ความคิดเห็นที่ 1 ตีไข่ขาวให้ขึ้นฟู  ทำน้อย ๆ ใช้ตะกร้อมือจ๊ะ   พอไข่ขึ้นฟูแล้ว เราก็ใส่น้ำตาลแดงลงไป จากคุณ : ตัวที่สี่ เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 54 12:46:30

ความคิดเห็นที่ 2 เมื่อน้ำตาลลงไปแล้ว ที่นี้ ตีไข่เยอะ ๆ พยายามให้ฟูมาก ๆ จากคุณ : ตัวที่สี่ เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 54 12:47:41

ความคิดเห็นที่ 3 ที่นี้ ใส่แป้ง 2 ช้อนโต๊ะ จ๊ะ เป็นลางดี ใส่แป้งลงไปแล้ว แป้งไม่ฟุบ จมลงไปในไข่ จากคุณ : ตัวที่สี่ เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 54 12:48:42

ความคิดเห็นที่ 4 คนให้แป้งกะไข่เข้ากัน  แล้วใส่ งาคั่ว ลงไป จากคุณ : ตัวที่สี่ เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 54 12:50:15

ความคิดเห็นที่ 5 เสร็จแล้ว คนให้เข้ากันอีกที ทีนี้เติม น้ำมันงา 1 ช้อนโต๊ะลงไป จากคุณ : ตัวที่สี่ เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 54 12:52:00

ความคิดเห็นที่ 6 เสร็จแล้ว.....  แต่ยังไม่ว่างทอด เลยเอาไปแช่ตู้เย็นก่อน 15 นาที อ่านเจอ + พี่สาว บอกให้แช่เย็นสัก 15 นาที เป็นการพักแป้ง ทอดเลยเค้าว่ามีกลิ่นแป้ง เอาออกมาจากตู้เย็น จะมีเหมือนเป็นฟองไข่ด้านบน ส่วนด้านล่างเป็นน้ำ  เราจัดการคนให้เข้ากันซะ จากคุณ : ตัวที่สี่ เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 54 12:55:10

ความคิดเห็นที่ 7 เตรียมกะทะเทฟร่อน ตั้งให้กะทะร้อน แล้วเบาไฟให้อ่อน สุด ๆ จากคุณ : ตัวที่สี่ เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 54 12:56:26

ความคิดเห็นที่ 8 แล้วนำแป้งข้าวเกรียบเราลงทอด  หยอดประมาณครึ่งช้อนโต๊ะพอ แล้วใช้หลังช้อนวน พยายามให้กลม   พิมพ์ง่ายแต่ทำยากส์ กลม ๆ เนีย ได้แต่ วงรี จากคุณ : ตัวที่สี่ เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 54 12:59:12

ความคิดเห็นที่ 9 พอเห็นขอบเริ่ม เป็นนี้น้ำตาล เราใช้ตะเกียบ หนีบขึ้นมา  พอขึ้นมามุมหนึ่งแล้วเราใช้มือ นี่หละค่ะ หยิบขึ้นมา แล้วกลับด้านเอาค่ะ จากคุณ : ตัวที่สี่ เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 54 13:01:48

ความคิดเห็นที่ 10 แล้วพลิกกลับอีกด้าน  จะรู้ได้อย่างไรว่าชิ้นไหน กรอบแล้ว ใส่นิ้วจิ้มลงไปที่ด้านหลังแผ่นข้าวเกรียบ ถ้าแข็ง ๆ ใช้ได้แล้วค่ะ จากคุณ : ตัวที่สี่ เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 54 13:04:23

ความคิดเห็นที่ 11 แป๊บเดียว ได้เยอะเลย  ข้าวเกรียบขึ้นจากกะทะแล้ว วางไว้บนตะแกรงพักขนมนะค่ะ เพราะไอน้ำจะได้ระเหย ออกจากตัวข้าวเกรียบ จะได้กรอบ ๆ ไม่งั้นเดี๋ยวข้าวเกรียบเราจะเหนียว จากคุณ : ตัวที่สี่ เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 54 13:06:30

ความคิดเห็นที่ 12 จัดการชิม พิสูจน์ ความหวาน  ความกรอบ กรอบ บางใช้ได้แล้ว แต่ ความหวานเข้าขั้นจืด เลย จากคุณ : ตัวที่สี่ เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 54 13:08:22

ความคิดเห็นที่ 13 เสร็จแล้วข้าวเกรียบงา ของเรา ทั้งหมดนี้ จากไข่ขาว 2 ฟอง ถ้ากลัวไม่กรอบ  นำไปอบไล่ความชื้นที่เตาอบได้อีกนะ แต่ต้องระวัง ข้าวเกรียบ บางมาก ระวังไหม้ค่ะ แก้ไขเมื่อ 29 เม.ย. 54 13:10:54 จากคุณ : ตัวที่สี่ เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 54 13:10:17

ความคิดเห็นที่ 14 เสร็จแล้ว แพคใส่ถุงค่ะ มัดปากถุงแบบนี้ แล้วพรุ่งนี้เช้า เอาไปฝาก อาโก   ทั้งหมดนี้ ทำตอนกลางคืน ภาพเลยไม่ค่อยสวย (ถ่ายรูปแย่ด้วย) จากคุณ : ตัวที่สี่ เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 54 13:14:27

ความคิดเห็นที่ 15 เห็นภาพแล้วนึกไปถึงข้าวเกรียบงาของคนเมืองเพชรเลยค่ะ จากคุณ : @ - ENYA - @ เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 54 13:59:52

ความคิดเห็นที่ 16 ^ ^ ^ ชอบข้าวเกรียบงาเมืองเพชรเหมือนกันค่ะ จำได้ว่าตอนเด็กๆชอบใช้ฟันฉีกกินดิบๆ มันเหนียวดีและเคี้ยวชิ้นมะพร้าวมันมาก จากคุณ : หญิงคนรอง เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 54 17:11:46

ความคิดเห็นที่ 17 พอดีเป็นเพื่อนกับคุณ MaNgKoOd นำกระทู้ไปให้คุณ MaNgKoOd ดูแล้วนะค้าบบบ จากคุณ : ข้าวเสาไห้ เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 54 19:25:17

ความคิดเห็นที่ 18 ว้าว.... ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ มาบอกสูตรแล้วยังทำให้ดูด้วย วันนี้ไปซื้องามาแล้ว แต่ดันไม่มีน้ำมันงา.. ไม่ใส่จะเป็นไรป่าวหนอ -_-' ขอบคุณต้นเสาด้วยนะ ที่ไปตามมาไม่งั้นคงจะพลาดแน่ๆ เลยอ่ะ จากคุณ : MaNgKoOd เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 54 23:11:52

ความคิดเห็นที่ 19 ลองทำแล้วค่ะ... มันไม่กรอบเลย แต่รสชาติดีทีเดียว หวานกำลังโอเคค่ะ เสียดายไม่มีเตาอบไม่งั้นได้อบให้มันกรอบๆ ซะหน่อย ตอนนี้เหมือนแพนเค้กเลยค่ะ จากคุณ : MaNgKoOd เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 54 11:42:24

ความคิดเห็นที่ 20 ไฟอ่อน ๆ   ทำบาง ๆ ค่ะ  ขึ้นมาแล้ววางบน ตะแกรงพึ่งให้ไอน้ำระเหยออก จะได้กรอบ ๆ ทำหนา ไฟแรง ไม่กรอบนะจ๊ะ จากคุณ : ตัวที่สี่ เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 54 14:41:48