ขอตอบเท่าที่รู้และถามจากผู้ใหญ่ที่บ้านที่เป็นคนจีน
อธิบายคำศัพท์ก่อนชื่อขนม จูชังเปี๊ย เป็นการออกเสียงของภาจีนแต้จิ๋ว
ซึ่ง คำว่า ชัง แปลว่า ต้นหอม และคำว่า เปี๊ย แปลว่า ขนมเปี๊ยะ ตรงตัวเพราะเราเรียกทับศัพท์
ส่วนที่มาว่ามำไมถึงต้องมีขนมชนิดนี้ ต้องเรียกว่าความนิยมมากกว่า เหล่าเจ็กได้เล่าให้ฟังว่า
คือที่เมืองจีนช่วงนี้ก็จะเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิหลังจากที่พืชที่เป็นพืชหัวในที่นี้คือต้นหอม
ก่อนหน้าหนาวมันก็จะกักเก็บสารอาหารไว้ในหัวมันเต็มที่และทิ้งใบไปเหลือแต่หัวอยู่ใต้ดินตลอดช่วงฤดูหนาวที่หนาวจัด
จนถึงเดือนเมษานี้ก็จะเป็นช่วงที่จะเริ่มอบอุ่นขึ้น ต้นไม้ก็จะเริ่มผลิใบ ต้นหอมก็เช่นกันก็จะเริ่มสร้างใบและแตกใบมาเป็นต้นหอมซึ่งเชื่อกันว่าต้นหอมช่วงนี้เป็นต้นหอมที่มีคุณภาพ
และอร่อยที่สุด ก็เลยมีการคิดทำขนมชนิดนี้ซึ่งส่วนประกอบสำคัญของไส้คือต้นหอม หมูติดมัน งา นอกนั้นแล้วแต่ สูตรแต่ละบ้านจะทำไป
อีกอย่างเป็นขนมที่เก็บไว้ได้นานเพราะเป็นขนมเปี๊ยะชนิดที่ตัวแป้งจะแห้งและกรอบ เหล่าเจ็กบอกของไหว้อย่างอื่นไหว้เสร็จก็ต้องพยายามกินให้หมดเร็วที่สุดแต่ ขนมเปี๊ยะนี้ไว้กินวันอื่นก็ได้บูดยาก
ก็เล่าเยิ้นเย้อมาซะนาน ก็ขอสรุปนะครับ
คือถามว่าจำเป็นมั้ยต้องมีมั้ยก็ตอบว่าไม่จำเป็นครับ
ของที่นำไปไหว้บรรพบุรุษขอเพียงว่าเป็นของที่ดีที่สุดและของที่ญาติที่เราจะไปไหว้นั้นชอบก็พอ เพราะจุดประสงค์หลักนั้นคือการแสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษ
ก็เช่นเดียวกับขนมเปี๊ยะต้นหอมนี้ ก็เพราะต้นหอมช่วงนี้เป็นต้นหอมที่ดีที่สุด
จึงอยากนำของดีดีไปไหว้ผู้ที่ล่วงลับไปแล้วเช่นกันครับ
ถูกผิดประการใดก็ขออภัยด้วยนะครับ
ส่วนข้อมูลหากมีด้านตำนานหรือประวัติที่ละเอียดกว่านี้ ต้องรอผู้รู้มาตอบละครับกะพริบตา
จากคุณ |
:
Sunplay
|
เขียนเมื่อ |
:
5 เม.ย. 54 02:35:24
|
|
|
|