ความคิดเห็นที่ 1 ปลานิล ปลาน้ำดอกไม้ ปลาทับทิม จากคุณ : ชีล เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 12:42:06

ความคิดเห็นที่ 2 ปลาทู หรือปลาทะเล จากคุณ : เซ็กซี่แจ๊สซี่ เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 12:42:10

ความคิดเห็นที่ 3 ปลาทะเลย่างก้ได้ครับ สำหรับผมเวลาทำน้ำยา(สูตรชุมพร) เครื่องแกงตำเอง เก็บสมุนไพรข้างบ้านยายมาตำ ประกอบด้วย ข่า ตะไคร้ พริกขี้หนูสด+แห้ง ผิวมะกรูด กระชาย พริกไทดำนิดหน่อย กระเทียม หอมแดง เกลือ ขมิ้น(ขาดไม่ได้)...ตำให้ละเอียด จากนั้นใส่เนื้อปลาย่างแกะเอาก้างปลาออก(ที่บ้านใช้ปลาตาโต ปลาข้างเหลือง ปลาทู แล้วแต่ว่าจะเจอปลาอะไร ย่างให้หอม) แล้วตำให้เข้ากับเครื่องแกง ตบท้ายด้วยกะปิอย่างดี ค่อยๆใส่นะครับสำหรับกะปิ เดี๋ยวเค็มเกินไม่อร่อย ตำให้เข้ากัน แล้วยกสากมาดมนิดนึงว่า หอมเครื่องมั้ยถ้าหอมกลิ่นเครื่องให้ใส่กะปิไปอีกนิด ไม่งั้นแกงออกมารสชาติจะเบาๆ(สูตรผมไม่ใส่ผงชูรส) เอาเครื่องที่ตำผสมปลากับกะปิเสร็จแล้ว มาละลายกับหัวกะทิ คนให้เข้ากัน แล้วน้ำขึ้นตั้งไฟ ถ้าข้นเกินไปให้เติมหางกะทิไปด้วยแต่อย่าเติมมากจะเหลว ไม่อร่อย ชิมรสให้ออกเผ็ด หวานกะทิ กลมกล่อม ยกลงกินพร้อมกับขนมจีน หรือไม่ก็ข้าวสวย และผักสดตามใจชอบ หรอยได้แรง ปล.นั่งพิมพ์ไป คิดถึงบ้านยายที่ชุมพร กับบรรยากาศเวลาทำน้ำพริก น้ำยา... จากคุณ : คนชุมพรนอนกรุงเทพ เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 12:50:57

ความคิดเห็นที่ 4 แม่เคยใช้ปลาน้ำดอกไม้ค่ะ ก็อร่อยดีนะ จากคุณ : ปลาปูอยู่ทะเล เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 12:52:40

ความคิดเห็นที่ 5 เห็นแม่เคยใช้ปลาอีกา ที่ก้างมันเป็นสองแฉกอ่ะค่ะ ก็อร่อยดี อิอิ จากคุณ : บาร์ข้าว เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 12:58:43

ความคิดเห็นที่ 6 ทูน่ากระป๋อง ไก่ หมู อ้า่ว   หมู กับไก่ ไม่ใช่ปลา แต่แม่เคยทำให้กิน อร่อยดีค่ะ จากคุณ : fish2121 เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 12:59:43

ความคิดเห็นที่ 7 ปลาแดงหรือปลานวลจันทร์ ถ้าอยากลดต้นทุนปลาช่อน เพิ่มมวลเนื้อด้วยเห็ดนางฟ้าหรือหัวปลีปั่นเหมือนน้ำยาเจ จากคุณ : laser เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 13:08:00

ความคิดเห็นที่ 8 ปลากระป๋อง ที่บ้านทำบ่อยเหมือนกันค่ะ ฟูดีค่ะ อร่อยด้วยไม่ต้องเสียเวลาแกะเนื้อค่ะ จากคุณ : ปลาข้าวเม่า เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 13:25:31

ความคิดเห็นที่ 9 คุณหนูอยากเป็นเชฟ  ขอเสนอเป็นทางเลือกค่ะ  ถ้าเราขายน้ำยาปลาช่อนแล้วทำอร่อยขายในราคาพอสมควร  จะเรียกลูกค้าได้ดีกว่ามั๊ยค่ะ   เพราะมีร้านประจำเขาทำแบบนี้ ลูกค้าตรึมค่ะ มีทั้งนั่งทานในร้าน  ซื้อกลับบ้าน  สั่งทำเพื่อไปจัดเลี้ยงงานต่างๆ  ลองพิจารณาดูกลุ่มลูกค้า  ทำเลร้านด้วยนะค่ะ  ถ้าทำขายจริงขอให้ลูกค้าแน่นร้านค่ะ จากคุณ : นู๋เอ์ (นู๋เอ๋_รักต้นไม้) เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 13:44:55

ความคิดเห็นที่ 10 น้ำยาเห็ด....อร่อยไม่แพ้กันค่ะ เคยลองทานตอนกินเจ จากคุณ : pat_ok เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 13:58:14

ความคิดเห็นที่ 11 ส่วนมากก็ใช้ได้เกือบทุกปลานะคะ แต่ปลาช่อนเนื้อมันจะฟูอร่อยกว่าหน่อยนึง แม่เราแกก็ใช้ปลานิลบ้าง ปลาดุกแต่ลอกหนังออก แกขายชุดนึง ๒๐-๒๕ บ. ก็ขายดีมีกำไรเหมือนกันค่ะ ปลาช่อนแกว่าเอามาทำไม่ไหว มันแพงทำแล้วไม่คุ้มกัน แม่เราขายในม. ไม่ได้ขายคนนอกค่ะ จากคุณ : MY PIDPEE เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 13:58:15

ความคิดเห็นที่ 12 ปลาสำลี ปลาอินทรีย์ ก็ทำได้ครับ เนื้อจะฟูดีเหมือนปลาช่อน  แต่ปลาทูน่า เนื้อจะไม่ฟูมาก ทำขายจะเปลือง  ส่วนปลานิล ทำแล้วคาวครับ เนื้อไม่ฟูอีกต่างหาก วันก่อนไปทาน เค้าใช้ปลานิล ผสมกับปลาทู ผมว่าไม่อร่อยครับ ถ้าจะทำขาย ผมว่า "ปลาน้ำดอกไม้" เนื้อก็ฟูดี ราคาไม่แพงครับ ซื้อตลาดค้าส่ง กิโลกรัมละ 50 บาท ขณะที่ตลาดนัดทั่วไปขายกิโลกรัมละ 90 บาท ถูกกว่ากันเยอะครับ  และถ้าจะให้น้ำยามีกลิ่นหอม ก็ใส่ปลาอินทรีย์เค็มย่างให้หอมลงไปด้วยครับ ตอนนี้ปลาช่อนแพงมากครับ ทำขายไม่ไหวหรอกครับ เค้าใช้ปลาน้ำดอกไม้กันทั้งนั้น แต่พอถามว่าปลาอะไร ก็เห็นตอบว่าปลาช่อนกันทั้งนั้น ปลาป่นที่เค้าใช้ทำน้ำพริกต่าง ๆ ก็เอามาทำน้ำยาได้ครับ เช็คราคาที่ตลาดบางแค กิโลกรัมละ 250 บาท สะดวกดีครับ ใช้ปริมาณน้อยกว่าปลาสดมาก เพราะเนื้อปลาแห้งจะฟูขึ้นอีก ทำให้ใช้ในปริมาณน้อย ๆ ครับ ลองไปซื้อมาลองทำดูก่อนก็ได้ครับ จะขายปลาอะไรก็แล้วแต่ ขอให้รสชาติเข้มข้นถึงใจ โขลกน้ำพริกให้ละเอียด อย่าให้เหลือเป็นกาก ๆ ทานแล้วระคายลิ้น ระคายปาก แล้วก็ต้องสะอาด โดยเฉพาะพวกผักต่าง ๆ ถ้าดูไม่สะอาด ก็ไม่ไหวเหมือนกันครับ จากคุณ : sakchai splash เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 13:58:33

ความคิดเห็นที่ 13 ไม่รู้ว่าปลาอะไรนะคะ แต่ว่าเคยเห็นแม่ซื้อจากตลาดเป็นปลาเนี้อล้วน กิโลล่ะ 50 บาท ลองไปหาดูตามตลาดค่ะ ไม่ยาก ถามร้านขายอาหารทะเลว่าเนี้อปลาแช่แข็งที่ถูกสุดโลเท่าไหร่ จากคุณ : มนชิจัง เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 14:08:35

ความคิดเห็นที่ 14 คห.13 ปลาปักเป้าเปล่าครับนั้น.... จากคุณ : ดอกซอมพอ เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 14:21:12

ความคิดเห็นที่ 15 ยี่สก ครับ จากคุณ : ปิ่นโตน้อยตัวกลม เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 14:34:45

ความคิดเห็นที่ 16 เคยทำกินเอง ใช้ปลาตาโตย่าง โล 35 บาท ตั้งใจทำกินนิดหน่อย ออกมา  เนื้อฟูเต็มหม้อแบบเข้มข้น เลยต้องเติมกะทิกับเครื่องแกง แล้ว.......วิ่งไล่แจกคนทั้งซอย อิอิ   ป,ลใส่ปลาอินทรีย์เค็มย่าง ลงไปหอมอร่อยมากๆ  พูดแล้วน้ำลายไหล อยากกินอีก จากคุณ : panmai เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 19:11:55

ความคิดเห็นที่ 17 ปลาน้ำดอกไม้อีกเสียง ไม่ต้องตัวโตนะครับเน้นถูกไว้ก่อน จากคุณ : ขอให้ขายดีนะครับ (ถั่งโถมโหมแรงใจ) เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 20:00:19

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณทุกคนนะคะ จากคุณ : NbMb จขกท (หนูอยากเป็นเชฟ) เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 21:37:12

ความคิดเห็นที่ 19 พอดีพรุ่งนี้ต้องทำ "ขนมจีนน้ำยา" เลี้ยงคน 100 คน เลยแวะไปจ่ายตลาดที่บางแคมา ตอนแรกก็ว่าจะซื้อตลาดนัดแถวบ้าน เพราะไม่ได้ค้าขาย ทำแจกเสียอีก ก็เลยเอาสะดวกเข้าว่า ไปถามปลาน้ำดอกไม้ในตลาดนัดบางบอน ปลาตัวขนาดใหญ่ สด เหงือกแดงเชียวครับ  แม่ค้าคิดกิโลกรัมละ 80 แต่ผมก็ไม่ซื้อนะ เพราะจะซื้ออย่างอื่นก่อน พอไปถามกระชาย โอ้โห ขีดละ 5 กิโลกรัมละ 50 ตะโคร้กิโลกรัมละ 30 หุหุ... ผมเลยตัดสินใจไปซื้อที่ตลาดบางแคเลยดีกว่า ของที่บางแคถูกกว่าเยอะเลย ขนาดไปซื้อบ่ายแก่ ๆ ถ้าเป็นตอนตีสองตีสามที่พวกพ่อค้าแม่ขายไปจ่ายตลาดกันล่ะก็ ถูกยิ่งกว่านี้อีกนะครับ กระชายกิโลกรัมละ 30 ตะไคร้กิโลกรัมละ 15 ข่ากิโลกรัมละ 30 กระเทียมไทยกิโลกรัมละ 65 บาท หอมแดงกิโลกรัมละ 50 ราคาค่อยคุยกันได้หน่อย แต่พอไปซื้อปลาน้ำดอกไม้ หุหุหุ.. กิโลกรัมละ 90 แพงกว่าที่บางบอนเสียอีก เลยเดินหาแผงอื่น ๆ แต่ไม่มีอีกเลย ต้องกลับไปซื้อเจ้าเดิม เพราะเทียวไปเทียวมา เสียค่าน้ำมัน เสียเวลา ไม่คุ้มครับ เห็นปลาท้องแตกอยู่ 4 ตัว เลยได้ทีต่อรองราคาเหลือกิโลกรัมละ 80 เลือกตัวที่สวย ๆ อีกตัว น้ำหนักรวมกันประมาณกิโลครึ่ง ราคา 130 บาท ตัดหัวขอดเกล็ดเรียบร้อย เจอแผงปลาแห้ง เลยถามถึงปลาแห้งป่นมาด้วยเลย เค้าคิดกิโลกรัมละ 170 บาทครับ คิดว่าเอามาใช้ได้เหมือนกัน ใช้สัก 40-50% ของน้ำหนักปลาสด ก็น่าจะโอเคนะครับ ผมเลยลองซื้อมาครึ่งกิโล เอาไปเผื่อเหลือเผื่อขาด เพราะกะจำนวนคนที่แน่นอนไม่ได้ครับ ปลาน้ำดอกไม้ที่ซื้อมา เมื่อต้มแกะเนื้อแล้ว ได้น้ำหนักประมาณ 650 กรัมครับ ผมลองตวง 1 ถ้วยตวงจะได้น้ำหนักประมาณ 105 กรัม เลยปัดเศษไปเป็น 110 กรัม จำง่ายดี เวลาทำบ่อย ๆ จะได้สะดวกครับ ตามสูตรที่เคยทำ น้ำยาสำหรับ 15-20 คนใช้เนื้อปลา 1 ถ้วยตวง มีเนื้อปลา 650 กรัม ก็พอดิบพอดีสำหรับทำเลี้ยงคน  90 - 120 คน ถ้าทานกันไม่พอ ก็ยังมีปลาแห้งที่เตรียมไป เครื่องแกงก็ตำเผื่อไว้ด้วยอีกชุด กะทิกล่องก็สะดวกดี ทุกอย่างเตรียมไว้พร้อม ขนมจีนเตรียมไปแค่ 10 กิโลกรัม หนักมากก็ขนไม่ไหวครับ เลยเอาเส้นหมี่ขาวเผื่อไปด้วย ไม่มีขนมจีน ก็เส้นหมี่นี่แหละ สะดวกดี พรุ่งนี้ไปซื้อผักสดแต่เช้า ถ้าตื่นเช้าทันเวลา ก็จะทำนำยำไปเผื่อด้วย เผื่อจะทำยำขนมจีนทรงเครื่องที่ประยุกต์มาจากยำขนมจีนของล้านนา ผสมกับหลวงพระบาง ผมปนจีนเข้าไปอีกนิด ไทยเข้าไปอีกหน่อย ดูสูตรคร่าว ๆ แล้วลงตัวดี ไม่เหมือนใครดี อิอิอิ.... เรื่องทำอาหารกินเองนี่ ขี้เกียจมาก ๆ แต่อันนี้เป็นรายการคุณขอมา ทำเอาหน้าและทำเอาบุญ เต็มใจที่จะทำ แม้จะเหนื่อยแสนเหนื่อยก็จะทำครับ อิอิอิ.... ถ้าเจ้าของกระทู้อยากจะทำขายจริง ๆ ล่ะก็ ปรึกษาได้นะครับ พรุ่งนี้ผมจะทำหลากหลายสูตรครับ มีสูตรต้นทุนต่ำเพื่อการค้าด้วยครับ ไว้พรุ่งนี้มารายงานผลนะครับว่าอร่อยอย่างที่คิดหรือเปล่าครับ ผมเชิญ "นักชิมชื่อดัง" ไปด้วยสองท่าน ไปท้าพิสูจน์ครับ จากคุณ : sakchai splash เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 00:32:54

ความคิดเห็นที่ 20 เคยไปกินที่บ้านเพื่อน แม่ของเพื่อน ใช้ปลาทูทำน้ำยากระทินี่แหละ ไม่รู้ทำไง แต่อร่อยมากกกกกกกกกกกกกกกกก อร่อยกว่าน้ำยาที่ทำจากปลาช่อนที่เคยกินอีก จากคุณ : ดากานดากะไข่ย้อย เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 00:43:36

ความคิดเห็นที่ 21 ปลาข้างเหลือง และ พวกปลาทะเล จากคุณ : ปูจ๊ะจ๋า เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 03:06:40

ความคิดเห็นที่ 22 เคยถามแม่ค้าหลายๆคน เค้าบอกว่าใช้ปลาน้ำดอกไม้ค่ะ เนื้อจะเยอะแกะก้างง่ายค่ะ มีราคาถูกกว่าปลาช่อนมาก แต่ถ้าทำน้ำยาปลาช่อนต้องขายให้ได้ราคาค่ะ แล้วโฆษณาบอกว่าเป็นน้ำยาปลาช่อนอะค่ะ จากคุณ : สไนเปอร์ (patoyting) เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 09:51:04

ความคิดเห็นที่ 23 ปลาตะโกกค่ะ เห็นที่อุตรดิตถ์ทำขาย จากคุณ : หนูนิค เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 54 10:18:41