|
ขอขอบคุณทุกความคิดเห็นครับ ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าผมนั้นสนิทแนบแน่นกับ คุณสุนทร วัฒนาพร เจ้าของผลิตภัณฑ์ตราพันท้ายนรสิงห์ ซึ่งต่อไปนี้ผมจะนำบทความที่ผมเคยสัมภาษณ์คุณสุนทร วัฒนาพร มานำเสนอในที่นี้นะครับ เผื่อบางท่านอาจนำแง่คิด มุมมองและวิสัยทัศน์การเป็นซีอีโอของคุณสุนทรมาใช้ในชีวิตประจำวันได้บ้างไม่มากก็น้อย / เมธา จันทร์สอาด (แมวแดง) สมุทรสาคร
เปิดตำนาน พันท้ายนรสิงห์ แบรนด์ไทยสร้างชื่อระดับโลก
นับเป็นความภาคภูมิใจในแบรนด์สินค้าไทย เมื่อบริษัทอุตสาหกรรมพันท้ายนรสิงห์สินค้าพื้นเมืองจำกัด พัฒนาต่อยอดน้ำพริกและเครื่องจิ้ม ของดี ภูมิปัญญาไทยให้ขึ้นแท่นโกอินเตอร์อวดศักยภาพผู้ผลิตไทยภายใต้ชื่อแบรนด์ พันท้ายนรสิงหฺ์ การรันตีคุณภาพด้วยรางวัลผู้ส่งออกไทยดีเด่น และรางวัลผู้ส่งออกสินค้าไทยที่ใช้ตราสินค้าของตัวเอง กับตำนานความเป็นมาของธุรกิจที่น่าสนใจที่จะนำมาเล่าขาน ผ่านวิสัยทัศน์การบริหารที่กว้างไกลของ คุณสุนทร วัฒนาพร ประธานกรรมการบริหาร บริษัทอุตสาหกรรมพันท้ายนรสิงห์สินค้าพื้นเมืองจำกัด ก่อตั้งขึ้นโดยคุณพ่อสมศักดิ์และคุณแม่สุรีย์ วัฒนาพร เริ่มจากอุตสาหกรรมในครัวเรือน คือ ข้าวเกรียบกุ้งและน้ำพริกเผา โดยนำไปจำหน่ายที่สถานีรถไฟมหาชัย เป็นร้านแผงลอยเล็ก ๆ เมื่อสินค้าเริ่มติดตลาดจนเป็นที่รู้จักและมีลูกค้าเพิ่มมากขึ้น จึงได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้า พันท้ายนรสิงห์ ครั้งแรกในปี พ.ศ. 2505 ด้วยเพราะคุณพ่อสมศักดิ์และคุณแม่สุรีย์ มีความเคารพและศรัทธาในความซื่อสัตย์และความจงรักภักดีของวีรบุรุษพันท้ายนรสิงห์ จึงได้อัญเชิญนามอันเป็นมงคล พันท้ายนรสิงห์ มาใช้เป็นตราเครื่องหมายการค้าของบริษัทฯ ไม่เฉพาะในธุรกิจเท่านั้น แต่คุณพ่อสมศักดิ์และคุณแม่สุรีย์ ยังนำคุณธรรมความซื่อสัตย์ปลูกฝังเลี้ยงดูลูก ๆ ทั้ง 6 คนด้วย ผมเป็นลูกชายคนโต มีพี่น้องทั้งหมด 6 คน เกิดที่ตำบลท่าฉลอม จังหวัดสมุทรสาคร อายุปีนี้ย่างเข้า 53 ปีแล้ว ตั้งแต่ผมเป็นเด็กคุณพ่อและคุณแม่จะสอนว่าต้องซื่อสัตย์กับตัวเองก่อนและซื่อสัตย์กับลูกค้า การที่จะผลิตสินค้าอะไรก็ตามต้องให้ได้คุณภาพดีเยี่ยม คือเรากินได้จึงจะทำขายได้ ผมเกิดมาคุณพ่อก็ทำธุรกิจแล้วแต่เป็นธุรกิจโรงงานผลิตข้าวเกรียบกุ้งและน้ำพริกเผาเล็ก ๆ ขายที่สถานีรถไฟมหาชัย เมื่อรสชาติอร่อยเป็นที่ถูกใจลูกค้าจึงได้นำสินค้าไปจำหน่ายที่ตลาดนัดท้องสนามหลวง และงานแสดงสินค้าต่าง ๆ เช่น งานวชิราวุธ, งานแสดงสินค้าไทย, งานกาชาด เป็นต้น คุณพ่อเป็นเหมือนเซลส์ส่วนคุณแม่เป็นฝ่ายผลิต สูตรต่าง ๆ จึงได้มาจากคุณแม่ ส่วนตัวผมเองช่วงที่คุณพ่อขายสินค้าก็เรียนหนังสือ ด้วยความที่คุณพ่อคิดไกลในเรื่องธุรกิจที่ไม่ได้มองแค่ขายในประเทศเท่านั้น ท่านจึงส่งผมไปเรียนที่โรงเรียนเซนต์จอห์นลาดพร้าว เพราะอยากให้ได้เรียนรู้ในเรื่องของภาษาอังกฤษ หลังจากจบชั้น มศ. 3 ที่โรงเรียนเซนต์จอห์น ก็ไปเรียนต่อที่ Saintjohn College of Commerce ในหลักสูตรภาษาอังกฤษ เพื่อที่จะได้นำความรู้มาใช้ในการบริหารและดำเนินงานธุรกิจ คุณพ่อท่านมองการณ์ไกล หลังจากที่ผมจบก็ได้เข้ามาบริหารงานโดยเป็นผู้จัดการฝ่ายขายในประเทศ ตอนนั้นอายุแค่ 16 ย่าง 17 ปี เท่านั้น ทำงานอยู่นาน 10 กว่าปี (เมื่อมีเวลาว่างจึงไปศึกษาต่อระดับปริญญาตรี และสำเร็จการศึกษา สาขารัฐประศาสนศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ปัจจุบันสำเร็จการศึกษาหลักสูตรศิลปะศาสตร์มหาบัณฑิต (ป.โท) สาขารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ) ด้วยวัยขนาดนั้นเข้ามานั่งบริหารอาจดูอายุน้อย แต่ในเรื่องการทำงานผมทำมาก่อนแล้ว ได้เรียนรู้การทำงานทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการขาย และการบริหาร รวมทั้งเรื่องจิตวิทยาฯ ผมได้เรียนหลักสูตรการบริหารและจิตวิทยาจากสถาบันของ ดร. หลุยส์ จำปาเทศ ช่วงแรกที่คุณพ่อทำหน้าที่เป็นเซลส์ เราก็ติดรถไปช่วยท่าน ผลิตภัณฑ์พันท้ายนรสิงห์เริ่มต้นยังไม่เป็นที่รู้จักและขายยากมาก ก็จะอาศัยฝากขาย ตอนเด็ก ๆ เราก็คิดว่าทำไมวันเดียวคุณพ่อขายของได้แค่ 3 4 เจ้า เท่านั้น เพราะต้องไปง้อขาย บางทีคุยกับลูกค้า 2 3 ชั่วโมงกว่าจะลงน้ำพริกได้ครึ่งโหล เราก็คิดว่ามันขายยากนะ หลังจากที่ได้เรียนรู้จึงได้ทราบว่าการขายสินค้าในขณะที่แบรนด์ยังไม่ดัง ต้องอาศัยความคุ้นเคยสนิทสนม คุณสุนทรเก็บเกี่ยวประสบการณ์ความรู้การทำธุรกิจที่ดีจากคุณพ่อ และยังมองเห็นช่องทางในการจัดจำหน่ายด้วยว่า สิ่งที่ต้องทำคือเข้าไปใกล้ชิดกับลูกค้าให้มากที่สุด ทำให้สินค้าติดตลาดและผู้บริโภคให้ความเชื่อถือในด้านความอร่อยและคุณภาพที่ดีเยี่ยม จากที่จำหน่ายน้ำพริกเผาและข้าวเกรียบนานกว่า 10 ปีจึงเริ่มสร้างโรงงานแห่งใหม่ขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2517 เพื่อแตกไลน์ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ต่อมา ขณะเดียวกันก็ได้ค้นคว้าและคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่คงเอกลักษณ์ความเป็นไทย ภูมิปัญญาชาวบ้าน จนในปี พ.ศ. 2519 จึงได้เริ่มส่งสินค้าไปจำหน่ายต่างประเทศ ปัจจุบันสินค้าพันท้ายนรสิงห์จำหน่ายทั่วโลกมากกว่า 40 ประเทศ มีสินค้าไม่ต่ำกว่า 150 ชนิด ผลิตภัณฑ์ส่งออกใช้ชื่อตราสินค้าว่า พันท้ายนรสิงห์ นับเป็นความภาคภูมิใจเพราะเป็นแบรนด์สินค้าไทยที่ควรรักษาไว้ ทุกวันนี้เมนูต้มยำกุ้งที่ชาวต่างชาติชื่นชอบ ผลิตภัณฑ์น้ำพริกเผาที่ใช้ปรุงรสในต้มยำกุ้ง ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา 95% เป็นแบรนด์พันท้ายนรสิงห์ จนวันนี้แบรนด์ดังระดับโลก โดยเฉพาะน้ำจิ้มไก่ตราพันท้ายนรสิงห์เป็น International Food ไปแล้ว หลักสำคัญที่เรายึดในการทำธุรกิจมี 3 ข้อด้วยกัน คือ 1.สินค้าต้องดีที่สุด เวลาที่เราจะออกสินค้าแต่ละตัว ยกตัวอย่างน้ำจิ้มสุกี้สูตรกวางตุ้ง กว่าจะออกตลาด ต้องผ่านการวิจัยนานประมาณปีครึ่ง สูตรที่ได้มีเป็น 100 สูตร จากนั้นคัดให้เหลือเพียงแค่สูตรเดียวที่รสชาติถูกใจผู้บริโภคมากที่สุด วันนี้การทำวิจัยคือสิ่งสำคัญที่สุด เพราะทำให้เราทราบความต้องการของลูกค้า โดยในต้นปีจะออกน้ำจิ้มสุกี้สูตรพริกกระเหรี่ยง เอาใจกลุ่มลูกค้าที่ชอบทานรสเผ็ดโดยเฉพาะ 2.การบริการต้องรวดเร็วตรงต่อเวลา ผมจะมีผู้จัดการแผนกขายในประเทศที่ทำหน้าที่เยี่ยมเยียนดูแลลูกค้ารับฟังปัญหาและกลับมารายงานตรงต่อผู้บริหาร เพื่อจะได้มีการปรับปรุงแก้ไขได้อย่างรวดเร็วไม่ล่าช้า โดยเฉพาะการตรงต่อเวลาเราเน้นมาก ถ้าผมพอมีเวลาก็จะออกไปพบปะเยี่ยมลูกค้าที่ต่างจังหวัด บางทีเดินสายเป็นอาทิตย์ เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีและรับข้อเสนอแนะ และ 3. เรื่องความยุติธรรมในเรื่องราคา ให้ผู้บริโภคได้รับสิ่งที่ดีที่สุดและคุ้มค่าสมราคา ด้วยเพราะยึดถือความซื่อสัตย์ในการดำเนินธุรกิจและมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ คัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ตรวจสอบการผลิตทุกขั้นตอน เพื่อ ให้ได้ผลิตภัณฑ์ พันท้ายนรสิงห์ ที่ได้คุณภาพมีมาตรฐาน ทำให้บริษัทได้รับรางวัลมากมาย อาทิ ธุรกิจยอดเยี่ยมประเภทอาหารไทยสำเร็จรูป ผ่านมาตรฐานสากล ISO 9001: 2000, HACCP, GMP และฮาลาล นับเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่ง และได้รับประกาศนียบัตรรับรองความอร่อย เชลล์ชวนชิม อุตสาหกรรมพันท้ายนรสิงห์สินค้าพื้นเมือง เจริญเติบโตมาได้จนถึงวันนี้ เพราะพี่น้องสมานฉันท์สามัคคี ต่างคนต่างช่วยกันทำงาน โดยต้องลดความขัดแย้งระหว่างพี่น้องให้น้อยที่สุด นอกจากนี้เราต้องมีเพื่อนที่อยู่ในระดับบริหารที่ใกล้เคียงกัน สำหรับไว้พูดคุยปรึกษา ที่สำคัญอย่าเครียด พยายามตัดงานออกไปให้มากที่สุด อย่านำงานมาสุมบนโต๊ะ ต้องรีบทำและแก้ไขให้เร็วที่สุด ไม่อย่างนั้นปัญหาจะโถมทับจนหงุดหงิด เกิดความเครียดจนกลายเป็นปัญหาลุกลามใหญ่โต นอกจากการเป็นประธานกรรมการบริหารบริษัทอุตสาหกรรมพันท้ายนรสิงห์แล้ว ยังช่วยเหลือสังคมในหลาย ๆ ด้าน โดยเฉพาะในฐานะนายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดสมุทรสาคร เพราะว่าเกิดที่สมุทรสาครก็ต้องการส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดสมุทรสาคร ให้เป็นศูนย์กลางแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็น ประสบการณ์ และเผยแพร่ข่าวสารข้อมูลเกี่ยวกับการท่องเที่ยวจังหวัดสมุทรสาคร โดยได้ทำการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดสมุทรสาครมาโดยตลอด ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งมา อาทิเช่น งานเปิดตัวสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวฯ, การเปิดศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยว, การจัดงานลีลาศ, การจัดการแข่งขันแรลลี่ เพื่อประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวในจังหวัดสมุทรสาคร... ถึงแม้จังหวัดสมุทรสาครจะเป็นเพียงจังหวัดเล็ก ๆ แต่มีศักยภาพที่จะสามารถดำเนินการในการส่งเสริมการท่องเที่ยวให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจ คือการท่องเที่ยวเชิงนิเวศการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและประวัติศาสตร์ ส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน เป็นจุดดึงดูดแก่นักท่องเที่ยวได้ เช่นที่ ศาลพันท้ายนรสิงห์ วัดช่องลม ท่าฉลอม สถานีวิจัยและพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติป่าชายเลนที่ 5 อุทยานการเรียนรู้ที่โรงเรียนพันท้ายนรสิงห์ ศาลมัจฉานุ แหล่งเลี้ยงหอยแมลงภู่ ชมฝูงปลาโลมาริมชายทะเล ทำให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวจังหวัดสมุทรสาครเพิ่มมากขึ้น .... ท้ายนี้ อยากฝากกำลังใจและแง่คิดดี ๆ สำหรับน้อง ๆ เพิ่งจบใหม่กำลังก้าวเข้าสู่วัยทำงานว่า หากคุณคิดเป็นเจ้าของธุรกิจ ต้องรักธุรกิจนั้นก่อน อย่าไปเชื่อตามคนนั้นคนนี้แห่ตามเขาไป ถ้าเราชอบสิ่งไหน เอาความชอบมาเป็นตัวตั้ง เพราะจะทำให้เราสนุกกับงานที่ทำ และให้ระวังเรื่องการเงิน ทำธุรกิจแต่พอตัวอย่าเกินกำลัง สำหรับน้องที่กำลังมองหางาน อย่าท้อแท้ น้องสมัยนี้บอกตามตรงใจไม่ค่อยสู้ หากยังไม่ได้งานให้ฝึกงานหาประสบการณ์ไปก่อน ดีกว่าเดินเตะฝุ่นไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย ทุกวันนี้หลายภาคส่วนเชิญชวนให้ทุกคนหันมาทำความดี ไม่อยากให้ทำความดีเฉพาะวโรกาสดี ๆ ปีมงคลเท่านั้น แต่อยากให้ทำดีจนติดเป็นนิสัย ทำไปเรื่อย ๆ เข้าวัดเข้าวา ไปคุยกับพระสงฆ์บ้างจะได้ใจเป็นสุข มีเวลาก็ไปกราบไหว้บูชาพระพุทธรูปหรือขอพรจากศาลเจ้าต่าง ๆ ทำบุญแล้วต้องทำทานให้แก่ผู้ด้อยโอกาสด้วย การทำความดีอาจไม่ต้องทำมากมาย เล็กน้อยก็ได้ อย่างผมเองพาครอบครัวไปทานข้าวนอกบ้านเปลี่ยนบรรยากาศก็ทำให้เขามีความสุข จากที่เราเคยดื่มหนักก็ลดลงมาให้น้อยหน่อย ก็เป็นการทำความดีอย่างหนึ่ง แม้แต่คนอื่นไม่เห็นแต่เรารู้ตัวเอง และทำให้เราอิ่มเอิบใจ มีแต่ความสุข นายสุนทร วัฒนาพร กล่าว /
จากคุณ |
:
ดีวันดีคืน (ดีวันดีคืน)
|
เขียนเมื่อ |
:
30 มี.ค. 54 12:49:59
|
|
|
|
|