ความคิดเห็นที่ 1 คงหมายถึงน้ำกะทิมังครับ ทำแบบง่าย ๆ ก็ใช้หัวกะทิ 1 กิโล : น้ำตาลมะพร้าวแท้ 1 กิโล ผสมให้เข้ากัน กรองด้วยผ้าขาวบาง อุ่นบนไฟอ่อน ๆ หมั่นคนอย่าให้เดือด เพราะเดี๋ยวกะทิจะแตกมัน ใส่ใบเตยสดมัด ๆ ลงไปเคี่ยวด้วยเพื่อเพิ่มความหอม พอร้อนก็ยกลงพักไว้ แล้วอบด้วยควันเทียนสัก 2-3 ครั้งครับ ถ้าทำแบบกะทิสด นึ่งมะพร้าวขูดขาวสัก 15 นาที แล้วคั้นกะทิด้วยน้ำอุ่น ผสมน้ำตาลมะพร้าวในอัตราเดียวกัน กรองด้วยผ้าขาวบ้าง อบควันเทียน 2-3 ครั้ง ถ้าทำแบบนี้ ต้องเก็บในที่เย็น ๆ เช่นในถังน้ำแข็ง ชอบหวานก็เพิ่มน้ำตาลไปได้อีก จะได้น้ำกะทิเหนียว ๆ ข้น ๆ แบบที่ต้องการครับ ทั้งสองสูตรเป็นสูตรพื้นฐานครับ เอาไปปรับปรุงพัฒนาเองนะครับ เพื่อให้ได้สูตรเป็นของตัวเอง จากคุณ : sakchai splash เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 14:42:41

ความคิดเห็นที่ 2 ในเพชรบุรี   น้ำตาลข้นแบบนั้น  มีอยู่ไม่เกิน 3เจ้า   อร่อยเนอะ  ทำไงก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่รู้ว่าเค้าใช้น้ำตาลโตนดแท้ๆ  เคี่ยว  ไม่รู้ว่าใส่อะไรบ้าง  กินตอนหน้าร้อนนี้ชื่นใจจริงๆ ว่าแล้วก็ออกไปซื้อกินดีกว่า จากคุณ : cheerful_love เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 14:57:33

ความคิดเห็นที่ 3 ขอบคุณ คุณsakchai splash มากครับ ไม่ทราบว่าใช่หรือเปล่า แต่ที่กินเค้าจะ มีน้ำกะทิราดข้างบนอีกชั้นหนึ่ง น้ำตาลข้นนี้จะอยู่ด้านล้าง สีออกน้ำตาลเข้มๆ ใช่ครับ คุณcheerful_love อร่อยมาก เลยอยากได้สูตรมาทำขายบ้าง จากคุณ : DarK_MoEyE เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 15:03:14

ความคิดเห็นที่ 4 ไม่เคยเห็นครับ แต่อาจจะเป็นอีกลักษณะของน้ำกะทินั่นแหละครับ แต่ที่เพชรบุรี จะมีน้ำตาลหลากหลายแบบ ทั้งน้ำตาลมะพร้าว น้ำตาลโตนด และน้ำตาลอ้อย รสและกลิ่นของน้ำตาลทั้ง 3 ชนิดก็แตกต่างกันไป แต่วิธีการทำน้ำกะทิพื้นฐานน่าจะไม่แตกต่างกันหรอกครับ บางครั้งผมก็ใช้น้ำตาลอ้อยมาทำ หอมมาก ๆ แต่ราคาก็แพงมากขึ้นไปด้วย ขนาดผมซื้อยกเข่ง 24 กิโลกรัม ยังตกกิโลกรัมละ 70 กว่าบาทเลยครับ แต่ชอบที่เก็บได้นาน ไม่บูดเปรี้ยวแบบน้ำตาลมะพร้าว พวกน้ำกะทินี่ บางเจ่าเค้าใส่นม และ/หรือ ครีมลงไปผสมด้วย เพื่อเพิ่มความมัน บางเจ้าก็แต่งกลิ่นด้วยวานิลาเพื่อขับกลิ่นหอมของน้ำตาลมะพร้าวและควันเทียน มันหลากหลายมาก ๆ ถ้าพื้นฐานคุณแม่น การปรับเปลี่ยนพัฒนาสูตรก็ทำได้ไม่ยากครับ แต่ต้องค่อย ๆ ทดลองทำไปจนได้สูตรที่นิ่งและเป็นที่ชื่นชอบของคุณและคนทานครับ สงสัยว่าต้องไปเพชรบุรีลองหาทานดูบ้างซะแล้วครับ อิอิอิ จขกท ลองซื้อมาให้ผมชิมหน่อยได้ไหมล่ะครับ ไปหาซื้อไม่ถูกครับ... จากคุณ : sakchai splash เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 15:12:50

ความคิดเห็นที่ 5 *4  ถ้ามาเพชรบุรี    ร้านอร่อยๆ จะอยู่หน้าโรงเรียนอรุณประดิษฐคะ  หาง่าย   อยู่ในตัวเมืองเลย  อยากแนะนำอีกร้านแต่บอกทางไม่ถูก แหะๆ จากคุณ : cheerful_love เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 15:17:49

ความคิดเห็นที่ 6 จด ๆ ๆ ๆ ๆ ไปบ้านเพื่อนบ่อย ๆ ครับ แต่ขลุกอยู่แต่ในสวนมะนาว ไว้ต้องให้เพื่อนพาไปชิมสักหน่อยแล้ว อร่อยอย่างนี้ต้องไม่พลาด ขอบคุณมาก ๆ ครับ จากคุณ : sakchai splash เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 15:32:38

ความคิดเห็นที่ 7 ส่วนผสมน้ำตาลข้น 1.น้ำตาลโตนด 200 กรัม 2.น้ำ 1/2 ถ้วย 3.กาแฟ 1 1/2 - 2ช้อนชา ส่วนผสมที่ใช้ในการจัดเสริ์ฟ 1.หัวกะทิ 2.นมข้นหวาน 3.นมข้นจืด 4.น้ำแข็งใส วิธีจัดเสริ์ฟ ตักตัวลอดช่องใส่ถ้วยแก้ว ใส่น้ำตาลข้น น้ำแข็งใส ราดหัวกะทิประมาณ 1 - 2 ช้อน ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่ค่ะ http://www.pantown.com/board.php?id=16288&area=3&name=board9&topic=285&action=view จากคุณ : เด็กแหนม เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 15:43:52

ความคิดเห็นที่ 8 ของอร่อยเมืองเพชร ลอดช่องน้ำตาลข้น <http://9leang.com/?p=7953> จากคุณ : หนูขนทอง เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 20:31:24

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณมากๆ ครับ จะลองทำดูครับ จากคุณ : DarK_MoEyE เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 54 00:05:28

ความคิดเห็นที่ 10 ไวเหมือนโกหก ให้เพื่อนซื้อมาฝาก   อืมม์ มันเป็น "ลอดช่องสิงคโปร์" นั่นแหละ ทานมาแต่เด็ก ๆ สมัยก่อน คนจีนแก่ ๆ จะเข็นรถมาขาย หอมน้ำตาลทรายแดง ที่สามแยกก็มีขายอยู่ แต่ของเมืองเพชรหอมน้ำตาลโตนดมาก ๆ แต่ผมว่าราคา ก็แพงเอาเรื่องอยู่นะครับ ฟาดไป 2 ที่ ชื่นใจดีครับ จากคุณ : sakchai splash เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 54 19:56:52

ความคิดเห็นที่ 11 มันใช่โอวทึ้ง ฤ ป่าวเนี่ย อป.15987 จากคุณ : ทองคำหุ้มหยกขาว เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 54 23:27:54

ความคิดเห็นที่ 12 อยากได้สูตรเหมือนกัน ขอบคุณค่ะ จากคุณ : Hathi เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 12:49:11