ความคิดเห็นที่ 1 11.55 น.เรียกรถไปลงที่แยกเสาชิงช้า ซึ่งเป็นคนละแยกกับสี่กั๊กเสาชิงช้า ตรงกระทรวงมหาดไทยที่ถึงก่อน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 21:27:09

ความคิดเห็นที่ 2 คนส่วนใหญ่จะเข้าวัดสุทัศน์ฯจากทางด้านถนนบำรุงเมือง จนนึกว่าทางเข้าด้านนี้เป็นด้านหน้าของวัด แต่ความจริงแล้วหน้าวัดของวัดสุทัศน์ฯ อยู่ทางด้านถนนอุณากรรณ ตรงข้ามกับสวนรมณีนาถ คนส่วนใหญ่จึงนึกว่าโบสถ์ที่เห็นอยู่ทางด้านเสาชิงช้านี้คือพระอุโบสถ แต่ความจริงแล้วคือพระวิหาร แก้ไขเมื่อ 18 เม.ย. 54 23:18:44 จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 21:27:29

ความคิดเห็นที่ 3 จุดเด่นที่ทำให้วัดสุทัศน์ฯ เป็นวัดหนึ่งที่มีนักท่องเที่ยวมาแวะชมก็คือเสาชิงช้า ซึ่งเปลี่ยนเสาคู่ใหม่เมื่อปี พศ. 2549   พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 โปรดให้สร้างเสาชิงช้าในพระนครขึ้น ตรงหน้าเทวสถานโบสถ์พราหมณ์ บริเวณลานด้านเหนือของวัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร ต่อมาย้ายมาสร้างใหม่ ณ ที่ตั้งปัจจุบัน บริเวณหน้าวัดสุทัศน์ ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสาชิงช้าใช้ในพิธีโล้ชิงช้า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพระราชพิธีตรียัมพวาย ตรีปวาย เป็นการต้อนรับพระอิศวร ซึ่งเป็นหนึ่งในสามเทพเจ้าของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู เชื่อกันว่าพระอิศวรจะเสด็จลงสู่โลกในวันขึ้นเจ็ดค่ำเดือนยี่ ในวันนั้นจะมีการแห่พระเป็นเจ้าไปถวายพระพรพระเจ้าอยู่หัว ที่มา : วิกิ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 21:27:50

ความคิดเห็นที่ 4 ฐานรอบเสาชิงช้านั้น ทำหน้าที่เหมือนวงเวียน เพราะแยกเสาชิงช้าเป็นจุดบรรจบ ของถนนบำรุงเมือง ถนนตีทอง ถนนดินสอ ถนนอุณากรรณ์ และถนนศิริพงษ์ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 21:28:13

ความคิดเห็นที่ 5 วัดสุทัศน์ฯ เป็นวัดที่อยู่ในการไหว้พระเก้าวัด ทั้งวันปีใหม่และวันสงกรานต์ โดยช่วงวันสงกรานต์ เป็นการไหว้พระขอพรวัดประจำเก้ารัชกาลแห่งกรุงรัตนโกสินทร์และพระอารามหลวง ซึ่งประกอบด้วย วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม(วัดโพธิ์) ประจำรัชกาลที่ 1  วัดอรุณราชวราราม(วัดแจ้ง) ประจำรัชกาลที่ 2 วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร ประจำรัชกาลที่ 3  วัดราชประดิษฐ์สถิตมหาสีมาราม ประจำรัชกาลที่ 4 วัดราชบพิตรสถิตมหาสีมาราม ประจำรัชกาลที่ 5 และ 7  วัดบวรนิเวศน์ ประจำรัชกาลที่ 6 วัดสุทัศนเทพวราราม ราชวรมหาวิหาร ประจำรัชกาลที่ 8 วัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก ประจำรัชกาลที่ 9 ส่วนพระอารามหลวงเลือกให้ครบ 9 จากวัดพระแก้ว วัดสระเกศ วัดชนะสงคราม วัดระฆังฯและวัดกัลยาณมิตร จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 21:28:34

ความคิดเห็นที่ 6 เดินผ่านระเบียงคตเข้าสู่พระวิหาร วัดสุทัศนเทพวราราม สังกัดเถรวาทมหานิกาย มีความพิเศษคือ เป็นพระอารามหลวง ชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร 1 ใน 6 ของไทย ได้แก่ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์) วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร (วัดแจ้ง) วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร จังหวัดสระบุรี และวัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร จังหวัดนครปฐม วัดสุทัศนเทพวราราม เป็นวัดที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2350 เดิมพระราชทานนามว่า “วัดมหาสุทธาวาส” โปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระวิหารขึ้นก่อนเพื่อประดิษฐานพระศรีศากยมุนี (พระโต) ซึ่งอัญเชิญมาจากพระวิหารหลวงวัดมหาธาตุ จังหวัดสุโขทัย แต่สิ้นรัชกาลก่อนที่จะประดิษฐานเป็นสังฆาราม จึงเรียกกันว่า วัดพระโต วัดพระใหญ่ หรือวัดเสาชิงช้าบ้าง จนกระทั่งในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย โปรดเกล้าฯ ให้สร้างต่อ และทรงจำหลักบานประตูพระวิหารด้วยพระองค์เอง แต่ก็สิ้นรัชกาลเสียก่อนที่การก่อสร้างจะแล้วเสร็จ การก่อสร้างวัด มาเสร็จบริบูรณ์ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ใน พ.ศ. 2390 และพระราชทานนามว่า “วัดสุทัศนเทพวราราม” และในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงผูกนามพระประธานในพระวิหาร พระอุโบสถ และศาลาการเปรียญ ให้คล้องกันว่า "พระศรีศากยมุนี" "พระพุทธตรีโลกเชษฐ์" และ "พระพุทธเสรฏฐมุนี" ที่มา : วิกิ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 21:28:56

ความคิดเห็นที่ 7 พระพุทธรูปรอบระเบียงคตของพระวิหาร จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 21:29:23

ความคิดเห็นที่ 8 มุมบนด้านขวาของพระวิหาร เป็นที่ประดิษฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร และได้อัญเชิญ พระบรมราชสรีรางคารของพระองค์ มาบรรจุที่ผ้าทิพย์ด้านหน้า พุทธบัลลังก์ของพระศรีศากยมุนีเมื่อ พ.ศ. 2493 และมีพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลคล้ายวันสวรรคต ของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทรในวันที่ 9 มิถุนายนของทุกปี ที่มา : วิกิ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 21:29:46

ความคิดเห็นที่ 9 จุดธูปเทียนสักการะพระศรีศากยมุนีที่นอกพระวิหาร จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 21:30:07

ความคิดเห็นที่ 10 จากนั้นจึงเข้าไปกราบพระศรีศากยมุนีในพระวิหาร จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 21:30:29

ความคิดเห็นที่ 11 ระหว่างวันที่ 13-15 เมษายน มีเทศน์มหาชาติ มหาสงกรานต์ เวลา 8.00 น. จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 21:30:51

ความคิดเห็นที่ 12 พระศรีศากยมุนีเป็นหนึ่งในพระพุทธรูปขนาดใหญ่ ที่มีพุทธลักษณะงดงาม จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 21:31:12

ความคิดเห็นที่ 13 แม้แต่ทางด้านหลัง ที่น้อยคนนักจะเดินอ้อมไปดู เหมือนที่ไม่ชอบปิดทองหลังพระ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 21:32:16

ความคิดเห็นที่ 14 พระนาคปรกในพระวิหาร มีลักษณะแปลกจากที่ปกติพญานาคจะขดเป็นบัลลังก์ให้ทรงประทับ แต่พระนาคปรกองค์นี้ กลับม้วนตัวสูงขึ้นมา จนเกือบถึงพระอุระของพระพุทธเจ้า จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 21:32:46

ความคิดเห็นที่ 15 ออกจากพระวิหาร หลายคนทำบุญถวายสังฆทาน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 21:33:27

ความคิดเห็นที่ 16 จากนั้นเดินไปทางด้านซ้ายของพระวิหาร จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 21:33:55

ความคิดเห็นที่ 17 เพื่อซื้อทรายที่ทางวัดจัดไว้ให้ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 21:34:20

ความคิดเห็นที่ 18 ก่อนนำไปอธิษฐานและเททรายในบริเวณที่จัดเตรียมไว้ให้ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 21:34:56

ความคิดเห็นที่ 19 ประเพณีก่อเจดีย์ทราย เป็นประเพณีสำคัญประเพณีหนึ่งในช่วงเทศกาลของชาวไทย ถือว่าเป็นประเพณีหนึ่ง ที่มีที่มาเกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนาโดยตรง โดยคนไทยผูกโยงประเพณีนี้ เข้ากับคติความเชื่อเรื่องเวรกรรมในพระพุทธศาสนา มีการก่อพระเจดีย์ทรายถวายวัดเพื่อนำเศษดินทราย ที่ติดเท้าออกจากวัดไป มาคืนวัดในรูปพระเจดีย์ทราย และเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาให้เป็นกุศลอานิสงส์ และนอกจากประเพณีเพื่อเป็นพุทธบูชาแล้ว ยังเป็นกุศโลบายของคนในอดีต ให้มีการรวมตัวของคนในชุมชน เพื่อร่วมกันจัดประเพณีรื่นเริง เป็นการสังสรรค์สร้างความสามัคคีของคนในชุมชนด้วย ปัจจุบันประเพณีนี้พบเพียงในประเทศไทยและ สปป.ลาวเท่านั้น ที่มา : วิกิ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 21:35:27

ความคิดเห็นที่ 20 ทางด้านซ้ายของพระวิหาร ยังมีการจัดงาน"เย็นทั่วหล้ามหาสงกรานต์" มีการแสดงในช่วงเย็น จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 21:35:56

ความคิดเห็นที่ 21 และการออกร้านขายของ เช่น น้ำอบและเครื่องหอมไทย จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 21:36:20

ความคิดเห็นที่ 22 เครื่องจักสานและงานประดิษฐ์จากใบลาน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 21:36:42

ความคิดเห็นที่ 23 และมีของกินขายหลายอย่างเช่น ข้าวแช่ นั่งทานที่โต๊ะชุดละ 30 บาท ถ้าซื้อกลับบ้านชุดละ 35 บาท จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 21:37:03

ความคิดเห็นที่ 24 เครื่องข้าวแช่ ข้าว และน้ำลอยดอกมะลิ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 21:37:29

ความคิดเห็นที่ 25 นอกจากนี้ยังมีเมี่ยงคำ ไส้กรอกปลาแนมและข้าวแต๋น ร้านนี้อยู่ข้างสหกรณ์บางลำพู ซื้อข้าวแช่กลับบ้านหนึ่งชุด จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 21:37:52

ความคิดเห็นที่ 26 น้ำจรวดลุงไว ถ้วยละ 20 บาท จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 21:38:14

ความคิดเห็นที่ 27 สั่งน้ำซาสี่มาดับร้อนหนึ่งถ้วย จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 21:38:33

ความคิดเห็นที่ 28 ขนมครกไข่นกกระทา จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 21:38:51

ความคิดเห็นที่ 29 ปั้นสิบไส้ต่างๆ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 21:39:10

ความคิดเห็นที่ 30 ยำข้าวทอดที่โชว์ลีลาการยำ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 21:39:27

ความคิดเห็นที่ 31 ขอมาแจมด้วยคนเพราะชอบขนมจีนไหหลำเหมือนกัน แบบน้ำก็ดี แบบแห้งก็ปลื้มค่ะ จากคุณ : ป้าอ้วนเหนียวเนื้อ เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 21:39:34

ความคิดเห็นที่ 32 ป้าอ้วนเหนียวเนื้อ ...แจกให้ทั้งสองแบบแถมโบ๊กเกี้ยให้ด้วยครับ ......................................................................................... เพื่อนแฟนมาตั้งร้านที่ในกำแพงวัดฝั่งถนนตีทอง ยังมาไม่ถึงจึงเดินไปทางหลังพระวิหาร จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 21:40:37

ความคิดเห็นที่ 33 รูปปั้นลิงนวดฤาษีที่หลังพระวิหาร จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 21:41:01

ความคิดเห็นที่ 34 เดินออกประตูหลังพระวิหารเพื่อไปพระอุโบสถด้านถนนอุณากรรณ ที่ระเบียงคตมีสาวสวยในชุดไทย กำลังรอถ่ายสารดคีท่องเที่ยวหลังแดดร่มแล้ว จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 21:41:28

ความคิดเห็นที่ 35 ประตูด้านหลังพระวิหารมาออกที่ด้านข้างของพระอุโบสถ ประตูกำแพงแก้วรอบพระอุโบสถสวยงามมาก จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 21:41:52

ความคิดเห็นที่ 36 ซ้ายขวาของประตูมียามเฝ้าประตูเป็นชาวตะวันตก จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 21:42:16

ความคิดเห็นที่ 37 เดินไปเข้าด้านหน้าพระอุโบสถ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 21:42:41

ความคิดเห็นที่ 38 ระหว่างวันที่ 13-16 เมษายน มีพิธีสวดนพเคราะห์ต่อชะตา จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 21:43:08

ความคิดเห็นที่ 39 มีผู้รอเข้าร่วมพิธีหลายสิบคน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 21:43:30

ความคิดเห็นที่ 40 พระประธานในพระอุโบสถของวัดสุทัศน์ฯ คือ"พระพุทธตรีโลกเชษฐ์" พระพุทธตรีโลกเชษฐ์ เป็นพระพุทธรูปสมัยรัตนโกสินทร์ ปางมารวิชัย วัสดุโลหะ หน้าตักกว้าง 3 วา 17 นิ้ว สูง 4 วา 18 นิ้ว พระอุโบสถเริ่มก่อสร้างในปี 2377 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดให้พระยาศรีพิพัฒน์รัตนราชโกษา ต่อมาคือพระยาพิชัยญาติ(ทัต บุนนาค) เป็นแม่กองงาน พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระพิทักษ์เทเวศร์เป็นผู้ควบคุมการก่อสร้าง เป็นพระอุโบสถที่มีความยาวที่สุดในประเทศไทย ผนังภายในเขียนภาพจิตรกรรมฝีมือช่างสมัยรัชกาลที่ 3 เมื่อสถาปนาพระอารามแล้ว พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดฯให้กรมหมื่นณรงคหริรักษ์ สร้างพระประธาน เป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สุดในบรรดาที่สร้างขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ โปรดอัญเชิญพระศรีศาสดาซึ่งอยู่บนฐานเดิม ไปยังวัดบวรนิเวศวิหาร แล้วอัญเชิญพระพุทธรูปหล่อใหม่ขึ้นประดิษฐานแทน รัชกาลที่ 4 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ถวายพระนามว่า "พระพุทธตรีโลกเชษฐ์" และ พศ. 2407 โปรดสร้างพระอสีติมหาสาวกจำนวน 80 องค์ สร้างด้วยปูนปั้นลงสี นั่งพนมมือฟังพระ บรมพุทโธวาทเบื้องพระพักตร์องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่มา : http://www.danpranipparn.com/web/praput/praput31.html จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 21:44:00

ความคิดเห็นที่ 41 เดิมตั้งใจจะมาทานข้าวเที่ยงที่ร้านของเพื่อนแฟน 12.55 น.เดินไปถึงจุดที่ตั้งร้านหลังกำแพงวัดด้านถนนตีทองยังไม่มาขาย โทรฯถามปรากฏว่ามาบ่ายสอง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 21:44:28

ความคิดเห็นที่ 42 จึงออกจากวัดสุทัศน์ฯแล้วเดินไปทางถนนดินสอ เลี้ยวซ้ายเข้าถนนมหรรณพ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 21:45:01

ความคิดเห็นที่ 43 เดินมาที่ร้านลั่นฟ้าข้าวมันไก่เบตง ร้านยังหยุดสงกรานต์ไม่เปิดขาย จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 21:45:27

ความคิดเห็นที่ 44 ติดกับร้านลั่นฟ้าข้าวมันไก่เบตง คือโรงเรียนกวดวิชาเสริมหลักสูตร ของอาจารย์ สงวน วงศ์สุชาติ ที่มีชื่อเสียงในด้านการกวดวิชาภาษาอังกฤษ เคยมาเรียนก่อนสอบเอ็นทรานซ์ เมื่อเกือบสี่สิบปีที่แล้ว ตอนนั้นอาจารย์ประสพอุบัติเหตุทางรถยนต์พร้อมกับอาจารย์หญิง ต้องใส่แว่นดำมาสอน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 21:46:00

ความคิดเห็นที่ 45 ตรงข้ามร้านลั่นฟ้าข้าวมันไก่และโรงเรียนเสริมหลักสูตร คือร้านบ้านผัดไท จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 21:46:29

ความคิดเห็นที่ 46 ที่นอกจากขายผัดไทแล้ว ยังมีข้าวคลุกกะปิขายด้วย จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 21:47:07

ความคิดเห็นที่ 47 ร้านนี้เป็นร้านของคนมุสลิม เปิดขายทุกวัน ตั้งแต่ 8.00-18.30 น. จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 21:47:53

ความคิดเห็นที่ 48 พรุ่งนี้มาดูต่อนะคะอา จากคุณ : นก (fahsaipkt) เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 21:48:11

ความคิดเห็นที่ 49 ราคาอาหารของร้านบ้านผัดไท วันเสาร์มีแกงเขียวหวานไก่ ส่วนวันอาทิตย์มีแกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย วันนี้แกงเขียวหวานไก่หมดแล้ว จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 21:48:18

ความคิดเห็นที่ 50 นก (fahsaipkt)...ฝันดีนะครับ .................................................................................................. ผัดไทของร้านนี้ ผัดอยู่ในครัวสะอาดหลังร้าน ขนาดของกระทะบอกให้รู้ว่าผัดครั้งละไม่เกินสองจาน การผัดจะผัดเส้นและเครื่องจนได้ที่ จากนั้นเอียงกระทะดันผัดไทขึ้นด้านบน ตอกไข่ใส่พื้นที่ว่างของกระทะ ร่อนกระทะให้ไข่กระจายเป็นแผ่นแบน พอไข่ใกล้สุก โกยผัดไทวางบนไข่ให้เส้นติดไข่ จากนั้นตักแบ่งใส่จานมาให้ลูกค้า จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 21:49:16

ความคิดเห็นที่ 51 สั่งผัดไทไปสองจาน มีจานใส่ถั่วงอกดิบ ใบบัวบก ต้นกุยช่ายและมะนาวผ่าซีกมาให้สองจาน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 21:49:46

ความคิดเห็นที่ 52 เครื่องปรุงมีพริกป่นและน้ำตาล ไม่มีถั่วลิสงบด ขวดไม้หกเหลี่ยมคือขวดใส่ไม้จิ้มฟัน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 21:50:08

ความคิดเห็นที่ 53 ของแฟนเป็นผัดไทธรรมดาใส่กุ้งแห้ง 35 บาท จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 21:50:31

ความคิดเห็นที่ 54 ของตัวเองเป็นผัดไทกุ้งสด 70 บาท จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 21:50:59

ความคิดเห็นที่ 55 กุ้งสดเป็นกุ้งแม่น้ำสองตัว ตัวหนึ่งใหญ่ตัวหนึ่งเล็ก จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 21:51:30

ความคิดเห็นที่ 56 กุ้งเอาไปผัดกระเทียมพริกไทยจนเหงือกุ้งกรอบ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 21:52:58

ความคิดเห็นที่ 57 กุ้งผัดได้รสชาติเข้มข้นและหอมพริกไทย เสียดายที่ไม่เอามันกุ้งผัดคลุกกับเส้น ซึ่งจะทำให้หอมและอร่อยยิ่งขึ้น จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 21:53:26

ความคิดเห็นที่ 58 ไข่เจียวมาสุกกำลังดี แต่ส่วนตัวชอบให้ไข่เกรียมนิดๆเพื่อให้หอมกลิ่นกระทะ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 21:53:58

ความคิดเห็นที่ 59 ใส่ถั่วงอกดิบเล็กน้อย ใส่ใบบัวบกจนหมด หักต้นกุยช่ายใส่สองต้น ชิมโดยไม่ปรุงรสเพิ่ม ผัดไทผัดได้รสชาติกำลังดี ไม่เยิ้มน้ำมัน จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 21:54:23

ความคิดเห็นที่ 60 ต่อด้วยข้าวคลุกกะปิ 35 บาท จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 21:54:56

ความคิดเห็นที่ 61 มีพริกขี้หนูซอยและพริกแห้งคั่ววางบนข้าวคลุกกะปิ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 21:55:22

ความคิดเห็นที่ 62 เครื่องข้าวคลุกกะปิประกอบด้วย เนื้อไก่ผัดซีอิ๊ว ไม่มีหมูหวานเพราะร้านนี้เป็นคนมุสลิม จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 21:56:05

ความคิดเห็นที่ 63 กุ้งแห้งที่ล้างน้ำแล้วนำไปผึ่งแดดจนแห้ง ก่อนนำไปทอดจนกรอบ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 21:56:40

ความคิดเห็นที่ 64 ไข่เจียวหั่นเส้น จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 21:57:10

ความคิดเห็นที่ 65 แตงกวาและหอมแดง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 21:57:33

ความคิดเห็นที่ 66 ถั่วฝักยาว จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 21:57:55

ความคิดเห็นที่ 67 มะม่วงดิบซอย จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 21:58:19

ความคิดเห็นที่ 68 คลุกเคล้าทุกอย่างให้เข้ากันก่อนทาน เราจะกลับมาย่านนี้อีกครั้งใน"เที่ยวไปกินไป @ ถนนตะนาว" ที่เก็บภาพไว้พอสมควรแล้ว จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 21:58:44

ความคิดเห็นที่ 69 ออกจากร้านบ้านผัดไท เลี้ยวซ้ายที่ต้นถนนมหรรณพเข้าถนนดินสอ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 21:59:16

ความคิดเห็นที่ 70 เดินดูร้านอาหารที่จะเขียนถึงตอนมาเดินเล่นที่ถนนดินสอ ทั้งฝั่งที่ว่าการ กทม.และฝั่งโรงเรียนสตรีวิทย์ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 21:59:48

ความคิดเห็นที่ 71 เดินเลยคลองหลอดวัดราชนัดดาไปเล็กน้อย จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 22:00:10

ความคิดเห็นที่ 72 จากนั้นเดินย้อนกลับทางเดิม จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 22:00:52

ความคิดเห็นที่ 73 ข้ามถนนกลับไปวัดสุทัศน์ฯ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 22:01:19

ความคิดเห็นที่ 74 นั่งรับลมเย็นๆ ที่ระเบียงคตหลังพระวิหาร จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 22:01:46

ความคิดเห็นที่ 75 แฟนนั่งดูทีวีจากมือถือ ส่วนตัวเองออกไปเดินเก็บภาพรอบๆพระวิหาร มุมทั้งสี่ของชั้นล่างและชั้นสองของพระวิหาร มีรูปหล่อม้าสีเขียวอยู่ทุกมุม มีเจดีย์จีนหกชั้นรอบชั้นที่สองของพระวิหาร ตัววิหารตั้งฉากกับพระอุโบสถที่มองเห็นด้านหลัง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 22:02:13

ความคิดเห็นที่ 76 ตุ๊กตาจีนปูนปั้นที่ชั้นล่างและชั้นสองของพระวิหาร วัดนี้สร้างสำเร็จในรัชกาลที่ 3 จึงมีตุ๊กตาจีนเป็นจำนวนมาก จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 22:03:47

ความคิดเห็นที่ 77 มุมสมมาตรหลังพระวิหาร มองจากระเบียงคตที่นั่งพัก จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 22:04:13

ความคิดเห็นที่ 78 บ่ายสองโมงครึ่ง เดินออกประตูหลังพระวิหาร ไปที่ทางเดินหลังกำแพงวัดสุทัศน์ด้านถนนตีทอง ช่วงเทศกาลสงกรานต์สิบวัน จะมีร้านอาหารซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนไหหลำมาตั้งร้านขายหลายร้าน คนที่มางานที่วัดสุทัศน์ช่วงวันปีใหม่และวันสงกรานต์เป็นประจำ จะรู้ว่ามีการออกร้านขายอาหารที่บริเวณนี้ เพื่อนแฟนซึ่งเป็นคนไหหลำ มีอาชีพหลักเป็นช่างเสริมสวย ตอนเป็นเด็กช่วยแม่ขายขนมจีนไหหลำและโบ๊กเกี้ย ช่วงเทศกาล เช่นวันไหว้บ๊ะจ่าง จะมัดบ๊ะจ่างขาย ซึ่งเคยไปถ่ายขั้นตอนการทำและห่อบ๊ะจ่างที่บ้าน "ทำกินกันเอง : ปักจ่าง" http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2008/06/D6719386/D6719386.html เวลามีงานศาลเจ้าของคนไหหลำ เช่น ศาลเจ้าแม่ทับทิมที่วัดเลียบ ก็จะไปตั้งร้านขายโบ๊กเกี้ย ไม่มีหน้าร้านขายอาหาร แต่ทำเป็นอาชีพเสริม เพื่อให้ความรู้การทำอาหารไหหลำจากแม่มีผู้สืบทอดต่อ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 22:04:51

ความคิดเห็นที่ 79 ขนมจีนไหหลำมีทั้งแบบเนื้อวัวและเนื้อหมู จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 22:05:23

ความคิดเห็นที่ 80 มีทั้งแบบแห้ง(น้ำข้น)และแบบน้ำใสธรรมดา จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 22:05:56

ความคิดเห็นที่ 81 ใช้เส้นขนมจีนไหหลำวันละ 80 กิโลกรัม จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 22:06:22

ความคิดเห็นที่ 82 เครื่องปรุงของขนมจีนไหหลำ มีน้ำกะปิ พริกตำในน้ำส้มสายชูและน้ำปลา จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 22:06:45

ความคิดเห็นที่ 83 แฟนอิ่มตื้อจึงสั่งมาทานคนเดียว เป็นขนมจีนไหหลำเนื้อแบบแห้ง 30 บาท จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 22:07:12

ความคิดเห็นที่ 84 บางร้านที่มาขายงานนี้ใส่มันแกว แต่ร้านนี้ใส่หัวไช้เท้า ต่างจากร้านเจ๊หย่ง-เจ๊วาปากซอยลูกหลวง 8 ที่ใส่หน่อไม้ดอง จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 22:07:40

ความคิดเห็นที่ 85 เอ็นตุ๋น จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 22:08:12

ความคิดเห็นที่ 86 เนื้อเปื่อย จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 22:08:38

ความคิดเห็นที่ 87 ผ้าขี้ริ้วลวก จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 22:09:06

ความคิดเห็นที่ 88    ตามรอยอาสาม สนุกเหมือนเคย    อาหารน่ากินทุกอย่าง หิวเลยค่ะ  จากคุณ : ต้มตุ๋นอุ่นนึ่งทอด เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 22:09:20

ความคิดเห็นที่ 89 ต้มตุ๋นอุ่นนึ่งทอด ...ยังมีให้ชิมอีกหลายอย่างครับ ............................................................................ ไม่ใส่ถั่วลิสงคั่ว แต่บิถั่วชุบแป้งทอดใส่แทน และไม่โรยงาขาว จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 22:10:48

ความคิดเห็นที่ 90 นอกจากหอมซอยแล้ว ขนมจีนไหหลำต้องใส่ผักกาดดองด้วย จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 22:11:22

ความคิดเห็นที่ 91 ส่วนโบ๊กเกี๊ย เพื่อนแฟนยกให้น้องสะใภ้ ซึ่งมีลูกยังเล็กสองคนขายเพื่อเพิ่มรายได้ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 22:11:50