ความคิดเห็นที่ 1 ขออธิบายเพิ่มเติมกันหน่อยนะครับ จะได้แจ่มแจ้ง หลาย ๆ คน มีปัญหากับการคั่วถั่วลิสง บางทีถั่วคั่วไม่สุกดีทั้งกระทะ  บางเม็ดเหม็นเขียว  บางทีถั่วก็ไม่กรอบ  หรือกรอบไม่นาน  เผลอลืมเปิดฝากระป๋องที่เก็บถั่ว ถั่วโดนลมแป๊บเดียวก็หายกรอบเสียแล้ว   บางคนเผลอไผลใช้ไฟแรงหน่อย ถั่วก็ไหม้แล้ว  ของที่ดูเหมือนง่าย ๆ แต่มันก็ไม่ง่ายอย่างที่คิดเสมอไป แล้วจะคั่วถั่วอย่างไร ที่จะทำให้ได้ถั่วสุกทั่วกันทั้งกระทะ และกรอบนาน... เท่าที่เห็นมา  เวลาใครจะคั่วถั่วลิสง เค้าก็มักจะซื้อถั่วลิสงมา แล้วก็ทำการใส่กระทะคั่วเลย บางคนอาจจะดีหน่อย ตรงที่เลือกยี่ห้อ แล้วนำถั่วมาคัดเม็ดเสีย ๆ ออกก่อน แล้วก็นำถั่วไปคั่วเลย   ผมแทบไม่เคยเห็นใครนำถั่วลิสงไปล้างน้ำเสียก่อน แล้วค่อยนำถั่วนั้น ๆ มาคั่วเลยนะครับ  ทีจะหุงข้าง ยังต้องซาวข้าวก่อน หรือคิดว่าถั่วมันสะอาดกว่าข้าว เลยไม่จำเป็นต้องล้าง ????? การนำถั่วลิสงมาล้างน้ำให้สะอาดก่อน กลับเป็นเคล็ดลับสำคัญที่ทำให้ถั่วลิสงคั่วนั้นสุกทั่วทั้งกระทะ และจะไม่เหม็นเขียวเลยแม้แต่เม็ดเดียว  อีกทั้งยังสุกกรอบดีกว่าการคั่วโดยไม่ได้ผ่านการล้างน้ำเสียก่อน    ที่เป็นเช่นนั้น เพราะเมื่อน้ำที่หลงเหลืออยู่ในกระทะ  เมื่อนำเดือด น้ำร้อน ๆ จะช่วยทำให้ถั่วในกระทะสุกทั่วทั้งเม็ดได้อย่างง่ายดาย  และเมื่อถั่วสุกจนเห็นเป็นเม็ดใส ๆ แต่ยังไม่กรอบ  ถ้าหยิบขึ้นมาทานตอนนั้น  เราก็จะได้ถั่วลิสงที่มีรสชาติเหมือนถั่วต้มที่เราซื้อหาเป็นฝัก ๆ มาแกะกินนั่นแหละ   แต่ดูเหมือนว่า กินถั่วต้มวิธีนี้  จะประหยัดกว่าซื้อถั่วต้มเป็นกระป๋อง ๆ  ทานเสียอีกด้วยนะครับ เพราะเราจะได้ถั่วต้มเม็ดสวย ๆ ไม่ลีบ ไม่ฝ่อ ไม่มีเชื้อราให้กังวล – การคั่วถั่ววิธีนี้ เมื่อเรานำถั่วไปล้างน้ำแล้ว จะล้างครั้งเดียว หรือสองครั้งก็สุดแล้วแต่เราว่าต้องการให้สะอาดขนาดไหน ผมมักจะล้าง 2-3 ครั้ง เพื่อล้างฝุ่นและสิ่งสกปรกให้หมดไป  เมื่อเทน้ำสุดท้ายทิ้ง ผมจะเหลือน้ำหน่อย ให้พอขลุกขลิก แล้วตั้งกระทะไฟแรง  ใส่ถั่วและน้ำที่เหลือลงไปคั่วครับ  เมื่อน้ำเดือดระอุ ผมก็ยังคั่วถั่วด้วยไฟแรงไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งน้ำงวดแห้งลง ผมจึงจะลดไฟเป็นไฟอ่อน ๆ เหมือนเราคั่วถั่วลิสงปกติ  โดยคั่วไปเรื่อย ๆ  เพื่อให้ความร้อนกระจายไปทั่วทุกเม็ด เพื่อให้เนื้อแห้งสุกกรอบดี การคั่วถั่วปกติ ผมชอบใช้ไฟอ่อนมาก ๆ เพราะจะได้ถั่วคั่วสีสวยและกรอบนานมาก  กว่าจะได้ถั่วแห้งกรอบดี ต้องใช้เวลานานมาก   “แต่ยิ่งถั่วอยู่ในกระทะนานเท่าไหร่  ถั่วก็จะยิ่งกรอบนานเท่านั้น”   ทั้งนี้จะต้องไม่ทำให้ถั่วไหม้นะครับ  ถ้าถั่วไหม้แล้ว จะแก้ไขก็คงไม่ได้  ต้องเททิ้งอย่างเดียวเท่านั้น  ดังนั้น เวลาคั่วถั่ว ห้ามหยุดไปทำอะไรอย่างอื่นเด็ดขาดครับ ต้องใจเย็น ๆ  นะครับ จากการสังเกตของผม  เมื่อผมนำถั่วคั่ววิธีนี้มาเลาะเปลือก ถั่วมักจะไม่แตกแยกจากกันเป็นซึก ๆ แต่จะได้ถั่วเป็นเม็ด ๆ สวยงาม เว้นแต่ผมจะใจร้อน เอามือบี้ถั่วแรง ๆ เพราะความเร่งรีบความ  ผมเคยคั่วถั่ววิธีนี้ แล้วรอให้เย็นลงก่อนเก็บใส่ถุงพลาสติก รัดยางแน่นหนา เวลาผ่านไปสองสัปดาห์ ถั่วก็ยังกรอบหอม ไม่เหม็นหืนครับ   ลองดูนะครับ อาจจะดูแผลง ๆ ไปหน่อย แต่รับรองว่าใช้ได้ผลดีมาก ๆ ครับ เคล็ดลับแผลง ๆ แบบนี้ ยังมีอีกเพียบครับ   มีเวลาก็จะนำมาแบ่งปันกันไปครับ ใครใคร่คั่วแบบวิธีเดิม ๆ ก็ทำไป แต่ใครชอบของแปลกใหม่ ก็ลองไปได้เรื่อย ๆ  ผลลัพธ์ไม่ได้แตกต่างกันมากมาย ยังไงก็ได้ถั่วลิสงคั่วมากินเล่นเหมือน ๆ กันครับ........ จากคุณ : sakchai splash เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 54 20:57:41

ความคิดเห็นที่ 2 ชอบถั่วเม็ดเล็ก ๆ ครับ ผมว่ามันหอมดีกว่ากัน  ถั่วในกระทะนี่ น้ำงวดแห้งไปแล้ว ตอนคั่วลืมถ่ายครับ  คั่วไปแล้ว ถึงนึกได้ว่า น่าจะนำมาเผยแพร่ในห้องก้นครัวครับ จากคุณ : sakchai splash เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 54 21:06:48

ความคิดเห็นที่ 3 ผมคั่วไฟอ่อนมากครับ  จำเคล็ดมาตอนเรียนทำหมี่กรอบ อาจารย์สอนให้คลุกหมี่ กับน้ำตาลเคี่ยวในกระทะ อาจารย์กำชับให้ใช้ไฟอ่อน ๆ แล้วผัดไปเรื่อย ๆ จนแห้งดี อาจารย์บอกว่า ยิ่งผัดนานเท่าไหร่ หมี่ก็จะยิ่งกรอบนานเท่านั้น ก็เป็นจริง ๆ อย่างที่ อาจารย์สอน เพราะน้ำจะค่อย ๆ ระเหยไป ทำให้น้ำเหลือในกระทะน้อยมาก ๆ หมี่จึง กรอบนานมาก ๆ อันนี้คั่วจนได้ที่แล้ว ผมต้องการสีแก่ ๆ หน่อย แต่ไม่ไหม้นะครับ กรอบดีจริง ๆ เคี้ยวดังกรุบ ๆ เลยครับ  เมื่อได้ที่แล้วก็จัดการเลาะเปลือก ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ไม่ชอบ เอาเสียเลยครับ มันเสียเวลา แล้วเลอะเทอะด้วย เปลือกทั่วปลิวว่อนไปหมด ต้อง เก็บกวาดทำความสะอาดอีก จากคุณ : sakchai splash เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 54 21:11:45

ความคิดเห็นที่ 4 ขอบคุณมากค่า   จากคุณ : Quenn เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 54 21:19:08

ความคิดเห็นที่ 5 โปรดสังเกตุดูสีถั่วที่เลาะเปลือกออกแล้ว ใน คห. 1 นะครับ สีจะเหลืองสวยเสมอกันหมด ไม่มีถั่วไหม้ ๆ ขม ๆ เลยสักนิดครับ  อันนี้คั่วเอาไว้ทำยำกับส้มตำครับ จากคุณ : sakchai splash เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 54 21:21:57

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณสำหรับเคล็ดลับดีๆนะค๊ะ จะรีบไปื้อถั่วมาคั่วแบบคุณพรุ่งนี่้เช้าเลย จากคุณ : แม่พิกุล เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 54 21:42:28

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณสำหรับเคล็ดลับนะคะ  อธิบายได้ระเอียดมากจริงๆ  ทำให้อยากกินถั่วคั่วขึ้นมาทันที จากคุณ : คุณนายหวู่ เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 54 22:07:55

ความคิดเห็นที่ 8 เพิ่งรู้ว่าคุณศักดิ์ชัยมีฝีมือในทางกาพย์กลอนด้วย จากคุณ : @ - ENYA - @ เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 54 22:14:57

ความคิดเห็นที่ 9 .................. แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 54 22:26:35 จากคุณ : Newyorker เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 54 22:26:09

ความคิดเห็นที่ 10 คุณเคว็น : ลองทำดูนะครับ  รับรองผล 100% ครับ ทำวิธีนี้แล้ว จะลืมวิธีเดิม ๆ เลยนะ คุณแม่พิกุล : คั่วคืนนี้เลยไหมครับ ผมมีให้ยืม ใช้ของไร่ทิพย์ ถุงสีเหลืองนะครับ ดีมาก คุณนายหวู่ : เคยเขียนตำรามาหลายเล่มแล้ว แต่ไม่ใช่ตำราอาหารนะครับ อิอิอิ  เรื่องเขียนอธิบายนี่ ของถนัดครับ คุณพิม : อิอิอิ โคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน แต่งได้หมดแหละครับ ไม่ได้เรียนสายนี้ แต่พี่ผมเป็นหัวหน้าภาคภาษาไทยในมหาลัยครับ เลยได้อ่านโคลงฉันท์กาพย์กลอนมาตั้งแต่เล็ก ๆ มันเลยพอซึมซับมาบ้างครับ  เอ...หรือเรามาทำตำราอาหารเป็นกลอนกันสักเล่มไหมล่ะครับ  อิอิอิ.....   ผมยังไม่ได้ส่งสูตรอาหารที่คุณพิมขอไว้ให้เลย ลืมหยิบลงมาทุกที ไว้อีกวันสองวันจะส่งให้นะครับ จากคุณ : sakchai splash เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 54 22:29:42

ความคิดเห็นที่ 11 ดีมากครับ จากคุณ : samsam เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 54 22:37:18

ความคิดเห็นที่ 12    เยี่ยมเลย ขอบคุณมากครับ จากคุณ : 26JUNEVIP เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 54 22:52:42

ความคิดเห็นที่ 13 สมัยก่อนอาม่าก็เคยคั่วถั่วแบบนี้ให้กินเล่นค่ะ ต่างกันนิด ตรงที่อาม่าใช้น้ำผสมเกลือด้วย เวลาถั่วสุกแห้ง จะมีรสเค็ม ๆ มัน ๆ อร่อยมาก เปลือกของถั่วส่วนใหญ่ก็จะลีบแห้งติดเม็ดถั่วเลย แต่ก็ทำให้กะทะเป็นคราบเกลือด้วย จากคุณ : ประดับดาว เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 54 23:20:31

ความคิดเห็นที่ 14 คุณประดับดาว : ทำแบบนั้นก็ได้ครับ เรื่องเกลือนี่ เอามาทำเคล็ดลับได้เป็นร้อยเลย แต่คงต้องค่อย ๆ ทยอย ๆ ลงครับ จะได้ไม่สับสน  แต่ถั่วของผมที่คั่ววิธีนี้ เปลือกไม่ ลีบแห้งติดเม็ดถั่วเลยนะครับ ก็เลาะออกง่าย ๆ บี้ ๆ ไปมาครับ  เคี้ยวดังกรุบ ๆ มันดี เคล็ดลับพวกนี้ ผมก็ได้มาจากคนเฒ่าคนแก่ครับ  เผอิญผมให้ความสนใจ คอยถาม ก็จะมีเคล็ดเล็กเคล็ดน้อยให้สะสมเรื่อยมาครับ  หลาย ๆ อย่างก็เสียดาย ที่ผู้เฒ่าผู้แก่ จากไปเสียก่อน ไม่ได้ถามไถ่วิชาเก็บไว้ สมัยนี้หาผู้รู้แบบนั้นยากมากครับ สมัยก่อน ๆ ไม่มีตู้เย็น การเดินทางก็ลำบากมาก ๆ อย่างบางบอนนี่ มีแต่ทุ่งนา เค้าเล่า กันว่าไปไหนมาไหน เดินกันเป็นวัน ๆ เลยครับ กว่าจะไปถึงคลอง เพื่อพายเรือไปตลาด   จึงต้องรู้จักถนอมอาหารไว้ให้ได้กินนาน ๆ อย่าง "เห็ดฟางดอง" นี่ ผมก็ได้รู้มาโดยบังเอิญแล้วเอามาดัดแปลง เคยมีคนมาขอซื้อ สูตร ให้เลข 6 หลัก แต่ผมไม่ได้ขายไปครับ  คิดว่าเก็บเอาไว้ เผื่อวันข้างหน้า จะได้ เอามาทำเป็นธุรกิจ เครื่องไม้เครื่องมือก็มีหมดแล้วแต่ไม่ได้ลงมือสักที เพราะทำพวกนี้ เหนื่อยมาก ๆ ต้องสะอาด ฆ่าเชื้อ เก็บไว้ได้นาน ซึ่งที่จริงเครื่องไม้เครืองมือพวกนี้ ก็มี พร้อมหมด แต่ก็ไม่ได้ทำสักที ทำน่ะไม่ยาก แต่ตลาดนี่ เหนื่อยสุด ๆ ครับ (จัดหน้าใหม่) แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 54 23:33:38 จากคุณ : sakchai splash เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 54 23:32:12

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณสำหรับเทคนิคดีๆค่ะ เคยใช้วิธีนี้ในการทำถั่วกรอบแก้ว ทำออกมาแล้วกรอบอร่อยมากๆ จากคุณ : panmai เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 54 23:50:32

ความคิดเห็นที่ 16 เยี่ยมเลยค่ะ กลอนก็เพราะ ^^ จากคุณ : คุณนายเหรียญบาท เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 00:21:43

ความคิดเห็นที่ 17 555555555 อ่านแล้วชอบกลอนครับคุณพี่ จากคุณ : เชฟกะทะเหล็ก เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 00:56:05

ความคิดเห็นที่ 18 เอาเคล็ดลับดีๆแบบนี้มาลงเยอะๆนะค้า~ เราเองชอบกินถั่วนะ มันเคี้ยวเพลินดี ถั่วลิสงอร่อยสุดละ อัลมอนด์หรือถั่วนอกกินเยอะแล้วเลี่ยนไปหน่อย จากคุณ : Sweet Georgia Brown เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 01:52:30

ความคิดเห็นที่ 19 สวัสดี คุณ sakchai splash ผมใช้การอบแทนการคั่ว เพราะคั่วนานเมื่อยมือ http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=chim&month=28-04-2010&group=2&gblog=218 จากคุณ : swin เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 08:32:21

ความคิดเห็นที่ 20 หวัดดีครับคุณวิญญ์  ถั่วลิสงกรอบ ๆ นี่ทำได้อีกหลายวิธีครับ อบก็ได้ ทอดก็ดี พอดีบ้านที่อยู่ไม่มีเตาอบครับ อยู่คนเดียว ใช้แต่ฝาอบ ต้องคอยระวัง แต่ก็มีทำแบบอบบ้างครับ  แต่ก่อนอบ ผมจะแช่น้ำร้อน 30 นาที แล้วเอาถั่วมาเลาะเปลือกออกก่อนครับ เวลาอบ ถั่วจะได้สีเหลืองสวย เพราะดูง่ายครับ ถ้าทอด ผมก็แช่น้ำร้อน 30 นาทีก่อนเหมือนกัน เพื่อเลาะเปลือกออกก่อนทอด แต่ส่วนใหญ่ตัวขี้เกียจจับ เลยทอดทั้งเปลือก กินทั้งเปลือกไปเลยครับ  ตอนเด็ก ๆ บ้านอยู่ใกล้โรงงานเบเกอรี่ เวลาเค้าทำถั่วอบเนย (ก็ถั่วทอดนั่นแหละ) เค้าจะเอาถั่วมาตากแดดจัด ๆ ก่อนสัก 1-2 แดด แล้วเลาะเปลือกออก ซึ่งเราก็ทำแบบนี้ได้ โดยไม่ต้องแช่น้ำร้อนก่อนครับ ทำอาหารนี่เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์  มีสารพัดเคล็ดลับให้เรียนรู้ไม่รู้จบเลยจริง ๆ ครับ จากคุณ : sakchai splash เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 09:47:00

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณค่ะ ได้เคล็ดลับของคุณไปเยอะเหมือนกัน มาแนะบ่อยๆ นะคะ รออยู่ จากคุณ : ข้าวเหนียวเขาวง เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 10:04:23

ความคิดเห็นที่ 22   ชอบครับ จากคุณ : Johngoodman เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 10:50:34

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณครับ ที่เข้ามาเเนะนำ ต้องลองครับ แพราะเคยคั่วเเล้วไหม้เป็นหยอมๆ ไม่สวย ไม่สุก และไม่กรอบ เลยเข็ด อย่างนี้ต้องไปหาซื้อถัวเเล้ว จากคุณ : แต้มขาว เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 11:12:00

ความคิดเห็นที่ 24 คุณพันไหม : จริงครับ คั่วแบบนี้กรอบมาก และกรอบนานด้วยครับ ผมชอบวิธีนี้ที่สุด คุณนายเหรียญบาท : ลองดูนะครับ ลองนิด แล้วจะติดใจครับ คุณเชฟกระทะเหล็ก : ว่าง ๆ ขอสูตรเด็ด ๆ บ้างนะครับคุณน้อง อยากเป็นเชฟเหมือนกัน คุณสวีทจอร์เจียบราวน์ : อยุ่จอร์เจียหรือครับ เคยคิดจะไปเรียน แต่ไปได้ที่อื่นซะก่อน คุณข้าวเหนียวเขาวง :  ก็แลก ๆ เคล็ดลับกันไงครับ ผมก็ได้เคล็ดจากคุณไปเยอะเหมือนกันแหละครับ  ยิ่งให้ก็ยิ่งได้ ได้กันทุกคน อิอิอิ.... คุณจอห์นกูดแมน : ชอบก็ทำเลยครับ ไม่ลอง ไม่รู้นะ คุณแต้มขาว : ลองได้เลยครับ วิธีนี้ดีจริง ๆ ตอนน้ำแห้งงวดลง อย่าลืมลดไฟลงนะครับ  คั่วด้วยไฟอ่อน ๆ เท่านั้นครับ จะกรอบนานมาก ๆ เคี้ยวทีดังกรุบ ๆ เลยครับ ผมคั่วมาทานเล่นบ่อย ๆ ครับ เวลาทำงานดึก ๆ ก็เคี้ยวถั่วไปเพลิน ๆ ครับ จากคุณ : sakchai splash เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 11:33:39

ความคิดเห็นที่ 25 มาดูเคล็ดลับด้วยค่ะ ต้องลองค่ะ ต้องลอง จากคุณ : phanet เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 11:35:44

ความคิดเห็นที่ 26 คุณศักดิ์ชัย ... ไม่เป็นไร พิมรอได้ค่ะ ไม่รีบ (แต่อยากได้ ฮ่าๆ) จากคุณ : @ - ENYA - @ เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 11:59:56

ความคิดเห็นที่ 27 ชอบกินถั่ว ต้องลองมั่ง ขอบคุณครับ จากคุณ : hamich เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 12:41:14

ความคิดเห็นที่ 28 กะลังเจอปัญหาพอดี เดี๋ยวต้องลองให่มขอบคุณครับ จากคุณ : รากผัก เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 12:43:21

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุณสำหรับเคล็ดลับ  ป้าไม่เคยล้างถั่วก่อนคั่วเลยค่ะ กลัวไม่กรอบ จากคุณ : ป้าอ้วนเหนียวเนื้อ เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 13:59:03

ความคิดเห็นที่ 30 เก่งจังเลยค่ะ ทั้งเคล็ดลับดีๆ และฝีมือการแต่งกลอน จากคุณ : gold digger เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 14:24:13

ความคิดเห็นที่ 31 คนสมัยนี้แค่ เขียนกลอนได้ตามผัง ก็ยากแล้ว นี่ได้ทั้งสัมผัสใน ทั้งฉันทลักษณ์  ไม่จำเป็นต้องใช้คำยาก สวยหรู ถือว่าน่าชื่นชมครับ   เคล็ดที่นำเสนอก็น่าสนใจดี และมีประโยชน์  ขอบคุณครับ จากคุณ : บ้านนอกไฮโซ เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 14:41:36

ความคิดเห็นที่ 32 เคยได้ยินเค้าพูดกันมานานแล้ว ว่าให้ต้มก่อนคั่ว หรือ ให้ต้มก่อนทอด ไม่คิดว่ามันจะทำได้จริง  ๆ   พรุ่งนี้ลองเลยดีกว่า ขอบคุณนะคร๊าบ..... จากคุณ : คนไม่มีดี เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 16:11:51

ความคิดเห็นที่ 33 ขอบคุณค่ะ จะลองทำดูนะคะ จากคุณ : ตั้งเพ็กเง็ก เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 16:12:40

ความคิดเห็นที่ 34 แล้วก็ได้เห็นเคล็ดลับตำรับถั่ว ไม่ใช้่เรื่องมั่ว มั่ว จะบอกให้ เจ้าของกระทู้ความรู้ดี มีน้ำใจ อยากจะให้คนก้นครัวคั่วถั่วเป็น ขอขอบคุณความปราถนาดีไมตรีจิต ขอเป็นมิตรเจ้าของกระทู้หรูไปไหม จะได้นำเคล็ดน่ารู้คู่ครัวไทย มาเผยให้ได้รู้กันทุกวันเอย... จากคุณ : กั้งกระดาน เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 16:14:39

ความคิดเห็นที่ 35 ขอบคุณค่ะ จากคุณ : ฐมา เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 19:44:32

ความคิดเห็นที่ 36 คุณ sakchai splash ขอบคุณค่ะ ที่มีเคล็ดลับดีๆมาให้เสมอ ชอบกลอนด้วยค่ะ คุณกั้งกระดาน :  กลอนน่ารักดีเนอะ จากคุณ : sweet - arch เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 21:38:02

ความคิดเห็นที่ 37 ป้าเน็ท : วันนี้ได้ลองทำหรือยังล่ะครับ ไม่ลองไม่ได้นะครับ คุณพิม : เพิ่งกลับถึงบ้านได้สักครู่ เดี๋ยวอาบน้ำแล้ว จะส่งให้ทางเมลล์ครับ คุณ hamich : ถ้าชอบกินถั่ว ก็ทำหลาย ๆ แบบไปเลยครับ คั่วบ้าง อบบ้าง ทอดบ้าง หรือจะทำแบบอบเนยก็ได้นะครับ  เอาถั่วแช่น้ำร้อนสัก 30 นาที แล้วเลาะเปลือกออก  ตั้งน้ำมันไฟอ่อน ๆ พอน้ำมันเริ่มร้อนก็ทอดเลยไปได้เลยครับ ไม่ต้องรอน้ำมันร้อนจัด หมั่นคนไปเรื่อย ๆ จนถั่วสุกกรอบดี ก็เอาขึ้นมาใส่ในกระชอน หรือหวดก็ได้ครับ แล้วตักเนยใส่ลงไปคลุก เหยาะเกลือหน่อยให้เค็ม ๆ มัน ๆ อร่อยดีครับ แต่อ้วนนะครับ น้ำมันกับเนย ไขมันจากถั่วอีก โทษกันไม่ได้นะครับ คุณรากผัก : รับรองไม่ผิดหวังครับ ป้าอ้วนเหนียวเนื้อ : ต้องล้างด้วยซิครับป้า หุงข้าวยังต้องซาวน้ำทิ้งเลยนี่ครับ กว่าจะมาถึงเรา ผ่านอะไรมาบ้างก็ไม่รู้ จริงไหมครับ ทีนี้ไม่ต้องกลัวว่าถั่วล้างแล้วจะไม่กรอบครับ คุณโกลด์ ดิกเกอร์ : อิอิอิ... เมื่อก่อนแต่งกลอนลงนิตยสารเป็นงานอดิเรกครับ คุณบ้านนอกไฮโซ : ของแบบนี้ต้องหัดครับ พรสวรรค์หรือจะสู้พรแสวง ไม่มีอะไรยากหรอกครับ ถ้าเราใส่ใจ อิอิอิ.... คุณคนไม่มีดี : พรุ่งนี้ลองเลยนะครับ ทีนี้อย่างน้อย ๆ ก็มีดีตรงคั่วถั่วกรอบอร่อยอย่างหนึ่งล่ะ อิอิอิ... คุณตั้งเพ็กเง็ก : ลองเลยครับ คุณกั้งกระดาน : ทำผมเขินเลยครับ คุณฐมา : ด้วยความยินดีครับ คุณสวีทอาค : ขอบคุณครับ รอติดตามเคล็ดต่อ ๆ ไปด้วยนะครับ จากคุณ : sakchai splash เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 22:54:19

ความคิดเห็นที่ 38 กำลังจะตั้งเป็นกระทู้ถามอยู่เชียว  ว่าจะคั่วถั่วลิสงอย่างไร รู้ใจซะจริงเชียว ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : inter rabbit เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 54 07:07:05

ความคิดเห็นที่ 39 ถ้าเราซื้อแช่ถั่วแล้วเอาเปลือกออกก่อนลงกระทะจะได้ไหมค้า ขี้เกียจเอาเปลือกออกทีหลังค่า จากคุณ : Midtown Girl เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 54 07:30:19

ความคิดเห็นที่ 40 คุณกระต่ายสากล : อิอิอิ... แวะมาเก็บเคล็ดลับกันอีกนะครับ คุณมิดทาวน์เกิร์ล : ผมยังไม่เคยลองแบบนั้นเลยสักที แต่คิดว่าน่าจะได้ครับ สังเกตุดู ถั่วที่ผมคั่วใน คห. 3 ซิครับว่า ตอนคั่วถั่วเสร็จ เปลือกก็ไม่ได้ไหม้เลยนะครับ แต่การที่ เรายังไม่เลาะเปลือกก่อน ทำให้เราคั่วถั่วในกระทะได้นานกว่า ซึ่งอย่างที่ผมอธิบายไว้ "ยิ่งถั่วอยู่ในกระทะนานเท่าไหร่ ถั่วจะยิ่งกรอบนานมากขึ้นเท่านั้น"  แต่อย่างไรก็ตาม เลาะก่อนก็ทำได้ คงได้สีและกรอบแตกต่างกันเพียงเล็กน้อยครับ จากคุณ : sakchai splash เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 54 11:06:58

ความคิดเห็นที่ 41 ขอบคุณครับ จากคุณ : ZXR เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 54 19:41:16

ความคิดเห็นที่ 42 มีข้อสงสัยอยากถามเกี่ยวกับการทั่วขั่ว เอ๊ย คั่วถั่ว นิดนึง อยากลองทำเองดูบ้างพอดีมีถั่วดิบอยู่ ควรจะใช้กะทะประเภทไหนเหมาะกับการคั่ว กะทะเทฟรอนใช้ได้มั๊ย จากคุณ : nuiorji เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 54 20:44:05

ความคิดเห็นที่ 43 คุณ ZXR : ด้วยความยินดีครับ คุณ nuiorji : กะทะอะไรก็คั่วได้ทั้งนันครับ สำคัญอยู่ที่การคุมไฟครับ ตอนน้ำงวดแล้ว ต้องลดไฟอ่อนนะครับ   เว้นแต่ชำนาญมากแล้ว จะใช้ไฟอ่อนถึงกลางได้  แต่มือก็ต้องคั่วเป็นระวิงเชียวครับ ผมเองใช้ไฟอ่อน ๆ นั่งคั่วอยู่ในสวนหลังบ้าน ร่มรื่น  ลมเย็นสบาย ๆ ให้ใจร่ม ๆ ครับ เปลือกถั่วนี่ ก็ฝัดลงในสวนเพราะขี้เกียจเก็บกวาด  ให้มันทับถมเป็นปุ๋ยไปครับ อิอิ ลองแล้วได้ผลยังไง เอามาอวดกันบ้างนะครับ แก้ไขเมื่อ 12 พ.ค. 54 23:31:58 แก้ไขเมื่อ 12 พ.ค. 54 23:30:56 จากคุณ : sakchai splash เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 54 21:01:41

ความคิดเห็นที่ 44 ขออนุญาตไม่อ่านนะครับ ผมว่าผมโทรไปถามที่บ้านจะเข้าใจง่ายกว่า จากคุณ : แมงแกลบ เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 00:35:44

ความคิดเห็นที่ 45 คุณแมงแกลบ : อ่านเถอะ... พรุ่งนี้ผมไม่ว่างคร้าบ จากคุณ : sakchai splash เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 00:57:47

ความคิดเห็นที่ 46 ชอบกลอนที่คุณแต่งค่า และ ได้ความรู้ใหม่ด้วยว่าให้คั่วถั่วกับน้ำด้วยกัน ขอบคุณมากนะคะ จากคุณ : MunkMink เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 10:45:45

ความคิดเห็นที่ 47 ยอดเยี่ยมเลยค่ะ กำลังหาข้อมูลอยู่พอดี ที่บ้านชอบทานถั่วกันมาก มาระยะหลังให้เด็กที่บ้านคั่วถั่วให้ไม่เคยกรอบเลย เดี๋ยวเอาสูตรนี้ไปบอกน้องเค้าให้ทำให้ทาน ไม่ค่อยชอบคั่วถั่วเองเลย มันร้อน เมื่อก่อนชอบทำแต่ถั่วกรอบแก้ว ขอบคุณความรู้ที่แบ่งปัน จากคุณ : มนกันกัส เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 12:36:58

ความคิดเห็นที่ 48 ขอบคุณมากเลยค่ะ แทบอยากจะพุ่งออกห้องไปซื้อถั่วตอนนี้เลย ^^  คั่วได้น่าทานมากๆ                                                      จากคุณ : Your Little Monster เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 20:16:28

ความคิดเห็นที่ 49 มาตอบว่าไม่เคยอยู่จอร์เจียหรอกค่ะ แต่ชอบเพลงชื่อนี้ค่า ฮี่ๆ จากคุณ : Sweet Georgia Brown เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 54 01:43:46

ความคิดเห็นที่ 50 ต้องขอขอบคุณ คุณsakchai splash ด้วยอีกคนค่ะ เพราะเคยคั่วถั่วขาย ทำอยู่หลายวิธี ก็ยังไม่เวิร์ค ต้องลองวิธีนี้หน่อยซะแล้ว  ทั้งสะอาด และกรอบนาน หายากค่ะ จากคุณ : แม่กะทิ (nonnok) เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 54 11:04:49

ความคิดเห็นที่ 51 คุณ MunkMink : ขอบคุณครับ ว่าง ๆ แวะมาเก็บเคล็ดลับใหม่ ๆ อีกนะครับ คุณมนกันกัส : ยินดีครับ ลองเลยนะครับ จะได้วัดกันไปเลยว่าได้ผลจริงไหม คุณ Your Little Monster : ได้ลองหรือยังล่ะครับ เอาการบ้านมาส่งด้วยนะครับ คุณ Sweet Georgia Brown : คร้าบ แต่ผมไม่เคยฟังเพลงนี้เลยนะครับ เดี๋ยวหาฟัง คุณแม่กะทิ : ถ้าเอาไปทำประโยชน์ด้ ยินดีเลยครับ จากคุณ : sakchai splash เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 54 13:15:32

ความคิดเห็นที่ 52 ที่บ้านคั่วถั่งเองทุกครั้ง แต่ละครั้งก็อร่อยไม่เหมือนกัน คงต้องลองสูตรนี้บ้าง ขอบคุณสำหรับสูตรดีดีค่ะ จากคุณ : ต้นตำแย เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 54 13:18:01

ความคิดเห็นที่ 53 จขกท. เก่งหลายอย่างนะคะ ไว้จะลองทำดูบ้างค่ะ จากคุณ : Huatojang เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 54 18:04:52

ความคิดเห็นที่ 54 ชอบจัง จากคุณ : aumkahansa เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 54 18:18:56

ความคิดเห็นที่ 55 งวดมา รีวิวเป็นกลอน แปลกดีครับ ขอเก็บ ความรู้ไปลองทำทานดู ขอบคุณหลายๆครับ จากคุณ : นาย เหลือง เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 01:56:13

ความคิดเห็นที่ 56 นำไปอบในเตาอบที่อุณหภูมิ 200C-220C ประมาณ 15 นาที หรือ จนกว่าจะใด้สีน้ำตาลสวย ๆ เป็นอีกวิธีหนึ่งครับ ที่จะได้ถั่วลิสงที่หอมและกรอบ..... แก้ไขเมื่อ 15 พ.ค. 54 07:37:23 จากคุณ : hanuman_bs4 เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 07:37:01

ความคิดเห็นที่ 57 ผมอ่านแล้วรู้สึกอยากคั่วถั่วโดยที่ไม่มีความต้องการจะใช้ถั่วเลยด้วยซ้ำ 55555 คงเพราะอยากลองเทคนิคใหม่ๆดู จากคุณ : คิดชื่อนานมากๆ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 19:48:18

ความคิดเห็นที่ 58 คุณต้นตำแย : ลองเลยครับ ท้าพิสูจน์ครับ วันนี้ก็ไปคั่วให้คนดูมาครับ ไปสอนแม่ค้าขายอาหารอีสานตำส้มตำ ไมใช่คนอีสาน แต่ตำส้มตำได้นัวมาก ๆ ครับ อิอิ ไป ๆ มามา เลยอยู่ช่วยเค้าขายตลอดเย็น แล้วก็ได้ฝึกอาหารอีสานที่ไม่เคยทำมาก่อน อย่างพวก ก้อย แกงอ่อม หุหุ... ไม่อยากจะคุยว่า ทำอร่อยกว่าแม่ค้าที่ทำทุกวันเสียอีก อิอิอิ.. แซ่บหลายจนแม่ค้างง คุณ Huatojang : ขอบคุณครับ มีพรแสวงเยอะครับ แล้วเวลาว่างก็เยอะด้วยครับ อิอิ คุณ aumkahansa : ขอบคุณครับ คุณนายเหลือง : อูย ขอบคุณที่แวะมาครับ ผมแอบไปดูเวปคุณเหลืองบ่อย ๆ เลยครับ คุณหนุมาน : ขอบคุณครับที่แนะนำ ผมอบบ่อยไปครับ ทำตาม คห. 20 เลยครับ แต่ผมกลับชอบถั่วคั่วมากกว่าถั่วอบและถั่วทอดนะครับ ผมว่ามันหอมต่างกัน และก็กรอบต่างกันด้วยครับ ดังนั้น ถ้าไม่ขี้เกียจจริง ๆ ผมจะคี่วมากกว่าอบครับ แต่ถ้าขี้เกียจมาก ๆ ก็จะทอดเลยครับ ง่ายสุด อิอิ คุณคิดชื่อนานมาก ๆ : คั่วมากินเล่น คั่วมาแกล้มเบียร์ ได้ทั้งนั้นเลยครับ อิอิอิ.. จากคุณ : sakchai splash เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 23:56:59

ความคิดเห็นที่ 59 วิธีนี้ใช้กับเม็ดมะม่วงฯได้มั้ยคะ เพราะอบเม็ดมะม่วงแล้วกรอบไม่นานเลยค่ะ จากคุณ : ราศีตุลย์ เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 54 13:24:39

ความคิดเห็นที่ 60 เม็ดมะม่วงไม่เหม็นเขียวนี่ครับ ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีนี้ ขนาดดิบ ๆ ผมยังนั่งทานเล่นได้ แต่จะให้กรอบนาน ๆ ก่อนคั่ว เอาเม็ดมะม่วงไปตากแดดจัด ๆ สักแดดก่อน ถ้ามีตัวปิด กันฝุ่นได้ก็ดีครับ แล้วเอามาคั่วไฟอ่อน ๆ จนเหลืองได้ที่ ก็น่าจะกรอบแล้วนะครับ ไฟต้องอ่อน คั่วนาน ๆ ยิ่งนานยิ่งดีครับ จากคุณ : sakchai splash เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 54 23:56:29