้านการเงิน ไมเนอร์ฟู๊ดจึงไม่หวั่นแม้วันมามาก จัดการเปลี่ยนโฉมร้านPizza Hut ทั่วประเทศให้กลายเป็นThe Pizza Companyได้ภายในระยะเวลาอันสั้น และขายพิซซ่าต่อแบบชนิดแทบจะไม่สดุด ช่วงชิงความได้เปรียบก่อนที่Pizza Hut จะเริ่มทำตลาดในประเทศ ส่งผลให้แบรนด์The Pizza Companyได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคชาวไทยในระยะเวลาอันสั้น ในขณะที่The Pizza com ทำการตลาดเต็มที่ ขายต่ออย่างเมามันแถมขยายสาขาต่อเรื่อยๆ Pizza Hut เหมือนต้องเริ่มจากศูนย์ใหม่เลย ทำให้เสียเปรียบThe Pizza Com พอสมควร แบรนด์ที่เคยเป็นจุดแข็งกลายเป็นไม่แตกต่าง แต่เสียเปรียบอย่างมากในแง่จำนวนร้านและบริการจัดส่งดิลิเวอรี่ เพราะต้องค่อยๆขยายสาขาไปทีละนิดๆ ในขณะที่The Pizza Com มีเป็นร้อยสาขาทั่วประเทศแล้วในเวลานั้น 5-6ปีก่อนThe Pizza ครองส่วนแบ่งตลาดร้านพิซซ่าในประเทศประมาณ60% เนื่องจากมีสาขาครอบคลุมมากที่สุด Pizza Hut มีส่วนแบ่งแค่ประมาณ20% แต่ปัจจุบันเป็นยังไงไม่แน่ใจไม่ได้อัพเดทครับ ส่วนเรื่องรสชาติผมแยกไม่ออกครับ ผมว่างั้นๆทั้งคู่555 แต่ถ้าต้องกินเลือกThe Pizza Com ครับเพราะสนับสนุนแบรนด์ไทย(แม้เจ้าของจะเป็นชาวต่างชาติก็ตาม555) จากคุณ : ข้าวผัดปลาเค็ม เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 22:26:58

ความคิดเห็นที่ 26 เคยได้ยินมา เหมือนคห.25เลยครับ จากคุณ : D.Zamba เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 23:49:11

ความคิดเห็นที่ 27 ตอนเขาแยกบริษัทกันใหม่ๆ ยังคงสั่ง hut อยู่แต่ลองไป2-3ครั้ง เห็นหน้าที่เหมือนไม่เต็มใจจะใส่มา บางชิ้นมีเนื้อชิ้นเดียว พอสั่ง com มาหน้าตู๊มกินแทบไม่หมด เลิกสั่ง hut ไปเลย รู้สึกเหมือนมันไม่จริงใจกับลูกค้า จากคุณ : Tamจัง เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 54 00:46:35

ความคิดเห็นที่ 28 ส่วนตัวเรา ชอบhutมากกว่าแป้งมันอร่อยกว่านะ แต่ที่กินประจำcompanyเพราะขนาดและโปรมันดีกว่าเยอะ^^ จากคุณ : Choco Brownie เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 54 02:38:15

ความคิดเห็นที่ 29 เคยสั่ง hut หน้าทะเล มากันหรอมแหรมมาก จนนึกว่ามีหน้าซอสมะเขือเทศ เลยสั่ง com มาแทนราคาเท่ากัน หน้าเพียบ จากนั้นไม่เคยสั่ง hut อีกเลย จากคุณ : เมื่อเราเป็นแมว เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 54 03:42:09

ความคิดเห็นที่ 30 ไม่ประทับใจ hut เท่าที่ควร ถ้าต้องเลือก ก็ต้อง com เพราะถูกใจทั้งในแง่บริการและรสชาติกว่า(ถึงมันไม่อร่อยเทพก็เหอะ) จากคุณ : คำห้วน-lopzang-เฉือนคำรัก เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 54 05:28:36

ความคิดเห็นที่ 31 25 ผิดครับ ไมเนอร์ได้รับสิทธิจากยัมทำพิซซ่าฮัท ไมเนอร์ไปซื้อชิกเก้นทรีตมาจากออสเตรเลีย ยัมก็ถือสิทธิใน kfc ด้วย ยัมสั่งห้ามไมเนอร์ทำไก่ ไมเนอร์ไม่ยอม เลยมีเรื่องกัน ฟ้องศาลที่เมกา ก็สรุปว่าแยกกัน สุดท้ายชิกเก้นทรีตก็เจ๊ง เพราะรสห่วยแตก ยัมลงมาทำพิซซ่าฮัทเอง ภายหลังเซ็นทรัลก็เข้ามาทำด้วย พิซซ่าคัมปะนี เป็นของคนไทยชื่อ วิลเลี่ยม อี ไฮเนกกี้ แก้ไขเมื่อ 19 มี.ค. 54 05:52:04 จากคุณ : วี เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 54 05:51:19

ความคิดเห็นที่ 32 ถ้าปกติไม่สั่งยี่ห้อนี้ครับ นอกจากมันอยากจิรงๆ เพราะรู้สึกเยว่าทั้ง 2 ค่อนข้างแพง เครื่องก็ไม่ค่อยเต็มใจใส่ แต่ช่วงนี้ 1 แถม 1 ก็สั่งcompany นะ แต่ปกติจริงๆกินนารายณ์ครับ จากคุณ : คนเมาเอิ๊กๆ เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 54 08:08:13

ความคิดเห็นที่ 33 ตอนนี้ไม่ทานพิซซ่าครับ ( ถ้าเลือกได้นะ ) แต่ไม่ชอบการตลาดของ Hut ที่รอเค้าทำตลาดดี ๆ แล้วไม่ต่อสัญญาให้ การตลาดแบบนี้ ฉวยโอกาสเกินไปครับ P.S. ข้อมูลที่ผมรับรู้มา ก็ตามที่ คห. บน ๆ ว่านั่นแหละครับ ส่วน ตื้น ลึก หนา บาง ภายในนั่นผมไม่รู้เน้อ แค่ขัดความรู้สึก จากคุณ : เพียวคุง เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 54 09:47:25

ความคิดเห็นที่ 34 จะบอกว่าคห.25ผิดก็แรงไปนะ ผมว่าข้อมูลของคห.31มันก็ทางเดียวกันกับคห.25นะแหละ แต่เป็นการขยายรายละเอียดว่าทำไมบ.ยัม(เจ้าของแบรนด์Pizza Hut)ถึงเอาPizza Hutคืนจากบ.ไมเนอร์ฯ (ซึ่งขอบคุณมากครับที่มาเสริมข้อมูลตรงนี้เป็นประโยชน์มากครับ) ส่วนสาเหตุที่เอาคืนเพราะไมเนอร์เอาชิคเกนทรีตมาขายแข่งกับKFC ...ความเห็นส่วนตัวผมนะ ผมว่าเป็นแค่ข้ออ้างครับ คุณคิดดูว่ามูลค่าแบรนด์Pizza Hutในเวลานั้นมันมหาศาลขนาดไหน ทำไมYumจะไม่อยากได้คืน(มองในมุมนักธุรกิจนะ) พอมีประเด็นนี้ขึ้นมาYumก็ได้ทีเอาPizza Hutคืนเลย กรณีเดียวกับที่Pepsiจะเขี่ยบ.เสริมสุขเพื่อที่จะมาทำตลาดในประเทศไทยเองนั่นแหล่ะ แต่กรณีเป็ปซี่เค้าไม่มีข้ออ้าง แต่ใช้วิธีขึ้นราคาหัวเชื้อน้ำดำ(ที่จริงคือให้ส่วนลดน้อยลง) เพื่อให้ต้นทุนเสริมสุขสูงขึ้นและถอนตัวไปเอง แต่Pepsiคงลืมไปว่าเสริมสุขเค้าก็เก๋าเหมือนกัน สรุปก็เขี่ยไม่ได้555 ปล.กรณีเป็ปซี่ไม่ได้อัพเดทข้อมูลเลย มีใครรู้บ้างว่าจบแล้วยัง สรุปเสริมสุขได้สิทธ์ในประเทศไทยต่อใช่ไหมครับ? จากคุณ : ข้าวผัดปลาเค็ม เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 54 10:50:51

ความคิดเห็นที่ 35 พิซซ่าคัมปะนี เป็นของคนไทยชื่อ วิลเลี่ยม อี ไฮเนกกี้ แก้ไขเมื่อ 19 มี.ค. 54 05:52:04 จากคุณ : วี     เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 54 05:51:19   คนไทยหรอคะ จากคุณ : กระต่ายร่ายมนต์ (กระต่ายร่ายมนต์) เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 54 12:02:15

ความคิดเห็นที่ 36 ชอบ pizza com มากกว่าค่ะ เคยสั่ง hut มาครั้งนึง ทานไม่ได้เลย ชิ้นเดียวยังไม่หมดเลยค่ะ หน้าน้อยมาก มีแต่แป้ง ซอสก็แทบไม่มี เหมือนทานขนมปังเปล่าๆ - -' จากคุณ : my happy ending เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 54 12:03:58

ความคิดเห็นที่ 37 35 คนไทยครับ พูดไทย จากคุณ : วี เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 54 15:25:41

ความคิดเห็นที่ 38 ธุรกิจพิซซ่าในประเทศไทยนั้น เมื่อประมาณ 20 ปีมาแล้ว หากถามคนไทยว่าชอบรับประทานพิซซ่าหรือไม่ เกือบทั้งหมดจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพิซซ่ามีรูปร่างหน้าตาอย่างไร บุคคลที่บุกเบิกธุรกิจภัตตาคารจำหน่ายพิซซ่าในประเทศไทย คือ คุณวิลเลียมหรือบิล ไฮเน็กกี มีวิสัยทัศน์ว่าเมืองไทยน่าจะมีภัตตาคารจำหน่ายอาหารฟาสต์ฟู้ดหรือที่มีชื่อ เรียกแบบทางการว่า Quick Service Restaurant (QSR) ตามรูปแบบของสหรัฐฯ บ้าง เขาได้ติดต่อขอซื้อแฟรนไชส์พิซซ่าฮัท เมื่อได้รับแฟรนไชส์แล้ว จึงก่อตั้งร้านพิซซ่าฮัทแห่งแรกขึ้นที่เมืองพัทยาในปี 2524 เนื่องจากพัทยามีนักท่องเที่ยวต่างประเทศจำนวนมาก โดยยังไม่กล้าเปิดในกรุงเทพมหานคร ด้วยเกรงว่าจะขาดทุน เพราะขณะนั้นคนไทยยังไม่รู้จักพิซซ่า และไม่รู้ว่าพิซซ่าจะถูกปากคนไทยหรือไม่ เมื่อประสบผลสำเร็จในการจำหน่ายพิซซ่าที่พัทยา ทำให้เกิดความมั่นใจว่าพิซซ่ามีรสชาติถูกปากคนไทย ดังนั้น จึงได้เปิดภัตตาคารพิซซ่าฮัทในกรุงเทพมหานครอีกหลายสาขา จนครองตลาดอาหารพิซซ่าในประเทศโดยสิ้นเชิง แม้จะมีคู่แข่งหลายรายก็ตาม เริ่มจากเช็คกี้พิซซ่า ซึ่งประสบผลสำเร็จทางธุรกิจค่อนข้างมากในประเทศแถบเอเชีย แต่มาตั้งภัตตาคารพิซซ่าในประเทศไทยได้ไม่นาน ก็ต้องเลิกกิจการไปตามระเบียบ เนื่องจากไม่สามารถสู้แรงเสียดทานกับกิจการพิซซ่าฮัทของคุณไฮเน็กกีได้ สำหรับอีกค่าย คือ กลุ่มมอนเทอเรย์ ที่เคยโด่งดังในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แล้วหันมาเอาดีทางขายพิซซ่า ภายใต้แฟรนไชส์โดมิโนพิซซ่า แม้เป็นเครือข่ายกิจการพิซซ่าส่งตามบ้านใหญ่เป็นอันดับ 1 ของโลก แต่เมื่อก่อตั้งกิจการในประเทศไทยไม่ทันไร ก็ต้องม้วนเสื่อกลับบ้านไปอีกราย แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าต่อมาค่ายไมเนอร์ของคุณไฮเน็กกีมีข้อพิพาทกับเจ้า ของแฟรนไชส์ในสหรัฐฯ ทั้ง 2 ฝ่ายต่างฟ้องร้องซึ่งกันและกัน ในที่สุดกลุ่มไมเนอร์จึงหยุดดำเนินการพิซซ่าภายใต้ชื่อพิซซ่าฮัทนับตั้งแต่ วันที่ 31 ธันวาคม 2544 และเปิดดำเนินการใหม่ภายใต้ชื่อ “เดอะพิซซ่า คอมปะนี” ตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม 2545 นับเป็นการสิ้นสุดสายสัมพันธ์ที่ยาวนานมาถึง 20 ปี ศึกสายเลือดของสงครามพิซซ่าจึงได้ระเบิดขึ้นในประเทศไทยระหว่างร้านพิซซ่า ฮัทซึ่งเป็นสาขาของบริษัทยักษ์ใหญ่ของโลก กับร้านเดอะพิซซ่าซึ่งเปรียบเสมือนร้านโชห่วย อย่างไรก็ตาม เครือไมเนอร์ไม่หวั่นเกรงศักดิ์ศรีแต่อย่างใด โดยตระหนักว่าเดอะพิซซ่า คอมปะนี เป็นแบรนด์ใหม่ที่ไม่มีใครรู้จัก จึงต้องจ่ายเงินถึง 200 ล้านบาท ในการโฆษณาประชาสัมพันธ์แบรนด์ใหม่ในรูปแบบต่างๆ โดยคุณไฮเน็กกีถึงกับลงทุนเป็นพรีเซนเตอร์แบรนด์ของตนเอง โดยแต่งกายในชุดเด็กส่งพิซซ่า จากนั้นได้ขับรถจักรยานยนต์ฮาร์เลย์เดวิดสินนำหน้าขบวนรถจักรยานยนต์ส่งพิซ ซ่าของค่ายเดอะพิซซ่า คอมปะนี จำนวนมากมายถึง 700 คัน ขับผ่านไปผ่านมาในย่านธุรกิจของกรุงเทพมหานคร นับเป็นการประกาศสงครามเต็มรูปแบบกับค่ายพิซซ่าฮัท ปัจจุบันนับว่ากลุ่มไมเนอร์ประสบความสำเร็จค่อนข้างมากในสงครามพิซซ่า โดยครองส่วนแบ่งตลาดในประเทศสูงถึง 60% ขณะที่ค่ายพิซซ่าฮัทครองตลาดประมาณ 30% ขณะเดียวกันเดอะพิซซ่าคอมปะนีมีสาขามากถึง 148 แห่ง เปรียบเทียบกับพิซซ่าฮัทที่มีจำนวนน้อยกว่า คือ เพียง 85 แห่ง นักวิเคราะห์ได้ให้ทัศนะว่าการที่เดอะพิซซ่า คอมปะนี ประสบผลสำเร็จอย่างมากในประเทศไทยนั้น เนื่องจากได้พัฒนารสชาติของพิซซ่าให้ถูกปากคนไทย เพราะลูกค้าที่มารับประทานพิซซ่าในประเทศไทยนั้นไม่ได้เป็นชาวต่างประเทศ เกือบทั้งหมดเป็นลูกค้าชาวไทย อย่างไรก็ตาม เราไม่สามารถประมาทค่ายพิซซ่าฮัทได้ เนื่องจากบริษัทแม่เป็นบริษัทข้ามชาติซึ่งมีเงินทุนมากมายมหาศาล ปัจจุบันกลุ่มไมเนอร์นอกจากจะมีร้านเดอะพิซซ่า คอมปะนีในประเทศไทยแล้ว ยังมีชาวต่างประเทศสนใจติดต่อขอรับแฟรนไชส์เพื่อไปเปิดในตะวันออกกลาง จีน และเวียดนามด้วย โดยเฉพาะในตะวันออกกลางมีชาวมุสลิมบอยคอตแบรนด์สหรัฐฯ รวมถึงร้านพิซซ่าฮัทด้วย จึงหันมารับประทานพิซซ่าแบรนด์เดอะพิซซ่า คอมปะนีของไทยแทน ทั้งนี้ ร้านเดอะพิซซ่าพยายามตกแต่งร้านของตนเองในสไตล์อิตาลีแทนที่จะตกแต่งในสไตล์ อเมริกัน อนึ่ง ปัจจุบันคุณไฮเน็กกีได้แปลงสัญชาติเป็นคนไทยแล้ว เพราะอาศัยอยู่ในเมืองไทยนาน จึงสามารถกล่าวได้ว่าแบรนด์ “เดอะพิซซ่า คอมปะนี” เป็นของคนไทยอย่างเต็มตัว ซึ่งคุณไฮเน็กกีกล่าวไว้อย่างน่าฟังว่า “ประเทศไทยเป็นบ้านของผม ผมภูมิใจที่เป็นคนไทย และถ้าผมตาย ผมขอตายที่เมืองไทย ที่มา http://osknetwork.com/modules.php?name=News&file=article&sid=221 แก้ไขเมื่อ 19 มี.ค. 54 16:22:29 จากคุณ : eizagi เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 54 16:22:02

ความคิดเห็นที่ 39 ยัมไม่ได้อยากลงมาทำเองหรอก เรื่องอะไรจะต้องลงทุนเองเป็นร้อยล้าน สู้ขายสิทธิแล้วกินส่วนแบ่ง ง่ายกว่าเยอะ ถ้าอยากทำเอง ก็ไม่ต่อสัญญาก็จบแล้ว ไม่ต้องฟ้องร้องกันหรอกครับ ลงมาทำเองมันต้องเริ่มใหม่หมด รับคน หาทำเล แล้วคิดดูว่า กี่ปีถึงจะมีสาขาครอบคลุม แล้วเรื่องคนอีก ต้องฝึกใหม่หมด เพิ่มเติม ศาลเมกาสั่งห้ามใช้เบอร์ 02.712.7000 ทั้งคู่ จากคุณ : วี เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 54 23:36:41

ความคิดเห็นที่ 40 ชอบ 1 แถม 1 ครับ จากคุณ : เกิดแล้วตาย เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 54 08:58:40

ความคิดเห็นที่ 41 company ไม่อร่อยเลยค่ะ ถูกอย่างเดียว pizza hut ก็ใช้ได้ ยังไงก็ดีกว่า com แพงกว่าแค่นั้นเอง pizzalia อร่อยที่สุด และแพงที่สุด 555 ปล. สไตล์อิตาเลี่ยนห่างกับทั้งสามเจ้ามากค่ะ  ใครเคยกินของจริงคงจะรู้ จากคุณ : เส้นด้ายร้อยลูกปัดผัดผงกระหรี่ เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 54 16:43:55

ความคิดเห็นที่ 42 company จากคุณ : thisname เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 54 17:30:39

ความคิดเห็นที่ 43 กิน company ค่ะ หน้าเยอะ ราคาถูกกว่า และก็ขนาดใหญ่กว่า วันก่อนไปกิน hut ถาดกลาง แต่ขนาดเล็กมากๆ กินไปสามชิ้นยังเฉยๆ ปกติกิน com 2 ชิ้นแทบจุก จากคุณ : pinkchomphu เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 54 23:51:07

ความคิดเห็นที่ 44 ชอบกินพิซซ่าลันตา และ พิซซาเรียค่ะ จากคุณ : น้องหนวดหวานใจ เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 54 11:55:22

ความคิดเห็นที่ 45 ชอบ Pizza Hut มากกว่าครับ แก้ไขเมื่อ 24 มี.ค. 54 23:34:37 จากคุณ : One2man (one2man) เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 54 23:33:29